?เฮ้ย...มีคนมา?
เสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกนั้นดังขึ้น อัสมารู้สึกว่าร่างที่กำลังทำประทุษร้ายต่อร่างกายเธอนั้นผุดลุกพรวดขึ้นกระโจนหนีตามพวกที่รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดกันไปก่อนหน้านี้ ต่างพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง
อัสมาในสภาพบอบช้ำ ยังงงทำอะไรไม่ถูก แขนขาสั่นสะท้านอ่อนปวกเปียกด้วยความตื่นตระหนก นอนในสภาพเกือบเปลือย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
เธอพยายามยันตัวลุกขึ้นแต่ลุกไม่ไหว
อัสมากัดฟันส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกไป กรามกระทบกันดังกึกๆ เพราะยังหวาดกลัวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หาย
ปาฏิหาริย์เหลือเกิน
อัสมาคิดว่าตัวเองไม่รอดแล้ว
เธอโล่งใจเหลือเกินเมื่อรับรู้ว่ามีใครบางคนผ่านมาช่วยเธอเอาไว้ และไล่พวกนั้นเตลิดหนีกันไปจนหมด
อัสมาอยากร้องไห้ออกมา...ไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะผ่านเสี้ยวนาทีชีวิตอันโหดร้ายมาได้
อัสมาคงถูกข่มขืนป่นปี้ถ้าใครคนนั้นไม่ผ่านมาช่วยเหลือ...
มีคนไล่พวกนั้นกระเจิงหนีไป ทันทีที่ตั้งสติได้หญิงสาวก็ร้องไห้ออกมา เนื้อตัวสั่นเทิ้ม
?ฉันอยู่นี่ค่ะ...ช่วยด้วย?
อัสมามองเห็นเงาตะคุ่มที่เดินตรงรี่เข้ามา...ร่างสูงทะมึนนั้นยืนตระหง่านจนดูน่าสะพรึงกลัว
ทำให้อัสมางอตัว ปิดบังร่างเกือบเปลือยเอาไว้ด้วยความรู้สึกอดสูตัวเองที่อยู่ในสภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ร่างสูงนั้นดูแข็งแรง ดูน่ากลัวอย่างยิ่ง
อัสมาเริ่มใจคอไม่ดี
อดนึกหวาดหวั่นไม่ได้ว่าตัวเองจะถูกข่มขืนซ้ำ
ผู้ช่วยเหลือเธออยู่ในท่ายืนแยกขาน้อยๆ มือเท้าสะเอว ทอดตามองอัสมานิ่งอยู่ ไม่มีเสียงใดลอดผ่านออกมา
?ช่วยด้วย...?
?สมน้ำหน้าแล้วนี่ ออกมาเดินมืดๆ ค่ำๆ ไม่น่าช่วยเลยจริงๆ ผู้หญิงอย่างนี้?
เสียงนั้นทำให้อัสมาผงะตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
เสียงนั้นแสดงออกถึงความชิงชังรังเกียจดูหมิ่นอย่างเต็มที่ ขณะยืนจังก้าอยู่ตรงเบื้องหน้าร่างบางที่อยู่ในสภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
อัสมามองร่างสูงอย่างงุนงง พูดอะไรไม่ออก
เขามาว่าเธอทำไมกันนี่?
เขาช่วยเธอไม่ใช่หรือ ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้?
ทั้งที่อยากจะปฏิเสธคำกล่าวหานั้นออกไป แต่ไม่มีเสียงใดๆ ลอดออกมา เธอได้แต่มองเขานิ่ง
อัสมาเม้มปาก กัดฟันพยายามลุกขึ้น...
ถ้าเป็นไปได้เธอไม่อยากขอความช่วยเหลือผู้ชายคนนี้เลย ให้ตายเถอะ! เขาช่วยเธอแล้วทำไมต้องพูดจาดูแคลนแบบนี้ด้วย
?ผมคงไม่ได้มาขัดความสำราญของคุณหรอกนะ...หรืออยากให้ผมไปตามไอ้พวกนั้นกลับมา?
