New Release : เงื่อนรักเงาพิศวาส

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : เงื่อนรักเงาพิศวาส

โพสต์ โดย Gals »

1

ท่ามกลางความหนาวเย็นในคืนเดือนดับ สายลมพัดแรงราวกับกำลังจะเกิดพายุทั้งๆ ที่ช่วงเวลานี้ในอังกฤษไม่ใช่ฤดูมรสุม แต่ทว่าคืนนี้ช่างมีอะไรหลายอย่างแปลกประหลาด ผู้คนที่เดินย่ำในยามราตรีดูบางตา รถราบนท้องถนนแทบไม่มี ถนนเลียบริมแม่น้ำเทมส์ก็เงียบกริบ เรือที่วิ่งผ่านจอดนิ่งอยู่บนผืนน้ำ
บนหน้าผาสูงเหนือโค้งริมแม่น้ำเทมส์ราวสองร้อยเมตรในเขตมณฑลบัคคิงแฮมเชอร์ เป็นที่ตั้งของคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลฌอนสัน ซึ่งเป็นคฤหาสน์แบบสถาปัตยกรรมอิตาลีโดดเด่น บริเวณคฤหาสน์ตกแต่งอย่างประณีตจนทุกอย่างลงตัว แต่ทว่าเวลานี้รอบๆ บริเวณกลับปกคลุมไปด้วยม่านหมอกขาว หญิงสาวรูปร่างอรชรผมยาวสลวยถึงกลางหลังสวมเสื้อกันหนาวสีดำยืนอยู่ตรงหน้าประตูอัลลอยใหญ่ลวดลายงดงาม ดวงตาสีม่วงลาเวนเดอร์มองป้ายชื่อสีทองขนาดใหญ่?ฌอนสัน
คิ้วสวยขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจระคนสงสัยกับการมาที่นี่ของตัวเอง แต่เธอไม่มีเวลาคิดมากนักเมื่อประตูบานใหญ่เปิดออกเหมือนจะต้อนรับการมาเยือนของเธอ?นาฏลดา สแกนเนอร์
คิ้วโก่งสวยดุจคันศรยกขึ้นสูงด้วยความแปลกใจว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ทำไม เพราะหนาวแบบนี้และดึกขนาดนี้เธอน่าจะนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มที่คอนโดฯ มากกว่าจะมาอยู่ที่นี่ แล้วความสงสัยก็นำพาให้รองเท้าบูตสีดำก้าวผ่านประตูเข้าไปด้วยย่างก้าวที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้เธอจำต้องเดินเข้าไปในอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ ดวงตาสีม่วงมองหาบอดี้การ์ดหรือใครสักคนแต่ไม่เห็นแม้แต่เงา
?ไปไหนกันหมด? ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำ ดวงหน้าหมดจดมองซ้ายมองขวาหาใครสักคนเพื่อจะถามไถ่ เมื่อไม่มีใครเธอก็ก้าวขึ้นไปตามบันไดสีทองกลางห้องโถงกว้างช้าๆ ทว่าเงาวูบไหวหน้าประตูบานใหญ่ทำให้หญิงสาวรีบเดินขึ้นไป เห็นผู้ชายสวมชุดดำกำลังกดรหัสเปิดประตูและมองซ้ายมองขวาอย่างกลัวคนมาเห็น
?ใครกัน ร้อนรนเหมือนคนร้าย? นาฏลดาพึมพำ มองหาคนช่วยแต่ไม่มีใคร เธอจึงเดินไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังคนร้าย ?นี่ หยุดนะ จะทำอะไร? เธอพยายามถามแต่คนชุดดำเหมือนไม่ได้ยิน
?หยุด ช่วยด้วย! มีคนร้าย! มีคนร้าย!? เธอตะโกนเสียงดังลั่นแต่ไม่มีใครได้ยิน จากนั้นไม่ถึงเสี้ยวนาทีประตูก็เปิดออก คนชุดดำแทรกตัวเข้าไป ด้วยความสงสัยนาฏลดารีบตามเข้าไปอย่างร้อนใจ คนชุดดำเดินไปที่เตียงกว้างซึ่งมีชายชราผมสีดอกเลานอนหลับอยู่ ร่างบอบบางวิ่งไปยืนข้างเตียงอีกฟาก แล้วก็ต้องตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนชุดดำหยิบมีดพกคมกริบออกจากเอว
?จะทำอะไร?คุณ! คุณ! ตื่นสิ ตื่น เขาจะฆ่าคุณนะ!? นาฏลดาเขย่าแขนบนผ้าห่มแรงๆ ชายชราไอออกมาสองสามครั้ง คนชุดดำผงะเตรียมจะหลบแต่ก็ไม่ทันเพราะดวงตาฝ้าฟางลืมขึ้นเสียก่อน
?นั่นใคร?? เสียงแหบพร่าเอ่ยถาม
คนชุดดำแสยะยิ้มและง้างมือข้างที่ถือมีดยกขึ้นเหนือศีรษะ ปลายมีดสะท้อนกับแสงไฟด้านนอกวิบวับ ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงรู้ถึงอันตรายที่จะเกิดกับตัว แต่ไม่สามารถขยับหนีได้
?มัจจุราชที่จะมาเอาชีวิตแกน่ะสิไอ้แก่มาร์เทอร์สัน? เสี.ือดเย็นไม่ได้ทำให้คนจะถูกฆ่าหวาดกลัว แต่กลับจ้องตาคนร้ายเขม็ง นาฏลดาต่างหากที่กลัวแทนและพยายามร้องเรียกให้คนมาช่วยชายชรา
?ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! มีคนร้าย! มีคนร้าย!? เธอร้องจนแสบคอแต่ก็ไม่มีใครมา และคนในห้องทำราวกับไม่ได้ยินเสียงเธอและไม่หันมามองด้วยซ้ำ
?ฮ่าๆ คนที่ส่งแกมาฆ่าฉันคงอยากได้สมบัติของฉันมากสินะ? เสียงเนิบนาบราวกับเหนื่อยล้าเต็มประดาเอ่ยถามและมองมีดในมือคนร้าย
?ไม่ต้องพูดมาก วันนี้คือวันตายของแกไอ้แก่? พูดจบ ปลายมีดแหลมก็ปักลงที่อกด้านซ้ายของชายชรา เลือดสีแดงสดพุ่งทะลักออกมา ดวงตาฝ้าฟางเบิกกว้างขณะจับมือที่กำมีดไว้ ความเจ็บปวดทำให้ชายชราจิกปลายเล็บลงที่ถุงมือของคนร้าย
?อย่าทำเขา ปล่อยเขานะ ปล่อยเขา? นาฏลดาออกแรงผลักคนร้าย แต่คนร้ายไม่รู้สึกรู้สา ชายชราเริ่มหน้าเขียวคล้ำ ลมหายใจใกล้จะหมดลง จังหวะนั้นก็มีหญิงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
?คุณท่าน?กรี๊ดดด?? เมื่อเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมตรงหน้า หญิงชราก็กรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นและเปิดไฟในห้อง คนร้ายถึงกับผงะหันไปมองคนมาใหม่ นาฏลดาเห็นดวงตาสีน้ำตาลทองเหมือนตาหมาป่าของคนร้ายแข็งกร้าวน่ากลัว เมื่อมีคนเห็นการฆาตกรรมคนร้ายก็ต้องฆ่าปิดปาก แต่ทำไม่ได้เพราะชายชราจับมือไว้แน่น
?ไอ้แก่ จะตายอยู่แล้วยังไม่สิ้นฤทธิ์อีก? คนร้ายกระแทกด้ามมีดลึกลงไปจนมิดด้าม ทำให้ชายชราสิ้นใจทว่าดวงตาจ้องมองคนร้ายตลอดเวลา เมื่อจัดการเป้าหมายเสร็จคนร้ายก็ตรงมาหาหญิงชราแล้วจ้วงแทงไปที่ท้องอย่.
