ฮีโร่ ตอนที่ 8

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
nai-nai
โพสต์: 24
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ก.ย. 2007 11:03 pm

ฮีโร่ ตอนที่ 8

โพสต์ โดย nai-nai »

เมื่อกี้เขาได้ยินว่าอะไรนะ...ถ้าหูเขาไม่ฝาด...เขาได้ยินว่าอะไรนะ...
มีอาเป็นแบบเขาเหรอ? เป็นอะไรแบบเขา...

?เธอว่าไงนะ!? ฮีโร่ถามย้ำเมื่อไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

วิฬาร์มองสีหน้าตื่นตระหนกของฮีโร่แล้วรู้สึกตัวว่าเธอกำลังทำสิ่งผิดพลาดแสนใหญ่หลวง มีอาเคยเตือนเธอแล้วว่าเรื่องมนุษย์หมาป่าไม่ควรเปิดเผยให้ใครรู้ บางทีอาจจะเจอศัตรูแทนที่จะพบมิตรอย่างที่คิดเอาไว้...แล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่าคนตรงหน้าเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่

เมื่อเห็นว่าวิฬาร์เงียบ อารมณ์เดือดดาลก็เริ่มพลุ่งพล่าน ความอยากรู้เรื่องของมีอานั้นมันมากเกินกว่าอะไรทั้งหมด
?ตอบมาสิ เธอว่ามีอาเป็นอะไร!? ฮีโร่ปรี่เข้าไปหาร่างบางหมายคาดคั้นเอาความจริงให้ได้

สีหน้าดุดัน ท่าทีเกรี้ยวกราด ทำเอาเด็กสาวต้องถอยกรูดไปจนหลังชนผนัง

?อย่าแตะฉันนะ!? วิฬาร์หวีดร้องด้วยความตกใจ
?นะ...นายอยากเป็นหมาป่าอีกรึไง นายก็รู้ว่าถ้านายแตะตัวฉันแล้วนายจะเป็นยังไง!!? เสียงแหลมเตือนสติดังขึ้นลั่นทำเอาร่างสูงสะดุ้งสุดตัว

นี่เขากำลังทำอะไร? ควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว

?ให้นายท่องชื่อคนที่นายรักสิบครั้ง...? คำสั่งสอนของแองจี้ลอยกลับเข้ามาในห้วงคิดของเขาอีกครั้ง
ฮีโร่ยืนนิ่งอยู่กับที่ พยายามดึงสติที่กระเจิงไปให้กลับมา...

แม้จะไม่เชื่อมั่นในวิธีแบบนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ลองดูคงไม่เสียหาย...เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เขาก็เริ่มท่องชื่อคนที่เขารักพร้อมนับนิ้วไปด้วยทันที

?คุณตา หนึ่ง คุณตา สอง คุณตา สาม คุณตา สี่ มีอา ห้า มีอา หก มีอา เจ็ด มีอา แปด ...เฮ้ย!?
?ท่องชื่อคุณตาอยู่ดีๆ ทำไมกลายเป็นยัยมีอาไปได้...? ฮีโร่บ่นพึมพำกับตัวเองจนวิฬาร์ที่มองเขาอย่างระแวดระวังนึกแปลกใจ

คนอะไรคุยคนเดียวก็ได้?

?นายพูดอะไร ฉันไม่ได้ยิน? วิฬาร์ถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าคมลดแววดุร้ายลงบ้างแล้ว

ฮีโร่เงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าใสของคนที่เขาเคยกรุ่นโกรธและโมโหขึ้นมาจนอยากจะขย้ำให้แหลกคามืออย่างบอกไม่ถูก ทว่าตอนนี้ความรู้สึกแบบนั้นคลายลง สมองเขาเต็มไปด้วยเหตุผล...ที่จะไม่ทำร้ายเธอ...
วิธีของแองจี้...ดูท่าจะได้ผลเหมือนกันแฮะ

?เธอบอกว่ามีอาเป็นแบบฉัน...แบบฉันยังไง?? แม้จะคิดว่าตนคลายความโกรธไปได้มากแล้ว แต่น้ำเสียงที่แสดงออกยังคงทุ้มต่ำอย่างคนโมโหจัด

