ผมรู้สึกสงสัยกับคำที่ว่า ?งานเทศกาลหลัง? ซึ่งหมายความว่า สายเกินไป มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็ก ก็ถ้าจะหมายถึงไม่ทันฤดูกาลหรือพลาดโอกาสแล้ว มันน่าจะใช้คำว่า ?หลังงานเทศกาล? ไม่ใช่รึไงกัน เพราะถ้าใช้คำว่างานเทศกาลหลัง จะมีความหมายกลายๆ ว่ามีงานเทศกาลอีกหนึ่งงานหลังจากจบงานหนึ่งไปแล้ว เพราะฉะนั้นคำนี้มันแปลกๆ ไม่ใช่รึไงกัน
....แต่มันไม่ได้แปลก ความหมายของคำนั้นมันถูกต้องแล้ว ช่างน่าอายเสียนี่กระไรที่ผมไม่รู้ข้อเท็จจริงนั้นเลยจนกระทั่งเข้าโรงเรียนฮาขุจุได
ในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาสีซึ่งมีสายลมยามค่ำอันร้อนชื้นคอยพัดเป่าความร้อนแรงของการแข่งขันที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ เท็นโนจิ โคเท็ตสึ ประธานสภานักเรียนก็กล่าวปิดในพิธีว่า
?เทศกาลกิองในเกียวโตนั้นแบ่งออกเป็นสองรอบ โดยรอบแรกจะเป็น ?เทศกาลก่อน? ซึ่งมีความครึกครื้น มีรถตกแต่งประดับขบวนมากมายหลายคัน ส่วนงาน ?เทศกาลหลัง? เป็นงานที่เรียบง่ายไม่โดดเด่น เพราะอย่างนั้นถึงจะไปดูก็สายเกินไป ทำอะไรไม่ได้....เราก็เลยใช้คำว่า ?เทศกาลหลัง? ในความหมายนี้ยังไงล่ะ?
ประธานเว้นช่วงคำพูด แล้วกวาดตามองนักเรียนทุกคนที่อยู่กันเต็มอารีน่า ความมืดยามพลบค่ำเข้าปกคลุมร่างกายที่อ่อนล้าอิดโรยให้รู้สึกดี
?ดังนั้นในตอนนี้ที่เพิ่งจะแข่งกีฬาสีจบไป อาจจะมีบางคนในพวกเราทั้งหมดยังคงรู้สึกเสียใจอยู่ ว่าน่าจะวิ่งให้มากกว่านี้ น่าจะชนะให้มากกว่านี้ น่าจะบุกให้มากกว่านี้ น่าจะไฟแรงให้มากกว่านี้....ทั้งหมดนั่นคือเทศกาลหลังยังไงล่ะ?
ผมใช้มือแตะบริเวณต้นคอและต้นแขนที่เป็นรอยถลอกจนปวดแสบปวดร้อนซึ่งได้รับมาจากการแข่งขี่ม้าชิงเมือง และตรวจสอบความร้อนผ่าวของร่างกายที่ค่อยๆ เย็นลง คิริกะที่นั่งอยู่ด้านขวาของผมยังคงไม่หยุดหอบ
?แต่ถึงไม่บอกทุกคนก็คงจะรู้กันอยู่แล้วว่ามันไม่เหมือนกับเทศกาลกิอง งานเทศกาลหลังของฮาขุจุไดนั้น....นักเรียนทุกคนจะช่วยกันสร้างให้ครึกครื้นยิ่งกว่างานกีฬาสีเสียอีก?
ทั้งที่ประธานไม่ได้เร่งเสียงให้ดังขึ้นเลยแม้แต่น้อย แต่คำพูดนั้นกลับกลายเป็นดอกไม้ไฟกระจายลุกโชนไปทั่ว เสียงกู่ร้องดังก้องมาจากหลายพันที่นั่งในอารีน่า
สัญลักษณ์ของ ?งานเทศกาลหลัง? ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือของผม....คันบายาชิ คาโอรุ ประธานคณะกรรมการดำเนินการงานวัฒนธรรมแก้มแดงระเรื่อด้วยความตื่นเต้นแล้วกำมือแน่น
*
?ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะฮะ??