?อย่านะ?? ไม่ใช่เสียงของหญิงชรา แต่เป็นเสียงของนาฏลดาที่ตะโกนบอก คนร้ายจะแทงซ้ำแต่แว่วเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่วิ่งขึ้นบันไดมา ทำให้ตัดสินใจวิ่งไปที่ระเบียงแล้วกระโดดลงไปชั้นล่าง ชายฉกรรจ์สวมสูทสีดำห้าคนวิ่งเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นภาพบนเตียงถึงกับผงะด้วยความตกใจ
?คุณป้าเป็นยังไงบ้าง? นาฏลดารีบไปดูอาการของหญิงชราอย่างเป็นห่วง
หญิงชรานั่งพิงผนัง ลมหายใจรวยรินอย่างน่าสงสาร แต่ยังอุตส่าห์รวบรวมแรงที่เหลือเปล่งเสียงออกมา
?มัน?หนีไปทางระเบียง? ชายฉกรรจ์สี่คนรีบตามไป อีกคนขยับเข้ามาดูอาการของหญิงชราก่อนจะโทร.เรียกรถฉุกเฉินแต่ไม่มีใครสนใจเธอสักคน เธอเตรียมจะวิ่งตามไปแต่หญิงชราเรียกเธอไว้
?อย่า...ไป?? มือยับย่นขยับขึ้นลง
?คุณป้าเห็นฉันเหรอคะ? นาฏลดาจับมือนั้นไว้และมองเลือดที่ไหลออกมา หญิงชราพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ และมองไปที่เตียง
?คุณท่าน?? นางพึมพำ น้ำตาไหลออกมา จากนั้นมือที่นาฏลดาจับไว้ก็ตกลงบนพื้น ดวงตากลมโตของหญิงสาวเบิกกว้างด้วยความตกใจ
?คุณป้า?คุณป้า?คุณป้า?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึก ทำให้คนที่ตกอยู่ในห้วงของความฝันสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ ใบหน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อของนาฏลดาหันไปที่โต๊ะข้างเตียงและหยิบโทรศัพท์มาแนบหู หญิงสาวไม่ทันได้ทักทายเสียงของคนโทร.มาก็ดังขึ้นซะก่อน
?งานเข้ากลางดึกฮาร์ต?
?เกิดอะไรที่ไหน? เธอถามเสียงอิดโรยพลางยกมือเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก
?มีการฆาตกรรมที่คฤหาสน์ฌอนสัน? ชื่อและสถานที่เกิดเหตุทำเอาหญิงสาวชาวาบไปทั้งตัว มือข้างที่ว่างยกขึ้นมาวางบนหน้าผากตัวเอง
?ที่ไหนนะเคน? เธอถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
?ตระกูลฌอนสัน คุณมาร์เทอร์สันถูกฆาตกรรมพร้อมกับคนรับใช้เก่าแก่ ผมกับทีมงานกำลังไปที่เกิดเหตุ? เคน ฟอร์เซนต์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานบอกมาตามสาย
?งานนี้ขาดคุณไม่ได้นะฮาร์ต? ประโยคท้ายนาฏลดาไม่ได้ฟังด้วยซ้ำเพราะมัวแต่มึนงงอยู่กับสิ่งที่ได้ยิน
?อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน? เธอตัดสายแล้วรีบไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ถึงห้านาทีหญิงสาวก็กลับออกมาอยู่ในชุดกางเกงสแล็คและเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่เสียบชายเสื้อเข้าไปในขอบกางเกง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ครึ่งชั่วโมงต่อว่า นาฏลดาขับรถเลี้ยวผ่านประตูอัลลอยบานใหญ่เข้าไป ใบหน้าคมสวยเคร่งเครียด ตามองรอบๆ บริเวณที่ตอนนี้เต็มไปด้วยตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ หญิงสาวจอดรถแล้วเปิดประตูก้าวลงไป จากนั้นก็รีบเดินตรงไปข้างใน ตำรวจหลายคนยกมือทักทายเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ชันสูตรมือหนึ่งของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
?ข้างบนฮาร์ต? เคนเห็นเพื่อนเดินเข้ามาก็เรียกบอกตำแหน่ง
นาฏลดาเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนแล้ววิ่งขึ้นบันไดไป เมื่อเข้าไปในห้องนอนกว้าง หญิงสาวถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นชายชราคนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียง ร่างบอบบางเดินไปดูใกล้ๆ ด้วยหัวใจเต้นระทึก เมื่อเห็นหน้าคนบนเตียงเธอถึงกับผงะ เพราะเป็นคนเดียวกับที่เธอเห็นในความฝัน ใบหน้างามซีดเผือด ภาพเหตุการณ์ยังชัดในห้วงคำนึง เป็นไปได้ยังไง เธอเพิ่งเห็นผู้ชายคนนี้เมื่อไม่กี่นาทีนี้เอง
?แล้วคุณป้าคนนั้น?? นาฏลดาพึมพำ ครั้นหันไปมองข้างประตูเห็นหยดเลือดกระจายอยู่ก็เดินมาดู เคนสั่งงานลูกน้องเสร็จก็เดินมาหานาฏลดา
?ฮาร์ต?ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดแบบนี้ล่ะ?
?ฉันสบายดี แล้วป้าคนที่ถูกแทงอาการเป็นยังไงบ้าง เธอรอดใช่ไหม? หญิงสาวถามพลางมองหยดเลือดที่ตกอยู่ เคนขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
?ฮาร์ตรู้ได้ยังไงว่ามีป้าอีกคนถูกแทงตรงนี้?
