New Release : Rozenkreuz โรเซนครอยส์ 7

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : Rozenkreuz โรเซนครอยส์ 7

โพสต์ โดย Gals »

Rozenkreuz โรเซนครอยส์ 7 ตอน สุลต่านแห่งเขาวงกตสีน้ำเงิน

บทที่ 1

นาเซลดารานแห่งนี้มีการประชุมสภาสูงสุด (Divan) เดือนละสี่ครั้ง ซึ่งปกติจะเปิดประชุมในวันที่สองของสัปดาห์
โดยดีวานแรกของเดือนจะเป็นวาระทางการที่สำคัญที่สุด ซึ่งวันนี้นอกจากปาชาฮ์กับเหล่าแม่ทัพแล้วยังมีเหล่าเทศมนตรีหัวเมืองสำคัญอย่างนาโตเลีย ลูเมเลีย คาดีล และบาคุลเข้าร่วมประชุมด้วย
ณ ห้องหนึ่งในหอคอยสภาสูงสุด ปาชาฮ์กับเหล่าเทศมนตรีนั่งเรียงรายบนเก้าอี้พิงผนัง ส่วนฟาลซาดนอนเอกเขนกสบายบนเก้าอี้ยาว ที่อยู่ลึกเข้าไปทางซ้ายมือของประตูทางเข้าซึ่งเป็นที่นั่งของผู้มียศศักดิ์สูงสุด
วันนี้เขาไม่เปลือยอกอย่างผิดวิสัย แต่สวมเสื้อคลุมยาวเรียกว่าคาฟตาน ซึ่งทำจากผ้าต่วนแดงปักดิ้นเงินลายดอกไม้อาหรับ และยังคงสวมสร้อยคอยาวรุงรังเหมือนจอมขมังเวท พร้อมทั้งปล่อยผมยาวสยายผิดกับบุรุษในประเทศนี้
ไม่เชิงใช้แทนผ้าโพกหัว เขาใช้ผ้าโปร่งสีขาวพันรอบศีรษะแบบปล่อยชายพลิ้ว ราวกับเครื่องประดับศีรษะของเด็กสาวชนเผ่าเร่ร่อนตามทุ่งหญ้าซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออก
เหล่าปาชาฮ์ซึ่งชินชากับการแต่งตัวสุดพิสดารของสุลต่านยังคงดำเนินการประชุมต่อไปอย่างเคร่งเครียดเป็นพิธีรีตอง
ทว่า พอการประชุมช่วงเช้าสิ้นสุดลง ฟาลซาดก็ยกมือขัดนายกรัฐมนตรีขณะเขากำลังสั่งให้ขันทีขาวซึ่งยืนหลบอยู่มาเสิร์ฟอาหารเที่ยง ทำให้เกิดความตึงเครียดเงียบๆ ในหมู่ปาชาฮ์
ฟาลซาดเป็นคนฉุนเฉียวและไม่ชอบพิธีรีตอง แต่เป็นผู้ปกครองที่เยี่ยมยอด หากเห็นด้วยกับนโยบายของเหล่าปาชาฮ์ เขาจะปล่อยให้จัดการเต็มที่โดยไม่เข้าไปก้าวก่าย กระทั่งการประชุมสภาสูงสุดก็ปล่อยให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการหารือเหมือนสุลต่านรุ่นก่อน และแทบไม่ปริปากพูดเลย
แต่ชีวิตของพวกเขาจะสั้นลง หากฟาลซาดเห็นว่าไร้ความสามารถ มีปาชาฮ์หลายคนในที่นี้มาแทนที่คนที่หัวหลุดจากบ่า และต่อให้ไม่ถึงขั้นประหาร ฟาลซาดก็เคยตวาดหรือไม่ก็ถีบปาชาฮ์รุ่นปู่ที่ถวายงานมาตั้งแต่รุ่นพ่อได้หน้าตาเฉยมาแล้ว
เหล่าปาชาฮ์มองหน้ากัน ในใจคิดว่าคราวนี้ใครจะถูกต่อว่าหรือถูกโยกย้ายกันแน่ แต่สิ่งที่ลอยเข้าหูพวกเขากลับเป็นคำพูดผิดคาดของฟาลซาด
?ข้าจะแต่งตั้งฮาเซกิ กิลบาฮาร์เป็นชายาสุลต่าน เตรียมจัดพิธีเดี๋ยวนี้เลย?
