ห้องตรวจพิเศษ, โรงพยาบาลที มิชชั่น
ทันทีที่ฉันก้าวผ่านธรณีประตูเข้าไปด้านใน ชายวัยกลางคนในชุดกาวน์สีขาวสะอาดมาดเนี้ยบซึ่งเป็นคุณหมอที่ดูแลฉันอยู่ถึงกับลอบถอนหายใจออกมาแรงๆ ในขณะที่ฉันยิ้มแหยๆ แล้วค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามช้าๆ พร้อมยื่นมือไปวางแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะที่คั่นกลางระหว่างฉันกับคุณหมอเอาไว้ แล้วไหว้อย่างงดงามเพื่อให้คุณหมอเอ็นดู
?สวัสดีค่ะ คุณหมอ ^^;?
?คุณหวันยิหวาครับ อาทิตย์นี้เราเจอกันเป็นครั้งที่สามแล้วนะครับ?
คุณหมอไม่ยิ้มตอบ ซ้ำยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์กลับ ก่อนจะยื่นมือไปรับแฟ้มประวัติการรักษาของฉันจากพยาบาลสาวสวย แล้วเปิดมันด้วยปลายนิ้วชี้ จากนั้นดวงตาเฉยชาหลุบลงไปกวาดตามองบนกระดาษ ในช่วงเวลาที่ฉันหายใจเข้ายังไม่ทันจะเต็มปอด คุณหมอก็จัดการปิดแฟ้มแล้ววางลงบนโต๊ะราวกับว่ามันไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่น้อยได้อย่างเย็นชาที่สุด
?นอกจากปวดท้อง อาเจียน วันนี้คุณหวันยิหวามีอาการอื่นเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ ถ้าไม่มี หมออยากให้คุณทำตามที่หมอแนะนำให้ครบ และทานยาให้หมดก่อนนะครับ แล้วเราค่อยมาดูผลจากการรักษากันเพิ่มเติม ซึ่งก็อีกราวๆ สองสัปดาห์นับจากวันนี้ไป?
?แต่ยาที่คุณหมอให้ไป หวันทานแล้วไม่รู้สึกดีขึ้นนี่คะ? ฉันบอกเสียงอ่อย และยิ่งเบาลงอีกเมื่อคุณหมอมองดุๆ กลับมา ?เปลี่ยนยาได้มั้ยคะ เอาแบบที่แรงกว่านี้ แบบที่กินปุ๊บหายปั๊บเลยยิ่งดีน่ะค่ะ?
?กินปุ๊บหายปั๊บจะเป็นยารักษาในระดับทั่วไปเช่นการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ อย่างเป็นไข้ หรือหวัดอะไรทำนองนั้นน่ะครับ ไม่ใช่กับโรคเบื่ออาหาร และกับผู้ป่วยที่ไม่ได้ทำตามคำแนะนำของหมอเลย?
พอได้ยินคุณหมอว่าอย่างนั้น ฉันถึงนึกขึ้นได้ว่า กาแฟคือสิ่งที่คุณหมอย้ำนักหนาว่าห้ามดื่มเด็ดขาด โอ๊ย แย่ๆ สมองปลาทองหรือไงเนี่ยฉัน
ฉันเลยฉวยแก้วมัคคิอาโต้ที่วางไว้บนโต๊ะมาไว้ที่ตัก พร้อมกับอธิบายเสียงอ่อยกว่าเดิม
?หวันทำตามที่คุณหมอแนะนำทุกอย่างแล้วจริงๆ นะคะ เพียงแต่...ไอ้การที่จะให้หวันเลิกดื่มมัคคิอาโต้โดยเด็ดขาดเนี่ย หวันทำไม่ได้จริงๆ ค่ะ มันทรมานใจเกินไป T.T?
มัคคิอาโต้เป็นกาแฟเอสเปรสโซ่สองออนซ์ปรุงด้วยไซรัปกลิ่นวานิลลา นมสด ส่วนบนมีโฟมนมเย็นหนาประมาณสองนิ้ว ราดด้านบนฟองด้วยคาราเมล มีรสชาติขมสลับหวานละมุน และหอมกลิ่นคาราเมลสุดๆ
ฉันดื่มมันวันละแก้วตั้งแต่ฉันอายุ 17 ปี จนตอนนี้อายุ 20 แล้วก็ยังไม่มีวันไหนที่ฉันจะไม่ดื่มมันเลย ฉันออกจะหลงใหลมันขนาดนั้นแท้ๆ แต่จู่ๆ คุณหมอให้หักดิบเลิกเสพติดกาแฟหน้าตาเฉย ฆ่าฉันเลยเหอะเพราะมันง่ายกว่า TOT
?คุณทำได้ครับ ถ้าคุณใจแข็งพอ?
คุณหมอยืนยัน จากนั้นก็หยิบแฟ้มประวัติการรักษาของฉันมาจดยุกยิกลงไป ก่อนจะยื่นให้กับนางพยาบาล อันเป็นสัญญาณบอกว่าหมดเวลาของฉันแล้ว
ไม่นะ! ม่ายยยย ฉันมาตั้งไกล รอก็น้านนานกว่าจะได้พบคุณหมอ คุณหมอจะอัญเชิญฉันกลับง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ มันไม่แฟร์เลยยยยย!
?คุณหมอ หวันอยากได้ยาใหม่จริงๆ นะคะ TOT หวันเดินทางมาตั้งไกล แถมยังเสียเวลานั่งรอคุณหมออีกเป็นชั่วโมง คุณหมอไม่เห็นใจหวันไม่พอ ยังโจมตีมัคคิอาโต้ว่าเป็นบ่อเกิดของอาการเลวร้ายที่หวันเป็นอยู่อีก รู้ตัวบ้างมั้ยคะว่าคุณหมอพูดให้หวันเครียดชัดๆ เลย ง่า... รู้สึกอยากจะอ้วกขึ้นมาแล้วสิคะเนี่ย กระโถนอยู่ไหน TxT?
เมื่อคิดว่าจะต้องเลิกกินมัคคิอาโต้ไปตลอดชีวิต ฉันรู้สึกปวดหัวหนึบหนับ ต่อมาก็เริ่มคลื่นเหียน สุดท้ายฉันก็โก่งคออาเจียนออกมาต่อหน้าคุณหมอจริงๆ โชคดีที่นางพยาบาลคว้าถังขยะเล็กๆ ใกล้ตัวมารองอาเจียนของฉันเอาไว้ได้ทัน
คุณหมอยื่นมือไปหยิบถังขยะมาดูอาเจียนของฉัน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
?ผมคิดว่าที่ยาไม่ค่อยได้ผลคงเป็นเพราะว่าคุณหวันยิหวารั้นดื่มกาแฟตอนท้องว่างมากกว่านะครับ ดังนั้นผมจึงขอยืนยันว่า ผมจะไม่เปลี่ยนยา?
?โอเค ไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยนค่ะ แต่คุณหมอช่วยสั่งยาเพิ่มให้หวันหน่อยได้มั้ยคะ เผื่อว่ามันจะหายเร็วขี้นอีกจี๊ดนึงน่ะค่ะ?
?ไม่มีการต่อรองอะไรทั้งนั้นครับ คุณหวันยิหวา?
?โธ่ คุณหมอ นี่มันเกี่ยวข้องกับอาชีพของหวันด้วยนะคะ คุณหมออยากให้หวันอดตายหรือยังไง TOT?
?ผมทำดีที่สุดแล้วนะครับ -_-?
?แต่หวันคิดว่าแพทย์เฉพาะทางฝีมือเก่งฉกาจในเจ็ดย่านน้ำนี้อย่างคุณหมอจะต้องมียาวิเศษช่วยให้หวันหายโดยไม่ต้องเลิกกินกาแฟได้แน่ๆ เลยค่ะ หวันว่าคุณหมอลองตรวจหวันใหม่อีกหนดีมั้ยคะ เผื่อว่าการที่คุณหมอไม่รู้จะให้ยาอะไรเพิ่ม มันจะเป็นแค่เรื่องเส้นผมบังภูเขาเท่านั้นเอง?
?เริ่มจากตรวจชีพจรดีมั้ยคะ?? ฉันพูดพร้อมกับยื่นแขนวางไว้บนโต๊ะ
?เลิกเล่นได้แล้วครับคุณหวันยิหวา ที่นี่ไม่ใช่เนิร์สเซอรี่นะครับ แล้วผมก็ไม่ตรวจใหม่อะไรทั้งนั้น เชิญคุณกลับออกไปได้แล้ว?
?แต่หวันอยากให้ตรวจใหม่ ถ้าหวันไม่ได้ตรวจใหม่ล่ะก็ หวันอาจจะร้องเรียนว่าคุณหมอไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้ป่วยร้องขอก็ได้นะคะ!?
คุณหมอยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยดุจเดิม
?จะร้องเรียนจริงๆ นะคะ?