?เอ่อ?? นาฏลดาถึงกับพูดไม่ออก เพราะพูดไปใครจะเชื่อว่าเธอเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ในฝันอย่างชัดเจน หญิงสาวหันไปมองช้าๆ เมื่อได้ยินเสียงกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ห้องที่เกิดเหตุ พร้อมกับผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น
?คุณตา คุณพ่อ? เสียงเรียกดังมาตั้งแต่หน้าห้อง จนกระทั่งคนทั้งสามเข้ามาในห้องและตรงไปที่เตียง
นาฏลดา เคน และเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานสองคนเดินไปหยุดยืนรวมกันอยู่ด้านหลังห้อง
?โธ่คุณพ่อ ทำไมถึงโชคร้ายแบบนี้? ผู้หญิงวัยกลางคนนั่งน้ำตาไหลอยู่ข้างเตียง เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนเดินเข้ามาในห้อง
?สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าของคดีนี้ครับ? ผู้กองสตีฟยื่นมือไปจับกับหลานชายคนรองของตระกูล
?พบหลักฐานอะไรบ้างไหมครับผู้กอง? ออสตินเดินห่างออกมาจากมารดาเลี้ยงและน้องชายต่างมารดาที่นั่งอยู่บนรถเข็นเพื่อคุยกับสตีฟสองคน
?เจ้าหน้าที่กำลังเก็บหลักฐานอยู่ ถ้ามีความคืบหน้ายังไงฉันจะรายงานให้ทราบ แต่ตอนนี้อยากเชิญญาติๆ ไปให้ปากคำที่ชั้นล่างได้ไหมครับ?
?ด้วยความยินดี ส่งข่าวไปให้คนไม่อยากกลับบ้านหรือยัง? ออสตินถามเพื่อนพี่ชาย สตีฟพยักหน้าแทนคำตอบ ออสตินเดินไปบอกมารดาเลี้ยงแล้วเข็นรถเข็นของน้องชายผ่านหน้าทีมงานของนาฏลดาไป สตีฟมองร่างคนตายพลางถอนหายใจเบาๆ
?งานช้างไหมผู้กอง? นาฏลดาคุ้นเคยกับผู้กองหนุ่มมานานเลยสามารถพูดคุยกันได้อย่างเปิดอก สตีฟยกมือเกาคางเบาๆ อย่างใช้ความคิด
?ไม่รู้ช้างชนช้างหรือเปล่า เพราะฌอนสันเองก็มีศัตรูทางธุรกิจไม่น้อย?
?ญาติๆ คนตายมีแค่สามคนนี้เองเหรอคะ?
?มีอีกคน เขาเป็นเพื่อนผมเองชื่อฮอร์ค ฌอนสัน เจ้าพ่อคาสิโนแห่งลาสเวกัส ผมส่งข่าวให้รู้แล้ว พรุ่งนี้คงบินมาถึง? สตีฟเดินออกจากห้องพร้อมกับหญิงสาว ลงไปที่ห้องโถงใหญ่ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำเท็ดดี้ ฌอนสัน
?คุณเท็ดดี้อายุเท่าไหร่ครับ?
?ยี่สิบหกครับ? เท็ดดี้ตอบคำถามโดยมีมารดานั่งอยู่ใกล้ๆ
นาฏลดายืนฟังการให้ปากคำอยู่เงียบๆ ส่วนสตีฟยืนคุยกับออสตินอยู่ด้านหลัง
?คุณอยู่ที่ไหนครับ?
?ผมกับแม่อยู่ที่บ้านครับ การ์ดของคุณปู่ไปบอกถึงรู้ว่าคุณปู่ถูกฆ่าตาย? เท็ดดี้บอกพลางบีบมือมารดาอย่างเสียใจ
?คุณเดินไม่ได้มานานหรือยังครับ? ตำรวจถามต่อ
?ตั้งแต่เรียนจบครับ ผมเกิดอุบัติเหตุและเดินไม่ได้ตั้งแต่นั้นมา? เท็ดดี้มองขาที่ซ่อนอยู่ในกางเกงนอนตัวใหญ่ ขณะที่นาฏลดายืนฟังอยู่นั้นสตีฟก็หันมาสะกิด
?ฮาร์ต??
?ว่าไงคะ? เธอยิ้มให้สตีฟแล้วจึงยิ้มให้ออสตินพร้อมกับยื่นมือไปรอด้านหน้า ?ฉันนาฏลดา สแกนเนอร์ จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ค่ะ?
?ยินดีที่ได้รู้จักครับ คงต้องฝากความหวังเรื่องคดีกับเจ้าหน้าที่ เพราะผมเองก็มืดแปดด้านเหมือนกัน? ออสตินบอกด้วยใบหน้าเคร่งขรึม การสูญเสียผู้เป็นปู่ที่เป็นทั้งที่ปรึกษาและคอยเป็นกำลังใจกะทันหัน ทำให้ออสตินยังทำใจไม่ได้
?เราจะทำให้ดีที่สุดค่ะ ถ้าฉันอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ฉันขอมาเก็บหลักฐานที่นี่อีกครั้งนะคะ?
?ได้ครับ ผมจะบอกพ่อบ้านไว้ ผมอยากให้เร่งเรื่องคดีเร็วหน่อยนะผู้กอง เพราะพี่ใหญ่ก็คงไม่ยอมถ้าไม่มีความคืบหน้าอะไร? ออสตินบอกเพราะรู้จักพี่ชายดีว่าเลือดร้อนแค่ไหน นาฏลดาสบนัยน์ตาของออสตินแล้วยิ้มน้อยๆ เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ทำให้ต้องหยิบออกมาดูเบอร์แล้วกดรับทันที
?ว่าไงจอห์น?
?ป้าเอ็มม่าปลอดภัยแล้วครับคุณออสติน? เสียงการ์ดรายงานมาตามสาย ทำให้ออสตินยิ้มออกหลังจากเครียดมาหลายชั่วโมง
?ป้าเอ็มม่าปลอดภัยแล้วครับ? ออสตินบอกด้วยความยินดี
เท็ดดี้และมารดาหันไปมองและต่างก็ยิ้มอย่างยินดีไม่แพ้กัน แต่ช่างบังเอิญที่นาฏลดาเห็นมือเรียวสวยราวกับผู้หญิงของเท็ดดี้กำที่พักแขนแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้น และยิ่งได้เห็นสีนัยน์ตาของเท็ดดี้ หญิงสาวถึงกับขยับตัวเพราะนัยน์ตาคู่นี้เหมือนกับนัยน์ตาของคนร้าย ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะเท็ดดี้เดินไม่ได้
?ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันกับเท็ดดี้ขอตัวนะคะ เพราะเท็ดดี้ต้องกินยาทุกสี่ชั่วโมง? ไลลาบอกด้วยสีหน้าหม่นเศร้าก่อนจะเข็นรถเข็นของบุตรชายออกจากห้อง
ออสตินวางสายจากการ์ดไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นของพี่ชายที่หลายคนกลัวใจ
?สถานการณ์เป็นยังไงบ้างออสติน ตอนนี้ฉันอยู่บนเครื่อง อีกสามชั่วโมงคงไปถึง? เสียงทุ้มเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและแฝงความโกรธแค้นดังมาตามสาย
?ป้าเอ็มม่าปลอดภัย ส่วนคุณปู่...? ออสตินทิ้งท้ายด้วยสีหน้าเจ็บปวด สตีฟบีบไหล่กว้างเบาๆ อย่างให้กำลังใจน้องชายเพื่อน
?ใครที่ทำกับฌอนสันมันไม่ตายดีแน่ สตีฟอยู่ใกล้นายหรือเปล่า?
ออสตินส่งโทรศัพท์ให้สตีฟ ?พี่ใหญ่จะคุยด้วยครับ?