นายกรัฐมนตรีถึงกับถามกลับทันควันว่า ?จะทรงแต่งตั้งพระสนมเป็นจักรพรรดินีรึพระเจ้าค่ะ?? เพราะไม่เคยมีใครแต่งตั้งสนมขึ้นเป็นชายาตามกฎหมาย
และตำแหน่งจักรพรรดินีก็สาบสูญไปนานแล้ว พอนาเซลดารานขึ้นเป็นจักรวรรดิมหาอำนาจ ประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่มีคู่ครองที่คู่ควรอีกต่อไป ฮาเร็มจึงเริ่มมีบทบาทสำคัญ ช่วยทำให้สุลต่านในอดีตมีรัชทายาทกับนางทาสแทน
ฮาเซกิคือสมญานามที่มอบให้สนมเอก หากให้กำเนิดรัชทายาทจะได้รับบรรดาศักดิ์เป็นวาลีเดสุลต่านหรือพระราชชนนี ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้ว ทำไมถึงแต่งตั้งเป็นจักรพรรดินีเอาตอนนี้....แม้แต่พวกปาชาฮ์ที่ชินกับพฤติกรรมหลุดโลกของสุลต่านยังมองหน้ากันด้วยความงงงวย
แต่ดูเหมือนฟาลซาดจะไม่แยแสปฏิกิริยาของเหล่าปาชาฮ์แม้แต่น้อย และถามนายกรัฐมนตรีหน้าตาเฉย
?จะจัดพิธีเสร็จเมื่อไร??
?เอ่อ มันเป็นพระราชพิธีที่เราร้างลามานาน และตำแหน่งจักรพรรดินีของประเทศเราก็สาบสูญไปนาน กระหม่อมไม่ทราบว่าต้องใช้เวลามากแค่ไหนกว่าจะเตรียมพิธีการและวัดตัวตัดฉลองพระองค์....?
?ไม่ต้องพล่ามแล้ว ข้าให้เวลาสักสิบวัน เตรียมทุกอย่างให้พร้อมล่ะ?
?สะ สิบวัน! แค่นั้นไม่มีทางทันหรอกพระเจ้าค่ะ!?
?สิบวัน ข้ารอนานกว่านั้นไม่ไหว รีบไปแจ้งข่าวนี้กับทูตทุกประเทศ และแจ้งด้วยว่าเราจะจัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ฟังนะ ?อย่างยิ่งใหญ่อลังการ? ต่อให้มีเวลาจำกัด แต่ขืนทำให้งานสำคัญของเมียข้าเป็นงานห่วยๆ ล่ะก็ ข้าจะถลกเคราที่พวกเจ้าภูมิใจนักหนามายัดปากพวกเจ้าเลยคอยดู เตรียมใจเอาไว้ด้วย?
คำขู่ปิดท้ายก่อนเดินออกจากห้องประชุมไปสมกับเป็นฟาลซาด ทำให้นายกรัฐมนตรีที่อ้อนวอนขอเวลาหุบปาก
?จักรพรรดินีเรอะ! ใครจะไปจำรายละเอียดพระราชพิธีแต่งตั้งสมญานามที่ว่างมาเป็นร้อยปีได้!??
?ใช่! มิหนำซ้ำยังทรงเอาแต่พระทัย จะให้เตรียมงานเสร็จภายในสิบวัน อย่าว่าแต่ท่านนายกฯ เลย เราจะถูกขึงพืดให้กินเคราตัวเองด้วยนะ?
?ถ้าพระราชชนนีทรงทราบเข้า ทรงอาละวาดอีกแน่....น่าปวดหัวจริงๆ?
