เสียงดนตรีในห้องเต้นรำ เสียงดนตรีจากสนามด้านนอก...เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะร่าเริงระริกระรี้เหล่านี้ดังอยู่รอบคฤหาสน์ใหญ่ชานเมือง...
มันเป็นวันฉลองครบรอบแซยิดของเศรษฐีนีใหญ่ นามว่าปุณยาพร ราชวัน
ลูกหลานและเพื่อนฝูงพากันมาร่วมงานนี้ด้วยมากมายทั่วทุกสารทิศ...และแน่นอน มันก็ทำให้คฤหาสน์อันใหญ่โตโอ่อ่าคับแคบไปถนัดใจ...
ยุธิส ราชวันเดินออกมาจากห้องเล็กๆ เชิงบันไดซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ถือเป็นที่ ?รวมญาติมิตร? กันตามธรรมเนียม...
คุณหญิงคุณนายเหล่านี้บางคนชอบเล่นไพ่เอามากๆ ไปงานไหนก็ต้องมีวงเช่นนี้แทบทุกงาน รวมทั้งที่นี่...
ชายหนุ่มพาผู้เป็นย่าเข้าไปส่งวง ?ญาติมิตร? ดูแลท่านอยู่สักประเดี๋ยวก็เลี่ยงออกไปนอกห้อง ขณะเดียวกันนนั้นสายตาของเขาเหลือบขึ้นไปเห็นชายผ้าสีเขียวตองอ่อนสะบัดพลิ้วหายไปหลังประตูห้องชั้นบนนั้นพอดิบพอดี...
คงจะเป็นลูกหลานคนใดคนหนึ่งของย่าปุณยาพรล่ะกระมัง...เขาคิดขณะที่บ๋อยนำถาดเครื่องดื่มเดินผ่านมา...ยุธิสหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ...และรู้สึกพอใจในรสชาติเครื่องดื่มชั้นหนึ่งนั้น
เขาสอดมืออีกข้างลงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินออกไปหยุดอยู่ที่บานประตูกว้าง...
เขายืนอยู่ตรงนั้น...อิงไหล่...กวาดตาไปกับประตูรอบๆ สนามหญ้าเบื้องหน้าที่เวลานี้มีผู้คนเริ่มบางตาลงบ้างแล้ว...
เขายกเครื่องดื่มในมือขึ้นจิบ...มองดูหนุ่มสาวที่หันหน้าไปยังวงดนตรีร็อคกลางสนาม บางส่วนกำลังออกไปวาดลวดลายกันเต็มฝีเท้า...
งานแบบนี้มีเรียงมาเป็นตับ...เกือบทุกวันสำหรับชีวิตหนุ่มโสดเนื้อกำลังหอมฟุ้งแบบเขา...
ยุธิสกลับมาพักผ่อนอยู่ในเมืองไทยชั่วระยะหนึ่ง...ก่อนจะกลับไปลุยงานหนักที่เมืองนอกตามเดิม...และช่วงที่กลับมาวุ่นวายพอควร...
ที่ยุ่งยากใจที่สุดเห็นทีจะเป็นเรื่อง ?เจ้าสาว? ในอนาคตของเขา...
ทั้งนี้ก็เพราะคุณย่ากังวลหนักหนาว่ายุธิสจะไปคว้าแหม่มกะปิมาให้...เพราะชีวิตส่วนใหญ่ของเขาอยู่ที่นั่น...คุ้นเคย...และพบปะกับหญิงสาวเหล่านั้นอยู่เป็นประจำ
ยุธิสไม่คิดว่าจะเป็นที่เดือดร้อนกับใครเลยถ้าเขาจะมีเมียแหม่ม...
แต่จะว่าไป...รสนิยมของเขาก็ออกไทยๆ ซะมากกว่า...ขนาดมีชีวิตอยู่เมืองนอกมาตั้งแต่เด็กจนบัดนี้อายุปาเข้าไปร่วมสามสิบปี...เขาก็ยังไม่เจอแหม่มที่คิดว่าจะเอามาเป็นเมียได้สักคน...
ไอ้ชอบน่ะมีล่ะ เยอะแยะจนจาระไนไม่หมด แต่ที่ประทับใจจนกลายเป็นความรักและอยากแต่งงานด้วยนั้นยังไม่เคยปรากฏ...
เขาเป็นคนรูปหล่อ...ถึงไม่เฟี้ยวอย่างพระเอกหนัง...แต่ผู้หญิงก็ทิ้งหางตาให้ทุกรายนั่นแหละ
หน้าตาของยุธิสเป็นแบบผู้ชายแท้...ใบหน้าเรียว...โหนกแก้มสูง...ผมดำ...สันกรามขึ้นเหลี่ยมคมสัน...ริมฝีปากได้รูปเม้มสนิทอยู่เสมอ...
แม่ยายหลายต่อหลายคนมองเขาอย่างอยากได้เป็นลูกเขย...เพราะนอกจากจะหล่อเก๋เท่สมาร์ทแล้ว เขายังมีหลัก
มีฐาน การงาน และเงินเป็นถุงเป็นถัง...
ไอ้ประการหลังสุดดูเหมือนจะสำคัญที่สุดในความคิดของทุกคน...
มีหนุ่มรุ่นน้องคนหนึ่งควงสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มผ่านมา...เจ้าหนุ่มนั่นทำท่าเหมือนไม่เห็นเขาทั้งๆ ที่เห็น...แต่สาวเจ้ากลับหันมาส่งยิ้มหวาน แม้จะเดินเลยไปแล้วตั้งหลายก้าว...
ยุธิสยิ้มตอบ หรี่ตาให้นิด พร้อมกับยกแก้วในมือขึ้นให้หล่อน
เขาเป็นคนสูง...สูงเต็มที่ถึงหกฟุตหนึ่งนิ้ว...ไหล่กว้างสอบลงรับกับเอว แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อตึง สะโพกเพรียวแข็งแรงและช่วงขายาวได้สัดส่วน
พูดง่ายๆ ว่านอกจากจะมีหน้าตาสะดุดตาอย่างร้ายกาจแล้ว...ก็ยังมีบุคลิกและท่าทางสะดุดใจสาวๆ ด้วย
ชายหนุ่มหมุนตัวกลับคิดว่าจะเดินเข้าไปเที่ยวในห้องบอลลูมเสียหน่อย...เสียงเพลงที่กำลังบรรเลงอยู่ในจังหวะแทงโก้เร้าใจเขาจนไม่อยากจะยืนอยู่เฉยๆ ต่อไป...
หากแต่พอหมุนตัวก้าวจะเดิน ประตูห้องด้านบนที่ยุธิสเห็นชายกระโปรงสีเขียวตองนั้นแวบหายเข้าไปเมื่อครู่ก็เปิดออกอย่างระวัง...
อะไรบางอย่างบอกยุธิสให้หลบเข้าไปยืนอยู่ข้างหลังกระถางลายครามใบใหญ่ และพุ่งสายตาไปยังบานประตูที่ค่อยๆ แง้มออกนั้นอย่างแน่วแน่...
เขาเห็นส้นสูงสีขาวค่อยๆ ก้าวออกมาแล้วบานประตูก็ถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว...
ยุธิสเหลือบสายตาผ่านปลีน่องเรียวขึ้นไปตามตัว กระโปรงบานปิดแค่เข่า...สูงขึ้นไปจนถึงเอวเล็ก...และอกอิ่มที่ถูกซ่อนไว้ในเสื้อผ้าชุดสีเขียวตองอ่อนหวานนั้น...
ดวงตาของชายหนุ่มเลื่อนขึ้นไปถึงลำคอระหงกลมกลึง และเห็นใบหน้าเรียวรูปไข่ของสาวเจ้าเข้าถนัด...
นี่ล่ะที่ทำให้เขาชะงักนิ่งอยู่ชั่วขณะ...ทั้งใจและกาย...
สาวน้อยผู้ตกเป็นเป้าสายตามีกระเป๋าถือคล้องอยู่ในมือของหล่อน...เป็นกระเป๋างานกลางคืนค่อนข้างใหญ่ และเชยสักหน่อยในสายตาทุกคน...และแม้แต่การแต่งตัวของหล่อนก็ค่อนข้างเชย...หรือจะพูดให้ดี ก็ธรรมดาจนไม่เป็นที่สะดุดตาใครสักเท่าไหร่...
สิ่งที่เรียกร้องความสนใจจากเขาที่สุดดูเหมือนจะเป็นดวงหน้าของหล่อน...ทรงผมที่เกล้าสูงไปผูกเป็นหางม้าสั้นๆ ด้านหลังนั้นอวดดวงหน้าเนียนงามเป็นอย่างยิ่ง...ไม่ว่าจะเป็นหน้าผากมน...คิ้วโก่งดวงตากลมโต...จมูกเล็กๆ หรือริมฝีปากเต็มอิ่มที่เผยออยู่น้อยๆ ยามเผลอตัวนั่น...
สวย! ยุธิสคิด...และจับตามองหล่อนซอยเท้าลงบันไดมาด้วยท่าทางระมัดระวังราวกับนักย่องเบา...
นักย่องเบา...ยุธิสบอกตัวเองขำๆ ขณะที่เคลื่อนตัวเข้าไปหลังม่านหนาสีน้ำเงิน ซ่อนร่างสูงให้พ้นไปจากสายตาของหล่อนโดยสิ้นเชิง...
แบบนี้ต้องตามให้รู้ว่าหล่อนเป็นใคร...มาจากไหน...ลูกหลานใครกันแน่...
ร่างบางกลมกลึงในชุดสีเขียวตองผ่านออกประตูไปแล้วยุธิสจึงออกจากที่ซ่อน...กระดกแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้นรวดเดียวหมด แล้วก้าวตามหล่อนไปอย่างรวดเร็วพอกัน
เขาอยากรู้ว่าสาวน้อยคนนั้นจะไปที่โต๊ะไหน...หล่อนเป็นเพื่อนกับใคร...และเขามีทางจะรู้จักหล่อนได้ยังไง...
ปลายเท้ายาวของยุธิสก้าวตามหล่อนไปห่างๆ...มองเห็นเสื้อเขียวๆ แวบเลี้ยวออกไปตามทางเดินข้างตึก
หล่อนเดินเร็ว...เดินเฉย...ไม่มองและไม่ทักใครเลย กระทั่งประตูทางเข้าซึ่งมีป้อมยามเล็กๆ ตั้งอยู่...
หญิงสาวหยุดยิ้มกับยามแล้วส่งกุญแจรถให้อีกฝ่ายจัดการเลื่อนรถมาจอด
ยามหนุ่มอัธยาศัยดีก็บริการให้อย่างรวดเร็ว...
ยุธิสเดินตรงไปยังหล่อนขณะที่หญิงสาวกำลังรอรถอยู่...
?สวัสดีครับ...ทำไมรีบกลับนักล่ะครับ...?
คำถามของเขาทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งจนเห็นได้ชัด...ก่อนที่ค่อยๆ หันหน้ามามองยุธิสช้าๆ...
ชายหนุ่มถอนใจเฮือกเมื่อเห็นหล่อนใกล้ๆ โดยถนัด...โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยที่มองสบมายังเขาราวกับตากวางที่ระแวดระวังอย่างเห็นได้ชัด...
ยุธิสเกือบจะบอกหล่อนว่าเขาไม่เป็นอันตรายกับใครหรอก...โดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ แบบนี้...ก็นึกในเวลาต่อมาว่าหล่อนทำท่าราวกับเขาจะเป็นผู้ร้ายคอยเล่นงานหล่อน...
?ผมชื่อยุธิส ราชวัน...คุณคงไม่รังเกียจที่จะบอกชื่อให้ผมทราบบ้างใช่ไหมครับ?
เขาถามและหลุบเปลือกตาลงมองเรียวปากอิ่มที่เผยอค้างอย่างลืมตัวของหล่อน...
