นมอุ่นแก้วโตถูกยื่นมาต่อหน้าเด็กหนุ่มที่ตอนนี้สวมใส่เสื้อผ้าหลวมโพรกเพรกของเจ้าของบ้าน มือเรียวรับของที่ส่งมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบดื่มมันด้วยความหิวกระหาย
ชั้นสองของร้านแองจี้...ถูกจัดเป็นห้องนอนของผู้เป็นเจ้าของ ห้องสี่เหลี่ยมเรียบง่ายที่มีเพียงเตียงนอน กล่องใส่เสื้อผ้าเก่าๆ และกระจกบานใหญ่ขนาดเท่าตัวคนที่ตั้งอยู่ปลายเตียง
?นายค้างที่นี่ไปก่อน พรุ่งนี้ฉันจะพานายไปเก็บของใช้ที่จำเป็นจากบ้านนั้นเอง? แองจี้โยนผ้าห่มผืนโตลงบนพื้นข้างที่นอนนุ่มที่อยู่ติดข้างฝาอีกด้าน
เด็กหนุ่มมองผ้าห่มที่กองอยู่ที่พื้นตาปริบๆ
?ไม่ต้องทำหงอย...ฉันจะนอนข้างล่าง ส่วนนายนอนบนเตียง โอเค??
ฮีโร่พยักหน้ารับแต่โดยดี
?แล้ว...? คราวนี้ฮีโร่มองไปทางกระจกที่อยู่ปลายเตียงอย่างสงสัย
หรือว่าหมอนี่จะเป็นพวกหลงตัวเองถึงได้ติดกระจกบานใหญ่ยักษ์ขนาดนี้...
ราวกับจะรู้คำถามในหัวสมองของเด็กหนุ่มดี ชายหนุ่มเลยตอบโดยไม่รอฟังคำถาม
?นี่ล่ะของสำคัญ?
?ของสำคัญ??
?ใช่! ก็มันเป็นสิ่งที่จะสะท้อนบอกเราได้ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในร่างแบบไหนน่ะสิ? แองจี้บอกพลางทาบมือหยาบบนผิวเรียบของกระจก ก่อนจะใช้นัยน์ตาคมสีอำพันมองภาพสะท้อนของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่เบื้องหลัง
?ร่าง? ฉันนึกว่าเราจะไม่มีเงาสะท้อนในกระจกแล้วซะอีก?
?บ้าน่ะสิ! พวกเรายังไม่ตายซักหน่อย ไม่ใช่พวกผีหรือปีศาจที่ฟื้นคืนชีพจากความตายหมือนในหนังพวกนั้นหรอก เรายังมีเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ แต่ร่างของฉันกับนายมันคงไม่อยู่คงสภาพแบบนี้ไปตลอดแน่ๆ อย่างน้อยก็คืนวันเพ็ญ?
?แต่ตอนที่เปลี่ยนร่าง ฉันไม่รู้ตัวเลย เพราะฉะนั้นถึงมองกระจกไปก็คงไม่รู้อะไรอยู่ดี? เขาบ่นงึมงำก่อนจะหาที่วางแก้วนมที่ดื่มจนเกลี้ยง
?รู้สิ...อีกไม่นานนายก็จะรู้เอง?
?หมายความว่านายรู้สึกตัวทุกครั้งที่กลายร่างเหรอ!?
?ใช่ แต่ฉันไม่รับรองผลกับนายที่มีที่มาต่างจากฉันหรอก?
?ที่มาต่างกัน? ฉันนึกว่านายก็โดนกัดเหมือนกันซะอีก? เขามองใบหน้าที่ดูไม่แน่ใจกับสิ่งที่ตัวเองจะพูดออกมาของแองจี้อย่างแปลกใจ
?มันก็ใช่ แต่ฉันโดนหมาป่า...เอ่อ แบบว่า...ตัวเมียกัด? ชายหนุ่มบอกอ้ำๆ อึ้งๆ พลางมองเฉไฉไปทางอื่นอย่างจงใจ
แต่ว่าเด็กหนุ่มกลับอึ้งยิ่งกว่า...ในเมื่อเขาคิดไม่ออกว่าไอ้การที่โดนหมาป่าตัวเมียกับตัวผู้กัดมันจะให้ผลต่างกันตรงไหน
จะว่าไปหมอนี่ไปทำอีท่าไหนถึงโดนหมาป่าตัวเมียกัดเข้าจนได้ล่ะเนี่ย?
