1
เหนือคลื่นน้ำสีครามกลางมหาสมุทรแอตแลนติก เรือสำราญขนาดยักษ์สีขาวนาม ควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียนซึ่งเป็นเรือสำราญหนึ่งในห้าลำของมิลเลอร์กรุ๊ปที่สร้างด้วยเงินมหาศาลกว่าห้าหมื่นล้านบาท เพื่อเปิดเส้นทางท่องเที่ยวแห่งใหม่ในโลกของธารน้ำแข็งนั่นก็คือ?อลาสก้า
และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียนที่จะได้ลอยลำโชว์ความยิ่งใหญ่และงดงามเป็นวันแรก เจฟมาริด มิลเลอร์วัยห้าสิบปีประธานบริหารมิลเลอร์กรุ๊ป ผู้ได้รับฉายาเจ้าแห่งท้องทะเลแถบเอเชียจึงได้จัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่
ควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียนถูกตกแต่งและประดับประดาด้วยแสงไฟหลากหลายสีสัน โดยเฉพาะห้องโถงใหญ่กลางลำเรือที่ถูกตกแต่งอย่างสวยหรูด้วยคริสตัลแท้ของสวารอฟสกี้ส่องแสงระยิบระยับยามกระทบกับโคมไฟ ทำให้ทั้งห้องเหลืองอร่ามราวอยู่ในวิมาน
แขกวีไอพีทั้งชายและหญิงที่แต่งตัวด้วยสุดราตรีสุดหรูต่างทยอยเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงจนแน่นไปถนัดตา ส่วนเจ้าของงานอย่างเจฟมาริดกำลังยืนต้อนรับแขกคู่กับสาวสวยรูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม พลอยใส มิลเลอร์...บุตรสาวด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แขกในงานต่างมองสองพ่อลูกอย่างชื่นชม แล้วเสียงฮือฮาของนักข่าวก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงกดชัตเตอร์รัวไม่หยุดเมื่อรีสมอน มิลเลอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันผู้มีความสง่าผ่าเผยเดินเข้ามาในงาน
?ขอบคุณท่านมากครับที่ให้เกียรติมาร่วมงาน? เจฟมาริดโค้งคำนับผู้นำประเทศด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นมือไปจับทักทาย
?เยี่ยมมาก ยิ่งใหญ่สมกับเป็นราชินีแห่งแคริบเบียน? รีสมอนตบแผ่นหลังหนาเบาๆ แล้วคลายออก
?ขอบคุณครับ??
?เชิญข้างในดีกว่าค่ะ?? พลอยใสผายมือเชิญประธานาธิบดีและคณะผู้ติดตามเข้าไปในห้อง ส่วนนักข่าวก็ยังคงเก็บภาพประทับใจไม่หยุด
?ได้เวลาแล้วครับบอส??
เจฟมาริดหันไปมองการ์ดที่ยืนอยู่ข้างหลัง ก่อนจะเดินขึ้นไปยืนกลางเวทีอย่างสง่างาม เรียกทุกสายตาให้หันไปมอง
?สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน มิลเลอร์กรุ๊ปยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียน เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก และควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียนจะนำทุกท่านสู่การท่องเที่ยวบนโลกเสรีที่ไร้ขีดจำกัด?? เจฟมาริดกล่าวจบเสียงปรบมือก็ดังกึกก้องอย่างถูกใจ
รีสมอนมองความสำเร็จของมิลเลอร์กรุ๊ปอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะหันไปมองพลอยใสที่ยืนอยู่ข้างๆ และกำลังโบกมือให้บิดาที่อยู่บนเวที
?เยี่ยมมาก?? รีสมอนโอบบ่าพลอยใสอย่างคุ้นเคย เพราะสองตระกูลเกื้อกูลกันมาหลายช่วงอายุคน จนเหมือนกับญาติสนิทกัน
พลอยใสยิ้มรับ แล้วเสียงของเจฟมาริดก็เรียกความสนใจของคนทั้งหมดได้อีกครั้ง
?ควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียนจะพาท่านไปท่องโลกแห่งธารน้ำแข็งในอลาสก้า ดินแดนอันยิ่งใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นพรมแดนสุดท้าย ทั้งกว้างใหญ่ไพศาล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติป่าเขาและสัตว์ป่านานาชนิด...เราจะได้ร่วมเดินทางล่องเรือสำราญระดับโลก สัมผัสชีวิตหรูหรามีระดับพร้อมชมความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและธารน้ำแข็งมหึมา นี่คือความมหัศจรรย์ที่เราจะเดินทางไปสัมผัสพร้อมๆ กันกับควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียนครับ??
