?ไม่นะ! อย่าเอาพ่อกับแม่เพียงไป?
เสียงร่ำไห้ปานจะขาดใจของหญิงวัยแรกดรุณี ทำให้ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ สตรีหลายคนทั้งสูงวัยและแรกรุ่นต่างเข้าไปกอดปลอบ แต่คนที่เสียใจจนไม่อาจทนรับมันได้กลับปัดป้องไม่ต้องการมือของใครมาฉุดรั้งเธอ
?อย่ามายุ่งกับเพียง บอกเขาเอาพ่อแม่เพียงมา อย่าเอาไป อย่าใส่เข้าไปในนั้น? เธอไม่ฟังคำท้วงติงของใครทั้งนั้นพร้อมกับร่างบางที่ถลาไปหน้าห้องดับจิต จนทุกคนต้องรั้งตัวเธอไว้ แรงของคนตัวเล็กมหาศาลแต่เมื่อคนที่ห้ามมากกว่าสิบ เพียงตะวันจึงทำได้แค่ดิ้นรนทุรนทุราย เสียงสะอื้นไห้ดังแผดขึ้นไม่หยุดหย่อน มันเสียดแทงความรู้สึกของคนที่พบเห็นจนต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา
เพียงตะวันรู้สึกว่าชีวิตเธอหมดสิ้นทุกอย่าง บิดากับมารดาต้องมาด่วนจากไปอย่างไม่มีวันกลับเพราะอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน รถคันนั้นหรือรถคันไหนที่ผิด โชคชะตาสินะที่ถูกกำหนดไว้แล้วใครก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ในตอนนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว ไม่เหลือเลย ญาติพี่น้องที่มีก็คงไม่เทียบเท่าบุพการีที่อุ้มชูเลี้ยงดูมา ตั้งแต่เกิดจนอายุย่างเข้า 20 ปี ไม่เคยเลยสักครั้งจะห่างอกของท่านทั้งสอง ความทรงจำมากมายไหลย้อนกลับเข้ามาในห้วงของความคิด คำสอนของมารดาตอกย้ำให้สมองไม่อาจลบเลือนไปได้ โดยเฉพาะเรื่องของความรัก จนทำให้หัวใจดวงน้อยไม่อาจรักใครได้เท่าพ่อกับแม่และไม่ต้องการใครนอกจากท่านทั้งสอง ทว่าทุกอย่างก็ดับสูญไปแล้วแทนที่ด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดจะพรรณนา
ความรักเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อทุกเวลาไม่ว่ากับใครก็แล้วแต่หรืออาจจะเรียกได้ว่ากับสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกใบนี้และคงมีอีกหลายๆ โลก คนเราเกิดมาใช่จะต้องเป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียวมันต้องเป็นฝ่ายให้ด้วย โลกนี้ถึงจะอบอวลไปด้วยรักที่สมบูรณ์และบริสุทธิ์ ไม่ใช่คิดแต่จะครอบครองเป็นเจ้าของพอไม่สมตามปรารถนาก็คิดทำอะไรที่ไม่ใช้ความคิดไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายคนอื่นหรือแม้กระทั่งการทำร้ายตัวเอง มีสมองแต่ไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ ใช่คนบางคนอาจพูดว่าถ้าไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นคงไม่เข้าใจก็คงถูก ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ใช่ทางออกที่ดีแต่ก็คิดที่จะทำเพราะเมื่อเจอเรื่องแบบนั้นก็ทำให้ความคิดทุกอย่างหมดหายไปเพราะความเสียใจและผิดหวังมันเข้ามาบดบังและสั่งให้สมองทำอะไรลงไปโดยไม่ยั้งคิด ความรักไม่ใช่มีได้แค่ครั้งเดียวหรือเกิดขึ้นกับคนๆ เดียว ตราบใดที่ชีวิตของเรายังเดินต่อไปเราก็จะเจอกับความรักได้ทุกเมื่อไม่ว่ารูปแบบไหนก็ตาม จะเห็นได้ว่าตั้งแต่เราลืมตาดูโลกเราทุกคนก็ได้รู้จักคำว่ารักกันแล้ว และนั้นเป็นรักครั้งแรกที่บริสุทธิ์ เป็นรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน เป็นรักที่คนให้ยอมได้แม้แต่ชีวิตตัวเองเพื่อคนที่พวกเขารักดั่งแก้วตาดวงใจ