?งั้นเหรอ? ฮีโร่พูดอะไรไม่ออกมากกว่านี้ เมื่อไม่เห็นว่าสิ่งที่แองจี้พูดมันจะให้สาระความรู้อะไรในเรื่องมนุษย์หมาป่านี่เท่าไหร่
?เอ่อ...แล้วฉันจะกลายร่างทุกคืนจันทร์เต็มดวงเหรอ แบบในหนังน่ะ? เขาถามผู้มีประสบการณ์ที่นิ่งเงียบไปนาน
?ไม่หรอก? เด็กหนุ่มผ่อนลมหายใจออกยาวเมื่อโล่งใจขึ้นมานิดนึง
?เพราะนอกจากคืนวันเพ็ญที่นายไม่สามารถควบคุมอะไรได้แล้ว นายจะกลายร่างได้ตามต้องการด้วยต่างหาก?
?หา!!!?
ท้องฟ้ายามสายยังคงดูสดใสในสายตาของเขาที่ผ่านเรื่องราวมากมายในชั่วข้ามคืน ฮีโร่ค่อยๆ ติดกระดุมเสื้อตัวใหญ่ที่หยิบยืมมาจากใครบางคนอย่างอ้อยอิ่ง ความจริงเขาไม่อยากกลับไปที่บ้านเลยสักนิด...ไม่คิดอยากกลับไปดูผลงานอันเลวร้ายของตัวเอง ไม่อยากจดจำเรื่องโหดร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา และไม่อยากจะยอมรับความจริงที่ว่า เขาเป็นคนฆ่าผู้ที่เลี้ยงดูตนเองมา...
?ไอ้หนู! เร็วสิ? เสียงทุ้มใหญ่ดังกระตุ้นเด็กหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์
?ไปแล้วครับ? เขารับคำ มือใหญ่ฉวยเป้ติดไม้ติดมือไป
ใช้เวลาไม่นาน...ฮีโร่และแองจี้ก็เดินมาถึงหน้าบ้านที่เขาเพิ่งจากมาเมื่อคืน...บ้านเดี่ยวขนาดกลางที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่แลดูร่มรื่นและเงียบสงบ...
มันดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักตั้งแต่เขาวิ่งออกไปเมื่อคืน
นี่คงยังไม่มีใครพบศพคุณตาเลยสินะ ขอโทษนะครับที่ต้องปล่อยให้คุณตานอนหนาวอยู่ทั้งคืน...ฮีโร่ก้มหน้ามองพื้นอย่างรู้สึกผิดทบทวีหลายสิบเท่าตัว
ความกลัวและตกใจที่ประเดประดังเข้ามาเมื่อคืนทำให้เขาเลือกที่จะวิ่งหนีปัญหามากกว่าจะเผชิญกับมันในทันที
?เอาน่า...ฉันอยู่ทั้งคน? มือหนาตบหลังเป็นการปลอบใจ ความอบอุ่นบางอย่างค่อยๆ ซึมซาบเข้าสู่หัวใจที่เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ฮีโร่หันไปมองคนที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเขาทั้งคืนอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ
?ขอบคุณนายมากที่คอยอยู่ข้างๆ ช่วยเหลือฉัน? เขาเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มที่เหยียดยิ้มให้ ก่อนที่มือหยาบจะผลักร่างสูงบางของฮีโร่ให้เดินหน้าต่อไป
ในบางครั้งที่ว้าเหว่ เคว้งคว้าง สิ้นหวัง แค่มีใครบางคนแม้จะเป็นคนที่ไม่รู้จักมาหยิบยื่นไมตรีให้ก็กลับรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยขึ้นมาทันที นี่สินะที่เขาเรียกว่า ?เพื่อนร่วมโลก?
ฮีโร่ค่อยๆ ผลักประตูหน้าบ้านเข้าไป เมื่อคืนเขาผลุนผลันออกจากไปโดยไม่ได้ล็อกประตู
พอเปิดประตูไปก็จะเจอร่างคุณตานอนอยู่ที่โถงทางเข้า...ฮีโร่หลับตาสนิทเมื่อคิดถึงสิ่งที่จะเห็น...
ไม่! เขาไม่อยากแม้แต่จะคิด!
?อย่าหลับตาสิไอ้หนู มองสิ่งที่ตัวเองทำให้เต็มตา? มือหยาบจับไหล่บางของเขาให้หันตรงไปทางประตูแน่น ก่อนที่เสียงทุ้มจะกล่อมให้เขาจ้องมองมัน...มองความหายนะที่เขาเป็นคนก่อ...
?ไม่! ฉันไม่อยากมอง? เขาหวีดร้องในลำคอก่อนจะสะบัดตัวอย่างหวังให้หลุดจากการเกาะกุม
?มองสิ!? เสียงดังก้องที่มีอำนาจเหนือกว่า ทำให้ฮีโร่ต้องเบิกตาคู่เขียวของเขาขึ้นกว้างด้วยความกดดันราวต้องมนตร์
เขาได้ยินเสียงลมหายใจที่หอบกระชั้นเพราะความกลัวของตัวเอง รับรู้ถึงจังหวะระรัวของหัวใจ สัมผัสถึงความเย็นที่อาบร่าง
ทว่าสายตาเขากลับมองไม่เห็นความหายนะที่ว่านั้นเลย...
ไม่มี...ไม่มีร่างของคุณตา!
ฮีโร่สาวเท้าเข้าไปด้านในอย่างสุดกำลัง หยุดฝีเท้าลงตรงจุดเกิดเหตุเมื่อคืน ก่อนหันมามองแองจี้ด้วยความตื่นตระหนก
?ฉันทำ...จริงๆ นะ?
ทันทีที่พูดจบเสียงกุกกักจากห้องใต้ดินด้านล่างก็ดึงความสนใจของคนทั้งคู่ไปยังต้นเสียง
แองจี้เอานิ้วชี้แนบปากส่งสัญญาณให้ฮีโร่เงียบ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ก้าวลงไปทางบันไดที่จะพาไปสู่ห้องทดลองของด็อกเตอร์เอกภพ
?โอ้ย! เจ็บชะมัด? เสียงโครมครามของข้าวของที่พากันร่วงหล่นมากระแทกเท้าของเด็กหนุ่มผมทองที่สบถออกมาด้วยความหัวเสีย
ฮีโร่และแองจี้ลอบมองเบื้องหลังของเด็กหนุ่มที่กำลังโกยข้าวโกยของของคุณตาลงในถุงดำใบใหญ่?ขโมย!!!
?แองจี้...?
?เดี๋ยวฉันจะจัดการมันเอง? เขาบอกก่อนวิ่งกลับขึ้นไปทางด้านบนด้วยความรวดเร็ว ทิ้งเด็กหนุ่มให้มองตามร่างสูงไปตาปริบๆ
ฮีโร่หันกลับมาสังเกตการณ์เจ้าหัวขโมยต่อไป
ขโมยร่างเล็กกำลังเหลียวซ้ายแลขวาอย่างที่ฮีโร่คาดเดาว่ากำลังหาของมีค่า ไปๆ มาๆ มันก็เปลี่ยนใจเอาแขนกวาดข้าวของบนโต๊ะทำงานของคุณตาลงในถุงกระสอบไปจนหมดอย่างคนใจร้อน
...ท่าทางแบบนี้มันคุ้นๆ เหมือนจะเคยเห็นที่ไหน เอ๊ะ! หรือว่า?!
ปัง!!! เสียงโครมครามของประตูห้องทดลองที่เปิดออกเรียกความสนใจของทั้งหัวขโมยและคนแอบมองได้เป็นอย่างดี...ร่างเพรียวของหมาป่านัยน์ตาสีอำพันยืนอยู่ตรงหน้าประตูที่เปิดกว้างออก และไม่ทันปล่อยให้ขโมยได้ตั้งตัวอะไรทั้งสิ้นมันก็กระโจนเข้าหาร่างเล็กของเด็กหนุ่มหัวขโมยทันที
ฮีโร่พุ่งตัวออกจากที่ซ่อนด้วยความตื่นตระหนก
?หยุดนะแองจี้ นั่นคริส!!!? เขาตะโกนลั่นเมื่อเห็นคมเล็บที่กำลังจะตวัดจัดการเด็กหนุ่มผมทอง
?โอ้ย!? เด็กหนุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยร้องลั่นเมื่อหงายหลังล้มกระแทกพื้นตามแรงกระแทกของอุ้งเท้าใหญ่ แองจี้หันมามองหน้าฮีโร่ที่รีบปรี่เข้าไปพยุงร่างเพื่อนสนิท
?คริสนายเป็นอะไรรึเปล่า!?
?ปะ...เปล่า แต่นั่นหมานายเหรอ?? คริสลุกขึ้นทรงตัวก่อนหันมองทางเจ้าหมาป่าด้วยสีหน้าตื่นๆ
?อือ...แองจี้นี่เพื่อนฉันเอง?
หมาป่าหนุ่มพยักหน้ารับรู้ส่งเสียงตอบรับราวกับรู้เรื่องเป็นอย่างดี ทำเอาคนที่มองดูอยู่อย่างคริสนึกแปลกใจ
?หมานายฉลาดดีนี่ เฮ้! ฉันชื่อคริส? คริสแบมือออกมาตรงหน้าแองจี้ที่เอาฝ่าเท้ามาแตะรับไว้ทักทายทำความรู้จัก
?เอ่อ...มันชื่อแองจี้ แล้วนายมาทำอะไรที่นี่?? ฮีโร่รีบถามคำถามที่เขาสงสัยเป็นที่สุด
?จริงสินายหายไปไหนมา??
?เอ่อ ฉันไป...ค้างบ้านเพื่อน นายต่างหากมาทำอะไร?? ฮีโร่พูดตะกุกตะกักแต่คริสไม่สนใจจะจับพิรุธอะไรตอนนี้
?ฉันโทรหานายตั้งหลายครั้ง?
?ก็ฉันลืมมือถือ...เรื่องของฉันช่างมันเถอะ นายยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลย?
?ฉันมาเอาของให้ตาของนายที่โรงพยาบาล?
?โรงพยาบาล!?
?ก็เมื่อวานตอนดึกฉันมาหานาย แล้วเจอตานายนอนหมดสติอยู่เลยโทรตามรถโรงพยาบาล?
?นายว่าอะไรนะ!? ฮีโร่จ้องหน้าคริสเหมือนกับเรื่องทั้งหมดที่เพื่อนเขาพูดเป็นเรื่องที่น่ายินดี ทั้งๆ ที่เขาควรแสดงอาการเป็นห่วงตาของตัวเองให้มากกว่านี้
คริสมองใบหน้าที่ตื่นเต้นของฮีโร่ด้วยความประหลาดใจ
เมื่อรู้สึกถึงสายตาที่มองมาของเพื่อน ฮีโร่ก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด...แม้มันช่างทำได้ยากเย็นเหลือเกินก็เถอะ...
?อะ...เอ่อ แล้วยังไงต่อ?
?แล้วไงงั้นเหรอ...ก็พอตานายฟื้น เขาก็ใช้ฉันมาเอาของน่ะสิ ตานายจู้จี้ขี้บ่นเป็นบ้า นี่ฉันเทียวไปเทียวมาเอาของให้เป็นสิบรอบแล้วนะเนี่ย? คริสบ่นด้วยความรำคาญใจนิดๆ ทว่ามันกลับสร้างรอยยิ้มกว้างบนดวงหน้าคมของฮีโร่
?เย้! ขอบใจมากคริส นายได้ยินมั้ยแองจี้คุณตาอยู่โรง?บาล! คุณตาอยู่โรง?บาล!? ฮีโร่ตะโกนลั่นก่อนถลาไปกอดหมาป่าหน้าแหลมเอาไว้ สร้างความตกใจและงุนงงให้คริสไม่น้อย
?ฮีโร่ ฉันไม่รู้ว่านายดีใจอะไรนะ แต่นายเอาของพวกนี้ไปให้ตานายเองได้มั้ย ฉันมีธุระต้องไปทำต่อ?
?ได้สิ? เขาตอบรับทันทีอย่างไม่รู้สึกขัดข้องใจเลยแม้แต่น้อย
จะว่าไปตอนนี้ต่อให้มีคนมาต่อยเขา เขาคงกระโดดกอดด้วยซ้ำไป ก็คนมันมีความสุขนี่นา...
