Page 42 - อ่านฟรี ม่านมายาชายาผู้ถูกลืม
P. 42
40 ม่านมายาชายาผู้ถูกลืม
คิดทุกคนเลยก็เป็นได้ เพียงแต่มิกล้าและมิอาจยอมรับออกมาตรงๆ
ทุกคนต่างกล่าวว่าบัลลังก์หงส์เป็นเกียรติยศสูงสุดของอิสตรี แต่ผู้ใด
จะรู้ว่าเบื้องหลังของเกียรติยศนี้ต้องแบกรับความอิจฉาริษยาและเคียดแค้นของ
สตรีอื่นเอาไว้มากมายเพียงใด หากมิใช่เพราะไม่มีทางเลือก นางไหนเลยจะยอม
เอาตนเองไปอยู่ท่ามกลางภยันตรายเล่า?
เมื่อได้สติคืนมา ฮองเฮาก็เอ่ยกับหลี่เซวียนว่า “เช่นนั้นก็ดี เต๋อเฟยมีเจ้า
คอยอยู่เคียงข้างข้าก็วางใจ พอคิดถึงบิดามารดาของเจ้า... วันนั้นหากมิใช่เพราะ
พวกเจ้าสองพ่อลูกสละชีวิตเพื่อผู้เป็นนาย ไหนเลยจะมีวันนี้ได้ เด็กดีเอ๋ย ล�าบาก
เจ้าแล้ว”
หลี่เซวียนมิได้เอ่ยตอบแต่อย่างใด เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้น
พวกแม่นมก�าชับนักก�าชับหนาว่าสิ่งต้องห้ามที่สุดในวังหลวงก็คือการพูดมากความ
มากวาจา
“บอกข้าซิว่าช่วงนี้เจ้าก�าลังท�าอะไรอยู่” ฮองเฮาเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน
“เสด็จแม่ก�าลังสอนเซวียนเอ๋อร์ปักผ้าเพคะ” นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยจึง
เห็นความอ่อนล้าในก้นบึ้งดวงเนตรของฮองเฮา ต�าหนักในแห่งนี้ก็ท�าให้นาง
เหนื่อยล้าเหมือนกันใช่หรือไม่
“ปักสวยหรือไม่”
ฮองเฮาพลันแย้มสรวล นึกถึงวาจาที่ซิ่วเหนียงมารดาของหลี่เซวียนเคย
กล่าวไว้ “บุตรสาวบ้านหม่อมฉันให้เรียนหนังสือหนังหาก็ท�าได้ดี แต่งกลอน
เติมโคลงก็ท�าได้ไม่เลว แม้แต่เขียนบทความการปกครองบ้านเมืองสักสองบท
เลียนอย่างพวกบุรุษก็สามารถโอ้อวดให้ผู้อื่นดูได้ มีแต่งานเย็บปักถักร้อยนี่แล
ที่ไม่ได้ความ ชาติที่แล้วยายหนูนี่คงจะมีความแค้นกับเข็มและด้ายเป็นแน่ ภายหน้า
หากผู้ใดคิดจะแต่งนางเป็นภรรยา เกรงว่าคงต้องเตรียมช่างปักผ้าไว้ในบ้าน
เสียก่อน”
นางกับซิ่วเหนียงสนิทสนมกันดียิ่ง นางมิเคยมองซิ่วเหนียงเป็นสาวใช้
เลยสักครั้ง ซิ่วเหนียงเองก็ปฏิบัติกับนางด้วยความจริงใจเช่นเดียวกัน ทั้งสอง
สามารถชี้แนะสั่งสอน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ ไม่ต้องยืมมือผู้อื่นเลย