"Ryu to Sobakasu no Hime" เปิดตัวอันดับ 1 "Tokyo Revengers" ร่วงไปอันดับ 2 "Honey Lemon Soda" คงที่อันดับที่ 4 Japan Box Office
Ryu to Sobakasu no Hime (Belle) ภาพยนตร์อนิเมเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ Mamoru Hosoda ที่มีผลงานกำกับ Mirai มิไร
มหัศจรรย์วันสองวัย (Mirai no Mirai) ปี 2018, The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์ กับ อาจารย์พันธุ์อสูร (Bakemono
no Ko) ปี 2015, Wolf Children คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์ (Ookami Kodomo no Ame to Yuki) ปี 2012, Summer Wars ปี 2009,
The Girl Who Leapt Through Time กระโดดจั้มพ์ทะลุข้ามเวลา (Toki wo Kakeru Shojo) ปี 2006 ซึ่งได้มาร่วมงานกับ Jin
Kim นักออกแบบตัวละครและอนิเมเตอร์ชาวเกาหลีใต้ (Frozen, Frozen II, Big Hero 6, Zootopia, Wreck-It Ralph, Over
the Moon) มาออกแบบตัวละคร Belle (ชื่อในโลกจริง Suzu Naito ออกแบบโดย Hiroyuki Aoyama) โดยตัวละครตัวนี้ได้ Kaho
Nakamura มาพากย์และขับร้องเพลงประกอบ U ร่วมกับวง millennium parade (ดิจิตอลซิงเกิ้ล วางจำหน่ายในญี่ปุ่นเจ็ดวัน 12-
18 ก.ค. 2021 มียอดดาวน์โหลด 29,786 ครั้ง) และ Uta yo ซึ่งใช้เป็น Insert Song (ดิจิตอลซิงเกิ้ลวางจำหน่ายในญี่ปุ่นสามวัน
16-18 ก.ค. 2021 มียอดดาวน์โหลด 10,984 ครั้ง) ส่วนบทนำอีกคนได้นักแสดง Takeu Satoh (Kenshin Himura - ซามูไรพเนจร
Rurouni Kenshin, Kei Nagai - Ajin สายพันธุ์อมนุษย์) มาพากย์เป็นมังกร (ออกแบบตัวละครต้นฉบับโดย Akiya Kageichi)
เปิดตัวในอันดับที่ 1 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์แรก (17-18 ก.ค. 2021)
679,995,700 เยน มียอดขายบัตรภาพยนตร์ 459,000 ใบ จาก 379 จอภาพยนตร์ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่
ญี่ปุ่นวันแรก 16 ก.ค. 2021 (รายได้วันแรกประมาณ 190 ล้านเยน) รวมรายได้จากสามวันแรก (16-18 ก.ค. 2021) ทำเงินไปแล้ว
891,663,200 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 606,684 ใบ ผู้เข้าชมภาพยนตร์อนิเมเรื่องนี้คิดเป็นเพศชาย 55.5% และ
เพศหญิง 44.5% โดยผู้เข้าชมช่วงอายุ 20-29 ปี มากที่สุด รองมาช่วงอายุ 40-49 ปี ซึ่งมากกว่าช่วงอายุ 30-39 ปี กับ 50-59 ปี
แต่ก่อนหน้านั้นวันทื่ 15 ก.ค. 2021 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าไปฉายให้รับชมก่อนเป็นแห่งแรกในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
(Festival de Cannes) ครั้งที่ 74 ประจำปี 2021 ซึ่งได้รับคำวิจารณ์ที่ดี พร้อมกับได้รับการยืนปรบมือให้เกียรติ นานถึง 14 นาที
Tokyo Revengers โตเกียว รีเวนเจอร์ส สัปดาห์ที่ 2 หล่นจากอันดับที่ 1 มาอยู่ในอันดับที่ 2 Japan Box Office ทำเงินจาก
การเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สอง (17-18 ก.ค. 2021) 367,209,570 เยน (ลดลง 31% เมื่อนำมา
เทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์แรก) มียอดขายบัตรภาพยนตร์ 267,000 ใบ จาก 350 จอภาพยนตร์ และกวาดรายได้จากการเข้า
ฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 1,503,037,850 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 1,107,238 ใบ (10 วัน)
Godzilla vs. Kong สัปดาห์ที่ 3 หล่นจากอันดับที่ 2 มาอยู่ในอันดับที่ 3 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สาม (17-18 ก.ค. 2021) 113,551,650 เยน (ลดลง 52% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่สอง) มียอด
ขายบัตรภาพยนตร์ 75,000 ใบ จาก 366 จอภาพยนตร์ และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น 1,412,638,100 เยน
จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 916,900 ใบ (17 วัน)
Honey Lemon Soda สัปดาห์ที่ 2 คงที่ในอันดับที่ 4 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุด
สัปดาห์ที่สอง (17-18 ก.ค. 2021) 91,824,240 เยน (ลดลง 47% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์แรก) จาก 220 จอภาพยนตร์
และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 441,128,720 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 344,000 ใบ
(10 วัน) สำหรับ HELLO HELLO ซิงเกิ้ลลำดับที่ 4 ของวงบอยแบนด์ Snow Man ซึ่งได้นำมาใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้
วางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที 14 ก.ค. 2021 รวมยอดขายจนถึงวันที่ 18 ก.ค. 2021 ทั้งหมด 805,691 แผ่น
Black Widow สัปดาห์ที่ 2 หล่นจากอันดับที่ 3 มาอยู่ในอันดับที่ 5 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วง
สุดสัปดาห์ที่สอง (17-18 ก.ค. 2021) 100,256,370 เยน (ลดลง 54% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์แรก) จาก 267 จอภาพยนตร์ และ
กวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น 609,063,340 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 403,428 ใบ (11 วัน)
Evangelion: 3.0+1.0 Thrice Upon a Time (Shin Evangelion Gekijou-ban : ||) สัปดาห์ที่ 19 (จัดฉายฉบับปรับปรุง 3.0+1.01
เป็นสัปดาห์ที่ 6) หล่นจากอันดับที่ 5 มาอยู่ในอันดับที่ 6 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วง
สุดสัปดาห์ที่สิบเก้า (17-18 ก.ค. 2021) 61,032,550 เยน (ลดลง 64% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่สิบแปด) และกวาดรายได้
จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ญี่ปุ่นไปแล้ว 10,153,541,230 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ 6,642,627 ใบ (133 วัน) โดยเมื่อ
รวมรายได้จนถึงวันที่ 21 ก.ค. 2021 (136 วัน) ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ท่ำรายได้รวมทั้งหมดในญี่ปุ่นไปแล้ว 10.22 ล้านเยน จากยอด
ขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 6.69 ล้านใบ ส่งผลทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นจากอันดับที่ 38 มาอยู่ในอันดับที่ 35 ภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุด
ตลอดกาลในญี่ปุ่น แซงภาพยนตร์เรื่อง Odoru Daisosasen The Movie ปี 1998 ซึ่งทำรายได้รวมไปทั้งหมด 10,100 ล้านเยน
Character สัปดาห์ที่ 6 ขึ้นจากอันดับที่ 8 มาอยู่ในอันดับที่ 7 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่หก (17-18 ก.ค. 2021) 41,752,000 เยน (ลดลง 39% เมื่อเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่ห้า) และกวาดรายได้
จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 1,383,745,080 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 995,346 ใบ (38 วัน)
ซามูไรพเนจร บทสุดท้าย The Beginning (Rurouni Kenshin Saishuushou The Beginning) สัปดาห์ที่ 7 หล่นจากอันดับที่ 7
มาอยู่ในอันดับที่ 8 Japan Box Office ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่เจ็ด (17-18 ก.ค. 2021)
41,973,430 เยน (ลดลง 40% เมื่อนำไปเทียบกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่หก) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
2,252,696,830 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 1,593,738 ใบ (45 วัน)
The Fable: Korosanai Koroshiya (The Fable: A Contract Killer Who Doesn’t Kill) ภาพยนตร์ภาคสองที่อ้างอิงมาจากหนังสือการ์ตูน
โหดไม่ถามชื่อ The Fable ผลงานของ อ.Katsuhisa Minami สัปดาห์ที่ 5 หล่นจากอันดับที่ 6 มาอยู่ในอันดับที่ 9 Japan Box Office
ทำเงินจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ห้า (17-18 ก.ค. 2021) 41,655,760 เยน (ลดลง 46% เมื่อเทียบกับใน
ช่วงสุดสัปดาห์ที่สี่) และกวาดรายได้จากการเข้าฉายในญี่ปุ่น 1,246,602,730 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ 907,000 ใบ (31 วัน)
SEOBOK ซอบก คนอมตะ ภาพยนตร์เกาหลีใต้ ผลงานกำกับและเขียนบทโดย Lee Yong-ju นำแสดงโดย Gong Yoo และ Park Bo Gum
เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 16 ก.ค. 2021 เปิดตัวในอันดับที่ 10 Japan Box Office รวมรายได้่จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
ที่ญี่ปุ่นจนถึงวันที่ 18 ก.ค. 2021 (3 วัน) ทำเงินไปแล้ว 55,776,860 เยน จากยอดขายบัตรภาพยนตร์ทั้งหมด 41,318 ใบ