ในเช้าวันต่อมา คาโอรุคุงซื้ออาหารเช้ามาให้แล้วพูดด้วยหน้าตาเป็นประกาย
?ตอนงานกีฬาสี ทั้งทุกคนในฝ่ายงานธุรการ ทั้งพวกคุณทาคิซาวะในคณะกรรมการดำเนินงานนี่สุดยอดเลยฮะ ต่อไปก็เป็นตาของผมแล้ว ตื่นเต้นจังเลยฮะ?
คาโอรุคุง เพื่อนร่วมห้องของผมเป็นนักเรียนฝ่ายมัธยมต้นปีหนึ่ง ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็กหุ่นเพรียวบางเลยชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิงอยู่บ่อยครั้งและทำให้ดูไม่มีความเป็นผู้นำ แต่ทว่า....
?ได้ยินมาจากท่านพี่คิริกะล่ะฮะ ว่าผลกำไร-ขาดทุนของงานกีฬาสีในปีนี้ สุดท้ายแล้วมีกำไรประมาณหนึ่งล้านเยนเลยฮะ! นี่ขนาดหักลบกับหนี้คงค้างสะสมไปแล้วแท้ๆ เพราะอย่างนั้นกำไรที่ได้มาจริงๆ มันต้องมากกว่านั้นอีกสินะฮะ สุดยอดไปเลยฮะ งานวัฒนธรรมเองก็จะไม่ยอมน้อยหน้า จะต้องทำกำไรให้ได้ยี่สิบล้านเยนเลยฮะ!?
ในความเป็นจริงเขาเป็นคนที่มีสปิริตของนักเรียนฮาขุจุไดอย่างแรงกล้า อีกนัยหนึ่งก็คือเป็นคนที่กระตือรือร้นเรื่องเงินเป็นอย่างมาก แถมยังมีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำในโครงสร้างองค์กรได้อย่างสง่าผ่าเผย สามารถพูดเรื่องแรงๆ ออกมาได้หน้าตาเฉย
?หลังจากที่ชนะในงานกีฬาสีมาได้ ก็ทำให้เกิดบรรยากาศที่จะแข็งข้อกับพวกอาจารย์ได้ เพราะอย่างนั้นจะลุยโจมตีจุดอ่อนแล้วเจรจาต่อรองทำเรื่องอยู่เตรียมงานในโรงเรียนจนดึกดื่นให้ได้ฮะ?
หนึ่งเดือนก่อนหน้าที่จะมีงานวัฒนธรรม นักเรียนทุกคนต่างก็อยากอยู่เตรียมงานหลังเลิกเรียนจนถึงค่ำ แต่จะขัดแย้งกับความคิดของพวกอาจารย์ที่อยากให้นักเรียนกลับบ้านกันเร็วๆ ในปัจจุบันเวลาที่ตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่ายคือหนึ่งทุ่มตรง ซึ่งสุดท้ายแล้วคาโอรุคุงตั้งใจที่จะให้พวกอาจารย์ยอมให้ทำงานต่อจนถึงสามทุ่ม
?โจมตีจุดอ่อนที่ว่า....?
?ก็ตอนแข่งขี่ม้าชิงเมือง ทางฝ่ายนั้นใช้เล่ห์เหลี่ยมเพทุบายยังไงล่ะฮะ เลยจะเอาเรื่องนั้นมาเป็นไพ่ในมือ คอยกดดันอยู่เรื่อยๆ ไม่ยอมเลิกจนกว่าทางนั้นจะยอมยังไงล่ะฮะ!?
ผมล่ะอยากให้คาโอรุคุงเลิกพูดเรื่องน่ารังเกียจแบบนั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส น่ารักน่าเอ็นดูจนราวกับเพิ่งจะมีดอกคอสมอสพัดผ่านไป
?ไม่นะ คือว่าคนที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมคืออาจารย์พลศึกษา แต่อาจารย์คนอื่นๆ ไม่ได้มีจุดอ่อนนี่??
?พวกอาจารย์คนอื่นๆ ก็ติดหนี้บุญคุณที่สภานักเรียนเป็นคนทำให้แข่งกีฬาสีชนะฮะ?
?เรื่องนั้นจะถือเป็นหนี้บุญคุณได้เหรอ?
แรกเริ่มเดิมทีก็ดูเหมือนว่าอาจารย์คนอื่นๆ นอกเหนือจากภาควิชาพลศึกษาจะไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันอะไรอยู่แล้วด้วย
?การทำให้เรื่องที่ไม่ใช่หนี้บุญคุณให้กลายเป็นหนี้บุญคุณได้ นั่นคือความสามารถที่ผู้จะยืนอยู่เหนือคนอื่นได้ต้องมีฮะ ท่านพี่โคเท็ตสึเคยพูดเอาไว้?
อยากให้ช่วยสอนแต่เรื่องดีๆ ให้คาโอรุคุงโดยที่ไม่อ้างอิงถึงวิชากษัตริยศาสตร์ที่บิดเบือนแบบนั้น.... เด็กคนนี้จะต้องได้เป็นประธานสภานักเรียนของฮาขุจุไดสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน แล้วคาโอรุคุงก็พูดต่อด้วยใบหน้าที่เจิดจ้ากระทั่งบดบังความวิตกกังวลของผมในเรื่องนั้นไปได้
?ความรู้สึกขอบคุณและความโปรดปรานถือเป็นอาวุธที่มีอานุภาพที่สุดฮะ เวลาที่ถูกสั่งหรือถูกตำหนิติเตียน คนก็จะพากันต่อต้าน แต่ไม่มีใครคนไหนจะปฏิเสธคำว่า ?ขอบคุณ? และ ?ต่อจากนี้ก็อยากให้ตัวเองทำตัวเป็นประโยชน์ได้? หรอกฮะ?
นี่เป็นคำพูดของเด็กอายุสิบสามปีเรอะ
?พูดในแง่ดีนะ ชักเป็นห่วงอนาคตของคาโอรุคุงซะแล้ว....?
?อนาคตผมฝันอยากเป็นเจ้าสาวฮะ?
?จู่ๆ ก็พูดเรื่องอะไรขึ้นมาเนี่ย??
?ท่านพี่โคเท็ตสึเองก็บอกว่าคาโอรุต้องเป็นเจ้าสาวที่ดีได้อย่างแน่นอนฮะ?
?คาโอรุคุงล้างคำพูดของคนคนนั้นออกไปให้หมดจากสมองน่าจะดีกว่านะ?
พอพูดจบดวงตาของคาโอรุคุงก็มีน้ำตารื้นขึ้นมา
?ผม....เป็นไม่ได้เหรอฮะ? เจ้าสาวน่ะ?
?ไม่ได้เด็ดขาด!?
โทนเสียงของผมทำให้คาโอรุคุงทำท่าจะร้องไห้
?อ๊ะ เปล่า คือว่า คาโอรุคุงทั้งฉลาดมีไหวพริบ ทั้งใจดี แถมยังเก่งเรื่องงานบ้านงานเรือนอีก?
ผมปัดมือไปมาโดยที่ไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อดีหรือไม่
?ถ้าอย่างนั้นผมติดปัญหาอะไรเหรอฮะ....?
คาโอรุคุงจับจ้องมาทางผมโดยไม่ละสายตา
?นิสัยเหรอฮะ??
?เพศต่างหากเล่า!?
?คงอย่างนั้น....สินะฮะ....? คาโอรุคุงไหล่ตก
?ละ แล้วก็เรื่องจะเป็นเจ้าสาวอะไรนั่นน่ะ เป็นเรื่องสมัยยังเด็กๆ ใช่มั้ยล่ะ?
ผมรีบพูดต่อเมื่อเห็นท่าทีท้อแท้สิ้นหวัง
?ตอนนี้น่าจะคิดถึงอนาคตตามความเป็นจริงมากขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ??
?ฮะ!? คาโอรุคุงหน้าตาสดใสขึ้นมาในทันที ?ผมน่ะ หลงใหลคนในสภานักเรียนอยู่หลายคนก็จริงอยู่ฮะ แต่หลงใหลคุณมาโอะมากที่สุดฮะ?
