....บางที วันนี้ข้าอาจต้องบอกลารักครั้งแรกที่เก็บงำมานานหลายปีก็ได้
ข้ารู้สึกเช่นนั้น....
ต่อให้เป็นคนธรรมดาเดินดินแค่ไหน พระเจ้าก็จะประทานโอกาสให้ครั้งหนึ่งในชีวิต
ดังนั้นแม่ของเด็กหนุ่มจึงพร่ำบอกเกรสนีตัวน้อยว่าการอดทนรอ ?เวลา? นั้นเป็นสิ่งสำคัญ
แม้เกิดมาต่ำต้อย ยากจนข้นแค้น ซูบซีดผ่ายผอม เจ็บออดๆ แอดๆ แต่หากมีชีวิตยืนยาว โอกาสในชีวิตย่อมมาถึงอย่างแน่นอน
โอกาสร่ำรวย โอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต โอกาสที่จะมีใครมาตกหลุมรักและตกถังข้าวสาร โอกาสมีสุขภาพแข็งแรง
กล่าวคือ โอกาสที่โชคจะเข้าข้าง และทำให้ทุกอย่างตกลงมาตรงหน้า
?สรุปคือ สถานการณ์ที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้แหละคือโอกาสเดียวในชีวิตนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย เกรสนี?
ครอบครัว พี่น้องต่างสายเลือด และเพื่อนวัยเด็กคลุมโปงเล่าความลับให้เขาฟังอยู่บนเตียงเดียวกัน
(....โอกาสรึ)
เด็กหนุ่มถอนใจพลางจ้องลอนผมสีน้ำผึ้งที่เด้งดึ๋งอยู่ตรงหน้า
เรือนผมสีทองแสนงดงาม คนแถวนี้ส่วนใหญ่มีผมดำไม่ก็น้ำตาลไหม้ ผมสีสว่างและเงางามจึงโดดเด่นสะดุดตา
และนัยน์ตาสีฟ้าหายากนั้นก็จ้องเขาอย่างแรงกล้า
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดวงตาคู่นี้จ้องมองเขาเหมือนจะดูดกลืนเขาเข้าไป
เขาติดตามเจ้าของผมทองนี้ไปทุกหนแห่ง ตลอดเวลาสิบสามปีตั้งแต่ลืมตาดูโลก
เพราะพวกเขาเป็นทั้งญาติ เพื่อนร่วมห้อง พี่น้องต่างสายเลือด เพื่อนวัยเด็กและครอบครัวเดียวกัน
กล่าวคือ คนสำคัญที่ไม่มีใครแทนที่ได้
....จนถึงตอนนี้
?นี่ ฟังอยู่รึเปล่า?
อีกฝ่ายมุดหัวสีทองเข้ามาพูดใกล้ๆ แต่ตอนนี้พวกเขาต่างอยู่ใต้ผ้าห่ม สีผมสวยนั้นจึงกลายเป็นสีเทา
พวกเขารู้กันตั้งแต่เด็กๆ ว่าเวลาคุยความลับต้องคลุมโปงคุยกันบนเตียง
เวลาไม่อยากให้พวกผู้ใหญ่ได้ยิน เวลาวางแผนพิเรนทร์ เวลาโดดเรียน เวลาทิ้งงานที่ถูกสั่งให้ทำ พวกเขาจะแอบคุยกันแบบนี้ทุกครั้ง
?นี่ เจ้าก็รู้ไม่ใช่เหรอว่านี่เป็นโอกาส โอกาสทอง เพราะบนโลกใบนี้ ตนคือที่พึ่งแห่งตน ถ้าไม่ใช่ราชนิกุลก็เป็นกษัตริย์ไม่ได้ ชนชั้นสูงก็แต่งงานกับพวกเดียวกัน ข้าได้ยินว่าบางครั้งก็มีผู้หญิงไต่เต้าขึ้นไปได้ด้วยรูปร่างหน้าตา แต่โอกาสมันก็น้อยมาก แถมตระกูลอัลบาสทีนกับตระกูลลอยน์ของเราก็เป็นแค่สามัญชนคนธรรมดา?
น้องชายต่างสายเลือดของเขาพูดใส่อารมณ์พลางกลอกตาไม่หยุด
?ตราบใดที่อยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว สามัญชนอย่างเราก็คือสามัญชนวันยังค่ำ แค่กลุ้มว่าพรุ่งนี้กินอะไร จะผ่านสัปดาห์นี้ไปได้รึเปล่า โอ้พระเจ้า แบบนี้ก็มีด้วยเหรอเนี่ย!?
อีกฝ่ายตะโกนสุดใจว่าสามัญชนคือตัวแทนของความธรรมดาและความยากจน
(ทั้งที่อยู่กลางดึก)
เด็กหนุ่มใช้สติคิดบนเตียง
แถมยังเป็นเรื่องบาดหู ถ้าชาวบ้านแถวนี้ได้ยินเสียงตะโกนเข้าจะคิดยังไงนะ
แต่น้องชายต่างสายเลือดผู้น่ารักคนนี้ชอบใช้สำนวนโวหารเกินจริงแบบนี้อยู่แล้ว เขาจึงไม่ตกใจนัก เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมานาน
พวกเขาสองคน เกรสนี ลอยน์ กับซาลามิส อัลบาสทีน อยู่ร่วมชายคาเดียวกันด้วยเหตุผลบางประการ
เรื่องของเรื่องคือเมื่อหลายสิบปีก่อน ยายของซาลามิสซึ่งเป็นสาวใช้เกิดไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้านาย จึงกลายเป็นที่มาของเหตุการณ์อันน่าโศกเศร้าเสียใจ
?พูดง่ายๆ คือ ท่านชายตระกูลดยุคไปยุ่งกับคุณยายวัยสาวสะพรั่งจนมีลูกด้วยกัน ไม่ว่าที่ไหนก็มีเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น?
น้องต่างสายเลือดผมทองตาฟ้าหัวเราะร่วนทั้งที่เป็นเรื่องของตัวเอง
แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องตลกเลย
ช่วงนั้นดยุคเพิ่งแต่งงานกับธิดาขุนนางตระกูลดัง ญาติของเขาจึงพยายามปกปิดการมีอยู่ของสาวใช้และลูกสาวสุดชีวิต ด้วยการจ่ายเงินจำนวนหนึ่งและรับรองลูกนอกกฎหมายแค่พอเป็นพิธีเพื่อไม่ให้เจ้าสาวคนใหม่รู้เรื่อง
ผลก็คือสาวใช้คนนั้นตรอมใจตายเพราะถูกทิ้ง เหลือไว้เพียงเด็กทารกหญิงที่ยังไม่หย่านม
นางคือทีน่าเบล แม่ของซาลามิส
ทารกทีน่าเบลผู้ไร้ที่ไปถูกน้องสาวของแม่ที่อายุห่างกันรับไปเลี้ยง วิลลี่ ลอยน์ซึ่งทำงานเป็นแม่นมให้ตระกูลบารอนเลี้ยงทีน่าเบลไปพร้อมลูกชายตัวเอง
และสิบแปดปีต่อมา
ทีน่าเบล ลูกพี่สาวที่วิลลี่เลี้ยงมาเติบใหญ่และออกเรือนไปกับนายหน้าเงินกู้ที่ค่อนข้างมีอันจะกิน ลูกของพวกเขาคือซาลามิส
ส่วนวิลลี่ที่หย่ากลับมาอยู่บ้านเดิมเพื่อสืบทอดตระกูลก็แต่งงานใหม่กับเสมียนศาลากลาง และได้ลูกคนที่สองเมื่ออายุมากแล้ว นั่นคือเกรสนี
ฟังดูซับซ้อนนิดหน่อย พูดง่ายๆ คือเกรสนีคือน้าของซาลามิส และเป็นพี่น้องต่างสายเลือดด้วย
อย่างไรก็ตาม ตระกูลลอยน์ที่มียายวิลลี่เป็นศูนย์กลางนั้นใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเมืองเล็กๆ ชื่อมิซูรี่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครนันเซ
วิลลี่หัวหน้าตระกูลกับไวตี้จอมใจเสาะสามีคนที่สอง ยาลูลู อัลบาสทีนสามีทีน่าเบลกับซาลามิสลูกชาย และเกรสนีลูกชายคนรองของวิลลี่
นี่คือทุกคนในครอบครัว
และปัญหาหลักที่สร้างความปวดหัวให้ตระกูลลอยน์ตอนนี้คือ ผู้ชายซึ่งเป็นแหล่งรายได้ของบ้านพร้อมใจกันทำงานไม่ได้
เดิมทีตระกูลลอยน์ทำไร่ทำสวนบนที่ดินของตัวเองมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ แต่หัวหน้าตระกูลหลายรุ่นก่อนได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยจึงเริ่มทำงานในเมือง วิลลี่ที่ดูเหมือนได้สายเลือดนักคำนวณมาก็อ่านออกเขียนได้และคิดเลขเป็น ส่วนไวตี้สามีซึ่งเป็นญาติห่างๆ ก็ใช้วุฒิมหาวิทยาลัยเข้าทำงานเป็นเสมียน
แต่ไม่ว่าอาชีพไหน หากร่างกายทรุดโทรมก็ไม่สามารถทำต่อได้ ยาลูลูหลานเขยที่ฝากซาลามิสให้วิลลี่เลี้ยงมาตลอดเริ่มสายตาไม่ดีจนทำงานไม่ได้ ส่วนไวตี้สามีของวิลลี่ก็ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจกำเริบไปอีกในเวลาไล่เลี่ยกัน เขาทำงานเป็นนักบัญชีให้บ้านพ่อแม่ของยาลูลูซึ่งเป็นหลานเขย แต่ความชราและอาการป่วยทำให้เขาทำงานไม่ไหวอีกต่อไป
หลังตระกูลลอยน์ขาดรายได้ของชายสองคนนี้ไป การเงินก็ฝืดเคืองขึ้นทันที
ต่อให้ขายที่ดินซึ่งเป็นมรดกตกทอดกับทรัพย์สินอันน้อยนิดของวิลลี่ก็ไม่อาจเลี้ยงดูสมาชิกครอบครัวหกคนได้นาน
?แล้วปัญหาผู้สืบทอดนันเซก็โผล่มา!?
เพื่อนวัยเด็กตบหมอนเบาๆ ก่อนพูด
?โอกาส นี่เป็นโอกาสนะเกรสนี ตอนนี้พวกเรากำลังกรอบและถังแตกสุดๆ ที่ผ่านมาตระกูลลอยน์อยู่ได้เพราะอ่านออกเขียนได้และคำนวณเป็น แต่ถ้าตาเสียทำงานไม่ได้ขึ้นมาก็จบเห่ แต่เสาหลักของครอบครัวรุ่นต่อไปอย่างเราก็อายุแค่สิบสาม ขืนปล่อยไว้อย่างนี้คงได้ไร้ที่ซุกหัวนอนกันทั้งบ้าน?
?เจ้าเลยบอกให้เราคว้าลาภลอยไว้สินะ?
?ถูกต้องแล้ว!?
น้องต่างสายเลือดพูดพลางทำจมูกบานจนหน้างามๆ ดูไม่จืด
?ก็ข้าสงสารคุณยายที่ถูกท่านชายตระกูลดยุคเจาะไข่แดงแล้วทิ้ง แต่เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกัน จริงๆ แล้วท่านชายนั่นเป็นพวกรักร่วมเพศ ถ้าแม่ข้าเป็นทายาทเพียงคนเดียว ลูกอย่างข้าก็จะกลายเป็นผู้สืบทอดนันเซอย่างถูกต้อง ?ซาลามิส? มีสิทธิ์ในตำแหน่งนั้นนะ!?
น้องต่างสายเลือดของเขาทำตาเป็นประกายและประสานมือตรงหน้าตัวเอง
คำชี้แจงนั้นมีส่วนถูกต้อง
ยายของซาลามิสซึ่งเป็นสาวใช้ทำงานให้กับตระกูลดยุคบิจู เจ้าผู้ครองนครนันเซอย่างที่ซาลามิสพูดจริงๆ
และปัญหาเรื่องทายาทก็กำลังทำให้ตระกูลดยุคสั่นคลอน
เหตุผลนั้นแจ่มแจ้งชัดเจน เพราะดยุคนันเซเป็นพวกรักร่วมเพศแบบสุดโต่งอย่างที่กล่าวข้างต้น
นันเซซึ่งโด่งดังในฐานะมหานครทางการค้าอันยิ่งใหญ่ อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐสภามาตลอด จึงพูดได้ว่าชาวเมืองนันเซกับสมาชิกสภาคือตัวกำหนดอนาคตหลังดยุคจากไปโดยไร้ทายาทสืบทอด
สภานันเซซึ่งไม่รู้ว่าดยุคโฮโมคนนั้นแอบไปไข่ทิ้งไว้ตอนหนุ่มๆ ย่อมไม่ล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของซาลามิส พวกเขาจึงดันไลคัลบุตรคนที่สี่ของตระกูลบามอันเก่าแก่ให้เป็นดยุครุ่นต่อไป
เหตุผลก็คือ
?ตระกูลบามมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับออซมาเนียประเทศเพื่อนบ้าน นันเซจึงตัดสินใจลับๆ ว่าจะรับการอุปถัมภ์ของออซมาเนีย เพื่อเพิ่มสิทธิ์ในการปกครองตนเอง พูดง่ายๆ คือนันเซ ตระกูลบามกับออซมาเนียรวมหัวกัน?
?อืม มันก็คง....เป็นอย่างที่เจ้าว่า?
เด็กหนุ่มพยักหน้า
เขารู้ดีว่าซาลามิสเฉลียวฉลาดเกินเด็ก ไม่รู้ว่าไปเรียนรู้มาจากไหน แต่ซาลามิสชอบเอาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศและการบ้านการเมืองมาเล่าให้คนในครอบครัวฟัง จนผู้ใหญ่ได้ยินแล้วยังอาย
ซาลามิสไม่ใช่คนแข็งแกร่งอย่างเกรสนีจึงเป็นอัศวินไม่ได้ แต่คงได้สายเลือดนักคำนวณมาเยอะจึงเป็นเด็กอัจฉริยะที่สามารถคูณเลขหลักพันกลางอากาศได้
แต่หัวหน้าตระกูลวิลลี่ไม่ค่อยชอบเด็กฉลาดแกมโกงนักจึงมักเอ็ดซาลามิสตลอดว่า ?อย่าดูถูกผู้ใหญ่นะ?
(แต่ถึงอย่างนั้น หมู่นี้แทบไม่ได้ยินเสียงเอ็ดของวิลลี่เลย หรือหญิงเหล็กคนนั้นจะหมดวัยจนเอ็ดไม่ไหวแล้ว....)
วิลลี่ หัวหน้าตระกูลลอยน์ผู้มีความรู้ความสามารถผิดกับหญิงทั่วไปจนได้เป็นแม่นมให้ตระกูลบารอน รับเลี้ยงลูกนอกสมรสของพี่สาวและแต่งงานถึงสองครั้ง นางซึ่งเป็นแม่ของเกรสนีบอกให้ซาลามิสเรียกตนว่าวิลลี่เพราะไม่อยากให้เรียกคุณยาย บัดนี้ถึงวัยที่เรียกว่าหญิงชราเสียแล้ว
ระยะนี้นางเอาแต่เก็บตัวเย็บปักถักร้อยอยู่ในบ้านทั้งที่ตาไม่ค่อยดี และเอาแต่ถอนหายใจกับบทกวีที่นึกไม่ออก
?ในเมื่อวิลลี่เป็นแบบนั้น เราก็ต้องแบกรับภาระของตระกูลลอยน์กันเอง เพราะเหตุนั้นเราถึงต้องทำทุกวิถีทางให้ซาลามิสเป็นผู้สืบทอดตระกูลดยุคให้ได้ เข้าใจรึเปล่า?
?ข้าเข้าใจที่เจ้าพูด แต่...?
เกรสนีทำท่าจะพูดบางอย่างแต่รีบแก้ใหม่
?สภานันเซตกลงเลือกไลคัล บามเป็นผู้สืบทอดไปตั้งนานแล้วนะ ถ้าอย่างงั้น ถึงเราคัดค้านตอนนี้ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ไม่ใช่เหรอ?
?มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ?
ซาลามิสพูดเช่นนั้นแล้วควักบางอย่างออกจากกระเป๋าด้านในเสื้อนอก มันคือกระดาษน้ำมันกันน้ำปิดผนึกอย่างดี
?นั่นอะไร....??
เกรสนีขมวดคิ้วจ้องจดหมายปิดผนึก มันเป็นกระดาษอย่างดี ไม่มีสีเหลืองอ่อนเหมือนกระดาษหนังแกะถูกๆ แถมประทับตราด้วย แม้แต่ขี้ผึ้งปิดผนึกก็ใสแจ๋วจนแทบมองไม่เห็น คาดว่าชนชั้นสูงของที่ไหนสักแห่งสั่งให้เจ้าหน้าที่คัดลอกทำจดหมายฉบับนี้ขึ้น
?จดหมายเชิญอย่างเป็นทางการถึงถึงซาลามิส อัลบาสทีน?
?จดหมายเชิญ? จากใคร??
?อาร์คดยุคแห่งอเจนเซน?
?อะ อาร์คดยุค!??
เกรสนีเกือบเผลอแหกปากทั้งที่วิลลี่นอนอยู่ห้องข้างๆ ถ้าซาลามิสไม่รีบเอามือปิดปากเขาล่ะก็....
?ชู่ว์ เบาๆ สิ?
?มะ มันเรื่องอะไรกัน?
?พ่อข้าซ่อนมันเอาไว้ เพราะเขาชอบบ่นบ่อยๆ ว่าถ้าโชคเข้าข้าง แม่คงได้เป็นธิดาตระกูลดยุคไปแล้ว ยิ่งตอนนี้การเงินฝืดเคือง พ่อคงคิดอยู่แน่ๆ ว่าจะใช้ข้าให้เป็นประโยชน์กว่านี้ยังไงดี?
?ใช้ประโยชน์...?
ซาลามิสยิ้มตาหยีเหมือนแมว
?แต่ที่เขาเก็บเงียบมาตลอดเพราะกลัวยายวิลลี่ เพราะนางแค้นดยุคนันเซที่ทิ้งพี่สาวตัวเอง ขืนบอกว่าจะไปเป็นผู้สืบทอดดยุค ต่อให้ต้องฝืนสังหาร นางคงขัดขวางแผนการของพ่อสุดชีวิตแน่ หรือไม่จริง?
เกรสนีพยักหน้าเงียบๆ จริงอยู่ว่ายาลูลูพ่อของซาลามิสชอบโพนทะนาเรื่องสายเลือดของซาลามิสไปทั่วเวลาเมา ดูเหมือนเรื่องที่เขาพล่ามไม่หยุดจะหลุดรอดไปถึงหูอาร์คดยุคแห่งอเจนเซน
?แต่ทำไมอาร์คดยุคแห่งอเจนเซนถึงได้ส่งบัตรเชิญมา??
?ถามได้ เพราะอเจนเซนไม่อยากถูกออซมาเนียแย่งนันเซไปไงล่ะ?
ซาลามิสทำหน้าเหมือนนักการเมืองและพูดปร๋อเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
?ตอนนี้นันเซอยู่ในกำมืออเจนเซนก็จริง แต่เพราะนันเซเป็นพื้นที่ปกครองตนเอง ปัญหาพรมแดนระหว่างอเจนเซนกับออซมาเนียจึงคลุมเครือ พวกเขาเลยถือโอกาสที่ดยุคโฮโมตายยกปัญหานี้ขึ้นมายังไงล่ะ ยังไงก็ตาม ถ้าออซมาเนียหนุนหลังไลคัล บาม อเจนเซนก็ต้องหาผู้สมัครเข้าชิงอีกคน เพราะดูยังไงออซมาเนียคงยกเจ้าหญิงในราชวงศ์ให้นันเซ อเจนเซนเองก็คงเสนอผู้เข้าชิงได้ยากขึ้น เพราะแทบไม่มีตระกูลผู้ลากมากดีไหนสู้ตระกูลบามได้เลย?
เกรสนีแอบทึ่งว่าอีกฝ่ายได้ข้อมูลพวกนี้มาจากไหน แต่ปัญหาเรื่องดินแดนกับการแต่งงานของราชวงศ์เป็นหัวข้อเด็ดสำหรับพวกชาวบ้านที่ชอบซุบซิบนินทาหาความสนุกที่สุดอยู่แล้ว มันคงเป็นข่าวลือจากโรงเตี๊ยมสำหรับพวกพ่อค้ากับนักแสวงบุญ หอพักรวมในสำนักสงฆ์ ไม่ก็ตามร้านเหล้าแถวลานจอดรถม้า เขารู้ดีว่าน้องต่างสายเลือดผู้นี้ชอบเข้าๆ ออกๆ สถานที่เหล่านี้อย่างสนุกสนาน
?การได้เป็นผู้สืบทอดนันเซโดยมีอาร์คดยุคแห่งอเจนเซนหนุนหลังถือเป็นเกียรติสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งตระกูลลอยน์เลยนะ นี่เป็นโอกาสที่ตระกูลลอยน์แสนธรรมดาที่ยังชีพด้วยการเป็นนักบัญชีบ้านนอกมาตลอดจะดังกระฉ่อนไปทั่วอเจนเซนและออซมาเนียนะ พวกเราควรไปเดี๋ยวนี้เลย ไปเพิร์ลเอมเมืองหลวงของอเจนเซน!?
