บนเรือสำราญ ที่คราคร่ำไปด้วยบุคคลดังๆ ชั้นแนวหน้าของประเทศรวมถึงบุคคลสำคัญอีกมากหน้าหลายตา ต่างหันไปพูดคุยกันในเรื่องสัพเพเหระทั่วไป อาจมีบางกลุ่มที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเมืองการปกครอง และอีกจำนวนไม่น้อยที่นั่งแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อการร่วมลงทุน หากมุมหนึ่งของบนเรือสำราญขนาดใหญ่จุคนได้เกือบสามพันคนลำนี้ มีบุรุษหนุ่มผู้ไม่ได้ใคร่อยากจะเสวนากับใครหน้าไหนทั้งนั้นนั่งนิ่งเป็นท่อนไม้อยู่เงียบๆ ดวงตาคมกริบสีอำพันกวาดมองไปทั่วแล้วเบ้ปากนิดๆ เชิงเบื่อหน่าย
ริคคาโด เดลลีโน นักธุรกิจหนุ่มเชื้อชาติอิตาเลียนวัยสามสิบสามปี เจ้าของกิจการโรงแรมชื่อดังในอิตาลี ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าราวเทพบุตร หากดวงตากลับว่างเปล่าและไร้ความรู้สึกไม่ต่างจากท่าทางนิ่งขรึมจนดูเย่อหยิ่งถือตัว แว่นตาสีดำที่สวมเสริมให้เขาดูเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา บ่งบอกว่าขอกันตัวเองห่างความวุ่นวายจากบุคคลภายนอกโดยสิ้นเชิง มือหนาควงแก้วเหล้าไปมาเบาๆ ทำให้น้ำสีอำพันถูกเหวี่ยงกระทบกับผนังแก้วไปทางซ้ายทีขวาที คลอกับเสียงเพลงบรรเลงที่ดังแว่วอยู่ข้างหู ดวงตาคู่คมภายใต้กรอบแว่นเหลือบไปมองทางผู้คนเบื้องหน้าด้วยความเซ็งจัด เป็นช่วงจังหวะเดียวกับที่ลมเย็นจากท้องทะเลกว้างพัดมาปะทะใบหน้าจนรู้สึกชาดิกไปทั้งแถบ ชายหนุ่มจึงขยับกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง อกผายไหล่ผึ่งภายใต้สูทเนื้อดีราคาแพง ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นก็หันไปพยักหน้าเบาๆ กับคนติดตามที่ยืนนิ่งอยู่เยื้องออกไป
ทันทีที่ขาเพรียวยาวก้าวไปตามทางเดิน เสียงซุบซิบก็ดังตามหลังตลอดและส่วนใหญ่มาจากปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีสวยของอิสตรี ที่จับใจความได้ก็ล้วนแต่เป็นคำชื่นชมทั้งสิ้น ริคคาโดจึงหยุดเดินแล้วเบี่ยงไหล่พร้อมกับหันหน้าไปมอง ดวงตาสีอำพันใต้กรอบแว่นสีดำตวัดมองไปตามรายบุคคล ท่าทีคล้ายสนใจจนสาวงามทั้งหลายเสนอหน้าปั้นยิ้มหวานเฉ่งให้ หากชั่วนาทีคนหล่อกลับเหยียดมุมปากออกแล้วหมุนตัวเดินตรงดิ่งจากไปอย่างไม่ไยดี ทิ้งให้สาวงามต่างยิ้มเก้อก่อนที่เจ้าหล่อนเหล่านั้นจะสะบัดหน้าให้อย่างเคืองๆ
ริคคาโดเดินย่ำเท้ามาจนถึงทางแยกเพื่อจะไปยังห้องพักของตน แต่ก็ต้องหยุดชะงักแล้วคอยท่าทักทายกับใครบางคนที่เดินส่ายหัวมาแต่ไกล มองปราดเดียวก็รู้ว่าดื่มมาไม่น้อย แต่ก็คงไม่ถึงขั้นเมามายจนไร้สติเพราะยังเดินมาถูกทางและตัวก็ยังตรงแน่ว
?ไปไหนมาล่ะเปเรซ? ริคคาโดเอ่ยปากทักคนหน้ายุ่งหัวฟูนิดๆ แล้วโคลงศีรษะไปมาอย่างระอา
เปเรซ เดลลีโน ชายหนุ่มหน้าตาดีวัยสามสิบสองปี ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องของริคคาโด เงยหน้าขึ้นมองยังคนถามแล้วเบ้ปากใส่ แล้วจึงถอยไปยืนพิงผนังเรือด้านข้างพลางทำหน้าไม่ค่อยจะสบายเนื้อสบายตัวเท่าไร มือหนาจัดการปลดกระดุมเสื้อที่คอออกสามเม็ด หอบหายใจเหมือนเพิ่งไปวิ่งแข่งกับใครมา
?คืนนี้นายจะไปร่วมการประมูลของที่ห้องจัดเลี้ยงหรือเปล่า?