เสียงปรบมือดังกึกก้องขึ้นอีกครั้งอย่างชื่นชมกับวิสัยทัศน์ของประธานบริหารมิลเลอร์กรุ๊ป
เจฟมาริดก้มศีรษะให้แขกก่อนจะก้าวลงจากเวที ในจังหวะนั้นอดีตผู้ว่าการรัฐแอลเบอร์ตาซึ่งเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยของเจฟมาริดก็เดินเข้ามาทักทายพร้อมกับนางแบบสาวชื่อดัง เจสสิก้า มาติโน่
?สวัสดีคุณเจฟ? แดเนียล จัสติน อดีตผู้ว่าการรัฐวัยห้าสิบยื่นมือไปรอข้างหน้า
เจฟมาริดมองใบหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ของเพื่อนก่อนจะยื่นมือไปทักทาย
?สวัสดีครับ ขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมงาน?
?ควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียนเป็นเรือที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา ยังไงผมกับเจสขอเดินชมรอบๆ หน่อยนะครับ??
เจฟมาริดหันไปมองนางแบบสาวที่ยืนยิ้มและถือแก้วเครื่องดื่มอยู่ข้างๆ นัยน์ตาสีฟ้าของเธอหวานเยิ้มคล้ายเชิญชวนเขาอยู่ในที แต่เจฟมาริดมองท่าทีของเจสสิก้าอย่างแปลกใจ
?ตามสบายครับ หวังว่าคุณคงประทับใจ?
?แน่นอนคุณเจฟ ทุกคนจะจดจำและกล่าวขานถึงงานวันนี้ไปอีกนาน? กลุ่มของแดเนียลเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง โดยมีสายตาของเจฟมาริดและพลอยใสมองตามไปด้วย
?ท่าทางคุณเจสสิก้าแปลกๆ นะคะพ่อ?
เจฟมาริดเองก็รู้สึกไม่ต่างจากบุตรสาว และรู้สึกห่วงนางแบบสาวที่ครั้งหนึ่งเคยสนิทกัน แต่ด้วยงานรัดตัวบวกกับที่ห่วงความรู้สึกของบุตรสาวที่กำพร้าแม่ ทำให้เจฟมาริดจำต้องห่างออกมาแล้วเขาก็หยุดความคิดไว้แค่นั้น ก่อนจะหันกลับมาสนใจผู้นำประเทศเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยขึ้น
?งานจัดได้เยี่ยมมาก? รีสมอนกล่าวชมจากใจจริงเมื่อได้เห็นความสำเร็จของเจฟมาริด
?ขอบคุณครับ โชคดีที่พ่อวางงานไว้ให้ เราถึงขยายงานด้านเรือสำราญได้สำเร็จ?? เจฟมาริดบอกอย่างชาญฉลาด รีสมอนหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเพื่อให้ทุกคนร่วมดื่มฉลองพร้อมกัน
?เชียร์ส??
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังพิธีเปิดเสร็จสิ้นพลอยใสก็หลีกหนีความวุ่นวายในงานเลี้ยงไปยืนรับลมที่ระเบียงชั้นดาดฟ้า ร่างบอบบางในชุดราตรีสีครีมพอดีตัวยืนทอดสายตาไปกลางทะเลอันเวิ้งว้าง ปล่อยความคิดล่องลอยไปไกลอย่างผ่อนคลาย
ขณะที่ความคิดของพลอยใสกำลังกระเจิดกระเจิง สายตาก็เหลือบไปเห็นเงาดำกำลังเคลื่อนไหวอยู่ไม่ไกลจากเรือ ร่างบอบบางวิ่งลงไปชั้นล่างเพื่อดูให้แน่ใจ พอเห็นเป็นคนดำผุดดำว่ายอยู่กลางทะเลลึกเธอก็ตกใจ คิดว่าแขกที่มาร่วมงานตกลงไปในทะเล
?คุณ?คุณเป็นยังไงบ้าง พยุงตัวไว้นะฉันจะไปตามคนมาช่วย?
คนที่ลอยคออยู่กลางทะเลลึกหันมามองแวบหนึ่งแล้วดำดิ่งลงไปใต้น้ำ พลอยใสตกใจยืนจับราวระเบียงแน่น ใบหน้าเนียนสวยส่ายไปมาอย่างร้อนใจ นานเกือบห้านาทีเขาก็ไม่โผล่ขึ้นมา พลอยใสละล้าละลัง ก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยคนใต้น้ำทั้งที่ตัวเองอยู่ในชุดราตรีสุดหรู
ร่างบอบดำผุดดำว่ายอยู่ในพื้นน้ำแต่ก็ไม่เห็นใคร หญิงสาวจึงตัดสินใจดำดิ่งลึกลงไปอีกครั้ง และในที่สุดเธอก็เห็นร่างบึกบึนกำลังแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำราวกับฉลามหนุ่ม
พลอยใสเคลื่อนเข้าไปหาและคว้าข้อมือหนาไว้แล้วใช้สัญลักษณ์ของนักดำน้ำชี้ขึ้นสูงเพื่อให้เขาลอยตัวขึ้นไป
มาร์ค ไลต์ คาร์เวลมองใบหน้าสวยใสอย่างหงุดหงิด เขาสะบัดแขนเต็มแรงและดำน้ำห่างออกไป พลอยใสตกใจพยายามไล่ตามเขาอยู่ใต้น้ำ ร่างบอบบางกลั้นลมหายใจต่อไปไม่ไหวจึงถีบตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ แต่ยังไม่ทันโผล่ขึ้นไป เรี่ยวแรงของเธอก็อ่อนล้า ลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่มีก็เริ่มจะหมด
มาร์คเอี้ยวตัวกลับไปมอง เห็นร่างบอบบางลอยเคว้งอยู่อย่างไร้การควบคุม มือหนากระตุกร่างหญิงสาวเข้าไปในวงแขนแล้วประคองแก้มซีดขาวไว้ ก่อนจะแนบริมฝีปากตัวเองกับกลีบปากนุ่ม พร้อมกับถ่ายเทลมหายใจอุ่นร้อนของตัวเองเข้าไปในปอดของหญิงสาว พลอยใสรับรู้ความอุ่นซ่านที่เกิดขึ้นจึงสูดลมหายใจเข้ายาวๆ แล้วริมฝีปากอิ่มก็จูบตอบเขาเพื่อสูดลมหายใจเขาเข้าไปในปอด
ในขณะที่พาเธอลอยตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ วงแขนแข็งแรงกอดกระชับเอวบางแนบแน่น ริมฝีปากอุ่นก็บดเคล้าถ่ายเทลมหายใจให้เธอไม่หยุด จนกระทั่งทั้งสองโผล่ขึ้นเหนือพื้นน้ำอีกครั้ง แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดจูบซับความหวานของริมฝีปากนุ่มอย่างเอาเป็นเอาตาย
พลอยใสได้สติเปิดเปลือกตาขึ้นเห็นเรืออยู่ข้างๆ จึงดิ้นหนีสุดแรง แต่มาร์คไม่ยอมปล่อย กอดรัดเธอแน่นเข้าไปอีก ในขณะที่สอดลิ้นเข้าไปตวัดรัดเกี่ยวกับเรียวลิ้นเล็กจนร่างบอบบางในวงแขนต้องออกแรงทุบลงไปบนไหล่กว้าง ผิวกายนุ่มละมุนกับชุดราตรีรัดรูปแนบสนิทกับเรือนร่างเกือบเปลือยของชายหนุ่มทำเอาเลือดหนุ่มวิ่งพล่านไปทั้งร่าง
?อื้อ?? พลอยใสครางประท้วงดิ้นหนีจนแทบอ่อนแรง เขาจึงผละริมฝีปากออกห่างอย่างเสียดาย เธอแหงนหน้าขึ้นมองเขา แสงไฟสลัวจากระเบียงเรือทำให้เห็นหน้าคนฉวยโอกาสได้อย่างชัดเจน
?สารเลว ฉันอุตส่าห์ลงไปช่วยชีวิตไว้ยังมารังแกกันอีก?
มาร์คหัวเราะในลำคอเบาๆ ?คุณน่ะเหรอลงไปช่วย พูดผิดพูดใหม่ได้นะคุณ?
?ฉันเข้าใจว่าคุณตกน้ำน่ะสิถึงลงไปช่วย ถ้ารู้ว่าจงใจลงไปเล่นน้ำแบบนั้น ฉันคงไม่ลงไปช่วยให้เสียจูบหรอกนะจะบอกให้ ฉันจะให้เจ้าของเรือจับคุณขึ้นฝั่ง ข้อหาทำผิดกฎระเบียบของเรือ? เธอเถียง ฟันกระทบกันด้วยความหนาว มาร์คจึงพาร่างบอบบางไปที่บันไดเรือ
?ระเบียบอะไร?