สตีฟรับโทรศัพท์มาแนบหูแล้วเดินออกห่างนาฏลดาและออสติน
?มีหลักฐานสำคัญที่จะสาวถึงตัวคนร้ายหรือเปล่าสตีฟ?
?หลักฐานเดียวที่มีตอนนี้คือป้าเอ็มม่า ส่วนหลักฐานอื่นๆ ไม่มี เพราะคนร้ายไม่ทิ้งอะไรไว้แม้แต่ลายนิ้วมือ? สตีฟบอกเพื่อนอย่างหนักใจไม่น้อย
?นักฆ่าอมือาชีพ?? ฮอร์คถามสั้นๆ มาตามสาย
?ไม่ใช่ แต่เป็นคนที่เรียนรู้สรีระของคนมาอย่างดี เพราะพวกที่ใช้มีดฆ่าคนและแทงจุดตายได้อย่างแม่นยำขนาดนี้ จิตใจโหดพอสมควร ถ้าเป็นมืออาชีพหรือนักฆ่ารับจ้างจะพุ่งเป้าไปที่เป้าหมายเท่านั้น แต่นี่มันทำอันตรายป้าเอ็มม่าด้วย แสดงว่าต้องการฆ่าปิดปาก?
?ฉันขอคุยกับเจ้าหน้าที่นิติหน่อย?
?ได้สิ?? สตีฟยื่นโทรศัพท์ให้นาฏลดา หญิงสาวชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วจึงรับโทรศัพท์มาคุยต่อ
?สวัสดีค่ะ? เธอเอ่ยทักทาย คนปลายสายเงียบไปแต่ไม่นานก็ตอบกลับมา
?ผมต้องการหลักฐานที่จะสาวไปถึงตัวคนร้ายทันทีที่ลงจากเครื่อง คุณรวบรวมแล้วมาพบผมที่บ้านพรุ่งนี้สิบโมงเช้า?
เขาสั่งราวกับเป็นผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เสียเอง คนได้รับคำสั่งถอนหายใจแรงๆ เพื่อให้เสียงเข้าไปในโทรศัพท์
?ฉันรู้ว่าคุณร้อนใจ แต่ก็ควรให้เวลาเราบ้างไม่ใช่อยากได้อะไรก็สั่งๆ แบบนี้ บางอย่างต้องรอผลแล็บด้วย? เธอพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจ แต่ดูเหมือนความแค้นจะทำให้คนปลายสายไม่ยอมฟังอะไร
?ผมไม่รอ พรุ่งนี้คุณมาพบผมตามนั้น? เขาตัดสายไปแล้วแต่นาฏลดายังคงกำโทรศัพท์ไว้ในมือ สตีฟสบตากับออสตินแล้วพากันมองหญิงสาวที่ยืนถอนหายใจอยู่ที่เดิม
?เจอฤทธิ์ฮอร์คเข้าแล้วสิฮาร์ต? สตีฟเอ่ยขึ้นมาลอยๆ หญิงสาวส่งโทรศัพท์คืนให้ออสติน
?พี่ชายคุณเขาเอาแต่ใจแบบนี้เสมอเหรอคะ?
?ครับ แต่ไม่มีใครเก่งเกินเขา? ออสตินบอกอย่างภูมิใจในตัวพี่ชาย ?ถ้าคุณฮาร์ตได้รู้จักตัวตนของฮอร์คจริงๆ จะรู้ว่าบุคลิกด้านนอกกับด้านในผิดกันลิบลับ?
?ฉันภาวนาอย่าให้เจอพี่ชายคุณ ไม่งั้นไม่ใครก็ใครต้องถูกหามเข้าโรงพยาบาลเพราะทนอีกฝ่ายไม่ได้? เธอบอกอย่างไม่ปิดบังก่อนจะขอตัวกลับพร้อมกับทีมงาน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สองวันต่อมาที่แผนกชันสูตรหลักฐาน นาฏลดาในชุดเดรสสีชมพูหวานสวมทับด้วยเสื้อกาวน์สีขาวนั่งส่องกล้องจุลทรรศน์ที่ดีที่สุดอย่างตั้งใจ มือข้างหนึ่งจับปากกา เขียนรายละเอียดลงบนกระดาษในขณะที่ตาส่องกล้อง
?เจออะไรบ้างฮาร์ต?
เสียงถามทำให้หญิงสาวต้องละสายตามามองแล้วยกไหล่ขึ้น วิลเลียม เจสัน ผู้อำนวยการกองพิสูจน์หลักฐานมองรายละเอียดที่เธอจดบนกระดาษ
?ดีเอ็นเอส่วนใหญ่เป็นของคนตายค่ะ ส่วนคราบเลือดก็เป็นของคนตายเช่นกัน? เธอรายงานอย่างหนักใจไม่น้อย พร้อมกับเดินไปยืนข้างศพของประมุขฌอนสัน
?แสดงว่าคนร้ายต้องรู้เรื่องการพิสูจน์หลักฐานเป็นอย่างดี ถึงไม่ทิ้งอะไรไว้เลย? วิลเลียมเดินไปหยุดยืนข้างหญิงสาว ตามองรอยมีดบนร่างกายของผู้ตาย
?น่าแปลกนะคะหัวหน้า คุณมาร์เทอร์สันเป็นเพียงคนแก่พิการคนหนึ่งไม่มีพิษสงอะไร ทำไมต้องฆ่าเขาด้วย?
?เท่าที่ผมไปประชุมมาตำรวจตั้งไว้สามประเด็น ฆ่าเพราะแค้นส่วนตัว ฆ่าเพื่อหวังอะไรบางอย่าง และฆ่าเพราะผลประโยชน์ภายในของฌอนสันกรุ๊ป?
?พี่น้องแย่งเค้กกันเหรอคะ? นาฏลดาเอ่ยถามพลางคิดไปถึงเจ้าของเสียงทรงอำนาจและชอบออกคำสั่งอย่างฮอร์ค ฌอนสัน ทายาทคนโตของตระกูลฌอนสัน
?อาจจะใช่หรือไม่ใช่ เพราะฮอร์คไม่ยุ่งกับสมบัติของตระกูลนานแล้ว เฉพาะส่วนที่แม่เขาทิ้งไว้ให้บวกกับที่ตัวเองทำเพิ่ม ใช้ร้อยชาติก็ไม่หมด
?ว่าได้เหรอคะ ตานั่นน่ะร้ายไม่ใช่เล่น ฮาร์ตเจอมากับตัวเลยล่ะ?
