New Release : GOSICKs ?สาวน้อยยอดนักสืบ- ตอนพิเศษ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : GOSICKs ?สาวน้อยยอดนักสืบ- ตอนพิเศษ

โพสต์ โดย Gals »

GOSICKs ?สาวน้อยยอดนักสืบ- ตอนพิเศษ ยมทูตผู้มาเยือนในฤดูใบไม้ผลิ

บทนำ


?สิ่งนั้น? ถูกเก็บเอาไว้ในร่างกายเล็กๆ ร่างหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เหล่าผู้คนในประเทศแห่งนั้นไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของ ?สิ่งนั้น? มาเป็นเวลาเนิ่นนาน

?สิ่งนั้น? มีรูปร่างเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไม่มีใครรู้
ภายใต้จีบระบายและลูกไม้ที่ซ้อนกันหลายๆ ชั้นดูหรูหราราวกับภาพในความฝันนั้น....
มีความมืดมิดอันแสนลึกลับกำลังหลับใหลอยู่

ทางวงกต
สติปัญญาอันปราดเปรื่องจนน่าสะพรึงกลัวนั้นเป็นก้าวแรกที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์อันมืดมิด
สิ่งนั้นกำลังหายใจเบาๆ อยู่ในตัวของเด็กสาวตัวน้อยๆ ที่ชื่อว่าวิคตอริก้า

สติปัญญาของวิคตอริก้านั้นเป็นทางวงกตที่แสนซับซ้อน ความลึกลับแต่งแต้มสีสันให้กับความมืดมิด และแผ่ไพศาล อย่าว่าแต่จะมีใครเข้าใจสิ่งนั้นเลย แค่เพียงจะจ้องมองก็ยังไม่สามารถทำได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วิคตอริก้ากลายเป็นพระราชาผู้โดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่มีทั้งอาณาจักร ไม่มีทั้งพสกนิกร แผ่นดินกว้างไพศาล ความรู้จำนวนมาก และ ?น้ำพุแห่งปัญญา? วิคตอริก้ามักจะเบื่ออยู่ตลอดเวลา เธอจึงเอาแต่เก็บตัวอยู่ในหอสมุดสูงเสียดฟ้าแล้วอ่านหนังสือมาเรื่อยๆ เป็นเวลานาน โดยที่ไม่มีใครมายังที่แห่งนั้น หญิงสาวคนหนึ่งที่รู้จักเธอพึมพำออกมาเช่นนี้
?บางทีคำว่าเบื่อนั่นอาจจะแปลว่าเหงาก็ได้....?

ทว่า....

แล้วในที่สุด ก็มีข้ารับใช้คนหนึ่งเข้ามาหาเธอ
ข้ารับใช้นั้นเป็นเด็กหนุ่มร่างเล็กผมสีดำ ผู้ที่เกิดในต่างแดนซึ่งตั้งอยู่ไกลโพ้น มีสีผิวที่ไม่คุ้นตา ท่าทางเป็นคนอ่อนโยน แต่ว่ามีตรงไหนสักแห่งบนใบหน้าที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นคนหัวรั้น ชื่อของเขาคือ คุโจ คาซึยะ เขาข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากที่แสนไกล แล้วก็ขึ้นไปยังหอสมุด ในที่สุด....
ก็ได้พบกับเด็กสาว

