ฤดูใบไม้ผลิ เป็นฤดูกาลที่อากาศอบอุ่น อีกทั้งยังมีดอกไม้ผลิบาน บรรยากาศจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เพราะอิทธิพลฤดูนี้ได้ย่างกรายไปทั่วทั้งพื้นดินได้อย่างทัดเทียมโดยไม่มีการแบ่งแยก มันจึงนำพาเอาความอบอุ่นแทรกซึมไปทั่วทุกพื้นที่ เมื่อมองไปรอบๆ จะเห็นทัศนียภาพอันงดงามไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือนอกเมืองก็ตาม
เสียงลือเสียงเล่าอ้างของวิหารมิเลทัส (????????) อันศักดิ์สิทธิ์บ่งบอกถึงกิตติศัพท์ความลึกลับน่าพิศวงได้เป็นอย่างดี เพราะหากใครมีสิ่งที่ตัวเองปรารถนาจะสามารถอธิษฐานแล้วได้ตามความประสงค์
ภายในวิหารอันวิจิตรงดงามห้องโถงใหญ่ประดับประดาไปด้วยของตกแต่งและรูปแกะสลักหรูหรา มีน้ำพุเย็นชื่นใจที่ไหลจากด้านนอกส่งมาตามท่อน้ำ ผ่านแร่หินร้อนเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ มันพุ่งออกมาจากปากของสัตว์สตัฟฟ์ดูดุร้ายน่ากลัวราวกับมันมีชีวิต รินไหลลงบนอ่างเก็บน้ำที่ทำมาจากหินหยก ไอน้ำเลือนรางค่อยๆ ลอยตัวสูงขึ้น ทำให้วิหารแห่งนี้เหมือนดั่งดินแดนในความฝัน ดูลวงตาเหมือนว่ามันไม่มีอยู่จริง
หากมองไปทางด้านทิศตะวันออก จะมีรูปปั้นองค์เทวดาซึ่งมีรูปกายสง่างาม มีปีกขนาดมหึมาชวนมอง ใบหน้าทรงเสน่ห์นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
?มิคาเอล? คือเทวดาผู้มีจิตใจดี ซึ่งมีไว้สำหรับขอพรอันเป็นศรีแก่ตัว
ส่วนทางด้านทิศตะวันตก จะมีรูปปั้นองค์ซาตานซึ่งมีรูปกายสง่างาม มีปีกทรงเสน่ห์ชวนหลงใหล ใบหน้างดงามเต็มเปี่ยมไปด้.็นชา ใบหน้าถมึงทึงได้อย่างคงเส้นคงวาแลดูน่ากลัว
?ลูซิเฟอร์? ซาตานจอมโหด ซึ่งมีไว้สำหรับสาปแช่งคนอื่น
ซ้าย... ขวา... ซ้าย
เสียงฝีเท้าดังต่อเนื่องสม่ำเสมอบริเวณทางเดินของวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ ร่างบางที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนเซนต์มิเลทัสก้าวย่างไปตามทางที่ทอดยาวอย่างช้าๆ แขนเรียวกวัดแกว่งไปมาอย่างร่าเริงพร้อมฟังเสียงรองเท้ากระทบพื้นด้วยใบหน้าที่ไม่เคยปราศจากรอยยิ้ม
ทันใดนั้นสายลมโหมกระพือทำให้กิ่งไม้เสียดสีจนเกิดเป็นเสียงเหมือนกรีดเล็บกับกระดานดำ เหล่านกน้อยเกาะบนกิ่งไม้แห้งพากันกระพือปีกบินสู่ท้องฟ้าพร้อมเสียงร้องแหลมสูงอย่างตื่นตระหนก
?ดิสนีย์? เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศภายในวิหารเงียบสงบผสมกับวังเวง หัวใจของเธอเต้นโครมครามจนเกือบจะหวีดร้องออกมาเมื่อมองไปรอบด้านมืดตื๋อ มืดจนอีกายังบินชนต้นไม้เลยด้วยซ้ำ
ต้องรีบ ต้องรีบแล้ว!
กึก!
เมื่อเข้ามาด้านในรองเท้านักเรียนสีดำเป็นมันปลาบหยุดชะงัก
?เอ๊ะ... ซ้ายหรือขวานะ? ริมฝีปากบางพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา ศีรษะหันไปทางนั้นทีทางโน้นที
?เอาทางนี้ก็แล้วกัน?
ร่างบางตัดสินใจคุกเข่าลงตรงหน้ารูปปั้นซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก จากนั้นเปลือกตาบางปิดลงอย่างช้าๆ พร้อมทั้งมือเรียวเกาะกุมกันเอาไว้ตรงหน้าอกแน่น
?องค์มิคาเอลคะ? ริมฝีปากบางขยับพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา ?ฉันต้องการให้คนที่คิดร้ายกับฉันมีแต่ความสุข เพราะถ้าเธอคนนั้นมีความสุขแล้วจะได้ไม่ต้องคิดร้ายกับผู้อื่นค่ะ?
หญิงสาวผู้มีปณิธานอันสูงส่งที่ต้องการให้โลกใบนี้สงบสุขและมีแต่รอยยิ้มพร่ำอธิษฐานขอพรกับรูปปั้นที่อยู่ตรงหน้า โดยไม่รู้เลยว่ารูปปั้นนั้นไม่ใช่องค์มิคาเอลอย่างที่เธอคิดแต่อย่างใด
วี้ดดดดด! เปรี้ยง!
ฉับพลันทันใดเสียงแหลมเล็กดังขึ้น ฟ้าแลบแปลบเป็นสายเข้ามาภายในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องจนทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด เมื่อได้ยินดังนั้นหญิงสาวลืมตาขึ้นและได้แต่ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
?กะ...เกิดอะไรขึ้น?
ดวงตากลมโตได้แต่จับจ้องไปยังหมอกหนาวเย็นที่แผ่ปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ เพียงแค่เห็นเรี่ยวแรงที่มีอยู่กลับหดหายไปหมดสิ้น เป็นผลทำให้ร่างบางที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นอย่างไร้การทรงตัว
?ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าองค์มิคาเอลจะตอบรับคำอธิษฐานได้อย่างน่าอัศจรรย์มากมายขนาดนี้?
เธอพึมพำออกมาก่อนจะพยุงกายลุกขึ้นจากพื้นอย่างทุลักทุเล เมื่อหยัดกายขึ้นเต็มความสูง หญิงสาวพนมมือขึ้นอีกครั้ง
?ขอบคุณองค์มิคาเอลมากนะคะที่รับคำอธิษฐานของฉัน แม้ฉันอาจจะคิดไปเองก็เถอะ แต่ก็ขอบคุณมากค่ะ? สิ้นคำพูดหญิงสาวก็ก้าวเดินออกมาจากวิหารโดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าสิ่งที่เธอทำเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมหันต์
หึ...
ลับหลังร่างบาง ร่างสูงผู้เป็นเจ้าของเรือนผมสีดำลึกล้ำยิ่งกว่าก้นบึ้งมหาสมุทรกำลังปรากฏกายขึ้น ปีกสีเดียวกับท้องฟ้ายามค่ำที่สยายอย่างสง่าอยู่กลางแผ่นหลังขยับเคลื่อนไหวกลมกลืนไปกับความมืดมิดภายในวิหารแห่งนี้ ชายหนุ่มยืนกอดอก ใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึงดูเย็นชา เรียวคิ้วขมวดมุ่น นัยน์ตาสีแดงเพลิงทอประกายระริกด้วยอารมณ์ที่มิอาจคาดเดาได้
มนุษย์ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด บ้างก็ช่างประจบประแจง บ้างก็จอมปลอมแสแสร้งแกล้งทำเป็นดี บ้างก็สัตย์ซื่อจริงใจจนน่ารำคาญ ช่างมีหลากร้อยหลายพันโฉมหน้านัก
ยิ่งได้เห็นยิ่งได้รับรู้ทำให้ลูซิเฟอร์ประหลาดใจได้ตลอดเวลา แต่ก็มีบางครั้งที่ทำให้เขาตื่นตกใจ
ช่างมีความขัดแย้งในตัวเองเสียจริง มนุษย์หนอมนุษย์
นัยน์ตาคมสีแดงเพลิงจับจ้องแผ่นหลังร่างบางนั้นทอประกายกร้าว... ไร้ปรานี และอันตราย
?ฉันคือซาตานนามว่าลูซิเฟอร์ อยากจะไปขอพรบ้าๆ แบบนี้ก็ต้องไปขอกับมิคาเอลสิ!?