ฉันย้ำอีกทีเผื่อว่าที่คุณหมอไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ เป็นเพราะคิดว่าหวันยิหวาคนนี้ไม่เอาจริง แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดเลย
?ถ้าอย่างนั้นก็ร้องเรียนตรงนี้ได้เลยนะครับ เพราะผมเป็นเจ้าของและผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งนี้เอง?
คุณหมอตอบอย่างไร้อารมณ์ ก่อนจะเหลือบมองฉันด้วยดวงตาดุดันผ่านแว่นทรงกลม เล่นเอาฉันพูดไม่ออกไปเลย
โธ่ถังกะละมังข้างฝาจริงจริ๊งงง TTOTT จะขู่เขาทั้งทีก็ยังเจอจุดไต้ตำตอเข้าซะอีกแน่ะ ทำไมชีวิตฉันมันถึงได้ซวยอย่างนี้น้า บ้าไปแล้ว!
?จะร้องเรียนมั้ยครับ ผมจะได้ให้เขียนใบร้องเรียนเป็นเรื่องเป็นราว?
?ถ้าคุณหมอที่เป็นทั้งหมอเฉพาะทาง ผู้อำนวยการ และเจ้าของโรงพยาบาลยืนกรานขนาดนี้ หวันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะค่ะ ยอมจำนนแต่โดยดีแล้วจริงๆ U_U?
?ดีครับ ถ้าอย่างนั้นอีกสองสัปดาห์คุณหวันยิหวาค่อยมาให้ผมติดตามอาการก็แล้วกันนะครับ สวัสดี?
แล้วคุณหมอเย็นชาก็ผายมือเชิญฉันให้ออกไป โดยที่ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากลุกขึ้นแล้วไหว้งามๆ ก่อนจะพาตัวเองออกมาด้วยความรู้สึกล้มเหลวไม่เป็นท่า ทำไมจังหวะชีวิตของฉันมันถึงได้แย่อย่างนี้ล่ะ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่แคล้วต้องกลับไปตายรังที่บ้านหรอกหรือไงเนี่ย!
โอ๊ยยยย ไม่นะ ไม่ๆๆๆ ฉันไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด ฉันไม่มีทางกลับไปหรอก TOT!
อ๊ะ งงกันอยู่ใช่มั้ยล่ะคะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่ งั้นฉันขอเล่าโพรไฟล์ก่อนหน้านี้สักนิดก็แล้วกันนะคะ
ฉันชื่อหวัน ชื่อตามบัตรประชาชนก็ หวันยิหวา เฉิน อายุ 20 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-จีน ผิวขาวเหมือนน้ำนม ผมสีน้ำตาลคาราเมลยาวเลยไหล่ไปสองคืบ ปกติฉันผมตรงนะ แต่ฉันชอบดัดเป็นลอนใหญ่ๆ แล้วปล่อยสยายให้ดูเซ็กซี่นิดๆ รับกับหน้าอกไซส์ 34 มากกว่า ช่วงเอวฉันคอด สะโพกก็ผายกำลังดี ส่วนหน้าตาก็ไปวัดไปวาได้น่ะนะ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ถูกแมวมองทาบทามให้เป็นนางแบบหรอก ^w^
ใช่แล้วล่ะ ฉันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยไปพร้อมๆ กับการเป็นนางแบบ แต่ฉันก็ไม่ได้ดังมากหรอกนะ แบบว่า...เพิ่งเริ่มงานในวางการนางแบบได้ปีเศษๆ เอง
แรกๆ มันก็โอเคแหละ ผู้ปกครองของฉันซึ่งก็คือเตี่ยไม่ได้ว่าอะไรเรื่องที่ฉันนุ่งสั้นถ่ายแบบลงปกนิตยสาร แม้แต่ทูพีชท่านก็ไม่ว่าอะไรสักแอะ แต่พอฉันฝันใหญ่อยากเป็นนางแบบอินเตอร์ไปหาประสบการณ์ที่ต่างประเทศดูบ้าง เส้นทางการเป็นนางแบบของฉันก็เต็มไปด้วยอุปสรรคทันที...
เริ่มต้นจากเตี่ยเลยเหอะ ที่ยังง้ายยย~ ยังไง~ ก็ไม่ยอมให้ฉันไปชนิดหัวชนฝา แต่มีหรือฉันจะยอมง่ายๆ เราเลยทะเลาะกันครั้งใหญ่ ก่อนที่ฉันจะเก็บเสื้อผ้าออกมาอยู่คอนโดฯ ซึ่งเตี่ยไม่สามารถห้ามฉันได้ เพราะคอนโดฯ เป็นสมบัติส่วนตัวของฉันที่แม่ซื้อให้ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต เตี่ยก็เลยใช้ไม้แข็งด้วยการตัดค่าขนมของฉันเป็นศูนย์ (Y_Y จุดนี้...บอกเลยว่าเศร้ามาก เพราะค่าใช้จ่ายเพื่อความงามมันสูงปรี๊ดติดเพดานเลยเหอะ)
แม้จะกระอักจนจุกกับไม้นี้ของเตี่ย แต่ฉันก็สะบัดบ๊อบว่าไม่แคร์นะจ๊ะ เพราะฉันคิดว่ารายได้จากการเป็นนางแบบคงพอจะทำให้ฉันอยู่รอดได้ เผลอๆ ฉันอาจจะเก็บเงินได้ก้อนใหญ่เป็นทุนไปทำตามความฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองก็ได้
ถ้าหากว่า...ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นซะก่อน
จุดเปลี่ยนนั่นก็คือ จู่ๆ งานที่เคยมีก็หดหมดเลยจ้า TOT! พี่ต๊ะต๋า เอเจนซี่ที่ดูแลงานให้ฉันโทรมาแคนเซิลงานอย่างกะทันหันหลายครั้งหลายหนด้วยเหตุผลที่ว่า พวกผู้ว่าจ้างเริ่มติงว่าฉันดูไม่อวบอิ่ม ไม่สดใสตามคอนเซปท์ ?สวยใสร้ายเดียงสา? อย่างแต่ก่อนอีกแล้ว (คงเป็นผลจากการที่ฉันวิ่งรอกทำงานเก็บเงินแบบหักโหมเกินไปนั่นแหละ Y_Y) และที่บาดใจฉันมากไปกว่านั้นก็คือ ตารางงานของฉันว่างแบบไม่มีกำหนดด้วยนี่สิ!
ความกังวลทำให้ฉันเครียดจัด ค่าใช้จ่ายที่จ่อคอหอยอยู่ทำให้ฉันต้องใช้เงินอย่างประหยัดสุดพลัง และมันคงเป็นเพราะฉันไม่ชินกับการกินอยู่อย่างประหยัดนั่นแหละ เลยทำให้ความอยากอาหารลดฮวบ รู้ตัวอีกทีฉันก็ต้องแจ้นมาโรงพยาบาลหลังจากเกิดอาการคลื่นเหียน อาเจียนหนัก พร้อมๆ ไปกับอาการบิดในช่องท้องเหมือนมันจะขาดจากกัน
ฉันต้องการรักษาอาการนั้นอย่างเร่งด่วนเพื่อจะได้ไม่เป็นอุปสรรคกับงานอีก แต่ก็อย่างที่เห็นแหละว่า คุณหมอยืนยันจะไม่ช่วยเพิ่มเติมจนกว่าฉันจะช่วยตัวเองเสียก่อน
ก็ได้... ในเมื่อไม่มีใครช่วย ฉันช่วยตัวเองก็ได้! ไหนๆ ฉันก็ตัดสินใจออกจากบ้านมาเพื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองอยู่แล้วนี่ เรื่องนี้ไม่ยากเกินความสามารถของฉันหรอกน่า!
ก็แค่...?
เอ๊ะอ้าว -_-a จำได้อย่างเดียวคือหมอสั่งห้ามดื่มกาแฟ โอ๊ย...สมองปลาทองจริงเลยฉัน ไม่ได้การ ต้องไปค้นซะแล้วว่าเอกสารว่าด้วยเรื่อง ?ข้อปฏิบัติสำหรับผู้เป็นโรคกระเพาะ? ที่หมอให้มาครั้งก่อนอยู่ไหน
สงสัยจะอยู่ที่ท้ายรถฉันนั่นแหละ...
คุ้ยๆ ค้นๆ ต่อจากนั้นไม่นานก็เจอในที่สุด มันอยู่ในถุงบรรจุยาที่หมอให้มาครั้งก่อนนั่นแหละ แต่เพราะของที่สุมๆ กันอยู่เยอะจัด พอฉันดึงออกมาของที่อยู่ในถุงก็ร่วงลงพื้นทั้งหมด พร้อมๆ กับกระดาษเอกสารที่ว่าก็ปลิวว่อนตามแรงลมไปนอนแผ่อยู่ใต้ท้องรถ T^T
ฮึ้บ!
ฉันหมอบลงกับพื้นแล้วพยายามเอื้อมมือไขว่คว้ากระดาษเจ้าปัญหา แต่มือไม่ยาวพอเลยต้องหาตัวช่วยด้วยการเอาโทรศัพท์มือถือเข้าไปเขี่ย และจังหวะที่ฉันกำลังใช้ความพยายามอย่างสูงนั่นเอง เสียงเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่มเข้ามาใกล้ ก่อนจะดับสนิทเมื่อมันถูกบังคับให้จอดเทียบอยู่อีกฝั่งของรถคันที่คร่อมกระดาษฉันอยู่
ฉันไม่ได้ใส่ใจรถคันนั้นนัก กระทั่งได้ยินเสียงคนที่ลงมาจากรถพูดถึงมหาวิทยาลัยเซนต์เฟมัส พวกเขาเรียนที่เดียวกับฉันแหงๆ
?ริวอิจิน่ะเหรอ? เห็นเจ้านั่นบอกว่าติดการคัดตัวนักกีฬามหา?ลัยนะ ก็เลยไม่ว่างมา ส่วนริวจินก็อย่างเคย หลังจากเสร็จงานที่แล็บโน่นแหละ พวกนั้นเลยให้เราไปรอที่ร้านอาหารกันก่อนได้เลย?
เดี๋ยวนะ! o_O ไอ้การที่เขาพูดถึงริวอิจิที่กำลังติดคัดตัวนักกีฬา และริวจินกับแล็บของเขาเนี่ย มันทำให้ฉันตาโตกว่าไข่ห่านซะอีก เพราะมันเป็นลักษณะเด่นๆ ของพวก ?จตุรเทพมังกร? คนดังของเซนต์เฟมัสชัดๆ แล้วสองคนที่ยืนอยู่นี่ล่ะ ใช่พวกจตุรเทพมังกรด้วยหรือเปล่าล่ะเนี่ย >_<
ฉันเขยิบตัวเองเข้าไปใต้ท้องรถอีกนิด และอีกนิด เพื่อให้ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาให้ชัดอีกหน่อย ในขณะที่ผู้ชายคนเดิมพูดต่อ
?นี่ แล้วปีนี้มันกี่ครั้งแล้วโอริวที่นายโดนดักทำร้ายเนี่ย ขอร้องเลยเถอะ เลิกเป็นพระเอกซะทีได้ปะวะ ไม่มีใครเขาสนใจหรอกว่าไอ้ของพวกนั้นมันทำมาจากอะไร ถ้ามันอร่อยน่ะ?
ผู้ชายที่เขากำลังพูดด้วยคือ ?โอริว? งั้นฉันขอเดาเลยแล้วกันว่าคนที่กำลังพูดอยู่ก็คือ ?เซริว? แหงๆ
ฮ้า...พี่น้องฝาแฝดตระกูลซาคาโมโตะอยู่ตรงนี้ถึงสองคนเชียวเหรอนี่ ไม่อยากนึกเลยว่าถ้ายัยเอิ้นเพื่อนซี้ฉันมาอยู่ตรงนี้ด้วยล่ะก็ ยัยนั่นจะกรี๊ดสลบขนาดไหน!
ว่าแล้วก็อัดเสียงไปอวดให้ยัยนั่นดีดดิ้นเล่นดีกว่า >_<///
หลังจากที่ฉันจิ้มๆ หน้าจอสมาร์ทโฟนตรงโปรแกรมเรคคอร์ด มันก็เริ่มอัดเสียงทันใด
?คุยที่นี่มันไม่เหมาะล่ะมั้ง?
น่าจะเป็นโอริวที่พูดขึ้นมานะ ฉันจำเสียงเขาได้เพราะเคยเดินผ่านตอนที่เขากำลังคุยกับเพื่อนน่ะ
?ไม่เหมาะยังไง มีแต่รถทั้งนั้น?
พอเซริวอ้างอย่างนั้น โอริวก็ถอนใจเฮือกออกมาเสียงดังทีเดียว
?ฉันเคยสงสัยนะว่าพระเจ้าสร้างให้ฉันเกิดมามีสัมผัสพิเศษเรื่องการรับรสทำไม จนกระทั่งฉันได้คำตอบแล้วว่า ฉันอาจจะได้มันมาเพื่อพิทักษ์ความยุติธรรมจากพวกร้านอาหารที่คดโกงลูกค้านี่แหละ?
เอ่อ...โหลๆ เทสต์ นี่พวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่คะเนี่ย งงจังเลย -O-;
?นายดูขบวนการมดเอ็กซ์มากไปเปล่าวะ ฉันว่านายเลิกเหอะวะ ปล่อยมันไปตามครรลองของมันนั่นแหละ ส่วนเราก็ใช้ชีวิตไปตามปกติ อย่าลืมสิว่าถ้านายไม่ทำตัวเป็นฮีโร่ ก็ไม่มีใครรู้ว่าเราสี่พี่น้องมีสัมผัสพิเศษติดตัวกันมาตั้งแต่เกิด ที่สำคัญ นายก็ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้ด้วย?
เฮ้! พวกเขาพูดคำว่า ?สัมผัสพิเศษ? รัวๆ เลยอะ สรุปว่ามันคือเรื่องจริงจริงอะ?! O_O
?ฉันจะระวังตัวมากขึ้นก็แล้วกัน นายไม่ต้องห่วงหรอกน่า? โอริวบอกปัด
?จะไม่ให้ห่วงได้ไงวะ นายเป็นน้องชายฉันนะเว้ย แล้วริวจินต้องไม่ชอบใจแน่ถ้านายยังไม่เลิกเล่นบทฮีโร่พิทักษ์โลกแบบนี้?
โอริวหัวเราะเสียงก้องกังวาน
?หัวเราะอะไรวะ? เซริวเป็นคนถาม และก็เป็นคำถามที่ฉันกำลังสงสัยพอดี
?ฉันเอาแว่นริวจินไปซ่อน แล้วเอาเว่นกันแดดไปวางไว้แทน ป่านนี้หมอนั่นคงอกแตกตายแล้วมั้งที่แทนที่จะได้ทำแล็บกลับต้องมาพลิกห้องหาแว่นน่ะ ฮ่าๆๆ?
?ไอ้บ้าเอ๊ย อย่าให้หมอนั่นรู้เชียวว่าเป็นฝีมือนาย ไม่งั้นนายตายแน่? แล้วเซริวก็หัวเราะร่วนตาม
?เราไปหาน้าหมอกันเหอะ เดี๋ยวน้าหมอคิดว่าไม่มีใครมาแล้วเกิดออกไปยืดเส้นยืดสายซะก่อน ถ้าไม่ได้เจอนี่ฉันก็ต้องเสียเวลามาหาอีกครั้งจนได้?
?เออ เฮ้ย รอด้วยเด่ะ โอริว! นี่ ไม่ได้ยินหรือไงวะ?
ติ๊ด!
หลังจากกดปุ่มสต็อปของโปรแกรมเรคคอร์ด ฉันก็กระถดตัวขึ้นนั่งอย่างอึ้งๆ ที่บังเอิญไปรู้ความลับว่าแท้จริงแล้วพวกจตุรเทพเป็นเอ็กซ์เมน O_O และไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากฉัน
นี่ฉันกำลังกุมความลับของพวกเขาไว้สินะ!!
แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับฉันนี่นา กลับไปคิดหาวิธีรักษาไอ้โรคบ้าๆ นี่ก่อนดีกว่า
คิดดังนั้นฉันก็ละความสนใจจากสองหนุ่มนั่นแล้วเดินไปขึ้นรถก่อนจะขับออกไปจากที่นั่น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพราะพรสวรรค์พิเศษในการแยกแยะกลิ่นต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและฝีมือปรุงอาหารขั้นเทพ ทำให้ผมสร้างภัตตาคาร Dragon King Kitchen ให้โด่งดังจนได้ ^O^ และก็เพราะความสามารถพิเศษนี่แหละ ผมถึงต้องกลายมาเป็นคุณหมอ(จำเป็น)รักษาโรคเบื่ออาหารให้ ?หวันยิหวา? ลูกสาวเจ้าพ่อมาเฟียจอมโหด ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องพักสุดหรูของเธอ ก็ทำเอาผมผู้มีกฎว่าทุกอย่างต้องสะอาดถูกหลักอนามัยถึงกับผงะ เพราะนอกจากจะมีแต่อาหารกระป๋องที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ยังเต็มไปด้วยซากขยะกองพะเนินที่เป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค (-_-!) แต่เอาเหอะ เพื่อเงื่อนไขว่าจะได้ที่ดินทำเลทองมาครองเมื่องานสำเร็จ ผมจะรักษาเธอให้หาย เธอจะได้โกอินเตอร์ไปเป็นนางแบบอย่างที่เธอฝัน เชื่อมือ ?ซาคาโมโตะ โอริว? คนนี้ได้เลย!