?ฉันพูดเมื่อไหร่? วิฬาร์ปฏิเสธทันควัน หลบสายตาต่ำ แนบตัวชิดผนังด้วยความกลัว

?อย่ามาโกหก ฉันได้ยินชัดเต็มสองหู เธอก็รู้ว่าฉันเป็นตัวอะไร แม้กระทั่งเสียงลมหายใจฉันก็ได้ยิน!? ฮีโร่ตวาดคนที่ทำตัวลีบติดผนังด้วยอารมณ์ขุ่น

?ฉันไม่ได้โกหก ฉันไม่รู้จริงๆ ว่านายพูดอะไร ฉันอาจจะเผลอพูดชื่อมีอาออกมาเพราะเธอเป็นเพื่อนคนเดียวที่ช่วยเหลือฉันมาตลอดเหมือนกับที่นายพยายามช่วยฉันในวันนี้...ก็เท่านั้นเอง? ริมฝีปากบางสั่นน้อยๆ ยามพูดหาทางเอาตัวรอด
?อีกอย่าง...นี่ไม่ใช่เวลาที่นายจะมาเค้นเอาอะไรจากฉันนะ เราน่าจะหาทางเอาตัวรอดออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน...ไม่ใช่เหรอ? น้ำเสียงแผ่วในตอนท้ายดังขึ้นเสริมเพื่อให้เขารู้ว่าเธอแค่ ?ออกความเห็น? ไม่ใช่ ?ออกคำสั่ง? ตาคู่โตเริ่มตื้นเขินเต็มไปด้วยน้ำในตาที่ปริ่มจะไหลล้นออกมาด้วยความหวาดกลัวที่เข้ามาเกาะกุมทั้งร่างกายและจิตใจ

ฮีโร่มองคนหาทางเอาตัวรอดให้ตัวเองด้วยเหตุผลที่ดูเข้าท่ากว่าสิ่งที่เขาพยายามจะทำอยู่โขด้วยประกายตาวาวโรจน์...แม้เธอจะปฏิเสธเรื่องที่หลุดปากออกมายังไง แต่เขาก็มั่นใจว่า เธอพูดมันออกมาจริงๆ

?เธอจะไม่บอกใช่มั้ย?? เขาถามย้ำจ้องดวงหน้าใสนัยน์ตาเป็นประกาย

วิฬาร์รีบพยักหน้าหงึกหงักรับคำอย่างลืมตัว

...นั่นไง ไม่ยอมบอก...

แล้วร่างบางก็สะดุ้งขึ้นเมื่อรู้ตัวว่ากำลังหลงกลคนเจ้าเล่ห์

?มะ...ไม่ใช่ ฉันหมายถึงฉันไม่มีอะไรจะบอกนายทั้งนั้นแหละ!? คำแก้ตัวที่แสดงออกถึงความลนลานและร้อนตัวของวิฬาร์ยิ่งทำให้ริมฝีปากของฮีโร่เหยียดออกกว้างอย่างคนรู้ทัน

สายตาคมกริบจ้องมองร่างบางที่สั่นไปทั่วร่างด้วยท่าทีอ่อนลง...ไม่ใช่เพราะเชื่อคำพูดของเธอ แต่เพราะท่าทางน่าเอ็นดูสงสารนั่นต่างหากที่ทำให้เขายอมพักการคาดคั้นเธอเอาไว้สักระยะ
?ไว้ออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไหร่ เธอเจอดีแน่!? ไม่วายขู่สำทับ แม้จะรู้สึกสงสาร แต่มันปนความหมั่นไส้ระคนมันเขี้ยวในเวลาเดียวกัน

วิฬาร์เงยหน้าขึ้นมองฮีโร่ด้วยความรวดเร็ว น้ำในตาหายวับไปพร้อมกับความหวาดกลัว ?นายคิดออกแล้วเหรอว่าจะออกไปยังไง?



?นี่ก็เย็นแล้ว ฉันยังไม่ได้ยินเสียงพวกนั้นโทรไปขู่พ่อเธอเลย เธอว่าพวกมันจะโทรติดต่อไปที่บ้านเธอเมื่อไหร่?? สายตาคมมองนาฬิกาข้อมือที่เข็มสั้นและเข็มยาวเหยียดตัวตรงชี้ไปที่เลขหกและเลขสิบสอง พลางจับจ้องเด็กสาวที่ลูบข้อแขนที่ถูกปลดปล่อยของตัวเองปอยๆ เชิงปรึกษา

ตาคู่โตใสจ้องกลับมา ?ไม่ช่วงหัวค่ำ ก็ช่วงดึก พวกมันมักเลือกเวลาที่แน่ใจว่าพ่อหรือแม่ของฉันอยู่บ้านจริงๆ?