?นั่นล่ะฮอร์ค เจ้าพ่อแห่งลาสเวกัส ผู้เติบโตด้วยมันสมองและสองมือ แต่ถึงร้ายขนาดนั้น สาวๆ เพียบทั้งนางเอกฮอลลีวูด นางแบบ ล่าสุดเหมือนจะมีนางงามด้วยนะ? วิลเลียมเสริมต่อและดูเหมือนจะชื่นชมฮอร์คมากกว่าตำหนิ ทำเอานาฏลดาแอบเบ้ปาก
?ชมอะไรฉันอยู่วะวิล?? เสียงเข้มที่ดังเข้ามาดึงให้นาฏลดาและวิลเลียมหันไปมอง เมื่อเห็นคนมาใหม่วิลเลียมก็ยิ้มกว้าง รีบเดินเข้าไปจับมือ
?เฮ้?สวัสดีเพื่อน? วิลเลียมทักทายเพื่อนรักสมัยมหาวิทยาลัยอย่างคุ้นเคย จนนาฏลดาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหัวหน้าเธอถึงได้ชื่นชมเขานัก
?ฉันอยากรู้เรื่องคดี? ฮอร์คเดินไปหยุดข้างเตียงที่มีร่างของคนเป็นปู่ แววตาคมกริบใต้แว่นกันแดดอันใหญ่ที่ไม่มีใครล่วงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรแข็งกร้าวและแดงก่ำด้วยความคั่งแค้นคนที่ทำกับครอบครัว
?ถ้าเรื่องหลักฐานทางนิติต้องถามคนนี้? วิลเลียมบอกพลางผายมือไปที่นาฏลดา ?นาฏลดา สแกนเนอร์ หรือฮาร์ต เจ้าของคดี?
?สวัสดีค่ะ? เธอยื่นมือไปจับตามมารยาท
ฮอร์คมองดวงหน้าหมดจดภายใต้ผมยาวสลวยแล้วปล่อยมือจากมือบาง แต่ทว่าความนุ่มของฝ่ามือเธอยังติดที่ฝ่ามือจนเขาต้องกำมือตัวเองเอาไว้
?คิดว่าคุณคงเก่งพอที่จะหาหลักฐานมามัดตัวคนร้ายนะ? น้ำเสียงเขาเหมือนจะเยาะมากกว่าต้องการคำตอบ นาฏลดาโมโหจนอยากตะบันหน้าคนถามสักหมัด
?ผมจะไปรอที่ห้องวิลเลียม คุณเตรียมข้อมูลให้พร้อมนะ ผมให้เวลาห้านาที? เขาสั่งราวกับเป็นหัวหน้าเธอเสียเอง เมื่อรู้ตัวว่าทำเกินกว่าหน้าที่ทายาทผู้ตาย ฮอร์คก็ยกมือให้เพื่อนอย่างขอลุแก่โทษ วิลเลียมไหวไหล่แล้วเดินนำไปที่ห้องรับรอง
นาฏลดาใช้เวลาเตรียมเอกสารลวกๆ เมื่อครบกำหนดเวลาหญิงสาวก็หอบแฟ้มเข้ามาในห้อง ดวงหน้านวลเนียนเปลี่ยนเป็นแดงก่ำเพราะเร่งรีบหอบเอกสารมา เธอส่งแฟ้มรายงานให้วิลเลียมและฮอร์คก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับชายหนุ่ม
?ในรายงานจะบอกชนิดของมีด ความลึกของบาดแผลซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต รวมไปถึงดีเอ็นเอที่ตรวจพบ ส่วนมือมีดไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย?
สิ้นเสียงหวานของนาฏลดา แฟ้มในมือฮอร์คก็กระแทกกับโต๊ะ ชายหนุ่มหยิบแว่นกันแดดออกจากสันจมูกโด่ง หญิงสาวเห็นเขาเต็มตาก็นิ่งไปชั่วขณะ?เขาหล่อมาก หล่อเข้มราวกับพระเอกหนังฮอลลีวูด
?ผมไม่ต้องการหลักฐานอนุบาลแบบนี้ หลักฐานที่จะสาวถึงตัวคนร้ายคืออะไร ทำไมไม่มีในรายงาน? เสียงเข้มแข็งกร้าวพอๆ กับดวงตาคม
?ฉันรู้ และเราก็พยายามกันอย่างเต็มที่ คุณต้องให้เวลาทางเราด้วย? นาฏลดาพยายามอธิบายอย่างใจเย็น แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะเย็นไม่ได้แล้ว
?ถ้าเป็นญาติคุณจะพูดแบบนี้ไหม?? เขาหยุดพูด ตาชำเลืองมองป้ายชื่อ ?นาฏลดา?? แววตาเขาแข็งกร้าว
วิลเลียมเห็นอารมณ์ของเพื่อนรักก็รู้แล้วว่าทอร์นาโดกำลังก่อตัว
?บังเอิญฉันไม่มีญาติค่ะ? เธอย้อนจนเขาอึ้ง ดวงตาคมกริบแทบลุกเป็นไฟ วิลเลียมเห็นเหตุการณ์ทำท่าจะบานปลายก็ขัดจังหวะขึ้น
?เอาล่ะครับ ผมว่าเรามาหารือกันอย่างสงบดีกว่านะครับ?
ฮอร์คและนาฏลดาถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะกระแทกกายพิงกับพนักเก้าอี้ วิลเลียมมองคนนั้นคนนี้อย่างอ่อนใจ เพราะลูกน้องเขาก็ใช่จะยอมอ่อนข้อให้ง่ายๆ
?พรุ่งนี้ตำรวจจะสรุปให้นายฟังอีกรอบ ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ฉันจะส่งรายงานไปที่เอฟบีไอให้เร็วที่สุดนะ แต่ถ้านายอยากทราบผลก็ติดต่อทางฮาร์ตโดยตรงได้เลย? วิลเลียมบอกอย่างเป็นงานเป็นการ นาฏลดาหน้าเหลอชี้เข้าหาตัว วิลเลียมพยักหน้าขึ้นลง ทำให้เธอต้องเบ้ปากอย่างไม่เกรงใจฮอร์ค
?ฉันอยากได้เจ้าหน้าที่มืออาชีพทำงานนี้ เด็กมือใหม่กลัวจะคว้าน้ำเหลว? ฮอร์คขอเปลี่ยนตัวซึ่งๆ หน้าจนนาฏลดาหน้าตึงและขยับจะโต้ตอบ แต่ถูกวิลเลียมปรามด้วยสายตา
?ฮาร์ตคือมือหนึ่งของเรา นายสบายใจได้?
?เพื่อความสบายใจ ถ้าคุณฮอร์คจะเปลี่ยนก็ตามใจเถอะค่ะ? เธอสบตาคมอย่างไม่ยอมแพ้ ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มอย่างเย้ยหยันอยู่ในที
?ถ้านายยืนยันก็โอเค แต่เร่งให้หน่อยก็แล้วกัน ฉันจะได้ล่าฆาตกรไม่ผิดตัว? ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนแล้วมองนาฬิกาข้อมือที่มีเพียงเจ็ดเรือนในโลก ?เลิกงานแล้วไปหาอะไรดื่มแก้เครียดดีกว่า ฉันเลี้ยงเอง?
?เสียใจว่ะเพื่อน วันนี้ฉันมีนัดกับหวานใจแล้ว ชวนฮาร์ตไปเป็นเพื่อนสิ เผื่อจะได้คุยกันเรื่องงานไปด้วย? วิลเลียมชี้นำเพื่อนรัก ทำเอานาฏลดาต้องรีบปฏิเสธ
?ฉันก็มีนัดแล้วค่ะ?
