Dangerous Boy !!! ยายแว่นสุดซ่าส์ VS นายบ้าหน้าหล่อ(ขั้นเทพ) ^-^
ตอนที่ 6 อดีตของ?.คอฟฟี่
วันแรกที่ผมมาเรียนที่โรงเรียนอนุสรณ์วิทยา ผมรู้สึกแปลกๆเพราะไม่คุ้นกับบรรยากาศของการเรียนในโรงเรียนที่เมืองไทยมากนัก เพราะตอนที่ผมเริ่มเข้าเรียนชั้นอนุบาลก็ตอนที่ผมไปอยู่อเมริกาแล้ว
และผมรู้สึกเฉยๆที่ถูกคนจ้องมองเหมือนไม่เคยเห็น เพราะที่อเมริกาผมก็ถูกจ้องมองแบบแปลกๆอย่างนี้อยู่แล้ว เพราะผมไม่เหมือนเด็กฝรั่งทั่วไปที่มักจะมีผมทอง ตาสีฟ้า ซึ่งตรงข้ามกับผมโดยสิ้นเชิง เพราะผมมีตาสีดำ และผมดำ ทำให้ดูแปลกกว่าเด็กคนอื่นๆ
ทั้งที่จริงผมก็มีสายเลือดอเมริกันในตัวเหมือนกัน เพราะคุณปู่ของผมเป็นอเมริกันแท้ๆ ซึ่งมาแต่งานกับสาวไทย ซึ่งก็คือคุณย่าของผม แต่ผมกับไม่เหมือนฝรั่งเลยยกเว้นความสูงของผม ที่สูงมากกว่ามาตรฐานคนไทย
ดังนั้นผมจึงไม่รู้สึกอึดอัดเลย เพราะผมเจอมาจนชิน และผมก็ไม่สนใจกับสายตาที่จ้องมองผมอยู่ แล้วเดินตรงไปยังห้องผู้อำนวยการ ที่ยามบอกตอนที่ผมเดินเข้ามา
ที่จริงผมก็คิดว่าผมก็เหมือนกาแฟนั้นแหละ เพราะถ้าคุณไม่ใส่น้ำตาล คุณก็จะได้กาแฟที่มีรสขม แต่ถ้าใส่น้ำตาลมากไปก็จะทำให้หวานไปและไม่ได้รสชาติของกาแฟ แต่การที่จะทำให้กาแฟได้รสอร่อยนั้นเป็นสิ่งที่ยากจริงๆ เพราะคนแต่ละคนก็ชอบกาแฟรสไม่เหมือนกัน
ที่ผมคิดว่าผมเหมือนกาแฟก็เพราะเมื่อคนที่อยู่รอบข้าง ใส่อะไรลงมาในตัวผม เขาก็จะสิ่งนั้นกับไป และผมก็ไม่คิดว่าผมจะเป็นกาแฟที่ถูกใจใครๆ เพราะหัวใจของผมมันได้ตายไปแล้ว จากการฆ่าของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดผม
ก๊อก..ก๊อก?
ผมเคาะประตูก่อนที่จะเปิดเข้าไป ซึ่งผู้อำนวยการนั่งอยู่หลังทำงานตัวใหญ่ ผมยกมือขึ้นทำความเครพท่านก่อนที่จะนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะ
? นาย. นฤเบส เทพรัตนา แมคควีน สินะ ? ผู้อำนวยการทักด้วยสีหน้าเมตตา และแม้ริ้วรอยจะบ่งบอกว่าชายผู้นี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายปี
? ครับ ? ผมรับ และเกลียดที่ได้ยินคนเรียกผมว่า แมคควีน เพราะผมเกลียดผู้ชายคนที่เรียกตัวเองว่าพ่อ ซึ่งไม่เคยทำหน้าที่ความเป็นพ่อของตัวเองเลย
? เธอคงจะรู้แล้วสินะ ว่าทำไหมเธอถึงต้องมาเรียนที่นี่?
? ทราบครับ ?