?เอ๋ เพราะอย่างนั้นก็เลยอยากเป็นประชาสัมพันธ์สินะ?
คุณอิบุคิ มาโอะ คือประชาสัมพันธ์ของสภานักเรียนคนก่อนที่ลาออกไป ถึงคาโอรุคุงจะเพิ่งได้พูดคุยด้วยเป็นครั้งแรกในช่วงปิดภาคฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าก่อนหน้านั้นจะได้ฟังเรื่องของคุณมาโอะจากประธานและคุณโทคิโกะมาหลายๆ เรื่อง ถึงแม้ว่าจะเป็นคนแปลกมากตามปกติของคนที่เกี่ยวข้องกับสภานักเรียนฮาขุจุได แต่เธอก็เป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ
?อยากจะทำหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบเหมือนคุณมาโอะ แล้วก็ไปเรียนเมืองนอก....?
คาโอรุคุงพูดด้วยน้ำเสียงเคลิบเคลิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ
?หลังจากนั้นก็จะมุ่งมั่นเป็นผู้ประกาศหญิงเหมือนกับคุณมาโอะฮะ?
?ก็บอกว่าไม่ได้ยังไงเล่า ติดที่เรื่องเพศไง?
คาโอรุคุงคอตกอีกครั้งหนึ่ง
?นั่นสินะฮะ ผมคงจะเป็นผู้ประกาศหญิงไม่ได้จริงๆ สินะฮะ เพราะผมไม่มีรูของผู้หญิง ?
?สต๊อป! ห้ามเล่นมุกยิงตรง! คาแรกเตอร์ของคาโอรุคุงไม่ใช่แบบนั้นนี่!?
?แล้วคาแรกเตอร์ผมเป็นแบบไหนเหรอฮะ??
มาถามผมด้วยหน้าตาจริงจังแบบนั้นอีกครั้ง เล่นเอาผมลำบาก
?ก็ คือว่า....?
ผมเลือกใช้คำพูดไม่ถูกเลยหลบตาโดยไม่ทันได้คิด
?สะอาดใสซื่อ....แล้วก็บริสุทธิ์ไร้เดียงสา....?
?เหมือนกับกะเทยแปลงเพศ หมกมุ่นกามตัณหาโดยธรรมชาติ ??
?ไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย! จะจงใจฟังผิดอะไรขนาดนั้นกันเล่า!?
?รุ่นพี่คิดว่าผมเป็นแบบนั้นเองเหรอ....?
?นี่ อย่าพูดเรื่องที่ทำให้คนเสื่อมเสียด้วยน้ำตาคลอเบ้าอย่างนั้นสิ?
?ผมไม่ได้ทำอะไรไปตามธรรมชาติหรอกฮะ ก่อนพูดออกมานี่คำนวณทุกอย่างไว้หมดแล้วฮะ?
?อย่างนั้นเองเหรอ! ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่!?
?แต่สบายใจได้เลยฮะ? คาโอรุคุงแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย ?เพราะผมพูดแบบนี้กับรุ่นพี่แค่คนเดียวเท่านั้นฮะ?
?ขอร้องล่ะนะ....? ผมคอตก ?ช่วยคุยแบบนั้นเฉพาะตอนที่อยู่กันแค่สองคนเท่านั้นนะ ถ้าคนอื่นได้ยินจะพากันลำบากเอา?
?แหม แต่ฉันได้ยินเข้าให้แล้วน่ะสิ?
?ท่านพี่โคเท็ตสึ!?
?ประธาน??
ผมแทบจะกลิ้งตกจากเก้าอี้ พอหันไปมองดูก็เห็นว่าประธานกำลังนั่งอยู่ด้านบนของเตียงสองชั้น ยิ้มกรุ้มกริ่มมองมาทางพวกเรา แถมยังแต่งชุดไปรเวทด้วย ขาเรียวงามในเลกกิ้งสีแดงช่างดูเจิดจ้า
?....ขะ เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ? ผมเผลอพูดเสียงดังโดยไม่รู้ตัว
?ตั้งแต่ที่ฮิคาเงะกำลังพูดเรื่องนับวันปลอดภัยอยู่น่ะ?
?ไม่ได้พูดสักหน่อย!?
?รุ่นพี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะฮะ วันปลอดภัยของผมมีตลอดทั้งปีฮะ?
?รู้อยู่แล้วล่ะน่า! ก็เป็นผู้ชายนี่นา!?
?แต่ คือว่า ประจำเดือนผมไม่มาล่ะฮะ....?
?รู้อยู่แล้วล่ะน่า! ก็เป็นผู้ชายนี่นา!?
?อะไรกัน คุณฮิคาเงะ อย่าคุยเรื่องการวางแผนครอบครัวโดยที่ไม่มีฉันสิคะ!?
?แล้วทำไมรุ่นพี่มิโซโนะถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะครับ??
รุ่นพี่จับผ้าห่มของเตียงชั้นล่างแล้วยกขึ้น ทำให้เห็นผมสีทองเป็นประกายและใบหน้าที่กำลังจะร้องไห้ รุ่นพี่ทาเคะอุจิ มิโซโนะ รองประธานสภานักเรียนนั่นเอง แถมยังใส่ชุดไปรเวทด้วยเช่นกัน เป็นชุดเดรสสีคอสมอสอันสดใสตัดกับสีแพลทินัมบลอนด์
?ก็ตั้งใจจะมาเฝ้าระวังว่าคุณฮิคาเงะกับคุณคาโอรุจะทำเรื่องเลวทรามไร้มารยาทรึเปล่า แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ด้วยค่ะ!?
คนที่ทำอะไรไร้มารยาทคนแรกน่าจะเป็นเธอที่เข้าห้องคนอื่นโดยพลการไม่ใช่รึไง?
?คุณมิโซโนะก็เป็นครอบครัวเดียวกับรุ่นพี่เหรอฮะ ถ้างั้นก็เหมือนกับคนในครอบครัวผมด้วยสิฮะ?
?ค่ะ ใช่แล้วค่ะ เราต้องมาจับเข่าคุยกันให้ดีว่าจะมีสมาชิกใหม่ในครอบครัวเพิ่มขึ้นมั้ย แล้วก็ต้องวัดอุณหภูมิร่างกาย คำนวณการตกไข่ให้ดีด้วย! คุณฮิคาเงะ เอาเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงอย่างละกี่คนดีคะ? คงจะอยากใช้ชีวิตด้วยความครึกครื้นใช่มั้ยคะ??
?ผมอยากอยู่อย่างสงบต่างหากล่ะครับ!? ช่วยออกไปจากห้องผมทีได้มั้ย!
ผมรู้สึกว่าแทนที่จะเล่นถามตอบไปมากับบรรดาสาวๆ ที่ไม่ยอมฟังคำพูดของคนอื่น สู้ตัวเองออกไปจากห้องเองจะเร็วกว่า จึงถือข้าวปั้นซึ่งเป็นอาหารเช้าเดินคอตกด้วยความหดหู่ไปทางประตู แต่ตอนที่กำลังยื่นมือไปจับลูกบิดนั้นเองประตูก็เปิดออกมาเอง
คิริกะซึ่งกอดกระต่ายเอาไว้ที่หน้าอกกำลังยืนอยู่ตรงทางเดิน ริบบิ้นขนาดใหญ่พลิ้วไหวไปมา ดวงตากลมโตเบิกโพลง ส่วนผมข้ามผ่านคำว่าตกใจไปหมดแล้ว ?เฮ้อ ว่าแล้วเชียว....? จึงกลายเป็นความรู้สึกจำนนแทน
?....มีชุดไปรเวทกับเขาด้วยเหรอ??
ขนาดตัวเองยังคิดเลยว่า คำพูดแรกที่หลุดปากออกไปคือคำนี้เหรอ คิริกะหลบตาด้วยความเขินอาย ชุดไปรเวทที่ผมเห็นเธอใส่เป็นครั้งแรกคือชุดเดรสสีขาว มีปกเสื้อขนาดใหญ่ดูคล้ายกับชุดกะลาสี อาจเป็นเพราะไม่มีปลอกแขนสวมอยู่ที่คอเลยทำให้ดูเหมือนกับขาดที่พึ่งทางใจ
?....ก็ฮิคาเงะพยายามจะเข้าไปในห้องเหรัญญิกให้ได้เลยพามาที่นี่?
กระต่ายที่ถูกเรียกชื่อของตนเองเอี้ยวตัวด้วยท่าทางง่วงนอนในอ้อมแขนของคิริกะ
?แล้วทำไมโคเท็ตสึกับมิโซโนะถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
?ผมต่างหากที่อยากเป็นฝ่ายถามเรื่องนั้นน่ะ? ผมหันกลับไปมองทางด้านหลัง
?การที่มารวมตัวกันตั้งแต่เช้าขนาดนี้โดยที่ไม่ได้นัดหมายกันล่วงหน้า แสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของฝ่ายงานธุรการจริงๆ เลยนะ?
ประธานที่ย้ายมานั่งเก้าอี้ข้างๆ คาโอรุคุงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้พูดเช่นนั้นออกมา
?ไหนๆ ก็เป็นวันหยุดทั้งที งั้นออกไปหาอะไรกินข้างนอกพร้อมกับรายงานจุดที่ควรแก้ไขในการแข่งกีฬาสี และรายงานความคืบหน้าของงานวัฒนธรรมกันดีมั้ย?
?เห็นด้วยค่ะ!? รุ่นพี่มิโซโนะชิงตอบเป็นคนแรก
?ขนาดท่านพี่คิริกะก็ยังมาด้วยกันเลย ดีใจจังเลยฮะ!? คาโอรุคุงกระโดดโลดเต้น
?....ก็ได้อยู่หรอก....แต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าจะไม่ลงบัญชีเป็นค่าใช้จ่าย? คิริกะพูดดัก
ใช่แล้ว สาเหตุที่ทั้งสามคนไม่ได้สวมเครื่องแบบก็เพราะว่าวันนี้โรงเรียนหยุด เป็นวันหยุดชดเชยวันแข่งกีฬาสีนั่นเอง ผมตั้งใจจะนอนทั้งวันแท้ๆ เจ้ากระต่ายน้อยที่กระโดดออกมาจากอ้อมกอดของคิริกะพุ่งตรงเข้ามาบริเวณเท้าแล้วเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยสายตาราวกับอยากจะพูดว่า ?นี่ ฉันเองก็คงได้ไปกินข้าวด้วยใช่มั้ย?? เปล่า แกต้องอยู่เฝ้าห้อง
*
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เทศกาลถัดมาของโรงเรียนขนาดยักษ์ใหญ่ซึ่งมีจำนวนนักเรียนมากกว่าแปดพันคนก็คืองานวัฒนธรรม ผู้ที่คึกคักครื้นเครงกับงานอีเวนท์ใหญ่ในพื้นที่ต่างๆ ร่วมกันไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้น? ในบรรดานักเรียนที่อยู่เตรียมงานวัฒนธรรมในอาคารเรียนกันจนดึกดื่นนั้นมีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้างจาก ?เรื่องลึกลับเจ็ดอย่างในโรงเรียน? ซึ่งเป็นปรากฏการณ์พิศวงอันเป็นตำนาน คิริกะจึงต้องออกลุยความมืดมิดของโรงเรียนพร้อมทั้งน้ำตา
แม้แต่วันจัดงานวัฒนธรรมจริงๆ ก็มีปัญหาต่างๆ ถาโถมเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในส่วนชมรมละครเวที มีทั้งจดหมายข่มขู่คุกคามนางเอก และข่าวฉาวของดาราดังอันนำไปสู่วิกฤตต่อการเปิดแสดง อีกทั้งการประกาศผลสุดช็อกในการประกวดมิสฮาขุจุไดอันดุเดือดก็นำไปสู่ความวุ่นวายอลหม่านทั่วโรงเรียน!
ผลงานฉบับที่ 5 ที่เขียนเรื่องราวความรักสนุกสนานและความลึกลับภายในโรงเรียนสุดไฮเปอร์กับสองวันอันร้อนแรงที่สุดในฮาขุจุได