ด้วยว่าอายุห่างกันไม่กี่เดือนนั้นทำให้เปเรซไม่เคยจะเรียกริคคาโดว่าพี่สักครั้ง แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร เพราะทั้งสองเติบโตมาด้วยกันจนเรียกว่าเห็นเป็นเพื่อนมากกว่าพี่น้องด้วยซ้ำ
?มีอะไรน่าประมูลกัน? ริคคาโดถอดแว่นออกแล้วเอามาเสียบไว้ที่กระเป๋าเสื้อ ก่อนสบตากับเปเรซจังๆ อย่างค้นหาและอยากรู้ว่าอีกฝ่ายคิดทำอะไรกับเรื่องประมูล เนื่องจากคนอย่างเปเรซไม่เคยใส่ใจกับเรื่องแบบนี้เท่าไร
?หลายอย่าง แต่ที่น่าสนใจคืออัญมณีสวยๆ ก็เอาน่า อยู่บนนี้มันก็ไม่เห็นมีอะไรเท่าไร เครื่องเล่นอะไรสนุกๆ ก็จัดมาหมดล่ะ หาประมูลเพชรนิลจินดาหน่อยจะเป็นไรไป?
?จะประมูลไปให้ใครกัน ลูกเมียก็ไม่มี อ้อ! แม่อาจชอบ นายก็ยื่นประมูลไปสิ พอวันเกิดท่านก็มอบของที่ว่าเป็นของขวัญ เพราะฉันเตรียมของขวัญให้คุณนายเดลลีโนไว้แล้ว?
?อะไรคือของขวัญล่ะ ว่าที่สะใภ้อย่างที่คุณนายเดลลีโนต้องการหรือเปล่า? เปเรซพูดออกไปด้วยความคะนองปาก ไม่ได้คิดจะใส่ใจว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบไหน แล้วพลันให้สะดุ้งโหยงกับน้ำเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมใบหน้าที่ตึงจนแทบแตกออกจากกัน
?หุบปากของแกไปเลยเปเรซ แล้วอย่ามาพูดเรื่องนี้อีกนะ? ริคคาโดโมโหจนเลือดขึ้นหน้า สรรพนามที่ใช้เรียกก็เปลี่ยนจาก ?นาย? เป็น ?แก? ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติเวลาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโมโหมากๆ และตอนนี้ริคคาโดก็โกรธมากด้วย มากพอที่จะเข้าไปขย้ำคอคนพูดได้เลยด้วยซ้ำ
ทางด้านเปเรซนั้นแค่ตกใจกับท่าทีของอีกฝ่ายแต่ไม่ได้กลัวจนลนลาน เขายังคงทำหน้ามึนและทำหูทวนลมกับคำสั่งเด็ดขาด แม้ว่าบอดี้การ์ดคนสนิทของริคคาโดจะพยายามส่งสัญญาณปรามแกมขอร้องก็ตาม
?ผู้หญิงคนนั้นสวยมากนะริค นายคงได้เห็นแล้ว? ขณะที่พูดก็ปรายตามองไปดูอะไรด้านข้าง เขาไม่อยากสบตากับคนเจ้าอารมณ์แบบจังๆ ต่อให้กล้าบ้าบิ่นแค่ไหน ทว่าทุกอย่างก็ใช่จะเป็นอย่างที่คาดการณ์เสมอไป เมื่อริคคาโดไม่ได้มีท่าทีฉุนเฉียวแต่เอนหลังไปพิงกับผนังเรือพลางถอนหายใจออกมาราวกับกลุ้มจัด
?สวยแล้วไง ฉันไม่ถูกใจ และไม่อยากจะเอาหล่อนมาทำเมียด้วย แกอยากได้ก็ขอจากแม่สิ?
