New Release : พันธะซาตาน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : พันธะซาตาน

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1 รอยรักรอยอดีต

แสงตะวันแรกแห่งอรุณรุ่งส่องลอดคาคบไม้กระทบเกล็ดน้ำค้างบนดอกกาหลงสีขาวสะอาดให้ประกายเหลื่อมพรายสีรุ้ง ทำให้บรรยากาศโดยรอบของเรือนไม้สักทองดูงดงามประหนึ่งอยู่ในเมืองสวรรค์ หากแต่ความงามอันธรรมชาติสรรค์สร้างกลับถูกเมินจากร่างอรชรที่กำลังกระแทกส้นเท้าลงจากบันไดเรือน เสียงเอ็ดตะโรของนางดังขึ้นขณะหันไปทางบ่าวร่างเจ้าเนื้อซึ่งอยู่ในอาการกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามนางอยู่เบื้องหลังด้วยความร้อนรน
?เร็วสิ อีบวบ ชักช้าจริง ประเดี๋ยวข้าก็สั่งลงหวายเสียปะไร? เจ้าของร่างสั่นเทาก้าวเท้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงเอ็ดของนายสาว ด้วยรู้ดีว่าคุณหญิงดวงแขกำลังอยู่ในอารมณ์เยี่ยงใด แลผู้ที่จักต้องโดนฟาดหัวฟาดหางไปด้วยก็คงมิพ้นนางอีกนั่นล่ะ
?ข้าล่ะเกลียดอีแก่นั่นนัก ข้าเพิ่งแต่งเข้าเรือนมิทันไร สาระแนหาเมียเล็กๆ ให้ผัวข้าเสียแล้ว คอยดูฤทธิ์แม่บ้างก็แล้วกัน?
คนพูดเดินคล่องแคล่วแทบจะปลิวลม แต่นางบวบนี่สิน้ำหนักที่แบกไว้เรียกว่าพอๆ กับลูกช้างก็คงมิผิด เหงื่อเม็ดเล็กจึงผุดพรายบนใบหน้ากลมแป้น เจ้าของร่างเจ้าเนื้อชำเลืองมองนายสาวขณะลอบถอนใจ คุณหญิงดวงแขผิวพรรณผุดผาด ใบหน้ารึก็คมขำชวนมองมิมีส่วนพร่องแต่อย่างใด ทว่ากิริยาที่แสดงออกมาลับหลังคุณหลวงฉัตรผู้เป็นสามีอีกทั้งคนในเรือนของคุณหลวงนั้นช่างแผกต่างกับรูปลักษณ์ดุจฟ้ากับเหว
?เอ็งคอยดูเถอะ คุณหลวงจักมิยอมรับอีพิกุลให้มาอยู่เสมอด้วยข้าดอก ท่านทั้งรักทั้งหลงข้ายิ่งกว่าสิ่งใด เอ็งก็เห็นใช่รึไม่นังบวบ?
?แต่คุณหลวงฉัตรท่านมิเคยแตะต้องคุณเลยนี่เจ้าคะ? หลุดปากพูดไปตามประสาคนปากไวโดยมิทันได้คิดว่าหาสมควรไม่ หากแต่คนพูดก็รู้ชะตากรรมในทันทีว่าต้องเจอการลงทัณฑ์ประการใด ?ว๊าย ! ?
เสียงร้องด้วยความเจ็บปะปนไปด้วยความตกใจดังขึ้นพร้อมกับที่ร่างของนางช้างพังผงะหงายล้มลงกระแทกกับพื้นหญ้าหน้าเรือน เมื่อแรงมหาศาลจากฝ่าเท้าของคุณหญิงดวงแขกระทบอย่างจังเข้าที่สีข้างนางบวบ โจงกระเบนสีกลีบบัวของร่างอรชรเอื้อให้การลงโทษในลักษณาการเช่นนี้เป็นไปได้ง่ายดายนัก
ดวงหน้าผุดผาดอาบด้วยความกรุ่นโกรธ แรงโทสะยิ่งมากขึ้นเป็นทบทวียามนึกถึงใบหน้าคมงามของคุณหลวงฉัตร...คนใจร้าย ช่างใจร้ายกับนางเสียเหลือเกิน...หลังจากที่คุณหลวงฉัตรสูญเสียคุณหญิงจำเนียรภรรยาคนแรกทั้งที่เธอยังอยู่ในวัยสาว ด้วยสงสารบุตรชายผู้ใหญ่ทางฝ่ายคุณหลวงจึงจัดคนมาสู่ขอคุณหญิงดวงแข นางทำใจยอมรับได้ที่คุณหลวงยังไม่ลืมภรรยาคนแรก หากแต่นี่ก็ผ่านมาแรมเดือนแล้วที่มีนางเข้ามาอยู่ร่วมเรือน ทว่าคุณหญิงดวงแขยังมิได้สัมผัสอ้อมกอดซึ่งนางมั่นใจนักหนาว่าคงอบอุ่นอย่างที่สุดของผู้เป็นสามีเลยแม้เพียงน้อย
หากแต่ความน้อยเนื้อต่ำใจในตัวคุณหลวงฉัตรคงมิเท่าที่รู้สึกในเพลานี้ คุณหญิงดวงแขไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านหญิงอุ่นเรือนจึงอยากให้นางบ่าวพิกุลขึ้นตำแหน่งเมียอีกคนหนึ่งของหลานชาย เรื่องที่ท่านหญิงนำมาอ้างคือสามีของนางมีงานราชการมากนักซึ่งทำให้ต้องมีแขกมาเยี่ยมคารวะมากมาย กอปรกับพวกขุนนางในราชสำนักที่จะเข้ามาปรึกษาข้อราชการเป็นการส่วนตัวนั้นอาจนำมาซึ่งภาระอันใหญ่หลวงเมื่อต้องเตรียมพร้อมทุกอย่างในการรับรองคนเหล่านั้นมิให้ขาดตกบกพร่อง ท่านหญิงมั่นอกมั่นใจเสียนักว่านางบ่าวพิกุลจักช่วยแบ่งเบาในเรื่องนี้ได้ ดูก็รู้ว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ด้วยถ้อยคำอันแสนบาดหูในประโยคต่อมาคือท่านอยากได้เหลนอันเกิดจากคุณหลวงฉัตรก่อนจะสิ้นบุญไม่ว่าจะมาจากเมียคนใด
ส่วนในห้องนอนกว้างซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเรือนไม้สักขนาดกลาง ร่างผอมบางที่เป็นคนจุดไฟเผาหัวใจของคุณหญิงดวงแขในขณะนี้กำลังนอนทอดกายอยู่บนเตียงสี่เสา ม่านโปร่งบางสีขาวสะอาดถูกรวบไว้ทั้งสี่ด้าน ไม่นานนักท่านหญิงอุ่นเรือนก็ได้กลิ่นโชยชื่นของมะลิจากมาลัยกรองเมื่อเจ้าของผิวนวลละมุนดุจมะปรางสุกถือมาลัยสีสวยสดก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาก่อนที่จะคลานเข่าเนิบนาบเข้าใกล้เตียงของท่าน
?มาแล้วรึพิกุล? เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นเมื่อคนที่เรียกหาขยับเข้ามาด้วยกิริยาอันแช่มช้อย ดวงตาสีขุ่นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนขณะทอดมองร่างบอบบางซึ่งนั่งอยู่ที่พื้นกระดาน
เจ้าของดวงหน้าผุดผาดละม้ายจันทร์ฉายซึ่งมีนัยน์ตาสีน้ำผึ้งอันเปี่ยมไปด้วยความภักดีส่งยิ้มละไมให้ท่านหญิงก่อนที่จะยกพวงมาลัยขึ้นวางบนพานเหนือตั่งไม้ใกล้เตียงนอน
?บ่าวร้อยมาลัยเสร็จพอดีเจ้าค่ะ คุณท่านพอจะลุกไหวไหมเจ้าคะ?