?แล้วพ่อแม่เธออยู่บ้านช่วงไหนล่ะ??

?ความจริงช่วงนี้พ่อกับแม่ฉันลาหยุดไปพักร้อนที่ยุโรปกว่าจะกลับก็อีกสามเดือนโน่นแน่ะ?

?อ้าว! แล้วทำไมพวกมันถึงจับเธอมาช่วงนี้ล่ะ? คิ้วหนาขมวดมุ่น นึกสงสัยการกระทำอันแปลกประหลาดของพวกโจรเรียกค่าไถ่

วิฬาร์นิ่งคิดไปนิดก่อนตอบอย่างผู้มีประสบการณ์มาโชกโชน
?ฉันว่า...โจรพวกนี้คงจับฉันมาเรียกค่าไถ่เป็นรายแรก?

?เธอหมายความว่าไง??

?ก็พวกที่ชำนาญแล้วมันไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้หรอก อย่างน้อยก็ต้องสืบเรื่องที่บ้านเหยื่อมาพอสมควร ไม่ใช่อยากจับก็จับมั่วซั่วแบบนี้?

?เป็นพวกมือใหม่หัดทำว่างั้นเถอะ?

?ฉันก็ว่างั้นแหละ? วิฬาร์พยักเพยิดเห็นด้วย ?แล้วไหนนายว่าหาทางได้แล้วไงล่ะ? เธอถามต่อเมื่อเห็นว่าตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันที่เขาบอกว่าเขาหาทางจะหนีไปได้แล้ว จนบัดนี้ยังไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะทำอะไรเลยสักนิด

?ฉันคิดออกอยู่ทางเดียว?

?ทางไหนล่ะ?? วิฬาร์ถามด้วยท่าทางกระตือรือร้น

?ก็ให้ฉันหนีออกไปเรียกคนมาช่วยเธอไง ถ้าฉันกลายร่างเป็นหมาป่าแล้วคงหนีออกไปจากที่นี่ได้ไม่ยาก?

?ไม่เอานะ! นายจะทิ้งฉันเอาไว้คนเดียวได้ไง แล้วถ้าเกิดนายไม่ยอมไปบอกใคร ฉันก็แย่น่ะสิ!? วิฬาร์โวยวายลั่น ตาคู่โตบอกชัดถึงความไม่ไว้วางใจในตัวคนตรงหน้า

ขนาดเพื่อนสนิทตั้งมากมายก่ายกองที่ได้พูดคุยกันบ่อยๆ เวลาเกิดเรื่อง ยังไม่เคยนึกจะช่วย
แล้วกับเขา...เพื่อนร่วมโรงเรียนที่เพิ่งเคยพูดจากัน
จะให้เธอเชื่อได้ยังไงว่าเขาจะไม่เอาตัวรอดไปคนดียวแล้วทิ้งเธอให้ผจญกับเรื่องร้ายๆ คนเดียว
ถึงแม้เขาจะมาช่วยเธอไว้ตอนแรก แต่ก็ใช่ว่าเขาจะช่วยเธอไปตลอดซะเมื่อไหร่...

?ฉันไม่ทิ้งเธอหรอก? ฮีโร่บอกพลางจ้องดวงหน้าใสที่มีแววหวาดหวั่นแล้วว่าต่อ ?ถ้าเธอคิดจะเชื่อใจใครสักคน ฉันขอเสนอตัวเป็นคนแรกก็แล้วกัน?

ฮีโร่เอ่ยอย่างเข้าใจในความรู้สึกของวิฬาร์ ทั้งท่าทางที่แสดงออกและนิสัยที่ได้สัมผัสมันบ่งบอกชัดว่าเธอไม่เคยเชื่อใจใคร ไม่เคยคบใครด้วยใจจริง และนั่นก็ทำให้ผลตอบแทนที่เธอได้ คือ ความว่างเปล่า...

ไม่มีน้ำใจจากเพื่อนพ้อง ไม่มีความห่วงหาอาทรของเพื่อนแท้
ไม่มีแม้กระทั่งเศษเสี้ยวการเหลียวแลจากคนที่นับเป็นเพื่อน...ไม่มีเลยจริงๆ
แม้จะคบหาคนเป็นร้อยคนพันคน หากไร้ความจริงใจต่อกันแล้ว...ก็ไม่มีใครที่นับเป็นเพื่อนได้เลย...

