1
ฉันก้าวลงจากรถเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นล่าสุดอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนยืนเอียงทำมุม 45 องศาเพื่อให้ประกายแดดส่องมาที่ฉันอย่างจงใจจะโดดเด่น และแน่นอนว่ามันได้ผลทุกครั้ง...หนุ่มๆ ที่นั่งอยู่แถบนั้นก็ให้ความสนใจในทันที สังเกตได้จากการชี้ชวนหรือสะกิดเพื่อนให้หันมามองว่าฉันคนนี้กำลังยืนอยู่ที่นี่
เฮเลน...คือชื่อของฉันที่ทั้งมหาวิทยาลัยแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะความสวยที่พระเจ้าสร้างสรรค์มาให้อย่างตั้งใจนั่นไง แทบไม่มีส่วนใดบนใบหน้าที่ไม่เพอร์เฟกต์ ...อย่าเพิ่งหมั่นไส้
ก็มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ...
?เฮเลนครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมมารับนะครับ? เสียงชายหนุ่มที่เปิดประตูรถด้านคนขับลงมา เดินอ้อมมาส่งฉันที่หน้าประตูหอพักเอ่ยขึ้น อ้อ รถนี่ไม่ใช่ของฉันหรอก
สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันไม่เพอร์เฟกต์ก็คือฉันไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก อย่าให้ถึงขนาดใช้คำว่าจนเลย...แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉัน เพราะหนุ่มๆ ที่มาติดพันแต่ละคนรวยแทบจะล้นฟ้าอยู่แล้ว
?ไม่เป็นไรค่ะ จอห์น พรุ่งนี้ฉันมีคนมารับแล้ว?
ฉันระบายยิ้มสวยไปให้ชายหนุ่มที่ทำหน้าเหวออยู่ข้างๆ ก่อนควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋าเพื่อเปิดประตูเข้าไปด้านใน มันเป็นแค่หอหญิงธรรมดาที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยแค่นั้น ...คงเพราะฉันหยิ่งเกินไปที่จะให้ใครมาออกทุนการศึกษาให้ แม้จะมีแต่คนเต็มใจจะจ่ายค่าคอนโดฯ แสนหรูเดือนละเป็นหมื่นให้อยู่ ถึงจะอยากใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์เต็มที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องโดนซื้อด้วยเงินเสมอไปหรอกนะ...
ฉันมองเงาสะท้อนตัวเองในกระจกเล็กๆ ก่อนทางขึ้นบันไดไปชั้นสาม อดไม่ได้ที่จะหยุดชื่นชมผมบลอนด์ทองธรรมชาติของตัวเอง และผิวขาวจัดที่ถอดแบบคุณแม่ชาวอังกฤษมาเป๊ะๆ รวมไปถึงตากลมโตสีน้ำตาลที่ได้มาจากพ่อชาวไทยอย่างภูมิใจ ก่อนจัดผมดัดลอนที่เริ่มยุ่งให้เข้าทรงเล็กน้อยแล้วถึงเดินขึ้นไปชั้นสามโดยไม่ใช้ลิฟต์เพื่อออกกำลังกายไปในตัว คนสวยก็ต้องดูแลตัวเองให้หุ่นดีแล้วก็ต้องดูดีตลอดเวลาใช่ไหมล่ะ
แกร๊ก...
