New Release : เทพบุตรบัญชีเถื่อน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : เทพบุตรบัญชีเถื่อน

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ
พ.ศ. 2553 หน้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง...ร่างสมส่วนในชุดนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งยังคงยืนรออยู่ที่จุดเดิมประจำ โดยสายตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอสี่เหลี่ยมอยู่ครู่ใหญ่แล้ว ใบหน้าหวานมีรอยยิ้มแต้มอยู่ตลอดเวลาอย่างกับว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือนั้นกำลังพูดคุยหยอกล้อกับเธอ
?ถึงแล้วนะ ตาเห็นรินแล้วล่ะ?
ข้อความสุดท้ายของเพื่อนใหม่ผ่านสายตา ปริณทิพย์ยิ้มให้ข้อความอีกครั้งก่อนจะกดปิดเก็บเจ้าเครื่องมือสื่อสารรุ่นใหม่ล่าสุดเข้ากระเป๋าสะพาย และแค่อึดใจรถคันหรูก็จอดเทียบริมฟุตปาธก่อนที่เพื่อนสาวจะก้าวลงจากรถ
?วันนี้มาสายนะ? ปริณทิพย์ยืนรออยู่ก่อนกล่าวขึ้นอย่างไม่จริงจังนัก อีกฝ่ายส่งยิ้มแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเง้างอด
?ก็ลุงมนตรีสิ...ช้า? ภูษิตาโบ้ยไปให้พลขับ และเป็นจังหวะที่ลุงมนตรีคนขับรถลดกระจกด้านข้างลงทำให้ได้ยินคำกล่าวของคนเป็นนายชัดเจน จึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ส่งให้สาวๆ โดยไม่คิดแก้ตัว
?สวัสดีค่ะคุณลุง? ปริณทิพย์ยกมือไว้ทักทายอย่างมีมารยาท ฝ่ายผู้สูงอายุยกมือรับไหว้ไวๆ พร้อมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเต็มใบหน้า ?หนูล้อเล่นนะคะ ไม่ได้มาสายหรอก วันนี้พี่ชายมาส่ง เลยไวทันใจไปหน่อย?
น้ำเสียงเจื้อยแจ้วอธิบายให้อีกฝ่ายกระจ่างทั้งที่จริงหล่อนไม่จำเป็นอธิบายอะไรก็ได้ แต่เพราะคิดว่าความสัมพันธ์ที่ดีคงมีกันตลอดไปด้วยความสนิทสนมจึงอยากให้รับรู้ด้วยกัน ผู้สูงวัยได้แต่ยิ้มรับ หากแต่เพื่อนสาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างกลับมีสีหน้าแปลกใจ
?งั้นเข้าข้างในกันเถอะ... คุณลุงขับรถกลับดีๆ นะคะ? เมื่อคิดว่าได้เวลาปริณทิพย์จึงชวนเพื่อนใหม่ที่สนิทรักใคร่กันดีในระยะอันสั้น พร้อมหันมากล่าวลาคนสูงวัยพลขับคนเก่าแก่ของเพื่อน ก่อนจะเดินเคียงคู่กันไป ปล่อยให้สายตาผู้สูงวัยที่นั่งอยู่ในรถมองตามด้วยสีหน้าอุ่นใจ
?มิตรภาพไม่ต้องรอเวลา...เพื่อนไม่ต้องมีถึงร้อย แค่คนหนึ่งคนที่รู้ใจก็มีค่ามากมายกว่าเพื่อนร้อยคน?
?เออ รินมีพี่ชายด้วยเหรอ?? ภูษิตายังค้างคาใจ ครั้นเห็นว่ามีเวลาเหมาะจึงเอ่ยถาม
?มีสิ แต่จะไปๆ มาๆ ต่างประเทศ อีกสามปีก็คงกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้ว? ปริณทิพย์บอกเพื่อนใหม่ โดยไม่ทันได้สังเกตว่าอีกฝ่ายสีหน้าสดชื่นระรื่นมากกว่าเดิมแค่ไหน
?ดีจัง ตาก็มีพี่ชายนะ? น้ำเสียงและสีหน้าเจือแววตื่นเต้นของภูษิตาทำให้ปริณทิพย์หันมาสนใจอย่างจริงจัง
?เหรอ...? เหมือนกันกับเธอสินะ มีพี่ชายแค่คนเดียวแต่ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน...
?แต่ไม่ได้อยู่ไทยเหมือนกัน ตอนนี้ไปเรียนต่ออีกหลายปีกว่าจะกลับ? สีหน้าของคนกล่าวสลดลง
ปริณทิพย์ได้แต่ยิ้มรับให้เพื่อนสาวเชิงให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะรู้ดีว่าการต้องอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่มันเงียบเหงาแค่ไหน แม้คนรอบกายจะมีเป็นสิบ แต่เทียบไม่ได้กับคนในครอบครัวเดียวกันแค่หนึ่งคน...
สายตากลมโตมองประสานแล้วยิ้มให้กัน แสดงซึ่งความเห็นอกเห็นใจ ความเหมือนที่ไม่แตกต่างทำให้เข้าใจกันมากกว่าเดิม ก่อนจะมุ่งตรงไปยังห้องเรียนที่คุ้นเคย
จนชั่วโมงเรียนคาบสุดท้ายจบลง นักศึกษาหญิงชายต่างพากันทยอยเดินทางกลับ แต่สองสาวยังคงเดินพูดคุยเหมือนไม่ได้เจอกันมาแรมปีตรงไปยังประตูด้านหน้าเหมือนดั่งเช่นทุกวัน
?อุ๊ย! ลุงมนตรีมาไวจริง สงสัยยังงอนเมื่อเช้าอยู่ เย็นนี้เลยมาซะเร็วเลย? เสียงหวานแหลมของภูษิตาเย้าแหย่กับเพื่อนเบาๆ เมื่อสาดสายตาเห็นรถของตัวเองจอดรอเทียบริมฟุตปาธรออยู่แล้ว
?ไม่มั้ง...? ปริณทิพย์ค้านพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะทำหน้าม้านเมื่อมองหาคนที่สัญญาว่าจะมารับแต่กลับไม่มีตรงจุดที่นัดเจอ ?พี่ชายรินยังไม่มาเลยอะ...?
ใบหน้าหุบงอสอดส่ายสายตามองบริเวณที่มีรถจอดเรียงรายกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ
?หือ... หาดูให้ดีก่อนสิ หรือไม่อาจจะเลทเวลาเล็กน้อย คงไม่ช้าเกินไปหรอก? ภูษิตาพยายามเอ่ยหว่านล้อมให้เพื่อนอุ่นใจลงบ้าง หากแต่คำพูดของเพื่อนใหม่อย่างหล่อนก็ไม่ทำให้คนหน้ามุ่ยอย่างปริณทิพย์ดีขึ้น โดยตากลมโตมีแววกังวล คิ้วเรียวขมวดมุ่นบ่งบอกให้เห็นว่าความรู้สึกยังไม่ผ่อนคลายลง
?ให้ตาไปส่งไหม?? เมื่อเห็นว่าเพื่อนมีสีหน้าไม่สู้ดีภูษิตาจึงเอ่ยอาสา
?ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวพี่ชายก็คงมา ตากลับไปเถอะ ลุงรอนานแล้วล่ะ?
?จะรอแล้วออกพร้อมกัน? คนหวังดีเอ่ยขัด
?ไม่เป็นไร เดี๋ยวรินจะลองโทร.หา ตากลับเถอะ?
แม้ภูษิตาจะรู้สึกอึดอัด ทั้งห่วงทั้งร้อนใจ ไม่รู้ว่าพี่ชายของเพื่อนรักจะทิ้งระยะไปนานแค่ไหน หากมืดค่ำไม่ดีแน่ เธอจึงกลั้นใจส่งสายตาเว้าวอนด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง
?ให้ตารอเป็นเพื่อนอีกหน่อยนะ...นะ?
สิ่งที่ได้จากคำขอคือเสียงถอนหายใจของเพื่อนสาวพร้อมน้ำเสียงหนักแน่นตอบกลับมาว่า
?ไม่เป็นไร ไปเถอะลุงมนตรีคอยแย่แล้ว?
สายตากลมโตผ่อนลงก่อนจะถอนหายใจเมื่อคะยั้นคะยอเพื่อนสาวไม่เป็นผล ภูษิตาเลยจำใจเดินไปขึ้นรถโดยมีลุงมนตรีเปิดประตูรอท่าตั้งแต่เห็นสาวสวยทั้งสองเดินตรงมาหา
?หนูริน รถยังไม่มารับหรือครับ ให้ลุงไปส่งเอาไหม? คนสูงวัยยื่นน้ำใจให้รอคอยคำตอบ พร้อมปิดประตูเมื่อคุณหนูเข้านั่งประจำที่
?ไม่เป็นไรค่ะ รินนัดกับพี่ชายไว้ เดี๋ยวคงมา ? เธอยืนยัน พร้อมยิ้มหวานส่งให้เป็นการขอบคุณ
?งั้นลุงไปก่อนนะครับ?
?ค่ะ?
เมื่อรถเพื่อนรักแล่นหายไปจากบนถนนสายหลัก ปริณทิพย์หันมาสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยม มือเรียวกดปุ่มเล็กๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการด้วยอาการใจจดใจจ่อ รายชื่อของพี่ชายคือเป้าหมาย ด้วยอยากรู้ว่าคนผิดนัดอยู่ที่ไหนในเวลานี้
ครั้นพอนิ้วเรียวสัมผัสปุ่มชื่อของคนที่ต้องการ เสียงทุ้มต่ำกระแอมไอก็ดังให้เธอสะดุ้งแล้วหยุดชะงักและหันมองตามเสียง สีหน้าตื่นตกใจเล็กน้อยเมื่อไม่คิดว่าจะเป็นชายหนุ่มหล่อที่เธอรอนั้นเอง ก่อนสีหน้าจะแปรเปลี่ยนเป็นงอง้ำด้วยคำพูด
?พี่กร มายืนอยู่ตรงนี้นานเท่าไหร่แล้ว? แล้วทำไมถึงเพิ่งออกมา?
คนโดนต่อว่ายักไหล่น้อยๆ แต้มรอยยิ้มให้น้องสาวที่มีสีหน้าเง้างอดอยู่ตรงนั้นโดยไม่ตอบคำถาม แต่กลับบอกไปว่า ?คนสวยจ๊ะ พรุ่งนี้จะไม่มีพี่ชายมารับอีกแล้วนะ?
?ไม่ต้องมายงมายอเลย รู้อยู่ว่าจะไปพรุ่งนี้แล้วทำไมไม่มาให้เร็วกว่านี้ล่ะ? สาวสวยยังไม่เลิกงอนแต่กลับรู้สึกใจหายเมื่อคิดว่าพรุ่งนี้ไปเธอต้องทนอยู่คนเดียวเหมือนเคย ?แล้วนี่ออกมาไวหน่อยก็ไม่ได้ จะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก?
?เหรอ ไหนล่ะ??
?กลับไปแล้ว?
?เอ้า! เสียดายจัง ผู้หญิงหรือผู้ชาย?
?ชิ ผู้หญิงย่ะ!?
?ว้า เสียดายจัง? ผู้เป็นพี่ลากเสียงยานพร้อมสีหน้าเสียดายเป็นที่สุด หากแต่คนเป็นน้องก็เดาออกว่าอาการนั้นแค่แกล้งแหย่เธอนั่นเอง
?ชิ!...?
?อย่างอนสิ ไม่สวยเอานะ? มือเรียวหนายื่นจับแก้มสีชมพูนวลตรงหน้าอย่างรักใคร่ คนงอนเลยอ่อนใจยิ้มรับ ความรู้สึกก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้งหากแต่ยังแกล้งว่าตนเองยังไม่เลิกงอน
?ชิ หากรินไม่สวยพี่กรก็ไม่หล่อหรอก? ตากลมใสถลึงตาใส่อย่างไม่ยอม พี่น้องท้องเดียวกันคนหนึ่งหล่อคนหนึ่งไม่สวยได้ยังไงกัน...กระฟัดกระเฟียดต่อว่าอยู่ในใจ
?โห... เล่นไม้นี้ พี่ยอมก็แล้วกัน กลัวพี่จะติดขี้เหร่จากน้องหรอกนะ? น้ำเสียงกลั้วหัวเราะ มือเรียวหนาขาวผ่องเปลี่ยนมาเอื้อมขยี้ศีรษะคนเป็นน้องเบาๆ อย่างรักใคร่และเอ็นดู ?ไปกัน พี่มีอะไรมาฝากน่ะ ถึงได้มาช้า?
เขาเอ่ยบอกในที่สุด ทั้งที่จริงเขายืนรออยู่นานแต่แอบมองดูอยู่ห่างๆ เพื่อรอดูว่าน้องสาวมีใครมาเกาะแกะหรือเปล่าก็เท่านั้น หากแต่เห็นเป็นสาวสวยติดตาจนยากจะทิ้งความรู้สึกไปง่ายๆ
?ชิ!? ทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะสนใจประโยคหลัง ?อะไรคะ นี่อย่าบอกนะ ว่าที่มาช้าไปหาซื้อของให้น้องอยู่?
?แน่นอน พี่มาก่อนเวลา แต่ของที่น้องอยากได้เล่นเอาพี่เหนื่อยเลยรู้ไหม?
ทั้งที่จริงสาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้ม ท่าทางบอบบางนั้นทำให้หัวใจเพลย์บอยอย่างเขาหวั่นไหวอย่างไม่น่าเชื่อ...
คำตอบจากพี่ชายเรียกประกายตาตื่นเต้นจากคนเป็นน้องได้เป็นอย่างดี
?รินอยากเห็นเสียแล้วสิ ว่าแต่ทำไมถึงเหนื่อย?
ณภกรณ์ไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับเดินเข้ามาหาน้องสาวที่รัก พร้อมยกยิ้มมุมปากก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วโดยอีกคนไม่ทันได้เห็น
?ไปดูพร้อมกันในรถ? เสียงทุ้มเอ่ยบอกพร้อมโอบไหล่คนเป็นน้องไปยังอีกด้านของถนนเพื่อมุ่งตรงไปยังรถที่จอดอยู่อีกฝั่ง เมื่อถึงที่หมายเขาจัดการเปิดประตูด้านข้างคนขับและปิดลงเมื่อคนเป็นน้องเข้าไปนั่งประจำที่เรียบร้อย โดยเขาวิ่งเหยาะๆ ไปอีกด้านตัวรถ เข้านั่งประจำที่ของตนเอง ครั้นเมื่อนั่งลงจนรถคันหรูยวบยุบลงไป สายตาคมเข้มหันกลับจ้องมองใบหน้าหวานใส โดยมีจังหวะการเต้นของหัวใจเป็นแรงกระตุ้น ก่อนจะเสี่ยงตัดสินใจเอ่ยถามออกไป
?ว่าแต่ใครเหรอ? ผู้หญิงที่น้องเดินไปส่ง?
สาวสวยสะดุดตา ท่าทางเงียบสุขุมสะดุดตาเพลย์บอยอย่างเขา จนไม่อาจปล่อยผ่านไปได้ ?เพียงแค่คนร่วมทาง...?
ตาคมโตของปริณทิพย์เหลือบมองพี่ชาย
?เห็นเหรอ แปลว่าแอบมองนานแล้วแต่ไม่ยอมออกมา? เดาจากคำพูดของพี่ชายก่อนจะยกยิ้ม นัยน์ตาพราว ?อย่าบอกนะว่าสนใจเพื่อนของริน เจ้าชู้อย่างพี่ ชิ! ฝันไปเหอะ?
เธอเริ่มกันท่าทั้งที่ไม่รู้ว่าพี่ชายถามด้วยเหตุผลอะไร หากแต่ผู้ชายใช้ผู้หญิงเปลืองอย่างพี่ชาย เธอก็ไม่อยากให้ผู้หญิงดีๆ ได้เข้าใกล้ แม้จะเป็นพี่ชายเธอก็ตาม...
?หือ...พี่ของน้องเป็นผู้ชายยังไงล่ะ ถึงไม่อยากให้รู้จักเพื่อนน่ะ?
?เหอะ...รูปหล่อ พ่อรวย เพอร์เฟกต์ เทคแคร์เก่งและก็ใช้ผู้หญิงเปลือง พอไหมสรรพคุณพี่ชายของริน?
?เฮ้อ...พูดแบบนี้จะมีผู้หญิงที่ไหนสนใจพี่ล่ะ หมดกัน ไม่เข้าข้างกันเลย? เสียงบ่นพึมพำมาพร้อมกับสีหน้าเง้างอดเรียกรอยยิ้มมุมปากให้สาวสวยอย่างปริณทิพย์ได้เป็นอย่างดี
?รอให้ข้อสุดท้ายไม่มีก่อนแล้วค่อยว่ากัน? ปริณทิพย์ยื่นข้อเสนอให้พี่ชาย ก่อนกวาดสายตามองหาสิ่งของที่พี่ชายเกริ่นไว้ก่อนหน้าแต่มองหาเท่าไหร่ก็มีแต่ความว่างเปล่า ?ว่าแต่ไหนคะ ของที่บอกว่าซื้อให้ริน?
?ใจร้อนจริง? คนถูกยื่นข้อเสนอได้แต่ทำหน้ายู่ใส่ หากให้ทิ้งของที่ชอบคงอีกนาน...ณภกรณ์คิดอย่างถือดี พร้อมโน้มตัวไปด้านหลังแล้วก้มหยิบบางอย่างที่เหมือนเขาจะจงใจวางแอบไว้ใต้เบาะหลังออกมา
ทันทีที่เห็นสิ่งของในมือพี่ชาย เสียงหวานแหลมของปริณทิพย์ก็ดังจนอีกฝ่ายนิ่วหน้า
?อ๊ากกก พี่กร! ทำไมมันตัวเล็กนักล่ะ รินบอกว่าตัวใหญ่ไม่ใช่หรอ?? เธอจ้องมองของในมือด้วยความตื่นเต้นและความคาดไม่ถึง หากแต่ไม่ได้รู้สึกผิดหวังแม้แต่น้อย
?ก็ตัวใหญ่หมด พี่เลยซื้อตัวเล็กให้ก่อน รับไปก่อนสิ รอบหน้าพี่สัญญาจะซื้อตัวใหญ่กว่านี้ให้นะ? พี่ชายเอ่ยบอกพร้อมยื่นตุ๊กตาคิตตี้หัวโตสีขาวสวมชุดสีฟ้าสด มีโบว์ไม่ใหญ่นักผูกไว้บริเวณคอ โดยมีหูตาจมูกเป็นเครื่องหน้าดูน่ารักไปอีกแบบให้น้องสาว
เขาไม่ได้โกหก ร้านที่เขาเลือกเข้าไปตัวใหญ่หมดจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ออกไปหาดูร้านอื่นเท่านั้นเอง...
?โหพี่กร ร้านมีตั้งเยอะ...? น้องสาวลากเสียงสูง เธอไม่เชื่อเด็ดขาดว่าห้างร้านใหญ่ๆ ของจะหมดพร้อมกันได้ นอกจากพี่ชายเธอขี้เกียจเดินหา
?รู้อีก...? คนโดนจับผิดยกไหล่ทำปากยู่คล้ายกำลังน้อยใจ
เมื่อเห็นพี่ชายเงียบนิ่งปริณทิพย์จึงเอ่ยอย่างมีจริต ?รับก็ได้ เห็นว่ามีใจซื้อให้ แต่เหตุผลไม่น่าฟังคราวหน้าไม่ต้องเอามาอ้างเลย? เอ่ยดักอย่างรู้ทัน รับตุ๊กตาคิตตี้ขนาดหนึ่งฟุตมาถือไว้
?เหอะน่า เตียงนอนมีแต่ตุ๊กตาไปครึ่งเตียงแล้ว เพิ่มตัวเล็กตัวนี้ไปตัวเดียวจะได้ไม่อึดอัด? พี่ชายที่ทำตัวเหมือนหวังดีเอ่ยแนะนำ เพราะเขาเห็นมากับตาว่าเตียงนอนของน้องสาวมีแต่ตุ๊กตาขนาดใหญ่กว่าเขาหลายตัวจนกลัวว่าสักวันเจ้าของเตียงจะนอนตกเตียงเข้าสักวัน
?เป็นห่วงกลัวน้องจะอึดอัด ชิ! ข้ออ้างไม่เหมาะเลย น้องกลัวว่าพี่จะเอาเงินไปหว่านให้แม่สาวๆ จน ตุ๊กตาของน้องเลยเหลือตัวแค่นี้?