หญิงสาวเม้มปาก ที่เขาจับตามองอยู่นั้นเข้าหากันชั่ววินาที...หันหน้าไปมองหายามที่ควรจะนำรถมาให้หล่อนเสียตั้งนานแล้ว...ก่อนจะหันกลับมามองผู้ชายร่างสูงสะดุดตาที่กำลังจ้องมองมาอย่างค้นคว้าตรงหน้าอีกครั้ง...
?ดิฉันชื่อ...เอ้อ...รญา...?
?รญา...?
เขาทวนคำแล้วเลิกคิ้วสูง
?ค่ะ...?
?นามสกุลล่ะครับ...ผมอยากทราบว่าเป็นลูกหลานของใคร...?
คำถามนี้ทำให้อีกฝ่ายคอแข็งขึ้น...ก่อนจะเหลือบตาขึ้นสบกับดวงตาคมกริบของเขานิ่ง...
?ไม่ได้เป็นลูกหลานของใครที่ใหญ่โตอย่างที่คุณคิดหรอกค่ะ...?
?ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น...? ยุธิสรีบแก้ ?ผมเพียงแต่...?
เขายังพูดไม่ทันจบรถของหล่อนก็ถูกนำเข้ามาจอด...ยุธิสกะพริบตามองรถเก๋งคันกะทัดรัดกลางเก่ากลางใหม่ที่หญิงสาวเปิดประตูขึ้นไปนั่งโดยไม่หันมาฟังคำตอบของเขาสักนิด...
?สวัสดีค่ะคุณยุธิส...เราคงไม่ได้พบกันอีก...?
หล่อนบอกเขาก่อนที่จะออกรถไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ยุธิสขมวดคิ้วมุ่น...
ทั้งนี้ก็เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำท่าเย็นชาใส่เขาเช่นหล่อน...และไม่มีใครทำท่าตัดสัมพันธ์กับเขาตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มเช่นนี้ด้วยซ้ำ...
ชายหนุ่มถอนใจเฮือก...นึกว่าตัวพลาดเสียตั้งแต่ก้าวแรกอย่างไม่น่าเชื่อ...
ทั้งนี้ก็เพราะเขาคำนึงถึงขนบธรรมเนียมมากไปนั่นเอง...อยากรู้ว่าหล่อนเป็นลูกเต้าเหล่าใครจะได้เข้าถูก...เลยเจอตอเข้าเต็มเหนี่ยว...
หล่อนคงคิดว่าเขามองเรื่องเทือกเขาเหล่ากอเป็นสำคัญยิ่งกว่าตัวคน...
หล่อนคิดผิด...และเขาก็ไม่มีโอกาสอธิบายเสียแล้ว
ยุธิสยักไหล่กับตัวเองแล้วเดินกลับเข้าไปในงาน...ผ่านบ๋อยก็คว้าบรั่นดีเทรวมกันถึงสองแก้ว แล้วเดินเข้าห้องเต้นรำที่คิดเอาไว้แต่แรก
***
รญาคว้ากระเป๋าใบใหญ่ที่หล่อนจงใจถือเข้าไปในงานขึ้นมาวางไว้บนตักขณะที่ขับรถ สิ่งที่อยู่ในนั้นจะช่วยให้หล่อนและลุงกับป้าอยู่สบายไปอีกนาน...
หญิงสาวถอนใจเฮือกเมื่อนึกถึงผู้ชายร่างสูงที่เข้ามาทักเอาจวนขึ้นรถ เขาทำให้หล่อนตกใจ...แทบจะทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นหน้าเขาอย่างจังแบบนั้น...
เขามาจากไหน...และตามหล่อนมาตั้งแต่เมื่อไหร่...หรือว่าเพิ่งเห็น...รญาไม่อาจรู้ได้...
ชื่อเสียงเรียงนามของเขาค่อนข้างคุ้นหู...คงจะเป็นข่าวบ่อย...
รญาอ่านข่าวสังคมจากหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ...เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของงานของหล่อน หรือจะว่าไปอีกทีก็เป็นอาชีพ...?
หญิงสาวนึกถึงแล้วหัวเราะกับตัวเองเงียบๆ
ถ้าพ่อรูปหล่อคนนั้นรู้ว่าหล่อนมีอาชีพอะไร...เขายังอยากรู้จักหล่อนอยู่รึเปล่านะ
รญายิ้มให้ตัวเองอีกครั้งเมื่อนึกถึงดวงหน้าคมเข้มสะดุดตาของเขา...
ใช่...หล่อนสนใจ
มีผู้หญิงคนไหนไม่สนใจผู้ชายรูปหล่อบุคลิกดีแบบนั้น...แต่ก็แค่สนใจเท่านั้นล่ะ...มันไม่มีวันเป็นจริงไปได้ ไม่ว่าในความจริงหรือความฝัน
***
บ้านหลังเล็กที่รญาพารถเข้าไปจอดนั้นอยู่ชานเมือง และเวลานี้ก็มีวง ?ญาติมิตร? ตั้งอยู่ด้วยวงหนึ่งเช่นกัน...
หากวง ?ญาติมิตร? วงนี้เล่นได้เสียกันอย่างจริงจังทั้งๆ ที่ไม่มีจะเสีย...ไม่มีการเล่นเพื่อสนุกสนาน เพื่อผ่อนคลายหรือเพื่อฆ่าเวลา...แต่เป็นการเล่น ?ให้ได้? อย่างเดียว...
ทว่าผลที่ปรากฏก็มีแต่ ?เสีย? และ ?เสีย?...หมดตัว...ไม่มีจะกิน...ไม่มีเหลือแม้แต่จะเลี้ยงดูลูกเมียหรือผัว...
อบายมุขที่ทุกคนในครอบครัวของรญาพากันกระโดดลงไปชื่นชมกับมันอย่างยินดี...ทั้งลุงและป้าซึ่ง ?ครอบวิชา? ให้หล่อนก็อยู่ในวงนั้นด้วย...และกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย...
รานีเงยหน้าขึ้นเห็นหลานสาวก่อน...และสะกิดสามีซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ แทบทันที...ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองรญาด้วยความหวัง และวางไพ่เดินตามร่างบางขึ้นไปชั้นบนเงียบๆ อย่างรู้กัน...
รญาเดินขึ้นมาเกือบถึงห้องเมื่อประตูเปิดออก...
ร่างของคนที่ก้าวออกมาจากห้องของหล่อนเล่นเอาหญิงสาวหน้าตึงขึ้นมาทันที...
?นี่นายยง...ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามายุ่งในห้องฉัน...?
หล่อนแหวใส่หลานชายของผู้เป็นป้าอย่างโมโห...
หลายครั้งแล้วที่ยงยุทธถือโอกาสเข้าไปรื้อค้นวุ่นวายในห้องรญา...ของของหล่อนหายบ่อยๆ จนหญิงสาวโมโหด่าว่าให้เจ็บๆ หลายครั้ง...
ยงยุทธไม่เคยเถียง...แต่สายตาของเขาที่มองสบมาทำให้รญารู้ว่าอีกฝ่ายก็รอจังหวะตอบแทนหล่อนอยู่เหมือนกัน
แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาวุ่นวายกับรญาไม่ว่ารูปไหนแบบใด...
ยงยุทธแก่กว่าหล่อนสองสามปี...แต่ไม่มีงานมีการทำเป็นหลักเป็นแหล่งนอกจากจะเกาะกินอยู่แบบนี้...
?เออน่ะๆ มันก็ออกมาแล้ว...และไม่ได้เอาอะไรของแกมาไม่ใช่หรือ...?
นางรานีพูดแบบนี้มาทุกครั้งไม่ว่าข้าวของรญาจะหายหรือไม่...นางไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจาก ?เงิน? ที่หลานสาวจะหามาให้ได้ตามคำสั่ง
?เอ็งไปให้พ้นๆ ไปเจ้ายง...ชอบมาวุ่นวายกับมันซะจริงๆ ด่าเท่าไหร่ไม่รู้จักจำไอ้นี่?
นายมงคลซึ่งเดินตามมาสำทับไปอีกเสียงตามธรรมเนียม...
เขาไม่ใส่ใจกระไรนักเช่นกัน...สิ่งที่นายมงคลสนใจเวลานี้คือ ?ผล? ของ ?งาน? ที่รญาไปทำมาต่างหาก...
ยงยุทธกวาดตามองทุกคนอย่างยียวน...ไม่พูดไม่เถียง...แต่กวนอวัยวะเบื้องต่ำของรญาจนบอกไม่ถูก...
หล่อนอยากทำอะไรก็ได้แรงๆ ให้เจ้านี่มันไปให้พ้นๆ สายตา...หรือจากชีวิตด้วยเลยยิ่งดี...แต่ก็ทำไม่ได้ถนัดเพราะมันเป็นหลานของเมียลุง...
นางรานีดันหล่อนเข้าไปในห้อง ตามติดด้วยนายมงคล...
กระเป๋าในมือของรญาถูกดึงไปทันทีที่ประตูปิดลง และทุกอย่างก็ถูกเทลงบนที่นอนของหล่อน ซึ่งยับยู่ยี่จนทนไม่ได้...
มันเป็นผลที่ยงยุทธเข้ามาทุกครั้ง...รื้อค้นอย่างถือวิสาสะจนน่าโมโห
หญิงสาวยืนมองเครื่องประดับที่หล่อนฉกฉวยออกมาได้ถูกเทลงบนที่นอน...
นางรานีและนายมงคลทำตาโตด้วยความพึงพอใจ คนทั้งสองค่อยๆ หยิบของแต่ละชิ้นขึ้นมาพิจารณาหาราคาของมันน่าตื่นเต้น...
?เข้าท่าโว้ยนังญา...คราวนี้เอ็งทำได้ดีจริงๆ...?
มงคลไม่พูดเปล่า...แต่ดึงกล้องเล็กๆ ในกระเป๋าออกมาส่องดูเพชรพลอยแต่ละเม็ดนั้นอย่างตื่นเต้นยินดี...
?เป็นแสน...เป็นแสนโว้ยนังนี...คราวนี้เป็นแสน...?
มงคลพึมพำอย่างปลาบปลื้มก่อนจะหันไปคว้ากระเป๋าของหล่อนมาตรวจสอบทุกซอกทุกมุมว่าหลานสาวไม่ได้เม้มอะไรไว้...
?หมดรึยังนังญา...?
นายมงคลหันมาถามหลานสาว
?หมดแล้ว...?
รญาตอบสั้นๆ พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในห้องแคบๆ นั้น...
?แน่นะ...?
?คำถามของนางรานีทำให้ดวงตารญาเป็นประกายวับขึ้นมาทันที
?ฉันไม่เคยโกหก...?
หล่อนเค้นเสียงตอบไปอย่างโมโห...
?เฮ้ย...มันจะเอาสักนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกน่า มันก็ต้องใช้จ่ายมั่ง...?
นายมงคลรวบรวมสิ่งของ...แต่รญายังคอแข็งด้วยความโกรธ...
?สิบเปอร์เซ็นต์ของหนูนะลุง...อย่าลืม...?
?เออ...ข้าไม่ลืมหรอกน่า...?
นายมงคลว่า...แต่นางรานีหันมาค้อน...
?พูดแบบนี้มันท่าจะลืมละมังว่าอยู่บ้านใคร...กินข้าวใคร...?
?ฉันจะไปก็ได้?
รญาลุกพรวดขึ้นทันทีสีหน้าเอาจริง...
?เฮ้ย...จะมาทะเลาะกันทำไม...นังญาก็อย่ากำแหงนัก...ลุงรู้ว่าแกเอาตัวรอดแล้ว แต่ต้องนึกถึงบุญคุณกันมั่งนะโว้ย...ถ้าลุงกับป้าไม่เลี้ยงแกมาป่านนี้แกมิไปอยู่ในซ่องไหนแล้วเรอะ...?
คำทวงบุญทวงคุณของผู้เป็นลุงทำให้รญาอึ้ง...นี่ละมังที่ทำให้หล่อนไปไหนไม่รอดทั้งๆ ที่ถ้าคิดดูแล้ว...มันก็น่าจะหมดกันไปตั้งนานแล้ว...
สองปีที่ผ่านมา รญาทำเงินให้นับล้าน...แต่ที่เห็นก็เพียงบ้านหลังเล็กๆ หลังนี้กับเงินที่ไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด...
นั่นล่ะ...ได้มาโดยมิชอบก็หมดไปโดยมิชอบ...ไม่มีอะไรเหลือ...
?เดี๋ยวจะไปพบไอ้โกมันซะหน่อย...?
ลุงของหล่อนพูดขึ้นพร้อมกับรวบรวมข้าวของลงในถุงผ้าที่เตรียมติดตัวอยู่ตลอดเวลา...
?แล้วพรุ่งนี้จะเอามาแบ่งให้...?
มงคลและรานีออกไปจากห้อง...แล้วครู่ต่อมาวงไพ่ด้านล่างก็แตกกระจายต่างคนต่างกลับ...
มีเสียงบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจมาจากบรรดาขาไพ่ทั้งหลาย...แต่ก็ไม่มีใครสนใจนัก ทั้งนี้เพราะมงคลมีสิ่งสำคัญอยู่ในกระเป๋าแล้วต่างหาก...
เขาเดินตรงไปยังรถที่ให้หล่อนขอยืมขับไปหาเหยื่อ ตามติดไปด้วยภรรยาจอมเจ้าเล่ห์
รญามองดูรถเก๋งคันนั้นถอยออกนอกบ้านไปด้วยความรู้สึกอันเวิ้งว้างว่างเปล่า...
ความเงียบเหงากระโจนเข้ามาเกาะกุมไปทั่วหัวใจ...
และในไม่ช้า...รอบบริเวณบ้านก็เหลือแต่ความเงียบสงัด...
หญิงสาวเดินกลับมานั่งลงตรงหน้ากระจก...มองดูเงาสาวน้อยที่สะท้อนออกมาจากเงาในกระจกนั้นอย่างสังเวช
หล่อนลืมนึกถึงยงยุทธเสียสนิท...ไม่รู้เลยว่าเวลานี้อีกฝ่ายมายืนรออยู่นอกห้องพร้อมด้วยมีดปลายแหลมด้ามยาวในมือ...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พรุ่งนี้หล่อนจะเป็นคนใหม่ ?รญา? บอกกับตัวเองในอ้อมอกอุ่นของ ?ยุธิส? ความลับของหล่อนไม่มีความหมายอีกต่อไปเมื่อเขามีแต่ความรักความเข้าใจ เบื้องหลังอันโหดร้ายที่หล่อนไม่เคยคิดจะจำแต่หล่อนก็ลืมไม่ได้จะค่อยๆ เลือนหาย ภาพการโจรกรรมสิ่งของมูลค่าราคามหาศาลที่ไม่เคยมีใครจับตัวคนร้ายได้จะปิดฉากลง รญาที่เคยมีอดีตหมองหม่นได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งก็เพราะยุธิส หล่อนยิ้มให้ตัวเองแล้วนึกขำในใจว่าหล่อนไม่ควรหนีเขาสุดชีวิตเช่นนั้นเลย ในเมื่อยุธิสก็ตามหาหล่อนจนสุดชีวิตพลิกแผ่นดินเหมือนกัน รญาไม่แน่ใจเลยว่าใครดื้อรั้นกว่ากันแต่ที่รู้ชัดในเวลานี้คือหล่อนจะไม่ทำผิดพลาดอีกแล้ว
?ดีจัง? เขากระซิบบอกหล่อนด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะเคลื่อนฝ่ามือไปทั่วร่างนวลระหงตรงหน้าด้วยความรักความพอใจสุดจะบรรยาย...หล่อนยิ้มและพยักหน้ารับคำชมที่เขามีให้อย่างดีใจที่ตอบแทนเขาได้บ้าง...