เสียงเปิดประตูที่ห้อง 311 ซึ่งฉันพยายามเปิดให้เบามือที่สุด ก่อนค่อยๆ แนบหน้าไปกับประตูเพื่อสำรวจความเรียบร้อยภายในห้อง ที่ทำอย่างนี้ก็เพราะฉันไม่ได้อยู่คนเดียวที่นี่... มีเพื่อนร่วมห้อง 3 คนที่ฉันมั่นใจว่าพวกนั้นก็ไม่ค่อยชอบหน้าฉันเท่าไหร่ แต่กลับอาศัยอยู่ในห้องเดียวกันคล้ายเป็นดังเพื่อนสนิท! จริงๆ แล้วตอนปี 1 ที่เข้ามาใหม่ๆ พวกเธอทั้งสามคนก็ดีกับฉันนะ แต่คงเพราะฉันเองที่ทำตัวแย่ๆ คบผู้ชายคนนั้นคนนี้ไปทั่วจนมีข่าวลือแปลกๆ ออกมาเลยทำให้พักหลังพวกนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของฉันสักเท่าไหร่ พอฉันทำอะไรเลยดูขวางหูขวางตาไปซะหมด...แต่มันก็เรื่องของฉันนี่นะ ฉันไม่สนว่าใครจะคิดยังไงหรอก พวกเด็กเรียนก็งี้แหละ ไม่ชอบอะไรที่แตกออกนอกแถวเป็นธรรมดา
ว่าแต่...โล่งอกไปทีที่วันนี้กลับมาถึงก่อนพวกนั้น...จะได้อาบน้ำแบบสบายใจไม่ต้องมีใครมาเร่งสักที
ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนปิดประตูห้องแล้วโยนกระเป๋าลงบนเตียงขนาดใหญ่ด้านในสุด การจิกหน้าให้สวยตลอดเวลาเป็นอะไรที่เหนื่อยเหมือนกันนะ ...ภายในห้องนอนมีเตียงขนาดใหญ่ 2 เตียง ซึ่งฉันต้องร่วมแชร์กับยัยเรเน่คนละครึ่ง ซึ่งการนอนเตียงเดียวกันทำให้ฉันเหมือนจะได้คุยกับเรเน่บ่อยที่สุด แม้อาจจะดีบ้างไม่ดีบ้างในบางครั้งก็ตาม ส่วนอีกเตียงเป็นของจินนี่กับลูซี่... จริงๆฉันอยากจะย้ายออกไปจะแย่...แต่ติดที่หอนี่เป็นหอหญิงเพียงหนึ่งเดียวที่พ่อกับแม่อนุญาตให้มาอยู่ได้ เนื่องจากเจ้าของหอเป็นญาติกับแม่ของฉัน โชคดีหรือร้ายไม่รู้ที่ฉันดันสอบเข้าที่ Castle Hill International University คณะศิลปกรรมการดีไซน์ที่มีชื่อเสียงทางด้านการออกแบบ และมีอาจารย์ชื่อดังจากอิตาลีมาสอนโดยเฉพาะ ทำให้ต้องยอมจากบ้านเกิดของพ่อที่ต่างจังหวัดมาเรียนไกลถึงกรุงเทพฯ แต่ค่าเทอมแสนแพงนั่นทำให้ฉันต้องทำงานพิเศษตอนกลางคืนควบคู่ไปด้วย... และเพราะความสวยทำให้แม่ไม่อยากให้ฉันอยู่คนเดียว เลยจับยัดไว้ในห้องใหญ่ที่สุดร่วมกับนักศึกษาแพทย์สามคนที่แม่ไว้ใจแล้วว่าฉลาดพอที่จะให้คบด้วย
แม่ไม่รู้ว่าคนสวย...มักจะไม่มีเพื่อนผู้หญิงหรอก นี่เป็นกฎที่ฉันท่องมาตั้งแต่เรียนอยู่ ม.1 แล้ว
?นี่ เฮเลน อาบน้ำเสร็จหรือยัง นานไปแล้วนะ!?
โอ๊ย! นี่ฉันเพิ่งอาบได้แค่สิบนาทีเอง ยัยพวกนี้ก็เข้ามาก่อกบฏแล้วเหรอเนี่ย!
?ฉันเพิ่งอาบได้สิบนาทีเอง กำลังสระผมอยู่ด้วย รออีกแป๊บนะจ๊ะ?
ฉันเบ้ปากลับหลังอยู่ในห้องน้ำ หลังจบประโยคด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานลง...ที่จำเป็นต้องดีกับพวกนี้น่ะเหรอ ก็เพราะยัยพวกนี้ขี้เม้าท์จะตาย ชอบจับกลุ่มจุ๊กจิ๊ก จิกกัดชาวบ้านไปทั่ว ถ้าหากทำตัวไม่ดีใส่ล่ะก็ ภาพพจน์ดีๆ ที่สั่งสมมาพังทลายแน่นอน...แต่ประเด็นที่สำคัญมากคือ คุณแม่ของฉันให้พวกเธอคอยดูแลฉันอยู่ด้วยน่ะสิ ถ้ายัยพวกนี้ไปฟ้องอะไรไม่ดีขึ้นมาล่ะก็ ซวยแน่!
สักวันเถอะ...ฉันจะอาบน้ำสักสามชั่วโมงให้ยัยพวกนั้นขาดใจตายไปเลย!
?เสร็จแล้วจ้ะ ขอโทษทีนะ นานไปหน่อย?