อีกฝ่ายพูดเสียงห้าว เต็มไปด้วยความดูแลน เขาทอดตามองเธอด้วยใบหน้าแข็งกระด้างราวกระดาษทรายหยาบ
ตอนนี้เธอเพิ่งเห็นใบหน้าเขาชัดเจนขึ้น
เธอเห็นดวงตากร้าวที่ทอดตามองมายังเธอ ด้วยสายตาราวกับอัสมาคือสิ่งน่าขยะแขยงที่เขารังเกียจไม่อยากแตะต้อง
อัสมานิ่งงันไปเลยทีเดียว
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงแสดงความรังเกียจเธอแบบนี้
เธอไปทำอะไรให้เขากัน
อัสมาสะอื้นเบาๆ เธอขยับตัวไม่ได้ แม้จะต้องการเพียงใดก็ตาม กล้ามเนื้อทุกส่วนอ่อนแรงไปหมด
อัสมาอยากปิดบังเนื้อกายเกือบเปล่าเปลือยของตัวเองจากแววตาเหยียดแคลนของผู้ชายคนนี้เหลือเกิน
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังกวาดตามองตามร่างเธออย่างช้าๆ เหมือนจะหาร่องรอยบาดแผลตามร่างของเธอ
เนื้อตัวหญิงสาวมีร่องรอยบอบช้ำ...เขียวเป็นจ้ำ...
โชคดีเหลือเกินที่เขาตามมาช่วยทัน ไม่อย่างนั้นป่านนี้เธอคงป่นปี้มากกว่านี้
อัสมาอดคิดอย่างใจหายไม่ได้ เธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเขามาช้ากว่านี้เพียงเสี้ยวนาทีเดียว เธอคงไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
ร่างกายเธอคงถูกย่ำยียับเยินโดยพวกเดนมนุษย์เหล่านั้น
ความคิดนั้น ร่างที่สั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวนั้นทำให้อีกฝ่ายดูอ่อนลง ขณะชายหนุ่มค่อยๆ ย่อเข่าลงมา
เธอได้ยินเสียงกัดฟัน
ดวงตาอัสมาเบิกโพลง ในขณะที่หน้าซีดเผือด เธอนึกว่าเขาจะทำร้าย...หากแต่เขากลับทำเพียงถอดเสื้อของเขาโยนลงมาให้เธออย่างหยาบคาย
?ใส่ซะ...หรือต้องใส่ให้?
เสียงพูดออกมาจากลำคอนั้นกระด้างเหลือเกิน อัสมารู้สึกปวดร้าวอยู่ภายใน
เธอกะพริบตาปริบๆ แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากแล้วหลับตาขับไล่ความเจ็บปวดทั้งร่างกายและหัวใจ
?ไม่ต้อง?
บุรุษหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
?ดี...งั้นก็ใส่ซะ จะได้ไม่อุจจาดตา?
เขาพูดอย่างแดกดัน ความรู้สึกนั้นแสดงออกทางน้ำเสียงและแววตาที่เข้มปลาบ
อัสมากลัวจนบอกไม่ถูก
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงใจร้ายแบบนี้
เขาพูดดีๆ กับเธอบ้างไม่ได้หรือ
เธอไม่ได้ขอให้เขาช่วยนะ
ทำไมเขาต้องทำเหมือนหงุดหงิดรำคาญที่อัสมาทำให้เขาต้องเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วย
ถ้าเขาไม่อยากช่วยแล้วเขามาช่วยเธอทำไม
อัสมาคิดอย่างไม่เข้าใจ
ซึ่งถ้าเขาทำแบบนั้น ป่านนี้เธอคงถูกพวกนั้นเรียงคิวรุมโทรมไปแล้ว...อัสมาไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรได้เลย
เขาคิดว่าเธอสบายใจนักหรือที่เป็นแบบนี้...เธอมิอาจกล่าวโทษเขาได้เลย ถ้าเขาคิดว่าเธอเป็นตัวการในเรื่องนี้
เธอพยายามขยับตัวที่ยังสั่นเทิ้มอย่างเงอะเงิ่น ก่อนจะตระหนักว่ามือแข็งแรงกำลังขยับเขยื้อนดึงร่างบางให้ลุกขึ้นอย่างรำคาญใจ
ก่อนจัดแจงสวมเสื้อผ้าให้อย่างไม่เบามือแม้แต่น้อย
จนอัสมาเดาไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่
?เจ็บล่ะสิ?
เขาถามเสียงห้วนกระด้าง
อัสมาพยักหน้า ริมฝีปากสั่นระริกอย่างห้ามไม่ได้
?มันคงหนักมือไปหน่อยล่ะสิ...มิน่าล่ะถึงร้องเสียงหลงขนาดนั้น แย่หน่อยนะที่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด?