?ลูกน้องนายคงกลัว เลยไม่กล้าไป? ฮอร์คเอ่ยขึ้นมาลอยๆ และมองเธอเหยียดๆ นาฏลดาไม่ใช่คนที่ใครจะมาดูถูกง่ายๆ ทำให้หลงกลเขาทันที
?ทำไมฉันต้องกลัวคุณด้วย ถ้าคุณเป็นเจ้าพ่อ ฉันก็เจ้าแม่ล่ะ? คนตัวเล็กคุยโว เพราะสมัยอยู่บ้านเด็กกำพร้าเธอก็เป็นหัวหน้าแก๊ง ฮอร์คกระตุกยิ้มแล้วเดินออกจากห้อง นาฏลดาถอนหายใจแรงๆ ถอดเสื้อกาวน์พาดกับพนักเก้าอี้แล้วเดินตามเขาออกไปและมาทันเขาที่ประตูทางออก
?ฉันจะขับรถไปเอง ร้านไหนคะ?
เขาหยุดกะทันหันและหันกลับมา ทำให้เธอเบรกตัวเองไม่ทันจนใบหน้าชนกับอกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แรงปะทะทำให้เธอเซเหมือนจะล้ม มือใหญ่คว้าเอวคอดไว้และรั้งเข้าหาตัว
?ซุ่มซ่าม??
นั่นปะไร นายจอมดุบ้าอำนาจตอกกลับแบบไม่ไว้หน้าจริงๆ เธอหน้าตึงเบี่ยงตัวออกจากวงแขนแกร่ง แต่ดูเหมือนคนต่อว่าจะไม่ยอมปล่อย เคลื่อนมือลงไปจับมือเธอพาเดินไปที่รถ
?เอ๊ะ?คุณ ฉันบอกจะขับรถไปเองนะ?
?กุญแจ? เขาหยุดเดินแล้วแบมือไปขอกุญแจรถ นาฏลดาลังเลเพราะไม่อยากไปกับเขา
ชายหนุ่มออกอาการหงุดหงิด กระชากกระเป๋าไปควานหากุญแจเสียเอง
?เฮ้ยคุณ เอามานะ? เธอเข้าไปแย่งกระเป๋าคืนแต่ไม่กล้าดึงแรงเพราะกลัวขาด ยิ่งเป็นกระเป๋าใบโปรดด้วย เมื่อได้กุญแจฮอร์คก็โยนให้ลูกน้อง
?จัดการด้วย? สั่งเสร็จเขาก็พาเธอไปที่รถ และจับเธอไปนั่งเบาะหลังก่อนจะตามเข้าไป ?แค่นี้ก็จบ? เขาส่งกระเป๋าคืนให้เธอรับมากอดแนบอก ใบหน้างอง้ำอย่างไม่พอใจ
?คุณอยากรู้อะไรเกี่ยวกับคดีก็ถามมาสิคะ ถ้าตอบได้ฉันก็จะตอบ ถ้าเป็นหลักฐานสำคัญฉันก็คงตอบไม่ได้? เธอคุยกับเขาเป็นงานเป็นการมากขึ้น ร่างสูงใหญ่ขยับแล้วถอดเสื้อสูทตัวนอกออก นาฏลดาขยับออกห่างทันที
?คุณมีคำตอบให้ผมหรือไง? เขาชำเลืองมองด้วยสีหน้าเรียบเฉยขณะพับแขนเสื้อเชิ้ตถึงข้อศอก ดวงตาคมโตมองลำแขนสีน้ำตาลแข็งแรงอย่างหวั่นๆ
?ถามมาสิคะ??
?บอกมาดีกว่า แต่ข้อมูลอนุบาลเมื่อกี้ไม่ต้องนะ? เขาดักคอ
?เคยมีใครบอกไหมว่าคุณน่ะ นิสัยไม่ดี?
ฮอร์คหัวเราะหึๆ ในลำคอ ดวงตาสีน้ำตาลทองหรี่มองเธอ ใบหน้าคมเข้มตึงขึ้นมาจนเธอใจไม่ดี ผู้ชายคนนี้เวลาโกรธอันตรายที่สุด
?ไม่มี โดยเฉพาะผู้หญิงยิ่งไม่เคย? เขาบอกสั้นๆ แววตาไหวระริกยามพูดถึงอิสตรี
นาฏลดาอยากตวัดค้อนให้นักแต่ไม่กล้าทำเดี๋ยวจะหาว่าเธองอนเพราะหึง
?เฮ้อ?ฉันเหนื่อยจะพูดกับคุณแล้ว? เธอหันออกไปมองนอกตัวรถ เสี้ยววินาทีต่อมาเธอก็ต้องกรี๊ดลั่นรถเมื่อร่างลอยหวือขึ้นไปนั่งบนตักเขา
?กรี๊ดดด??
เสียงร้องของเธอทำเอาบอดี้การ์ดที่นั่งอยู่ในส่วนห้องคนขับต้องเลื่อนบานกั้นออก แต่พอเห็นสายตาเขียวปัดของเจ้านายก็ปิดแทบไม่ทัน
?ถ้าเหนื่อยก็หยุดทำงานแล้วมาทำกับผมสิ ผมมีงานสบายๆ เงินดีให้ทำ? เสียงเขาดังอยู่ข้างแก้มพร้อมกับลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดลงมา
?งานอะไร?
?ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเพื่อนกินข้าว มาหาเวลาผมต้องการเพื่อนเท่านั้นเอง?
นาฏลดาหัวใจแทบหยุดเต้น ดิ้นรนลงจากตักเขา แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งออกแรงดิ้นปลายประสาทกลางตัวของเขายิ่งตื่นพึ่บ จนกระทั่งเธอรับรู้ถึงรอยนูนเป็นสันที่ขยายราวกับถูกเป่าลมใส่ดันแก้มก้นนั่นแหละถึงหยุด
?ไอ้คนทุเรศ นิสัยเสียแล้วยังปากเสียอีก เห็นผู้หญิงง่ายไปหมดทุกคนหรือยังไง ฉันไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีกับเงินสกปรกของคุณหรอกนะ ปล่อย? เธอต่อว่าหน้าแดงหน้าก่ำด้วยความโกรธ
?จุ๊?จุ๊ ผมอยากได้อะไรก็ต้องได้ด้วยสิ? เขาทำเสียงยั่วประสาท รับรู้ความนุ่มหยุ่นหอมกรุ่นของร่างงาม ดวงตาคมมองผิวแก้มใสราวกับแก้มเด็กแล้วฝังจมูกลงไปพิสูจน์ความหอม
?อ๊าย?ปล่อยนะ ปล่อย? เธอร้องลั่นรถ ดิ้นรนสุดแรงพอดีกับที่รถวิ่งมาจอดข้างฟุตปาธหน้าห้องอาหาร ฮอร์คจึงคลายอ้อมแรงออก เธอรีบลงจากตัก พอเสียงประตูปลดล็อกมือบางก็รีบเปิดประตูออกและก้าวลงไปอย่างรวดเร็วจนฮอร์คคว้ามือไม่ทัน พอการ์ดเข้ามาขวางเธอก็ตะโกนดังลั่น
?ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! พวกเขาจะทำร้ายฉัน?