เหล่าปาชาฮ์ที่เหลืออยู่พากันบ่นอุบ

***

โดลมาบาชเช่ ตำหนักแปรพระราชฐานยังคงทอแสงประกายงดงามกลางท้องทะเลเช่นเคย
เซซิลอยู่ในฮามัม การเข้าฮามัมเป็นทั้งประเพณีที่ฝังรากลึกในตัวชาวนาเซลดารานทุกคน รวมทั้งเป็นความสุนทรีย์ประจำวันด้วย สุลต่านผู้สร้างตำหนักนี้โปรดปรานการอาบน้ำเป็นชีวิตจิตใจ จึงปูพื้นฮามัมด้วยหินอ่อนหรูหรา และตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องโมเสกสีน้ำเงินงดงามลวดลายมังกรทะเล
ไอน้ำจากหม้อทองแดงปกคลุมห้องราวกับหมอกซึ่งอ่อนโยนต่อผิว เซซิลนอนตะแคงบนพรมสุดหรูที่เต็มไปด้วยหมอนอิง วางศีรษะกับเท้าบนมือนางสนองพระโอษฐ์สองคน คนหนึ่งแบ่งผมเป็นช่อเล็กๆ และถักเปียให้เรือนผมทอประกายสีน้ำผึ้งดูงดงามยิ่งขึ้น ส่วนอีกคนกำลังทาเล็บด้วยเฮนน่าสีแดง
?เกศาของท่านงดงามเจิดจ้าราวแสงอาทิตย์เลยเพคะ?
?แหม ขอบใจจ้ะ?
เสียงหัวเราะร่วนสะท้อนเพดานหินสูง ข้างกายมีเชอร์เบทน้ำกุหลาบเย็นเฉียบ เมล่อนโรยเกล็ดน้ำแข็ง ขนมน้ำผึ้งปั้นเป็นรูปดอกไม้งามกับพายอินทผลัม การใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการกินไปคุยเจ๊าะแจ๊ะไปเป็นความเพลิดเพลินของบรรดาผู้หญิงในฮาเร็ม รวมทั้งในคีเซล-เอลมาแห่งนี้
?กิลบาฮาร์!?
ฟาลซาดเปิดประตูเข้ามากะทันหัน เหล่านางสนองพระโอษฐ์จึงกรีดร้องพร้อมใช้แขนกอดร่างและก้มตัวหลบ
พวกนางมีผ้าลินินสีขาวคลุมกายผืนเดียว เซซิลก็อยู่ในสภาพคล้ายกัน แต่เป็นเสื้อคลุมอาบน้ำสำหรับคนสูงศักดิ์ ชายผ้าปักลายดอกทิวลิป
มันไม่ต่างกับร่างเปลือยเปล่าสำหรับหญิงสูงศักดิ์ที่ปกติต้องใช้ผ้าคลุมเพื่อปกปิดใบหน้า การที่ผู้ชายเข้ามาในฮามัมของหญิงสูงศักดิ์ถือว่าเสียมารยาทมาก แต่ฟาลซาดเดินอาดๆ เข้ามาโดยไม่สนใจ
?มีอะไรรึเพคะ? ท่านฟาลซาด?
ฟาลซาดมาอยู่ตรงหน้า เซซิลจึงนอนอยู่ไม่ได้ เขาลุกขึ้นนั่งเอียงคอทำตาแป๋ว
เซซิลไม่เอียงอายเหมือนนางสนองพระโอษฐ์ เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นในเสื้อคลุมบางๆ ช่างบริสุทธิ์ผุดผ่องดุจนางฟ้าจากสวรรค์ ความอับอายของมนุษย์เดินดินจึงยิ่งไม่คู่ควร
?ข้ามีข่าวดีมาบอก?
?ข่าวดี? อะไรเพคะ? อยากรู้จัง?
พอเซซิลจะลุกขึ้นยืนเพื่อเดินออกมาหาฟาลซาดนอกพรม นางสนองพระโอษฐ์ก็รีบส่งรองเท้าให้เพื่อกันเท้าเปียก
มันเป็นรองเท้าส้นหนาเตอะสำหรับใส่ในฮามัมที่ใส่แล้วจะสูงขึ้นเกือบครึ่งฟุต มิหนำซ้ำรองเท้าสตรีสูงศักดิ์ยังหนักมากเพราะประดับเครื่องเงินไม่ก็ฝังมุก มีไว้กันเท้าเปียกน้ำคราบไคลหลังชำระล้างร่างกาย แต่เดินลำบากมากบนพื้นหินอ่อนลื่นๆ
?เจ้าก็รู้ใช่ไหมว่าวันนี้มีประชุมสภาสูงสุด??
?เมื่อวานท่านฟาลซาดทรงเล่าให้หม่อมฉันฟัง?
ถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นต้องเป็นข่าวที่สำคัญมากแน่ เซซิลแอบตื่นเต้น
?อืม เกี่ยวกับเรื่องนั้นน่ะ....?
ฟาลซาดคงหงุดหงิดเซซิลที่ต้องจับมือนางสนองพระโอษฐ์เดินช้าๆ เพราะสวมรองเท้าเดินยากจึงเดาะลิ้นและอุ้มร่างนั้นขึ้น
?ทะ ท่านฟาลซาด!?
?อยู่นิ่งๆ สิ ดิ้นเดี๋ยวก็ร่วงหรอก?
ฟาลซาดเดินจ้ำไปห้องพักข้างๆ ฮามัม วางเซซิลลงบนเก้าอี้ยาวและทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
นางสนองพระโอษฐ์กุลีกุจอยกถ้วยกาแฟกับขนมมาเสิร์ฟล่วงหน้า แม้ฟาลซาดจะชอบโผล่มาปุบปับ แต่ถ้าไม่เตรียมของให้พร้อมเขาจะอารมณ์เสีย พวกนางจึงเตรียมไว้ล่วงหน้าเสมอ
มันคงเป็นเรื่องสำคัญมาก ฟาลซาดถึงสั่งให้นางสนองพระโอษฐ์ออกไปทันทีหลังยกอุปกรณ์ชงกาแฟมา ทว่านางมีหน้าที่ชงกาแฟจึงลังเลทำอะไรไม่ถูก เซซิลจึงเสริมว่า ?เดี๋ยวข้าจัดการที่เหลือเอง ออกไปเถอะ? เพราะถ้ามัวอ้อยอิ่ง ฟาลซาดขี้โมโหจะฉุนขาด
?แล้วคุยเรื่องอะไรกันในที่ประชุม??
เซซิลรินของเหลวสีดำสนิทของโปรดฟาลซาดใส่ถ้วยเงินจิ๋วสลักลวดลายประณีต พอไล่นางสนองพระโอษฐ์ออกไปหมด คำพูดคำจาของเซซิลก็ห้วนไร้หางเสียงทันที
?ก็เหมือนเดิม มีแต่เรื่องร้องเรียนน่าเบื่อกับเรื่องพวกปาชาฮ์น่าเบื่อ เพราะเตี๊ยมกันมาก่อนประชุม มันก็เหมือนประชุมพอเป็นพิธีแหละ ข้าเลยหลับไปซะครึ่ง?
?สมเป็นฟาลซาดชะมัด?
เซซิลไม่สั่งเชอร์เบทจากนางสนองพระโอษฐ์และดื่มกาแฟขมๆ เป็นเพื่อนฟาลซาดที่วันนี้ดูเหมือนอยากอยู่ตามลำพัง แต่เขาทนดื่มกาแฟดำขมๆ ไม่ไหวจึงใส่น้ำตาลเต็มที่
เวลาดื่มกาแฟกับฟาลซาดเช่นนี้ เซซิลจะรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ ก่อนหน้านี้เขาก็เคยดื่มกาแฟขมๆ กับใครบางคน แต่นึกไม่ออกว่าใคร รู้เพียงว่าเป็นคนละคนกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตนในตอนนี้
?แต่ช่วงท้ายมันแปลกมาก ขนาดนายกรัฐมนตรียังตาค้าง พวกปาชาฮ์คนอื่นก็เหมือนกัน?
?เจ้าทำอะไรลงไปกันแน่? มันเกี่ยวกับข่าวดีนั่นรึ??
?อืม ข้าประกาศแต่งตั้งเจ้าเป็นชายาสุลต่าน?
?หา! ให้ข้าเป็นชายา??
เซซิลเผลอขึ้นเสียง ความกังวลผุดขึ้นมาในอกพร้อมความตกใจทำให้สีหน้าหม่นหมอง
?อะไร ไม่ดีใจรึ??
ฟาลซาดที่คิดว่าเซซิลจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจทำหน้าบูด
?ห้ามปฏิเสธเชียวนะ เพราะข้าสั่งให้เตรียมพิธีให้พร้อมภายในสิบวันแล้ว?
?สิบวัน....ปุบปับขนาดนั้น!?
?สบายใจเถอะ เพราะข้าขู่พวกปาชาฮ์ไปแล้วว่าต่อให้ปุบปับแค่ไหนก็จะไม่ปรานี ถ้าทำให้งานสำคัญของเจ้าออกมาห่วย มันจะต้องยิ่งใหญ่อลังการและมีทูตต่างแดนมาร่วมงานด้วย?
?ข้าไม่อยากให้จัดพิธีหรูหราแบบนั้น แค่ถูกเรียกว่าท่านฮาเซกิก็เกินพอแล้ว?
?ฮาเซกิเป็นแค่สมญานามของสนมเอก ถ้าเจ้าเป็นชายาข้า ก็เข้ามาอยู่ในราชวงศ์ได้ตามกฎหมาย จะไม่มีใครเรียกเจ้าว่าอดีตนางทาสอีกต่อไป?
?ข้าไม่ถือเพราะมันเป็นความจริง และถึงไม่ได้เป็นชายาของฟาลซาด ข้าก็มีความสุขพอแล้ว....?
?กิลบาฮาร์?
ฟาลซาดทำท่าจะตวาดว่า ?มีปัญหาอะไร!? เซซิลจึงชิงขอโทษก่อน
?ถ้าให้ข้าขึ้นเป็นจักรพรรดินี เอ่อ....พระราชชนนีจะกริ้วนะ?
?แน่อยู่แล้ว เพราะโอดาลิคที่ไม่อยู่ในอาณัตินางจะขึ้นเป็นจักรพรรดินี นางคงไม่สนุกด้วยอยู่แล้ว?
ฟาลซาดกอดอกทำหน้าเหมือน ?นึกว่าห่วงเรื่องอะไร?
แม้จะจำไม่ได้ แต่ดูเหมือนเซซิลจะอยู่โดลมาบาชเช่แห่งนี้มาตลอดหลังขึ้นมาอยู่เคียงข้างฟาลซาด จึงไม่เคยพบพระราชชนนี นายหญิงแห่งฮาเร็มเยนิซาเรย์
และฟาลซาดคงบอกว่า ?โชคดีแล้วที่ไม่เจอผู้หญิงพรรค์นั้น เพราะเจอทีไรข้าต้องกลั้นใจไม่ให้เงื้อดาบฟันทุกที?
?ถ้าห่วงเรื่องลอบสังหารก็ไม่ต้องกลัว เพราะข้าเพิ่มเวรยามให้แน่นหนาขึ้นแล้ว ไอ้พวกสามหาวไม่มีทางเข้ามาในวังนี้ได้อีกแน่?
ใช่ เท่าที่จำได้ เซซิลเจอมือสังหารสองครั้งแล้ว ครั้งแรกเป็นการลอบสังหารฟาลซาด ส่วนครั้งที่สองลอบสังหารตนเอง
แต่เซซิลไม่เข้าใจเรื่องที่แม่บังเกิดเกล้าสั่งฆ่าลูกในไส้เลย เขาเข้าใจความรู้สึกที่นางอยากกำจัดเสี้ยนหนามอย่างตนมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
?ไม่แน่หรอก....เวรยามในตำหนักสุลต่านก็แน่นหนามากอยู่แล้ว ต่อให้ระวังตัวแค่ไหนก็ต้องมีช่วงที่คนเราประมาท ถ้ามัวแต่ห่วงศัตรูภายนอก พวกมือสังหารก็แค่จ้องฉวยโอกาสช่วงนั้น และตราบใดที่ไม่เข้าไปอยู่ในกล่องเหล็กปิดตาย คงป้องกันมือสังหารไม่ได้หรอก?
?งั้นข้าทำห้องเหล็กให้เจ้าไหม เอาโซ่คล้องประตูไว้อย่างแน่นหนา ส่วนนางสนองพระโอษฐ์ก็คัดเลือกอย่างเข้มงวด?
?พูดเป็นเล่น! เข้าไปอยู่แบบนั้นก็อึดอัดแย่สิ ข้าไม่กลัวมือสังหาร แน่จริงก็เข้ามาเลย เพราะข้าจะไล่กลับไปเหมือนเดิม ข้าปกป้องตัวเองได้ และยังมีมือจับดาบด้วย?
เซซิลยิ้ม ฟาลซาดหรี่ตามอง
?ให้ตายสิ....เจ้ามันดีเกินไปที่จะเก็บไว้เป็นสนมในฮาเร็ม ว่าไง พอขึ้นเป็นจักรพรรดินีแล้วจะมานั่งว่าราชการแผ่นดินข้างๆ ข้าไหม??
?ฟังดูน่าสนุกนะ แต่รับรองว่าพระราชชนนีต้องกริ้วสุดๆ แน่?
พระราชชนนีรุ่นก่อนๆ เคยชักใยสุลต่านลูกในไส้และกุมบังเหียนประเทศนี้ตามใจชอบจากในฮาเร็ม แต่มันเป็นเพียงการบงการลับๆ ในฮาเร็ม ลึกๆ ในใจนางใฝ่ฝันอยากเป็นจักรพรรดินีที่นั่งเคียงข้างสุลต่าน จึงยิ่งเป็นการสร้างความเคียดแค้น
?ไม่ต้องไปเกรงใจผู้หญิงพรรค์นั้น ขึ้นไปนั่งเคียงข้างข้าอย่างสง่าผ่าเผยก็พอ?
?พูดอย่างนั้นได้อย่างไร? ท่านเป็นแม่ของฟาลซาดนะ?
?ข้าไม่มีแม่พรรค์นั้น! แค่ยืมท้องนางมาเกิดเฉยๆ ถ้าข้ามีสิทธิ์เลือกตอนยังเป็นไข่อยู่ คงเลือกไปเกิดกับคนอื่นแล้วล่ะ มิหนำซ้ำยังเกิดมาเป็นแม่ลูกคู่อาฆาต บางครั้งข้ายังคิดเลยว่าพระเจ้าเล่นตลก?
?ฟาลซาด....?
ถ้าเซซิลเป็นหมอสอนศาสนาคงตำหนิคำพูดสามหาวนั้นว่า ?พระเจ้าไม่มีทางเล่นตลกกับมนุษย์!? แต่เขากลับทำหน้าเศร้าด้วยเหตุผลอื่น
?ข้าจะไม่บังคับให้พวกเจ้าญาติดีกัน แต่อย่างน้อยก็ช่วยเข้าใจความรู้สึกของพระราชชนนีหน่อย ข้าอยู่เป็นฮาเซกิแบบนี้ก็ดีแล้ว ถึงไม่ดันข้าขึ้นเป็นจักรพรรดินี....?
?ให้ข้าเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงคนนั้นเรอะ! ถ้าข้าทำตามความต้องการของนาง คงต้องสละราชสมบัติให้เซคิมน้องชายมานั่งหลังม่านอัญมณีสถานเดียว ไม่สิ เผลอๆ นางอาจอยากขึ้นไปนั่งเองก็ได้ อย่าว่าแต่เก้าอี้ข้างสุลต่านเลย?
ม่านอัญมณีที่ว่าคือกระโจมเหนือบัลลังก์สุลต่าน ซึ่งเป็นม่านร้อยลูกแก้วอัญมณี ในขณะที่อีกฟากของม่านสื่อถึงบัลลังก์สุลต่าน
?อีกอย่างหนึ่งนะ ต่อให้สละบัลลังก์แล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ยังเกลียดข้าอยู่ดี เหมือนที่ข้าเกลียดนางจนอยากฆ่า เพราะข้าขวางหูขวางตานางจึงส่งมือสังหารมาไม่หยุดหย่อน?
?........?
เซซิลถอนหายใจเฮือกใหญ่ เป็นแม่ลูกกันแท้ๆ ถ้ายอมพบกันครึ่งทางก็น่าจะมีทางออก หรือมันจะเป็นแค่ความหวังล้มๆ แล้งๆ?