แองจี้มองฮีโร่ที่ทำหน้ามีความสุขแบบสุดๆ อย่างรู้สึกโล่งใจ เขาแยกเขี้ยวน้อยๆ เป็นรอยยิ้มให้กับเด็กหนุ่มที่เพิ่งผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ ไปอย่างหวุดหวิด
?คุณตาครับ!!!? ร่างสูงบางพุ่งเข้าหาร่างท้วมที่นอนแผ่ตากแอร์อยู่ในห้องพยาบาลแบบพิเศษ ก่อนโอบร่างนั้นไว้แน่น ?ผมขอโทษครับคุณตา...เมื่อคืนผมจำอะไรไม่ได้เลย ฮือ...? มีเสียงกระซิกๆ ของผู้เป็นหลานอยู่ที่ข้างหู
?แล้วมาได้ยังไง...อ้าว! แองจี้นายก็มาด้วยเหรอ?? เอกภพทักขึ้นเมื่อเห็นชายร่างสูงเดินแบกของตามเข้ามาอย่างมีมารยาท
?ครับ พอดีเมื่อคืนหลานด็อกเตอร์ไปพักกับผม?
โป๊ก!!!
?โอ้ย! ตาเขกหัวผมทำไม?!?
?เจ้าหลานบ้านี่ทำไมไม่รู้จักช่วยเหลือตาเอาซะเลย นี่ถ้าไม่ได้เพื่อนแกฉันคงนอนกระดูกกระเดี้ยวหักอยู่ตรงนั้นทั้งคืนสินะ!? เขาเอ็ดหลานชายด้วยความโมโห
?คุณตากระดูกหักเหรอครับ?!?
?ก็ใช่น่ะสิ เมื่อคืนแกกลายเป็นหมาแล้วมาแย่งกินพายกรอบ กระโดดใส่ฉันล้มจนกระดูกหัก ส่วนแกก็เอาหัวไปฟาดใส่ขอบโต๊ะจนสลบอยู่นาน พอฟื้นขึ้นมาแทนที่จะช่วยกลับวิ่งออกนอกบ้านไปซะอย่างนั้น? เอกภพพ่นลมด้วยความโกรธ
?แต่เลือด...มันมีเลือดเต็มไปหมดเลยนะครับ!?
?จะว่าไปเมื่อคืนฉันก็ไม่ได้กลิ่นเลือดติดตัวนายเลยนะ ได้แต่กลิ่นคล้ายๆ....เอ่อ...ยาแดง? เสียงชายหนุ่มเบื้องหลังเสริมขึ้น
?อ้อ...ใช่ๆ มันหกรดฉันตอนที่ล้มพอดี? เอกภพเอออออย่างไม่คิดอะไร
?อะไรนะยาแดง!!!?
?ใช่น่ะสิ ก็ตอนที่ฉันล้ม มันไปชนถูกกล่องปฐมพยาบาลเข้าพอดี...เจ้าหลานคนนี้ คิดไปถึงไหนกัน!?
?ก็บอกแล้วไงว่าผมจำไม่ได้ แต่ผมนึกว่าผมกัดตาตายไปแล้วซะอีก? เอกภพส่ายหน้าระอากับความเซ่อซ่าของหลานชาย
?แกจะกัดฉันได้ยังไงกัน?
?ก็ผมกลายเป็นหมาป่าแล้วไม่ดุร้ายเหรอครับ??
?...? ชายแก่เงียบไป ก่อนมองไปทางแองจี้ที่อยู่ด้านหลัง
?นายไม่ได้เล่าเรื่อง มนุษย์หมาป่าให้ฮีโร่ฟังเหรอ??
?ผมเล่าให้ฟังแค่บางส่วนน่ะครับ เพราะเมื่อคืนมันดึกมากแล้ว? แองจี้ตอบอย่างน่าเชื่อถือ จนเขาไม่แน่ใจว่าแองจี้ตั้งใจจะปั่นหัวเขาเล่นหรือมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
?มะ...มันมีอะไรที่ผมยังไม่รู้อีกเหรอครับ?? ฮีโร่มองหน้าของคุณตาสลับกับหน้าของแองจี้อย่างงุนงง
?คืออย่างนี้นะฮีโร่...การเป็นมนุษย์หมาป่าน่ะมันขึ้นอยู่กับคนแต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนอาจกลายเป็นหมาป่าที่ดุร้ายและขาดสติ บางคนอาจจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่สำหรับหลานเมื่อคืนตาเห็นหลานนอนหมดสติอยู่หน้าบ้าน ตาเลยเอาหลานไปขังไว้ในกรง แล้วตอนที่หลานกลายเป็นหมาป่าหลานก็ยังคงมีจิตสำนึกของการเป็นตัวเองอยู่ มีเพียงร่างกายเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงไป ตาเลยกล้าปล่อยหลานออกจากกรงมาเดินเพ่นพ่านยังไงล่ะ?