?พิกุลเอาไปถวายพระเองเถิด ฉันคงลุกไปนั่งสวดมนต์มิไหวดอก? มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะบ่าวคนสนิท ?ที่ฉันถามเมื่อวันก่อน ได้เอาไปตรองดูแล้วรึไม่?
วงหน้าหวานซึ้งหมองลงในทันใดเมื่อได้ยินคำถามของท่านหญิงอุ่นเรือน พิกุลเป็นบุตรของบ่าวในเรือนซึ่งท่านเห็นมาตั้งแต่ยังมิได้โกนจุกจนบัดนี้โตเป็นสาวสะพรั่งแล้ว ไยท่านจักมิรู้ว่าเด็กสาวเป็นคนเช่นไร
หากเป็นเด็กสาวคนอื่นในเรือนคงจักดีใจจนเนื้อเต้นที่ถูกยกฐานะให้เป็นเมียบ่าวของพ่อฉัตร แต่พิกุลผิดแผกจากสาวรุ่นในวัยเดียวกันยิ่งนัก คำกล่าวที่ยิ่งเพิ่มพูนความเอ็นดูจากท่านเจ้าของเรือนคือนางบ่าวพิกุลเข้าใจดีว่าเมียเอกจักต้องทนเจ็บปวดกับการต้องแบ่งปันของรักกับสตรีคนอื่น นางจึงมิอยากเป็นสาเหตุให้คุณหญิงดวงแขต้องเสียน้ำตา ชั่วชีวิตของท่านหญิงอุ่นเรือนการได้เห็นผู้ชายมีเมียมากมิใช่เรื่องแปลกอันใด พระยาพินิจสามีของท่านก็มีเมียบ่าวมิใช่น้อย แม้กระนั้นความคิดของพิกุลก็เรียกความพึงพอใจจากท่านได้ไม่น้อยทีเดียว
การไปสู่ขอแม่ดวงแขมาเป็นภรรยาของพ่อฉัตรหลานชายของท่านหลังจากแม่จำเนียรภรรยาคนแรกของพ่อฉัตรเสียชีวิตนั้นท่านหญิงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง หากคุณไพลินลูกสะใภ้จะฟังกันสักนิดก็หาไม่ เรื่องภายในครอบครัวคุณพระพิทักษ์คนทั่วคลองบางกอกน้อยต่างร่ำลือกันอื้ออึงว่าบุตรชายคนโตของคุณพระพิทักษ์ติดการพนันอย่างหนัก สมบัติในบ้านถูกผลาญพร่าไปแทบไม่มีเหลือ หากแต่ยศหม่อมเจ้าของภรรยาทำให้ทั้งคู่ยังเป็นที่นับหน้าถือตา คนในราชสำนักยังคงไปมาหาสู่คุณพระพิทักษ์เพื่อหวังผลประโยชน์เกี่ยวเนื่องด้วยตำแหน่งในรั้วในวังอยู่
ท่านหญิงมิได้นึกรังเกียจที่ครอบครัวของดวงแขต้องประสบภาวะเยี่ยงนั้น แต่การที่พี่ชายของนางมาเยือนน้องสาวอยู่หลายคราสร้างความกังวลให้ท่านหญิงอยู่มิใช่น้อย เมื่อพวกบ่าวไพร่ต่างนินทากันหนาหูว่าพี่ชายของนางกลับไปพร้อมของมีค่าในเรือนหลายชิ้น...ท่านหญิงได้แต่หวังว่าหากพิกุลได้เข้าไปเป็นหูเป็นตาให้ในเรือนใหญ่ท่านก็คงเบาใจลงกว่าที่เป็นอยู่นี้
?พิกุลช่วยฉันหน่อยมิได้รึ สมบัติน่ะฉันมิได้ห่วงมากมายนักดอก ลงโลงไปก็แบกเอาไปมิได้ แต่ของบางอย่างคุณพระท่านหวงแหนนักหนาฉันก็อยากให้มันอยู่กับลูกหลานของตระกูล?
ดวงตาสีขุ่นฉายประกายวิงวอน คนที่ซบหน้าลงกับมือเหี่ยวย่นมีสีหน้าหนักใจอย่างยิ่ง หากนางเลือกที่จะแทนคุณด้วยการยินยอมในเรื่องที่ท่านขอร้องนี้ ผู้หญิงอีกคนคงต้องทนทุกข์เพราะการตัดสินใจของนางเป็นแน่
***

ณ บ้านเรือนไทยริมน้ำ ปีพุทธศักราช 2556
แสงสีทองของดวงตะวันพร่างพรมไปทั่วเรือนไม้สักทองกว้างขวางซึ่งในบัดนี้ดูแคบลงถนัดตาเมื่อเจ้าของเรือนใช้เป็นสถานที่จัดงานมงคลสมรสสำหรับพิธีในช่วงเช้า ใบหน้าของคุณนันทกาอาบไปด้วยความอิ่มเอมขณะกวาดตามองความไม่มีที่ติของพิธีการซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แม่งานอย่างนางเป็นนักหนา บรรยากาศงานมงคลถูกประดับด้วยเครื่องแขวนจากดอกมะลิตูมร้อยเป็นสายระย้าส่งกลิ่นหอมเย็นชื่นให้กับบรรดาแขกที่มาร่วมงาน มองเลยไปยังชานเรือนกว้างพรมสีแดงที่ถูกปูบนพื้นสวยเด่นตาด้วยสีทองอร่ามของพานขันหมาก ใบตองสีเขียวเย็บจับจีบตัดกับสีขาวลออของมาลัยดอกรักถูกจัดไว้อย่างบรรจงบนพานอันมีขนมมงคลสีสวยสดวางเรียงรายอยู่เคียงข้าง
ความสุขใจซึ่งฉาบไว้ในดวงตาเพิ่มพูนมากขึ้นเมื่อคุณนันทกาชำเลืองแลไปที่ร่างสูงใหญ่ของดอกเตอร์ปุลวัชรว่าที่ลูกเขยในชุดราชปะแตนกับโจงกระเบนสีเข้ม นัยน์ตาคมโตดำขลับเปี่ยมไปด้วยความสุขุมลุ่มลึก จมูกโด่งคมสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบสีแดงสด ยิ่งพิศยิ่งหล่อเหลาช่างสวยสมกับลูกสาวของนางเสียเหลือเกิน ทว่าเพียงมินานใบหน้ายิ้มแย้มของคุณนันทกาก็ต้องมีอันสะดุดเมื่อทอดสายตาไปยังดวงหน้าติดจะบึ้งของเจ้าสาว
?ยัยนิด เห็นแก่หน้าแม่หน่อยสิลูก ยิ้มให้แขกเหรื่อบ้างไม่ได้เชียวหรือพวกเขาอุตส่าห์สละเวลาอันมีค่ามาในงานของเรานะจ๊ะ?
คุณนันทกาขยับเข้ากระซิบบุตรสาวซึ่งอยู่ในชุดไทยบรมพิมาน ผ้าไหมสีขาวงาช้างช่วยขับให้ผิวขาวอมชมพูดูงามลออมากยิ่งขึ้น โครงหน้าหวานรูปไข่เด่นชัดเมื่อผมถูกรวบเป็นมวยต่ำรัดเกล้าด้วยมาลัยดอกพุดสีขาว ดวงตากลมโตสีน้ำผึ้งช้อนขึ้นมองมารดาขณะที่ริมฝีปากบางสีชมพูเม้มแน่นอย่างขัดใจ
?คุณแม่ขา นี่นิดก็พยายามยิ้มอยู่นะคะ?
?มันเหมือนยิ้มตรงไหนกัน แม่ว่าเหมือนแยกเขี้ยวใส่เจ้าบ่าวซะมากกว่า?
?คุณแม่จะยอมให้นิดแยกเขี้ยวใส่เจ้าบ่าว หรือจะให้นิดเอาปืนมากระหน่ำยิงเขาล่ะคะ คุณแม่ก็รู้ว่านิดไม่เต็มใจจะแต่งงาน?
มือผอมบางยกขึ้นตะปบเรียวปากสีหวานของบุตรสาวในทันทีขณะปรายตาไปยังบรรดาแขกเหรื่อในงาน และร่างสูงใหญ่ของดอกเตอร์ปุลวัชรที่ยืนอยู่ห่างจากเจ้าสาวไม่ถึงวา
?เอาล่ะหนูอยากจะแยกเขี้ยวก็เชิญตามสบาย แสยะให้กว้างไปถึงฟันกราม เอาให้เห็นไปถึงหน้าปากซอยเลยก็ได้นะลูก ทูนหัวของแม่?
ผู้เป็นมารดายังไม่วายประชด ดูเหมือนลูกสาวที่น่ารักช่างอ้อนของนางจะอันตรธานหายไปเสียนานแล้วตั้งแต่วันที่ถูกขอร้องแกมบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน
จริงอยู่ที่ธัญพิมลได้เจอดอกเตอร์ปุลวัชรเพียงไม่กี่วันก่อนพิธีแต่งงานจะถูกจัดขึ้น แต่คุณนันทกาได้พบว่าที่ลูกเขยคนนี้มานานแล้ว และคาดหวังให้เขามาอยู่ในตำแหน่งลูกเขยทันทีที่รู้ว่าเขาจะเดินทางไปเรียนต่อปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกาเสียด้วยซ้ำ
เมื่อเขาได้คำว่าดอกเตอร์มานำหน้าชื่อก็พอดีกับที่บุตรสาวของคุณนันทกาเรียนจบปริญญาตรี และด้วยเหตุที่คุณพรรณรายมารดาของชายหนุ่มอยู่ในรายชื่อลูกหนี้อันดับต้นๆ ของคุณนันทกาจึงเป็นเรื่องง่ายดายอย่างยิ่งที่จะสานฝันให้เป็นจริง ส่วนการทำให้ลูกสาวยอมแต่งงานกับดอกเตอร์ปุลวัชรก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เพียงยานอนหลับขนาดหนึ่งกำมือกับการเสียน้ำตาไม่กี่หยดขณะคร่ำครวญว่าอยากตายเพราะลูกไม่รัก แค่จะหาลูกเขยที่ท่านคิดว่าจะฝากผีฝากไข้ได้ลูกสาวก็ทำราวกับท่านทำความผิดร้ายแรง...แค่นี้ก็ทำปั้นปึ่งโมโหโทโสใส่ท่าน ประโยคสุดท้ายคือท่านเริ่มรู้ชะตากรรมแล้วว่าอีกไม่นานคงต้องระเห็จไปอยู่บ้านพักคนชรา
เมื่อมารยาของ ?คนชรา? ใช้ได้ผลวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง รอยแย้มยิ้มกว้างขวางประดับบนใบหน้าของมารดาเจ้าสาวขณะแขกเหรื่อทยอยกันเข้ามารดน้ำสังข์อวยพรให้คู่สมรส กว่าพิธีรดน้ำจะเสร็จสิ้นก็กินเวลายาวนานทีเดียว คู่บ่าวสาวมีเวลาพักหนึ่งชั่วโมงก่อนการเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงฉลองที่โรงแรมหรูในตอนค่ำ
หลังจากได้เวลาพักธัญพิมลรีบก้าวลงจากเรือนในทันที ร่างบอบบางในชุดไทยโบราณวิ่งตรงรี่ไปยังศาลาริมน้ำ เพียงแค่ได้เห็นเสี้ยวหน้าที่หันมาของโอบกิติ หญิงสาวก็โผเข้าซบไหล่กว้าง สีหน้าของเธอคล้ายคนจมน้ำกำลังไขว่คว้าหาที่พึ่ง
?พอแล้วยัยนิด ตัวเล่นรัดเราแน่นแบบนี้ เดี๋ยวกะเทยจะถูกเจ้าบ่าวกระทืบก็วันนี้ล่ะ?
หญิงสาวส่งค้อนให้ร่างสูงที่กำลังส่งเสียงวิ้งๆ ใส่เธอ ท่าทางจีบปากจีบคอของคนพูดช่างขัดกับรูปลักษณ์ที่ปรากฏต่อหน้าในขณะนี้โดยสิ้นเชิง โอบกิติมีมารดาเป็นหม่อมหลวงจึงไม่น่าแปลกที่เขาพยายามรักษาภาพพจน์บุตรชายคนโตของตระกูลผู้เพียบพร้อมทั้งคุณสมบัติและรูปสมบัติไว้ได้อย่างไม่มีที่ติ กิริยาที่ค่อนไปทางหญิงมากกว่าชายจึงไม่มีทางถูกเผยออกมาต่อหน้าครอบครัวและบรรดาญาติผู้สูงศักดิ์ยกเว้นเพื่อนสนิทอย่างธัญพิมล
?โอบไม่รู้หรอกว่าเราอึดอัดแค่ไหน?
?ตัวไม่อยากแต่งก็ยกเจ้าบ่าวให้เราก็ได้นะ ไม่รู้จริงๆ หรือว่าตัวน่ะโชคดีขนาดไหน...สาวๆ ในงานนั่งกลืนน้ำลายคนละเอื๊อกสองเอื๊อก ดอกเตอร์ปุลวัชรไม่ได้มีดีแค่สมองนะยะ เจ้าบ่าวของตัวน่ะน่ากินไปทั้งตัวเลยรู้ไหมยัยนิด?
ดวงตากลมโตสีน้ำผึ้งเหม่อมองออกไปยังผืนน้ำที่กำลังส่องประกายระยิบระยับล้อกับแสงแดด ไม่ใช่ว่าธัญพิมลจะมองไม่เห็นความหล่อเหลาของดอกเตอร์ปุลวัชร แต่น่าแปลกที่ความรู้สึกแรกเมื่อได้พบเขาคือ ?ความเกลียด? มันรุนแรงมากกว่าความชิงชังหลังจากรับรู้ว่าชายผู้นี้คือคนที่จะพรากอิสรภาพไปจากเธอ
บ่อยครั้งที่ธัญพิมลมักจะตื่นขึ้นมากลางดึกโดยมีน้ำตากลบดวงตาซึ่งมันมากับความเศร้าที่มีท่วมท้นใจ เหตุเพราะความฝัน...เธอเห็นเด็กสาวในแววตาโศกที่มีใบหน้าละม้ายตัวเองอย่างเหลือเกิน ภาพอันพร่าเลือนของเด็กสาวซึ่งอยู่ในชุดโจงกระเบนสีเปลือกมังคุดในอิริยาบถต่างๆ รวมถึงเสียงเรียกขานชื่อของหล่อนว่า ?พิกุล? ถูกถ่ายทอดผ่านห้วงฝันคืนแล้วคืนเล่าและมันเริ่มถี่ขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันวิวาห์ของเธอเอง
ในคราแรกที่ได้พบดอกเตอร์ปุลวัชร หญิงสาวถึงกับยืนตัวแข็งราวต้องคำสาปเมื่อเห็นภาพซ้อนทับของชายร่างสูงอีกคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าคล้ายกันกับเขาในชุดไทยโบราณ รู้สึกเจ็บยอกในอกยามตระหนักว่าเธอต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่กับคนที่เธอชิงชังเขานักหนา บางอย่างซึ่งเหมือนถูกฝังไว้ในดวงวิญญาณบอกกับธัญพิมลว่าชายผู้นี้เคยสร้างรอยเจ็บร้าวในใจซึ่งไม่มีวันอภัยให้ได้
?คุณนิด!?
เสียงทุ้มห้าวของดอกเตอร์ปุลวัชรทำลายภวังค์คิดของธัญพิมล ขณะนี้ร่างบอบบางยังคงอยู่ในอ้อมกอดของโอบกิตติ เจ้าของอกกว้างซึ่งมีใบหน้าผุดผาดของเจ้าสาวคนงามแนบชิดอยู่ผงะด้วยความตระหนก มือหนาพยายามดันร่างของเจ้าสาวในชุดไทยโบราณออกแต่ดูจะไร้ผลเมื่อธัญพิมลเบียดร่างเข้าหาชายหนุ่มราวจะแทรกตัวเข้าไปในอกกว้างของเขากระนั้น อารมณ์โทสะในแววตาของดอกเตอร์ปุลวัชรคล้ายอาหารอันโอชะของความเกลียดชังที่มีอยู่ในหัวใจ เธออยากทำทุกทางเพื่อให้เขาเจ็บปวด
?ยัยนิดขอร้องล่ะ เราไม่อยากถูกแบกออกไปจากงานแต่งของตัวโดยมีรอยบาทาของเจ้าบ่าวประทับอยู่บนหน้าหรอกนะ?
โอบกิติพยายามดันร่างเจ้าสาวออกด้วยอาการละมุนละม่อมพลางใช้สายตาวัดขนาดรองเท้าของร่างสูงใหญ่ที่กำมือแน่นจนเห็นสีเลือด คาดว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าใบหน้าของเขาคงดูไม่จืดจากหมัดและฝ่าเท้าของดอกเตอร์ปุลวัชร ทว่าธัญพิมลกลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิมด้วยประโยคที่โอบกิตติไม่คาดคิด
?กิตติขาาา ถึงแม้ตัวนิดจะอยู่กับคนอื่นแต่หัวใจของนิดจะอยู่กับคุณเสมอนะคะ ลูกของคุณที่อยู่ในท้อง...นิดสัญญาว่าจะดูแลแกอย่างดีที่สุด?
ชายหนุ่มอยากจะเขกหัวแม่ตัวดีซักโป๊กสองโป๊กที่ยัดเยียดบทพ่อของลูกในท้องให้ จะแกล้งเจ้าบ่าวก็ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังถึงผลที่จะตามมาเล้ย...แล้วเขาทำเป็นซะที่ไหนเล่า ?ลูก? น่ะ...ส่วนคนที่ ?ทำเป็น? ในตอนนี้ก็กำลังใช้สายตากระซวกเอากระซวกเอาจนขาของเขาสั่นไปหมดแล้ว
ดวงตาคู่คมของดอกเตอร์ปุลวัชรที่กำลังอยู่ในคลองจักษุของโอบกิติมีเปลวเพลิงอยู่เต็มเปี่ยม หากแต่เพียงพริบตาต่อมาแววตาคู่นั้นกลับเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งซึ่งคนมองรู้ดีว่าเจ้าตัวคงใช้ทั้งแรงกายและแรงใจอันมหาศาลเพื่อควบคุมอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน โอบกิติคิดว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของเจ้าบ่าว หากดอกเตอร์ปุลวัชรไม่ตั้งสติให้ดีคงจะฝ่ามรสุมชีวิตในครั้งนี้ไปไม่ได้
?ผมเดาว่าคุณแม่ของคุณคงไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหมคุณนิด เพราะถ้าท่านรู้งานในวันนี้คงจะไม่เกิดขึ้นหรอกใช่ไหมครับ?
น้ำเสียงสุขุมอย่างไม่น่าเชื่อหลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบของดอกเตอร์ปุลวัชรขณะเอื้อมมือออกไปกุมมือของเจ้าสาวซึ่งกำลังก้มหน้านิ่ง ชายหนุ่มใช้แรงเพียงนิดร่างบอบบางก็หลุดออกมาจากร่างสูงของโอบกิติ
?กลับเข้าไปในงานกับผมเถอะคุณนิด ถ้าคุณมีอาการแพ้ท้องก็บอกผม อาชวินเพื่อนผมเป็นหมอ คิดว่าเขาน่าจะช่วยเหลือคุณได้บ้าง?
?นี่คุณเสียสติไปแล้วหรือไง ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยเหรอที่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลูกของผู้ชายคนอื่นอยู่ในท้องเนี่ย?
ธัญพิมลตวาดแหวในระหว่างที่สะบัดมือออกทว่ามืออันใหญ่โตของชายหนุ่มบีบกระชับหนักแน่นจนยากจะสะบัดให้หลุดได้ เธอไม่อยากเห็นความเป็นสุภาพบุรุษที่เขากำลังแสดงในเวลานี้ แต่อยากเห็นความทุกข์ซึ่งดูเหมือนจะถูกเกลื่อนด้วยความสุขุมไม่แพ้น้ำเสียงที่กำลังเปล่งออกมา
?ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้เราสองคนคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว และถ้าคนแถวนี้มีความเป็นลูกผู้ชายพอจะรับผิดชอบลูกในท้องของคุณ เราสองคนก็คงไม่ต้องถูกผู้ใหญ่จับคลุมถุงชนแบบนี้หรอก ผมว่าคุณคิดถูกแล้วล่ะที่ไม่ฝากชีวิตไว้กับเขาเพราะลูกตัวเองเขายังไม่คิดจะดูแลเองเลย ถ้าอยู่กินกันไปอีกไม่นานก็คง...ขอโทษนะ คุณคงต้องไปถือกะลาขอทานเลี้ยงลูกกับสามี?
คนถูกกล่าวหาว่า ?จะให้เมียไปถือกะลาขอทานหาเลี้ยง? ได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ?โห แรงอ่ะ นั่นปากดอกเตอร์หรือปากไอ้ตูบยะ? ชายหนุ่มได้แต่บ่นอุบอิบอยู่ในใจพลางวาดสายตาเจือรอยตำหนิไปยังเพื่อนรักตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาโดนด่าฟรี และแม้จะรู้สึกเคืองใจอยู่บ้างแต่โอบกิติก็อดยินดีกับธัญพิมลไม่ได้
ท่าทีของเจ้าบ่าวที่แสดงออกมาเมื่อคิดว่าเจ้าสาวของเขาตั้งครรภ์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าบุรุษตรงหน้าเป็นคนที่น่านับถือเพียงไร เขามั่นใจว่าชายคนนี้จะสามารถปราบคุณหนูแสนพยศและช่างเอาแต่ใจอย่างธัญพิมลได้ แต่กว่าจะถึงเวลานั้นโอบกิติก็ไม่แน่ใจนักว่าดอกเตอร์ปุลวัชรจะหมดเรี่ยวแรงเสียก่อนจะผลิตทายาทให้คุณนันทกามารดาของแม่จอมดื้อนี่หรือไม่

กลิ่นดอกบุหงาส่าหรีโชยชื่นผ่านม่านโปร่งเข้ามาภายใน นิ้วเรียวแหวกผ้าลูกไม้ที่ริมหน้าต่างเพื่อให้ภาพเบื้องล่างชัดเจนขึ้น ดวงตากลมโตสีน้ำผึ้งของธัญพิมลเบิกกว้างเมื่อภายใต้แสงจันทร์สีเงินยวงคือร่างสูงใหญ่ของดอกเตอร์ปุลวัชรซึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ในอ้อมกอด
ภาพที่เห็นในสวนผ่านหน้าต่างห้องเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายอย่างมาก เธอและเขาต่างก็ไม่เต็มใจจะแต่งงานจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากดอกเตอร์ปุลวัชรจะมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ไม่น่าจะโหยหากันถึงขนาดหนีออกไปพลอดรักกันในคืนแต่งงานแบบนี้ ธัญพิมลโมโหอย่างมากเมื่อคิดไปว่าชายหนุ่มอาจอยากยกตำแหน่งเมียที่ไม่มีสมองให้เธอเพื่อเขาจะได้ดูดเงินไปให้คนรักเก่าก็เป็นได้
ลมพัดโชยกลิ่นบุหงาส่าหรีให้ได้สัมผัสความหอมแรงกว่าเดิมเมื่อเจ้าของร่างบอบบางเดินลงมายังสวนหน้าบ้าน คงเป็นเพราะความโกรธที่ทำให้เท้าก้าวรวดเร็วออกจากห้องและในตอนนี้เธอยืนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ห่างออกมาเพียงไม่กี่เมตรจากดอกเตอร์ปุลวัชรและหญิงสาวอีกคนซึ่งผละออกมาจากอ้อมกอดของชายหนุ่มแล้ว...
หัวใจของธัญพิมลกำลังเต้นแรงกับภาพตรงหน้า ใจหนึ่งบอกให้เธอปรากฏตัวให้ทั้งสองเห็น แต่อีกใจสั่งให้ตัวเองกลับขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบนเพราะไม่ต้องการให้ชายหนุ่มคิดว่าเธอหึงหวงเขา หากแต่การถอยหลังกลับทำให้เท้าก้าวพลาดไปเหยียบกิ่งไม้แห้งจนเกิดเสียงดัง ในจังหวะที่คนกำลังก้าวถอยหลังเงยหน้าขึ้นก็สบกับดวงตาคู่คมของเจ้าของร่างสูงพอดี ร่างบอบบางหันหลังในทันทีและเร่งฝีเท้าออกห่างอย่างร้อนรนโดยมีดอกเตอร์ปุลวัชรก้าวตามหลัง
?เดี๋ยวครับคุณนิด?
เสียงทุ้มของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้ธัญพิมลผ่อนฝีเท้าลงเลย เธอเดินเร็วจนเกือบจะเป็นวิ่ง ทว่าคนขายาวกว่าเร่งจังหวะเพียงไม่มากก็ถึงตัวหญิงสาว มือแข็งแรงคว้าท่อนแขนกลมกลึงเพื่อรั้งไม่ให้เธอวิ่งหนีเขา
?คุณกำลังเข้าใจผิดนะ ยัยพลอยแกเป็น...? ประโยคสุดท้ายสะดุดพร้อมกับความเครียดเคร่งถูกแทนที่ด้วยความพึงพอใจ ใบหน้าคมเข้มโน้มลงมาจนชิดแก้มนวล ?คุณหึงผม ??
?คุณก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะรู้สึกแบบนั้น เราแทบไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ?
คนพูดอ่านดวงตาของชายหนุ่มไม่ออก แต่เธอเกลียดริมฝีปากบางเฉียบที่ดูเหมือนกำลังอมยิ้ม และเกลียดลมหายใจอุ่นร้อนซึ่งกำลังสัมผัสที่ผิวหน้าของเธอเมื่อเจ้าของร่างสูงยังไม่ได้เคลื่อนใบหน้าห่างออกไป ชั่วอึดใจต่อมาธัญพิมลก็ร้องขึ้นสุดเสียงเมื่อฝ่าเท้าละจากพื้นดิน ร่างของเธอที่ถูกช้อนอุ้มขึ้นบัดนี้กำลังอยู่ในอ้อมแขนอุ่นจนร้อนของดอกเตอร์ปุลวัชร
?นี่คุณจะทำอะไร ??
?ก็ไปทำความรู้จักกันให้มากขึ้นไงครับคุณนิด?
?ปล่อย!? กำปั้นเล็ก ๆ ที่ทุบลงบนไหล่กว้างดูเหมือนจะสร้างความเจ็บให้เจ้าของมือเสียมากกว่าเพราะเธอรู้สึกว่ากล้ามเนื้อของเขาแข็งเหมือนหิน
ใช้เวลาไม่นานประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก เจ้าของร่างสูงไม่ได้วางธัญพิมลลงบนเตียงหากแต่หย่อนตัวลงที่เก้าอี้ตัวยาวบุนวมตรงปลายเตียงและใช้ตักตัวเองเป็นเบาะนั่งให้หญิงสาว หมัดเล็กๆ เริ่มทำหน้าที่อีกครั้ง ร่างเล็กขยับยุกยิกซึ่งมันทำให้อุณหภูมิในร่างกายของดอกเตอร์ปุลวัชรที่สูงอยู่แล้วยิ่งสูงมากขึ้นไปอีก
?จะนั่งคุยกันตรงนี้หรือจะไปคุยกันบนเตียง? น้ำเสียงแปลกแปร่งพร้อมกับดวงตาซึ่งฉายประกายปรารถนาชัดเจนทำให้คนมองสะท้านเยือก ธัญพิมลจึงหยุดการเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ
?นั่ง เอ่อ ฉันอยากนั่งคุย แต่คุณปล่อยฉันก่อนสิ?
?ไม่เป็นไร คุณนิดนั่งตรงนี้แหละ ตัวคุณเบา ไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ?
ธัญพิมลส่งค้อนให้เจ้าของตักที่กำลังมองเธอด้วยดวงตาพราวหวาน...สีหน้าของเธอมันดูเหมือนเกรงใจตรงไหนไม่ทราบ
แขนแข็งแรงยกขึ้นรัดเอวบางเพื่อเป็นการบอกกลายๆ ว่าเขาจะนั่งคุยก็ต่อเมื่อมีเธออยู่บนตักเท่านั้น ดอกเตอร์ปุลวัชรมองเรียวปากสีหวานที่กำลังเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรงด้วยความเอ็นดู ความเหนื่อยล้าทั้งกายใจที่มีมาตลอดวันถูกพังทลายจนสิ้นเพียงมีร่างนุ่มนิ่มอยู่ในอ้อมแขน กลิ่นหอมละมุนจากกายบอบบางช่างหอมยวนใจกว่าดอกไม้ไทยซึ่งมารดาขนมาบรรจงปลูกจนรอบบ้าน
ใช่ว่าชายหนุ่มจะไม่เห็นความเคียดแค้นซึ่งโชนแสงกล้าในดวงตาคู่สวยของหญิงสาวตั้งแต่พบเธอในวันแรก แต่ดวงตาคู่นี้อีกเหมือนกันที่สะกดเขาไว้ในทันทีเมื่อได้สบตาเธอ คล้ายกับว่าผู้หญิงตรงหน้าคือคนที่เขาคอยมาทั้งชีวิต ไม่ใช่เพียงความสวยสะดุดตาของหญิงสาว หากแต่คล้ายกับว่าเธอมีพลังมหาศาลที่ดึงดูดเขา
การมาพบคุณนันทกาเพื่อเจรจาเรื่องการชำระหนี้บางส่วนด้วยเงินที่หามาได้โดยการเป็นผู้ช่วยสอนให้อาจารย์ที่ปรึกษาในระหว่างเป็นนักเรียนทุนอยู่ในสหรัฐอเมริกาจึงมีอันต้องระงับเอาไว้ก่อน ดอกเตอร์ปุลวัชรเปลี่ยนแผนในฉับพลัน เขายอมรับภารกิจของลูกกตัญญูแต่งงานกับลูกสาวคุณนันทกาเจ้าหนี้ของมารดาแต่โดยดี
?คนที่คุณเห็นอยู่กับผมเมื่อกี้แกเป็นน้องสาวของผม ยัยพลอยไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อนเมื่ออาทิตย์ก่อน ผมย้ำแล้วว่าให้กลับมาให้ทันงานแต่งของเรา แต่บังเอิญมีอุบัติเหตุนิดหน่อยน้องสาวผมก็เลยตกเครื่อง เพิ่งจะถึงบ้านเมื่อกี้แต่แกลืมกุญแจก็เลยโทร.บอกให้ผมช่วยลงไปเปิดประตูให้?
?ฉันเดาว่าคงไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ? คำพูดของธัญพิมลมีผลให้เจ้าของจมูกโด่งคมสันที่กำลังเพลินกับการสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมนุ่มสีน้ำตาลเงยหน้าขึ้น ความเครียดถูกฉาบไว้บนดวงหน้าคมเข้มของชายหนุ่มในทันที
?ใช่ น้าสาวของผมแต่งงานกับผู้ชายที่มีลูกติด ตอนนั้นยัยพลอยแค่สองขวบ หลังจากที่น้าสาวและน้าเขยประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคุณแม่ก็เอายัยพลอยมาเลี้ยงเหมือนเป็นลูกของท่านเอง? ปลายนิ้วเรียวเกี่ยวคางมนให้เจ้าของดวงหน้าหวานละมุนหันมาหาเขา ?แต่ผมก็รักแกเหมือนเป็นน้องของผมจริงๆ ถ้าคุณได้ใกล้ชิดกับแกคุณจะรู้ว่ายัยพลอยเป็นเด็กที่น่ารัก?
เมื่อกล่าวจบเจ้าของตักก็ทิ้งสายตาลงมาที่ริมฝีปากบางสีหวาน นิ้วเรียวถูกยกขึ้นลูบเกลี่ยแผ่วเบาบนริมฝีปากนุ่ม เลือดกำลังสูบฉีดในกายแกร่งของชายหนุ่มยามหัวใจร่ำๆ จะก้มลงไปประกบเรียวปากนุ่มเพื่อชิมดูว่าจะหวานล้ำเพียงใด หากแต่ธัญพิมลสะบัดหน้าหนีปลายนิ้วร้อนผ่าวนั้น มือบางเริ่มต้นผลักอกเขาอีกครั้งเพื่อดันตัวลุกขึ้นให้พ้นจากความใกล้ชิดที่สร้างความอึดอัดจนแทบจะกรีดร้องตั้งแต่ถูกดึงให้มานั่งบนตักของเขาแล้ว ในตอนนี้ทั้งเธอและเขาอยู่ในชุดนอน และแม้ว่าหญิงสาวจะเอาเสื้อคลุมตัวยาวมาคลุมทับเสื้อนอนบางเบาของตนแล้วแต่ความวิตกก็ยังไม่คลายลงเลย
เจ้าของร่างบอบบางกวาดตาไปรอบกาย...ห้องนอนของดอกเตอร์ปุลวัชรถูกบรรจุด้วยเครื่องเรือนหรูหราทันสมัย สีขาวสะอาดของผ้าปูเตียงตัดกับสีแดงสดของกลีบกุหลาบที่ถูกนำมาโรยไว้เป็นรูปหัวใจสองดวงกึ่งกลางเตียงสร้างบรรยากาศหวานละมุนน่าหลงใหล ทว่าสำหรับธัญพิมลเธอกลับรู้สึกละม้ายกำลังมองแท่นบูชายัญ ความหนาวยะเยือกอาบทั่วร่างลูกแพะตัวน้อยยามเห็นดวงตาวิบวับของคนที่อยู่ร่วมห้อง
เพียงวงแขนแข็งแรงยอมคลายออกความรู้สึกผ่อนคลายก็เข้าคลี่คลุมหัวใจหญิงสาว แต่ความสบายใจมีได้ไม่นานด้วยพบว่าเขาเพียงให้เธอลงจากตักเพื่อให้นั่งอยู่เคียงข้างเขา มือหนายังไม่ปล่อยจากเอวบาง
?ผมว่าเราควรจะเริ่มดูแลสุขภาพของคุณตั้งแต่วันพรุ่งนี้?
คำพูดที่ไม่กระจ่างมาพร้อมกับกระดาษสีขาวในมือของชายหนุ่ม เจ้าของร่างบอบบางรับแผ่นกระดาษนั้นเอาไว้ ตัวอักษรในบรรทัดแรกมีผลให้ลมหายใจสะดุด
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเริ่มตั้งครรภ์...อาหารสำหรับหญิงมีครรภ์...การบริหารร่างกายสำหรับคุณแม่ก่อนคลอด...ธัญพิมลเลื่อนสายตาไปตามหัวข้อต่าง ๆ หัวใจกำลังลิงโลดกับความคิดที่ว่าเขาอาจจะไม่แตะต้องตัวเธอถ้าคิดว่าเจ้าสาวคืนแรกของเขากำลังตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามความรู้สึกยินดีอาบซ่านในหัวใจดวงน้อยเพียงชั่วครู่เท่านั้น ตัวอักษรที่ปรากฏในย่อหน้าสุดท้ายราวกับมือมัจจุราชที่กระชากความหวังไปจากเธอจนหมดสิ้น
การมีเพศสัมพันธ์...ไม่มีข้อห้ามในผู้ตั้งครรภ์ปกติ แต่ควรงดเว้นใน 1 เดือน สุดท้ายก่อนคลอด...ยังมีข้อความอื่นตามมาอีกหากแต่ธัญพิมลกลับอ่านไม่ออกด้วยดวงตากำลังพร่าพราย
เธอเกือบจะคิดอยู่แล้วเชียวว่าเขาเป็นคนอ่อนโยนและมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่มากทีเดียวเพราะหลังจากที่เธอบอกว่าตั้งครรภ์ ตลอดงานเลี้ยงฉลองที่จัดขึ้นภายในโรงแรมช่วงหัวค่ำ ความอาทรถูกถ่ายทอดผ่านอาการถามไถ่แทบจะตลอดเวลาว่าเธอรู้สึกวิงเวียนหรือไม่ ต้องการพักบ้างหรือเปล่ ถ้าไม่ไหวก็ให้บอกเขาเพราะคิดว่าแขกในงานคงจะเข้าใจหากบอกว่าเจ้าสาวเหนื่อยจากการเตรียมงานมาหลายวัน แต่กระดาษที่ ?พ่อสุภาพบุรุษจอมปลอม? ยื่นให้อ่านในตอนนี้เธอคงแปลเจตนารมณ์ของเขาเป็นอื่นไปไม่ได้เมื่อปากกาไฮไลท์สีฟ้าถูกเน้นย้ำในหัวข้อเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ซึ่งกำลังทำให้ธัญพิมลสติกระเจิดกระเจิงในขณะนี้
ลมหายใจอุ่นจัดที่มาพร้อมกับปลายจมูกโด่งคมสันสร้างกระแสร้อนลวกให้เจ้าของลำคอระหง หญิงสาวหาเสียงตัวเองไม่เจอกะทันหันเมื่อแขนแข็งแรงของดอกเตอร์ปุลวัชรช้อนอุ้มร่างของเธอก่อนที่จะสืบเท้าไปยังเตียงกว้าง ลำคอตีบตันในทันทียามร่างสูงใหญ่เคลื่อนขึ้นทาบทับ โอบกิติเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ธัญพิมลให้ความไว้วางใจและบ่อยครั้งที่มีการโอบกอดกันซึ่งทุกครั้งความใกล้ชิดนั้นมาจากความรักฉันท์เพื่อนอย่างแท้จริง ทว่าอ้อมกอดของดอกเตอร์ปุลวัชรให้ความรู้สึกแตกต่างโดยสิ้นเชิง
กระไอร้อนซึ่งแผ่ออกมาจากร่างแข็งแรงอันเต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่มให้ความทรมานราวกับว่าเธออยู่ใกล้กองเพลิงอันร้อนรุ่ม ขณะเดียวกันก็สร้างอารมณ์หวามแปลกๆ ที่หญิงสาวไม่เคยพานพบมาก่อน หากแต่บางอย่างซึ่งฝังลึกในดวงจิตบอกให้เธอดิ้นรนให้พ้นจากการเป็นทาสรักของเขาถ้าไม่อยากให้ชีวิตต้องพานพบกับความทนทุกข์เหมือนที่เคยเป็นมา
?คุณปุลขอเวลาฉันหน่อยได้ไหม วันนี้ฉันยัง...ยังไม่พร้อม? เสียงหวานเอ่ยอย่างตะกุกตะกักเมื่อฟันคมของคนที่ทาบทับอยู่บนกายเธอขบเบาๆ ที่ติ่งหูเล็กซึ่งทำให้ธัญพิมลขนลุกเกรียว
?ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเจ็บ? เสียงแหบพร่าของผู้ซึ่งตกอยู่ในอารมณ์พิศวาสหวามเรียกสติของหญิงสาวให้กลับคืนมาในทันที ธัญพิมลตระหนักว่าในสถานการณ์เช่นนี้เธอควรใช้ไม้แข็งในการเจรจา
?คุณควรให้เวลาฉันปรับตัวบ้างนะคะ แล้ว...แล้วฉันสัญญาว่าจะบอกคุณแม่ให้จ่ายเช็คที่แม่ของคุณออกปากขอยืมเพิ่ม...?
ยังไม่ทันที่ถ้อยคำดูถูกของหญิงสาวจะถูกกล่าวออกมาจนจบประโยคเจ้าของจมูกโด่งที่กำลังซุกไซ้อยู่ตรงซอกคอหอมกรุ่นก็ชะงักค้างในฉับพลัน เธอสัมผัสได้จากสีหน้าของดอกเตอร์ปุลวัชรว่าเขาใช้ความพยายามอย่างหนักทีเดียวในการควบคุมอารมณ์ และดวงตาเจ็บร้าวคู่นั้นกำลังตัดพ้อเธออยู่
หญิงสาวทอดตามองร่างสูงที่ขยับลงจากเตียง หมอนอีกใบถูกมือหนารวบเข้าไว้ในอ้อมแขนจากนั้นเจ้าของใบหน้าบึ้งตึงจึงก้าวไปยังบานประตูซึ่งถูกกระชากออกในเวลาต่อมา
?ผมจ่ายหนี้ให้แม่ของคุณไปส่วนหนึ่งแล้ว คุณอาจยังไม่รู้ความจริงข้อนี้ และผมสัญญาว่าจะจ่ายเงินแทนแม่ของผมครบทุกบาททุกสตางค์? เสียงปิดประตูดังปังหลังจากที่เจ้าของร่างสูงทิ้งคำพูดสุดท้ายซึ่งมันยังก้องอยู่ในโสตประสาทของธัญพิมล ?ถ้าคุณยังพูดดูถูกผมอีก รับรองได้เลยว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะตัดสินใจเหมือนคนโง่แบบนี้?



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ธัญพิมล? ถูกบังคับให้แต่งงานกับ ?ดอกเตอร์ปุลวัชร? หล่อนเกลียดว่าที่เจ้าบ่าวตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าของเขาแล้ว เจ้าตัวรู้ดีว่ามันไม่ใช่เพียงความชิงชังแต่เขาคือคนที่ทำให้อิสรภาพทั้งชีวิตถูกลิดรอน หากแต่เบื้องลึกในใจคือความเกลียดและอาฆาตรุนแรงซึ่งหล่อนไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ธัญพิมลจึงหลอกเจ้าบ่าวว่าตนนั้นกำลังมีลูกของชายอื่นอยู่ในครรภ์ เพื่อหวังจะได้เห็นความทุกข์ทรมานของเขาแต่ดอกเตอร์ปุลวัชรกลับยินดีเป็นพ่อให้เด็ก การใช้ชีวิตคู่ร่วมกันยิ่งทำให้ธัญพิมลแทบจะอกแตกตายและยังต้องมารับมือกับเจ้าเพชร ที่มีประสงค์ให้หล่อนช่วยหาสมบัติล้ำค่าของบรรพบุรุษซึ่งการสืบหานั้นทำให้ความจริงกระจ่าง คำอธิษฐานในอดีตที่หล่อนมีนั้นคือที่มาของความเกลียดชังดอกเตอร์ปุลวัชร หากแต่หลักฐานชิ้นสำคัญที่พบเจอก็ทำให้ธัญพิมลรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือคู่บุญของหล่อน

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”