?หรือเรื่องพระราชชนนีเป็นแค่ข้ออ้าง เจ้ามีเหตุผลอื่นที่ไม่อยากเป็นจักรพรรดินีรึ? อย่าบอกนะว่าเจ้าลืมผู้ชายคนนั้นไม่ลง?
?ผู้ชายคนนั้น??
?อัศวินจากทวีปตะวันตกไง?
คำนั้นคำเดียวทำให้ภาพย้อนกลับมา ชายชุดดำ ใบหน้าคมสันดุดัน เจ้าของดวงตาสีท้องฟ้าก่อนย่ำรุ่งที่เพียงจ้องมองก็เหมือนถูกดึงดูดเข้าไป
ทว่า เซซิลส่ายหน้าอย่างรุนแรงราวกับจะปฏิเสธหัวใจที่เต้นรัว
?พูดเป็นเล่น! เขาก็แค่ช่วยข้าจากมือสังหาร?
?แต่ตอนข้าวิ่งเข้าไปหา เจ้าเหมือนถูกชายคนนั้นต้อนจนมุม เขาทำอะไรเจ้ารึเปล่า??
?ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ!?
เซซิลขึ้นเสียงปฏิเสธเด็ดขาด
?ไม่เห็นต้องโมโหเลย?
?ก็เจ้าถามอยู่ได้ ที่สำคัญข้าจะปล่อยให้ทำได้ไง? ขืนทำเรื่องพรรค์นั้นข้าจะตบให้หน้าหันเลย!?
?น่ากลัวชะมัด? ฟาลซาดยักไหล่
ใครว่า ในความเป็นจริง อย่าว่าแต่ตบเลย เขาถูกจูบต่างหาก....
....ทำไมตอนนั้นข้าถึงไม่หนีผู้ชายคนนั้นนะ?
ครั้งแรกเขาไม่ยอมให้จูบ แต่ครั้งที่สองกลับยินยอม แค่คิดถึงมันริมฝีปากก็ร้อนผ่าว หัวใจเต้นระรัว
เขาไม่กล้าบอกฟาลซาดอยู่แล้ว ถ้าฟาลซาดรู้ความจริง ชายคนนั้นคงถูกฟันตายคาที่อยู่ตรงนั้น และถ้าเซซิลเล่าให้ฟังตามตรงตอนนี้ ฟาลซาดคงโกรธจัดและสั่งให้ตามล่าชายคนนั้นทั่วนาเซลดารานอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาไม่มีหน้าที่ต้องปกป้องชายคนนั้น แน่นอนว่าเขาสงสารที่อีกฝ่ายจะถูกประหารเพียงเพราะริมฝีปากสัมผัสกัน ชายน่าสงสารที่อาจทำแบบนั้นเพราะฟั่นเฟือนระหว่างตามหาคนสำคัญที่หายตัวไป
ไม่สิ มันเป็นแค่ข้ออ้างให้ตัวเขาเอง ตัวเองที่ไม่กล้าปฏิเสธชายคนนั้นและไม่กล้าบอกความจริงกับฟาลซาด....
จูบเร่าร้อนในตอนนั้นย้อนกลับมา เซซิลรู้สึกเหมือนริมฝีปากที่กระตุกอยู่นี้รู้คำตอบดี จึงแอบใช้ปลายนิ้วแตะมันโดยไม่ให้ฟาลซาดที่อยู่ข้างๆ รู้ตัว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จู่ๆ สุลต่านฟาลซาดก็ประกาศว่า ?ข้าจะแต่งตั้งฮาเซกิเป็นชายาสุลต่าน? ทำให้เซซิลได้ขึ้นเป็นชายาตามกฎหมายทั้งที่ยังสูญเสียความทรงจำ แต่เซซิลไม่สามารถลืมออสการ์...อัศวินปริศนาที่เรียกตนเป็นภรรยาพร้อมยัดเยียดจูบให้ ขณะที่พระราชชนนีผู้กระหายอำนาจยังคงวางกับดักฆ่าฟาลซาดกับเซซิลต่อไปโดยมีอาร์มองคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง...เรื่องราวโรแมนซ์ยิ่งใหญ่สุดระทึก เล่ม 7 !!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”