ฉันระบายยิ้มสวยใส่สามสาวอย่างเสแสร้ง ก่อนเดินไปนั่งที่เตียงแล้วจัดการเช็ดผมให้แห้งด้วยท่าสวยๆ ดูเซ็กซี่นิดๆ ที่ต้องเก๊กก็เพราะยัยพวกนี้ชอบแอบดูฉันเสมอแหละ ไม่ว่าจะหยิบจับอะไร แล้วฉันก็ชอบดูตอนผู้หญิงกำลังจ้องมองด้วยความอิจฉาน่ะ มันสนุกดี...
ทันทีที่จินนี่เดินเข้ามาภายในห้อง ยัยสามคนก็จับกลุ่มเตรียมเม้าท์ขึ้นมาทันที ฉันหยิบนิตยสารเล่มเก่ามาเปิดอ่านรอเวลาให้พัดลมเป่าผมจนแห้งสนิท
?เรเน่ วันนี้ฉันเจอรุ่นพี่ฟิเดลด้วยล่ะ อ๊า...เขายิ้มให้ฉันด้วย?
?จริงเหรอจินนี่! ฉันอยากให้เขายิ้มให้บ้างจัง?
?นี่ๆ ได้ข่าวว่าพี่เขายังไม่มีแฟนด้วยนะ?
เสียงเม้าท์มอยของสามสาวเรียกความสนใจจากฉันได้เป็นอย่างดี แต่ต้องแกล้งทำเป็นไม่สนใจให้มากที่สุด รุ่นพี่ฟิเดลอย่างนั้นเหรอ...ทำไมไม่ยักเคยได้ยินชื่อนะ ทั้งๆ ที่คนที่มาจีบฉันแต่ละคนล้วนแต่เป็นคนดังของมหาวิทยาลัยทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีชื่อหมอนี่โผล่เข้ามาในชีวิตฉันเลย หึ! ท่าทางจะคลั่งกันมากทีเดียว หวังเถอะ ว่าเขาจะสนใจสามสาวเชยระเบิดอยากพวกเธอน่ะ!
?นี่ เฮเลน วันหลังสระผมแล้วช่วยเก็บเศษผมยาวๆ ของเธอทิ้งด้วยได้ป่ะ มันอุดท่อจนจะตันอยู่แล้ว? ยัยลูซี่ หนึ่งในแก๊งสามสาวที่ฉันเกลี๊ยด เกลียด เดินกอดอกท่าทางยโสมาใกล้ ยัยนี่ปากดีที่สุดในสามคนเลย
ผมฉันคนเดียวหรือไงยะ! ฉันเห็นผมพวกเธอก็ยาวกันทุกคนแหละ
?ขอโทษทีนะ วันหลังฉันจะระวังให้มากกว่านี้ เธอก็ผมยาวนะลูซี่ ระวังผมเธอมันจะร่วงแล้วไปทับถมกองผมของฉัน จนน้ำขังเต็มห้องน้ำล่ะ?
ฉันระบายรอยยิ้มให้ลูซี่เหมือนเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังดีสุดๆ จนเธอถอยทัพกลับเข้าไปในห้องน้ำใหม่... ฉันล้มตัวลงนอนเอาแรง ไม่อยากสู้รบตบมือกับพวกนี้จนเลยเวลา เดี๋ยวใบหน้าสวยๆ ของฉันจะไม่สดใสพร้อมรับวันใหม่พรุ่งนี้พอดีกัน
?นี่เรเน่ รอยยิ้มของพี่ฟิเดลน่ารักมากเลยล่ะ ฉันอยากจะไปดูเขาซ้อมเตะบอลตอนเย็นจังเลย?
?พี่เขาไม่ได้มาเตะทุกวันนี่ แล้วแต่อารมณ์ต่างหาก ไว้พรุ่งนี้เราไปแอบดูดีกว่าว่าพี่เขาจะมาไหมเนอะ เดี๋ยวชวนลูซี่ไปด้วย?
?ว้าย เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันต้องแต่งหน้าไปให้สวยหน่อยล่ะ?
จินนี่กับเรเน่นอนคุยกรี๊ดกร๊าดกันอยู่บนเตียงขนาดใหญ่อีกเตียง ฉันหวังว่าเรเน่จะคุยจนติดลมแล้วหลับไปบนเตียงนั้นเลยคงจะดีไม่น้อย
ว่าแต่...จะแต่งยังไงก็สวยยากล่ะย่ะพวกนี้
?นี่ เฮเลน ฉันว่าเธอกินที่มามากเกินไปแล้วนะ?
ฉันลืมตาขึ้นเห็นเรเน่ที่นั่งอยู่บนเตียงอีกฟากกำลังจ้องหมอนลายสนูปี้ใบเล็กของฉัน ที่มันดันพาดไปถึงฝั่งที่นอนของยัยนี่พอดี
?อ้อ โทษที?