ผู้คนที่เดินสวนไปมาต่างกรูกันเข้ามาหา ฮอร์คก้าวลงจากรถแล้วส่งสัญญาณให้การ์ดถอยออกมา นาฏลดาเห็นจึงวิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่ที่มาส่งผู้โดยสารพอดิบพอดี ดวงตาคมกริบมองท้ายรถแท็กซี่จนกระทั่งหายไปจากรัศมีสายตา
?แล้วเราจะได้เห็นดีกันนาฏลดา?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงลอนดอน
ตอนเก้าโมงเช้า กลุ่มชายฉกรรจ์สวมสูทสีดำสี่คนเดินขนาบข้างและหน้าหลังร่างสูงสง่าที่โดดเด่นอยู่ตรงกลาง จนทุกสายตาในห้องโถงหันไปมอง แต่กลุ่มคนมาใหม่ก็ไม่สนใจใครเดินตรงไปที่ลิฟต์ เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกชายฉกรรจ์ก็เปิดทางให้ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไป
นาฏลดาถือตะกร้าผลไม้เดินแกมวิ่งไปที่ลิฟต์ แต่ก็ไปไม่ทันเพราะประตูลิฟต์ปิดเสียก่อน
?บ้าจริง?? หญิงสาวบ่นอุบ ปลายนิ้วกดปุ่มถี่ๆ ไม่ถึงเสี้ยวนาทีประตูที่ปิดเมื่อสักครู่ก็เปิดออก หญิงสาวยิ้มด้วยความดีใจที่ไม่ต้องยืนรอ แต่พอจะก้าวเข้าไปเท้าก็ต้องชะงักเมื่อรับรู้รังสีร้อนแรงบางอย่างที่เธอแยกไม่ออกว่าเป็นรังสีอำมหิตหรือรังสีของอารมณ์โกรธแค้นกันแน่ นาฏลดาลังเล ตาคมโตมองชายฉกรรจ์สวมสูทดำแล้วมาหยุดสายตาที่ใบหน้าคมเข้มที่มีแว่นกันแดดปิดบังสายตา กระนั้นเธอก็ยังรู้สึกได้ว่าเจ้าของรูปร่างสูงใหญ่กำลังจ้องมองอยู่
?เข้ามาสินาฏลดา? เสียงทรงอำนาจทำให้เธอขยับห่าง และส่ายหน้าไปมาจนผมยาวสลวยเคลื่อนไหวเป็นลูกคลื่น
?ฉันรอลิฟต์ตัวอื่นดีกว่าค่ะ? เท้าเรียวถอยห่างออกมาอีกนิด แล้วสายตาคมโตก็เห็นริมฝีปากหยักขึ้นเล็กน้อย กดลึกที่มุมปากคล้ายจะเยาะ ทำให้เธอหน้าตึงขึ้น ประตูลิฟต์ปิดลงและพอดีกับที่ประตูลิฟต์ตัวข้างๆ เปิดออก นาฏลดาจึงเดินเข้าไปแล้วกดปิดทันที
?จะให้ตามไปเอาตัวมาไหมครับ? การ์ดคนสนิทถามอย่างรู้ใจเจ้านาย
?ไม่ต้อง แต่อย่าให้เธอออกไปได้จนกว่าฉันจะเสร็จธุระ?
ไม่ถึงห้านาทีนาฏลดาก็มาถึงชั้นที่ต้องการ หญิงสาวออกจากลิฟต์ก็มองหาหมายเลขห้องของคนป่วยที่เธอมาเยี่ยม
?ห้าเจ็ดหนึ่ง? ดวงตาคมโตยิ้มออกมาด้วยความยินดีแล้วเคาะประตูเบาๆ ก่อนจะเปิดเข้าไป เมื่อก้าวเข้าไปเห็นคนในห้อง หญิงสาวก็ชะงักอีกครั้ง เพราะเป็นกลุ่มคนที่เธอเจอในลิฟต์เมื่อสักครู่ ครั้นจะเลี่ยงหลบออกไปผู้กองสตีฟที่คุ้นเคยกับเธอเป็นอย่างดีก็เอ่ยทักทายเสียก่อน
?สวัสดีฮาร์ต?
?สวัสดีค่ะผู้กอง ฉันมาเยี่ยมวันหลังดีกว่า? หญิงสาวมองเจ้าของใบหน้าคมและรูปร่างสูงใหญ่น่าเกรงขามที่มองมาที่เธอ ก่อนจะหมุนตัวกลับออกไปจากห้อง แต่เดินไปไม่กี่ก้าวสตีฟก็คว้าตะกร้าผลไม้ไว้
?อย่าเพิ่งไปสิฮาร์ต ป้าแกยังไม่ฟื้น แต่หมอบอกว่าอีกสักพักก็น่าจะฟื้นแล้ว? สตีฟยื่นตะกร้าผลไม้ส่งให้ชายฉกรรจ์คนหนึ่งแล้วพาเธอมาหยุดตรงหน้าร่างสูง เมื่อมายืนใกล้ๆ ตัวเธอเล็กไปถนัดตาจนต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา
?ฮาร์ต...นี่ฮอร์ค ฌอนสัน ทายาทคนโตของตระกูล? สตีฟเป็นคนเปิดการสนทนา ?ฮอร์ค นี่คุณนาฏลดา สแกนเนอร์ หรือคุณฮาร์ต?
?เรารู้จักกันแล้ว และกำลังจะ?? เขาหยุดพูดเพื่อดูท่าทีเธอ
นาฏลดากำลังจะยื่นมือไปจับทักทายเขาตามมารยาทอยู่แล้วเชียว พอได้ยินประโยคที่หลุดออกจากปากเขาเท่านั้นแหละ มือบางก็ทิ้งลงข้างตัวทันที
?กำลังจะสรุปคดี? เธอรีบตอบให้จบประโยคเสียก่อนที่เขาจะพูดให้อาย
?ผมก็หวังอย่างนั้น และหวังว่าวันนี้คุณคงมีคำตอบให้ผมแล้วสินะว่าเก็บหลักฐานอะไรได้บ้าง? น้ำเสียงออกเย้ยหยันมากกว่าการเจรจาปกติ ทำเอานาฏลดากรุ่นๆ ในใจ
?เราพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับคุณ?