เปเรซยกมือขึ้นโบกทันทีทันใดพร้อมกับทำหน้าเบ้ปากเบี้ยว ก่อนโพล่งคำปฏิเสธออกมาอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด ?ไม่เอาว่ะ ฉันไม่ชอบให้ใครหาให้ ฉันอยากหาเองมากกว่า? คนเกือบซวยเรื่องการถูกจับมัดมือชกขยับตัวห่างจากญาติผู้พี่ไปสามก้าวสั้นๆ สีหน้ายังดูหวาดผวากับคำแนะนำของอีกฝ่ายไม่หาย
?งั้นแกก็เงียบปากไปซะ ฉันจะไปพักผ่อนสักหน่อย แล้วไม่ต้องไปก่อกวนล่ะ เพราะฉันไม่ไปร่วมประมูลหรือสังสรรค์กับใครทั้งนั้น? ริคคาโดไม่พูดเปล่าหากยังยกนิ้วชี้หน้าญาติผู้น้องเพื่อเป็นการยืนยันว่าหากมีใครไปวุ่นวาย ไอ้คนนั้นมันอาจตายโดยที่ศพไม่สวยเท่าไร ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวตรงไปยังห้องพักของตนเอง ทิ้งให้เปเรซมองตามพลางโคลงศีรษะไปมาด้วยความระอา
?หยิ่งฉิบ ในหัวของมันถ้าไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ ชาตินี้ใครก็อย่าหวังมายุ่งด้วยสินะ? เปเรซบ่นอย่างหัวเสีย พร้อมเข่นเขี้ยวคนที่เดินจากไปด้วยเลยทีเดียว แม้จะคุ้นเคยดีกับนิสัยไม่เอาใครและหยิ่งยโสของริคคาโด หากนานวันเข้าก็เริ่มจะนึกหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่นั่นแหละมันก็เข้ากับสโลแกนที่ว่าหล่อรวยช่วยไม่ได้
****************************************
ริคคาโดเดินมาจนเกือบจะถึงห้องพักอยู่แล้ว แต่ก็ดันต้องมาหยุดชะงักเมื่อหูของเขาแว่วได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิงผสมกระแสสะอื้นอย่างน่าเวทนา หากแต่ใครเล่าจะมานั่งคร่ำครวญอยู่แถวนี้ ชายหนุ่มจึงหันไปมองทางบอดี้การ์ดซึ่งก็รู้หน้าที่ของตนเองดี ส่วนหนึ่งรีบเดินไปตรวจสอบยังซอกมุมต่างๆ แต่ก้าวไปยังไม่ถึงต้นตอด้วยซ้ำ ร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งก็พุ่งพรวดออกมาจากมุมมืดทางด้านหลังของริคคาโดพร้อมกับที่มือนุ่มนิ่มคว้าหมับเข้าที่แขนกำยำแล้วเขย่าอย่างแรง
?เฮ้ย!? คนที่ถูกประชิดตัวในระยะที่ว่าถ้าเป็นศัตรูอาจไม่รอดร้องขึ้นเสียงหลงพร้อมกับสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ก่อนจ้องเขม็งยังเรือนร่างบอบบางที่แต่งตัวได้น่าลากเข้าห้องด้วยสายตาดูแคลน ไม่บอกก็รู้ว่าคงเป็นผู้หญิงขายตัวที่ประจำอยู่บนเรือสำราญลำนี้ หากแต่ใบหน้าสวยหวานนั้นกลับเรียกให้คิ้วสีน้ำตาลเข้มขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจ ก็ไอ้หยดน้ำที่ไหลพรากกลบเครื่องสำอางบนหน้าเธอนั่นปะไร
?ชะ...ช่วยฉันด้วยค่ะ ขอร้องล่ะนะคะ ได้โปรดช่วยฉันด้วย? เจ้าของเสียงหวานละล่ำละลักขอความเมตตาอย่างน่าเวทนา น้ำตาของเธอไหลอาบสองแก้ม
?ไม่ต้อง? ริคคาโดยกมือขึ้นห้ามบอดี้การ์ดที่ตรงปี่เข้ามาเพื่อจะลากตัวหญิงสาวนิรนามนั้นออกไป ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับสาวสวยที่ยืนสะอื้นไห้ไม่หยุด นึกแปลกใจและไม่วางใจไปพร้อมกัน ชายหนุ่มถอยห่างจากร่างบางไปพอควร ทิ้งระยะไว้สำหรับที่ใครจะเข้าจู่โจมเขาไม่ได้
?ได้โปรดเถอะค่ะมิสเตอร์?