?น้องเพียงไม่รู้หรอกว่าความรักนั้นหมายความว่าอย่างไรแต่สิ่งที่น้องเพียงรู้คือ น้องเพียงรักคุณพ่อกับคุณแม่มาก และรักยิ่งใหญ่มากกว่าท้องฟ้า มหาสมุทรหรือผืนแผ่นดินเสียอีก? เด็กสาวบอกในขณะที่ดวงหน้าหวานเกลือกกลิ้งชิดอกมารดา
ทว่าความสุขเหล่านั้นก็ไม่อาจจะอยู่กับเราไปชั่วชีวิต ไม่นานมันก็อันตรธานหายไปอย่างไม่มีวันกลับ ความเสียใจถูกเก็บจนจมลึกสู่ก้นบึ้งของหัวใจ ความสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักอย่างไม่มีวันกลับคืนทำให้สาวน้อยสดใสในวัย 20 ที่ร่าเริง ยิ้มเก่ง กลายเป็นคนมีปัญหานิ่งเงียบเก็บความรู้สึกทั้งหมดไม่เคยเผยให้ใครได้รับรู้ คำพูดมากมายที่ควรจะเอื้อนเอ่ยถูกกลืนหายไปกับความเจ็บปวดแสนสาหัส ชีวิตของเธอไม่ต่างจากนกน้อยที่กำลังหัดบิน ความแข็งแกร่งของร่างกายยังไม่เพียงพอกับการบินขึ้นสู่ที่สูงก็เป็นอันต้องร่วงหล่นสู่พื้นดิน กระอักเจียนตายไร้กำลังใจกับการก้าวเดิน หากแต่คำพูดบางอย่างของมารดากับบิดาทำให้คนที่สิ้นความหวังพยายามหยัดกายขึ้นสู้อีกครั้ง เธอต้องยืนหยัดเผชิญกับโลกใบนี้ต่อไปให้ได้ เธอยังมีบุคคลที่จะคอยเมตตาอยู่รายล้อมหาใช่ตัวคนเดียวไม่
?เพียงตะวัน...ชีวิตคนเรานั้นแสนสั้นหากเกิดอะไรที่ทำให้ลูกเสียใจจนทุกข์หนัก จำเอาไว้ว่าความรักของพ่อกับแม่จะโอบล้อมลูกไว้ ไม่ว่าพ่อกับแม่จะอยู่ที่ไหนไออุ่นนี้จะมอบถึงลูก คนเราเกิดมาต้องเข้มแข็งต้องเผชิญกับปัญหาทุกอย่าง อย่าหนี อย่ากลัว อย่าทดท้อถอยหลัง เดินหน้าอย่างมีสติโดยใช้เหตุผล แต่บางครั้งเราก็จำเป็นต้องใช้ความรู้สึกตัดสินอะไรบางอย่าง สักวันลูกจะเข้าใจว่าเรื่องไหนที่ลูกจะใช้ความรู้สึกในการตัดสินปัญหาไม่ใช่เพราะความเห็นชอบของใคร...จำไว้นะลูก?
นับตั้งแต่นั้นมาเด็กสาวหน้าตาสะสวยแต่ไม่เคยจะยิ้มแย้มหรือพูดคุยกับใครเลย ก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องแม้ว่าญาติพี่น้องจะคอยปลอบคอยโอ๋อย่างไรก็ไม่เป็นผล แถมยังเจอฤทธิ์เดชเด็กสาวเพียงตะวันที่ขว้างปาข้าวของใส่จนหนีหายไปทีละคนสองคน จนกระทั่งที่ลดาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของมารดาพยายามที่จะพูดและชักจูงให้เพียงตะวันไปอยู่ด้วยกัน แต่อาการส่ายหน้าปฏิเสธทำให้คนเอ่ยชวนอ่อนใจนักหนา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
?จะเอายังไงล่ะลดา จะปล่อยหลานให้อยู่คนเดียวที่นี่เหรอ? พ่อเลี้ยงอนันต์เอ่ยถามเมื่อเห็นภรรยาเดินหน้ามุ่ยออกมาจากห้องนอนของเพียงตะวัน
?อยู่คนเดียวที่ไหนคะ คนในไร่ตั้งมากมาย?