นอกจากมีอาที่เขารู้ว่าคบกับเธอมานานแล้ว วิฬาร์ก็ไม่มีเพื่อนเลยสักคน

?ถือว่าฉันเป็นเพื่อนเธอคนหนึ่งก็แล้วกัน?
คำบอกของฮีโร่ทำเอาห้วิฬาร์จ้องหน้าเขานิ่ง...นิ่งจนเขาสุดจะคาดเดาว่าเธอคิดยังไง

ฮีโร่เหยียดตัวลุกขึ้น มองลอดตามแนวช่องแคบระหว่างแนวไม้ที่ปล่อยให้แสงจากภายนอกส่องผ่านเข้ามา

เขาเห็นผู้ร้ายคนหนึ่งกำลังทำหน้าที่เฝ้ายามอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่เห็นรถตู้ที่จับพวกเขามาที่นี่...คาดว่าอีกสองคนคงออกไปทำธุระอะไรบางอย่าง

?เอ่อ...ฮับปี้? ฮีโร่ไม่ได้หันมาตามเสียงเรียก และถึงแม้เธอจะยังเรียกชื่อเขาไม่ถูก แต่ทำไงได้...ก็นับเป็นเพื่อนไปแล้วนี่...

?มีอะไร?? เขาถามพอให้รู้ว่าเขาไม่ได้ลืมสนใจเธอ แม้ว่าสายตาของเขายังจดจ้องอยู่ที่เจ้าคนร้ายเบื้องล่างนั่น

?นายจะไม่ทิ้งฉันจริงๆ นะ? น้ำเสียงเครือที่ทำให้ฮีโร่ต้องหันไปมองตาคู่โตใสที่จ้องเขาเขม็งเหมือนเป็นเครื่องจับเท็จ มันดูกร้าวแข็งและเต็มไปด้วยแววหวาดระแวง หากยังมีน้ำเอ่อคลอให้รู้ว่า...ในท่าทางไม่ไว้วางใจและจ้องจับผิดนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว...

?ถ้าฉันทิ้งเธอ...ฉันยอมให้เธอเอาเรื่องที่ฉันเป็นมนุษย์หมาป่าไปบอกใครต่อใครได้เลยเอ้า!?

?บ้า! เดี๋ยวคนอื่นเขาก็หาว่าฉันบ้ากันพอดี? น้ำในตาหายวับกลับกลายเป็นแววเคืองขุ่น

?งั้นเอาอย่างนี้ ถ้าเธอยอมบอกฉันเรื่องมีอา ฉันกลับมาหาเธอภายในสามสิบนาที?

?นาย!?

?จะบอกไม่บอก งั้นฉันจะไปล่ะนะ? ฮีโร่ทำทีลุกขึ้น แต่แล้วเสียงแหลมที่ดังขึ้นก็ชะงักฝีเท้าที่ออกห่าง

?ไหนนายบอกว่าจะเป็นเพื่อนฉันไงล่ะ เพื่อนกันเขาทำกันแบบนี้น่ะเหรอ!?

ฮีโร่หันมายิ้มเย็นแบบที่เธอเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดทำอะไร
?แล้วเพื่อนกันเขาทำกันยังไงล่ะ?? เขาถามย้อนราวกับต้องการปั่นป่วนกวนประสาทของเธอเล่น

?ก็ต้องช่วยเหลือกันเวลาลำบาก ไม่ทิ้งกันไว้คนเดียวแบบที่นายกำลังจะทำ แล้วก็ไม่บังคับฝืนใจให้บอกในสิ่งที่ไม่อยากบอกไงล่ะ!? วิฬาร์จ้องสบตาฮีโร่นิ่ง ใบหน้าสวยส่อแววดื้อรั้นไม่ยอมใคร...ยังไงเธอก็จะไม่ยอมขายความลับของเพื่อนเพื่อแลกกับการเอาตัวรอดอย่างเด็ดขาด!

ฮีโร่จ้องตาคู่สวยกลับ ?ฉันก็กำลังจะทำแบบนั้นไง ฉันกำลังช่วยเหลือเธอทั้งๆ ที่ฉันสามารถหนีไปคนเดียวก็ได้ ฉันไม่ได้จะทิ้งเธอเพราะฉันสัญญาว่าจะกลับมา แล้วฉันก็ไม่ได้พูดสักหน่อยว่าถ้าเธอไม่ยอมบอกเรื่องมีอา ฉันจะทิ้งเธอเอาไว้ที่นี่ แค่นี้ถือว่าเป็นเพื่อนได้รึยัง?