?ช่วยอะไร? ริคคาโดถามเสียงเย็น ขณะกวาดตามองเจ้าของร่างบอบบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ในความคิดของเขาผู้หญิงคนนี้จัดว่าสวยมาก แต่นั่นแหละเมื่อเขายังไม่ได้รู้ประวัติของเธอจึงไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวด้วย
?ฉันถูกพาตัวขึ้นมาที่เรือนี้ พวกนั้นจะนำตัวฉันขึ้นประมูลอะไรไม่รู้ ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันถูกหลอก คุณต้องช่วยฉันนะคะ ขอร้องล่ะ? หญิงสาววอนขอทั้งน้ำตา เธอแทบจะคุกเข่าลงไปกราบเท้าชายหนุ่มหล่อเหลาราวกับเทพบุตรเพื่อหวังขอความเห็นใจ ซึ่งในเวลานี้เธอไม่รู้หรอกว่าใครดีใครชั่ว เพียงขอว่าฟ้าจะเมตตาส่งคนมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากขุมนรกนี้เป็นพอ
?เรือนี่ไม่ใช่ใครก็ขึ้นมาง่ายๆ นะ ถ้าไม่เต็มใจใครเขาจะลากเธอขึ้นมา?
?ฉันถูกวางยาค่ะ?
?แล้วไม่ดีหรือไง หน้าตาอย่างเธอถ้าถูกนำขึ้นประมูลต้องได้หลายเชียวล่ะ? ไม่ใช่เพียงแต่พูด ริคคาโดยังใช้สายตามองพิจารณาหญิงสาวสวยตรงหน้าเหมือนจะประเมินราคาไปด้วยในตัว จากที่เห็นเอาแค่ผ่านๆ ก็ถือว่าหุ่นทรงใช้ได้และราคาไม่น่าตกต่ำ ยิ่งกับใบหน้าที่สวยหวานจนน่ากลืนกินนั้นยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าไม่ติดว่ากำลังหงุดหงิดเรื่องบางอย่างเขาอาจยอมลงทุนสู่ราคาด้วยอีกคน
?ไม่ๆๆ ได้โปรดเถอะค่ะ? มือเรียวเล็กยื่นไปคว้าท่อนแขนกำยำนั้นไว้แล้วเขย่าอย่างเช่นครั้งแรกพร้อมกับถ้อยคำวอนขออย่างน่าสงสาร น้ำตาของเธอไม่ได้เหือดแห้งลงไปเลยแต่กลับเพิ่มมากขึ้น
?รู้ไหมว่าผมไม่ได้เป็นคนใจดีมีเมตตา ไม่ใช่บาทหลวงที่คอยโปรดผู้คนที่ทุกข์ร้อน แต่ถ้าอยากให้ช่วยก็คง...ช่วยพาขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าน่ะ? ริคคาโดบอกเสียงเยาะ ตั้งใจพูดให้หญิงสาวสะอึกแล้วเลิกแสดงละครน้ำเน่าที่รำคาญตาเขาเสียที แต่เปล่าเลยเธอยังคงตีบทแตกและร้องไห้หนักกว่าเดิม ที่สำคัญเธอไม่ได้สนใจกับคำพูดของเขาสักนิด
?มิสเตอร์คะ ช่วยฉันด้วยเถอะ คุณดูมีอำนาจ มีอิทธิพล คุณต้องสามารถพาฉันขึ้นฝั่งและหนีรอดจากเดนมนุษย์นั้นได้แน่ ได้โปรดช่วยฉันเถอะค่ะ? หญิงสาวยังคงออกแรงเขย่าแขนของเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย และไม่กลัวว่าจะถูกสะบัดออกอย่างครั้งแรกด้วย เมื่อสัญชาตญาณบอกว่าเขาช่วยเธอได้แน่
ริคคาโดไม่ได้พูดอะไรต่อและไม่ได้มีท่าทีรังเกียจสัมผัสเล็กๆ จากมือนุ่มนิ่มนั้น ขณะเดียวกันก็มองพิจารณาหญิงสาวไปด้วย เส้นผมสีดำของเธอยาวถึงกลางหลังเช่นเดียวกับดวงตาที่ดำขลับฉายแววหวาดกลัวตลอดเวลา รูปร่างของเธอนั้นบอบบางน่าทะนุถนอมแต่ว่าสมส่วน แถมส่วนสำคัญแม่ให้มานั้นยังล้นเหลือ จนเผยเนินอกขาวผ่องพ้นขอบชุดแซกเกาะอกรัดรูปสีแดงขึ้นมาอย่างน่ามอง ดูเผินๆ ก็คนเชื้อชาติเอเซียทั่วไป หากแต่เพราะประโยคหนึ่งที่เจือมากับเสียงสะอื้นทำให้รู้ว่าเธอเป็นคนไทยอย่างแน่นอน
?เธอเป็นคนไทยสินะ ฉันฟังภาษาไทยออกบ้างและเมื่อกี้เธอเรียกหายายของเธอ ยายเธอก็มาด้วยงั้นเหรอ? เขาถาม แต่เธอส่ายหน้าไปมา
?โดนหลอกมาขายว่างั้น?
