Page 44 - อ่านฟรี กรุ่นกลิ่นอายในสายฝน
P. 44
กรุ่นกลิ่นอายในสายฝน
เงียบสงัด ลูกค้าวันนี้ก็คงมีแค่ฮาเซเบะคุงคนเดียวตามเคย ผมมองดูน�้าชาที่เหลือของ
ฮาเซเบะคุงก่อนจะลงมือท�างานในมือต่อ
หมู่นี้ผมมักจะใช้โต๊ะข้างๆ โต๊ะของเขาเป็นโต๊ะท�างาน ฮาเซเบะคุงดื่มเร็ว และที่นี่
ก็ไม่มีลูกค้าคนอื่น รู้ตัวอีกทีจึงท�าแบบนี้จนชินไปเสียแล้ว
(แต่แบบนี้มองจากข้างนอกอาจดูไม่เหมือนคาเฟ่ก็ได้...)
ผู้ชายสองคนครอบครองโต๊ะแถมยังกางทั้งเอกสาร หนังสือ คอมพิวเตอร์เต็ม
ไปหมดแบบนี้ บรรยากาศคงไม่ชวนให้เข้าร้านเท่าไรนัก ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่คิดจะไล่
ฮาเซเบะคุงหรือตักเตือนเขาแม้แต่น้อย
เสียงพลิกหน้ากระดาษดังมา ตามด้วยเสียงตวัดปากกาลูกลื่นแกรกกราก อย่างกับ
ว่าที่นี่กลายเป็นออฟฟิศอีกแห่งหนึ่งของฮาเซเบะคุงไปแล้ว...ผมนึกขึ้นมาอย่างขบขัน แต่
ความจริงแล้วฮาเซเบะคุงไม่ได้มาที่นี่ทุกวัน
เขามาเฉพาะวันที่ฝนตกเท่านั้น
(ท�าไมกันนะ)
ผมไม่อาจเอ่ยปากถาม ลูกค้าย่อมมาในเวลาที่อยากมาเป็นเรื่องธรรมดา
(นอกจากนั้น)
ผมอยากให้ความส�าคัญกับลูกค้าทุกๆ คน อืม ผมพยักหน้า มันก็เท่านั้นเอง
ยอดขายทางอินเทอร์เน็ตไปได้สวย และปกติวันฝนตกก็ไม่เคยมีลูกค้าอยู่แล้ว ผมจึงไม่มี
ปัญหาอะไร เดิมทีแล้วที่นี่เป็นสถานที่ส�าหรับอยู่เพลิดเพลินกับชานานๆ จะอ่านเอกสาร
หรือหนังสือตามใจชอบสักเท่าไรก็ไม่เกี่ยง
ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น
ผมลงมือท�างานต่อ วางใบชาทรงกลมลงใจกลางผ้าก๊อซทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาว
หลังจากใช้ผ้านั้นห่อก็พับทั้งสี่มุมเข้าหากันแล้วจับไว้ให้แน่น ใช้เชือกป่านมัดสองชั้นแล้ว
ผูกอย่างประณีต พอวางห่อนั้นลงบนตะกร้าที่เต็มแน่น ห่อก็กลิ้งตกลงมา ผมใช้นิ้วคีบ
ขึ้นมาแล้วเผลอยิ้ม
(อย่างกับ ‘ตุ๊กตาไล่ฝน’ เลยแฮะ)
ผมพลิกตุ๊กตาไล่ฝนในมือไปมา สายฝนพร่างพร�าอยู่ท่ามกลางแสงอ่อนๆ ยามบ่าย
ด้านนอกหน้าต่างที่เงากระเพื่อมไหว ฤดูฝนปีนี้มีฝนมาก ความชื้นที่สูงขึ้นไม่ดีต่อใบชา
64