?แต่นายบอกว่าจะไป...?

?อ้าว! ถ้าไม่ไปแล้วฉันจะตามใครมาช่วยได้ไหมล่ะ? คำตอบที่ทำเอาวิฬาร์นิ่งเงียบไปอีกครั้ง เธอก้มหน้าลงมองพื้นนานชั่วอึดใจ

ฮีโร่สาวเท้าเข้าไปใกล้ร่างบาง ทรุดตัวคุกเข่าลงต่อหน้าเด็กสาว
?ถ้าเธอยอมเป็นเพื่อนกับฉัน ก็ต้องเชื่อใจฉัน?

เขามองใบหน้าดื้อดึงที่ค่อยๆ เงยขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตาคู่โตสีดำสนิทเป็นประกายจ้องเขาเขม็ง

?ก็ได้ ฉันเชื่อนาย!?

เมื่อได้ฟังคำตอบ รอยยิ้มสดใสก็ปรากฏบนใบหน้าคม มือหนาเอื้อมออกมาแตะไหล่บางเบาๆ และเพียงเท่านั้นร่างสูงก็กลายเป็นหมาป่าขนปุยอย่างสมบูรณ์

Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

Re: ฮีโร่ ตอนที่ 8

โพสต์ โดย Gals »

ตอนที่ 1 เปิดเรื่องได้น่าสนใจดีค่ะ การใช้ภาษาก็ค่อนข้างดีแล้ว อ่านลื่นไม่ค่อยจะมีสะดุดมากนัก แต่การบรรยายอารมณ์ตัวละครยังเรียบเรื่อยไปหน่อยค่ะ คือยังไม่สามารถดึงอารมณ์ร่วมจากคนอ่านได้มากนัก และยังบรรยายให้เห็นภาพได้ไม่ชัดเจน อย่างต้นเรื่องอ่านแล้วเข้าใจว่าเวลากลายร่างจะเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งหมาป่า แต่พออ่านไปแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นหมาป่าที่เดิน 4 ขา แล้วก็สรรพนามในบทบรรยายของคุณตา (ดร.เอกภพ) ที่มีบ้างที่ใช้แทนด้วยชื่อ ?เอกภพ? เฉยๆ ตรงนี้น่าจะใช้เป็น ?ดร.เอกภพ? มากกว่านะ เพราะถ้าใช้ว่า ?เอกภพ? เฉยๆ เวลาอ่าน (ที่เป็นบทบรรยายการสนทนากับฮีโร่) แล้วรู้สึกเหมือนเป็นรุ่นเดียวกับฮีโร่เลยค่ะ ส่วนในเรื่องความสมเหตุสมผล ความสมจริง แล้วก็เนื้อเรื่องก็ยังมีที่ติดขัดอยู่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น...สงสัยว่าทำไมพอเป็นมนุษย์หมาป่าแล้วจะต้องชอบดื่มนมล่ะคะ ในเมื่อหมาป่าเป็นสัตว์ประเภทกินเนื้อ ไม่เห็นมีบอกตรงส่วนนี้ก็เลยสงสัยน่ะค่ะ, หลังจากที่กลายร่างเป็นหมาป่าแล้วมาเดินท่อมๆ อยู่กลางเมือง ผู้คนที่เห็นจะไม่แปลกใจหรือคะ? เพราะมันเป็นหมาป่านะ ไม่ใช่หมาพันทางธรรมดาอย่างที่เราเห็นทั่วไป... นิยายเรื่องนี้เป็นกึ่งๆ แฟนตาซีก็อาจจะมีเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกินจริงอยู่ด้วย แต่เหตุการณ์เหล่านั้นก็ต้องอิงกับความเป็นจริงด้วยนะ นี่ยังเพิ่งตอนที่ 8 เอง ค่อยๆ ลำดับความคิด ค่อยๆ ลองปรับส่วนที่อ่อนดู แล้วจะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ :)

Chanya
โพสต์: 261
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 15 พ.ย. 2008 11:39 pm
ที่อยู่: ไม่ใช่ดาวอังคารแน่นอน

Re: ฮีโร่ ตอนที่ 8

โพสต์ โดย Chanya »

ว่าแต่..เลิกเขียนแล้วเหรอคะ? หนมติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนที่ 5 เลยนะเนี้ย?!!
Why so serious ?

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”