1
บางอย่างไม่มีเหตุผล มนุษย์ทุกคนไม่ได้เข้มแข็ง
บางครั้งสมองคิดได้แต่ใช่ว่าหัวใจจะทำตาม
เพราะฉันมีชีวิตเหมือนเจ้า ?หุ่นกระบอก?
ที่ถูกใครบางคนชักใยอยู่เบื้องหลัง
ให้เคลื่อนไหวไปตามที่คนคนนั้นต้องการ
จนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ด้วยตัวเอง
ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้อยากเป็นเจ้า ?หุ่นกระบอก?
ไม่ต้องการเคลื่อนไหวได้โดยอาศัย ?คนอื่น? ชักใยให้
ขอได้ไหม... ขอให้ฉันได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสียที
องค์มิคาเอลคะ...
คืนนี้ฉันฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่งดงามราวกับเทวดา ประหนึ่งองค์มิคาเอลที่อยู่ในวิหารมิเลทัสเดินไปเดินมาได้จริงๆ เลยค่ะ
บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นละมุนละไมราวกับอยู่บนสวรรค์
แต่น่าแปลกนะคะ... ทำไมเทวดาองค์นั้นถึงได้มีเรือนผมสีดำยาวเหยียดตรงถึงกลางหลัง นัยน์ตาสีแดงเพลิงเปล่งประกายวูบวาบ ซ้ำเขายังมีปีกสีดำขนาดมหึมาอยู่กลางแผ่นหลังอีกต่างหาก
ทำไมเขาไม่เหมือนเทวดาอย่างที่ฉันจินตนาการเอาเลยล่ะคะองค์มิคาเอล?
?ก็เพราะฉันไม่ใช่มิคาเอลน่ะสิยัยโง่!?
เฮือก!
O_O
ฉันสะดุ้งเฮือกก่อนจะลืมตาขึ้นมาจากฝันร้าย มันเป็นฝันร้ายจริงๆ ด้วย!
จากนั้นฉันกะพริบตาสองสามทีเพื่อปรับรูม่านตาให้รับกับแสง บรรยากาศรอบตัวที่เคยเย็นยะเยือกแบบในฝันค่อยๆ จางหายไปกับอุณหภูมิในห้องที่ร้อนกว่าหนึ่งร้อยองศา (เว่อร์) ตอนนี้ทุกสิ่งดูจะเป็นภาพซ้อน ทั้งหลอดไฟบนเพดาน ผ้าม่านด้านซ้ายมือ หน้าต่างเปิดค้าง แสงแดดส่องสว่างผ่านหน้าต่างกระจก ดูจากมุมของแสงยังเป็นช่วงเช้าอยู่
...ที่นี่ที่ไหนนะ
ฉันหลับตาแล้วลืมขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาในสภาพปกติ ความทรงจำและสติสัมปชัญญะกลับคืนมา
...ห้องของเรานี่นา
หลังผ่านความฝันอันยาวนาน ทั้งที่จำเรื่องราวไม่ได้เลย บางครั้งกลับรู้สึกเหมือนยังมีเสียงสะท้อนจากฝันก้องกังวานอยู่ในหัว มันใกล้เคียงกับความรู้สึกในขณะนี้มากเลยทีเดียว ซึ่งความจริงตอนแรกฉันเองก็คิดว่าเป็น ?ความฝันที่ลืมเลือนทันทีเมื่อลืมตาตื่น? แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้น
ฉันอาบน้ำพร้อมทั้งล้างหน้าล้างตาด้วยความรู้สึกไม่ปลอดโปร่งนัก แม้แต่ตอนนั่งกินข้าวเช้า ความรู้สึกนั้นก็ยังคงอยู่ เศษเสี้ยวแห่งความทรงจำล่องลอยกระจัดกระจายอยู่ในหัว ฉันจำได้ว่าในฝันได้พบกับชายหนุ่มร่างสูง จมูกโด่งใต้แพขนตางอนสวย เส้นผมสีดำเป็นประกายงดงามยาวเต็มแผ่นหลัง ที่ไม่ว่าจะมองยังไงคนตรงหน้าก็เป็นผู้ชายตัวเป็นๆ เห็นชัดๆ!
ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ?
?เอาเถอะ ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องนี้ ต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนแล้วล่ะ?
วันนี้เป็นเช้าที่สดใสมากสำหรับฉันที่กำลังทำความสะอาดวิหารมิเลทัส ทุกๆ วันฉันจะทำการเช็ดถูรูปปั้น และทำความสะอาดภายในวิหาร จากนั้นก็รดน้ำต้นไม้ด้านนอก เก็บซากขวดน้ำของบรรดานักเรียนร่วมสถาบันที่ต่างก็เข้ามาขอพรที่วิหารแห่งนี้ ซึ่งมันเป็นชั่วโมงแห่งการทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมที่ฉันคิดว่าเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันมีความสุข J
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ฉันเหม่อมองไปยังรูปปั้นหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งรูปปั้นสององค์นั้นแต่งกายด้วยชุดกรีกโบราณ กลมกลืนไปกับความงามของรูปร่างนั้นเปล่งประกายชวนให้รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์
ซึ่งรูปปั้นสององค์นี้ก็คือองค์ซาตานและองค์เทวดา
องค์หนึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตก อีกองค์หนึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออก แม้ฉันจะมาที่นี่เพื่อช่วยซิสเตอร์มารีอาซึ่งเป็นผู้ดูแลวิหารทำความสะอาด แต่ว่าฉันมักจะหลงลืมไปเสียทุกครั้งว่าองค์ไหนคือท่านมิคาเอล องค์ไหนคือท่านลูซิเฟอร์
คือง่ายๆ ฉันเป็นพวกหลงทิศนั่นเอง ^^
ฉันวางผ้าเช็ดถูไว้บนพื้นก่อนจะเอามือประสานกันเพื่อสวดมนต์ขอพรอธิษฐาน
?องค์มิคาเอลคะ... ฉันขอให้ตัวเองอย่าได้ฝันถึงผู้ชายน่ากลัวคนนั้นอีกเลยนะคะ? ฉันหยุดคิดเล็กน้อย ขออะไรต่อดีน้า... ?อ้อ แล้วก็ขอให้วันที่อากาศดีๆ อย่างเช่นในวันนี้จงดลบันดาลให้คนที่กำลังคิดร้ายกับตัวเองได้พบเจอกับความสุขค่ะ?
ฉันพร่ำอธิษฐานก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นเหม่อมองรูปปั้นที่ตัวเองคุกเข่าอยู่
แต่องค์เทวดาที่อยู่ตรงหน้ากลับมีบางอย่างแปลกไป
มีเขา?
เขา?
เอ๊ะ... เขา?
องค์มิคาเอลมีเขาด้วยเหรอ?
?ดิสนีย์! มัวแต่อืดอาดยืดยาดอะไรอยู่ได้ นี่ใกล้จะเข้าแถวเคารพธงชาติแล้วนะ? เสียงของซิสเตอร์มารีอาดังขึ้นขัดความคิดของฉัน
?ค่าๆ? ฉันบอกเสียงใสก่อนจะผุดลุกขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ?หนูไปก่อนนะคะซิสเตอร์มารีอา?
?พระเจ้าคุ้มครองนะดิสนีย์? ซิสเตอร์มารีอายกมือขึ้นแตะหน้าผาก อก และใต้บ่าซ้ายและขวาเป็นรูปไม้กางเขนพร้อมกับพึมพำออกมาเสียงเบา
?พระเจ้าต้องคุ้มครองหนูอยู่แล้วค่ะ? ฉันตอบกลับเสียงใสก่อนจะวิ่งตัวปลิวออกมาจากวิหารอย่างเป็นสุข
ใช่... พระเจ้าต้องคุ้มครองฉันอยู่แล้วล่ะ J
ทันใดนั้นร่างของฉันก็ชนเข้ากับร่างของใครคนหนึ่งที่เดินสวนเข้ามา เป็นผลทำให้ร่างของฉันทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น
?เจ็บจัง? ฉันบ่นงุบงิบก่อนจะพยายามลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล
?เธอกล้าดียังไงถึงได้วิ่งมาชนฉัน!?
?ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ? ฉันบอกเสียงเบาพร้อมๆ กับก้มหน้าลงมองพื้น
?เธอนี่มันก็ดีแต่ขอโทษ... น่าหมั่นไส้จริงๆ? ผู้หญิงคนนี้พูดแล้วใช้มือข้างหนึ่งผลักหัวไหล่ของฉันก่อนจะเดินปึงปังเข้าไปในวิหารอย่างไม่ใส่ใจ
?ฉันขอโทษนะที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ดี? ฉันตะโกนบอก หากแต่ว่าคู่สนทนาหันกลับมามองหน้าฉัน ทำหน้าราวกับว่าฉันทำเรื่องผิดเสียเต็มประดา
ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่เป็นไรจริงๆ เพราะฉันจดจำคำสอนของซิสเตอร์มารีอาเอาไว้อยู่เสมอว่าให้ฉันเอื้อเฟื้อและมีเมตตาต่อผู้อื่น
เอาเป็นว่าฉันขอแนะนำตัวหน่อยแล้วกัน ชื่อของฉันคือ ?ดิสนีย์? ซึ่งเป็นผู้หญิงที่อยู่ภายใต้ปณิธานอันสูงส่ง เพราะฉันอยากให้โลกใบนี้มีแต่รอยยิ้ม J
และปณิธานที่ยิ่งใหญ่ของฉันทั้งหมดก็คือ...
หนึ่ง... จิตใจของพวกเราใสสะอาด ภายใต้แสงแดดใสกระจ่างในยามเช้า
สอง... ปัญญาที่เฉียบแหลม มุ่งเน้นให้กับการศึกษา
สาม... บุคลิกร่าเริง ทุกท่วงท่าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
สี่... มิตรภาพที่งดงาม ความสนิทสนมกลมเกลียวและสามัคคี
หากแต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นแค่ปณิธานงี่เง่า ไร้สาระ เพราะทุกวันนี้ฉันมักจะโดน ?คุณโมนาลิซ่า? ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของตำแหน่งดวงดาวแห่งมิเลทัสกลั่นแกล้งอยู่เสมอ เช่น การเอาหนังสือเรียนของฉันไปซ่อนบ้างล่ะ เอามีดมากรีดโต๊ะเรียนของฉันบ้างล่ะ และที่หนักสุดนะคือผู้หญิงคนนั้นห้ามไม่ให้เพื่อนๆ ในห้องเรียนพูดคุยกับฉัน โดยที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทำอะไรให้เธอโกรธเคืองนักหนา ทั้งๆ ที่ฉันก็อยู่อย่างสงบและมักจะปลีกตัวมาอยู่กับซิสเตอร์มารีอาแทบทุกวันที่ว่างเว้นจากการเรียน
?องค์มิคาเอลคะ อย่าลืมคำอธิษฐานของดิสนีย์นะคะ? ฉันพูดพร้อมกับนึกไปถึงองค์เทวดาผู้มีเขาองค์นั้น!
เอาล่ะ... รีบไปเข้าแถวเคารพธงชาติดีกว่า เมื่อคิดได้แบบนี้ฉันก็รีบปัดกระโปรงนักเรียนของตัวเองก่อนจะออกตัวเดินต่อ และคราวนี้จะไม่วิ่งทะเล่อทะล่าอีกแล้ว ฉันค่อยๆ ย่างเท้าไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอ
ทันใดนั้นกลุ่มเมฆดำเคลื่อนปกคลุมเนินเขาที่เคยเงียบสงบ พร้อมๆ กับร่างของฉันที่ชะงักกึกหยุดอยู่กับที่ เมื่อมีร่างสูงร่างหนึ่งที่สวมเสื้อยืดสีดำทับด้วยเสื้อสูทสีเดียวกัน กับกางเกงยีนขาดเซอร์สีดำสนิท ท่าทางของเขาเย่อหยิ่งหากก็เต็มไปด้วยเสน่ห์เกินต้านทาน เขาเดินเข้ามาดักหน้ากันทางเดินเอาไว้อย่างแน่นหนา
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโผล่มาจากไหน แต่รู้แค่ว่าผู้ชายตรงหน้าทำให้ฉันรู้สึกอย่างกับยืนอยู่กลางทุ่งโดยมีลมหนาวจากไซบีเรียพัดผ่านให้เสียววาบยังไงยังงั้น
?เธอจะหยามฉันมากเกินไปแล้วนะ!? ริมฝีปากข้างหนึ่งของเขาเผยอขึ้นเผยให้เห็นเขี้ยวสีขาวสะท้อนแสงแดด
ลองคิดดูเถอะว่าบนเนินเขาอันเงียบสงบในเขตวิหาร กับผู้ชายใส่แว่นกันแดดสีดำที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องสงสัยเป็นเรื่องธรรมดา
?นายเป็นใคร ฉันไปหยามอะไรอย่างนั้นเหรอ??
แก้มของฉันเริ่มพองออกด้วยความไม่พอใจในการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของชายน่าสงสัยตรงหน้า
?ยังมีหน้ามาถามแบบนี้อีกหรือไง ฉันเป็นใครเธอน่าจะรู้ดีนี่?
หว่างคิ้วของเขาย่นเข้าหากัน ริมฝีปากสวยได้รูปกระดกยิ้มอย่างหาดูได้ยาก หัวใจของฉันเต้นโครมครามเหมือนฟ้าร้องอยู่ข้างใน
ใช่แน่ๆ... ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคนร้ายเหมือนที่เคยดูในทีวีไม่ผิดแน่
?ย้าก!? ฉันร้องเสียงดังพลางก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้ขาของตัวเองเตะออกไปยังเป้าหมาย มันคือร่างของชายตรงหน้า หากแต่ว่าเขากลับหลบได้อย่างฉิวเฉียด เป็นผลทำให้ฉันหงายหลังพรืดล้มก้นจ้ำเบ้าไปอีกครั้ง
?จะ...เจ็บจังเลย?
ในขณะที่ฉันพยุงตัวลุกขึ้นจากพื้นอย่างทุลักทุเลอีกครั้ง ชายคนเดิมเดินตรงเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ ชายหนุ่มผมสีดำที่สวมแว่นกันแดดนั้น เขาค่อยๆ เอื้อมมือไปถอดแว่นที่บดบังใบหน้าของตัวเอง
ในช่วงเวลาที่สบตากัน หัวใจของฉันแทบจะหยุดเต้น
O_O ผะ...ผู้ชายคนนี้อย่างกับเทวดาเลย งดงามเหมือนองค์มิคาเอลเลยอะ
ฉันนึกย้อนไปถึงองค์มิคาเอลที่อยู่ในวิหารมิเลทัส
ขอโทษนะคะท่านมิคาเอล ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะงดงามมากกว่าท่านเสียอีก
ผู้ชายคนนี้เป็นเทวดาจริงๆ ใช่มั้ย?
เป็นองค์มิคาเอลใช่มั้ย?
ทันใดนั้นเขาก้มตัวลงมาให้พอดีกับความสูงของฉัน และจ้องหน้าของฉันนิ่ง
?เธอคิดจะหยามเกียรติของฉันไปถึงเมื่อไหร่ฮะ!? เขาตะคอกฉันเสียงดัง พร้อมๆ กับที่ฉันรู้สึกว่าพื้นดินเกิดแรงสั่นสะเทือน ไม่รู้ว่าฉันรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่ร่างของฉันสั่นสะเทือนจนรู้สึกได้
?ฉันไม่ใช่เทวดา!?
?เอ๊ะ...? เขารู้ได้ไงว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่
?และฉันก็ไม่ใช่มิคาเอลด้วย!?