?ห้ามลงเล่นน้ำในขณะที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลน่ะสิ ยิ่งเล่นน้ำกลางคืนแบบนี้ยิ่งผิดมหันต์ ไม่รู้หรือไง?
?คุณเป็นพนักงานบนเรือหรือไง ถึงเป็นเดือดเป็นร้อนนัก? เขาตั้งคำถามโดยไม่สนใจอารมณ์เดือดดาลของหญิงสาว
?ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ? พลอยใสโวยวายเมื่อลำแขนแกร่งเกี่ยวเอวบางและพาโหนตัวขึ้นไปบนเรือ ความนุ่มนิ่มของเนื้อสาวที่แนบสนิทกับแผ่นอกกว้างทำให้กายเย็นๆ รุ่มร้อนขึ้นมาทันใด
?ปากคุณหวานเป็นบ้า ไปจูบกันต่อในห้องผมนะ?
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาพลอยใสก็ดิ้นรนเต็มกำลัง
?คนบ้า ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!? เธอร้องเสียงหลงแต่ก็แพ้เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มออกมาจากด้านใน มือบางทั้งทุบทั้งตีแต่กำแพงหนาอย่างเขาก็ไม่สะทกสะท้านสักนิด
?อย่าดิ้นสิ ยิ่งดิ้นผมยิ่งมีอารมณ์ เดี๋ยวเจ็บตัวมากกว่านี้หรอก? เขาขู่ขณะหิ้วร่างบอบบางเข้าไปในห้องได้สำเร็จแล้ววางเธอยืนบนพื้นก่อนหันไปล็อกประตูเสียงดังคลิก
พลอยใสเบิกตากว้างวิ่งหนีเขาไปยืนอยู่หลังห้อง ร่างกำยำย่างสามขุมเข้าไปหาช้าๆ เมื่อราชสีห์กำลังจะขย้ำเหยื่อ ดวงตาคมเข้มมองรูปร่างอ้อนแอ้นงดงามไม่วางตา สายตาเร่าร้อนของเขาทำให้หญิงสาวยกมือขึ้นกอดตัวเองเพื่อปกปิดเรือนร่างให้พ้นจากสายตาคม ใบหน้าเรียวสวยซีดขาวราวกระดาษ
?อย่าเข้ามานะ ฉันสู้ยิบตาจริงๆ ด้วย?
มาร์คเดินอวดมัดกล้ามอย่างไม่อาย และไล่ต้อนเธอไปทั่วห้องพักสุดหรู พลอยใสมองประตูห้องอย่างมีความหวัง แต่มาร์คเหมือนจะรู้จึงแกล้งเดินเลี่ยงไปอีกทาง พลอยใสแอบยิ้มอยู่ในใจแล้ววิ่งไปที่ประตู ร่างสูงพุ่งเข้าไปคว้าเอวบางไว้และทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมกับร่างบอบบาง
?กรี๊ดดด?ปล่อยฉันนะ? พลอยใสร้องลั่น ทั้งถีบทั้งเตะเขาสารพัดจะทำ ใบหน้าก็ส่ายหนีปลายจมูกโด่งของเขาพัลวัน มาร์คซุกไซ้ซอกคอขาวละเลื่อนขึ้นไปพรมจูบตามดวงหน้าซีดขาวอย่างได้ใจ
?ผมถูกใจและยินดีจ่ายเต็มที่? เขาบอกเสียงพร่าพร้อมทั้งจุมพิตแก้มแดงระเรื่ออย่างหลงใหล
พลอยใสใจเต้นแรงหวาดกลัวสิ่งที่กำลังเผชิญ ฝ่ามือหนาลูบไล้ส่วนโค้งเว้าสำรวจสัดส่วนงดงามไปทั่วร่าง ก่อนจะวกเข้าไปหาทรวงอกอวบอิ่ม เขาลูบไล้แผ่วเบาแต่ทำเอาริมฝีปากอิ่มเผยอครางอย่างซ่านสยิว
?ไม่นะ...อย่า?? เธอบอกเสียงเบาหวิว ลมหายใจแทบหยุดเต้น ดวงตากลมใสพร่าเบลอ สติเลือนหายไปจากร่างอย่างตกใจ มาร์คยกตัวห่างพลางมองสบตาหวาดหวั่นของเธอ พลอยใสเบิกตามองนัยน์ตาสีอำพัน ริมฝีปากขมุบขมิบเพื่อขอร้องเขาแต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา แล้วทุกอย่างรอบตัวก็ดับวูบลง
?คุณ?คุณ?? มาร์คเขย่าร่างในอ้อมแขนเบาๆ ก่อนจะยกตัวขึ้นนั่งข้างร่างบอบบาง
?อย่าให้รู้นะว่าแกล้งเป็นลม ถ้ารู้จะเอาคืนให้สว่างคาตาเลยแม่คุณ?? เขาขู่ยิ้มๆ พลางใช้สายตาสำรวจร่างบอบบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ริมฝีปากอิ่มซีดขาวด้วยความหนาวจากชุดเปียกชื้น มาร์คจึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่และผ้าเช็ดตัวออกมา จากนั้นเขาก็จัดการเปลี่ยนชุดให้เธอด้วยหัวใจร้อนรุ่ม เลือดลมในตัวฉีดพล่านแทบระงับไม่อยู่ พอเสร็จมือหนาก็ตวัดผ้าห่มคลุมร่างให้เธออย่างเบามือ
มาร์คถอนหายใจดังๆ ก่อนจะใส่เสื้อผ้าเพื่อออกไปรับลมข้างนอก เพราะขืนอยู่ในห้องคงได้เสียฟอร์มลักหลับผู้หญิงเป็นแน่ มาร์คสวมเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงนอนตัวใหญ่เดินยิ้มไปยืนรับลมที่ระเบียง
?เจสรักคุณนะคะคุณเจฟ ทำไมคุณไม่สนใจเจสบ้าง? เสียงออดอ้อนอ้อแอ้ดังมาจากมุมมืดของระเบียง
มาร์คยืดตัวตรงหันไปมองต้นเสียง ก่อนจะเดินไปอีกทาง หากเสียงตอบของใครอีกคนดังแว่วมาให้ต้องหยุดฟัง
?อย่าทำแบบนี้สิเจส แดเนียลเขารักคุณนะ? เจฟมาริดจับบ่านางแบบสาวแล้วดันตัวเธอออกห่าง แต่เจสสิก้าขยับเข้าไปโอบลำคอหนาของหนุ่มใหญ่
?แดเนียลไม่ได้รักฉัน เขาทำดีกับฉันเพื่อแย่งฉันไปจากคุณ? เจสสิก้ามองใบหน้าคมเข้มตาหวานเยิ้ม
?คุณเมามากแล้วนะเจส เดี๋ยวผมไปส่งที่ห้องนะ? เจฟมาริดปลดมือนางแบบสาวออกจากคอ แล้วประคองเธอขึ้นบันได
?เจสอยากไปห้องคุณมากกว่า ไปห้องคุณนะคะ? เธอออดอ้อนและเอนร่างซบอกเขา
เจฟมาริดหันมองรอบตัวกลัวว่าแดเนียลจะมาเห็น มาร์คเบี่ยงตัวหลบที่มุมประตูจนกระทั่งคนทั้งคู่หายเข้าไปในห้อง
?คุณมากับแดเนียลไม่ใช่เหรอ แล้วเขาไปไหนเสียล่ะ??
?อย่าไปพูดถึงเขาเลย เขาเห็นฉันเป็นแค่เครื่องบำเรอความสุขและผลประโยชน์? เจสสิก้าบอกเสียงอ้อแอ้ เจฟมาริดรับรู้ถึงความเจ็บปวดในน้ำเสียงของอดีตคู่ควงคนสุดท้ายก็แปลกใจ
?คุณหมายความว่ายังไงเจส? เจฟมาริดถามอย่างสงสัยขณะพาเธอไปที่เตียงกว้าง แล้วเจสสิก้าก็ทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับโอบร่างกำยำลงไปทาบทับด้านบน เจฟมาริดยันกายลุกขึ้นแต่ลำแขนขาวก็โอบกอดไว้แน่น
?เขาบังคับให้ฉันทำทุกอย่างแม้แต่เรื่องผิดกฎหมาย?
เจฟมาริดมองเธออย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
?เช่นอะไรเจส? เจฟถามอย่างตื่นเต้นและเฝ้ารอคำตอบ เจสสิก้าพยายามปรือตาที่หนักอึ้งเพราะฤทธิ์น้ำเมาขึ้นมองแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้
?เช่น?? เธอบอกได้เพียงเท่านั้นก็หลับไป เจฟมาริดลุกขึ้นนั่งถอนหายใจอย่างเสียดาย ก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมให้เธออย่างเบามือ
?เลยไม่รู้เลย ไม่เป็นไรค่อยถามพรุ่งนี้ก็ได้?? เขาพึมพำเบาๆ แล้วเปิดประตูออกจากห้อง และไม่ลืมกดล็อกให้ก่อนออกไป
ร่างสูงเดินห่างไปช้าๆ มาร์คเดินเลี่ยงไปหามุมสงบเพื่อดับอารมณ์รุ่มร้อนในตัว สักพักก็เห็นเงาวูบไหวที่เดินเข้าไปในห้องของเจสสิก้าทำให้คิ้วหนายกขึ้นด้วยความแปลกใจ และไม่นานเงานั้นก็กลับออกมา แต่มาร์คไม่เห็นความผิดปกติใดๆ จึงเดินกลับห้องพัก
พอกลับเข้าไปในห้องมาร์คก็ต้องหงุดหงิด เพราะคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงหายไป แถมทิ้งข้อความข่มขู่ไว้อีกต่างหาก
?ระวังตัวให้ดี ฉันจะเอาคืนให้สาสม?
มาร์คหัวเราะในลำคอ ต่อให้เธอหนีไปสุดขอบฟ้า เขาก็จะคว้าเธอมาอยู่ใต้ร่างให้ได้แม่ตัวแสบ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เช้าวันใหม่ ลูกทัวร์ต่างพากันออกมาชื่นชมกับบรรยากาศสดชื่นของท้องทะเล บ้างก็ออกกำลังกายบนลานกว้างด้านท้ายเรือ บ้างก็นั่งจิบเครื่องดื่มพร้อมๆ กับซึมซับธรรมชาติของท้องทะเลอย่างมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจก็ดังขึ้น
?กรี๊ดดด??
เสียงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนักของแม่บ้านบนเรือเรียกให้แขกต่างวิ่งเข้าไปดู เจฟมาริดวิ่งมาถึงเป็นคนแรก ภาพที่ปรากฏอยู่บนเตียงทำให้ชายหนุ่มตกตะลึง นางแบบสาวเจสสิก้านอนตาเบิกกว้างอยู่บนเตียง บริเวณลำคอถูกบาดด้วยของมีคมเป็นแผลเหวอะหวะอย่างน่ากลัว กลิ่นเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้อง
พลอยใสวิ่งเข้าไปเห็นภาพอันน่าสยดสยองถึงกับตกใจหน้าซีดเผือด เจฟมาริดดึงลูกสาวเข้ามากอดและกดศีรษะซุกกับอกกว้าง
?เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นครับ ขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนกนะครับ เราจะจัดแถลงข่าวหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเคลียร์พื้นที่เสร็จเรียบร้อย? เอ่ยจบเจฟมาริดก็ให้การ์ดกันแขกออกไป ก่อนจะหันใบหน้าเคร่งเครียดไปมองร่างของเจสสิก้าที่นอนจมกองเลือดอย่างกังวล
ถ้าข่าวการฆาตกรรมนางแบบสาวหลุดออกไป เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าชื่อเสียงด้านลบของควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียนจะดังกระฉ่อนขนาดไหน และอาจจะถึงขั้นต้องหยุดบริการชั่วคราวจนกว่าการสอบสวนเสร็จด้วยซ้ำ เพราะกฎหมายของที่นี่แทบไม่เหลือช่องโหว่ให้ดิ้นได้เลย
?เกิดอะไรขึ้นกับเธอคะพ่อ? พลอยใสชำเลืองมองร่างที่นอนเหยียดเกร็งอยู่บนเตียง ชุดราตรีสีขาวที่เจสสิก้าสวมใส่ในงานเลี้ยงแดงฉานไปด้วยเลือด
?เธอถูกฆ่าทั้งๆ ที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ? เจฟมาริดบอกเสียงเครียด มองสำรวจรอบๆ ห้องอย่างพิจารณา แต่ไม่กล้าเดินไปทั่วห้อง เพราะกลัวว่ารอยเท้าของตัวเองจะปะปนกับของคนร้าย
ไม่ถึงชั่วโมงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึง ผู้กองคามินเดินเข้าไปในห้องพักของเจสสิก้า ซึ่งตอนนี้ถูกเจ้าหน้าที่กั้นด้วยเชือกเพื่อกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป
?สวัสดีครับคุณลุง? คามินเอ่ยทักทายด้วยความคุ้นเคยก่อนจะหันไปยิ้มให้พลอยใส เพื่อนสนิทที่ตนแอบมีใจให้มานานหลายปี
?ควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียนเจอพายุหนักตั้งแต่เปิดตัวเลยนะครับ? คามินเอ่ยต่อ
?เอาการหลานชาย ยังไงก็ฝากด้วยนะ? เจฟมาริดบอกด้วยใบหน้าหมองคล้ำ
พลอยใสเห็นแล้วอดสงสารบิดาไม่ได้ เพราะท่านทุ่มเทกับเรือลำนี้มาก หญิงสาวกุมมือบิดาแล้วบีบแรงๆ อย่างให้กำลังใจ
?ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดีค่ะพ่อ?