? แล้วเธอมีอะไรจะถามฉันหรือเปล่า ? ผู้อำนวยการถามพร้อมกับจ้องตาผม
? ผมอยากจะรู้ว่าอาจารย์จะทำยังไงกับผม เพราะอาจารย์คงทราบประวัติของผมแล้ว? คอฟฟี่ย้อนถาม และคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาที่นี่
เหตุผลในการย้ายโรงเรียนกระทันหันของผมไม่ทำให้ผมแปลกใจ เพราะผมรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นอย่างนี้สักวัน และผมก็ตั้งใจจะให้มันเป็นอย่างนี้
ผมอยากทำให้พ่อของผมเสียใจในการกระทำทุกๆอย่างของผม ยิ่งทำให้เสียใจมากเท่าไหร่ผมยิ่งสะใจ และถ้ารู้ว่าอะไรที่พ่อไม่ชอบผมก็ยิ่งอยากทำ
เหตุผลที่ผมทำก็เพราะผมเกลียดเขา เพราะเขาเป็นต้นเหตุให้แม่ต้องตาย ถึงเขาจะไม่ได้งฆ่าแม่เองกับมือของเขา แต่ยังไงผมก็ถือว่าเขาเป็นฆาตกรอยู่ดี
หลังจากที่แม่ตาย ผมกับพ่อก็มีปากมีเสียงกันตลอด และทางโรงเรียนมีจดหมายมาเชิญพ่อไปรับฟังถึงพฤติกรรมต่างๆของผม
ไม่ว่าจะเป็นการชกต่อยกับเพื่อนต่างห้อง หนีเรียน มีปัญหากับอาจารย์ผู้สอน หรือแม้ การทะเลอะวิวาทกับเด็กต่างโรงเรียน
แรกๆอาจารย์ใหญ่ก็เกรงใจเพราะพ่อเป็นผู้อุปถัมรายใหญ่ของโรงเรียน อาจารย์ใหญ่เลยได้แค่ทำฑัณบลเอาไว้
แต่สาเหตุที่ทำให้ผมต้องพักการเรียนในเทอมที่ 2 และย้ายโรงเรียนเพราะ การทะเลอะวิวาทกับเด็กต่างโรงเรียนและทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องเข้า ไอซียู
ซึ่งคราวนี้เรื่องถึงตำรวจ แม้ทนายของพ่อจะทำให้ผมรอดจากข้อหาฆ่าคนได้ ทางโรงเรียนก็ไม่อาจที่ละเว้นโทษของผมได้ เพราะผมโดนฑัณบลของทางโรงเรียนหลายครั้ง และครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด
พ่อให้เรขาของพ่อจัดการส่งผมกลับกรุงเทพฯ และใช้เส้นสายของพ่อให้ผมได้เข้าโรงเรียนของเพื่อนพ่อจนได้
แต่ผมก็ดีใจนะที่ได้กลับเมืองไทยสักที หลังจากไปอยู่อเมิกานานเป็นสิบปี เพราะตอนเด็กๆผมจำได้ว่าพ่อต้องเดินทางเพื่อไปดูงานต่างประเทศตลอดเวลา และแม่ผมก็ไม่สบายเพาะเป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่เด็ก
ทำให้ตอนเล็กๆผมจึงต้องอยู่กับคุณยายที่เรือนไทยหลังใหญ่ ส่วนแม่ก็ไม่ค่อยสบายต้องไปหาหมอตลอดเวลา แต่ผมยังจำได้ว่าเมื่อตอนที่ผม 5 ขวบ คุณยายก็เสีย ทำให้ผมกับแม่ต้องอยู่กันสองคน เพราะแม่เป็นลูกสาวคนเดียว
ตอนนั้นคุณยายอายุมากแล้ว และคิดว่าตัวเองคงไม่มีลูกอีกแล้ว แต่จู่ๆคุณยายก็รู้สึกไม่สบาย คุณตาพาคุณยายไปหาหมอ ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าคุณยายตั้งครรภ์ได้ เดือนกว่าๆ
ซึ่งข่าวนั้นทำให้คุณยายกับคุณตาดีใจมาก แต่คุณหมอก็เตือนคุณยายว่าอาจเกิดอัตรายได้ ให้ระวังมากๆ เพราะคุณยายอายุมากแล้ว และคุณหมอก็เตือนว่าเด็กอาจจะไม่แข็งแรง ด้วยเหตุนี้ แม่จึงเป็นเด็กที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงเหมือนคนอื่นๆ
ในตอนนั้นพ่อกำลังธุรกิจที่ต่างประเทศ พอรู้ข่าวของคุณยาย พ่อก็กับมาจัดการเรื่องต่างๆจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็รับผมกับแม่ไปอยู่ด้วย
แม้ว่าผมกับแม่จะไปอยู่กับพ่อแล้ว แต่พ่อก็ไม่มีเวลาให้เราอยู่เหมืนเดิม ผมอยากจะโกรธพ่อที่ไม่มีเวลามาดูแม่เลย แต่แม่ก็คอยปกป้องพ่อตลอดเวลา และคอยย้ำกับผมเสมอว่าที่พ่อต้องทำงานหนังก็เพื่อให้ผมกับแม่สบาย
ทั้งที่ตอนนั้นผมก็ไม่เห็นว่าครอบครัวเราจะขัดสนอะไร แถมยังจะมีมากเกินไปด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ครอบครัวของเราขาดคือ หัวหน้าครอบครัว ซึ่งพ่อไม่เคยทำหน้าที่นั้นเลย ผมเลยต้องทำหน้าที่นั้นแทนพ่อ
โดยการเป็นที่พักพิงให้แม่ แต่ในที่สุดแม่ก็จากผมไป ในขณะที่พ่อกับบอกผมว่าติดประชุมสำคัญ ไม่สามารถมาตอนนั้นได้ ทั้งที่แม่อยากเจอพ่อเป็นที่สุด ในที่สุดแม่ก็รอพ่อไม่ไหว และจากผมไปพร้อมกับน้ำตา
ซึ่งผมได้แต่สัญญาในใจกับร่างของแม่ว่า ผมจะทำทุกอย่างและทุกทางให้พ่อทุกข์ใจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ผมได้สัญญากับแม่แล้วว่าผมจะไม่โทษพ่อ แต่ผมก็ทำไม่ได้
เสียงของอาจารย์ใหญ่แทรกเข้ามาในความคิดของผม ทำให้ผมหันกับไปสนใจว่าอาจารย์พูดว่าอะไร
? ฉันก็จะให้เธอกับเข้าไปเรียนเกรด 12 ใหม่ เพราะเธอพักการเรียนไปตั้งเป็นเทอม คงจะตามเพื่อนไม่ทัน? อาจารย์บอกพร้อมกับเอนหลังพิงพนังเก้าอี้ ? และที่นี้ถึงจะเป็นโรงเรียนธรรมดา ไม่ใช่โรงเรียนอินเตอร์แต่เราก็มีครูสอนภาษาอังกฤษสำหรับทุกวิชา เพื่อให้นักเรียนที่นี้ไม่ด้อยกว่าที่ไหน แต่เด็กที่เรียนที่นี่ทุกคนก็ยังต้องเรียนภาษาไทย เพราะยังไงเราก็เป็นคนไทย?
?ครับ ? ผมเข้าใจ?
? ครูก็หวังว่าเธอจะชอบที่นี่นะ และหวังว่าจะไม่ปัญหาอะไร เพราะอย่างไรครูก็อยากจะเห็นเธอประสบความสำเร็จมากกว่า?
? ผมคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร? ผมพูดพร้อมกับจ้องตากับอาจารย์ใหญ่ ?เพราะผมคิดว่า ผมได้กลับมาถึงบ้านที่แท้จริงแล้ว? ผมตอบอาจารย์ใหญ่อย่างที่ผมรู้สึก
ผมคิดถึงเรือนไทยของคุณยาย ที่ดูทรุดโทรมลงไปมาก เนื่องจากกาลเวลา คุณยายเคยเล่าให้ฟังว่า เรือนไทยหลังนี้สร้างมาเป็นร้อยปีแล้วตั้งแต่ทวดของทวดของผม
ซึ่งการคิดถึงคุณยายทำให้ผมยิ้มได้ ผมคิดว่าผมคงกลับมาอยู่ที่เรือนไทยหลังนี้ เพราะที่นี้เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของผม
แต่ก่อนที่จะมาอยู่ ที่นี่คงต้องทำการปรับปรุงซะก่อน เพราะไม่มีคนอยู่อาศัยเป็นสิบปี แค่จ้างคนมาดูบริเวณรอบๆเดือนละครั้ง เพื่อไม่ให้ต้นหญ้าขึ้นรกจนเกินไป
ผมบอกสิ่งที่ต้องการกับเรขาของพ่อ ซึ่งทุกอย่างก็ถูกทำตามความต้องการของผม แต่ตอนนี้ผมคงต้องอาศัยอยู่ที่คอนโดไปก่อน จนกว่าเรือนไทยจะทำการปรับปรุงเสร็จ
? ครูดีใจที่เธอคิดอย่างงั้น? อาจารย์ยิ้มให้อย่างเข้าใจ ?งั้นครูจะให้อาจาย์ที่ปรึกษามาพาเธอไปที่ห้องเรียนของเธอก็แล้วกัน?
?ครับ? ผมรับคำอาจารย์ ซึ่งอาจารย์ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นแล้วพูดสองสามคำก่อนจะวางสาย
?รออีกเดี๋ยวนะ อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอก็จะมา?
?ครับ แล้วผมต้องทำตัวยังไงบ้างครับ? คอฟฟี่ถามอย่างสงสัย เพราะเขารู้สึกอึดอัดตั้งแต่มาถึงที่นี่
?ก็ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ ก็ทำอย่างที่เธอเป็น แต่แค่อย่ามีเรื่องให้มากนักก็พอ? อาจารย์ใหญ่พูดพร้อมกับยักคิ้วให้ ซึ่งทำให้ผมยิ้มได้
? ครับ?ผมจะมีเรื่องให้น้อยลงก็แล้วกัน แต่ผมก็ไม่สัญญาว่าจะไม่มีเรื่องเลย เพราะเรื่องที่ยังไม่เกิดผมไม่อาจให้สัญญาได้?
?แต่ครูรู้ว่า ครูเชื่อใจเธอได้? อาจารย์พูดอย่างเชื่อมั่นในตัวผมทั้งที่ผมไม่เชื่อในตัวของผมเองเลยด้วยซ้ำ
Dangerous Boy !!! ยายแว่นสุดซ่าส์ VS นายบ้าหน้าหล่อ(ขั้นเทพ)
Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี