Page 49 - อ่านฟรี เพทุบายบันดาลรัก
P. 49
สือหลัว 47
สี่จู๋ถูกนางแต๊ะอั๋งนิดๆ เช่นนี้ก็เอ่ยท้วงด้วยใบหน้าแดงก�่าอย่างห้ามมิอยู่
“คุณหนู ท่านหยอกล้อข้าเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ ถ้าหากถูกคนอื่นเห็นเข้า ชื่อเสียง
ของคุณหนูคงหมดสิ้นกันพอดี!”
“ฮ่า ตอนนี้ข้าเป็นบุรุษเพศนะ อย่าลืมสิ ต้องเรียกข้าว่านายน้อย ห้าม
เรียกข้าว่าคุณหนูอีก เข้าใจหรือไม่ แม่สาวน้อย”
เหอจั้นอวี่ทนดูท่าทางเหลาะแหละเสเพลของพี่สาวต่อไปไม่ไหวจริงๆ จึง
บ่นอุบอิบอย่างรับไม่ได้ “ท่านพี่ ท่านเพิ่งจะไปสนามพนันนั่นมาแค่ครั้งเดียว ท�าไม
ถึงร�่าเรียนนิสัยแย่ๆ ของพวกคนเสเพลกลับมาด้วยเล่า”
“หากไม่ร�่าเรียนเอาไว้ วันนี้พอไปถึงสนามพนันคนอื่นก็จับได้หมดสิ พอ
ถึงตอนนั้นหากเรื่องแพร่มาถึงจวนโหว พวกเราจะยังได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข เรียบๆ
ง่ายๆ อีกหรือ”
“ท่านพี่ ความเป็นอยู่ของพวกเราอัตคัดขัดสนมากพออยู่แล้ว ท่านยังมี
แก่ใจเที่ยวเล่นอีกหรือ” เหอจั้นอวี่เอ่ยขึ้นอย่างทนไม่ไหว
ฉู่หลิงวางมือลงบนบ่าของน้องชาย ใช้พัดเคาะตามร่างเล็กจ้อยอันผอมแห้ง
ของเขาเบาๆ “วางใจเถิด วันนี้พอข้ากลับมา พวกเราก็จะสามารถหลบหลีกโลก
ภายนอกแล้วใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งมีอิสรเสรีได้โดยที่ไม่มีใครรู้ หลังจากนั้นพี่ค่อย
หาทางส่งเจ้าเข้าไปเรียนในส�านักบัณฑิตหลวง ด้วยสติปัญญาของเจ้าแล้วจะต้อง
เข้าได้อย่างแน่นอน ตอนนี้พวกเราก็แค่ขาดประตูหลังเท่านั้น”
“ประตูหลัง? ท่านพี่ ประตูหลังมิได้อยู่ตรงนั้นหรอกหรือ” เหอจั้นอวี่ชี้ไป
ทางประตูหลัง
ฉู่หลิงพลันจ้องมองเหอจั้นอวี่ที่ท�าสีหน้าใสซื่ออย่างอับจนค�าพูด จากนั้น
ลูบศีรษะเขาเล็กน้อย “ประตูหลังที่พี่บอกไม่ได้หมายถึงประตูหลังของเรือนพวกเรา
แต่หมายถึงหาคนที่มีเส้นสายใหญ่โตให้ช่วยแนะน�าเจ้าไปเรียนต่างหาก”
คราวนี้เหอจั้นอวี่เข้าใจแล้วจึงมองหน้าด้วยความขัดเขินประดักประเดิด
อยู่บ้าง “ท่านพี่ ข้าโง่เขลามากเลยใช่หรือไม่ ถึงฟังความหมายที่ท่านพี่สื่อไม่ออก
เลย”
“ตัวโง่งม เจ้าไม่เคยสัมผัส ไม่เคยได้ยิน ก็ย่อมไม่เข้าใจความหมายที่