คราวนี้หญิงสาวเอาแต่อ้ำอึ้งคล้ายกับว่ากำลังคิดทบทวนก่อนตอบ สุดท้ายเธอก็พยักหน้ารับแล้วก็ร้องไห้เหมือนเด็กน้อยๆ ที่น่าสงสาร แต่ริคคาโดกลับไม่มีถึงความรู้สึกนั้น เขามองเธออย่างจับผิดและไม่คิดเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น เขาว่าผู้หญิงมีมารยาสารพัดรูปแบบ ไอ้ที่ทำเป็นถูกหลอก แสดงท่าทีว่าตัวเองบริสุทธิ์งดงาม ความจริงเป็นนางนกต่อก็มีถมไป
?บอกให้นะ ทางรอดของเธอมีทางเดียว คือพาเรือนร่างสวยโสภาของเธอก้าวขึ้นเวที โปรยยิ้มทรงเสน่ห์ให้ไอ้พวกกลัดมันทั้งหลายเพื่อให้ประมูลตัวเธอไป จากนั้นเธอก็หาทางรอดเอาเอง เพราะเท่ากับว่าคนที่พาตัวเธอมาจะไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวกับเธออีกแล้ว? ริคคาโดแนะนำอย่างมีน้ำใจ ทว่าประโยคเหล่านั้นเสมือนเป็นคมมีดที่กรีดลงกลางร่างของหญิงสาว เธอสะอื้นไห้ออกมาเบาๆ แล้วเงยหน้ามองเจ้าของร่างสูงใหญ่อย่างเต็มตาเป็นครั้งแรก ดวงตากลมโตดำขลับจ้องเขม็งไม่มีความหวาดหวั่นหรือเขินอายต่อนัยน์ตาสีอำพันที่เจือความเร่าร้อนอย่างน่าพิศวง
?งั้นคุณก็ประมูลฉันสิ? ริมฝีปากสีกุหลาบเม้มแน่นหลังพูดจบ ก่อนเฝ้ามองปฏิกิริยาจากอีกฝ่ายอย่างลุ้นระทึก
?แล้วฉันจะได้อะไรล่ะ? คนถูกขอร้องยิ้มเหยียดๆ ที่มุมปาก มือหนายกขึ้นมาจับที่ข้อมือเล็กไว้แน่นแล้วดึงออกเบาๆ ก่อนใช้ความไวตวัดร่างบอบบางเข้าสู่อ้อมแขนโดยที่สาวเจ้าไม่ทันได้ตั้งตัว
?คุณ!?
?ขอทดสอบก่อนว่าเธอน่าประมูลหรือเปล่า? กล่าวจบจมูกกับปากที่ไวปานจรวดก็ฉกวูบแนบชิดกับพวงแก้มนุ่มของหญิงสาวในอ้อมแขนโดยไม่คิดจะเกรงใจผู้เป็นเจ้าของ ก่อนจะปล่อยตัวเธอเป็นอิสระแล้วหมุนกายเดินจากไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งให้คนถูกเอาเปรียบยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก เพราะกว่าจะสำนึกได้ว่าถูกชายหนุ่มพรากเอาความหอมจากแก้มนุ่มไป บริเวณนั้นก็เหลือแต่เธอเพียงคนเดียว ส่วนตัวต้นเหตุและพรรคพวกนั้นเดินหายไปไหนแล้วไม่ทราบได้
?ฉันจะทำยังไงดี ยายจ๋าบัวจะไปพึ่งใครดี น้าเกดทำไมทำกับบัวแบบนี้?
