ตอนที่ 1
มหานครนิวยอร์คเมืองที่ไม่เคยหลับไหล แม้จะล่วงเข้าสู่ยามรัตติกาลแล้ว แต่ผู้คนมากมายยังคงดิ้นรนแสวงหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ สายตาคู่หนึ่งกำลังเหม่อมองแสงไฟที่ระยิบระยับอยู่เบื้องล่าง ราวกับว่าเป็นทะเลดาว
เขายิ้มเล็กน้อยให้กับตัวเอง นานแล้วที่เขาไม่ได้นั่งทอดอารมณ์อย่างนี้ กว่าจะได้ขึ้นมายืน ณ จุดนี้ เขาต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างลงไปอย่างไม่ลืมหูลืมตา ห้องทำงานที่กว้างขวางกินอาณาเขตทั้งชั้นบนตึกของบริษัทเกรเซอร์สำนักงานใหญ่ ป้ายตำแหน่งรองประธานบริษัทที่เป็นรองก็แต่พ่อของเขา ราชามีเดียลูพาร์ท เกรเซอร์ แต่เขากลับรู้สึกว่าสิ่งที่ได้มามีแต่ความว่างเปล่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีไม่สามารถเติมเต็มจิตใจของเขาได้เลย
คนภายนอกอาจมองว่า การก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งสำคัญในบริษัทของราล์ฟตั้งแต่ยังหนุ่มเป็นเรื่องปกติเพราะเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว ถึงอย่างไรความเป็นราชามีเดียโลกก็ต้องตกถึงมือเขาไม่ช้าก็เร็ว
แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น
ลูพาร์ท เกรเซอร์ไม่ใช่คนที่จะเห็นแก่คนในครอบครัวจนยอมปล่อยให้สิ่งที่เขาสร้างมากับมือต้องมาย่อยยับลงในมือของคนไร้ความสามารถ และราล์ฟได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาจะเป็นคนที่ทำให้อาณาจักรของตระกูลเกรเซอร์แผ่ไพศาลได้ด้วยความสามารถของตนเอง
สาเหตุที่ราล์ฟต้องมาครุ่นคิดทบทวนเรื่องบางเรื่องอยู่ ณ เวลานี้ เพราะว่าหลังจากประชุมกรรมการบริษัทเรื่องการขยายสาขาไปที่ญี่ปุ่นที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบ พ่อได้ยื่นซองเอกสารซึ่งบรรจุข้อมูลประวัติของลูกชายของพ่ออีกคนให้เขา และบอกเพียงสั้นๆว่า ให้พามาพบพ่อ
ราล์ฟหมุนตัวหันกลับมาที่โต๊ะทำงาน นัยน์ตาสีฟ้าดูลึกลับเมื่ออยู่ในความมืดฉายแววมุ่งมั่น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดหมายเลขโทรศัพท์ที่จำได้แม่นยำโดยไม่ต้องบันทึก
?ฮาโหล" เสียงปลายสายค่อนข้างงัวเงียเพราะถูกปลุกให้ตื่นจากนิทรา
"ตื่นได้แล้ว" ราล์ฟพูดด้วยเสียงค่อนข้างดัง "นายรีบไปเก็บของซะ แล้วก็ไปญี่ปุ่นกับฉันพรุ่งนี้ อ้อ ไม่ใช่ ต้องพูดว่าวันนี้นี่หว่า เพราะมันเลยเที่ยงคืนไปหลายชั่วโมงแล้ว"
"เฮ้ย อะไรวะ ทำไมฉันต้องไปญี่ปุ่นกับนายด้วย" อีกฝ่ายตาสว่างทันที
"ก็เรื่องที่เราเคยคุยกันไง ฉันตกลงใจจะเดินเครื่องเต็มที่แล้ว"
"อ้าว ก็นายเคยบอกว่า ให้รอก่อนไง" ปลายสายถามด้วยความงง
"เอาเป็นว่าไว้ค่อยคุยกัน นายเตรียมตัวให้เรียบร้อย จะให้รถไปรับตอน 8 โมงเช้า"
หลังจากนั้นราล์ฟก็ติดต่อเลขาส่วนตัวให้เดินทางตามไปทีหลังแล้วให้เปลี่ยนชื่อผู้เดินทางมาเป็นเพื่อนของเขาแทน
ราล์ฟมองถนนเบื้องหน้าด้วยความหงุดหงิด เขาสงสัยว่าเป็นวันโลกาวินาศอะไรกัน อุบัติเหตุรถชนกันสี่ห้าคันถึงได้มาเกิดขึ้นอยู่ข้างหน้ารถเขาไม่กี่เมตร มันคงจะดีว่านี้ถ้านี่ไม่ใช่ไฮเวย์ และถ้ารถพวกนั้นมันไม่ได้ขวางเต็มถนนในตอนที่เขาต้องไปสนามบิน