กล้ามเนื้อที่มุมปากที่อุดมไปด้วยเคราเขียวครึ้มของเขากระตุกเป็นรอยนูน ริมฝีปากเม้มแน่นจนปรากฏรอยซีดขาวที่ขอบปากด้านใต้จมูก
ถึงตอนนี้เองที่อัสมาจำเขาได้ขึ้นมา
ที่แท้ก็หมอนี่เอง
นายธกานต์!
อัสมาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าทำไมหมอนี่ถึงพูดจาแปลกๆ เพราะความตกใจทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่าเป็นเขา
ตอนนี้เธอรู้แล้ว...
อัสมาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้ช่วยเหลือของเธอถึงแสดงวาจาหยาบคายแบบนั้น
นายธกานต์ไม่ชอบหน้าเธออยู่แล้ว...
นายธกานต์เป็นลูกน้องพี่สะใภ้ของเธอ...เบญจรัตน์
เบญจรัตน์เป็นภรรยาของพี่ชายแท้ๆ ของอัสมา...
อุสเรนเป็นพี่ชายคนเดียวที่อัสมามี อัสมามีกันเพียงสองคนพี่น้อง ทั้งสองรักกันจนพี่ชายของเธอแต่งงานกับเบญจรัตน์
เบญจรัตน์ทำตัวเป็นหุ่นเชิดอุสเรน เข้ามาคุมกิจการทุกอย่างของครอบครัว และเริ่มทำธุรกิจขัดแข้งขัดขาคนอื่น
เพราะเหตุนี้เบญจรัตน์จึงต้องมีลูกน้องหน้าตาเถื่อนๆ เอาไว้ ทำให้ดูน่าเกรงขาม และนายธกานต์หน้.ี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
อัสมาไม่ค่อยชอบลูกน้องของพี่สะใภ้นัก
อัสมาแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามพวกมือปืนไร้อันดับพวกนั้นอย่างเปิดเผย เธอไม่แปลกใจเลยที่คนพวกนี้ไม่ชอบขี้หน้าเธอ
อัสมาออกแปลกใจด้วยซ้ำที่นายธกานต์ให้ความช่วยเหลือเธอในยามขับคันแบบนี้...
ทันทีที่รู้ว่าเป็นเขา อัสมาก็พยายามบังคับตัวเองอย่างสุดความสามารถ เพื่อไม่ให้ระเบิดโทสะใส่หมอนั่นออกไป
?เก็บคำโสโครกๆ ของแกเอาไว้เถอะ...ฉันเป็นยังไงก็เรื่องของฉัน?
อัสมาตวาดเสียงห้าว ตาขุ่น
นายนั่นเหยียดยิ้มเยาะ
?ทำไมครับ พวกนั้นหยาบคายเกินกว่าที่คุณชอบล่ะสิ...ถ้าผมไม่ห่วงเจ้านายล่ะก็ ผมจะให้คุณลองลิ้มรสชาติที่คุณอุตส่าห์วิ่งเร่มาหาลองดูสักตั้ง คุณจะได้รู้สำนึกเสียบ้างว่าตกนรกมันมีจริงแค่ไหน? ธกานต์เยาะ
อัสมามองอีกฝ่ายอย่างขัดใจ
?แก...ไอ้ปากหมา...กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้?
?ลุกขึ้น? ธกานต์สั่ง
?ไปให้พ้น...?
ธกานต์เหยียดยิ้มเยาะ
?อ๋อ...อยากอยู่ให้พวกมันกลับปู้ยี่ปู้ยำคุณหรือไง?
?ไอ้บ้า?
อัสมากรีดเสียงร้องออกมาอย่างโมโหเดือด
?มันยำคุณไปกี่คนล่ะ? นายนั่นพูดเยาะๆ
?ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ พวกมันไม่...ยังไม่ได้...แก...แกมาช่วยทันต่างหากล่ะ? อัสมาร้องออกไปอย่างเจ็บใจ
?คงเสียดายแย่ล่ะสิครับ? หมอนั่นลากเสียงแดกดัน
อัสมาหน้าแดงด้วยความโกรธ
?ไอ้บ้า...แกกล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้ แกลืมไปแล้วหรือว่าฉันเป็นใคร ไอ้ขี้คอก...อย่ามาสะเออะพูดจาทุเรศ เอานิสัยเจ้านายแกมาใช้กับฉัน?