ฉันหยิบหมอนใบนั้นให้กลับเข้ามาสู่อาณาเขตของฉันอย่างปลอดภัยก่อนลอบถอนใจเบาๆ ขนาดฉันพยายามทำตัวให้มีปัญหาน้อยที่สุด แต่ทุกอย่างก็ดันเป็นปัญหาได้ ฉันเบื่อแสนเบื่อจริงๆ อยากจะย้ายออกไปจากที่นี่ชะมัด
เรเน่ล้มตัวลงนอนข้างๆ ฉัน พร้อมเปิดอ่านหนังสือฟิสิกส์ในมือราวกับมันเป็นนิยายชั้นเยี่ยมอย่างตั้งใจ ทั้งที่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แถมยังเปิดไฟดวงเล็กข้างเตียงไว้ด้วย ฉันมองดวงไฟอย่างรำคาญใจนิดๆ แต่ก็ปล่อยให้เธอเปิดไว้อย่างนั้น
แม่นะแม่...ไม่เห็นใจลูกสาวคนสวยบ้างเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นที่ควรจะสดใส แต่ฉันดันนอนไม่ค่อยหลับ ทำให้ใต้ตาเกิดมีรอยคล้ำจนต้องเสียเวลาใช้คอนซีลเลอร์กลบไว้ ไม่เอาล่ะต่อไปนี้ ฉันจะไม่เผลอคิดอะไรบ้าบอจนนอนไม่หลับอีกแล้ว
?เธอมีที่เขียนขอบตาหรือเปล่าเรเน่?
เขาเรียกอายไลเนอร์ย่ะ
?ไม่มีนะ ของฉันไม่ได้ใช้นานจนมันแห้งไปแล้วล่ะ?
เรเน่พยายามรื้อกระเป๋าเครื่องสำอางที่มีไม่กี่ชิ้นของตัวเองขึ้นมาดู พวกนี้เคยแต่งหน้ากันซะที่ไหน ถึงแต่งไปก็ช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก จะมามัวเสียเวลาทำไมก็ไม่รู้
?ฉันมี เอาไปสิ?
ฉันหยิบอายไลเนอร์หน้ากระจกของตัวเองขึ้นส่งให้ จินนี่ดูลังเลแต่ก็ยอมรับมันมาแต่โดยดี ไม่ได้ใจดีอะไรมากหรอกนะ เผื่อพวกนี้จะรู้ตัวตอนพยายามมากแล้วแต่หน้าตาในกระจกก็ไม่เปลี่ยนแปลงน่ะมันเป็นยังไง เพราะถึงแม้พวกเธอจะเรียนมหาวิทยาลัยอินเตอร์และมีเชื้อลูกครึ่งกันทุกคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหน้าตาดีได้ทุกคนนี่นะ หุหุหุ นี่ฉันไม่ได้อคติกับพวกเธอมากไปใช่ไหม
?วันนี้พี่ฟิเดลมีเรียนคาบแรกรวมที่ตึกแพทย์นะ?
เรเน่เร่งเร้าจินนี่ที่กำลังจัดการกับเปลือกตาของตัวเองอย่างร้อนรน ...ฉันเริ่มสงสัยขึ้นมาสุดๆแล้วนะว่าไอ้รุ่นพี่บ้านี่จะหล่อขนาดไหนเชียว! เห็นพูดกันทั้งวันทั้งคืนเลย
?เดี๋ยวสิ ลูซี่เสร็จหรือยังอ่ะ?
?ฉันเสร็จแล้วล่ะ เป็นไงสวยไหม?
ฉันเหลือบตาไปมองลูซี่ด้วยหางตา เกือบจะหลุดหัวเราะก๊ากออกมาแล้วเมื่อเห็นความพยายามจะสวยของลูซี่ที่ดูยังไงก็ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย ไม่แต่งซะจะดีกว่าอีก!
?สวยจังเลยลูซี่ น่ารักมาก วันนี้พี่ฟิเดลต้องยิ้มให้แน่นอน?
?เหรอ ฉันตื่นตั้งแต่ตีห้าเลยนะเนี่ย?