คำพูดโดนใจเขาเลยไม่เถียงว่าแม่สาวๆ ที่เขาควงบริการดีแค่ไหน เงินในกระเป๋าเลยร่อนให้พวกสาวๆ นั่นจนหมด กว่าจะรู้ตัวเงินก็เหลือติดกระเป๋าไม่กี่ร้อย
?กลับมาครั้งหน้าพี่สัญญาว่าทุกอย่างจะดีกว่านี้? น้ำเสียงปรับเปลี่ยนเคร่งเครียดขึ้นเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่างได้ เขาตามใจความรู้สึกตัวเองมากกว่าความรู้สึกของน้องเกินความพอดีไปแล้ว...
สายตากลมใสละสายตาจากตุ๊กตาในมือ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มบางๆ
?พี่กร จริงจังเกินไปหรือเปล่า น้องแค่ล้อเล่น ตัวแค่ไหนก็ชอบทั้งนั้น เพราะเป็นของพี่ชายที่รักซื้อให้?
ปริณทิพย์รู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของพี่ชาย ยังไงเธอก็รักพี่ชายคนเดียวสุดหัวใจ เมื่อมีกันอยู่แค่สองคน น้ำใจคือการแสดงออกของความรักที่จะอยู่คู่พี่น้องตลอดไป อย่างอื่นแค่ของนอกกายเอามาเปรียบกันไม่ได้...
สายตาคมเข้มมองใบหน้าหวานที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กอย่างรักใคร่และเอ็นดู ก่อนจะส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวังให้คนเป็นน้อง
?กลับมาครั้งหน้าพี่สัญญา จะเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่เพื่อน้องนะคะ?
เสียงทุ้มนุ่มหูฟังดูจริงจัง ทำให้น้องสาวที่นั่งเคียงกันหยุดชะงัก ครั้นมือเรียวหนาเอื้อมมาแตะผมนุ่มสลวยของเธอ ประกายตาที่เคยสว่างไหว ระรื่นขึ้นด้วยน้ำในม่านตา ความตื้นตันและปีติมีอยู่ท่วมท้น เธอไม่เคยกีดกันไม่ว่าพี่ชายจะทำตัวเช่นไร หากแต่เธอก็รอความหวังว่าสักวันพี่ชายจะทำอย่างที่พูดได้เช่นกัน!...

ตอนที่ 1 พายุแห่งการเริ่มต้น
พ.ศ.2557 ณ กลางทะเลสีฟ้าครามจังหวัดชลบุรี คลื่นทะเลลูกแล้วลูกเล่าที่ปะทะเข้ากับเรือสปีดโบ๊ทลำหรูดูคล้ายกำลังคลุ้มคลั่งและต้องการให้สิ่งที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำมลายหายไป
คลื่นลมทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ หากแต่เจ้าของเรือลำหรูกลับไม่สะทกสะท้านยังคงทำหน้าที่ของพี่ชายที่ดีต่อผู้เป็นน้องสาวแม้ว่าเธอจะเหลือเพียงแค่เถ้าธุลี
ความเงียบปกคลุมอยู่รายรอบเสมือนสะกดไฟอาฆาตให้เย็นลง หากแต่เปล่าเลย ?ใครทำลายสิ่งอันเป็นที่รักของฉัน มันจะต้องชดใช้? ดวงตาอาฆาตทอดมองผืนน้ำเบื้องหน้าเสมือนให้เป็นสักขีพยานกับความคิดของเขา และเมื่อไหร่ที่มีโอกาสเข้ามา เขาจะไม่รอช้าเด็ดขาด...
สายลมแรงที่พัดผ่านมาทำหน้าที่พัดพาเอาเถ้ากระดูกปลิวหายไปในอากาศของท้องทะเลกว้างใหญ่ ไม่นานความมืดมิดก็ค่อยๆ เข้าปกคลุมท้องฟ้า แต่จิตใจของคนที่อยู่ในลำเรือหรูกลับดูมืดมิดยิ่งกว่า
ภูมินทร์ ณภคดล นักธุรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จในการบริหารงาน ที่รับช่วงต่อมาจากผู้บังเกิดเกล้าจนได้เป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจด้วยวัยเพียงสามสิบปี จมูกโด่ง คิ้วหนาเป็นแพยาวรับกับรูปหน้าคม แววตาที่เคยมุ่งมั่นบัดนี้เหม่อลอยไกลออกไปอย่างไร้จุดหมาย
?ขอให้น้องของพี่...ไปสู่สุคติ? ใบหน้าหล่อเหลาไร้ซึ่งรอยยิ้มของภูมินทร์เอ่ยอย่างอ่อนโยน หากแต่เพียงครู่แววตากลับลุกโชนด้วยไฟอาฆาต ก่อนจะหยุดนิ่งกักเก็บอารมณ์เพื่อไว้อาลัยกับสิ่งที่ตนเพิ่งเอ่ยออกไป และเป็นอย่างนั้นซ้ำๆ เหมือนคนกำลังสับสนหาทางออกไม่เจอ มือหนายืดจับขอบลำเรือไว้แน่น แน่นเสียจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนออกมา
เมื่อหลายปี ณ ที่แห่งนี้ในเหตุการณ์อย่างเดียวกัน นั่นคือการลอยอังคารของผู้ให้กำเนิดทั้งสอง ส่วนวันนี้คือน้องสาวคนเดียวของเขา
?พี่จะเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งและจะดูแลน้องสาวของพี่อย่างดีที่สุด พี่สัญญา? คนเป็นพี่เอ่ยน้ำเสียงหนักแน่นกระชับโอบไหล่ที่กำลังสั่นไหวของน้องสาว
ภาพนั้นปรากฏขึ้นในความทรงจำอีกครั้ง สายตาเหม่อมองออกไปในท้องทะเลกว้างอย่างไร้จุดหมาย ระลึกถึงเรื่องในอดีตอย่างอดไม่ได้
?จริงนะ? น้องสาวหน้าตาจิ้มลิ้มยังมีคราบน้ำตาเกาะพราวบนใบหน้าละสายตาจากท้องทะเลมองหน้าพี่ชาย ก่อนจะกระชับวงแขนเล็กโอบกอดกลับไปเช่นกัน
?จริงสิ...ก็พี่มีน้องอยู่คนเดียว ไม่ดูแลน้องตัวเองแล้วจะให้ดูแลใครที่ไหน? พี่ชายวัยสิบเจ็ดปีก้มลงเอ่ยบอกน้องสาววัยสิบขวบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นกว่าเดิม
คำพูดและคำสัญญาของสองพี่น้องที่อายุห่างกันหลายปีเรียกน้ำตาของมนตรี ชายวัยกลางคนผู้ที่ให้การดูแลคนทั้งสองมาตั้งแต่เด็ก
แม้เถ้ากระดูกที่โปรยลงไปในท้องทะเลจะไม่หลงเหลือให้เห็น แต่เด็กทั้งสองก็ยังมองสิ่งที่ตัวเองกระทำอยู่เหมือนกำลังเกิดขึ้นซ้ำๆ ไม่สิ้นสุด
?คุณหนูครับ กลับบ้านกันเถอะ แดดเริ่มร้อนแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบาย? มนตรีที่อายุรุ่นเดียวกับผู้เป็นบิดาของเด็กทั้งสองยืนมองเหตุการณ์อยู่ด้านหลังบอกด้วยความเป็นห่วง
ตาคมโตของเด็กหนุ่มเงยหน้ามองดวงอาทิตย์เพื่อยืนยันด้วยสายตา และตากลมคมโตนั้นก็ต้องหรี่ลงเมื่อสัมผัสกับแสงอาทิตย์ที่ส่องแสงเจิดจ้าปะทะลงมา
สองพี่น้องมองหน้ากันอย่างลังเล ก่อนจะหันกลับไปมองท้องทะเลกว้าง น้ำตาที่เริ่มจะเหือดแห้งก็ไหลทะลักออกมาอีกด้วยความอาลัยหา
?พ่อครับแม่ครับ ผมกับน้องต้องไปก่อนนะครับ...ขอให้พ่อแม่ดูแลผมและน้องอยู่บนสวรรค์ด้วยนะครับ? เสียงเครือสะอื้นกล่าวลาเป็นครั้งสุดท้ายของพี่ชายก่อนจะประคองกอดน้องสาวเข้าด้านในลำเรือ จำใจปล่อยความเศร้าโศกสูญเสียเอาไว้เบื้องหลัง...
?คุณหนูรีบเรียนให้จบนะครับ จะได้มาช่วยดูแลบริหารงานแทนคุณพ่อ? คนที่รับหน้าที่ดูแลเด็กทั้งสองอย่างมนตรีบอกกล่าวด้วยความห่วงใยเมื่อกลับเข้ามานั่งพักเตรียมตัวขึ้นฝั่ง
ใช่ว่าเด็กชายวัยสิบเจ็ดจะเกเรเรื่องการเรียน แต่ก็ย้ำเอาไว้ และตระหนักไว้ว่าธุรกิจทั้งหมดที่พ่อของเด็กหนุ่มสร้างขึ้นมานั้นมีแต่เขา...ภูมินทร์ ณภคดลคนเดียวเท่านั้นที่จะสานต่อ
แม้ฐานะทางการเงินจะไม่ขัดสนเพราะผู้เป็นบิดาทำใบเบิกทางไว้ให้ลูกทั้งสองได้ใช้จ่ายไปตลอดชีวิต แต่ก็ไม่ต้องการให้หุ้นส่วนดูแลกันเองเมื่อทางนี้ยังมีคนสานต่อแม้จะมีตนเองช่วยดูแลอยู่ก็ตาม มันก็เป็นความหวังดีที่ลูกชายของผู้มีพระคุณจะยืนด้วยลำแข้งของตนเอง
มนตรีแม้จะไม่ใช่ญาติพี่น้อง แต่ความมีน้ำใจของภูเดช ณภคดลในวัยหนุ่มที่ช่วยเหลือตนเองเอาไว้จากการถูกคู่อริรุมทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด และได้มีที่อยู่ที่กินจนทุกวันนี้ บุญคุณทั้งหมดเขาเองจะตอบแทนไปจนตายจากกัน...
ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางทุลักทุเลพอควร เป็นเพราะเรือที่ถูกกระแทกด้วยกระแสคลื่นทำให้เดินเหินได้ลำบาก
?คุณหนูกลับขึ้นฝั่งเถอะครับ พายุกำลังจะมา? มนตรีเริ่มหวั่นใจ เมื่อเห็นว่าความเศร้ายิ่งทวีความตึงเครียดมากขึ้นและบวกกับบรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ
?มันเป็นใคร? บอกมา!? น้ำเสียงแหบต่ำของภูมินทร์เค้นถามไปตามแรงอารมณ์ที่ถูกเก็บกดไว้ ใกล้ระเบิดอยู่รอมร่อ
สีหน้าลังเลราวกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดวงตาเหี่ยวย่นไปตามวัยหรี่แคบ ก่อนจะตัดสินใจเปิดปากพูด ?เป็น...?
น้ำเสียงเล็ดลอดออกมาแค่นั้นก็ต้องหยุดลง และนั่นสร้างความหงุดหงิดให้ชายหนุ่มซึ่งเป็นเจ้านายของตนเองเป็นอย่างมาก
?มันเป็นใคร จะปกปิดไว้ทำไม บอกผมมา ผมจะไป...? ความเดือดดาลเกือบพลั้งปากออกไปด้วยโทสะ หากแต่คนอย่างภูมินทร์ยังมีสติพอ ?ลุงอย่ากลัว ผมแค่ทำอะไรให้มันถูกต้อง?
เขากล้ายืนยัน ทั้งที่ใจอยากจัดการเรื่องทั้งหมดให้เสร็จเสียเดี๋ยวนั้น
?คุณหนูครับ...? คนสูงวัยหยุดกลืนความอึดอัด ไม่แน่ใจว่า ?ถูกต้อง? ของชายหนุ่มเป็นเช่นไร
มือเรียวหนาที่เกาะกุมรั้วเหล็กยกขึ้นเหนือไหล่ทันควัน เหมือนจะรู้ใจคนที่เรียกดีว่าจะพูดอะไร
?พอ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น...เพราะผมจะไม่ยอมให้มันอยู่อย่างเป็นสุขแน่นอน น้องผมทั้งคน? ร่างสูงล่ำแค่หันซีกหน้าคมมองด้านข้าง สายตาของมนตรีก็ก้มลงต่ำ รับทราบในการตัดสินใจของเจ้านายหนุ่มในครั้งนี้
มนตรีได้แต่ถอนหายใจจับจ้องคนตรงหน้าที่ยืนหันหลังให้อย่างปวดร้าวในอก เก็บเอาคำพูด ความคิด และความเป็นห่วงไว้ในใจ เขาได้แต่ขอให้สิ่งที่ชายหนุ่มคิดจะทำ อย่าให้มันร้ายแรงเกินไป เพราะคนอย่างเขาคงทนดูความผิดพลาดของคนหนุ่มไม่ได้เช่นกัน!
มนตรีกลืนน้ำลายลงคอ ภาพเหตุการณ์ครั้งนั้นซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นและจบลงอย่างเจ็บปวด ยากที่จะเรียกทุกอย่างกลับคืนหรือแก้ไขอะไรได้ ลอยผ่านเข้ามาในห้วงความคิดของมนตรี...
รถเก๋งคันหรูสีแดงใหม่เอี่ยมวิ่งเข้ามาจอดหน้าเทอเรซ ผ่านด่านยามหน้าตึกเข้ามาได้ด้วยดี เพราะเจ้าของรถคันงามคุ้นเคยกับคนในบ้านเป็นอย่างดีเพียงแค่ช่วงเวลาอันสั้น
?จะไปไหนหรือครับคุณหนูตา? น้ำเสียงห่วงใยของมนตรีร้องถามอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นภูษิตาคุณหนูของตนวิ่งออกจากตัวตึก ตนเองจึงต้องก้าวยาวๆ ตามออกมาเพื่อให้ทันภูษิตาที่กำลังเดินลิ่วออกไปยังด้านหน้าโดยที่มีรถเข้าจอดได้จังหวะพอดี
วันนี้คุณหนูของเขาแต่งหน้าจัดผิดปกติ และเป็นอะไรที่เขาสังเกตได้ว่าผิดวิสัยของคุณหนู ปกติเวลาจะออกไปไหนหรือต้องการอะไรจะเรียกใช้ตนเองเสมอ
?คุณลุงคะ ไม่ต้องเป็นห่วงตานะคะ วันนี้ตาไปกับรินค่ะ? เสียงหวานของภูษิตาบอกมา
แต่คนที่ได้ฟังกลับรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ แค่ได้ยินว่าคุณหนูของตัวเองจะออกไปข้างนอก แม้จะรู้จักมักคุ้นกับหญิงสาวที่ชื่อรินก็ตาม แต่ทุกครั้งหญิงสาวทั้งสองจะมีเขาเป็นคนบริการขับรถให้เสมอ
แต่ครั้งนี้มันต่างกัน...เพราะทันทีที่เดินไปถึงรถเก๋งคันหรู ด้านคนขับกลายเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งตัวหรูอย่างคนที่มีฐานะขยับกายออกจากรถและยืนขึ้นเต็มความสูง ฉีกยิ้มให้สาวน้อยอย่างไม่ปกปิดความรู้สึก
ปริณทิพย์รีบเปิดประตูออกมา สีหน้ารีบร้อนเมื่อเห็นสายตาแปลกๆ อย่างอยากรู้ของลุงมนตรี เพราะหล่อนรู้ดีว่ามนตรีห่วงเพื่อนรักของเธอแค่ไหน
?สวัสดีค่ะ คุณลุง...พี่ชายรินค่ะ ชื่อณภกรณ์? เสียงหวานนุ่มนวลรีบแนะนำทันทีเมื่อลงจากรถ
แม้คิดจะทักท้วงห้ามปรามด้วยความห่วงใยและด้วยหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากภูมินทร์พี่ชายของเธอ แต่คำพูดที่ดูเป็นผู้ใหญ่ของภูษิตาและน้ำเสียงออดอ้อน ทำให้ชายวัยกลางคนตัดสินใจผิดไป
?ให้ตาไปนะคะ ตาโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว อีกอย่างรินก็ไปด้วย คุณลุงก็รู้ว่ารินนิสัยเป็นยังไง และหากกลัวที่มีพี่ชายของรินไปด้วย ให้เชื่อเลยว่าน้องนิสัยยังไง พี่ชายก็นิสัยอย่างนั้นนะคะ นะ...เชื่อตานะคะ?
มนตรียอมรับว่าปริณทิพย์มีนิสัยเรียบร้อย สงบเสงี่ยม พูดจาอ่อนหวาน ให้เกียรติคนอื่น ซึ่งนั่นทำให้คนสูงวัยอย่างเขารักและเอ็นดู หากแต่ผู้ชายที่ดูสำอาง แต่งตัวเนี้ยบไม่มีที่ติ โดยเฉพาะสายตากรุ้มกริ่มเวลามองคุณหนูของเขา คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างมนตรีรู้สึกหวั่นไหวเหลือกำลัง และผลที่ได้รับเป็นอย่างที่เขากลัวไว้จริงๆ
...หากวันนั้นเขาไม่ปล่อยไป ความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวทั้งสองคงจะไม่เลยเถิดจนเกิดเป็นเรื่องเศร้าอยู่ในตอนนี้...และในเมื่อมาถึงจุดนี้ ชายวัยกลางคนจึงตัดสินใจบอกตามความเป็นจริงที่รู้มา
?เป็นพี่ชายของหนูริน เพื่อนสนิทคุณหนูตาครับ?
กรามหนาบดเข้าหากันจนเกิดเสียง ความโกรธแค้นแน่นในอก ลมหายใจกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงโทสะ เลือดในกายสูบฉีดเหมือนคนกำลังตื่นระทึกหลงอยู่ในป่าใหญ่ไร้เข็มทิศนำทาง หัวใจเต้นแรงและรัวเร็วจนเจ้าตัวคิดว่าหากปล่อยให้อารมณ์พุ่งขึ้นอยู่อย่างนี้ เขาคงต้องช็อกตายเสียก่อน คิดได้ดังนั้นภูมินทร์จึงผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ จนเกือบเป็นปกติและสบถออกมาแทน
?เพื่อน!? ทำกันขนาดนี้เลยหรือ!?
น้ำเสียงนั้นเกรี้ยวกราดตวาดลั่น มนตรีได้แต่เก็บอาการกุมมืออย่างสงบนิ่งรอรับสิ่งที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นคำด่าหรือต่อว่าเขายอมรับผิดทุกอย่าง แต่ครั้นเวลาผ่านไปกลับได้ยินแค่เสียงลมหายใจเข้าออกแรงๆเหมือนกระทิงหนุ่มที่พร้อมลุยเท่านั้น
?จัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย ฉันจะไปลากมันมาสำเร็จโทษให้ได้?
คนหนุ่มสั่งน้ำเสียงเด็ดขาด แม้ไม่พอใจคนสูงวัยอยู่บ้าง ที่ปล่อยให้เรื่องทุกอย่างผ่านไปโดยไม่เคยรายงานการเคลื่อนไหวคนในบ้านให้เขาได้รับรู้ หากช่วงเวลานั้นเขาได้อยู่และรับรู้ดูแลตักเตือน ทุกอย่างคงไม่สายจนมาถึงขั้นนี้...



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อน้องสาวสุดที่รักต้องตายจากไป ?ภูมินทร์? จึงต้องค้นหาความจริง เพราะปมปัญหาที่หญิงสาวได้เขียนทิ้งไว้ทำให้เขาโกรธและต้องการแก้แค้น และทันทีที่ได้รู้ว่าพี่ชายของ ?ปริณทิพย์? ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวเป็นต้นเหตุ เป้าหมายสำคัญก็คือเจ้าหล่อนผู้ซึ่งเป็นดวงใจของผู้ชายใจทมิฬคนนั้น การทรมานอันสาสมถูกวางแผนขึ้นและดำเนินไปด้วยความเคืองแค้น ในขณะที่หัวใจของภูมินทร์สะกดคำว่ารักกับผู้หญิงที่เขาจับตัวมา และเขาก็ได้เรียนรู้ว่าการรวบรัดแล้วแสดงความรับผิดชอบใช่ว่าเรื่องทุกอย่างจะลงเอย
หล่อนเอียงคอหนีหากแต่อีกฝ่ายกลับรั้งและกดบีบไหล่มนให้อยู่กับที่ ?อยู่นิ่งๆ ยอมมาได้ตั้งนานจะมาเล่นตัวอะไรตอนนี้...? น้ำเสียงของเขาไม่ราบเรียบนัก แต่ก็พยายามถูกเค้นออกมาเช่นเดียวกับเสียงของหล่อน ?ใครยอมคุณ ปล่อยนะ!?


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”