New Release ร้อยรัก: เหมันต์อุ่นรัก

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก: เหมันต์อุ่นรัก

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1

เช้าวันที่อากาศชื้นไปด้วยหยาดฝน ทำให้อากาศหนาวเย็นลงมากพอสมควร แต่ชายหนุ่มซึ่งออกมาทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อควบคุมการกรีดยางด้วยตนเองวันนี้ กลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด เรือนร่างสูงใหญ่แกร่งกำยำแบบคนที่ออกแรงอยู่เสมอ มีเพียงกางเกงเลตัวเดียวและผ้าขาวม้าคาดไว้ อวดกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ อย่างไม่ตั้งใจ ผิวเนื้อสีแทนเพราะถูกแดดถูกลมอยู่บ่อยๆ ทำให้ใบหน้าคมสันรกเรื้อไปด้วยหนวดเครา เพราะเจ้าตัวไม่ค่อยได้โกน ยิ่งดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น
?ใช้ได้ไหมครับนายหัว?
เสียงของคนที่กำลังกรีดยางอยู่เอ่ยอย่างสั่นๆ เพราะไม่ค่อยมั่นใจว่าฝีมือของตนเองนัก จะ ?ผ่าน? การทดสอบไหมสำหรับด่านการมาเป็นคนงานของสวนยางนายหัวฝรั่ง แม้จะรายได้ดีแต่ก็ค่อนข้างเข้มงวดอยู่มากไม่น้อย
คนงานที่นี่ทำงานกันยาวนาน เพราะเจ้าของสวนยางแม้จะดูดุดันนิ่งขรึม แต่ก็เป็นที่รักของคนงานทุกคน นายหัวฝรั่งตอบแทนด้วยค่าแรงที่ยุติธรรม มีสวัสดิการดี ดูแลคนงานราวกับญาติพี่น้อง ติดแต่ว่านายหัวฝรั่งอาจจะดูมาดดุไปนิด แม้จะเป็นอย่างนั้นคนงานก็พร้อมจะทำงานให้แบบถวายหัว เพราะภายใต้มาดที่ดุดันหน้าตาเคร่งขรึม เฉยทว่าดูทรงอำนาจนั้น แต่ลึกๆ แล้วทุกคนในสวนยางแห่งนี้ก็ทราบกันดีว่านายหัวฝรั่งเป็นคนดีมีน้ำใจกับคนที่ทำงานให้เขามากขนาดไหน
?ให้มือเบากว่านี้หน่อยก็จะดี? เสียงห้าวตอบ เล่นเอาคนที่รอฟังผลอยู่แทบจะถอนหายใจดังๆ อย่างโล่งอก เจ้าของเสียงยิ้มเพียงเล็กน้อยให้ ก่อนจะเดินดุ่มไปดูคนงานด้านในต่อ เท่านี้เขาก็ใจชื้นว่าตนเองจะได้ทำงานที่นี่แล้วแน่นอน
สวนยางนายหัวฝรั่งเป็นที่รู้จักกันดี เพราะเจ้าของเป็นชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-สเปน หน้าตาหล่อเหลาแบบหาตัวจับยาก แม้ว่าหลังๆ มาเจ้าตัวจะซ่อนใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับพระเอกฮอลลีวู้ดไว้ภายใต้หนวดเคราที่รกเรื้อมากขึ้นทุกวัน เพราะเจ้าของเริ่มๆ ขี้เกียจะโกน เนื่องจากบางคราวมีงานหนักในสวนยาง จนไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อนสักเท่าไหร่
นายหัวฝรั่งมาทำงานแทนผู้เป็นตาในสวนยางนี้ได้เพียงสองปี ผู้คนก็พากันเรียกว่าเป็นสวนยางนายหัวฝรั่งแทนชื่อเดิมไปแล้ว เพราะแปลกนักที่จะมีคนต่างชาติมาทำสวนยาง แม้ว่าเจ้าตัวจะเป็นลูกครึ่งก็ตามที ด้วยหน้าตาที่สะดุดตาใครต่อใคร ก็ทำให้สวนยางนายหัวฝรั่งกลายเป็นสวนยางที่มีสาวๆ อยากมาสมัครเป็นคนงานมากที่สุดไปเสียแล้ว
ร่างสูงเดินสำรวจการทำงานของคนงานไปพลางมองสำรวจสวนยางของตนเองไปด้วย ว่ามีความผิดปกติใดๆ กับต้นยางบ้างหรือเปล่าตามความเคยชิน พื้นที่เกือบสี่ร้อยไร่บางทีก็ควบคุมกันลำบากนัก เพราะมันกว้างขวางใหญ่โตเกินกำลังที่คนเพียงคนเดียวจะควบคุมดูแลได้หมด แต่อาศัยมีคนเก่าคนแก่ตั้งแต่สมัยรุ่นตามาช่วย และคนงานที่นี่อยู่กันแบบครอบครัว มันก็ทำให้เขาเบาแรงไปได้มากทีเดียว
?วันนี้ไอ้เงาะมันไปไหนของมันนะ?