เวลานั้นคือปีค.ศ. 1924
มุมหนึ่งของทวีปยุโรป เซาวิลล์ประเทศเล็กๆ แต่มีประวัติศาสตร์อันแสนภาคภูมิ มีชายแดนติดกับฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี
หากจะให้ชายหาดของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสถานที่พักตากอากาศของเหล่าขุนนางเป็นประตูทางเข้าอันหรูหราเพื่อเข้าสู่เซาวิลล์แล้วล่ะก็ ที่ด้านในของเทือกเขาแอลป์ก็ถือได้ว่าเป็นห้องใต้หลังคาลับๆ ซึ่งหลับใหลอยู่ในปราสาทอันแสนกว้างขวาง และที่ตีนเทือกเขาแห่งนั้นก็มีโรงเรียนเซนต์มาร์เกอริต สถาบันการศึกษาเลื่องชื่อสำหรับให้การศึกษาแก่บุตรหลานขุนนาง
วิคตอริก้า เด็กสาวปริศนาซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่าหมาป่าสีเทา ผู้ที่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในหอสมุดของโรงเรียน และคุโจ คาซึยะ นักเรียนแลกเปลี่ยนที่เดินทางมาจากประเทศแห่งหนึ่งทางตะวันออก
ทั้งเด็กหนุ่มและเด็กสาวได้มาพบเจอกันในวันหนึ่งของฤดูใบไม้ผลิของปีนี้


บทที่ 1 นักเดินทางผู้มาเยือนในฤดูใบไม้ผลิจะนำพาความตายมาสู่โรงเรียน


1

คุโจ คาซึยะเป็นเด็กหนุ่มที่เอาจริงเอาจัง
ถ้าจะบอกว่าข้อดีมีเพียงแค่เรื่องนั้นก็ไม่มีใครคัดค้าน เพราะเป็นชายที่จริงจัง เถรตรง ไม่ค่อยพูด จืดชืด ขาดรสชาติ
เขาเป็นบุตรคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมดสี่คน โดยพี่ชายคนโตเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรบ พี่ชายคนรองเป็นราชานักประดิษฐ์ที่ขนาดนักประดิษฐ์มืออาชีพยังอาย พี่สาวเป็นคนเลอโฉมแถมยังได้ประกาศนียบัตรด้านการเต้นรำ
ถึงแม้ว่าคาซึยะจะไม่มีอะไรที่โดดเด่นเลยก็ตาม แต่ก็เป็นคนที่เอาจริงเอาจังที่สุด แถมยังมีผลการเรียนดีที่สุดอีกด้วย เรื่องนั้นเป็นที่ยอมรับ อีกทั้งยังเป็นลูกชายคนที่สามซึ่งไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่ผู้สืบทอดตระกูล บิดาผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวจึงพิจารณาแล้วว่าถึงแม้จะโชคร้าย ประสบอุบัติเหตุที่ต่างบ้านต่างเมืองกระทั่งกลับประเทศมาไม่ได้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ทำให้เขาต้องเดินทางมายังโรงเรียนในราชอาณาจักรเซาวิลล์ที่เพิ่งเริ่มเปิดรับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศพันธมิตรเมื่อไม่นานมานี้
ทุกครั้งที่มีโอกาส บิดาผู้เป็นทหารจะพูดกับคาซึยะว่า ?ในฐานะบุตรชายคนที่สามของทหารแห่งองค์จักรพรรดิ....? ทำให้คาซึยะต้องคอยระวังไม่ให้ทำเรื่องผิดพลาดจากความสะเพร่าอยู่ตลอดเวลา จะต้องประพฤติปฏิบัติตัวอย่างเอาจริงจังในฐานะบุตรชายคนที่สามของทหารแห่งองค์จักรพรรดิ....

?....คุโจคุง! คุโจคุง!?
ในวันนั้น ตอนเวลาเจ็ดโมงนิดๆ
โดยปกติแล้ว คาซึยะจะตื่นมาในห้องของตนเองในหอพักชาย ล้างหน้า หวีผม สวมเครื่องแบบนักเรียน แล้วเดินลงมาที่ห้องอาหารซึ่งอยู่ชั้นหนึ่งด้วยฝีเท้าดังตุบ ตุบ ก้องเป็นจังหวะสมกับเป็นผู้ปฏิบัติตัวอยู่ในกฎเกณฑ์
เหล่าบุตรขุนนางคนอื่นๆ นอนหลับจนกระทั่งจวนเจียนเวลาในตอนเช้า ดังนั้นเวลาที่คาซึยะเดินไปยังโรงอาหารจึงยังไม่มีใครอยู่ในนั้น มีเพียงแม่บ้านดูแลหอพักผมสีแดง ดูแล้วน่าจะอายุเลยยี่สิบปีไปเพียงเล็กน้อยคาบบุหรี่เอาไว้ในปาก นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้กลมพร้อมง่วนกับการอ่านหนังพิมพ์ฉบับเช้าอยู่เท่านั้น มีเด็กหนุ่มเพียงไม่กี่คนที่จะยอมรับคาซึยะผู้ซึ่งเป็นทั้งชาวตะวันออก อีกทั้งยังไม่ได้อยู่ในระดับชนชั้นขุนนางอีกด้วย ทำให้คาซึยะยังไม่มีเพื่อนสนิทเลย ดังนั้นเขาจึงจงใจมาที่ห้องอาหารในเวลาที่ต่างจากคนอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความว้าเหว่เช่นนั้น
แต่ในเช้าวันนั้น...
ขณะที่คาซึยะกำลังล้างหน้าหลังจากตื่นนอน เขาก็ตกใจกับเสียงเคาะประตูอย่างดังพร้อมกับเสียงของผู้หญิง เขาจึงออกมาเปิดประตูห้องทั้งที่ยังคงสวมเครื่องแบบไม่เรียบร้อย
แม่บ้านหอพักผู้มีผมสีแดงราวกับเปลวเพลิงรูปร่างสุดเซ็กซี่น่ามองกำลังยืนอยู่หน้าประตูด้วยหน้าตาสะลึมสะลือ
?....อรุณสวัสดิ์ครับ มะ มีอะไรเหรอครับ??
?ดีจังเลย นึกแล้วเชียวว่าคุโจคุงจะต้องตื่นแล้ว ช่วยไปซื้อชีสกับแฮมให้หน่อยสิ?
?....เอ๋??
คุณแม่บ้านลากคาซึยะออกมาจากห้องโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาตอบรับหรือปฏิเสธ แล้วยัดอะไรบางอย่างคล้ายกับแซนด์วิชลงไปในกระเป๋าหน้าอกของเครื่องแบบนักเรียนของคาซึยะซึ่งกำลังทำตาโตด้วยความตกใจ
?อะ อะ อะ อะไรนะครับ? ชีสกับแฮมเหรอ? ผมเหรอ? ที่ไหนกัน?....ทำไมล่ะ??
?ถ้าจะพูดให้ถูกก็ชีสรีคอตต้าห้าร้อยกรัม แฮมหนึ่งกิโล คุโจคุงนั่นแหละ ที่ตลาดเช้าในหมู่บ้าน เพราะเมื่อวานนี้ฉันลืมซื้อไงล่ะ?
คุณแม่บ้านพูดรวดเดียวไม่มีหยุดพัก คาซึยะยัดเนคไทเข้าที่กระเป๋าเสื้อพร้อมกับถามว่า
?ทะ ทำไมล่ะ??
?ก็ตั้งใจว่าจะออกไปซื้ออาหารนั่นแหละ แต่ไปเจอเพื่อนระหว่างทาง เลยถูกเชิญไปงานเลี้ยงเต้นรำ จากนั้นก็ไปเต้นรำ ดื่มเหล้าองุ่น แล้วก็กลับมามือเปล่า.... เพราะงั้น รีบไปได้แล้วล่ะ! ไม่งั้นไม่มีอาหารเช้าให้ทุกคนแน่เลย! เดี๋ยวฉันโดนไล่ออก! เร็วๆ เข้า!?
