New Release : กลรักบุษบัน (วรรณกรรมชุดมนต์รักบุปผา)

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : กลรักบุษบัน (วรรณกรรมชุดมนต์รักบุปผา)

โพสต์ โดย Gals »

ตอน 1
บนถนนซึ่งเป็นเวลาที่ทุกคนต่างใช้ความเร่งรีบอย่างมาก หนึ่งในนั้นมีชายหนุ่มที่ขับรถสปอร์ตคันสวยอยู่ด้วย เป็นรถนำเข้าที่ราคาแพง เปิดเพลงส่งเสียงดังกระหึ่มไปทั่ว เหมือนอวดให้คนได้เห็นมัน ซึ่งหลายคนต่างมองมาทางเดียวกันหมดเพราะสีสันที่เหลืองแสบตาบวกกับรูปทรงที่เพรียวยาวน่าจับจองเป็นเจ้าของอย่างมาก นั่นคือรถยี่ห้อ Porche Carrera Gt แต่ที่แน่ๆ รับรู้ว่าต้องรวยอย่างมากทีเดียว
รถสปอร์ตราคาแพงขับรถแล่นผ่านสี่แยกออกไปด้วยความเร็ว แต่ระหว่างที่ขับไปนั้นก็รู้สึกว่ารถของตนเกิดอาการไม่ค่อยดีเท่าใดนัก
เจอโรมเพิ่งไปส่งลูกค้าวีไอพียังสนามบิน โดยลูกค้าคนนี้มักจะมาพักที่โรงแรมของเขาทุกครั้งที่มาติดต่องานหรือไม่ก็พาครอบครัวมาเที่ยว บางครั้งลูกค้าก็กลายเป็นเพื่อนของเขาไปเลย อย่างเช่นมิสเตอร์เดวิสและครอบครัว ลูกๆ ของเดวิสก็เป็นเสมือนหลานชายและหลานสาวของเขา
เจอโรม บัล เดอร์ลัส นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งกรีซกับไทยแสดงสีหน้าหงุดหงิดพร้อมกับใช้มือทุบไปยังพวงมาลัยเบื้องหน้าโดยแรงก่อนจะขับรถเข้าข้างทาง ขืนขับต่อไปมีหวังได้จอดตายกลางถนนเป็นแน่
เขากำลังจะขับรถกลับไปยังโรงแรมเดอะเมจิกเชี่ยนซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว หลังจากที่บิดามาตกหลุมรักผู้หญิงไทย และมีเขาเป็นพยานแห่งรัก ทั้งคู่ได้ซื้อที่ดินเปล่าและสร้างเป็นโรงแรมขึ้นมา เขาและพี่ชายต่างช่วยบุพการีบริหารและดูแลโรงแรมเดอะเมจิกเชี่ยน ตอนนี้เจอโรมอายุยี่สิบหกปี ส่วนพี่ชายคนโตอายุสามสิบสองปี
เขาบ่นงึมงำกับสมรรถภาพรถที่ตนเองขับมาในยามนี้
?บ้าชิบ รถอย่างแพงดันมีปัญหาได้? ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์กดไปหาลูกน้องคนสนิทเพื่อให้นำรถคันใหม่มาให้กับตนเอง คอยอยู่ไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับสายด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อมอย่างมาก
?สวัสดีครับคุณเจอโรม?
?มาร์โอ จัดการให้ใครเอารถสปอร์ตสีเหลืองอีกคันมาให้ฉันด้วย? น้ำเสียงกร้าวสั่งออกไปทันที
?รถเป็นอะไรเหรอครับคุณเจอโรม? อีกฝ่ายถามกลับมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ
?รถมันกระตุกน่ะ ฉันคิดว่าถ้าขับต่อมันคงดับแน่นอน? เขานึกอย่างคาดการณ์
?แล้วคุณเจอโรมอยู่ตรงไหนครับ เดี๋ยวผมจะขับรถไปให้ครับ พอดีผมกำลังจะออกไปข้างนอก?
เจ้านายจึงบอกให้ทราบว่าตนเองอยู่ที่ใด อีกฝ่ายก็ตอบรับกลับไปทันที
?แล้วเจอกันครับ?
?ขอบใจมากมาร์โอ? หลังจากนั้นชายหนุ่มก็กดวางสายไป ก่อนจะติดต่อไปยังบริษัทดูแลรถของตนเองที่ใช้บริการอยู่เป็นประจำ
เพียงไม่นานมาร์โอก็ขับรถมาจอดยังเบื้องหน้าของตนเอง เขาจึงก้าวลงมาจากรถโดยเดินตรงไปหาลูกน้องคนสนิทพลางเอ่ยชมเชย
?มาเร็วดีเหมือนกันนะมาร์โอ? วงหน้าคมเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม
?กลัวคุณเจอโรมคอยนานน่ะครับ?
มาร์โอบอกกลับไปด้วยความหวั่นเกรง ชายหนุ่มผู้นี้เป็นบุคคลที่มีพระคุณต่อตนเองอย่างมาก ถ้าไม่ได้ครอบครัวของเจอโรมป่านนี้เขาคงได้ไปนอนอยู่ในคุกแล้วเป็นแน่ หรือไม่ก็อาจจะกลายเป็นเด็กติดยา
เขาได้ช่วยชีวิตเจอโรมไว้จากพวกนักเลงที่มาร์โอบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ขณะที่อีกฝ่ายกำลังจะใช้ปืนยิงไปยังร่างของเจอโรม...หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป มาร์โอกลายเป็นคนที่ต้องดูแลชายหนุ่มผู้นี้ตั้งแต่วันนั้น
?บ้าชะมัด รถซื้อมาอย่างแพงดันมีปัญหาได้? เขาบ่นด้วยสีหน้าที่หงุดหงิดอย่างมาก
?แล้วคุณเจอโรมโทร.ตามบริษัทรถรึยังครับ? ลูกน้องซักถามกลับแบบคาดการณ์ เจ้านายก็พยักหน้าตอบรับก่อนจะใช้มือชี้ไปทางเบื้องหลังซึ่งเป็นรถที่ขับมายกรถของเขาไปยังบริษัทดูแลรถ
?นั่นไง มาพอดีเลย? ชายหนุ่มส่งกุญแจรถของตนเองให้กับอีกฝ่าย ซึ่งหลังจากที่นำรถมาให้กับเจ้านายเป็นที่เรียบร้อยแล้วมาร์โอก็เอ่ยขึ้นมาต่อ
?อย่างนั้นผมขอตัวกลับเลยนะครับคุณเจอโรม? เจ้านายพลางเอ่ยชักชวนอย่างมีน้ำใจ
?กลับด้วยกันสิมาร์โอ เดี๋ยวฉันไปส่งที่บริษัทให้ก็ได้? เจอโรมบอกอย่างสนิทสนมและเป็นกันเองไม่ได้ถือตัวว่าเป็นเจ้านายใหญ่ นั่นเพราะว่าชีวิตของเขาเป็นหนี้ของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
มาร์โอบอกด้วยความรู้สึกเกรงใจอย่างมาก
?ไม่เป็นไรหรอกครับคุณเจอโรม พอดีว่าผมจะไปธนาคารด้วยน่ะครับ?
หากทว่าเจอโรมก็ยังยืนยันที่จะทำดังเดิมไม่เปลี่ยน
?เดี๋ยวฉันขับรถไปส่งนายเอง ขึ้นรถเร็ว? เจอโรมคะยั้นคะยอเรียกเป็นหนที่สองนั่นจึงทำให้มาร์โอไม่กล้าขัดคำสั่งเจ้านายหนุ่ม เขาถามลูกน้องหลังจากนั้นเมื่อขับรถกลับไปในถนนอีกคราวหนึ่ง ?นายจะไปธนาคารไหนล่ะบอกมาสิ?
?ธนาคารกรุงเทพครับ? อีกฝ่ายซึ่งหยิบเข็มขัดมารัดกายบอกให้ได้ทราบ เจอโรมก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจ ก่อนจะขับตรงไปยังจุดหมายที่ได้บอกไว้
***
ในช่วงเวลาบ่ายหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งมีวงหน้าเรียวเป็นรูปไข่ นัยน์ตากลมโตเป็นประกาย หลังจากที่จัดการนำสมุดบัญชีธนาคารมาปรับรายการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บุษบันอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงย้วยลายดอกไม้สีน้ำเงินความยาวประมาณเข่า เธอเกล้าผมที่มีความยาวถึงกลางหลังขึ้นไปยังศีรษะด้านบนแล้วเหน็บด้วยปิ่นปักผมดอกไม้แบบจีนที่เข้ากันกับรองเท้าส้นเตี้ยสีดำ นัยน์ตาทั้งสองกลมโตเป็นประกาย แก้มนวลเป็นสีระเรื่อกับจมูกที่เชิดรั้น ด้วยความสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร
บุษบันอายุสามสิบเอ็ดปี ชื่อของเธอแปลว่าดอกบัว ดังนั้นชื่อเล่นของเธอก็คือบัว
ครอบครัวของเธอจะมีชื่อเป็นดอกไม้ทั้งหมด น้องสาวคนกลางชื่อมันทนา มีเชื่อเล่นว่าโรส อายุยี่สิบแปดปี เป็นเจ้าของไร่ดอกไม้รักษ์บุปผาซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวที่จังหวัดกาญจนบุรี แต่ว่าตอนนี้อีกฝ่ายได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้วกับชายหนุ่มชาวฮ่องกง ที่บังเอิญหนีการตามล่ามาเมืองไทยและโรสก็ได้ช่วยเหลือไว้ ส่วนน้องสาวคนเล็กมีชื่อว่าทานตะวันหรือตะวัน อายุยี่สิบหกปี เป็นตากล้องสาวคนเก่งของห้องเสื้อแฟชั่นแห่งหนึ่ง นี่ก็แต่งงานไปแล้วเช่นกันเมื่อปีก่อนเช่นกันกับเจ้าชายอัฟตาบ เจ้าชายอาหรับแห่งรัฐไซนาห์
ตอนนี้จึงเหลือเธอที่ยังไม่ได้แต่งงาน แม้ว่าบุษบันจะเป็นพี่คนโตหากทว่ากลับแต่งงานช้าที่สุด แต่เธอก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร กลับใช้ชีวิตตามประสาสาวโสดกับเพื่อนสนิททั้งสองคนไปเรื่อยๆ
เมื่อก้าวออกมาจากธนาคารก็พลันมองเห็นร้านขนมไข่นกกระทาที่ส่งกลิ่นหอมลอยมาตามลมยั่วกระเพาะของเธอเหลือเกิน จึงทำให้หญิงสาวอดที่จะหยุดแวะซื้อไม่ได้
?ขายยังไงคะ?
?ลูกละบาทครับ? พ่อค้าที่กำลังทอดไข่นกกระทาบอกให้เธอได้ทราบ
?งั้นขอสามสิบบาทสองถุงค่ะ?
บุษบันชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้วด้วย นั่นเพราะอีกหนึ่งถุงจะซื้อไปฝากเพื่อนร่วมงานที่บริษัท พ่อค้าก็จัดการหยิบขนมไข่นกกระทาจัดใส่ถุงให้ตามที่สั่งก่อนจะส่งมันให้กับเธอ มือเรียวก็หยิบธนบัตรใบละร้อยออกมาจากกระเป๋าสตางค์ส่งให้กับพ่อค้าที่หยิบขนมยื่นกลับมาให้ โดยอีกฝ่ายก็ทอนเงินสี่สิบบาทเป็นเหรียญสิบทั้งหมดมาให้กับเธอ
ครั้นได้ขนมแล้วบุษบันก็หยิบขนมขึ้นมาใส่ปากกินอยางเอร็ดอร่อย ในขณะที่เดินกลับไปยังรถของตนเองที่จอดอยู่ยังลานจอดรถชั้นใต้ดินของธนาคารก็หยิบเศษเหรียญทั้งหมดเก็บใส่กระเป๋าสะพายไปด้วย แต่เจ้ากรรมดันทำเหรียญสิบหล่นไปสองเหรียญ
เธอจึงกวาดตามองหาก็พบว่ามันกลิ้งอยู่เบื้องหน้าหนึ่งเหรียญ ส่วนอีกหนึ่งเหรียญกลิ้งเข้าไปใต้รถสปอร์ตสีเหลืองที่จอดอยู่ไม่ไกล ด้วยความงกจึงก้มตัวลงเก็บถึงจะเป็นเงินเพียงแค่สิบบาทก็เถอะ แต่มันก็เป็นเงิน
?ทำไมซุ่มซ่ามจริงนะเรา?
พลางต่อว่าตนเองก่อนจะเดินไปยังรถคันดังกล่าวเพื่อเก็บอีกหนึ่งเหรียญด้วยความเสียดายถ้าหากจะทิ้งไปอย่างไม่ไยดี นั่นเพราะว่าเธอเคยรับรู้ถึงความลำบากยามที่ไม่มีเงินแม้สักบาท หลังจากที่บิดากับมารดาจากไปด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ ทำให้สามคนพี่น้องต้องอยู่ด้วยกันตามลำพัง
เธอซึ่งเป็นพี่คนโตจึงมีหน้าที่ดูแลน้องสาวทั้งสองคน ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่ายเป็นค่าเทอมของตนเองและค่ากินอยู่ ทางด้านน้องสาวสองคนก็น่ารัก เพราะต่างทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาเป็นค่าเทอมของตนเองจนกระทั่งเรียบจบปริญญาตรี เพราะไม่อยากให้พี่สาวต้องลำบากเพียงคนเดียว
ในช่วงที่บุษบันกำลังก้มตัวลงเก็บเศษเหรียญนั้น นัยน์ตาของเธอก็มองเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ รถคันสวย เขามองมายังเธออย่างจับจ้อง บุษบันคิดว่าอีกฝ่ายคงเห็นเหรียญของตนเองกลิ้งเข้าไปอยู่ใต้รถเป็นแน่เลยเข้ามาเก็บเหรียญดังกล่าวให้อย่างมีน้ำใจ
?ขอบคุณนะคะที่จะเก็บเหรียญให้ฉัน? เธอบอกพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานมอบให้กับอีกฝ่าย ก่อนที่มือเรียวจะหยิบเหรียญเบื้องหน้าออกมา หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วพลันได้ยินเสียงหนึ่งทางเบื้องหลัง
?นี่ป้า...มาทำอะไรที่รถของคนอื่นน่ะ?
?ป้าบ้านแกสิ ฉันจำได้ว่ายังไม่มีหลานอย่างแน่นอน? เธอบ่นงึมงำในใจ
เจอโรมซึ่งมานั่งรอลูกน้องที่ธนาคารก้าวกลับมายังรถหลังจากที่อีกฝ่ายจัดการกับธุระเสร็จเรียบร้อย เมื่อมาถึงก็เห็นผู้หญิงแต่งตัวเชยๆ คนหนึ่งก้มๆ เงยๆ อยู่ใต้รถของตนเอง ท่าทางน่าสงสัยมากจึงหยุดยืนมองอยู่ครู่หนึ่ง กระทั่งอีกฝ่ายลุกขึ้นยืนเขาจึงถามออกไปทันที
เพียงได้ยินคำถามบุษบันก็อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ แค่ใส่แว่นถึงกับเรียกว่าป้าเลยเหรอ เดี๋ยวเถอะ ถ้าหน้าแก่กว่าฉันล่ะก็แม่จะเฉ่งให้ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาจะบอกเขาเธอก็อุทานในใจ
?โอ้แม่เจ้า หล่อยังกับเทพบุตรแน่ะ?
ชายหนุ่มลูกครึ่งกรีซกับไทยซึ่งมีนัยน์ตาเป็นประกายสีฟ้าดุจอัญมณีที่คมราวเหยี่ยว และจมูกโด่งคมสันที่เข้ากันกับรูปหน้าที่หล่ออย่างยิ่ง และเรือนกายในชุดสูทสีเข้มที่ดูดีอย่างมาก จนเธออดคิดไม่ได้ว่านายแบบที่ไหนหลุดออกมาจากแค็ตตาล็อกเสื้อผ้ากันนะ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมตอบในสิ่งที่ตนเองถามจึงเอ่ยกลับไปอีกครั้งหนึ่ง
?ว่ายังไง ทำไมไม่ตอบล่ะ...มาทำอะไรที่รถของผม? บุษบันจึงบอกให้เขาได้ทราบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานโดยระงับความโมโหที่โดนเรียกว่าป้าเมื่อครู่นี้ นี่ถ้าไม่หล่อแล้วแก่กว่าล่ะก็ เธอจะเรียกลุงให้เต็มปากเต็มคำเชียว เอาให้อายเลยว่าหน้าแก่กว่าคนที่ถูกถามเสียอีก
?ฉันมาเก็บเหรียญค่ะ พอดีเหรียญสิบมันหล่นแล้วกลิ้งเข้าไปใต้รถคันนี้ค่ะ? แต่ดูเหมือนว่าคำตอบของเธอจะไม่ทำให้นัยน์ตาคู่คมไม่เชื่อในสิ่งที่บอกเลย
มาร์โอที่เดินตามหลังเจ้านายหนุ่มมาทีหลังก็ถามด้วยความสงสัย
?มีอะไรเหรอครับคุณเจอโรม? เขาจึงบอกให้อีกฝ่ายได้ทราบ
?ฉันเห็นผู้หญิงคนนี้มาวุ่นวายที่รถของฉันน่ะสิ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ นายลองก้มดูที่ใต้รถซิมาร์โอว่ามีอะไรรึเปล่า?
ลูกน้องก็รีบทำตามที่เขาบอกโดยเร็วด้วยการทรุดกายลงไปยังใต้รถ บุษบันก็ขยับร่างออกมานั่นเพราะกลัวกระโปรงจะไปครอบหัวอีกฝ่ายแทน
เมื่อมาร์โอมองเห็นบางสิ่งที่อยู่ใต้รถเป็นจุดแดงๆ นัยน์ตาก็แสดงความตกใจออกมาอย่างมากก่อนจะรีบบอกเจ้านายให้ทราบและดึงตัวอีกฝ่ายหลบไปด้วย
?มีระเบิดอยู่ใต้รถครับคุณเจอโรม? เจอโรมหันไปมองหญิงสาวเบื้องหน้าอย่างแข็งกร้าวในทันที
?อะไรนะ ระเบิดอย่างนั้นเหรอ? บุษบันตะโกนขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวเช่นเดียวกันหลังจากรับรู้ว่าใต้รถมีอะไร ชายหนุ่มที่สวมชุดสูทก็มองอย่างดูถูกยิ่งนัก
?ไม่ต้องมาทำเป็นเนียนเล่นละครเลย? พอพูดจบเขาก็จับมือทั้งสองของเธอไว้พร้อมกับบิดไปทางด้านหลังทันที บุษบันที่ไม่ทันตั้งตัวกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันก็ส่งเสียงร้องโวยวายไม่หยุด
?มาจับตัวฉันไว้ทำไมกัน ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ โอ๊ย ฉันเจ็บ? พลางร้องโอดครวญเมื่อโดนบิดแขนอย่างไม่ออมแรง เจอโรมใช้มือบีบไปยังคางเรียวด้วยน้ำหนักมือที่มากกว่าปกติ
?บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าใครส่งแกมาวางระเบิดรถฉัน? น้ำเสียงดุดันถามอย่างน่ากลัว
?ส่งบ้าอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง โอ๊ย ฉันเจ็บนะ แขนกับคอจะหักอยู่แล้ว? เธอกรีดร้องอย่างโอดครวญ
?ไหนขอดูหน้าชัดๆ หน่อยสิ?
เพียงพูดเสร็จเขาก็ดึงแว่นตากรอบสีดำออกไปจากวงหน้านวล หากสิ่งที่ได้พบกลับเป็นนัยน์ตาที่ทอประกายน่ามอง ซึ่งประดับด้วยขนตางอนงามที่สบประสานกับแววตาคม แล้วเขาก็กระชากไปยังเส้นผมที่อยู่บนศีรษะเพราะคิดว่าอีกฝ่ายสวมวิกเพื่อปลอมตัวไม่ให้ผิดสังเกต นักบัญชีสาวยิ่งตะโกนเสียงดังมากขึ้น
?โอ๊ย นี่คุณจะบ้าเหรอ มาดึงผมฉันทำไม? เจอโรมรับรู้ว่ามันคือผมจริงเมื่อกระชากยังไงมันก็ไม่หลุดติดมือออกมา เขาเลยจับไปยังลำคอเล็กและบีบแรงกว่าเก่า
?ฉันจะให้โอกาสเธอตอบมาอีกครั้งหนึ่งว่าใครใช้ให้เธอมาวางระเบิดรถของฉัน ไม่อย่างนั้นจะหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้? ชายหนุ่มตวาดกลับไปเสียงดัง พร้อมกับบีบลำคอเล็กแรงมากขึ้น
หญิงสาวไอออกมาติดต่อกันเมื่อไม่สามารถที่จะหายใจได้ และพยายามปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
?แค่กๆ ฉันไม่รู้เรื่อง อยู่ๆ จะมายัดข้อหาให้ฉันได้ยังไงกัน บ้าที่สุดเลย ฉันแค่มุดเข้าไปเก็บเหรียญเท่านั้น ทำไมออกมาเป็นอย่างนี้ล่ะ?
?เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? รปภ.ของธนาคารที่ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงก็เดินเข้ามาดูด้วยความสงสัย
?มีคนวางระเบิดรถผมครับ คุณช่วยโทร.ตามตำรวจมากู้ระเบิดให้รถผมด้วย? เจอโรมบอกให้รับรู้หลังจากนั้นก็หันไปสั่งกับลูกน้องตนเอง
?มาร์โอ นายจัดการเรื่องนี้ด้วย เดี๋ยวผู้หญิงคนนี้ฉันจัดการเอง มานี่เลย เธอต้องไปกับฉัน? เขาฉุดมือเรียวออกไป รปภ.ก็ไม่วายสงสัยต่อขณะที่เตรียมกดโทรศัพท์ตามที่บอก
?ทำไมเจ้านายคุณฉุดผู้หญิงออกไปอย่างนั้นล่ะ?
?เจ้านายผมจะพาเธอไปหาตำรวจเองน่ะครับ? มาร์โอแก้ตัวกลับไป
?คุณจะพาฉันไปไหน ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ทำ เข้าใจบ้างสิ? บุษบันพยายามบิดมือให้พ้นการจับกุมแต่ให้ตาย มันแน่นเกินกว่าจะทำให้เขาปล่อยได้ เจอโรมมองหน้าและตอบกลับอย่างชัดเจน
?ไม่เข้าใจ แต่ถ้าเธอไม่อยากติดคุกล่ะก็ ไปกับฉัน? ชายหนุ่มจัดการโบกเรียกรถแท็กซี่ที่อยู่ทางด้านนอก ก่อนจะบอกถึงสถานที่ที่ตนเองจะไป เมื่อแท็กซี่ยินดีไปส่งเขาก็เปิดประตูพร้อมกับสั่งหญิงสาว
?ขึ้นไปเดี๋ยวนี้? เขาผลักร่างนวลเข้าไปในรถแท็กซี่
?คุณบอกฉันมาก่อนสิว่าคุณจะพาฉันไปไหนน่ะ? บุษบันรู้สึกหวาดหวั่นอย่างมากขณะที่โดนผลักเข้าไปในรถยังไม่ยอมทำตามที่เขาบอกแบบง่ายดาย
?เดี๋ยวก็รู้เองล่ะ ขึ้นไปถ้าไม่อยากติดคุกหัวโตล่ะก็ ขึ้นไปเดี๋ยวนี้? เจอโรมออกคำสั่งกร้าวซ้ำ หญิงสาวไม่อยากติดคุกก็เลยจำต้องยอมทำตามที่เขาบอกแต่โดยดี
?ฉันไม่ได้ทำจริงๆ นะ? ระหว่างที่นั่งรถแท็กซี่ไปหญิงสาวก็ไม่วายแก้ตัวต่อเขา หากเจอโรมกลับตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่เชื่อถือสักนิดเดียว
?เดี๋ยวรอหลักฐานจากทางธนาคารละกัน ถ้าเธอทำ...ก็เตรียมตัวเข้าคุกได้เลย?
บุษบันรู้สึกกลืนน้ำลายไม่ลงทันที ใครจะชื่นชอบล่ะเมื่อได้ยินว่าจะต้องเข้าคุก สีหน้าของเธอหนักใจอย่างมากถ้ารู้ว่างกเงินแค่สิบบาทแล้วต้องเจอแบบนี้ล่ะก็ เธอปล่อยให้มันตกหายไปเลยก็ดี ไม่อยากเชื่อว่าความงกจะนำเรื่องโชคร้ายมาให้กับตนเอง
ครู่ใหญ่รถแท็กซี่ก็ขับมาจอดยังหน้าบ้านหลังหนึ่ง เจอโรมจัดการหยิบเงินจ่ายให้กับคนขับเพื่อเป็นค่าโดยสาร ก่อนจะเปิดประตูลงมาพร้อมกับเรียกหญิงสาวให้เดินตามตนเองไปด้วย เมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งเฉยจึงใช้มือกระชากแขนเรียวอย่างไม่อ่อนโยนเลย
?ลงมาสิ?
?คุณพาฉันมาที่นี่ทำไมกัน? บุษบันทำสีหน้างุนงงไม่เลิกราพร้อมกับมองไปยังบ้านหลังใหญ่เบื้องหน้าด้วยแววตาที่สงสัยยิ่งนัก เขาจึงย้อนถามกลับไป
?หรือเธออยากจะไปโรงพักแทนล่ะ ลงมาเร็วๆ เราจะมารอหลักฐานกล้องวิดีโอจากธนาคารที่นี่ จะได้ดูว่าที่เธอพูดน่ะมันจริงไหม?
บุษบันสำรวจไปยังความโอ่อ่าหรูหราแสดงว่าอีกฝ่ายต้องเป็นคนรวยมากอย่างแน่นอน ก็แหงล่ะขับรถเสียแพงขนาดนั้น
?วันนี้กลับเร็วจังเลยครับคุณเจอโรม? ทอมซึ่งเป็นพ่อบ้านสูงวัยอายุประมาณห้าสิบกว่าปี มีหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยที่บ้านให้กับชายหนุ่ม ครั้นมองไม่เห็นพาหนะคู่กายของอีกฝ่ายก็ย้อนถามกลับไปด้วยอาการเลิกคิ้วสูง ?คุณเจอโรมไม่ได้ขับรถกลับมาเหรอครับ?
?เปล่าหรอกทอม พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ? ชายหนุ่มบอกให้อีกฝ่ายได้ทราบก่อนจะก้าวเข้าไปในบ้านพร้อมกับฉุดข้อมือเล็กให้ตามไปด้วย ซึ่งอีกฝ่ายก็เกาะเสาแน่นไม่ยอมปล่อย
?คุณบอกฉันมาก่อนสิว่าคุณจะไม่ทำอะไรฉันน่ะ?
?มีเรื่องอะไรเหรอครับคุณเจอโรม? พ่อบ้านซักถามด้วยความอยากรู้กับภาพเบื้องหน้า เขามองไปยังบุษบันก่อนจะบอกให้ได้ทราบด้วยแววตาที่เป็นประกายอย่างจับจ้อง
?มีคนจะวางระเบิดรถของผมน่ะทอม? เมื่อเห็นสายตาที่มองมาบุษบันก็รีบปฏิเสธทันควัน
?ฉันบอกหลายครั้งแล้วไงล่ะว่าฉันไม่ใช่คนวางระเบิด? ชายหนุ่มก็ยังเอ่ยด้วยคำพูดดังเดิมไม่เปลี่ยน
?ถ้าฉันตรวจสอบเธอแล้วถึงจะเชื่อ ตอนนี้ยังไม่ตรวจสอบก็เชื่อไม่ได้? เขาบอกให้เธอได้รับรู้พร้อมกับออกแรงกระชากจนมือเรียวที่เกาะเสาไว้หลุดออก ระหว่างนั้นหญิงสาวก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้
?ฉันลืมไปเลยว่าฉันยังไม่ได้โทร.บอกเพื่อน? เพียงบอกเสร็จมือเรียวก็หยิบกระเป๋าที่สะพายอยู่ข้างกายขึ้นมา
เจอโรมที่ได้ยินและเห็นหญิงสาวเปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็รีบแย่งมันไปจากนักบัญชีสาวในทันที บุษบันทำสีหน้าตกใจเมื่อโทรศัพท์ของตนเองตกอยู่ในมือเขา เธอไม่ชอบคนที่เสียมารยาทเป็นที่สุด
?นี่คุณ...เอาโทรศัพท์ฉันไปทำไมน่ะ เอาคืนมาเลยนะ? พร้อมกับพยายามที่จะแย่งคืนกลับมาด้วย แต่อีกฝ่ายกลับยกมือขึ้นสูงจนเธอเอื้อมไม่ถึง
?เธอจะโทร.หาใคร? เจอโรมย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเท่าใดนักโดยมองไปยังโทรศัพท์ในมือของตนเองอย่างระแวงแคลงใจด้วย
?ฉันจะโทร.หาเพื่อนน่ะสิ เดี๋ยวเพื่อนฉันจะเป็นห่วงถ้าไม่เห็นฉันกลับไปวันนี้น่ะ? เธอรีบชี้แจงให้เขาได้ทราบแบบชัดเจน
?โทร.ไม่ได้? เขาปฏิเสธเสียงดุ หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ
?ทำไมถึงโทร.ไม่ได้ ฉันก็แค่จะโทร.หาเพื่อนเองนะ? เมื่อเจอคำพูดห้ามปรามบุษบันก็รู้สึกโมโหเช่นกัน
?เดี๋ยวเธอจะโทร.บอกเพื่อนให้หนีไป? เพียงพูดเสร็จเขาก็หยิบกระเป๋าของเธอออกไปทันทีและพลันมองเห็นโทรศัพท์หลายเครื่องอยู่ในนั้น นัยน์ตาของเจอโรมเบิกโตกว่าเดิม ก่อนจะเปิดกระเป๋าสะพายของเธอให้กว้างขึ้นโดยหยิบโทรศัพท์ทั้งสามเครื่องขึ้นมาถามบุษบันด้วยน้ำเสียงดุดันแบบระแวงแคลงใจ
?ทำไมเธอถึงมีโทรศัพท์ตั้งสามเครื่อง? คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้ามาชนกัน นัยน์ตาจับจ้องมายังวงหน้านวลอย่างไม่ละไปทางใด
?ก็เครื่องหนึ่งฉันเอาไว้ทำงาน อีกเครื่องหนึ่งเป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของฉัน ส่วนอีกเครื่องหนึ่งเป็นของเพื่อนฉันที่พอดีว่าโทรศัพท์เสียแล้วมาส่งซ่อม ฉันเห็นว่าเป็นทางผ่านก็เลยไปรับมาให้แทน? หญิงสาวอธิบายให้เขาได้ทราบ เจอโรมยิ้มเมื่อได้ฟังเหตุผลที่เธอบอก
?อย่างนั้นเหรอ? บุษบันก็พยักหน้าตอบรับเพื่อยืนยัน
?ใช่ค่ะ? เพียงสิ้นคำเขาก็เหวี่ยงกระเป๋าสะพายของเธอลงบนพื้นโดยแรง อย่างไม่สนใจว่าของในนั้นจะราคาแพงมากเพียงใด บุษบันที่เห็นเช่นนั้นก็ตำหนิอย่างไม่ชื่นชอบและโมโหมาก
?นี่คุณทำบ้าอะไรน่ะ โยนกระเป๋าฉันอย่างนั้นได้ยังไงกัน เดี๋ยวของของฉันก็พังหรอก ช่างเป็นคนที่นิสัยหยาบคายเสียจริง?
?ก็ช่างมันสิ จะบอกอะไรให้นะ ไม่ใช่แค่โทรศัพท์หรอกที่พัง ตัวเธอเองก็ไม่รอดเหมือนกัน? ทันทีที่เขาพูดจบก็ยกมือจับไปยังลำคอเล็กและออกแรงมากกว่าปกติ จนบุษบันต้องไอติดต่อกันเพราะหายใจไม่ออก ปลายนิ้วของเขากดไปยังข้างลำคอทั้งสองด้านซึ่งกำได้รอบทีเดียว
?คุณจะทำอะไรน่ะ? เธอถามเขากลับไปเบาๆ ด้วยความหวาดกลัว
?บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าใครบงการให้เธอทำ? พร้อมกับมือของเจอโรมที่กดด้วยน้ำหนักซึ่งมากกว่าเดิม
?ก็ฉันบอกแล้วไงล่ะว่าฉันไม่รู้เรื่อง? นักบัญชีสาวแก้ต่างให้ตนเองโดยความบริสุทธิ์ใจ หากเขากลับมองด้วยความหวาดระแวงดังเดิม
?ฉันไม่ใช่ควายหรอกนะที่จะเชื่ออะไรง่ายๆ น่ะ? ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ของเขาก็พลันดังขึ้นมา เจอโรมจึงหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวของตนเองออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทแล้วกดรับ ?ว่าไงมาร์โอ?
สีหน้าตั้งใจฟังเป็นอย่างดี เมื่อลูกน้องรายงานให้เขาได้ทราบ
?กล้องโทรทัศน์วงจรปิดของธนาคารตรงบริเวณที่เราจอดรถเสียครับคุณเจอโรม? ชายหนุ่มไม่ได้ทำท่าประหลาดใจนั่นเพราะเป็นสิ่งที่ผู้ร้ายมักจะคิดไว้อยู่แล้ว
?มันก็ไม่แปลกหรอกที่จะเสียน่ะเพราะว่าคงไม่มีใครที่มันจะโง่ปล่อยให้กล้องวงจรปิดทำงานถ่ายภาพตัวเองตอนที่ทำชั่วหรอกเพื่อเป็นเบาะแสชี้นำให้ตำรวจมาจับน่ะ? ขณะที่เขาแสดงความคิดเห็นออกมาก็มองไปยังร่างนวลอย่างไม่ละไปทางใดเลย ลูกน้องคนสนิทจึงถามกลับมาอีกคราวหนึ่ง
?แล้วจะให้ทำยังไงต่อดีครับคุณเจอโรม?
?ในเมื่อกล้องวงจรปิดมันเสียแล้วจะไปทำอะไรได้ต่อล่ะ และถึงเราจะแจ้งความไปมันก็ไม่มีประโยชน์เพราะไม่มีหลักฐาน ดีไม่ดีถ้าเราแจ้งความ ไอ้คนบงการมันอาจจะไปประกันตัวออกมาหรือไม่ก็ฆ่าปิดปากซะแล้วเราก็จะไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนคิดร้ายกับฉัน ตอนนี้ผู้หญิงอยู่กับฉัน...เดี๋ยวฉันจะจัดการเค้นคำตอบจากเธอเอง แล้วทางตำรวจส่งหน่วยกู้ระเบิดมารึยัง? เขาถามด้วยความอยากรู้ต่อไป
?มาแล้วครับ ตอนนี้กำลังทำการกู้ระเบิดรถอยู่ครับ? ลูกน้องรายงานให้เขาได้ทราบ
?ดี อย่างนั้นนายคอยจนเสร็จก่อนแล้วค่อยขับรถกลับมาที่บ้าน? ออกคำสั่งหลังจากนั้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ อีกฝ่ายก็ตอบรับด้วยความเข้าใจ
?ได้ครับคุณเจอโรม?
เขาคุยกับลูกน้องต่ออีกไม่นานก่อนจะวางสายโดยเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าดังเดิม

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพราะความงกซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นของสามพี่น้องแห่งไร่ดอกไม้นี่เอง ที่ทำให้พี่สาวคนโตที่ยังโสดสนิทอย่างบุษบันต้องซวยเพราะชีวิตพลิกผัน หญิงสาวเจอข้อครหาหนักจากนักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งไทย-กรีก เจอโรมปักใจเชื่อว่าบุษบันคือมือวางระเบิดที่ฝ่ายตรงข้ามส่งมาแก้แค้น ทั้งที่จริงแล้วบุษบันแค่ก้มลงไปหยิบเหรียญสิบบาทที่กลิ้งไปอยู่ใต้รถเขาเท่านั้น ประกอบกับในกระเป๋าถือของหล่อนดันมีโทรศัพท์พกพาตั้งสามเครื่อง ซึ่งบุษบันก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหนแต่สำหรับเจอโรมเขาคิดว่าหล่อนมีพิรุธ การสอบสวนเริ่มต้นด้วยความชุลมุนวุ่นวายเพราะเขาทรมานหญิงสาวด้วยน้ำ เพราะความเปียกนี่แหละที่ทำให้เจอโรมเห็นป้าแว่นเฉิ่มเบอะกลายเป็นสาวเซ็กซี่ขยี้หัวใจ ต่อจากนี้หลักฐานใดจะมายืนยันว่าบุษบันถูกใส่ร้ายป้ายสีเจอโรมก็ไม่สน เพราะเขานี่แหละจะมอบรสสวาทให้หล่อนกลายเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์เสียเอง

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”