เสียงทุ้มบ่นพึมกับตนเอง คนที่กำลังก้มหน้าก้มตากรีดยางอยู่ได้ยินเสียงทุ้มๆ ของผู้เป็นนาย แม้จะไม่ได้ตั้งใจจะถามใคร แต่คนฟังสะดุ้งเพราะเป็นเสียงของนายหัวก็เผลอตอบออกมาอย่างอัตโนมัติ
?ไม่รู้ครับนายหัว?
?อะไรน่ะ ตาสอน? คิ้วเข้มถึงกับขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินเสียงตอบดังๆ มาจากคนงานวัยเกือบจะคราวพ่อของเขาแล้ว แต่ก็ยังขยันขันแข็งซึ่งไม่ยอมปลดเกษียณตัวเองง่ายๆ
?ก็ตาได้ยินนายหัวถาม เสียงนายหัวดุ ตาตกใจก็เลยตอบแหะๆ? ตาสอนยิ้มแหยจนเห็นฟันหลอ ผู้เป็นนายเกือบจะหัวเราะขำออกมา แต่ดีที่เก็บอาการไว้ได้ทัน นัยน์ตาคมเปล่งประกายระยับเพราะกลั้นขำไว้ เขาส่ายหน้าน้อยๆ แล้วเอ่ยเสียงทุ้ม
?ทำงานต่อไปเถอะตา จะได้เสร็จไวๆ?
?ได้เลยครับนายหัว?
คนเป็นนายเดินทำหน้าตายมาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้ เขาขี่มันออกตรวจงานเกือบทุกวันในตอนเช้า รถมอเตอร์ไซค์สี่สูบที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เรียกได้ว่าแค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่านายหัวฝรั่งมาแล้ว พวกคนงานแก่นๆ หน่อยก็ต้องกลายเป็นเรียบร้อย ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพราะทั้งรักและเกรงเจ้านาย
นายหัวฝรั่งกลายเป็นชื่อเรียกของเขาที่ติดปากใครต่อใครไปแล้วสินะ เจ้าของฉายาคิดอย่างยิ้มๆ ขณะที่ขับมอเตอร์ไซค์คันโปรด เมื่อตกลงใจว่าจะมารับมรดกที่นี่ต่อจากผู้เป็นตาที่เพิ่งเสียชีวิตไป แล้วมารดาคิดจะขายสวนยางขนาดสี่ร้อยไร่นี้เนื่องจากไม่มีเวลาดูแลกิจการของครอบครัวที่เป็นกิจการธุรกิจโรงแรม ดังนั้น การทำงานห่างไกลกับเรื่องของสวนยางนัก แต่เขาก็ออกปากขอรับสวนยางนี้มาจากมารดา
ทุกคนในบ้านแปลกใจมากที่ลูกคนกลางของบ้านอย่างเหมันต์ นาตาลีโอ้ เดเซ็นเต้ ซึ่งร่ำเรียนมาทางไอที จะมาขอทำงานเกี่ยวกับสวนยาง อาชีพซึ่งต่างจากสิ่งที่เขาร่ำเรียนมาโดยสิ้นเชิง แต่แล้วเมื่อลูกชายยังคงยืนกรานหนักแน่น ในที่สุด นางก็ยินยอมให้เหมันต์มาสานต่ออาชีพของบิดา ถึงแม้ใจอยากจะคัดค้าน แต่ใครๆ ในบ้านเดเซ็นเต้ก็รู้ดีว่าลูกชายคนกลางอย่างเหมันต์ อยากจะทำอะไรแล้ว เขาต้องมีวิถีทางที่จะมุ่งมั่นทำให้สำเร็จจนได้
เหมันต์ นาตาลีโอ้ เดเซ็นเต้ เป็นลูกชายคนกลางของครอบครัวเดเซนเต้ มีพี่น้องทั้งหมดเป็นผู้ชายล้วน คือ คิมหันต์ นิโคลัส เดเซ็นเต้ พี่ชายคนโตและน้องชายตัวแสบอย่างวสันต์ นาร์ซิสโซ่ เดเซ็นเต้ พวกเขาเป็นลูกครึ่งสเปน เพราะมีบิดาเป็นคนสเปนแท้ๆ อีวาน มาร์คอส เดเซ็นเต้ เจ้าของธุรกิจโรงแรมระดับห้าดาว มาตกหลุมรักเลขาฯ สาวชาวไทยอย่างอภิชญา และครองรักกันยาวนานจนได้บุตรชายมาสามคน
อุปนิสัยของสามพี่น้องต่างกันโดยสิ้นเชิง พี่ชายคนโตอย่างคิมหันต์ นิสัยร้อนแรงสมกับชื่อ เขาเป็นหนุ่มคาสโนว่า กะล่อนเหลี่ยมจัดที่ไม่เคยจนแต้มให้กับใคร ส่วนตัวเขา...น้องชายคนรอง เป็นคนนิ่งๆ รักพี่รักน้องมาก นิสัยขรึมๆ ของเขาบางทีก็มีอันต้องวีนแตกบ้าง เมื่อโดนกวนประสาทจากทั้งพี่ชายและน้องชาย เขาเลยกลายเป็นคุณลุงขี้บ่นไปในทันที เป็นอันรู้กันว่าเหมันต์เป็นคนฟอร์มจัดและไม่ยอมเสียฟอร์มง่ายๆ เป็นอันขาด ซึ่งก็จะกลายเป็นเป้าโจมตีของสองหนุ่มแห่งบ้านเดเซ็นเต้ที่ชอบแกล้งชอบแหย่นัก
ส่วนน้องชายคนสุดท้องของบ้านอย่างวสันต์นั้นยังเป็นหนุ่มรักสนุกและเอ้อละเหยลอยไปลอยมา จนป่านนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำงาน ทั้งที่อายุได้ 27 ปีแล้ว ทว่ายังเป็นลูกแหง่ของบ้านไม่เปลี่ยนแปลง น้องชายที่ทำให้เขามักจะต้องโทรศัพท์ไปจัดการอยู่เนืองๆ เมื่อโดนบิดาหรือมารดาสั่งให้เขาสั่งสอนเจ้าโซ่ตัวแสบเสียบ้างrv
คิดถึงครอบครัวแล้ว...รอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่มุมปากได้รูป เขาไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่นัก เพราะมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับการจัดการมรดกที่ได้มาชิ้นนี้ สวนยางของผู้เป็นตาเป็นหนึ่งในความประทับใจของเหมันต์ เขารักที่ดินผืนนี้ของท่านมาก ความทรงจำมากมายที่นี่ทำให้เขาไม่อาจจะปล่อยให้มันกลายเป็นของคนอื่นไปได้ เขาจึงยอมตกลงใจรับไว้เองแม้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำสวนยางเลยก็ตามที
แม้จะขลุกขลักในปีแรก เพราะเขาต้องหาข้อมูลอย่างมาก รวมถึงศึกษาจากผู้รู้ เพื่อกอบกู้สวนยางของผู้เป็นตา ขนาดของมันมากถึงสี่ร้อยไร่และอายุของต้นยางบางส่วนก็อายุมากแล้ว เหมันต์ตัดสินใจโค่นแล้วลงกล้ายางใหม่ เพื่อรอคอยผลผลิตที่ดีกว่า ระหว่างนั้นก็ปรับปรุงพื้นที่รกร้างบางส่วนทำสวนผลไม้และสวนผักแซมไปด้วย เพื่อให้ได้ใช้พื้นที่ให้เต็มที่และมีผลผลิตอย่างอื่นหมุนเวียนออกสู่ท้องตลาด บางส่วนเก็บไว้ใช้ไว้กินกันในสวน เพราะมีคนงานที่ต้องรับผิดชอบหลายชีวิต ทว่าภาระนี้เขาเต็มใจมาแบกรับ มันทำให้เหมันต์ทั้งล้าและมีความสุขไปด้วยพร้อมๆ กัน เพียงเวลาแค่สองปี จากชายหนุ่มท่าทางสำอางเมื่อแรกเข้ามาทำงานที่นี่ มันก็เปลี่ยนสภาพของเขาให้กลายเป็นนายหัวฝรั่ง ผิวคร้ามแดด ใบหน้าดุดัน รกเรื้อไปด้วยหนวดเคราเสียแล้ว
เหมันต์รู้สึกภูมิใจที่เขาสามารถทำให้สวนยางมรดกตกทอดชิ้นนี้ได้ดำรงกิจการต่อไปได้ แม้ว่าเขาจะทิ้งความฝันบางส่วนของตนเองไปก็ตามที แต่การได้มาอยู่บนผืนดินของผู้เป็นตา และได้สืบสานต่อยอดสิ่งที่ท่านทำมาตลอดทั้งชีวิต มันก็คุ้มเกินคุ้ม
รถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของเหมันต์ขี่แล่นผ่านถนนเส้นเล็กๆ ในสวนยางออกมายังถนนใหญ่ ก่อนจะตรงกลับไปยังบ้านของผู้เป็นตา ซึ่งตอนนี้กลายเป็นบ้านของเขาไปแล้ว บ้านสองชั้นแบบเรือนปั้นหยา สีเขียวอ่อน ยกเรือนใต้ถุนสูง บริเวณบ้านร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้น้อยใหญ่ ที่ผู้เป็นเจ้าของเก่าสรรหามาปลูกประดับ ตอนนี้ยังคงเจริญงอกงามดี เพราะเจ้าของบ้านคนใหม่คอยใส่ใจดูแลเป็นอย่างดี สระบัวรวมถึงสวนกล้วยไม้ยังคงอยู่ รวมถึงสวนพันธุ์ไม้ไทยที่หายากของท่านอีกด้วย แม้ว่าเหมันต์จะไม่ค่อยมีเวลาดูแลด้วยตนเองนัก แต่ก็ให้คนสวนที่บ้านจัดการดูแลอยู่เสมอ
ถ้าแม่หลานสาวตัวแสบมาเห็นสระบัวนี่เข้าคงจะกรี๊ดกร๊าดน่าดู เหมันต์อมยิ้มเมื่อนึกถึงหลานสาวของเขาอย่างเขมจิรา ลูกสาวตัวแสบของลูกพี่ลูกน้อง ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อและดื้อรั้นน่าดู เขมจิราบ่นอุบเลยว่าไม่อยากไปเมืองนอกเพื่อเรียนต่อ เมื่อตอนที่เขาไปเยี่ยมบิดามารดาหนก่อน เจ้าหล่อนทำหูทำตาวับๆ พิกล เมื่อยามเอ่ยถึงเรื่องไปเรียนต่อเมืองนอก ยามที่น้องชายของเขาล้อเลียนว่าจะไปเป็นเด็กนอกเสียแล้ว
?ข้าวหอมไม่ไปเด็ดขาด อาโอกะอาโซ่คอยดูนะ หัวเด็ดตีนขาด ข้าวหอมก็ไม่ไป เพื่อนของข้าวหอมอยู่ที่นี่ บ้านของข้าวหอมอยู่ที่นี่ ยังไงก็ไม่ไป ต่อให้เอาช้างมาฉุดด้วยเอ้า! พ่อกับแม่ไม่มีสิทธิ์มาบังคับข้าวหอม?
?อาโซ่ว่าพ่อกับแม่ของข้าวหอมคงไม่เอาช้างมาฉุดหรอก เพราะข้าวหอมตัวเบาหวิวนิดเดียว แค่อุ้มไปก็ลอยล่องไปแล้ว? วสันต์เอ่ยเย้าหลานสาวเลยโดนแม่ตัวดีไล่ตีไปรอบๆ บ้าน ข้อหาไม่ช่วยหลานรักที่กำลังเครียดเลยสักนิด แถมมาเข้าข้างฝั่งตรงกันข้ามอีกต่างหาก
จะว่าไปไม่กี่วันนี้ ขจีพรรณก็เพิ่งโทรศัพท์มาบ่นๆ ว่าแม่ลูกสาวทำท่าจะประท้วง ด้วยการไม่ยอมไปเสียจริงๆ จังๆ เขมจิราอดข้าวประท้วงบ้าง ไม่ยอมพูดเพื่อประท้วงบ้าง แล้วล่าสุดแม่หลานสาวตัวดีก็ก่อวีรกรรมประท้วงล่าสุด
?ยัยข้าวหอมน่ะโอ ตอนนี้ไม่ยอมออกจากห้องประท้วงแล้วด้วยนะ นี่อุ้มเจ้าน้ำหวานหนีเข้าห้องไปเลย ไม่ยอมคุยกับใครสักคน พี่จะทำยังไงกับหลานดี ปวดหัวไปหมดแล้ว โอช่วยมากล่อมหน่อยเถอะ เผื่อยัยข้าวหอมจะฟังบ้าง?
?พี่ขิมใจเย็นๆ นะครับ ผมว่าแกก็ประท้วงแบบเด็กๆ เดี๋ยวก็เลิกราไปเอง?
?เฮ้อ...แกติดเพื่อนน่ะ ก็เลยไม่ยอมไปท่าเดียว ติดเพื่อนแล้วก็ติดเจ้าน้ำหวาน เค้ารักของเค้ามากน่ะ ไม่ยอมไว้ใจให้ใครเลี้ยง เกินไปนะโอ ถึงขนาดไม่ยอมไปเรียนต่อนี่ พี่กับพี่ธรรมติดต่อโรงเรียนแล้วก็อะไรๆ ไว้หมดแล้ว ไม่ไปได้ยังไงกัน?
?ใจเย็นๆ ครับพี่ขิม เดี๋ยวผมให้เจ้าโซ่มันช่วยกล่อมอีกทางหนึ่ง เพราะว่าอาหลานคู่นี้สนิทกันอยู่มากนะครับ ให้เจ้าโซ่มันคุย เผื่อว่าข้าวหอมอาจจะยอมก็ได้?
?ช่วยพี่หน่อยก็แล้วกันนะโอ พี่ล่ะปวดหัวไปหมดแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงดี?
หลังจากที่รับปากพี่สะใภ้ไปแล้ว เหมันต์ก็โทรศัพท์หาวสันต์ ซึ่งฝ่ายนั้นก็ตกปากรับคำอย่างดีว่าจะช่วย ?กล่อม? หลานสาวจอมดื้อให้ยอมไปเรียนต่อให้ได้ แถมพูดกับเขาว่าจะรับเลี้ยงเจ้าน้ำหวานให้ด้วย คนอย่างวสันต์ไว้ใจได้อยู่แล้ว พี่ชายไม่ต้องเป็นห่วง
เหมันต์อมยิ้มเมื่อนึกถึงเจ้าน้องชายตัวดี ไม่ต้องห่วงอะไรกัน สำหรับวสันต์ ถ้าให้งานไปล่ะก็ ต้องห่วงอย่างหนักเลยล่ะ เพราะความเลื่อนลอยไร้สาระแกมกะล่อนหน่อยๆ ของเจ้าตัว ทั้งยังเป็นเด็กไม่รู้จักโต อายุจนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมทำงานทำการเสียที คิดถึงแล้วก็ต้องส่ายหน้าอย่างนึกระอาในตัวของน้องชาย ที่มักจะมีมารดาคอยถือหางบ้าง บิดาคอยตามใจบ้างเสมอ วสันต์ถึงเป็นลูกแหง่อยู่ไม่เลิกแบบนี้
พอเห็นหลังคาเรือนปั้นหยาอยู่ลิบๆ ท้องของเขาก็ชักจะเริ่มหิวขึ้นมาหน่อยๆ เมื่อตอนเย็นไม่ค่อยได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก เพราะเมื่อตอนเย็นวานเขาต้องไปส่งคนงานคนหนึ่งในไร่ไปทำคลอดที่โรงพยาบาล แล้วอยู่ช่วยลุ้นกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่คนใหม่ไปด้วยอย่างตื่นเต้น ว่าสมาชิกคนใหม่จะเป็นเพศไหน กว่าจะกลับก็ดึกโขแล้ว
รถยนต์คันหนึ่งดูคุ้นตาจอดไว้ที่หน้าบ้าน ทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันโดยทันที นี่มันรถของ...และแล้วเจ้าของรถก็โผล่พรวดออกมาต้อนรับพี่ชายอย่างรวดเร็ว เพียงได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์เข้ามา ข้างๆ กายมีร่างของหญิงสาววัยรุ่น พร้อมกับตะกร้าที่บรรจุอะไรบางอย่างถือไว้ด้วย ทั้งสองคนยิ้มกว้างทันทีที่เห็นหน้ามุ่ยๆ ของเหมันต์ พร้อมกับเอ่ยพร้อมกันเสียงใส
?สวัสดีครับ/ค่ะ?
?ไอ้โซ่ ยัยข้าวหอม!?
******************************************************************************************************************************
เหมันต์กวาดสายตาคมกริบมองดูใบหน้ายิ้มระรื่นของน้องชายตัวแสบที่กำลังนั่งเอ้เต้อยู่ใกล้ๆ เขา นึกอยากจะถีบเข้าให้เต็มรักสักที พ่อเจ้าประคุณจะได้ยิ้มทะเล้นๆ แบบนี้ไม่ออก ดูเอาเถอะ เขาบอกให้ไปช่วยเกลี้ยกล่อมหลานสาวให้ยอมไปเรียนต่อเมืองนอก แล้วนี่ไอ้น้องบ้าไปกล่อมอีท่าไหนกัน หลานรักถึงได้มานั่งทำหน้าเป็นอยู่ที่นี่ แถมรู้เห็นเป็นใจมาส่งเองกับมือด้วยเสร็จสรรพ
?ไอ้...? พอขยับจะด่าคำแรก วสันต์ก็พูดขึ้นก่อนอย่างรวดเร็ว
?อย่าเพิ่งด่าผมนะครับพี่โอ ให้ผมได้โอกาสอธิบายก่อน คือว่าถ้าผมไม่พามาที่นี่ มีหวังหลานเตลิดไปไกลแน่ๆ นี่แกวางแผนหนีไปอยู่กับเพื่อนที่ทางเหนือด้วยนะครับ ปล่อยไปได้ยังไงกัน?
?อ๋อ...?
?ผมก็เลยพามาอยู่ที่บ้านพี่โอเสียเลย ที่ระนองนี่แหละ ปลอดภัยที่สุด แล้วก็เป็นโอกาสดีด้วยที่จะได้ให้พี่โอจัดการพูดให้ยัยข้าวหอมยอมไปเรียนต่อที่เมืองนอก อย่างพี่โอน่ะ หม่ามี้การันตีมาว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์ครับ? เมื่อได้ชิงพูดอธิบายทุกอย่างก่อนที่พี่ชายจะทันได้อ้าปากด่าเรียบร้อยแล้ว วสันต์ก็ขยับตัวออกห่างจากรัศมีเท้าของพี่ชายเล็กน้อย เพราะกลัวว่าเหมันต์อาจจะเปรี้ยงปร้างลุกขึ้นถีบเอาได้
?หม่ามี้ของเราบอกว่าต้องพี่โอคนเดียวเลย ถึงจะกล่อมยัยข้าวหอมได้ ผมพูดจนน้ำลายท่วมเต็มห้อง หลานก็ไม่ยอมหรอกครับ ต้องพี่โอสุดหล่อแสนดีเท่านั้น ถึงจะจัดการทุกอย่างได้?
?ไม่ต้องมาชมเลยไอ้โซ่ แล้วก็ไม่ต้องยกเอาหม่ามี้มาอ้าง? เหมันต์ยังคงทำตาขวางๆ ใส่น้องชาย แล้วถอนใจเฮือก อย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีไปกว่านั้น เขามองลงไปทางหลานสาวที่กำลังเพลิดเพลินกับการไล่จับเจ้าหมาพุดเดิ้ลสีขาวไปรอบๆ สวน แล้วหันมามองน้องชายอีกรอบ สองหนุ่มคุยกันตรงระเบียงด้านบนของตัวบ้าน จึงแน่ใจได้ว่างานนี้ไม่มีใครได้ยินที่เขาและน้องชายตัวแสบปรึกษากันแน่ๆ
?แล้วจะเอายังไง นี่พี่ธรรมรู้หรือยังว่ายัยข้าวหอมหนีมาหาพี่?
?ผมแอบส่งซิกไปแล้วล่ะครับ แต่ก็ไม่ได้บอกหลาน กลัวว่าจะยิ่งเตลิด ก็ผมเป็นต้นคิดเรื่องหนีออกจากบ้านเองนี่นา โอ๊ย! โห...พี่โอ เตะกันเลยเหรอเนี่ย ตั้งกะมาเป็นนายหัวนี่ ตีนหนักเป็นบ้า? ประโยคหลังโวยขึ้นเมื่อจู่ๆ เขาก็ล้มโครมไปนั่งถลาอยู่บนพื้นเพราะฝีเท้าของพี่ชาย ที่เหลือดอดแล้วจริงๆ คนทำทำหน้านิ่งตามแบบของเขา พร้อมกับเลิกคิ้วให้น้อยๆ ราวกับจะท้าว่าถ้าแน่จริงล่ะก็ จะลุกมาตอบโต้เขาก็ไม่ว่า
?แล้วนายจะให้พี่ทำยังไง??
?แหม...พี่โอน่ะรู้หน้าที่ของตัวเองดีอยู่แล้วนี่ครับ อูย...? วสันต์ค่อยๆ พาตัวเองขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ยาวอีกรอบ พลางมองราวกับจะค้อนพี่ชายหน้าตายของตนเอง
?อ้อ...นายนี่มัน เฮ้อ...ให้ตายสิ พี่ไม่น่าไว้ใจให้นายจัดการเรื่องหลานแทนเลยจริงๆ? เหมันต์ยกมือขึ้นเสยผม ก่อนจะมองน้องชายด้วยสายตาขุ่นๆ ขณะที่วสันต์ยิ้มแหย แล้วชูนิ้วสองนิ้วให้กับพี่ชายราวกับจะให้กำลังใจ
?เอาน่าครับพี่ อย่างพี่โอน่ะไหวอยู่แล้ว แค่จัดการหลานคนเดียว สู้ๆ นะครับ พี่โอก็รู้นี่นา ผมกล่อมใครเป็นที่ไหน เป็น แต่ยุให้ทำ แหะๆ จะว่ายุให้รำ ตำให้รั่ว ก็ผมนี่แหละครับ ถนัดเลย?
?เอ่อ...สรุปว่าพี่ต้องทำใช่ไหม?? ใบหน้าคมเข้มรกเรื้อไปด้วยหนวดเครา ทำให้เจ้าตัวดูคมเข้มและดุดันยิ่งกว่าเดิม ยิ่งแววตาสีน้ำตาลเข้มเปล่งประกายวับๆ นั่นแล้ว มันก็เล่นเอาหนุ่มขี้เล่น กะล่อนจัด เอาตัวรอดได้ทุกหนอย่างวสันต์ก็หนาวๆ ร้อนๆ ได้เหมือนกัน รู้ๆ กันในหมู่พี่น้องทั้งสามคนว่า ทั้งเขาและพี่ชายคนโตอย่างคิมหันต์ เกรงใจเหมันต์มากที่สุด เพราะเหมันต์นิสัยของเขาค่อนข้างจะนิ่งกว่าพี่น้องอีกสองคนที่กะล่อนเป็นไฟเกือบๆ จะเท่ากัน แถมเป็นคนที่บิดามารดาไว้ใจมากที่สุด เนื่องจากนิสัยเอาจริงเอาจังของเจ้าตัว จึงกลายเป็นว่าเวลาที่ท่านทั้งสองจัดการลูกชายทั้งสองของตนเองไม่ได้ เหมันต์ก็มักจะได้รับคำสั่งให้ไปไล่บี้ทั้งคิมหันต์และวสันต์ ซึ่งก็สำเร็จทุกที เพราะสองหนุ่มจะหงอและหายซ่าส์กันไปได้พักใหญ่ๆ เลยทีเดียว
?แหะๆ?
?นายกลับบ้านไปไป๊โซ่ เหม็นขี้หน้าว่ะ? เขาสะบัดหน้าหนีน้องชายตัวแสบ ยิ่งเห็นหน้าก็ยิ่งพานจะอยากถีบเอาอีกสักหน วสันต์ยิ้มแหยๆ ส่งให้พี่ชาย แล้วถามย้ำออกมาอีกรอบ
?ตกลงว่าเรื่องของข้าวหอม พี่โอจะจัดการเองใช่ไหมครับ?
?เอ่อ ไปไหนก็ไปเร็วๆ เลย ก่อนที่พี่จะถีบนายอีก?
คำประกาศิตนั้นทำให้น้องชายคนเล็กสุดแสบของครอบครัวเดเซ็นเต้ ถึงกับยิ้มออกมาได้ แล้วก็กระโดดโหยงลุกขึ้นจากเก้าอี้ยาวทันที ก่อนจะผิวปากหวืออย่างโล่งอก
?ก่อนผมจะกลับ ขอนอนก่อนนะครับพี่โอ ง่วงมากๆ พายัยข้าวหอมหนีมาตอนกลางดึกเลย ลองๆ ซ้อมๆ พาหลานหนีก่อน เผื่ออนาคตจะได้พาใครหนีบ้าง มาขอหลบภัยที่สวนยางของพี่โอ?
?ลองทำแบบนี้อีกหน รอบนี้พี่ไม่เตะ พี่จะไล่ยิงนายแทน ถ้าไปพาลูกสาวใครเค้าหนีมาน่ะ? ท่าทางเอาจริงเอาจังเล่นเอาคนขี้เล่นถึงกับหัวเราะแหะๆ แล้วรีบเดินเลี่ยงไปทางห้องนั่งเล่นเพื่อจะหาโซฟาตัวยาวสักตัวเอนหลังพักผ่อน ดูท่าทางพี่ชายจะไม่อยากคุยกับเขาแล้ว แล้วเขาเองก็เป็นคนชอบพูดจาเย้าแหย่อยู่ด้วย กลัวตัวเองอดใจไม่แหย่ไม่ไหว พอๆ กับกลัวพี่ชายจะถีบเอาอีกสักโครมสองโครม เพราะคนอย่างเหมันต์ไม่พูดตอบ มีแต่หน้าบึ้งแล้วก็เตะ แถมเตะทีก็เล่นเอาเกือบสะโพกร้าว
เมื่อลับหลังน้องชายตัวดีไปแล้ว เหมันต์ก็ได้แต่ถอนใจ ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ งานนี้ไม่รู้จะเอาอยู่อย่างที่ใครๆ ฝากความหวังไว้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็แม่หลานสาวของเขาน่ะดื้อสุดๆ แถมยังเอาแต่ใจมากมายเสียด้วย แต่ก็ต้องลองดู ความหวังมันอยู่ที่เขาแล้วนี่
ดูเหมือนหลังจากที่เข้าที่เข้าทางเรื่องการทำสวนยางแล้ว เหมันต์ก็ยังมีภารกิจที่ต้องรบราอีกสินะ แถมงานนี้ดูจะเป็นงานหนักกว่าการจัดการสวนยางพาราสี่ร้อยไร่ของผู้เป็นตาเสียอีก เฮ้อ...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เหมันต์ นาตาลีโอ้ เดเซ็นเต้ ขันตัวเองที่รสนิยมล่าสุดช่างขัดกับบุคลิกคมเข้มเคร่งขรึมนัก ใครจะเชื่อว่านายหัวฝรั่งอย่างเขาแอบอ่านนิยายรักปกหวานแหววแบบไม่ให้ใครรู้ใครเห็น แถมยังมีเจ้าหมาน้อยพุดเดิ้ลของหลานสาวที่ฝากให้เลี้ยงเดินตามดุ๊กดิ๊กไม่ยอมห่างอีก หนุ่มฤดูหนาวที่เย็นชาและจอมโหดเลยหุบยิ้มไม่ลงและวางนิยายรักหวานใสในมือไม่ได้แล้ว เขาจึงออกตามหานักเขียนในดวงใจบนโลกออนไลน์ด้วยการปลอมตัวเป็นสาววัยสิบแปด โชคดีจริงๆ ที่ ช่อม่วง หรือเจ้าของนามปากกา ภาดา พูดคุยอย่างสนิทสนมไว้ใจ เล่าทุกอย่างให้ฟัง แต่แล้วจู่ๆ โชคชะตาก็โยนอุปสรรคในการแต่งนิยายของหญิงสาวให้บังเกิดขึ้น ช่อม่วงตัดสินใจออกเดินทางไกลมาหาพล็อตเรื่องและประสบการณ์รักที่ไม่เคยมี นายหัวฝรั่งและแม่สาวช่อม่วงจึงได้พบกันด้วยความแสบซนของกามเทพที่เล่นตลกก่อนเสกให้รัก โดยแผลงฤทธิ์ให้หล่อนลื่นเปลือกกล้วยแล้วคว้าหมับกระชากกางเกงเลของเขามากองที่พื้น ความอายที่ต้องโชว์แก้มก้นต่อหน้าผู้คนทำให้เขาคอยตามระราน ยิ่งรู้ว่าหล่อนอยากรู้เรื่องรักๆ ใคร่ๆ แล้ว เขาก็คอยแต่ป้อนข้อมูลลับเฉพาะให้สาวเจ้าอยู่บ่อยๆ ไหนจะจูบที่ปาก ซุกที่คอ และกอดให้แน่นจนช่อม่วงกระจ่างชัดในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่เธออยากรู้

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”