?พ่อก็หวังอย่างนั้น ฝากดูแลทางนี้ด้วยนะ พ่อขอตัวสักครู่?
หญิงสาวยิ้มให้แล้วมองตามหลังบิดาไป สายตาผู้กองมือปราบมองความวุ่นวายหน้าห้องพักแล้วมาหยุดที่ใบหน้านวลเนียนของพลอยใส
?พลอยมีรายชื่อแขกที่มางานทั้งหมดใช่ไหม?
?มีจ้ะ เดี๋ยวพลอยให้เจ้าหน้าที่เอามาให้นะ?
พลอยใสเดินไปสั่งงาน พอดีกับเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาในที่เกิดเหตุ
?เก็บให้ละเอียดแล้วส่งรายงานให้ผมภายในวันนี้นะ? คามินสั่งขณะที่เจ้าหน้าที่สวมถุงมือแพทย์แล้วเดินไปสำรวจรอบเตียงนอนของผู้ตาย ในขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นต่างแยกย้ายกันไปเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ คามินมองบาดแผลที่ลำคออย่างพิจารณา
?ฆาตกรรมใหญ่ในรอบปีเลยนะผู้กอง? เจ้าหน้าที่กระซิบกระซาบกับผู้กองหนุ่ม ในขณะที่สายตาสำรวจรอบบริเวณอย่างละเอียด ?กันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อนนะผู้กอง?
คามินพยักหน้าแล้วเดินไปสั่งงานลูกน้อง พลอยใสเดินถือสมุดรายชื่อมายื่นให้ แม้จะกลัวแต่เธอต้องเข้มแข็งเพื่อบิดา
?ให้แขกบนเรือไปรวมกันที่ห้องโถงและเช็กรายชื่อทุกคนอย่างละเอียด? ผู้กองคามินสั่งเสียงเข้ม นายตำรวจคนหนึ่งโค้งรับคำสั่งทันที
?อำนวยความสะดวกให้ด้วย สั่งคนของเราค้นหาผู้ต้องสงสัยให้ทั่ว? พลอยใสสั่ง เจ้าหน้าที่ต้อนรับคนหนึ่งบนเรือก้มศีรษะเล็กน้อยแล้วเดินนำนายตำรวจสี่นายไปที่ห้องโถงใหญ่
?เจออะไรผิดปกติไหมคะ? พลอยใสถามเจ้านายที่ที่ปัดผงหาร่องรอยนิ้วมืออยู่ข้างเตียง
?เท่าที่เห็นด้วยตาเปล่า มีรอยเท้าปรากฏอยู่ในห้องสามขนาดค่ะ รอยหนึ่งเป็นของผู้ตาย ส่วนอีกสองคาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย? เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรายงาน คามินพยักหน้าและมองสำรวจรอบๆ บริเวณก่อนจะไปหยุดที่ประตูตู้เสื้อผ้า ?ที่น่าแปลกก็คือคนร้ายคนหนึ่งน่าจะประคองผู้ตายไปที่เตียง ส่วนรอยเท้าอีกรอยมาจากประตู บางทีคนร้ายอาจจะรู้จักกับผู้ตายก็ได้? รายละเอียดเพิ่มเติมทำเอาคามินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ผู้กองหนุ่มก็ไม่ซักถามเพิ่มเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของเพื่อน
?งานนี้หนักหน่อยนะพลอย แต่เราจะทำให้ดีที่สุดนะ?
?ขอบคุณนะคามิน เราสงสารพ่อ พ่อทุ่มเทกับเรือลำนี้มาก เกิดเรื่องร้ายแรงแบบนี้ไม่รู้ว่าภาพลักษณ์ของเรือจะเป็นยังไง?
?แรกๆ เราว่าอาจจะมีปัญหาบ้างแหละ แต่เราจะเร่งสืบคดีให้กระจ่างนะ พลอยเห็นคนน่าสงสัยหรือพบอะไรผิดปกติบ้างหรือเปล่า? ผู้กองคามินคาดการณ์ ก่อนจะมองไปยังร่างผู้ตาย
พลอยใสครุ่นคิดแล้วหัวใจกระตุกเมื่อภาพผู้ชายที่รังแกเธอลอยมาในหัว หญิงสาวรีบเดินไปที่ห้องโถง คามินเห็นใบหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนก็รีบตามออกไป
พลอยใสเดินตัวปลิวเข้าไปในห้องโถงกว้างที่คลาคล่ำด้วยแขกที่มาร่วมงาน ดวงตาคมโตกวาดมองผู้คนอย่างละเอียดก่อนจะไปหยุดสายตาที่ใบหน้าคมเข้มสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ปิดบังกว่าครึ่ง คามินเดินมาหยุดเคียงข้างแล้วมองตาม
?เขาอยู่นั่น? สิ้นเสียงหวานพลอยใสก็เดินไปหา แขกต่างเปิดทางจนกระทั่งร่างบอบบางมาหยุดตรงหน้าร่างสูงสง่าที่ยืนอยู่หลังสุด คามินเดินตามมาพร้อมกับนายตำรวจสองคน
?คนนี้เหรอพลอย?
?ใช่?พลอยเห็นเขาลงไปลอยคอในน้ำขณะที่คนอื่นกำลังสนุก? เสียงหวานเอื้อนเอ่ย
มาร์คมองริมฝีปากสีชมพูที่ขยับขึ้นลงเงียบๆ จนกระทั่งคามินถามขึ้น
?เชิญไปที่ห้องรับรองสักครู่นะครับ?
?ผมคงไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยหรอกนะผู้กอง? มาร์คชำเลืองมองดาวที่บ่าของคามิน ก่อนจะหันไปสบตาคมโตที่มองเขาอยู่
?คุณน่าสงสัยที่สุด? เธอบอกเสียงต่ำ มาร์คกระตุกยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่ง คามินมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา แม้ผู้ชายคนนี้จะอยู่ในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนครึ่งศอกกับกางเกงยีนสีซีด ก็ไม่อาจปิดบังรังสีของพลังอำนาจและความสง่าน่าเกรงขามของเขาได้
?ช่วยแสดงความบริสุทธิ์ด้วยการไปกับเราด้วยนะครับ เชิญ?? คามินผายมือเชิญ
มาร์คเหยียดยิ้มแล้วเดินผ่านผู้คนไปที่ห้องรับรอง ด้วยความอยากรู้พลอยใสจึงขอตามเข้าไปฟังการสอบสวนด้วย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ควีน ออฟ เดอะ แคริบเบียน เรือสำราญท่องเที่ยวขนาดใหญ่เปิดตัวได้อย่างสง่างามไม่ทันไร ก็กลับเกิดเรื่องอื้อฉาวเพียงชั่วข้ามคืนเมื่อเกิดคดีฆาตกรรมขึ้นบนเรือ พลอยใส มิลเลอร์ สาวสวยเจ้าของธุรกิจจึงต้องสืบหาคนร้ายเมื่อบิดาถูกใส่ความ โดยมี มาร์ค ไลต์ คาร์เวล เจ้าพ่อแห่งท้องทะเลคอยให้ความช่วยเหลือแบบไม่เปิดเผยตัวตน เพราะเกิดต้องใจร่างนุ่มหอมคราวที่เธอกระโดดลงไปช่วยเขาเพราะคิดว่าชายหนุ่มจมน้ำ เพียงจุมพิตแรกที่ได้ถ่ายเทอากาศให้กันและกันใต้ผืนน้ำสีคราม เขาก็รู้เลยว่าพร้อมจะวางหัวใจเอาไว้ที่เธอ
?คุณเป็นใครกันแน่? เธอจ้องเขม็งเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ
มาร์คจับมือบางไปวางบนอกซ้าย เธอก็สะบัดจนหลุดแล้วยกมือปกปิดทรวงงาม มืออีกข้างจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแต่ทำไม่ได้เพราะเขาดึงเอาไว้
?คุณอยากให้เป็นอะไรล่ะฮันนี่ สามีหรือโจรปล้นสวาท?