"สงสัยพระเจ้าคงไม่อยากให้นายไปญี่ปุ่นว่ะ รถมันถึงได้ชนกันวินาศสันตโรขนาดนี้" ชายหนุ่มแอฟริกันอเมริกันหัวเกรียนที่นั่งข้างๆพูดแบบกวนๆ
ราล์ฟหรี่ตาเล็กน้อย
"นายก็รู้ว่าต่อให้เป็นพระเจ้าก็ขวางฉันไม่ได้" เขาพูดแล้วมองดูความวุ่นวายอย่างเงียบๆอยู่ในลีมูซีนสีดำ ในขณะที่หนุ่มผิวดำออกจากรถไปดูสถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุ
ราล์ฟปิดตาลงช้าๆด้วยความเพลีย ซึ่งเอาชนะความหงุดหงิดได้อย่างไม่น่าเชื่อ สองสามอาทิตย์มานี้เขาแทบไม่ได้นอนเพราะต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนไปญี่ปุ่น
พอลืมตาขึ้นอีกทีก็เห็นหญิงสาวรูปร่างสวยราวกับนางแบบ ใบหน้าถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดอันใหญ่ ผมสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังดูยุ่งเล็กน้อย สะพายเป้เดินทางใบใหญ่เดินตามเพื่อนของเขามาที่รถ
"เธอจะไปสนามบินเหมือนกัน แต่แท็กซี่ที่นั่งมากำลังถูกลากไปไว้ข้างทาง ฉันก็เลยชวนให้มาด้วยกัน"
"อือ" ราล์ฟแสดงอาการตอบรับ แต่ก็ไม่ได้สนใจจะแนะนำตัวหรือทำความรู้จัก เนื่องจากตอนนี้สติของเขาใกล้จะหลุดลอยเพราะความง่วงอยู่แล้ว
ดีนจึงผายมือเชิญให้หญิงสาวที่เพิ่งเอากระเป๋าส่งเป้ใบยักษ์ให้คนขับรถให้เข้าไปนั่งข้างๆราล์ฟ แล้วตนเองก็ไปนั่งด้านตรงข้าม
"แล้วข้างหน้าเป็นไงบ้าง" ราล์ฟถามทั้งที่ยังหลับตา
"กำลังลากรถอยู่ อีกสักพักคงผ่านได้ ยังไงก็ไปทัน นายง่วงก็นอนเถอะ" ดีนบอก
แล้วราล์ฟก็เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างช้าๆพร้อมกับรถที่ค่อยๆเคลื่อนผ่านจุดเกิดเหตุ เขาจึงได้ยินเพียงเสียงใสๆที่คุยไปหัวเราะไปแว่วๆแต่จับใจความไม่ได้
เมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่นในเวลาเช้ามืด ราล์ฟกลับเป็นฝ่ายที่ตาสว่างเนื่องจากหลับเป็นตายมาตลอดการเดินทาง จึงพร้อมที่จะทำงานตามกำหนดการที่รัดตัวทันที ส่วนดีนเมื่อมาถึงห้องพักก็ขอตัวพักผ่อนเพราะมีอาการเจ็ทแลค
ราล์ฟได้เปิดงานแถลงข่าวในช่วงบ่ายของวันที่เดินทางมาถึงที่โรงแรม โดยแจ้งเกี่ยวกับการก่อตั้งเมโทรเรคคอร์ดซึ่งเป็นบริษัทลูกของเกรเซอร์คอมปานี การเข้าไปซื้อเทโทคุทีวี รวมถึงความคาดหวังของบริษัทที่มีต่อวงการบันเทิงของญี่ปุ่น
?... ผมเชื่อว่าวงการบันเทิงญี่ปุ่นยังสามารถขยายตัวได้อีกมาก แต่เราไม่ได้มองตลาดแค่ในญี่ปุ่นหรือเอเชีย แต่เรามองไปถึงระดับโลก ...?
หลังจากนั้นราล์ฟได้เชิญนักข่าวที่มาในงานเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองการก่อตั้งบริษัทซึ่งจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า
ดีนมองกระดาษโน้ตที่มีอีเมล์และเบอร์โทรศัพท์ยิ้มๆ เขาเคาะกระดาษแผ่นนั้นเบาๆกับขอบโต๊ะพลางคิดว่าจะทำอย่างไรกับโน้ตแผ่นนี้ดี แต่ราล์ฟโทร.มาขัดจังหวะเสียก่อน
?ฉันเอง" ราล์ฟพูด ?นายนอนพอหรือยัง"
?ถ้าบอกว่ายัง นายจะให้นอนต่อมั้ยล่ะ"
?ไม่? ราล์ฟปฏิเสธ ?ฉันจองโต๊ะไว้แล้ว แต่ถ้านายจะกินคัพราเมงแทนซูชิล่ะก็ เชิญนอนต่อได้เลย?
?เรื่องอะไร... ขอเวลาฉัน 5 นาที แล้วจะไปหาที่ห้อง?
?เออ... 5 นาทีนะ?
10 นาทีผ่านไป
?นายมาสาย ไหนบอก 5 นาทีไง? ราล์ฟทำหน้าขรึม แต่เพื่อนที่คบหากันมานานอย่างดีรู้สึกได้ว่า นี่เป็นการล้อเล่น
?แล้วนายจองไว้กี่โมงล่ะ?
?ทุ่มนึง? ราล์ฟแอบยิ้มไม่ให้เพื่อนเห็น
ดีนมักจะมีเรื่องเปิ่นๆให้เขาขำเสมอ คราวนี้ก็อีก ลืมถามซะได้ว่าเขาจองโต๊ะไว้กี่โมง ถึงได้รีบมาขนาดนั้น
?อีกตั้งนาน นี่เพิ่งหกโมงเย็น? ดีนยักไหล่ ?เอาน่า ฉันรู้ว่าเวลาของนายเป็นเงินเป็นทอง ฉันตอบแทนค่าเสียเวลาของนายด้วยไอ้นี่ก็แล้วกัน? หนุ่มผิวคล้ำยื่นกระดาษโน้ตให้เพื่อน
ชายหนุ่มผมทองรับกระดาษมา
?เบอร์ใคร? เขาถามพร้อมขมวดคิ้ว
?ว่าที่สินค้าของนายไง คนที่ติดรถของเรามาลงที่สนามบินไง สวย หุ่นดี มีอารมณ์ขัน?
?นายเป็นเอเย่นต์หาดารานางแบบตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วนี่คงไม่ใช่ว่าเค้าให้นายหรอกหรือ ไม่เห็นเค้าจะสนใจฉันเลย ถ้าอยากเป็นดาราในสังกัดก็น่าจะมาเสนอตัวกับฉันสิ? ราล์ฟยื่นกระดาษคืนแต่ดีนไม่รับ
?ก็ใช่ เราแค่แลกเบอร์ไว้ติดต่อกัน ฉันเซฟไว้แล้ว เผื่อนายสนใจไง ตอนนั้นเห็นง่วงจนมึน ถ้าเป็นปกตินายไม่ปล่อยเค้าไปเฉยๆโดยไม่สนใจแบบนี้หรอก?
?นายคิดว่าฉันเป็นเสือผู้หญิงหรือไง จะได้เห็นผู้หญิงสวยๆไม่ได้ต้องเข้าไปหา? ราล์ฟไม่พอใจ
?เออๆ ฉันรู้ หล่อนเสนอมา นายก็แค่สนองไปล่ะสิ? ดีนประชด
?ฉันก็แค่ให้สิ่งที่พวกหล่อนต้องการเท่านั้นเอง? หนุ่มผมทองตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
?แล้วถ้าหล่อนต้องการความรักล่ะ นายจะให้ได้มั้ย?
?อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ฉันไม่มี ทุกคนที่ควงกับฉันเค้าก็รู้เรื่องนี้ทั้งนั้นแหละ?
ดีนถอนหายใจ เขาสงสัยมานานแล้วว่าทำไมราล์ฟไม่เคยคิดจะรักผู้หญิงคนไหนทั้งๆที่เปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น ราล์ฟมักจะสนใจผู้หญิงสวยๆ บุคลิกดี แต่ก็เหมือนกับจะมองหาสินค้าเท่านั้น ไม่ใช่มองหาคนรัก
?ว่าแต่นายเถอะ ถ้าแฟนนายรู้ว่าติดต่อกับสาวอื่นเดี๋ยวก็มีปัญหาอีกหรอก? ราล์ฟเตือน
?แค่เพื่อนโว้ย เค้าเป็นลูกเสี้ยวญี่ปุ่น เพิ่งเรียนจบก็เลยแบกเป้เที่ยวรอบโลก เห็นว่าจะแวะญี่ปุ่นด้วย ฉันก็เลยให้อีเมล์ไว้ติดต่อเวลาเค้ามาถึง?
?คนเดียว??
?อือ เจ๋งมะ?
?อันตราย... ผู้หญิงเดินทางคนเดียว?
?บังเอิญเค้าบอกว่าดูแลตัวเองได้ว่ะ เห็นว่าฝึกพะบู๊มาพอสมควร? ดีนตอบ
?เออ ช่างเถอะ? ราล์ฟพูดพร้อมกับวางกระดาษโน้ตที่มีชื่อ เอมิเลีย ฮาร์ท พร้อมเบอร์โทรและอีเมล์ไว้บนโต๊ะอย่างไม่ใยดี ?ฉันว่าเราไปกินข้าวกันเถอะ แล้วก็ระหว่างกินข้าวก็คุยเรื่องงานอย่างเดียว ฉันเบื่อเรื่องผู้หญิงเต็มที?
??????????????????????.
ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ^^
สายลมแห่งหัวใจ [Fic.จังหวะร็อค ดนตรีรัก] ตอนที่ 1
Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี
-
- โพสต์: 4
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 05 มิ.ย. 2008 12:07 pm
- ที่อยู่: บนโลกร้อนๆ
- ติดต่อ: