นายหัวกระทิง คาร์ลอส เจ้าของโรงแรมไวท์เลิฟบลูลากูนย่างเท้าเข้าไปในห้องนอนของตน สายตาพลันสะดุดกับบางสิ่ง มือที่กำลังปลดเนกไทออกจากปกเสื้อชะงักกึกหยุดนิ่ง ค่อยๆ สาวเท้าเดินตรงไปยังกล่องใบใหญ่ คาดเดาด้วยสายตาคงเป็นกล่องของขวัญ น่าจะส่งมาจากที่ไหนสักแห่งหรือจากใครสักคนเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับเขาในวันคล้ายวันเกิดอายุครบสามสิบห้าปีในปีนี้ แม้เขาไม่อยากฉลองวันเกิดทว่าแม่กลับรบเร้าให้เขาจัดงานฉลองจนได้
เพราะแม่กับพ่อมีแผนซ้อนเอาไว้ งานวันเกิดยิ่งใหญ่กลายเป็นงานเลือกคู่ไปซะได้ เมื่อแขกที่มาร่วมงานเป็นผู้หญิงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ นายหัวเชื่อว่างานนี้ถูกแม่จัดฉากเพื่อเป็นงานเลือกคู่แน่แล้ว ดังนั้นตลอดงานเขาจึงรู้สึกเซ็ง อยากหนีกลับมานอนเอกเขนกที่บ้านใจจะขาด หากแต่ขัดใจแม่ไม่ได้จึงยอมเซ็งปั้นหน้ามองผู้หญิงที่แม่แนะนำทีละคนจนครบสามสิบคน
กล่องของขวัญสีขาวผูกโบสีแดงเป็นของใครกันแน่ แล้วทำไมกล่องถึงใหญ่ขนาดนี้ มันสามารถบรรจุคนลงไปนอนในนั้นได้สบายๆ ถูกขนเข้ามาตอนไหน ลอดหูลอดตาบริวารในบ้านเขาไปได้อย่างไร หรือนี่เป็นการเซอร์ไพรส์ จึงไม่มีใครบอกอะไรกับเขาเลยสักคน ในจังหวะที่กำลังสนใจกล่องและยื่นมือไปแกะโบสีแดง ยังไม่ทันได้กระตุกปมผูกโบด้วยซ้ำ โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็ดังแทรกประสาทขึ้นมาซะก่อน
จึงชะงักเปลี่ยนมาล้วงโทรศัพท์จากในกระเป๋ากางเกงเพื่อกดรับแทน ระหว่างนั้นนายหัวได้สาวเท้าเดินดูรอบๆ กล่องใบใหญ่
?ว่าไงวะ? ปากก็พูดกับปลายสายไปด้วย
?ได้รับของขวัญที่ฉันส่งไปให้หรือยัง จากใจเลยนะขอบอก?
?เออ เพิ่งเห็น แต่ยังไม่ได้แกะ?
?ฝากด้วยล่ะ?
ยังไม่ทันที่นายหัวกระทิงจะได้พูดไต่ถามอะไรเพิ่มเติม ปลายสายก็รีบร้อนตัดสายทิ้งซะก่อน
?เอ้า...ไอ้นี่ วางสายซะเฉยเลย? เมื่อฝ่ายนั้นวางสายไปนายหัวจึงวางโทรศัพท์ในมือของตัวเองลงบนเตียงบ้าง พลางก้าวเท้าเดินรอบกล่องขนาดใหญ่ด้วยรู้สึกสังเกตเห็นอะไร ครั้นพอเดินมาอีกด้านจึงเห็นบางอย่าง เพราะปกติของที่ถูกห่อหุ้มด้วยกล่องจะต้องไม่ชำรุดเสียหายก่อนถึงมือผู้รับ แต่นี่เขาเห็นรูสองรูตรงกลางด้านข้างกล่อง ว่าแต่ทำไมต้องเจาะรูสองรูนี้ราวกับจะเจาะไว้ให้หายใจ หรือเพื่อให้มีอากาศเข้าออกอย่างนั้น นายหัวสงสัย
นายหัวกระทิงย่อกายลงนั่งยองๆ เพื่อส่องรูเล็กๆ สองรูที่ถูกเจาะเพื่อการอะไรสักอย่าง เขาพยายามมองของที่อยู่ด้านใน แต่ในนั้นมืดมากจึงมองอะไรไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปัดความสงสัยทิ้งไป เดินไปหยิบคัตเตอร์จากในลิ้นชักเพื่อจัดการเปิดกล่อง
?โบแดงซะด้วย? มือใหญ่เอื้อมไปจับโบแดงขนาดใหญ่ ดูๆ ไปก็เหมือนโบทั่วไป แต่มีสีแดงสลับเขียวเหมือนโบในเทศกาลคริสต์มาส สายตาดุดันหม่นแสงลง นึกสงสัยอยู่ครามครัน ไอ้เพื่อนบ้าส่งของอะไรมาเซอร์ไพรส์วันเกิดเขากันแน่
มือที่ถือคัตเตอร์อยู่ค่อยๆ กดและกรีดลงไปบนรอยฝากล่องสี่เหลียมผืนผ้า พอฝากล่องแยกออก ชายหนุ่มผู้ดุดันเปี่ยมด้วยพลังอำนาจเหนือผู้คน เจ้าของวันเกิดครบสามสิบห้าปีที่เพิ่งจบงานเลี้ยงลงไปหมาดๆ ก็ต้องมาเจอกับความประหลาดใจกับกล่องของขวัญขนาดใหญ่กว่ากล่องอื่นนับสิบนับร้อยของแขกเหรื่อที่นำมากำนัลเขาในงาน
ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากไปกว่าการเปิดฝากล่อง เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น ส่งผลให้มือที่กำลังจะเปิดกล่องชะงัก ดวงตาคมดุดันเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง ถ้าหูไม่ฝาดเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปค่อนข้างมาก ด้วยเขาเป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงฉลองวันเกิด จำเป็นต้องดื่มขอบคุณแขกทุกๆ คนที่ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงานจนกระทั่งนับจำนวนแก้วไม่ถูก โดยมีแม่เขาเป็นแม่งานในการจัดอย่างยิ่งใหญ่ในพื้นที่โรงแรมไวท์เลิฟบลูลากูน นัยๆ จะเป็นงานเลือกคู่ซะมากกว่า แต่เขาไม่ตามน้ำไปกับแม่ ?เรื่องผู้หญิงถ้าใช่ ไม่จำเป็นต้องค้นหา อีกเดี๋ยวคงโผล่มาเอง? เขาเชื่ออย่างนั้นเสมอ
อย่างเช่นตอนนี้ สิ่งที่โผล่ตรงหน้าเขาคือ...คือ...ผู้หญิง!
ร่างสูงใหญ่เกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรชะงักพร้อมกับขยับถอยหลัง เมื่อสิ่งผิดปกติในกล่องสี่เหลี่ยมขยับขลุกขลัก พร้อมกับฝากล่องถูกเปิด ปรากฏออกมาเป็นคน...คนจริงๆ หรือตุ๊กตายางมีชีวิตโผล่ออกจากกล่อง พร้อมกับท่าบิดขี้เกียจ ไม่สนใจเขาที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า
นายหัวกระทิงจ้องมองตุ๊กตายางตัวนั้นที่มีเส้นผมสีชมพูยุ่งเหยิง เสื้อยืดตัวใหญ่สีขาว กางเกงยีนขาดๆ คงเป็นแฟชั่นที่เห็นกันทั่วไปในสมัยนี้ ซึ่งเขาไม่มีทางให้ลูกหลานหรือบริวารแต่งตัวแบบนี้เป็นอันขาด หวังว่าตุ๊กตายางตัวนั้นจะไม่ใส่รองเท้าคนละสีหรอกนะ
?โอ๊ย...เมื่อยชะมัด? ตุ๊กตายางมีชีวิตพูดขึ้น สมัยนี้เทคโนโลยีการผลิตทันสมัย มีเสียงพูดด้วย เสียงเหมือนจริงมากๆ
สายตานายหัวกระทิงยังคงจับจ้องอยู่กับร่างเล็กอ้อนแอ้นที่โผล่ขึ้นทำท่าบิดขี้เกียจอยู่ในกล่อง เขาพยายามสงบใจ นึกถึงแต่ไอ้เพื่อนบ้าที่บังอาจส่งของแบบนี้มาให้เขา สงสัยมันอยากแกล้งกันเสียจนต้องส่งของมาล้อเล่นแบบนี้
?เอ๊ะ...!!! ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน ฉันจำได้ว่าอยู่ในผับนี่นา? ตุ๊กตายางหยุดบิดขี้เกียจ ลดมือที่ยกขึ้นเหนือศีรษะลงแล้วใช้สายตาสำรวจรอบห้องอันกว้างขวาง ว่าแต่ห้องนี้มองยังไงๆ ก็ไม่ใช้ห้องนอนของเธอ หรือห้องนอนเพื่อนสนิทที่มักไปค้างอ้างแรมเวลาออกเที่ยวกลางคืนตามประสาวัยรุ่นที่เพิ่งเรียนจบ อยากเที่ยวเตร่อีกสักพักค่อยทำงาน
?สงสัยจะเมามากแฮะ? ตุ๊กตายางยังคงบ่นกับตัวเอง โดยไม่สนใจเจ้าของห้องอย่างชายหนุ่ม ผู้ยืนกอดอกมองอยู่นิ่งๆ เลยแม้แต่น้อย
ผลิตภัณฑ์ตุ๊กตายางชิ้นนี้จัดได้ว่าโรงงานผลิตมาดี รูปร่างงดงาม เนื้อหนังมังสาเรียบเนียนราวกับคนจริงๆ เลยทีเดียว แม้จะอยู่ในชุดเครื่องแต่งกายที่ไม่เข้าตาคนมองอย่างนายหัวสักเท่าไหร่ แต่งหน้าแต่งตารกหูรกตาไปหน่อย กับสีผมชมพูแป๊ดที่ชาวบ้านร้านตลาดไม่นิยมย้อมกัน แต่ถ้าจำพวกแปลกๆ แหวกแนวคงกล้าทำ ถ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนจริงๆ นั้นนับว่าเป็นคนจำพวกแปลก หรืออินดี้ ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่สนใจสังคมราวๆ นั้น
เปลือกตากับแพขนตาที่กระพือขึ้นลง แต่งแต้มดำดิ่งแบบสโมกกี้อายลึกล้ำซับซ้อน ตรงข้ามกับการแต่งตัวที่เหมือนพวกวัยรุ่นบ้าแฟชั่นญี่ปุ่นอย่างนั้น สรุปตุ๊กตาตัวนี้เต็มไปด้วยความซับซ้อนที่อาจทำให้เขาปวดหัวได้ถ้าเธอกลายร่างเป็นคน
ตุ๊กตายางที่มีส่วนผสมของความวุ่นวายในการแต่งตัว และแต่งหน้ารกไปหมด หรือเพราะคนมองอย่างนายหัวกระทิงเข้าไม่ถึงแฟชั่นยุคนี้ ด้วยเขาไม่สนใจแฟชั่นอยู่แล้ว ผู้หญิงสำหรับเขาต้องอยู่เป็น กินเป็น ทำตัวอยู่ง่ายกินง่าย ไม่เรื่องมาก ไม่เยอะ และไม่ดื้อ ถึงจะอยู่ด้วยกันรอด
คนที่เพิ่งตื่นจากการหลับนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าความทรงจำครั้งสุดท้าย ตัวเธอดีดดิ้นเต้นรำอยู่ในผับกับบรรดาเพื่อนๆ กลุ่มขาประจำในการนัดกันเที่ยวเตร่หลังจากได้เป็นบัณฑิตสมใจ ต่อจากนี้จะต้องก้าวไปเป็นคนทำงานอย่างเต็มตัว จำเป็นต้องทิ้งชีวิตวัยรุ่นเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ จึงขอตักตวงเวลาแบบนี้ให้สมใจซะก่อน
ดวงตากลมโตบ้องแบ๊วมองเห็นบางอย่างเบื้องหน้า ห่างออกไปไม่ไกล สาวน้อยผู้แต่งตัวยุ่งเหยิงปรับสายตาที่มีความพร่าเลือนเพราะการนอนมาก ไม่รู้นอนมากเพราะอะไร เพราะการดื่มหรือเพราะอะไรที่ทำให้เธอสูญสิ้นความจำช่วงเวลานั้น เธอมองเห็นภาพคน...คนจริงๆ ไม่ได้ตาฝาด หญิงสาวยกมือขึ้นขยี้ตาหลายๆ ที ภาพเบื้องหน้ายังอยู่ ไม่ได้เลือนหายไปแต่อย่างใด
?คน...ผู้ชาย...ผู้ชาย...คน? ไม่เคยเห็นหน้า ใครวะ...ใครกันแน่...ไม่ใช่อีตาพี่ขั้นเทพของเธอด้วยสิ แล้วนั่นใคร
?กรี๊ดดดดด!!!? ฉันถูกพามาขาย ตุ๊กตายางกรีดร้องสนั่นลั่นห้อง ไม่จริง เธอจะต้องไม่ได้ถูกหิ้วมา ตั้งแต่เที่ยวเตร่ย่ำราตรีกับเพื่อนๆ ก็ไม่เคยโดนหิ้ว
ยังจำได้ดีว่าเต้นอยู่กับเพื่อนผู้หญิง ไม่มีผู้ชายไปด้วย เว้นแต่จะไปหาเอาดาบหน้า ซึ่งเธอ...นางสาวทิพย์ตะวัน พนิตนันท์ ไม่ชอบไปหาของกินเล่นๆ ในผับ เพราะไม่ปลอดภัยใดๆ ไหนต้องเจออาหารจานที่มีเจ้าของ อาหารจานที่ไม่สะอาด มีแมลงวันไต่ตอมมาแล้ว ซ้ำร้ายถ้าเจอพวกมีโรคอาจจะติดโรค ดังนั้นเธอจึงไม่ชอบการไปหาผู้ชายในผับแบบเพื่อนบางคนที่ชอบมีวันไนท์สแตนด์
?ช่วยด้วย!! ช่วยด้วย!!! ช่วยฉันที ฉันโดนลักพาตัว ช่วยด้วย? ทิพย์ตะวันหลับหูหลับตาตะโกนขอความช่วยเหลือ เพราะเข้าใจไปว่าตัวเองถูกผู้ชายในผับหิ้ว ?ไม่น่าเลย ไม่น่าไปเที่ยวแล้วดื่มจนเมา พี่เทพเตือนแล้วแท้ๆ? หญิงสาวยังคงพูดกับตัวเอง พร้อมกับคิดหาทางหนีทีไล่ออกไปให้พ้นจากห้องนี้ แต่ว่าห้องนี้กว้างขวางใหญ่โตมาก คาดว่าถ้าวางแผนไม่ดีเป็นได้ถูกกินอย่างแน่นอน ?พี่เทพช่วยน้องด้วย พี่เทพมาช่วยน้องที น้องกำลังจะโดนข่มขืน พี่เทพ? ซ้ำยังตะโกนร้องหาพี่ชายที่ชื่อขั้นเทพอีกด้วย
?นี่เธอเงียบ...เงียบ ฉันบอกให้เงียบเดี๋ยวนี้?
?ช่วยด้วย ไม่นะ อย่าทำอะไรฉันนะ? ปากตะโกนสองมือยกขึ้นปิดหน้าอกตัวเอง เอาเสียงดังเข้าข่ม ผู้ชายคนนี้คงไม่กล้าทำอะไรถ้าผู้หญิงไม่เต็มใจ แล้วถ้าเขาเป็นจำพวกชอบเห็นผู้หญิงที่มีความหวาดกลัวล่ะ เธอจะทำอย่างไร ?ถ้าคุณทำอะไรฉัน รับรองเรื่องถึงตำรวจแน่ ต่อให้รวยล้นฟ้ามาจากไหนฉันก็จะไม่มีวันยอมเด็ดขาด?
ยังไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน ผู้ชายหน้าฝรั่งตัวสูงใหญ่มาก ถ้าเปรียบเทียบกับเธอแล้ว เธอคงสูงแค่หน้าอกเขาเป็นแน่
ถ้าเขาคิดจะทำอะไรเธอ เพียงแค่ดีดนิ้วก้อยร่างเธอคงกระเด็นไปสามเมตรแล้วมั้ง หญิงสาวคาดการณ์ โธ่เอ๊ย...ไม่น่ากินเหล้าเลย ถ้ามีสติคงไม่โดนหิ้ว พ่อแก้วแม่แก้ว พี่เทพของน้อง น้องจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว จะเชื่อฟังคำเตือนของพี่
?นี่เธอ? นายหัวกระทิงไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อตุ๊กตายางพูดได้มีชีวิตตัวนี้ดี โผล่ออกจากกล่องได้ก็เอาแต่ร้องตะโกนโวยวายทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร การแต่งตัวว่าน่าปวดหัวแล้ว เสียงร้องอันแหลมแสบแก้วหูยังสร้างความปวดกบาลให้เขาอีกหลายเท่าตัว
?อย่านะไอ้บ้าหื่นกาม อย่าเข้ามาข่มขืนฉันนะ ฉันจะไม่ยอมแกง่ายๆ เด็ดขาด ถ้าฉันรอดไปได้ รับรองหน้าหล่อๆ แต่งตัวดีๆ อย่างแกได้เข้าไปนอนในคุกแน่? ตุ๊กตายางขู่กระทิงฟ่อๆ ?อย่านะอย่าเข้ามา ฉันสู้ตายจริงๆ ด้วย? พอเห็นเขาก้าวขยับขา เธอก็โวยไปทันทีพร้อมกับขยับหนี ระแวงระวังตัวเองอย่างสูง
คนตรงหน้าหรือตุ๊กตายางที่เขาเข้าใจไม่ยอมสงบปากสงบคำเพื่อคุยกันสักที นายหัวกระทิงไม่รู้จะทำอย่างไร เขาไม่เคยเจอสถานการณ์ทุเรศบัดซบอย่างนี้ ดังนั้น...เป็นไงเป็นกันวะ
ร่างที่ทั้งตัวหนาและสูงใหญ่ก้าวพรวดเดียว ปราดเข้าไปประชิดตัวตุ๊กตายางที่เพื่อนสนิทชื่อขั้นเทพชี้แจงคร่าวๆ มาตามโทรศัพท์ว่านั่นคือ ?ของขวัญ? วันเกิดสำหรับเขา มือใหญ่แข็งแรงครอบครองท้ายทอยหญิงสาวที่ดีแต่อ้าปากพะงาบๆ ต่อว่าเขาโดยไม่ฟังใดๆ ทั้งสิ้น อีกมือควบคุมมือน้อยจับบิดไพล่หลังด้วยมือเพียงข้างเดียวอันทรงพลังมหาศาล เธอออกแรงต่อต้านการปราบพยศจากเขา แต่แรงที่ต่อต้านคนตัวใหญ่ช่างไม่ต่างกับแมลงตัวเล็กๆ น่ารำคาญ
นายหัวผู้ทรงอำนาจใช้ปากร้อนปิดปากจัดจ้านเอาแต่ด่าๆ ของผู้หญิงคนนี้ได้ด้วยชั้นเชิงเหนือกว่า ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าไปลองชิมรสลิ้นคนด่าเก่งดูซิว่าจะอร่อยอย่างสาวปากหวาน แสนเอาอกเอาใจที่เขาพบมาหรือไม่ ปลายลิ้นนายหัวช่างทำการอุกอาจบุกเข้าช่องทางร้อนระอุของผู้ต่อต้าน
ทีแรกเขาคิดว่าคงจะเค็มไม่ได้เรื่อง ทว่า...กลับผิดคาดจากความคิด ปากคนด่าเก่งหวานซาบซ่าน เต็มไปด้วยรสชาติอ่อนละมุนจนไม่อยากหยุดการจูบ ปลายลิ้นไล่ต้อนลิ้นเล็กที่กำลังพยายามหนี แต่เขา...นายหัวกระทิงผู้ดุดันมากด้วยอำนาจทั้งอิทธิพล ไม่ยอมให้สิ่งที่หมายมาดได้หลุดไปจากการอยากลองอยากลิ้มเป็นแน่แท้
เขาเพียงอยากปิดปากเธอ แต่ทำไมเผอเรอทำเกินกว่าเหตุ เพราะการดิ้นรนไม่ยอมเขาอย่างนั้นหรือ หรือรสชาติของเธอช่างเร้าใจ ความสดใหม่คือสิ่งที่เขาไม่เคยสัมผัส ยิ่งจูบยิ่งบดขยี้ แล้วยิ่งได้พันเกี่ยวไล่ต้อนลิ้นเล็ก เขาก็ยิ่งสนุกสนาน ไม่อยากถอนจูบออกหรือถอนลิ้นออกจากปากหวานของตุ๊กตายาง ของขวัญมีชีวิตแต่อย่างใด
?ปล่อย...แก...แก!!? อาการความร้อนพุ่งทะยานกระแทกร่าง สนุกสนานไปกับการจูบของเขาคืออะไร เขาทำให้เธออ่อนแรง ไม่มีสิทธิ์ต่อต้านการกระทำหยาบช้าใดๆ จากเขาทั้งสิ้น
สองมือยังคงถูกมือใหญ่ร้อนระอุบังคับไพล่ไว้ด้านหลัง ใบหน้าเขาห่างกับเธอแค่ปลายจมูก เธอมองดวงหน้าคมคร้ามล้อมกรอบด้วยตอหนวดไม่ถนัด เชื่อว่าคงเมาจูบอันเป็นสัมผัสที่เธอไม่เคยพานพบ เธอไม่เคยยอมรับกับเพื่อนๆ เลยสักครั้ง ถ้าเพื่อนคนไหนถามเรื่องการจูบ เธอมักตอบไปเสมออย่างก๋ากั๋นว่าจูบมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่นั่นคือเรื่องโกหก เธอช่างอ่อนเดียงสากับเรื่องอย่างว่าจนกลายเป็นเด็กอนุบาล
ว่าแต่ผู้ชายคนนี้คงไม่รู้เรื่องที่เธอจูบไม่เป็น ซ้ำยังไม่เคยจูบแน่นอน
?ไม่เคยจูบใช่ไหม? เขาผละใบหน้าหล่อล้อมด้วยตอหนวดครึ้มห่างจากหญิงสาวเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามราวกับรู้อะไรบางอย่าง
?คะ...เค้ย? ใบหน้ารกไปด้วยการแต่งแต้มเชิดหน้าท้าทาย ตอบอย่างภาคภูมิ ก็เคยครั้งแรกนี่ไง ถือว่าเคยแล้ว
?หึหึหึ? นายหัวกระทิงหัวเราะหึๆ ในลำคอ แต่ไม่ได้ว่าอะไรคนที่ไม่เคยจูบ จูบแบบนี้บอกเคย ถ้าเชื่อก็นับว่าบ้าเต็มที เขาขยับออกห่างร่างหอมนุ่ม
?นี่คุณ ตกลงคุณจับตัวฉันมาใช่ไหม ใช่ๆ คุณคงวางยาฉัน พวกเสี่ยหื่นเห็นผู้หญิงหน่อยไม่ได้ ทำลุ่มล่าม ฉวยโอกาสตอนที่ฉันเมาล่ะสิ?
?ไปกันใหญ่แล้ว? นายหัวกระทิงอ่อนใจกับคำพูดหญิงสาว จูบเมื่อกี้ไม่ทำให้เธอสงบปากลงเลยใช่ไหม แสดงว่าดื้อมาก คราวนี้คงต้องกำราบให้อยู่หมัด
เท่าทันความคิด นายหัวตัวใหญ่พุ่งร่างเข้าไปหาตุ๊กตายางอีกครั้ง แล้วครั้งนี้เขาจะสั่งสอนเธอให้สงบปากมอมๆ ให้จงได้ สองมือกอบกุมดวงหน้าแต่งจัด คอยดูเถอะ เขาจะลอกคราบแม่ของขวัญชิ้นนี้จนไม่เหลือสิ่งรกหูรกตาให้หมดจด
ปากได้รูปประกบปิดแน่น เบียดกับปากอิ่มอวบเหมาะเจาะในการสั่งสอนเพื่อให้หลาบจำ เขาบดเบียดแรงขึ้น ขยี้หนักหน่วงกว่ารอบแรก ทั้งหมดคือความต้องการลึกๆ ที่จู่ๆ ความรู้สึกนั้นก็พุ่งทะยานวกวนในร่างกาย จึงหมายอยากได้จูบจากหญิงสาวอีกรอบ
สองมือเล็กทุบอกแกร่ง ออกแรงทุบเท่าไหร่เขายิ่งเบียดร่างแนบแน่นกับเธอมากขึ้นเท่านั้น แรงที่ทุบจึงค่อยๆ เบาลงตามเรี่ยวแรงที่ได้ถูกดูดกลืนด้วยปาก คนตัวใหญ่กำลังพยายามซอกซอนลิ้นร้อนเข้าสู่ช่องปากของเธอ หัวใจดวงน้อยกระโดดโครมๆ อยู่ในอก ราวกับว่ายน้ำจากฝั่งไปยังเกาะกลางทะเล
จากทุบเปลี่ยนมาขยุ้มจิกลงกับเสื้อเชิ้ตเนื้อดีราคาแพงบนตัวเขา อาการวาบหวิวในอกพลันตีตื้น แล้วตอนนี้เธอกำลังหายใจไม่ทัน กระทั่ง...ร่างบอบบางในการกกกักแน่นของชายหนุ่มอ่อนแรงทรุดฮวบเข้าสู่ลำแขนแข็งแรง นายหัวกระทิงตกใจจึงรีบถอนลิ้นออกจากช่องปากแสนหวาน ใช้ลำแขนประคองร่างบอบบางอ่อนระทวยไว้
?คุณ...คุณ คุณ!!? นายหัวเรียกหญิงสาวในอ้อมกอด ?เป็นลม? คราวนี้จะทำอย่างไรดี เป็นลมไปซะแล้ว อ่อนหัดชะมัด เขาต่อว่าหญิงสาวที่มีท่าทีไม่กลัวใคร ท่าดีแบบนั้นกลับเปราะบางทั้งที่บอกว่าตัวเองจูบเก่งอยู่ในใจ คิดอะไรไม่ออกที่เห็นคนเป็นลมต่อหน้าต่อตา โดยมีเขาเป็นสาเหตุทำให้เธอเป็นลม จูบของเขาเป็นยาพิษอย่างนั้นหรือ มือที่เคยมุ่งมั่นพลันสั่น วางไม่ถูกที่ถูกทาง เขาควรทำอย่างไรกับร่างอ่อนแรงที่อยู่ในอ้อมแขนดี
เขาค่อยๆ วางเธอลงกับพื้น หาผ้านุ่มๆ ชุบน้ำในห้องน้ำแล้ววิ่งออกมาด้วยอาการรีบร้อน พร้อมสำนึกผิดในใจที่บ้าตักตวงรสชาติหญิงสาวมากเกินไป เขาย่อตัวนั่งลงข้างร่างที่นอนนิ่งอยู่ ลงมือเช็ดใบหน้าหญิงสาว เช็ดไปดวงตาก็จับจ้องมองเธอไป
ใบหน้าที่ถูกผ้าหมาดๆ เช็ดค่อยๆ ขยับแพขนตากระพือขึ้นลง พอลืมตาขึ้นแล้วยังเห็นหน้าผู้ชายคนเดิม ปากน้องหนูที่เพิ่งฟื้นจากการเป็นลมพลันจะอ้าด่าเขาอีกรอบ
?อ๊ะ...อย่าด่าเชียว ขืนด่าอีกคำเดียวจูบแน่? คนโดนด่าเป็นชุดชี้หน้าห้ามคนด่าได้ว่องไว ขืนด่าอีกรับรองจูบไม่ยั้งแน่
?ไม่ด่าก็ได้ งั้นก็ปล่อยฉันไป? คราวนี้คงต้องสงบปากไว้ ถ้าขืนปากเปราะด่าเขาเป็นชุดอีกคงโดนจูบจนเป็นลมแบบนี้ คนที่ไม่เคยกลัวใครหงอโดยพลัน ร่างกายที่ถูกก่อกวนยังร้อนผ่าวราวกับเขายังแตะต้องร่างกายเธออยู่เลย
?ฉันไม่ได้จับเธอมา จะปล่อยได้ยังไง? นายหัวกระทิงลอยหน้าลอยตา เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงสีหน้ายียวนกวนประสาทคนอื่นเป็น
?เห็นๆ อยู่ว่าฉันอยู่ในห้องเดียวกับคุณ ไม่ใช่คุณจับตัวฉันมา แล้วใครจะจับมา? อยากด่าว่าเขาหน้าด้าน ไอ้ลามก หื่นกาม บ้าตัณหา แต่เกรงกลัวจะโดนทำอย่างเมื่อกี้อีก จูบจนหายใจหายคอไม่ทัน คนบ้าอะไร...ครั้นพอนึกถึงบทจูบรุนแรงจากเขา ความเขินอายได้แทรกซึมในจิตใจโดยไม่รู้ตัว ส่งผลถึงพวงแก้มเนียนใสที่ได้ถูกแต่งแต้มจากเครื่องสำอางร้อนผ่าวขึ้นฉับพลัน เธอแสดงออกด้วยการเมินหน้าหนีสายตารุ่มร้อนของชายตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว งดเว้นการสบตาคมกริบดุดันคู่นั้น ดวงตาที่ไม่มีแววของคลื่นความรู้สึกใดๆ ก่อตัวขึ้นเลย เขาวางหน้าได้นิ่งราวกับท่อนไม้ที่อยู่ในทะเลน้ำแข็ง
?อยู่นิ่งๆ ฉันจะโทร.หาคนที่พาเธอมาที่นี่? ยังไม่ทันที่เขาจะกดโทร.ออก สายเรียกเข้าก็ดังสวนขึ้นก่อน นิ้วแกร่งกดรับพร้อมกับแสยะยิ้มกับหน้าจอโทรศัพท์ ?ว่าไงไอ้เพื่อนเวร?