พวกนี้ก็ช่างยกยอกันเองจริงๆ มันดูได้ที่ไหนล่ะเนี่ย ถึงกับต้องตื่นตีห้าเลยเชียวเหรอ เฮ้อ คนสวยเพลีย! ระหว่างที่พวกนั้นกำลังพยายามแต่งหน้าอย่างจริงจัง ฉันที่เพิ่งจะแต่งหน้าเสร็จก็เริ่มเก็บของเข้ากระเป๋าบ้าง ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นจินนี่ที่พยายามเม้มปากกับกระดาษทิชชู่เพื่อลบลิปสติกสีแดงที่มันแดงทะลุหน้าจนเกินไปของเธอออก อืม...ฉันแอบเห็นด้วยกับเธอนะ จินนี่เหมาะกับลิปสีชมพูอ่อนๆ มากกว่า
?นี่ รุ่นพี่ที่ชื่อฟิเดลเขา...ดูดีมากเลยเหรอ?
ฉันตัดสินใจถามสิ่งที่สงสัยออกไป ปฏิกิริยาแรกของสามคนนั้นคือชะงักงันไปโดยปริยาย แถมแอบทำปากขมุบขมิบใส่กันซะอีก คิดว่าฉันไม่เห็นหรือไง...
?ก็ไม่เท่าไหร่หรอก พวกผู้ชายในสต๊อกของเธอดูดีกว่าเยอะ? จินนี่เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาคนแรก ก่อนหยิบอายไลเนอร์ส่งคืนให้ฉันอย่างประหม่า
?ใช่ๆ ไม่หล่อเท่าไหร่หรอก แค่คณะแพทย์ไม่ค่อยมีหนุ่มหน้าตาดีๆ เข้ามาน่ะ พวกเราเลยตื่นเต้นนิดหน่อย? เรเน่คว้ากระเป๋าขึ้นสะพายไหล่แล้วหยิบหนังสือเล่มหนาไว้แนบอก ก่อนสะกิดให้จินนี่รีบไปเรียนสักที
ฉันว่ามันไม่นิดหน่อยหรอกนะ! พวกเธอเล่นบ้าบอกรี๊ดกร๊าดกันจนฉันนอนไม่หลับ!
?พวกเราไปเรียนก่อนนะเฮเลน อย่าใส่ใจพวกฉันเลย จำไว้แค่ว่าพี่ฟิเดลดูไม่น่าสนใจจนแทบจะเรียกว่าน่าเบื่อด้วยซ้ำสำหรับเธอ? ลูซี่กล่าวปิดท้าย ก่อนต้อนทั้งจินนี่และเรเน่ออกประตูไป
เฮ้ๆ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุนะ ยัยพวกนี้ดูร้อนรนแปลกๆ ฟังก็รู้ว่าไม่อยากให้คนสวยๆ อย่างฉันแย่งรุ่นพี่ฟิเดลที่พวกเธอหมายปองไป ตลกเป็นบ้า!
เอาล่ะ ฉันเห็นหนทางแก้เผ็ดยัยพวกนี้แล้วสิ!
2
ชื่อ : Fidell Blendesh
ที่พัก : หอพักรวม Clody
เบอร์โทร : 081-xxxx-xxx
เอาล่ะ...หลังจากที่กล้าทำตัวหยาบคายไปแอบเปิดไดอะรี่กุ๊กกิ๊กของยัยจินนี่ ที่ดูจะคลั่งไคล้นายฟิเดลเป็นพิเศษ ฉันก็ได้ข้อมูลมาแบบว่าเล็กน้อยมากๆ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาหายากหรือว่ายัยพวกนี้ไร้ความสามารถกันแน่ แต่ยังเก่งนะที่อย่างน้อยได้เบอร์โทรศัพท์มาด้วยน่ะ ฉันจดข้อมูลเล็กๆ นั่นใส่กระดาษแล้วแอบไว้ในกระเป๋าสตางค์ ตอนนี้ยังคิดแผนอะไรไม่ออกหรอก แต่ท่าทางแผนครั้งนี้คงสนุกพิลึกล่ะ
?เคย์ แกอยู่ไหน เลยมารับฉันหน่อยดิ?
ฉันพูดโทรศัพท์กับเคย์ หรือไอ้เคย์ เพื่อนผู้ชายเพียงหนึ่งเดียวที่เรียกได้ว่าสนิทกันจนรู้ไส้รู้พุงกันหมด เป็นเพราะเราโตมาด้วยกัน แล้วก็เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เล็กจนโต แถมเคย์ยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้ได้พร้อมๆ กับฉัน แม้จะเรียนกันคนละคณะก็ตาม แต่เราสองคนก็ยังสนิทกันอยู่ดี
[แล้วหนุ่มๆ ในสต๊อกไปไหนหมดล่ะ]
?เบื่อหมดแล้วน่ะ ฉันรออยู่หน้าหอนะ?
[เออ กำลังเลี้ยวเข้าไปแล้ว]
?โอเค?
ฉันวางโทรศัพท์ลงแล้วยืนเก๊กสวยอยู่หน้าประตูหอเพื่อรอเขามารับ บรรยากาศก็เดิมๆ ทั้งร้านกาแฟ ร้านอินเตอร์เน็ต มีคนทยอยเข้าอย่างไม่ขาดสาย หอนี้อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยไม่ไกลนัก จึงมีคนค่อนข้างพลุกพล่าน ผู้ชายหลายคนเผลอมองฉันที่ยืนเด่นเป็นสง่าจนเหลียวหลังแม้ว่าจะกุมมือแฟนอยู่ก็ตาม
ก็อย่างนี้แหละ...ที่เรียกว่าผู้ชาย หน้าไหนก็เหมือนกันหมด ฉันหวนนึกไปถึงแฟนคนแรกของฉันตอนเรียน ม.ปลาย ผู้ชายที่รักแล้วก็แสนดีจนใครๆ ก็อิจฉา... แต่สุดท้ายแล้วฉันก็จับได้ว่าแฟนฉันแอบคบกับเพื่อนผู้หญิงที่สนิทที่สุดของฉันแบบลับๆ อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะฉันเองที่มั่นใจว่าสวยและดีพอจะเป็นที่รักของใครสักคน แต่ไม่นึกเลยว่าเพื่อนสาวคนแรกในชีวิตจะเข้ามาตีสนิทฉันเพื่อหวังจะแอบตีท้ายครัวตอนหลัง!
แล้วจะให้ฉันไปจริงจังจริงใจกับใครได้ ไอ้พวกรักเดียวใจเดียวน่ะเหรอ หาได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรแปซิฟิกซะอีก อยู่สวยๆ คนเดียวยังจะสบายใจซะกว่า ไอ้คนที่รักโดยไม่มองแค่หน้าตาน่ะจะมีอยู่จริงหรือเปล่า...หรือว่ามีแต่ฉันโชคร้ายที่ไม่เจอกันแน่นะ ฮึ
?ว้าย!!?
ระหว่างที่ฉันกำลังยืนสวยๆ อยู่หน้าหอนั้น ใครสักคนก็เดินมาชนฉันจนสมุดที่ถืออยู่หลุดจากมือ แถมยังเซไปจนชนกับถังขยะที่วางอยู่ข้างหอ แล้วกระเป๋าหลุยส์ที่สะพายหลวมๆ อยู่นั้นก็หล่นแหมะไปใส่ช่องน้ำขังที่ดูยังไงก็เน่าสุดๆ
อี๋...สกปรกเป็นบ้า
ฉันว่ามุกนี้มันตื้นเกินไปแล้วนะที่จะใช้จีบสาวน่ะ! แล้วตอนนี้ก็บิลด์อารมณ์สวยไม่ขึ้นแล้วด้วย ฉันรีบเดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วเอาทิชชูเช็ดคราบน้ำเน่า ก่อนจะหันไปมองตัวต้นเหตุตาขวาง!
?ขอโทษ? เขาหันหน้ามามองฉันนิดหนึ่งก่อนเดินตรงไปข้างหน้าใหม่
เฮ้ย! แค่นี้อ่ะนะ
?เดี๋ยวก่อนนาย!?
ฉันยืนกอดอกเรียกเสียงดังลั่น ไม่เคยมีใครชนฉันแรงขนาดเซไปสามก้าวสมุดหล่นพื้น กระเป๋าหล่นน้ำครำ แล้วเดินหน้าตาเฉยจากไปหรอก อย่างน้อยก็ควรจะเก็บสมุดให้ฉันหรือขอโทษแบบสำนึกอีกหลายๆ รอบไม่ใช่เหรอ! ดีไม่ดีอาจพาฉันไปเลี้ยงข้าวสักมื้อด้วยซ้ำ
?มีอะไร?
เขาคนนั้นหันมา ขมวดคิ้วยุ่ง โอ้วพระเจ้า!! หล่อมาก ตาสีฟ้าแล้วก็จมูกโด่งเป็นสันดูโดดเด่นที่สุดบนใบหน้า หน้าตาดีแบบโหดร้าย หุ่นทรมานใจหญิง สูงเกินร้อยแปดสิบแน่ๆ ขนาดฉันที่มั่นใจว่ามีภูมิต้านทานความหล่อแล้วยังเผลอหวั่นไหวไม่ได้...จากที่กำลังจะอ้าปากด่าเขาเลยกลายเป็นอ้าปากค้างแทน ต้องใช้เวลาอีกครึ่งวิฯ กว่าจะรวบรวมคำพูดกับสติให้ไปด้วยกันได้
?นายเดินชนฉัน!?
?ขอโทษแล้วไง ก็ไม่เห็นว่าเธอจะเป็นอะไรนี่? เขาทำท่าไม่ใส่ใจเรื่องของฉันเท่าไหร่ ก่อนเสยผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำของตัวเองขึ้น ดูเหมือนเขาจะรำคาญด้วยซ้ำ ?เธอกำลังให้ท่าฉันอยู่หรือเปล่า?
ให้ท่า...ให้ตายเถอะ
สวยๆ อย่างฉันไม่จำเป็นต้องให้ท่าก็มีผู้ชายเข้ามาจีบเยอะแยะย่ะ นี่เป็นอีกครั้งที่ฉันอ้าปากค้างด้วยคำพูดห่วยๆ ของไอ้โฉดนั่น นิสัยไม่ดีเหมือนหน้าตาเอาซะเลย
?ฉันก็นึกว่านายจะแกล้งชน แล้วก็ขอเบอร์ซะอีก? ในเมื่อเปิดเผยธาตุแท้ออกมาแล้ว ก็อย่าหวังว่าฉันจะยอมอ่อนข้อให้เถอะ!
?ฮะๆๆ ผู้หญิงสวยหลงตัวเองทุกคนเลยเนอะ ตลกเป็นบ้า?
เขาเดินเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้มที่พร้อมจะเชือดเฉือนหัวใจให้ขาดสะบั้นหากไร้ความต้านทานคนหล่ออย่างฉัน! ให้อภัยนิดหนึ่งตรงประโยคที่บอกว่าผู้หญิงสวยอ่ะนะ
?จะทำอะไรน่ะ!? ฉันก้าวถอยหลังไปสองก้าวเมื่อไอ้คนหล่อป่าเถื่อนเดินเข้ามาใกล้แล้วจับมือฉันขึ้นมากำไว้แน่น
?เอ้า เอาไป? เขาล้วงกระเป๋าแล้วหยิบแบงค์พันในกระเป๋ากางเกงยัดใส่ในมือฉันสามใบ เฮ้ย! นี่มันจะมากไปแล้วนะ
?ไอ้บ้า! เห็นฉันเป็นคนยังไงวะ เอาคืนไปเลย!? ฉันเผลอพูดจาหยาบคายที่เป็นนิสัยตัวเองจริงๆ ออกมาเพราะว่าไม่อาจพูดจาดีๆ กับไอ้คนทุเรศนี่ได้แน่ๆ
?เสื้อเธอเลอะอ่ะ แล้วก็กระเป๋าหลุยส์คงเปื้อน ดูๆ แล้วน่าจะเป็นแบรนด์เนมเกรดเอราคาถูกมากกว่า กะคร่าวๆ แล้วเท่านี้คงพอ หวังว่าเธอคงพอใจแล้วนะสำหรับกระเป๋าใบนั้น?
เขายิ้มร้ายกาจให้อีกครั้งก่อนรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับเพื่อนในกลุ่มอีกหลายคนที่กำลังส่งเสียงเรียก ปล่อยให้ฉันยืนอ้าปากหวอเป็นอีบ้าอยู่ข้างถังขยะคนเดียว! ใจจริงอยากจะปาเงินนั่นใส่หน้าเขาแล้วตะโกนให้ลั่นว่าคนอย่างฉันไม่ได้ซื้อด้วยเงินได้หรอกนะ!!
ถ้ามันไม่มากพอ...ที่สำคัญคือฟรีซะด้วย
ดังนั้น ตั้งสามพันเก็บไว้ดีกว่า แม้ฉันจะคิดในใจว่านายนั่นตีราคากระเป๋าหลุยส์เกรดเอของฉันต่ำเกินไป นี่มันสามพันห้าร้อยบาทย่ะ
ปี๊นๆๆ!
เสียงแตรรถบีเอ็มดับบลิวสีขาวจอดอยู่หน้าหอทำให้ฉันที่กำลังยืนเอ๋อเพิ่งสังเกตสิ่งรอบๆ ตัว เพิ่งเห็นว่าคนในร้านรวงข้างทางต่างหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียว อ้าว...เหตุการณ์เมื่อกี้ไม่ได้มีใครเห็นหรอกใช่ไหม ช่วยบอกที... แต่ฉันก็คิดผิด เพราะสายตาของนักศึกษาหลายคนยังคงจ้องมองแล้วชี้มาที่ฉันเป็นระยะๆ
กรี๊ดด ต้องเห็นตอนฉันเก็บเงินเข้ากระเป๋าแน่ๆ
ปี๊นๆๆ!
เสียงแตรดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับใครบางคนเปิดกระจกแล้วยื่นหน้าออกมา ก่อนส่งเสียงเรียกฉันโหวกเหวก
?เฮเลน! ขึ้นมาสักทีสิ?
ไอ้บ้าเคย์นี่เรียกชื่อฉันทำไมตอนนี้ก็ไม่รู้!
ฉันรีบเดินมาเปิดประตูรถอีกด้านขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็ว ดู๊ดูสิ...เพื่อนสมัยเด็กของฉันก็รวยจนมีรถบีเอ็มฯ ขับปร๋อ ในขณะที่ฉันเองยังต้องเดินต๊อกแต๊กไปมหาวิทยาลัยอยู่เลย
?มีเรื่องอะไรกับมันอ่ะ?
?นายรู้จักด้วยเหรอ โคตรกวนประสาทเป็นบ้าเลย ฉันกำลังโมโหเขาสุดๆ!!?
ฉันนั่งกอดอกหน้านิ่วคิ้วขมวดบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์สุดๆ ไอ้หมอนั่นทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงขี้โวยวายแถมยังเห็นแก่เงิน! หรือบางคนอาจจะเข้าใจผิดว่าฉันไปให้ท่าเขาจริงๆ แถมอยู่ต่อหน้าคนจำนวนมาก อีกกี่เดือนกี่ปีถึงจะกู้หน้าคืนมาได้เนี่ย!
?หมอนี่มันก็เป็นแบบนี้แหละ?
เคย์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาขับรถไปส่งฉันที่หน้าคณะท่ามกลางสายตาสาวๆ ที่มองมาอย่างอิจฉา ...เคย์น่ะหน้าตาจัดว่าดีมากๆ เลยเชียวแหละ ไอ้บ้านี่เป็นถึงหนุ่มฮอตของคณะวิศวกรรมศาสตร์เลยทีเดียว
?ช่างมันเถอะเคย์ เออนี่ นายรู้จักคนชื่อฟิเดลไหม?
ฉันจะไม่สนใจไอ้บ้าหน้าหล่อนั่นอีกแล้วล่ะ ตอนนี้หันมาสนใจเป้าหมายหลักก่อนดีกว่า แผนการที่วิ่งวนในหัวต้องการปลดปล่อยเต็มทีแล้ว
?.....?
?อ้าว เงียบทำไมล่ะ บอกมาเร็ว? ฉันเปิดประตูรถแล้วเร่งให้เขาพูดออกมา เดาจากหน้าตาของเคย์ที่เบิกตากว้างอย่างสงสัยนั่นแล้ว ฉันคิดว่าเขาต้องรู้จักนายฟิเดลนั่นแน่ๆ
?ก็คนที่มีเรื่องกับเธอเมื่อเช้าไง?
กรี๊ดด...คนสวยตกใจ ไอ้บ้าหน้าหล่อตาสีฟ้าที่ใช้เงินสามพันฟาดหัวฉัน! นั่นคือฟิเดลใช่ไหม!
********************************************************************************************
เพราะหมั่นไส้เพื่อนร่วมหอที่ทำเป็นกรี๊ดกร๊าดรุ่นพี่ร่วมคณะอย่าง ?ฟิเดล? หนุ่มหล่อที่มีเสียงเล่าลือว่าหักอกสาวมานับไม่ถ้วน ?เฮเลน? ที่มั่นใจในความสวยของตัวเองเลยคิดจะจีบนายนี่มาควงเล่นๆ เย้ยยัยเห่ยพวกนั้น เห็นว่าเป็นนักศึกษาแพทย์ก็คิดว่าคงเป็นพวกคงแก่เรียนหลอกง่ายๆ ที่ไหนได้! หมอนี่น่ะลื่นเป็นปลาไหล แถมซ้ำร้ายยังหลอกเธอไปเป็นของเดิมพันแข่งรถซะอีก!! เฮเลนจะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร ไปติดตามกันได้ในเล่มค่ะ โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป และร้าน 7-11 หรือสั่งซื้อทางเว็บไซต์ http://www.bongkoch.com/catalog/product ... ts_id=8052