?ผมไม่ต้องการฟังคำตอบที่มีแต่น้ำและหลักฐานไร้สาระ? เสียงเข้มเต็มไปด้วยการเหยียดหยันของเขา ทำให้นาฏลดาต้องกำมือแน่นเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเอง ถ้าพูดต่อเธอต้องฉะนายคนนี้ให้กระเจิงเป็นแน่
สตีฟถอนหายใจยาวเหยียดกับคู่ชกนอกเวที คนหนึ่งก็เพื่อนรัก อีกคนก็คือหญิงที่แอบชอบ แต่โชคดีที่มีเสียงสวรรค์ดังขึ้นเสียงก่อน
?คนไข้รู้สึกตัวแล้วครับบอส? บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ใกล้เตียงบอกอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นคนไข้ลืมตาขึ้น ฮอร์คและสตีฟรีบไปยืนข้างเตียง
?ป้าเอ็มม่า? ฮอร์คถอดแว่นกันแดดออกจากใบหน้าแล้วจับมือย่นบีบเบาๆ เอ็มม่าเห็นทายาทคนโตของตระกูลถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจ
?คุณใหญ่ของป้า คุณท่าน ฮือ?ฮือ?ฮือ? ป้าเอ็มม่าพูดเพียงเท่านั้นก็ร้องไห้ บีบมือหนาของฮอร์ค ?มันโหดร้ายมากค่ะคุณใหญ่ มันฆ่าคุณท่าน? เอ็มม่าตัวสั่นเทาด้วยความกลัว ภาพเลวร้ายยังฝังอยู่ในหัว ท่าทีหวาดกลัวของแม่บ้านเก่าแก่ทำให้ใบหน้าคมเครียดขึ้น
?ป้าเห็นหน้าคนร้ายไหมครับ? ฮอร์คถามและลุ้นกับคำตอบที่จะได้รับ เอ็มม่าหยุดคิดและถอนใจแรงๆ อย่างอ่อนล้า
?ป้าไม่เห็นค่ะ เพราะมันใส่หมวกคลุมหน้า มันโหดร้ายมากนะคะคุณใหญ่ มันฆ่าคุณท่าน! มันฆ่าคุณท่าน!? เอ็มม่าเอ่ยคำซ้ำๆ อย่างน่าสงสาร นาฏลดาขยับไปยืนปลายเตียงเพื่อดูคนเจ็บใกล้ๆ ทำให้เอ็มม่ามองเธอนิ่งนาน
?ในห้องนอนวันเกิดเหตุมีกี่คนครับ? สตีฟเริ่มสอบปากคำ โดยทำให้เหมือนการสนทนาปกติ เอ็มม่ายังคงมองไปที่ปลายเตียง
?สี่คนค่ะ?
?มีคุณปู่ คนร้าย ป้าเอ็มม่า แล้วมีใครอีกครับ? ฮอร์คเอ่ยถามต่อและรับรู้ได้ถึงอาการเกร็งของคนสูงวัย
นาฏลดามองใบหน้าซีดขาวของคนไข้อย่างหวั่นๆ
?คุณคนนั้นค่ะ? เอ็มม่ายกมือข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือชี้ไปที่หญิงสาว ทุกสายตาจึงมองตาม ร่างบอบบางขยับห่างจากเตียง ตาคมโตมองฮอร์คและสตีฟพร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธ ?เธอเป็นคนร้องห้ามคนร้ายที่จะเข้ามาทำร้ายป้า หลังจากนั้นป้าก็ไม่รู้สึกตัว?
?ฮาร์ตอยู่ในเหตุการณ์ได้ยังไง? สตีฟถามอย่างสงสัยระคนแปลกใจ เพราะเขาไปถึงที่นั่นก่อนใคร และไม่เห็นเธออยู่ที่นั่นด้วยซ้ำ
?เอ่อ?คือ? นาฏลดาติดอ่าง สรรหาคำอธิบายไม่ได้ จะมีใครเชื่อกันว่าเธอไปอยู่ที่นั่นเพราะความฝัน เมื่อเธอไม่แก้ตัว ฮอร์คก็กัดกรามแน่นด้วยความโมโหเมื่อรู้ว่าเธออยู่ในที่เกิดเหตุตั้งแต่แรก
?จับเธอสตีฟ ผู้หญิงคนนี้อาจมีส่วนรู้เห็นในการตายของปู่ฉัน? เขาตวัดสายตาไปมองหน้าซีดๆ สตีฟยังลังเล ฮอร์คจึงเดินไปกระชากแขนเธอก่อนดึงมาปะทะอก ?คุณเข้าไปในห้องปู่ผมทำไม?
?ฉันฝัน?? เธอบอกสั้นๆ แต่ฮอร์คไม่คิดจะเชื่อ
?หึ! ฝันเหรอ ฝันถูกที่ถูกเวลาจริงๆ? เขากดเสียงต่ำ ออกแรงบีบต้นแขนกลมกลึงจนเธอคิดว่ากระดูกต้องหักแล้วแน่ๆ หญิงสาวแกะมือเขาออก น้ำตาคลอเพราะความเจ็บ
?ใจเย็นๆ ก่อนฮอร์ค? สตีฟบอก สีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างจากเพื่อน เมื่อเอ็มม่ายืนยันว่าเห็นนาฏลดาอยู่ในที่เกิดเหตุ นั่นเท่ากับว่าเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยเช่นกัน
?ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ทำร้ายคุณท่านนะคะคุณใหญ่ เธอพยายามช่วยค่ะ แต่?? เอ็มม่ากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
?ถึงยังงั้นก็เถอะป้า ยังไงเธอก็อยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัย เพราะไม่มีใครเข้าออกห้องนั้นได้ถ้าไม่รู้รหัสผ่าน?
?แต่คนร้ายก็รู้ บางทีอาจจะเป็นคนในบ้านที่ทำร้ายคุณปู่คุณ? นาฏลดาเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอ เธอพยายามแกะมือเขาออกแต่ไม่สำเร็จ
?อย่าเบี่ยงเบนประเด็น เพราะป้าเอ็มม่ายืนยันชัดเจนว่าคุณอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย?
?เรื่องนี้ฉันจะสอบสวนเองนะฮอร์ค ปล่อยฮาร์ตเถอะ? สตีฟบอกเมื่อเห็นต้นแขนขาวแดงเป็นรอยนิ้วมือ ฮอร์คไม่คิดจะทำตาม แต่มองหน้าคมสวยอย่างดุดัน นาฏลดาเพิ่งสังเกตเห็นว่านัยน์ตาเขาเป็นสีน้ำตาลทอง นัยน์ตาสีเดียวกับคนร้าย?
?ฉันจะสอบสวนเธอเอง นายก็ไปหาหลักฐานของนาย ส่วนผู้หญิงคนนี้ฉันจัดการเอง?



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นาฏลดา สแกนเนอร์ เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์สาวถูกเจ้าพ่อบ่อนคาสิโนอย่าง ฮอร์ค ฌอนสัน ผู้เป็นแกะดำของตระกูลเก็บตัวเธอไว้ข้างกายไม่ยอมห่าง เพราะคิดว่าหญิงสาวอาจเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมปู่ของเขา ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอแค่เก็บและพิสูจน์หลักฐานตามหน้าที่ แต่พยานปากสำคัญดันบอกว่าเห็นเธออยู่ในที่เกิดเหตุคืนนั้น กระบวนการค้นตัวผู้ต้องหาตามแบบฉบับของเจ้าพ่อหนุ่มจึงเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่วิธีการที่เจ้าหน้าที่ทั่วไปพึงกระทำ หากทว่าเป็นการค้นตัวแบบถึงเนื้อถึงตัวจริงๆ จนหัวใจหญิงสาวเต้นสะท้าน

?ฮอร์คคะ เข้าใจฉันบ้างสิ??
?เข้าอย่างอื่นง่ายกว่าที่รัก?
เขาบอกเสียงแหบพร่า ก่อนจะแนบริมฝีปากลงมาทาบทับ
และจูบซับเรียกร้องเอากับเธอจนหัวหมุน คิดหาคำโต้ตอบกับเขาไม่ได้


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”