?พอฉันโทร.มาก็เรียกซะหวานเชียว ว่าแต่ของขวัญที่ฉันส่งไปถูกใจไหมวะ?
?ถูกใจกะผีอะไรล่ะ ว่าแต่แกส่งของพรรค์นี้มาทำไมวะ ของดีกว่านี้ไม่มีแล้วหรือไง?
?เดี๋ยวๆ เกิดอะไรขึ้น ยัยหนูตะวันทำอะไรแก? ขั้นเทพเชื่อว่าน้องสาวตัวเองพอฟื้นขึ้นมาคงไม่อยู่นิ่ง ด้วยรู้ทั้งรู้จึงรีบโทร.หานายหัว
?วะ...ว่าไงนะ นั่นทิพย์ตะวันเหรอ? เด็กอ้วนมอมแมม ผมเผ้ายุ่งยิ่งกว่ารังนก ขี้มูกเกรอะกรังเมื่อตอนเขาอายุสิบเจ็ด คือผู้หญิงทรวดทรงองค์เอวบอบบาง จับด้วยมือเดียวสามารถรัดรอบเอวคอดๆ นั้นได้คนนี้นี่นะ
ตอนนั้นทิพย์ตะวันอายุห้าขวบ เขาจำได้ว่าบ้านขั้นเทพมีพี่น้องสี่คน ขั้นเทพเป็นคนโต ต้องดูแลน้องๆ ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด ยกเว้นน้องคนเล็กเป็นน้องสาว นับเป็นหัวแก้วหัวแหวนของบ้าน พี่ๆ ทั้งสามจึงรักและคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา ด้วยมีพี่ชายถึงสามคนจึงทำให้ทิพย์ตะวันชอบเล่นซน ไม่สนใจการดูแลเนื้อตัว
ตอนที่เขาไปเห็น เด็กทิพย์ตะวันดูแย่มากๆ ตัวอ้วนกลม กินเก่ง สองมือถือของกินไว้ตลอดเวลา ขี้มูกหยดย้อย เรียกเขาพี่ๆ เขายังไม่อยากจะหันไปคุยด้วย สู้สาวๆ เรียกไม่ได้ แล้วไอ้เพื่อนบ้าดันส่งน้องตัวเองมาเป็นของขวัญวันเกิดเขา นับว่าดูถูกกันมากเกินไปแล้ว
นายหัวกระทิงคุยโทรศัพท์กับขั้นเทพ สายตาก็มองไปยังสาวน้อยผู้แต่งเนื้อแต่งตัวไม่เข้าตาเอาซะเลย ทุกอย่างขัดตาไปหมด ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
?คืออย่างนี้นะเว้ย...? ขั้นเทพเว้นจังหวะการพูด ?หนูตะวันของบ้านแสบมาก ดื้อ ซน และเอาแต่ใจตัวเองสุดๆ ชี้ไปทางซ้ายแม่จะย้ายไปขวา บอกไม่ให้เที่ยวกลางคืน มันอันตรายก็เที่ยว บอกไม่ให้ทำงานในวงการบันเทิงก็ดอดไปรับงานพริตตี้ นี่ยังร่ำๆ จะไปถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ วีรกรรมมีอีกเยอะ ฉันสาธยายสองนาทีนี้ไม่หมดแน่ๆ?
?แล้วยังไง?
?ฉันกับแม่ปรึกษากันแล้ว ต้องหาทางพาตัวหนูตะวันออกจากกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม?
?แล้วไงอีก?
?ฉันเล่าเรื่องของแกให้แม่ฟัง แม่อยากฝากฝังหนูตะวันกับแก ฉันเองก็เห็นด้วย อยากให้แกช่วยกำราบน้องคนเล็กของฉัน ฉันรู้ว่าแกทำได้และต้องทำได้ดี อีกอย่างการที่ฉันส่งน้องฉันไปอยู่ในความดูแลของแก ยังไงก็ต้องปลอดภัย พร้อมทั้งหนูตะวันก็จะไม่มีโอกาสได้กลับมารวมกลุ่มกับเพื่อนกลุ่มนี้ สร้างความปวดหัวให้ฉันกับแม่แน่ๆ ฉันเชื่อมือแก?
?แกต้องการให้ฉันสั่งสอน ดูแล กำราบน้องสาวแก?
?ถูกต้องแล้วเพื่อน?
?แล้วเท่าที่แกพล่ามมา ดูท่าหนูตะวันของแกไม่ใช่เล่นๆ แกยังจะหาเรื่องปวดหัวมาให้ฉันเหรอวะ งานฉันก็ล้นมือทำไม่หวาดไม่ไหวอยู่แล้ว?