สีหน้าโกรธเคืองของเขาทำให้ฉันถึงกับรีบหลบสายตาของเขาแทบจะทันที
?กะ... ก็... ฉะ... ฉันแค่แอบคิดเองนะ (._.)? ฉันพึมพำเสียงเบาราวกับกระซิบ
ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกแต่เขากลับพูดจาไม่มีมารยาทกับฉัน แม้รูปร่างหน้าตางดงามเหมือนเทวดามากแต่ทำไมเขาใจร้ายจังเลย T.T
?แค่แอบก็ห้ามคิด เข้าใจมั้ย??
น้ำเสียงเย็นชาทำให้ฉันไม่รู้ว่าจะเอาสายตาไปมองตรงไหน ได้แต่ยืนหดตัวห่อไหล่อยู่อย่างนั้น อารมณ์เหมือนลูกหมาที่ทำอะไรผิดแล้วถูกเขาจับได้
?อะ...อือ T.T? ฉันตอบพร้อมๆ กับค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา
ทำไมล่ะ ก็เขางดงามเหมือนเทวดานี่นา แล้วอีกอย่างฉันก็แค่แอบคิดเองนะ เขามาล่วงรู้ความคิดของคนอื่นได้ไง
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันอดสังเกตไม่ได้ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้หน้าตาหล่อเหลาแบบสุดๆ ไปเลย เขามีใบหน้าคมคาย ริมฝีปากกับดวงตาที่ดูก้ำกึ่งระหว่างความงามแบบผู้หญิงหรือว่าหล่อเข้มแบบผู้ชาย ผมสีดำสนิทของเขาปรกลงมาเหนือคิ้ว เขาน่าจะอายุสิบแปดหรือไม่ก็ยี่สิบได้ มันยากที่จะบอก ท่วงท่าของเขาดูสมบูรณ์แบบ และก็มีรังสีแห่งความสงบเยือกเย็นแบบผู้ดีอะไรสักอย่างแผ่ออกมาอีกด้วย
ฉันสูดลมหายใจดังเฮือก ?เขาหล่อชะมัด?
แต่เอ๊ะ... ใบหน้าแบบนี้ ดวงตาสีแดงเพลิงกับจมูกโด่งๆ รับกับผมสีดำสนิทแบบนี้ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
อ๊ะ... ใช่แล้ว!
ฉันนึกออกแล้ว!
ผู้ชายคนนี้คือท่าน ?เทวดา? น่ากลัวที่อยู่ในฝันนี่เอง!
T.T ทำไมผู้ชายในฝันถึงได้มาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าของฉันได้ล่ะ นี่ฉันเพ้อไปแล้วใช่มั้ย?
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจอธิษฐาน ?ขอให้คนที่คิดร้ายกับฉันมีแต่ความสุข? แต่เพราะดันหลงทิศไปขอพรจากเทพผิดองค์ จึงทำให้ฉันต้องเผชิญหน้ากับซาตานผู้ไม่เคยปรานีใครอย่าง ?ลูซิเฟอร์? เขาบอกว่าคำขอพรของฉันมันน้ำเน่า ไม่มีมนุษย์โลกที่ไหนเขาขอกันหรอก ก่อนจะสาปให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ ตอบโต้ทุกคนที่ทำร้ายฉันกลับอย่างเจ็บแสบ ตอนนี้ทุกคนเลยพากันเกลียดฉัน กลายเป็นรอบด้านมีแต่ศัตรูทั้งนั้นเลย แง้~ ฉันก็แค่มองโลกในแง่ดีเท่านั้น มันผิดตรงไหนกันเล่า! ไอ้ซาตานใจโฉด! ทำให้ฉันกลับไปเป็น ?ดิสนีย์? ที่แสนดีคนเดิมเดี๋ยวนี้เลยนะ!!
?องค์ลูซิเฟอร์คะ ช่วยดลบันดาลให้คนที่คิดร้ายกับฉันมีความสุขไม่ได้เหรอคะ??
?ฉันเป็นซาตาน จะไปทำอย่างนั้นได้ยังไงล่ะยัยโง่!?