?งั้นก็หมายความว่ายอมแพ้ ไม่พาน้องเพียงไปอยู่ด้วยกันที่ไร่เราแล้ว? คนเป็นสามีถามพลางมองจ้องหน้าภรรยาอย่างใช้ความคิด เป็นไปได้เหรอที่คนอย่างลดาจะยอมอะไรโดยง่าย ทว่าเพียงตะวันก็ใช่ย่อยเสียด้วย ตัวแค่นั้นแต่แรงฮึดต่อต้านมหาศาลเชียวล่ะ ทั้งสีหน้าและดวงตาฉายชัดออกมาจนใครก็พากันขยาดหนีหายไปกันหมด จะเหลือก็แต่ครอบครัวอนันธากรนี้แหละ
?ก็คงงั้นค่ะ หลานกำลังเสียใจลดายังไม่ต้องการซ้ำเติมแก เอาไว้ถ้าหลานทำใจได้ค่อยพูดใหม่ ไร่เรากับไร่เปี่ยมรักก็อยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่ ลดาก็จะมาหาหลานทุกวันเดี๋ยวแกก็เห็นเองว่าเรารักและเป็นห่วงแกแค่ไหน?
?มันติดอยู่อย่างนึงนะลดา ผมเป็นห่วงตรงที่น้องเพียงไม่ยอมพูด ตั้งแต่ที่แกกรีดร้องตอนที่รู้ข่าวพ่อกับแม่เสียชีวิต แกเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จากับใครเลย แกช็อกจนไม่ยอมพูดงั้นเหรอแล้วต่อไปจะอยู่อย่างไรหนังสือหนังหาจะเรียนยังไง? พ่อเลี้ยงอนันต์นั้นวิตกกังวลเป็นที่สุด เพราะหากเพียงตะวันไม่เข้าสังคมกับใครต่อไปก็จะลำบาก ใครต่อใครจะกล่าวหาเอาได้ว่าไร้ความเป็นมิตร ทว่าจะมีใครรู้บ้างไหมว่าสาวน้อยคนงามนั้นมีปมในใจที่ยากจะทานทนกับความรู้สึกเสียใจไปได้
?ลดาก็จนด้วยปัญญาค่ะ แต่ลดาเชื่อว่าสักวันหลานจะกลับมาสดใสอีกครั้ง ส่วนจะอยู่อย่างไรนั้นก็ไม่เห็นยาก หลานแค่ไม่พูดไม่ได้เป็นใบ้ เขียนหนังสือก็ออกเรียนก็เก่ง หวังว่าคุณคงพอช่วยได้นะคะ?
คนเป็นสามีเกิดอาการงุนงง คิ้วหนาขมวดมุ่นเมื่อฟังความภรรยาแล้วตีความไม่ออก เขาหรือจะช่วยได้กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนที่นับเป็นหลานคนหนึ่ง ก่อนที่ดวงตาคมเข้มจะเบิกกว้างเมื่อทบทวนอยู่นานจนเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งและเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเสียแล้ว
?นั่นสินะลืมไปเลยว่าเป็นหุ้นใหญ่ในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งของจังหวัด งั้นก็สบายใจหายห่วงย้ายหลานมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเราก็ได้ ฮ่าๆๆ?
?แต่ลดามีความคิดใหม่ค่ะ ลดาจะให้น้องเพียงแต่งงานกับภารันต์?
?ห๊า! ว่าอะไรนะลดา? พ่อเลี้ยงอนันต์ร้องเสียงหลงเมื่อสิ่งที่ภรรยาบอกมันเหนือความคาดหมายอย่างคิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในหัวสมองของลดา
?ทำไมคะคุณไม่เห็นด้วยเหรอ ลดาว่ามันจะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้น้องเพียงไปอยู่ที่ไร่เรา อีกอย่างเราก็ไม่ได้เกี่ยวดองเป็นญาติ ลดากับแม่น้องเพียงเป็นเพื่อนสนิทกันน้องเพียงก็เหมือนหลานคนหนึ่งที่ลดารักมาก แล้วลดาก็อยากได้น้องเพียงเป็นลูกสะใภ้ มันจะแปลกตรงไหนถ้าให้เด็กสองคนแต่งงานกัน? ลดาคิดอย่างหมายมาด สะใภ้ตระกูลอนันธากรต้องเป็นเพียงตะวันคนเดียวเท่านั้น
?มันไม่แปลกหรอกลดาแต่มันติดปัญหาใหญ่คือคนที่ต้องมาเข้าพิธีวิวาห์เขาจะเห็นชอบด้วยไหม?
?หักคอเอาค่ะ อย่างที่เขาเรียกว่าคลุมถุงชน สภาวะในตอนนี้น้องเพียงคิดอะไรไม่ออกหรอก ส่วนภารันต์ลดาจัดการเองค่ะ?
พ่อเลี้ยงอนันต์มองหน้าภรรยาแล้วนึกภาพไม่ออกจริงๆ เขาไม่อยากคาดเดาเลยว่าปฏิกิริยาของภารันต์จะเป็นอย่างไรเมื่อรู้ตัวว่าต้องแต่งงานกับเพียงตะวัน ซึ่งมีอายุแค่ 20 ปีเท่านั้น ภรรยาเขาก็ช่างคิดได้นึกถึงจิตใจของหลานบ้างไหม เพิ่งจะเสียพ่อแม่ไปแท้ๆ ก็ต้องมาถูกบังคับแบบปัจจุบันทันด่วน พ้นชีวิตนางสาวไม่เท่าไหร่ก็ถูกยัดเยียดคำว่านางให้เสียแล้ว ยิ่งเพียงตะวันนั้นฤทธิ์เยอะใช่เล่นใครจะเอาอยู่แม้แต่ภารันต์เองก็เถอะ สงสัยได้นองเลือดกันบ้างล่ะงานนี้ ภรรยาเขาทำเหมือนว่าทุกอย่างมันง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก เดี๋ยวเถอะได้วงแตกกันบ้างพ่อลูกชายตัวดียอมรับการถูกบังคับที่ไหน วิวาห์รักจะกลายเป็นวิวาห์เลือดก็คราวนี้แหละ หากแต่สิ่งที่พ่อเลี้ยงอนันต์หวาดหวั่นกลับตาลปัตรอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะทันทีที่ลดาเอ่ยเรื่องนี้กับบุตรชายสุดสวาท ภารันต์นั้นกลับนั่งนิ่งราวกับฟังเพลงบรรเลงที่ขับกล่อมให้เคลิ้มฝัน ไม่แสดงความคิดเห็นหรือโวยวายเสียงดังลั่นบ้านแต่กลับพยักหน้ายิ้มๆ พร้อมกับคำตอบที่ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่งงเป็นไก่ตาแตก
?ถ้าน้องเพียงยอมผมก็ไม่ขัดข้อง?
ใบหน้าที่ไม่ได้บอกถึงอารมณ์และความรู้สึกของบุตรชาย ทำให้พ่อเลี้ยงอนันต์ขยับเข้าไปสะกิดภรรยาแล้วพยักพเยิดให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเพราะอาการนิ่งเฉยของภารันต์มันเคยวางใจได้เสียที่ไหน
?แม่คิดว่าน้องเพียงคงไม่มีปัญหา?
?งั้นพรุ่งนี้ก็พาว่าที่ลูกสะใภ้ของแม่ไปที่อำเภอได้เลย จดทะเบียนสมรสให้เรียบร้อยจะได้จัดงานแต่งแล้วพามาอยู่ที่ไร่เรา น้องเพียงกำลังเสียใจกับการสูญเสียปล่อยให้อยู่คนเดียวน่าเป็นห่วง? กล่าวจบก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่ดูยังไงก็สง่างามไปเสียทุกมุม บุรุษหนุ่มผู้เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนยากจะหาใครมาเทียบ หล่อ รวย แต่นิสัยร้ายไปสักนิด ทว่าไม่ใช่ตอนนี้เพราะภารันต์ดูเคร่งขรึมลงมากแถมยังดูห่วงใยเพียงตะวันจนน่าแปลกใจ
พ่อเลี้ยงอนันต์สังเกตอาการของบุตรชายแล้วเดาทางไม่ออก ปกติเด็กสองคนไม่ค่อยพบเจอกันเท่าไหร่หรอก ต่างคนต่างอยู่นับครั้งที่เจอกันได้เลยแต่ทำไมภารันต์ถึงยอมรับกับการแต่งงานง่ายดายนัก พ่อตัวดีมีแผนการอะไรในใจหรือเปล่าซ้ำยังเอ่ยถึงการจดทะเบียนสมรสอีกนี่
?ผมขอตัวนะครับ? ภารันต์หมุนกายเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น ด้วยท่าทางที่ไม่ได้สะทกสะท้านกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น แน่นอนเขาใส่ใจและใส่ใจมากด้วยแต่ไม่แสดงออกมาต่างหาก นึกสงสารเพียงตะวันที่ต้องอยู่อย่างอ้างว้าง หากก็เคืองใจที่มารดาเสนอแนะความคิดบ้าๆ นั้นขึ้นมา แต่เอาเถอะเขารับปากไปแล้วจะให้ทำอย่างไรได้ เตรียมตัวเตรียมใจกับการมีเมียเด็กเสียเถอะ จะว่าไปเขาไม่ได้เจอสาวน้อยหน้าหวานคนนั้นมานานเกือบสองปีแล้วมั้ง ไม่รู้ว่าหน้าตาจะน่ารักเหมือนเดิมหรือเปล่า ไม่สิเธอต้องสวยขึ้นตามกาลเวลาของช่วงอายุ สาวน้อยวัย 20 ใครๆ คงอิจฉาเขาเป็นแน่ เพียงแค่คิดมุมปากหยักก็กระตุกขึ้นอย่างขบขัน ให้ตายเถอะเขากับเธออายุห่างกันตั้ง 8 ปี
?แม่สาวน้อยเธอบ้าไปหรือเปล่าที่ยอมตกลงแต่งงาน อายุเท่านี้จะทิ้งความโสดเสียแล้ว? ภารันต์ยืนนิ่งมือทั้งสองข้างถูกล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สมองของเขานั้นมากมายไปด้วยคำถามร้อยแปด เขาอยากรู้นักว่าสาวน้อยเพียงตะวันเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้ ตั้งแต่ที่บินตรงกลับมาจากอังกฤษหลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของน้าทั้งสองก็ยังไม่ทันได้เห็นหน้าว่าที่เมียเลยสักครั้ง ไปร่วมงานศพทุกคืนแต่กลับไม่เห็นแม้เงาเพียงตะวัน บ้านก็เท่านั้น พื้นที่ในไร่ก็เท่าที่เห็น แต่ช่างเถอะพรุ่งนี้เขาก็จะได้พบเธอแบบเต็มๆ ตาเสียที
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภารันต์ถึงกับตะลึงงันเมื่อเห็นนางฟ้าในตอนเช้าตรู่ของอีกวัน หญิงสาวตรงหน้าเขามองอย่างไรก็สวยหยาดเยิ้มจนหัวใจหนุ่มไหวหวั่นอย่างประหลาด สิ่งรอบกายคล้ายกับจะหยุดหมุนแม้เสียงเอ่ยบอกของมารดาก็ยังไม่เข้าถึงเยื่อแก้วหูของเขาสักนิด หากแต่ความรู้สึกก็ต้องสะดุดลงกับความคิดที่ว่าเธอยังเด็กเกินไป เขาจะกลายเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อนก็คราวนี้แหละ การอยู่ชิดใกล้อาจทำให้ตบะของคนแก่แตกก็เป็นได้
?ภารันต์?ยืนนิ่งอยู่ทำไมลูก รีบไปสิแม่โทรไปบอกนายอำเภอแล้วนะว่าจะเข้าไปทำธุระเรื่องนี้? ลดาเอ่ยบอกเมื่อเห็นบุตรชายยืนทื่อไม่ไหวติงราวกับต้องมนต์สะกด ก็แน่ล่ะใครบ้างที่จะทานทนต่อความสวยหวานน่ารักของเพียงตะวันไปได้ แต่ครั้นจะปล่อยให้พ่อตัวดียืนตะลึงชื่นชมว่าที่ภรรยาในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ต่อไปเห็นจะไม่ได้ เพราะเธอได้เอ่ยขอให้ผู้ใหญ่ระดับนายอำเภอมาเป็นพยานในการจดทะเบียนสมรสของหนุ่มสาวครั้งนี้
?รีบไปภารันต์ น้องเพียงไปขึ้นรถเถอะลูก? ลดาเอ่ยย้ำอีกครั้งก่อนจะจับจูงมือบางของสาวน้อยคนงามเดินนำไปที่รถตามด้วยพ่อเลี้ยงอนันต์ ส่วนภารันต์นั้นยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ในเวลานี้เขาไม่ได้ตะลึงกับความงามของว่าที่ภรรยาแต่กำลังขุ่นใจที่เธอไม่คิดจะแลมองเขาสักนิด นี่ว่าที่สามีนะเห็นเป็นคนสวนหรือไงถึงได้เฉยเมยขนาดนั้น แล้วมารดาไปพูดอีท่าไหนแม่คุณถึงได้ยอมง่ายนัก คิดว่าที่พาไปอำเภอเพื่อไปเดินเล่นหรือไง เดี๋ยวเถอะพอถึงตอนนั้นอย่ามาร้องโวยวายไม่ยอมจรดปลายปากกาลงบนกระดาษนะ ไม่งั้นล่ะก็เขาจะจับเธอปั้มลายนิ้วมือเสียเลย ช่วยไม่ได้อยากสวยเข้าตาทำไม สมองคิดเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างองอาจ สองตามองจ้องแค่สาวน้อยหน้าหวานซึ่งนั่งหน้านิ่งไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ อยู่ภายในรถ ก่อนที่ขายาวๆ จะก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับพร้อมกับชำเลืองมองคนข้างกายซึ่งหันมามองเขาแวบหนึ่งด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ให้ตายเถอะเขาอยากจะควักลูกตาหล่อนออกมานัก ?ฝากไว้ก่อนแม่สาวน้อยกลับจากการทำธุระเมื่อไหร่ฉันลงโทษเธอแน่? ภารันต์เข่นเขี้ยวแม่คนสวยหน้าหยิ่งในใจ ก่อนที่รถหรูยี่ห้อดังจะเคลื่อนตัวออกไปจากไร่อนันธากรมุ่งหน้าสู่ที่ว่าการอำเภอเมืองของจังหวัดเชียงราย
เมื่อรถจอดสนิทในที่ว่าการอำเภอ เสียงถอนหายใจอย่างเบาหวิวของสาวน้อยที่นั่งข้างกายก็เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน ชายหนุ่มหันไปมองแล้วนิ่วหน้าด้วยความหวาดหวั่นเกรงว่าเธอจะคิดเปลี่ยนใจหรือเปล่า แต่มาถึงขั้นนี้แล้วเขาไม่ยอมหรอกนะ และเมื่อบิดามารดาก้าวลงจากรถไปแล้ว เขาจึงเอ่ยถามคนข้างกายเพื่อความแน่ใจอีกครั้งจะได้ดำเนินการต่อไปถูก
?ตกลงจะแต่งงานกับพี่ใช่ไหม?
เพียงตะวันเงยหน้ามองจ้องเข้าไปในดวงตาคมคู่นั้น เธอไม่ได้ตอบคำถามเขาแต่กลับหันไปเปิดประตูรถแล้วก้าวลงไปทำเหมือนกับว่าคำถามนั้นเป็นลมที่ดังแว่วไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ส่งผลให้ภารันต์อยากจะกระชากร่างคนหยิ่งแล้วมาสำเร็จโทษด้วยริมฝีปากของเขาเสียจริง ที่ใครว่าเจ้าหล่อนไม่ยอมพูดเพราะช็อกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคงจะจริง ดีเหมือนกันมีเมียเป็นใบ้จะได้ไม่มีปากไม่มีเสียง แต่อารมณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเพราะโมโหกับท่าทีเย็นชานั้นสิ มันหนักหนาสาหัสจนอยากจะสั่งสอนให้หลาบจำว่าอย่าอวดดีทางสายตากับเขา
การจดทะเบียนสมรสเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อหนุ่มสาวต่างกำลังเคืองขุ่นใส่กัน ยิ่งกับเพียงตะวันนั้นแทบจะไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยด้วยซ้ำ ใครสั่งให้เซ็นตรงไหนเธอก็จัดการเซ็นให้จนครบ ใครขอเอกสารอะไรเธอก็ยื่นให้ไม่ถามไถ่ทำเหมือนไม่รับรู้อะไร และใบหน้าเมินเฉยของเธอสร้างแรงกดดันทางอารมณ์ให้กับภารันต์จนเกือบจะหักปากกาที่จับอยู่ในมือเป็นสองท่อน ที่จริงอยากจะหักคอระหงนั้นเสียด้วยซ้ำ ดีนะที่ภรรยาเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว การจดทะเบียนสมรสจึงไม่ต้องไปตามหาญาติฝ่ายไหนของเธอมาเห็นชอบให้วุ่นวาย
?เรียบร้อยแล้วครับ ทุกฝ่ายเห็นชอบ เจ้าตัวเขาก็ยินดี? นายอำเภอวัยเฉียด 50 ยิ้มปลื้มพร้อมกับอวยพรคู่สามีภรรยาป้ายแดงเสียยืดยาว พร้อมกับเอ่ยถามถึงการมีบุตรเสียเสร็จสรรพ
เพียงตะวันยิ้มรับนิดๆ แล้วหันไปถลึงตาใส่สามีหมาดๆ เพราะเขาเอ่ยบอกว่าแต่งปุ๊บคงมีลูกปั๊บสร้างเสียงหัวเราะให้กับบรรดาผู้ใหญ่ที่นั่งฟังหนุ่มหล่อคุยโอ้อวดโดยที่ฝ่ายหญิงนั้นนั่งหน้าตึงไม่ยอมพูดยอมจา ลดาหันไปสบตากับสามีแล้วยักคิ้วให้เพราะนางเชื่อว่าภารันต์จะทำให้เพียงตะวันปริปากพูดออกมาในที่สุด
หลังจากเสร็จสิ้นธุระเรื่องการผูกมัดคนทั้งคู่แล้ว ลดาก็สั่งให้บุตรชายเลี้ยวรถเข้าไปที่โรงแรมมีชื่อของจังหวัดเพื่อสั่งการเรื่องอาหารที่จะใช้ในงานแต่งครั้งนี้ ก่อนจะพากันกลับบ้านแล้วประกาศข่าวที่น่ายินดีนี้กับทุกคนในเครือญาติ ทุกฝ่ายออกจะดูตื่นเต้นและแปลกใจระคนกันไป ใครจะไปคิดว่าสาวน้อยแสนพยศจะยอมจำนนต่อการถูกจองจำด้วยคำว่าสะใภ้แห่งตระกูลอนันธากร
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ร่างระหงที่นั่งอยู่บนเตียงกว้าง ในมือถือแผ่นกระดาษขนาดมาตรฐานตีตราสัญลักษณ์ทางกฎหมายแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธอคิดถูกหรือคืดผิดที่ยอมตกลงเซ็นในทะเบียนสมรสนี้ หากไม่ใช่เพราะคำขอร้องของบิดาตามที่คุณป้าลดาบอก ก็คงไม่มีใบนี้ที่ฝ่ายชายชื่อภารันต์หรอก
?คุณแม่ขา เพียงใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจใช่ไหมคะ ความรู้สึกรักต่อคุณพ่อกับคุณแม่ แต่เพียงไม่รู้ว่าพี่ภารันต์คิดยังไงกับเพียง ทำไมเขาถึงตกลงแต่งงานกับเพียงคะ? สาวน้อยเอ่ยถามตัวเองในใจ เธอไม่อยากพูด ไม่คิดจะเปล่งเสียงออกมาด้วยซ้ำ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้เพียงตะวันหยุดความคิดทุกอย่างลง หญิงสาวเดินไปที่ประตูคิดอยู่ชั่วอึดใจแล้วเปิดออกต้อนรับ คนตรงหน้าคือน้านวลคนที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็ก ทุกครั้งรอยยิ้มสดใสจะปรากฎบนใบหน้าแต่บัดนี้เธอไม่พร้อมจะยิ้มให้ใครทั้งนั้นแม้แต่คนที่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวก็ตามที
?คุณภารันต์มาหาค่ะ? เมื่อสาวน้อยคนสวยไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง น้านวลจึงเอ่ยบอกถึงธุระที่ทำให้ขึ้นมารบกวนเวลาของคนเศร้า
เพียงตะวันยืนนิ่งไปราวกับร่างกายถูกตรึงด้วยเชือกขนาดใหญ่ก่อนจะส่ายหน้าดิก แววตาฉายแววของความหวาดหวั่น ทำท่าจะปิดประตูลงหากมือลึกลับที่ไม่ทันได้มองไม่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเสียก่อน สัมผัสนั้นเหมือนโดนของร้อน ร่างบางสะดุ้งเฮือกรู้โดยสัญชาตญาณว่ามันไม่ใช่สัมผัสของคนที่คุ้นเคย ดวงตาสวยช้อนขึ้นมองแล้วเบิกตากว้าง ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือสามีหมาดๆ ของเธอเอง ใบหน้าเขานิ่งขรึมแต่แววตาซ่อนเร้นความน่ากลัวบางอย่างไว้
?พี่จะมาบอกว่าพรุ่งนี้จะมารับไปลองชุดแต่งงาน? เอ่ยบอกเสียงเรียบเฉย แต่มือกลับไม่ปล่อยให้เจ้าของห้องเป็นอิสระ เช่นเดียวกับเพียงตะวันที่ยังจับลูกบิดไว้แน่น น้านวลเห็นดังนั้นจึงเดินเลี่ยงลงบันไดไป
?จะไม่พูดกับพี่สักคำเหรอ? ถามเสียงนุ่มนวลที่สุด เผื่อว่าแม่ร่างบางจะใจอ่อนยอมปริปากคุยกับเขาบ้าง ไหนๆ ก็จดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว
เพียงตะวันได้สติดึงมือออกจากมือหนา แล้วหันหลังเดินกลับไปนั่งที่เตียง ไม่ได้รู้สึกกลัวชายตรงหน้าเลยสักนิด ในเมื่อเขามีสิทธิ์โดยชอบธรรมกับตัวเธอ ภารันต์มองตามแล้วเดินเข้าไปใกล้ ร่างสูงทรุดกายลงนั่งคุกเข่าแล้วยกตัวขึ้นให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับภรรยาตัวน้อย
?พี่รู้ว่าเธอไม่ได้ช็อกจนถึงกับพูดไม่ได้หรอก แต่เธอแค่ไม่ยอมจะพูดออกมาเท่านั้น ยังไงเราก็กลายเป็นคนๆ เดียวกันแล้ว จะพูดหรือระบายอะไรกับพี่ก็ได้? เกลี้ยกล่อมด้วยความอ่อนโยน มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าคนตรงหน้าที่สวยราวนางฟ้าต้องยอมสยบให้แน่ๆ เพราะตอนนี้เขาก็คือคนที่สำคัญกับเธอ คือคนที่เธอจะใช้เป็นหลักพึ่งพิง อย่างน้อยก็ขอเป็นรอยยิ้มหวานๆ ส่งมาให้ก็ยังดี ทว่าสิ่งที่ได้รับเหมือนโดนน้ำแข็งก้อนมหึมาฟาดหน้าเข้าอย่างจัง
สายตาที่เพียงตะวันมองเขาช่างว่างเปล่า ไร้ความรู้สึกจนคิดว่าตัวเองยังมีตัวตนอยู่ไหม เธอทำกับเขาราวกับอากาศที่ลอยวนอยู่รอบตัว ดวงตากลมสวยนั้นแฝงความหยิ่งผยองเอาไว้ ใบหน้าที่ก้มลงมามองเล็กน้อยเชิดขึ้นแล้วเสไปมองทางอื่น ภารันต์ถึงกับเดือดอยู่ในอก เขายอมลงทุนมาหา มาทำความคุ้นเคย แต่เธอกล้าอาจหาญกับเขาขนาดนี้ คุณหมออย่างเขาไม่ได้แสนดีกับทุกคนหรอกนะ ยิ่งกับคนสวยที่เชิดคอตั้งบ่าด้วยแล้ว
?เจอกันวันงานเลยแล้วกัน ชุดก็ไม่ต้องลองหรอก ในเมื่อไม่ได้เต็มใจจะแต่งชุดไหนก็คงใส่ได้? ภารันต์พยายามระงับอารมณ์ไว้จนถึงขีดสุด ข่มเสียงให้ราบเรียบเท่าที่จะทำได้ก่อนจะลุกพรวดเดินออกจากห้องไป
เพียงตะวันหันมองตามแผ่นหลังบึกบึน น้ำตาเม็ดโตไหลลงอาบแก้ม เขาก็ดูเหมือนจะแสนดีแล้วทำไมเธอถึงไม่สนใจเขา เธอไม่ควรจะแสดงความย็นชาต่อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทว่ามันก็อดไม่ได้เมื่อหัวใจอ่อนล้าไม่พร้อมรับกับสิ่งใดหรือใครทั้งสิ้น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?บอกรักพี่ให้ฟังหน่อยสิทูนหัว? คนเหนือร่างก้มลงมากระซิบแนบแก้ม เพียงตะวันไม่รั้งรอเมื่อไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมานั่งคิด หัวใจและร่างกายของเธอเป็นของเขา...เป็นมาตั้งแต่ที่ยอมก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์แล้ว คนฟังยิ้มกริ่มอย่างอิ่มเอมใจก่อนที่บทรักร้อนแรงจะเริ่มต้นอย่างแท้จริง เพียงตะวันผวาตามร่างใหญ่เมื่อการเคลื่อนไหวดำเนินไปตามครรลองของธรรมชาติ จุมพิตดูดดื่มถูกส่งมอบให้ภรรยาที่แสนน่ารักครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกสิ่งที่เป็นเธอเขารักและหวงแหนไปหมดทุกอย่างเทพบุตรหัวใจซาตานที่คนใต้ร่างเคยเผลอปากว่าเขา นับจากนี้จะมีเพียงมนุษย์ธรรมดาเดินดินที่พร้อมจะใช้หัวใจรักผู้หญิงที่ชื่อเพียงตะวันจากนี้ตราบนิรันดร์