อัสมาหมายถึงพี่สะใภ้ตัวเอง
เธอรู้ว่าเบญจรัตน์ไม่ชอบเธอ เพราะเธอเป็นเสี้ยนหนามสำคัญ ถ้าไม่มีเธอ สมบัติทุกอย่างของพี่ชายต้องตกเป็นของเบญจรันต์คนเดียว
เธอไม่สงสัยเลย ถ้าเบญจรัตน์จะสอนให้คนของตนเองเกลียดอัสมา
ธกานต์บิดปากหยัน
?ผมคิดเองเป็น...ผมเชื่อในสิ่งที่เห็น?
?แกเห็นอะไรไม่ทราบ?
?เห็นว่าคุณเลวร้ายแค่ไหนน่ะสิคุณผู้หญิง คงคิดล่ะสิว่าผู้ชายทุกคนจะต้องสยบแทบเท้าคุณ...ขอโทษ...ไอ้พวกนั้นก็แสดงให้คุณเห็นแล้วนี่ว่ามันอยากสยบแทบเท้าคุณมากแค่ไหน?
?ไอ้บ้า! ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะ...ไอ้เลวพวกนั้นมันหื่นจะข่มขืนฉันเอง?
?ถ้าคุณไม่ออกมาอ่อยมืดๆ ค่ำๆ มันคงทำได้หรอก?
เขาถากถาง
อัสมาหน้าแดงด้วยความโกรธ
?ฉัน...ฉันจะออกมา...ออกมาหา...?
อัสมาอ้าปากจะแก้ตัวทั้งที่ไม่จำเป็นสักนิด เธอไม่จำเป็นต้องแก้ตัวกับลิ่วล้อของพี่สะใภ้ อัสมาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงอยากให้ผู้ชายคนนี้เข้าใจให้ถูกต้อง
?ฉัน...ฉันแค่จะออกมาหาใครคนหนึ่ง?
อัสมาโพล่งออกไป
แต่ธกานต์ไม่ให้โอกาสหญิงสาวได้พูดจบ
?หาใครครับ...ชู้รักรึไง!?
เขาพูดเสียงก้าวร้าว ริมฝีปากบิดเบ้ด้วยความรังเกียจ
เธอหน้าแดงก่ำราวกับถูกตบ
?แกจะบ้าเหรอ?
หมอนั่นพูดราวกับว่าอัสมาเลวร้ายเหลือเกิน คนบ้าอะไรแบบนี้ ทำไมเขาต้องกล่าวหาเธอด้วย เธอไปทำอะไรให้เขากัน ทำไมเขาต้องทำท่าทางเหมือนเขาสามารถหักเธอให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวด้วย
อัสมาคิดอย่างไม่เข้าใจ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ธกานต์จำต้องปลอมตัวด้วยการทำให้หน้าหล่อเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยหนวดเครา เพียงเพราะเขาจะจับจ้องพฤติกรรมของสาวใจง่ายที่เขาเคยหลงรักหลงใหล เจ้าหล่อนเป็นสาวสวยหุ่นดีก็คงอยากจะโปรยเสน่ห์ให้ผู้ชายไปทั่ว อัสมามีเขาคนเดียวไม่พอ...หล่อนยังไปหาความสุขกับญาติห่างๆ ของเขาอีก แล้วโชคก็เข้าข้างชายหนุ่มเมื่อพี่สะใภ้ของเธอเป็นคนจ้างเขาเข้ามาเป็นคนงาน แล้วทุกครั้งที่มีโอกาสใกล้ชิดเขาก็ได้ระบายความโกรธออกมา ด้วยการกดริมฝีปากกระด้างลงมาบนกลีบปากนุ่มของเธออย่างพลุ่งพล่านหนักหน่วงโดยที่เธอไม่อาจปัดป้องได้ ก่อนที่เขาจะได้รู้ความจริงอีกว่าอัสมาถูกใส่ร้ายจากพี่สะใภ้ที่ต้องการฮุบสมบัติ หากแต่ท่ามกลางความดุดันนั้นอัสมากลับรู้สึกแปลกๆ แผ่ซ่านไปทั่วเรือนกาย มันช่วยไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะไม่หวั่นไหวกับจุมพิตของเขานั้น แม้ว่าจะไม่ได้มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย ทว่าหล่อนก็อยากให้เขาจูบต่อไปเรื่อยๆ เพราะมันช่างเหมือนรสสวาทจากผู้ชายที่จากหล่อนไปโดยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