?แกมีคนเยอะ อย่างน้อยก็โยนหนูตะวันไปทำงานในโรงแรม ให้ลูกน้องหรือคนของแกดู ที่สำคัญต้องจับตาดูหนูตะวันอย่าให้หนีกลับมากรุงเทพฯ เด็ดขาด? ไม่ใช่แค่เรื่องหนีเที่ยวหรือสร้างความปวดหัว เขายังกันน้องสาวออกจากผู้ชายที่ตามจีบน้องเพราะคุณสมบัติไม่เข้าตาอีกด้วย คนเดียวคนแรกที่ขั้นเทพคิดถึงคือนายหัวกระทิงผู้ดุดัน เฉียบขาด ดังนั้นทิพย์ตะวันจะไม่มีวันหนีพ้นการปกครองของนายหัวกระทิงออกมาได้ ถ้านายหัวไม่อนุญาต
ขั้นเทพจึงสาธยายความต้องการของตัวเองอีกยาวยืดเพื่อให้นายหัวร่วมมือในการกำราบน้องสาวตัวแสบคนนี้ร่วมกับเขา
?เอาล่ะ ฉันขอคุยกับยัยหนูตะวันของฉันหน่อย? ขั้นเทพขอคุยกับน้อง
นายหัวกระทิงหันไปมองสาวน้อยที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่กับม้านั่งหนังนุ่มๆ ในห้องนอนส่วนตัวของเขา ร่างสูงใหญ่เดินไปหยุดตรงหน้ามุ่ยๆ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้อีกฝ่าย เธอแหงนหน้ามองเขาด้วยสีหน้าแววตาไม่พอใจ ไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน เขาเป็นใครทำไมเธอถึงได้มาอยู่ห้องเดียวกันกับเขา ซ้ำยัง...ยังโดนเขาจูบจนเป็นลมอีกด้วย
?ของเธอ?
?ของฉัน ใคร...?
?คนที่พาเธอมาที่นี่ไงล่ะ อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าตัวเองมาได้ยังไง ใครเป็นคนพามา? นายหัวยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าสาวน้อยที่เคยเป็นเด็กอ้วนน่ารังเกียจมาก่อน ถ้าเขาต้องปกครองผู้หญิงคนนี้จริงๆ ผมสีชมพู เสื้อยืดโคร่งๆ กางเกงยีนขาดๆ จะไม่มีวันได้อยู่บนตัวเธอเด็ดขาด
?พี่เทพ? ทิพย์ตะวันตาโตที่เห็นชื่อพี่ชายปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ผู้ชายตัวใหญ่ ผู้มีหน้าตากระเดียดไปทางฝรั่งผสมไทย ดวงตาสีชาร้อนแรงราวกับชาร้อนที่ชงจากกาใหม่ๆ เธอไม่กล้าสบตาสีชาคู่นั้นนาน รู้สึกได้ถึงไอปีศาจ เวลาจ้องมองทีไรรู้สึกร่างกายร้อนผ่าวๆ จนแทบละลายกลายเป็นไอน้ำลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นเมฆ รอการตกลงมาเป็นฝนทุกทีไป
?คุยสิ อยากรู้ไม่ใช่หรือ อย่าเอาแต่ปรักปรำฉันสิ ให้ความยุติธรรมกับฉันหน่อย? พูดจบเขาก็มองหน้ามองปากหญิงสาว แล้วแกล้งแลบลิ้นเลียปาก ราวกับจะขู่คนปากเก่งตรงหน้า ถ้าพูดไม่ดีจะโดนจูบจนเป็นลมอีกครั้งแน่
ร่างบอบบางขยับหนีไปจนมุมอยู่ตรงพนักวางแขนโซฟาราคาแพงหนังดีเลิศเนื้อนิ่ม ในมือกุมโทรศัพท์เครื่องบางไว้ พลางคิดไปไกลว่าเกิดอะไรกับพี่ชายที่รักเธอเท่าแก้วตากันแน่ เขาจึงได้ส่งเธอมาอยู่ในห้องผู้ชายคนนี้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นายหัวกระทิง คาร์ลอส เจ้าของธุรกิจโรงแรมยักษ์ใหญ่ผู้เด็ดขาดดุดันพลันต้องมาดหลุด เมื่อเจอฤทธิ์ของตุ๊กตายางดิ้นได้ที่ถูกส่งมาในกล่องของขวัญวันเกิด ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าของร่างงามสะพรั่งตรงหน้าคือ ทิพย์ตะวัน เด็กอ้วนจอมตะกละที่เขาไม่อยากแม้แต่จะเสวนาด้วยในตอนนั้น ทว่าตอนนี้กลับต้องมาปราบพยศแม่จอมแสบตามคำขอร้องของพี่ชายเธอ แม้จะไม่เต็มใจ แต่ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่กลีบปากบางนั้นเคลื่อนไหว เขาเป็นต้องรั้งเอวคอดเข้ามาประทับจูบหนักหน่วงสั่งสอนเสียทุกครั้งไป จนหัวใจแกร่งของกระทิงดุต้องสั่นไหวหลังจากที่เคยด้านชาไปเกือบสี่ปี