ซาลามิสพูดแล้วคิดในใจว่าอยากให้ปีกงอกออกมาจากเตียงแล้วพาเขาบินไปเดี๋ยวนี้เลย
เกรสนีเองก็ใช่ว่าคัดค้านความคิดของซาลามิสหัวชนฝา เพราะตระกูลลอยน์กำลังตกอยู่ในวิกฤตการเงินจริงๆ วิลลี่หัวหน้าตระกูลเริ่มแก่ชรา ผู้ชายทำงานไม่ได้ สมบัติก็ไม่มี แถมมีหนี้ในระดับหนึ่ง ปัญหาผู้สืบทอดของขุนนาง (แถมเป็นยอดตระกูลดัง) ที่โผล่มาปุบปับนั้นคือลาภลอยชัดๆ
แต่ถึงอย่างนั้น ทุกอย่างจะไปได้สวยอย่างที่ซาลามิสพูดหรือเปล่า เขาครุ่นคิดพิจารณาข้อเสนอของอีกฝ่ายในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เด็กสามัญชนอย่างซาลามิส อัลบาสทีนจะได้อาร์คดยุคแห่งอเจนเซนช่วยหนุนหลังให้เข้าชิงตำแหน่งดยุคนันเซกับคุณชายตระกูลบามอันโด่งดัง
?แต่ข้าว่ามันยากอยู่นะ....?
?นั่นแหละ?
ซาลามิสลดโทนเสียงลงก่อนชี้หน้าเกรสนี
?ใช่ นั่นคือปัญหา ปัญหาใหญ่สุดๆ เลย เพราะอย่างนั้นข้าถึงอยากเสนอให้พวกเราสลับตัวกัน?
เกรสนีอ้าปากค้างตัวแข็งไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดว่า
?ว่าไงนะ....!??
?ชู่ว์ ชู่ว์ ชู่ว์!?
ซาลามิสเอาผ้าห่มคลุมหัวเขา แค่นี้อากาศก็ร้อนอยู่แล้ว การหายใจอยู่ในผ้าห่มจึงเป็นอะไรที่อึดอัดมาก
?เบาๆ สิ ข้าบอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าถ้ายายวิลลี่รู้เรื่องเข้ามีหวังจบเห่แน่?
ซาลามิสโผล่หัวออกมาก่อนตามด้วยเกรสนีที่โผล่ออกมาอ้าปากพะงาบๆ เหมือนปลาเหนือผิวน้ำ
?ฟังนะ ฟังให้ดีๆ เกรสนี ตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าคือซาลามิส บิจู หลานชายดยุคนันเซและผู้สืบทอดตระกูลดยุค ส่วนข้าคือเกรสนี ลอยน์ผู้ติดตามของเจ้า ถึงยังไงก็มีแต่คนในบ้านเราที่รู้ว่าใครสืบทอดสายเลือดดยุคกันแน่ เจ้ามีความสามารถเป็นเลิศผิดกับข้าที่เอาแต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ ถึงคนอื่นจะคิดว่าเจ้าเป็นหลานดยุคก็ไม่แปลก ดังนั้นเราจึงสลับตัวกันได้อย่างง่ายดาย?
เขามองหน้าน้องต่างสายเลือดที่ปรบมือให้ตัวเองอย่างอ่อนใจ
?....มันจะไปได้สวยขนาดนั้นเร้อ....?
?แหงอยู่แล้ว ที่สำคัญข้ายังมีแผนเด็ดๆ อยู่! แผนที่เจ้าจะเอาชนะไลคัล บามผู้นั้นได้ในฐานะซาลามิส?
?........?
เขาเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนคาดหวังอะไรไม่ได้เลย
?แต่...แผนเด็ดของเจ้า คิดยังไงก็เป็นแผนหลุดโลกวันยังค่ำ?
?ใครจะตีความยังไงก็เป็นอิสระของคนคนนั้น?
ไม่ฟังอีกต่างหาก
?เอาน่า ข้าเข้าใจว่าทำไมเจ้าถึงใจเสาะ เพราะศัตรูเป็นถึงไลคัล บาม คุณชายตระกูลบามนั่น แค่สอบผ่านเข้าหน่วยอัศวินได้ตอนอายุสิบสองก็สุดยอดแล้ว ยังอุตส่าห์ออกไปเป็นลูกบุญธรรมบ้านญาติเพราะไม่อยากใช้ชื่อตระกูลบามเป็นใบเบิกทาง ไม่รู้จะเรียกว่าน่าหมั่นไส้หรือหลงตัวเองดี?
?นี่เจ้าชมหรือด่าเขากันแน่??
?ทั้งสองอย่างแหละ! ในโลกนี้มันมีขุนนางหนุ่มสมบูรณ์แบบ ผู้เพียบพร้อมทั้งชาติตระกูล เงินทอง ความสามารถ และนิสัยใจคอด้วยเหรอ แบบนี้มันเยาะเย้ยกันชัดๆ มาเหยียบหน้าข้าเลยดีกว่า?
ถึงอย่างนั้น แต่หากมองอย่างเป็นกลาง คนปากร้ายอย่างซาลามิสกำลังชมไลคัล บามอย่างเห็นได้ชัด
ใช่ ใช่แล้ว เพราะถ้าพูดถึงไลคัล บาม เขาคือ ?ดารา? ที่โด่งดังยิ่งกว่าหญิงงามหรือขุนนางหรือนักแสดงละครเวทีห่วยๆ ในละแวกนี้เสียอีก
แล้วซาลามิสจะเอาอะไรไปสู้กับยอดบุรุษผู้เลิศเลอคนนั้นได้
?ข้ามีแผน เริ่มด้วยการซื้อใจอาร์คดยุคแห่งอเจนเซน ข้อที่หนึ่ง?
?ข้อที่หนึ่ง??
?ใช่แล้ว ลูซีโด้ อาร์คดยุคอเจนเซน เป็นผู้นำที่โปรดปรานการศึกถึงขนาดตั้งหน่วยอัศวินมังกรขึ้นตรงกับตัวเองทันทีที่ขึ้นครองราชย์ ส่วนลุคนาคส์ดาบล้ำค่าที่เขาได้มรดกตกทอดจากปู่จิฮาด ลอนกิอนก็มีชื่อเสียงพอๆ กับเอวารีออทเพลิง สมบัติล้ำค่าของหน่วยอัศวินชินเกรโอเลย พูดง่ายๆ คือ เขาชื่นชอบยอดฝีมือด้านการต่อสู้?
?แบบนั้นมันยิ่งไม่เข้าท่าไม่ใช่เหรอ?
เขาเอือมระอา ถอนใจใส่หมอนแฟบๆ ที่ใช้มานานหลายปี
?ไลคัล บามได้เป็นสมาชิกหน่วยอัศวินทั้งที่อายุแค่นั้นนะ??
?เจ้าก็เหมือนกันแหละ เกรสนีผู้กล้าของข้า?
เขาสะดุ้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น ตาสีฟ้าร้อนแรงต้องแสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านช่องแสงดุจผิวทะเลสาบยามค่ำคืน
?อย่างคราวนั้นเจ้าก็สอบเข้ากองทหารรับจ้างวาเครผ่าน จนได้เป็นพลหอกเงินเดือนสี่กิลไม่ใช่เหรอ กองทหารรับจ้างไม่จ่ายค่าจ้างสี่กิลให้เด็กง่ายๆ หรอกนะ?
น้องชายพูดต่ออย่างภาคภูมิใจราวกับเป็นเรื่องของตัวเอง
?อย่างยายวิลลี่ ถึงปากจะบอกว่าอยากให้เจ้าเรียนต่อสำนักปรัชญา แต่ใจจริงคงภูมิใจในตัวเจ้ามาก เพราะตระกูลอยน์อาจจะมีอัศวินตัวจริงเสียงจริงกับเขาก็ได้?
ซาลามิสเท้าแขนกับหมอนแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
?เอาเป็นว่าข้าคิดแผนซื้อใจอาร์คดยุคลูซีโด้เอาไว้แล้ว แผนสุดยอดที่ได้ผลชะงัดและทำให้ทุกคนมองเจ้าเป็นตาเดียว สำหรับอเจนเซนที่ตามหลังออซมาเนียอยู่หลายก้าว ก็ไม่มีเวลาไปตามหาผู้ท้าชิงคนอื่นนอกจากซาลามิสแล้ว ถ้าอาร์คดยุคยอมรับในฝีมือของเจ้าและตัดสินใจดันเจ้าเป็นผู้ท้าชิง ที่เหลือก็เป็นเกมการเมือง ถ้าเป็นศึกระหว่างอเจนเซนกับออซมาเนีย ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องออกโรง ข้าว่าอเจนเซนมีโอกาสชนะครึ่งต่อครึ่ง ถึงจะแค่ครึ่งเดียว ก็มีความเป็นไปได้ที่เจ้าจะได้เป็นผู้สืบทอดนันเซ?
เขาจ้องน้องต่างสายเลือดที่เลิกเท้าแก้มแล้วเปลี่ยนไปกอดหมอนอย่างเคลิบเคลิ้มก่อนพูด
?ว่าแต่ เจ้าแน่ใจแล้วเหรอ??
นัยน์ตาสีฟ้ามองเขาอย่างคาดไม่ถึง
?เรื่องอะไร??
?ถามได้ ก็แผนการนี้ไง ที่จะให้ข้าเป็นดยุคนันเซ ส่วนเจ้าเป็น...ผู้ติดตาม...?
?มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ!?
ซาลามิสหรี่ตาเหมือนจะบอกว่ามาพูดอะไรป่านนี้
?ตอนนี้ตระกูลลอยน์ต้องการเงิน ยายวิลลี่ก็แก่แล้ว พ่อแม่เราก็เป็นหนี้เขา ปัญหามีเป็นภูเขาเลากา และตัวแก้ปัญหาทั้งหมดก็คือเงิน เงินนะเกรสนี สิ่งที่จะทำให้เรามีความสุข สิ่งที่จะช่วยตระกูลเรา ไม่ใช่ความถูกต้องยุติธรรม และไม่ใช่ความดีแน่ๆ แต่เป็นเงิน และเงินก็มาพร้อมฐานะทางสังคมและชื่อเสียง?
?แต่มันจะมีอย่างอื่นมาพร้อมฐานะทางสังคมรึเปล่า?
เกรสนีทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงคลุมโปงแล้วตะโกนเบาๆ อยู่ในนั้น
(มันมาพร้อมเจ้าหญิงออซมาเนียไม่ใช่เรอะ!)
ซาลามิสคงจับเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ของเขาได้จึงเลิกผ้าห่มส่องดูข้างในอย่างกล้าๆ กลัวๆ
?นี่เกรสนี เจ้า....?
?อะไร??
?อย่าบอกนะว่าไม่อยากแต่งงานกับเจ้าหญิงออซมาเนีย??
ประโยคนั้นแฝงความเหลือเชื่ออย่างชัดเจน เกรสนีจึงอึ้งไป
?....อืม....?
?อ้าว ทำไมล่ะ โชคดีจะตายไป เจ้าจะได้แต่งงานกับเจ้าหญิงเชียวนะ ใช่ว่าตระกูลดยุคนันเซจะได้เจ้าหญิงมาเป็นสะใภ้บ่อยๆ นะ?
(ทำไมถึงมองโลกในแง่ดีแบบนี้นะ)
เขาปลดปล่อยความหงุดหงิดและความอึมครึมในใจทั้งหมดออกมาพร้อมลมหายใจก่อนพูด
?ก็ข้า....ยังไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำ?
?มันแหงอยู่แล้วล่ะ อีกฝ่ายเป็นถึงเจ้าหญิงออซมาเนียเชียวนะ ปกติคงหมกตัวอยู่ในวังทองไม่โผล่หน้ามาให้ผู้ชายเห็นอยู่แล้ว แถมคนที่เข้าตำหนักสวนจำลอง ฮาเร็มของออซมาเนียได้ก็มีแต่กษัตริย์?
แต่การแต่งงานการเมืองมันก็เป็นแบบนี้แหละ พอได้ยินซาลามิสพูดเท่ๆ เช่นนั้น ความอึมครึมที่น่าจะปลดปล่อยออกมาหมดแล้วกลับผุดขึ้นมาอีกครั้งเหมือนเมฆฤดูร้อน
?แล้วถ้าเป็นเจ้าจะว่าไง ถ้าเจ้าเป็นข้า จะแต่งงานกับเจ้าหญิงออซมาเนียที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาได้เหรอ?? เขาพูด
?ได้อยู่แล้ว?
ซาลามิสพยักหน้าตอบอย่างไม่ลังเล
?มะ ไม่จริง....ทำไมล่ะ....?
?ก็ข้าต้องการเงินนี่นา มันช่วยไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะขึ้นเป็นดยุคนันเซอย่างไม่ลังเล และใช้ชีวิตร่วมกับเจ้าหญิงอย่างสง่างามพลางปล่อยให้สภานันเซจูงจมูกตามสมควร?
?งะ ไหงเป็นงั้นล่ะ!??
ทั้งที่ซาลามิสยังเป็นเด็กอายุสิบสามเท่าเขา แต่ทำไมถึงพูดอย่างไร้ความฝันและความหวังเช่นนั้น ซึ่งมันทำให้เขาเผลอขึ้นเสียงกล่าวโทษอีกฝ่าย แต่ซาลามิสไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
?ก็ตระกูลลอยน์สำคัญกับข้านี่นา?
?เอ๊ะ....?
?ถ้ามันทำให้ยายวิลลี่มีความสุข และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสุขสบาย ไม่ว่าเจ้าสาวจะหน้าเห่ย ติดโรคอะไรมาข้าก็จะแต่งงานด้วย ถ้าข้าทำแบบนั้นได้จริงๆ ล่ะก็....?
สีหน้าจริงจัง
นัยน์ตาสีฟ้าใสไร้มารยาใดๆ ทำให้เขาตระหนักว่าน้องชายตนพูดความจริงล้วนๆ
(เพื่อครอบครัวรึ....)
เขาพูดไม่ออกขึ้นมา
พวกเขารู้ดีกว่าวิลลี่หัวหน้าตระกูลลอยน์ แม่และยายคนสำคัญของพวกเขา รับลูกนอกสมรสของพี่สาวมาเลี้ยง รับเขยซึ่งเป็นญาติห่างๆ เข้าบ้านเพื่อสืบทอดตระกูลแทนพี่สาวผู้ล่วงลับ ใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวหลานสาวและต้องลำบากตรากตรำหาเงินเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด
เสมียนศาลากลางหรือนักบัญชีเงินกู้ ต่อให้มีความรู้จบจากมหาวิทยาลัยก็เป็นแค่อาชีพต๊อกต๋อย ผิดกับการเป็นอัศวินหรือขุนนางที่ใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งร่ำรวยในเมืองหลวงหรือหัวเมืองใหญ่ ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องออกไปทำงานที่บ้านชนชั้นสูง พอมีลูกก็ทำงานหารายได้เสริมอยู่บ้าน แต่ที่วิลลี่ออกไปเป็นแม่นมให้ตระกูลบารอนก็เพราะตระกูลลอยน์ขัดสนจนนางต้องออกไปทำงานทันทีหลังคลอดลูก
เพราะอย่างนั้นซาลามิสถึงต้องการเงิน
เขาอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยครอบครัวที่ลำบากมาตลอด ต่อให้น้องต่างสายเลือดคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วยหัวใจของเด็กคนหนึ่ง มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร
?เข้าใจแล้ว?
เกรสนีละอายใจอยู่ลึกๆ เมื่อรู้ว่าน้องชายต่างสายเลือดวัยเดียวกันที่ดูเหมือนยังไร้เดียงสา แท้จริงแล้วเป็นห่วงครอบครัวอย่างจริงจังมากกว่าใครทั้งหมด
เขาเองก็รักตระกูลลอยน์ที่เลี้ยงดูครอบครัวและตัวเองมาจนถึงตอนนี้ เพราะเหตุนั้น หากมีสิ่งที่เขาสามารถทำได้ และหากปัญหาเรื่องผู้สืบทอดนันเซที่โผล่มาตอนนี้เป็นโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัวครั้งเดียวในชีวิตของเขาล่ะก็ เขาก็อยากจะกระโดดเข้าใส่วังวนปัญหานั้นให้มันรู้แล้วรู้รอด
เกรสนีโผล่หัวจากผ้าห่มออกมาพูดเหมือนกำลังบอกตัวเองว่า
?ข้าจะไปอเจนเซน จะลองไปพบอาร์คดยุคและพยายามเอาชนะใจเขาให้ได้ ในฐานะซาลามิส?
?มันต้องอย่างนี้สิ!?
ลอนผมสีน้ำผึ้งผลุบออกมาจากผ้าห่ม ตามด้วยใบหน้างดงามคุ้นตาที่ส่งยิ้มละไมให้เขา
?ถ้ามีเจ้ากับข้า ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไป เกรสนี ข้าจะปกป้องเจ้าตลอดไป เพราะไม่ว่าอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเมื่อไหร่ เจ้าก็เป็นพี่และเพื่อนวัยเด็กคนสำคัญของข้า?
เกรสนียิ้มให้น้องโดยไม่พูดอะไรมากกว่านั้น
เขารู้สึกเย็นขาเล็กน้อย เพราะมันยื่นออกไปนอกเตียง
(เมื่อก่อนเราเคยนอนเตียงเดียวกันสินะ ตอนอากาศหนาวๆ เราจะเอาเสื้อหลายๆ ตัวมาห่มทับแล้วค่อยนอน)
พอโตขึ้นเตียงก็เล็กลง พวกเขาเลยขอให้พ่อทำเตียงให้อีกหลัง
สุดท้ายมันก็เล็กกว่าตัวเขาอยู่ดี ตอนนี้พอนอนยืดขาตรงๆ แล้วขาจะโผล่ทุกที
แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็ดีที่สุด
ตั้งแต่ออกไปเป็นนักรบรับจ้างฝึกหัด เขาแทบไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกว่าที่นี่ผ่อนคลายอยู่ดี (แม้จะได้ห้องพักเป็นเรื่องเป็นราวก็ตาม) พวกเขานอนตัวติดกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะถ้าพูดถึงสถานที่ส่วนตัวของพวกเขาในบ้านแคบๆ หลังนี้ล่ะก็ มันก็คือเตียงนี้เท่านั้น....
สักวันหนึ่งพวกเขาคงต้องออกจากบ้านหลังนี้ไปนอนเตียงที่เหมาะกับความสูงของพวกเขา เตียงขนาดใหญ่สำหรับนอนกับคู่ชีวิตโดยไม่ต้องเอาเก้าอี้มาต่อปลายเตียง
(แต่มันเป็น ?อนาคต? ตอนนี้พวกเราอยู่ที่นี่....)
เขาหยุดเงี่ยหูฟัง และได้ยินเสียงกรนสบายใจข้างๆ หู
?ซาลา หลับแล้วเหรอ? เร็วชะมัด?
นิสัยหลับง่ายไม่เปลี่ยนทำให้เกรสนีเกือบหลุดขำ เขาใช้นิ้วเขี่ยลอนผมอ่อนนุ่มของน้องชาย และหลับตาลงช้าๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ระหว่างเทศกาลเสี่ยงโชคซึ่งมีครั้งเดียวในรอบสิบปี ที่ซึ่งผู้คนสนุกกับการปลอมตัวปิดบังซาติกำเนิดของตัวเอง เกิดปัญหาผู้สืบทอดเจ้าผู้ครองนครนันเซ ดินแดนทางเหนือของอาณาจักรดยุคอเจนเซนขึ้น ในช่วงนั้นจิลกับลูซีโด้ต่างแอบทำบางอย่างโดยไม่ให้อีกฝ่ายล่วงรู้ และคนที่ฉวยโอกาสบุกเข้ามาก็คือออซ เจ้าชายหนุ่มจากประเทศเพื่อนบ้าน เขาในวัยสิบสามเป็นคนทะเยอทะยานจอมวางแผน และคิดจะยึดนันเซเป็นของตัวเอง การชิงไหวชิงพริบระหว่างจิลกับออซจึงเริ่มต้นขึ้น! ส่วนลูซีโด้ในตอนนั้น...!?