?อ่า คือว่า ที่ผมถามว่าทำไมน่ะ คือ ทำไมถึงเป็นผม...?
?ก็เพราะตื่นเช้าไงล่ะ แล้วก็เป็นคนหัวอ่อน ....อ๊ะ หวา หวา หวา จะ ใจดี ใช่แล้ว เพราะเป็นคนใจดีไงล่ะ!?
คาซึยะถูกลากลงบันไดและถูกเตะส่งออกมานอกหอพักอย่างไร้ความปรานี คุณแม่บ้านโยกร่างกายที่ดูมีน้ำมีนวล และมีส่วนเว้าส่วนโค้งสมกับเป็นผู้หญิงไปมา
?อาหารเช้าของคุโจคุงก็คือแซนด์วิชนั่นนะ เดี๋ยวฉันไปหั่นขนมปังกับต้มน้ำร้อนก่อน รีบไปซื้อแล้วรีบกลับมาล่ะ!?
?คือว่า....!?
ประตูถูกปิดเสียงดังปัง
คาซึยะเงยหน้ามองประตูอย่างงงงวยด้วยใบหน้าที่ดูเบลอๆ เนื่องจากเพิ่งตื่นนอน แล้วในที่สุดก็ถอนหายใจออกมา
?....เข้าใจแล้วครับ?
และเดินตรงไปทางประตูโรงเรียนอย่างไม่มีทางเลือก
คาซึยะมักจะถูกพวกผู้หญิงมาขอให้ช่วยเหลืออย่างง่ายดายตั้งแต่สมัยที่อยู่บ้านของตัวเองแล้ว พี่สาวเคยบอกกับเขาว่าเพราะพรสวรรค์ไงล่ะ แต่คาซึยะคิดว่าไม่ใช่ เขาคิดว่าถ้าตัวเองทำตัวสง่าผ่าเผยน่าเกรงขามสมกับเป็นบุตรชายทหารแล้ว ก็ไม่น่าที่จะ....ถูกโยนงานมาให้.... แล้วก็ไม่ถูกใช้งานด้วย
เมื่อเดินพ้นประตูหน้ามาแล้ว คาซึยะถอนหายใจในขณะที่กำลังเดินไปบนถนนกรวดซึ่งตรงไปยังหมู่บ้าน
?เฮ้อ....?
คุโจ คาซึยะที่ดูเป็นคนเถรตรง พูดน้อย ใจอ่อนกับผู้หญิงมากจนคาดไม่ถึงนั้น มีอีกด้านหนึ่งที่คาดไม่ถึงซึ่งไม่เคยแสดงให้ใครเห็นมาก่อน สิ่งที่เขาปกปิดเป็นความลับไม่ยอมให้ทั้งคนในครอบครัวและเพื่อนๆ ได้ล่วงรู้โดยเด็ดขาดนั้นคือ อันที่จริงแล้วคาซึยะเป็นคนค่อนข้างโรแมนติกมาก
ภายใต้หน้ากากที่แข็งทื่อเอาจริงเอาจังนั้น เขาปกปิดจินตนาการเรื่อง ?การได้พบเจอกับสาวเลอโฉมอันแสนวิเศษ? คาซึยะแอบเชื่อว่าตนเองน่าจะได้พบกับใครสักคนที่เป็น ?เด็กสาวของตัวเอง? คนที่เข้ากับตนเองได้ดี แล้วก็เป็นคนน่ารักขนาดที่พานให้คิดว่าพระเจ้าลิขิตให้พวกเขาได้มาเจอกัน....
....ถ้าบิดารู้ว่าเขาคิดอะไรเช่นนั้นแล้วล่ะก็ เขาคงจะถูกตบหน้าซ้ายขวาด้วยข้อหาที่ว่าคิดแต่เรื่องน่าอาย หรือไม่ก็ไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย แล้วถ้าพวกพี่ชายรู้เข้าก็คงถูกหัวเราะเยาะสามวันสามคืน เพราะอย่างนั้นก็เลยต้องเก็บเป็นความลับไม่ให้คนในครอบครัวรู้เป็นอันขาด
(แต่ว่านะ เด็กสาวของผม....)
คงจะอยู่ที่ไหนสักแห่งสินะ เขากล่าวพึมพำเช่นนั้นแล้วรีบวิ่งเดินไปตามถนนตรงไปยังหมู่บ้าน แล้วถอนหายใจอีกครั้ง
(อย่างในตอนเช้า ใช่แล้วล่ะ เช้าขนาดนี้....)
คาซึยะเริ่มจินตนาการ
(ขณะที่ผมกำลังเดินอยู่ จู่ๆ ก็มีเด็กสาวน่ารักวิ่งเข้ามาชนตรงๆ ทางด้านหน้า พอผมถามไปว่า ?เป็นอะไรรึเปล่า?? เธอก็ตอบกลับมาด้วยท่าทางเอียงอายว่า ?ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก? พอสบตากันแล้วเด็กสาวก็ตกหลุมรักผม....)
เมื่อคิดมาถึงตรงนั้น คาซึยะก็ได้สติแล้วยักไหล่เรื่องที่ตนเองเอาแต่พร่ำเพ้ออยู่ในจินตนาการ
(....ในความเป็นจริงมันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน แทนที่จะคิดเรื่องนั้น ต้องรีบไปซื้อชีสกับแฮมแล้วกลับไปที่โรงเรียนก่อน ตั้งแต่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาครึ่งปี ยังไม่เคยสายเลยแม้แต่ครั้งเดียว บุตรชายคนที่สามของทหารแห่งองค์จักรพรรดิจะต้องไม่สาย เพราะงั้นต้องรีบ....)
มีบางอย่างตัดผ่านทางหางตา คงจะเป็นคนเดินสัญจรไปมาล่ะมั้ง แต่น่าแปลกที่มีคนเดินผ่านบนถนนที่แสนเงียบเหงาของหมู่บ้านตั้งแต่เช้าตรู่ขนาดนี้....
(แต่.... ?เด็กสาวของผม? คนนั้น....)
ทั้งๆ ที่คาซึยะกำลังรีบ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้กลับไปสู่โลกแห่งจินตนาการอีกครั้ง
(ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็เป็นสาวผมทองก็ดีน้า ก็สีทองเป็นสีที่สวยมากๆ เป็นสีเส้นผมอันแสนเจิดจ้าที่ไม่มีในประเทศของฉัน....)
ในเวลานั้นเอง....
เอี๊ยด....! เสียงคล้ายกับเสียงเบรก
เสียงแปลกๆ ดังขึ้นมาตอนที่คาซึยะกำลังคิดหมกมุ่นถึงสาวผมทองถึงสาวผมทองอย่างจริงๆ จังๆ จนประมาทไม่ได้ดูถนนทางด้านหน้าขณะเดินเลี้ยวตรงหัวมุม ฉับพลันนั้นก็มีเสียงอะไรบางอย่างขนาดใหญ่ชนกันเสียงดังโครมก่อนจะกลับสู่ความเงียบ เมื่อคาซึยะตั้งสติได้
?....เอ๋??
รถจักรยานยนต์เยอรมันใหม่เอี่ยมฝังเข้ากับกำแพงหินเตี้ยๆ ที่กั้นสวนองุ่นเอาไว้ ดูเหมือนว่าจะชนเข้ากับกำแพงด้วยความเร็วสูงโดยที่ไม่เลี้ยวรถตรงหัวมุม คาซึยะทำหน้าตาเหยเกเมื่อรู้ตัวว่าหากจังหวะคลาดเคลื่อนไปเพียงเล็กน้อยตนเองคงถูกรถทับไปแล้ว
อาจเป็นเพราะตกใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ชายร่างใหญ่สวมหมวกกันน็อคสีดำจึงยังคงนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ตัวเกร็ง คาซึยะเปิดปากตั้งใจจะพูดต่อว่าต่อขาน แต่เมื่อเห็นชายคนนั้นไม่ขยับเขยื้อนตัวก็เกิดความเป็นห่วง
?อ่า.... ปลอดภัยรึเปล่าครับ??
ไม่มีคำตอบใดๆ กลับมา เมื่อเข้าไปจ้องก็พบว่าใบหน้าของชายที่อยู่ในหมวกกันน็อคมีดวงตาเบิกโพลง ไม่กะพริบตา หน้าตาแข็งทื่อ
คาซึยะคิดในใจว่า
(ทั้งที่คิดว่าอยากเจอเด็กสาวน่ารักๆ แท้ๆ แต่กลับต้องมาเจอผู้ชายตัวโตขี่มอเตอร์ไซค์งั้นเหรอ น่าเบื่อจังเลยแฮะ คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้วล่ะ)
ขณะที่เขาคิดเช่นนั้นพร้อมกับถอนหายใจออกมา....
ก็เกิดเรื่องที่เลวร้ายกว่านั้นขึ้น
มีอะไรบางอย่างร่วงหล่นแล้วกลิ้งลงกับพื้น
มันคือศีรษะของชายคนนั้นนั่นเอง
คาซึยะหวีดร้องด้วยความตกใจ
ศีรษะของชายคนนั้นกลิ้งไปพร้อมกับหมวกกันน็อคกระทั่งมาหยุดที่เท้าของคาซึยะพอดี ดวงตาอันแข็งทื่อนั้นหันขึ้นมามองคาซึยะ คาซึยะเผลอถามศีรษะนั้นโดยที่ไม่ทันคิด
?เป็นอะไรรึเปล่าครับ!??
ในเวลานั้นเอง....
เสียงแปลกๆ คล้ายกับเสียงน้ำพุก็ดังขึ้น เมื่อคาซึยะเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่ามีเลือดสดๆ พวยพุ่งออกมาจากต้นคอ อาบร่างที่ไร้ศีรษะและจักรยานยนต์จนกลายเป็นสีแดงฉาน
คาซึยะหวีดร้องด้วยความตกใจอีกครั้งหนึ่ง
ด้านหลังของละอองเลือดนั้นเป็นเพราะอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องแสงระยิบระยับสว่างไสว และสีเขียวขจีของสวนองุ่นที่หนาทึบ ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใส
(ที่เจอนี่ไม่ใช่เด็กสาว แต่เป็นศพหัวขาด.... งั้นเหรอ)
คาซึยะขมวดคิ้ว ทำหน้าเคร่งเครียดด้วยท่าทางจริงจังแล้วคิดว่า
(....รู้อย่างนี้ ไม่มาเรียนที่นี่ซะก็ดี)
เขาถอนหายใจออกมายาวๆ หนึ่งครั้ง และแล้ว....
ก็หมดสติไป


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ฤดูใบไม้ผลิ ปี 1924 คุโจ คาซึยะ นักเรียนดีเด่นได้เดินทางจากประเทศเกาะทางตะวันออกมายังราชอาณาจักรเซาเล็มในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน ถูกตั้งฉายาว่า <ยมทูต> ที่มาจากเรื่องสยองขวัญในโรงเรียนที่ว่า <นักเดินทางผู้มาเยือนในฤดูใบไม้ผลิจะนำพาความตายมา> ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเดียวดายในห้องเรียน ในระหว่างนั้นเองกลับเกิดคดีฆาตกรรมตามเรื่องเล่าสยองขวัญขึ้น....!? ผู้ที่ช่วยคาซึยะซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยเอาไว้ก็คือ วิคตอริก้า เด็กผู้หญิงน่าพิศวงหน้าตาสะสวยผู้ที่เอาแต่อ่านหนังสืออยู่ที่ชั้นบนของหอสมุด ? ผลงานรวมเรื่องสั้นอันเป็นจุดเริ่มของ [GOSICK] ซึ่งเขียนเรื่องราวของการได้มาพานพบของตัวละครแต่ละคน


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”