เสียงคร่ำครวญพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาไม่ขาดสายยิ่งทำให้ใบหน้าที่ตกแต่งมาอย่างดีเปรอะเปื้อน หากแต่ในเวลานี้เธอหรือจะใส่ใจ เมื่อหนทางข้างหน้ามันเต็มไปความอัปยศอดสู ไม่มีใครเมตตายื่นมือเข้าช่วย ไม่มีใครมองเห็นถึงสิ่งที่เธอกำลังเผชิญ ทุกคนบนเรือลำนี้ต่างเห็นแก่ผลประโยชน์และมองความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องไกลตัว มนุษย์ทุกวันนี้ช่างไร้ซึ่งหัวใจโดยเฉพาะกับผู้ชายคนนั้น เขาไร้น้ำใจไม่พอยังเห็นผู้หญิงเป็นเพียงดอกหญ้าข้างทาง กล้าเอาเปรียบเธอซึ่งๆ หน้าโดยที่เธอไม่อาจต่อกรได้เลย นั่นทำให้เธอเจ็บแค้นใจยิ่งนักจนแทบอยากจะเดินไปต่อว่าหากทำได้ แต่ตอนนี้เรี่ยวแรงจะยืนยังไม่มี มันทดท้อและหมดสิ้นกำลังใจ สุดท้ายเธอก็จำต้องหมุนตัวแล้วเดินกลับไปทางเดิมอย่างคนสิ้นหวัง ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือของใครบางคนมากระชากแขนเธออย่างแรง
?มานี่? หญิงร่างท้วมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีน้ำเงินทั้งชุดพยายามฉุดกระชากแขนเรียวงามของสาวสวยรุ่นลูกไว้ สีหน้าของเธอเหมือนกับว่าโกรธเกรี้ยวใครมาเป็นร้อยชาติ
?ปล่อยฉันนะ ได้โปรด?
?อย่าทำรุนแรงเดี๋ยวของเสียหาย จัดการทำให้ผู้หญิงคนนี้สวยงามเหมือนเดิม ฉันให้เวลาครึ่งชั่วโมง เร็วเข้าเดี๋ยวไม่ทันขึ้นประมูล? หนุ่มใหญ่วัยกลางคนที่มาด้วยปรามเสียงเข้มและสั่งงานไปทีเดียว
?ได้ค่ะ?
?ปล่อยฉันนะ ไอ้ชั่ว ไอ้คนสารเลว นรกส่งมาเกิด ไอ้ชาติชั่ว? หญิงสาวผู้เคราะห์ร้อยพ่นคำผรุสวาทใส่ชายคนดังกล่าวอย่างไม่กลัวเกรง เธอพูดผสมกันไปทั้งภาษาไทยและภาษาอิตาลี ทว่าก็ไม่อาจหลุดพ้นจากการฉุดลากของผู้หญิงคนนั้น ที่สำคัญยังมีชายฉกรรจ์อีกสองที่เดินประกบ แม้จะร้องขอให้คนช่วยอย่างไรก็ไม่มีใครเหลียวแล
คล้อยหลังชายหญิงที่ลากตัวของเหยื่อผู้น่าสงสารไป ริคคาโดก็ขยับก้าวออกมาจากมุมหนึ่ง เขามองตามกลุ่มคนเหล่านั้นไปอย่างคิดหนัก ลมหายใจร้อนถูกพ่นออกมาติดกันอยู่หลายครั้ง เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องของใครแต่กับเธอคนนั้นคือกรณีพิเศษ เมื่อเธอถูกกระทำและเขาเองก็รู้สึกสงสารขึ้นมานิดหน่อย สาบานได้ว่าแค่นิดเดียวจริงๆ เพราะมีบางอย่างที่น่าสนใจกว่าและมันรวมอยู่ในการช่วยเหลือครั้งนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ริคคาโด? มหาเศรษฐีหนุ่ม ผู้ซึ่งทำทุกอย่างตามใจตัวเองได้โดยไม่มีข้อแม้ เว้นไว้แต่เพียงเรื่องเดียวที่มาดามใหญ่แห่งตระกูลสั่งไว้นั่นคือการมีภรรยาที่ดีพร้อม ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องยากหากแต่ความเป็นจริงการหาผู้หญิงที่ปรารถนาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่แล้ววันหนึ่งในเรือสำราญมีการประมูลที่ฮือฮาเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่อัญมณีหรือแพรพรรณราคาแพงหากแต่เป็น ?ผู้หญิง? และทันทีที่ริคคาโดได้สบตากับ ?บัวบุหลัน? สาวงามจากเมืองไทยเขาก็ตัดสินใจทันที สิบล้านคือราคาที่เขายื่นเสนอและไม่มีใครกล้าสู้ขณะที่บัวบุหลันดีใจคิดว่าเขาคงช่วยหล่อนไว้ เพราะหล่อนถูกหลอกมาขายแต่แล้วความหวังนั้นก็พังทลายเพราะริคคาโดมีแผนการแต่งงานหลอกๆ อยู่ในใจ