?ตะ...แต่ผม จำอะไรไม่ได้เลยนะครับ?
?เรื่องเมื่อคืนน่ะหลานอาจแค่ล้มเอาหัวฟาดกับโต๊ะจนลืมเรื่องต่างๆ ไปเท่านั้นเอง? คำอธิบายของคุณตาทำให้สมองของเขาว่างเปล่าอีกครั้ง...ให้ตายเถอะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
?มะ...หมายความว่า...?
?หลานไม่มีทางดุร้ายเหมือนหมาป่าของจริงที่อยู่ในป่าหรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า? เอกภพระเบิดหัวเราะลั่น
ฮีโร่ตวัดสายตาไปทางแองจี้ที่เหมือนกำลังกลั้นหัวเราะอยู่...แล้วที่เขาต้องนอนกระสับกระส่ายอยู่ทั้งคืนนั่นล่ะ!!!
?หมายความว่าผมจะกลายร่างได้ตามต้องการโดยที่ยังคงสติเอาไว้ได้อย่างนั้นเหรอครับ??
?ในกรณีของหลานน่าจะเป็นอย่างนั้นฮีโร่ ยกเว้นตอนจันทร์เต็มดวงที่บางครั้งจะไม่สามารถจะควบคุมการกลายร่างและพลังในตัวได้ แต่มีบางกรณีที่ต่างออกไป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตากำลังวิจัยอยู่ไงล่ะ แล้วแองจี้เขาก็เลยอาสามาเป็นสัตว์ทดลองให้ ฮะ ฮะ ฮะ? เอกภพบอกพลางหัวเราะร่า
ให้ตายเถอะนี่ชีวิตเขาต้องยุ่งยากขึ้นเป็นหลายร้อยเท่าเพียงเพราะโดนสัตว์ทดลองของคุณตากัดอย่างนั้นเหรอเนี่ย...
แล้วไอ้มนุษย์หมาป่าอะไรนี่...มันก็ไม่เท่เหมือนในหนังเลยสักนิด...
ดวงตาสีเขียวใสกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างบนท้องฟ้าที่ดูสดใส แต่ทำให้ใจหดหู่ เรื่องราวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ได้ดีอย่างที่หวัง
เขายังต้องดิ้นรนปรับตัวให้เข้ากับอนาคตที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ต่อไป หลังจากที่ได้รู้ความจริงว่าเขาไม่สามารถกลับเป็นคนที่สมบูรณ์แบบเหมือนเดิมได้...เป็นได้เพียงครึ่งคนครึ่งหมาป่า (ที่ออกจะเชื่องเหมือนหมาชาวบ้านไปหน่อย)
?งั้นฉันต้องขอรบกวนนายช่วยดูแลฮีโร่หน่อยแล้วล่ะแองจี้? เจ้าของชื่อขยับยิ้มเล็กน้อย
?ได้เลยครับด็อกเตอร์ ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลเขาเป็นอย่างดี?
ถึงจะบอกว่าดูแลเป็นอย่างดี แต่เขาว่าคนอย่างหมอนั่นคงไม่ได้จริงจังกับคำพูดของตัวเองไหร่นักหรอก
?คร้าบๆ เชิญจัดการกับชีวิตผมตามใจชอบเลย ยังไงผมก็ไม่มีทางไปไหนรอดอยู่แล้วนี่? เด็กหนุ่มประชดประชัน ทำเอาคนทั้งสองหันมามองอย่างสนใจ
?ฮ่า ฮ่า ฮ่า หลานฉันมันก็แสนงอนอย่างนี้แหละอย่าไปสนใจเลย? เอกภพหันไปหัวเราะกับชายหนุ่มที่ลอบมองอาการเด็กหนุ่มอย่างนึกขำ
?แถมยังเป็นกระต่ายตื่นตูมซะด้วยสิครับ? แองจี้หัวเราะในลำคอ
เออ นินทากันเข้าไปซะให้พอ ยังไงเขามันก็แค่ตัวตลก...ฮีโร่สะบัดหน้าไปอีกทางอย่างไม่สบอารมณ์ปล่อยให้อีก 2 คนที่เหลือสนทนากันอย่างสนุกสนานต่อไป
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นอย่างแท้จริงที่เขาต้องเผชิญในฐานะมนุษย์หมาป่า...
ฮีโร่ ตอนที่ 3
Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี