จันทร์เสี้ยวลอยสูงเด่นอยู่กลางดึก
ทั้งท้องฟ้าและป่าทึบซึ่งเงียบสงัดถูกปกคลุมไปด้วยสีดำ คฤหาสน์หลังหนึ่งตั้งอยู่ในนั้นราวกับถูกซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็น
หน้าต่างไม่มีแสงสว่างจึงกลมกลืนไปกับความมืด ดีที่ได้แสงจันทร์ส่องให้เห็นเค้าโครงรางๆ
ภายในคฤหาสน์เองก็มืดและเงียบสงัดเช่นกัน
เจ้าของคฤหาสน์กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงมุ้งประดับ ในห้องริมสุดบนชั้นสอง เด็กสาวแสนสวยผิวขาวราวกับเครื่องเซรามิกนอนตะแคงนิ่งไม่เคลื่อนไหวอยู่บนเตียง
ผมที่มีสีเช่นเดียวกับอเมทิสต์แผ่สยายอยู่บนผ้าปูเตียงสีขาว ภายในห้องอันเงียบสงบได้ยินเพียงเสียงลมหายใจขณะหลับเบาๆ
ก๊อก ก๊อก
เสียงเล็กๆ แผ่วเบานั้นดังสะท้อนไปทั่วคฤหาสน์ ทำให้ลมหายใจขณะหลับหยุดกลางคัน
เด็กสาวที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ลืมตาขึ้นทันที เธอยื่นมือออกไปจุดไฟตะเกียงที่อยู่ใกล้มือให้สว่าง
เธอค่อยๆ ดันลำตัวท่อนบนขึ้นอย่างเนือยๆ และลุกขึ้น เมื่อจัดชุดนอนที่เป็นชุดกระโปรงยาวติดลูกไม้ถักเรียบร้อยแล้วก็เดินไปยังประตูห้อง
เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงเคาะนั้นดังสะท้อนชัดเจนไปทั่วภายในคฤหาสน์
เด็กสาวถือตะเกียงเดินออกจากห้องเพื่อต้อนรับแขกที่มาเยือน เธอเดินลงบันไดไปโดยอาศัยแสงสว่างน้อยๆ นำทาง
สงสัยจะยังไม่ตื่นดีล่ะมั้ง ถึงได้รู้สึกมึนหัวอย่างนี้ เธอหยุดยืนตรงชานบันได เอามือกุมศีรษะและหรี่ตาลง
ทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังประตูหน้าบ้านที่อยู่ชั้นหนึ่งนั้นเพียงเดินลงบันไดไปก็ถึง
แมวดำวิ่งตรงไปที่ประตูตามทางเดินนั่นแล้ว
เด็กสาวค่อยๆ ขยับศีรษะ และมองตามการเคลื่อนไหวของแมวตัวนั้น
พอแมวดำพ้นจากสายตาของเด็กสาว แสงสลัวๆ ก็ลอดออกมาจากทางด้านในสุด
เงาของแมวดำที่ถูกแสงส่องสะท้อนลงบนพื้นนั้นทอดยาวขึ้น
เงาของแมวดำบิดเบี้ยวผิดรูปโอนเอนไปมา จนกลายเป็นเงาคนภายในชั่วพริบตา
ประตูเปิดออก เสียงโลหะขึ้นสนิมเสียดสีกันดังลั่นเอี๊ยดอ๊าด
คราวนี้มีเงาคนร่างเล็กเข้ามาจากประตูบานที่เปิดออก กลายเป็นเงาของคนสองคนปรากฏอยู่
?ถ้างั้น ผมขอรับไปล่ะนะ?
พอเงาร่างเล็กพูดจบก็รับของอะไรบางอย่างไป
เด็กสาวรีบร้อนลงบันไดไป เหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ประตูบานใหญ่และหนักเปิดออก หนุ่มน้อยผู้มาเยือนและเด็กหนุ่มที่ออกมาต้อนรับยืนเรียงกันอยู่ โดยมีฉากหลังเป็นต้นไม้ของป่าทึบที่กำลังสั่น
หนุ่มน้อยผมสีทองร่างเล็กคนนั้นมีหนังสือเก่าแก่ที่ไม่เข้ากับส่วนสูงและขนาดตัวห้อยอยู่กับเอว เขาเก็บขวดแก้วที่ถืออยู่เข้าไปในกระเป๋าอกเสื้อ
เด็กสาวมองดูที่ขวด
?นั่นมัน....?
และพึมพำด้วยสีหน้าบึ้งตึง
เธอมุ่งตรงไปยังทางเข้าเพื่อจะเรียกเขาเอาไว้ แต่ทว่าหนุ่มน้อยผู้นั้นรีบเดินออกจากประตูและหายวับไปซะแล้ว
เด็กสาวรีบไล่ตามราวกับจะปล่อยให้เขากลับไปไม่ได้ ระหว่างทางเธอก็สบตาเข้ากับแมวดำที่เดินย้อนกลับมาจากหน้าประตู
แมวดำจ้องหน้าเด็กสาวและร้องเมี้ยวเบาๆ ให้เธอ
?ทำอะไรตามอำเภอใจ.... ถ้าไม่รีบทวงคืนมาล่ะก็....?
เด็กสาวพูดอย่างตั้งใจจะตำหนิแมวดำ ขณะเดียวกันเธอก็เปิดบานประตูตรงทางเข้าและออกไปข้างนอก
เธอไล่ตามผู้มาเยือนซึ่งกลับไปแล้ว
เธอเดินผ่านทางที่มีแปลงดอกไม้อยู่ข้างหน้าประตูหน้าบ้าน และเร่งฝีเท้าไปยังซุ้มประตูของคฤหาสน์ แต่ว่าไม่มีใครอยู่แล้ว
แสงจันทร์ที่ลอดผ่านก้อนเมฆลงมาส่องสว่างที่ซุ้มประตู
ใบหน้าของเด็กสาวแสดงอาการอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแสงจันทร์รึเปล่าที่ทำให้ใบหน้าของเธอดูซีดเผือด พอสอดส่องสายตาไปในป่าทึบได้สักพัก เธอก็เดินย้อนกลับเข้าไปทางเดิม
ป้ายรูปทรงโค้งแผ่นใหญ่ติดอยู่ด้านบนของซุ้มประตู
ตัวอักษรแปลกประหลาดม้วนขดลอยเด่นอยู่ในความมืดมิดแห่งค่ำคืน
[ร้านช็อกโกแลตที่จะช่วยให้ความปรารถนาเป็นจริง Chocolat Noir]
เด็กสาวผมสีม่วงเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์ทั้งสีหน้าที่กลัดกลุ้ม และปิดประตูลง
บทที่ 1
เสียงข้างมากคือมาตรฐานแห่งความเท่าเทียมและยุติธรรม
แต่ว่าการที่ไม่ยอมฟังความเห็นจากเสียงข้างน้อยบ้างเนี่ย ยังจะเรียกว่ายุติธรรมจริงๆ ได้อีกเหรอ?
แล้วนับประสาอะไรที่ตัวเองจะต้องถูกทำให้ขายหน้าอยู่คนเดียวด้วยล่ะ เออออไปกับเขาซะเลยสิ ฉันชักจะรู้สึกอย่างนี้ขึ้นมาแล้ว
อาจจะคิดว่าฉันพูดแก้ตัวแบบไม่มีตรรกะ แต่ว่าตอนนี้ถ้าได้มาเห็นสภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าฉันล่ะก็ ไม่ว่าใครก็ต้องคิดอย่างนั้นเหมือนกันนั่นแหละ
ห้องเรียนที่สว่างจ้าเพราะแสงอาทิตย์ยามเย็นในฤดูใบไม้ร่วงยังคงมีกลิ่นอายแห่งฤดูร้อนหลงเหลืออยู่
ฉันกำลังอยู่ระหว่างโฮมรูมหลังเลิกเรียน หลังจากเปิดเทอมสองมาได้ไม่ทันไร
มือของเพื่อนร่วมห้องที่ยกซะสูงดูสวยเชียว ทีตอนเรียนไม่ยักจะยื่นมือขึ้นมาสักนิดด้วยซ้ำ
นี่แปลว่าทุกคนยกมือกันหมดยกเว้นฉันคนเดียวน่ะสิ.... ไม่อยากจะเชื่อเลย
อ๊า โธ่! ทำไมต้องเป็นฉันด้วย!
?ถ้างั้นขอเสนอชื่อให้ชิซึกิ ริสะซังเป็นสมาชิกสภานักเรียนจากห้องนี้นะ?
เสียงของหัวหน้าห้องที่ยืนอยู่บนแท่นบรรยาย คงดีใจที่หาคนได้แล้วงั้นสิ เห็นชัดเลยนะว่ารู้สึกโล่งอก เขาหันหลังและหยิบชอล์กขึ้นมาเขียนชื่อฉันตัวเบ้อเริ่มบนกระดานดำว่า ?ชิซึกิ ริสะ?
เสียงปรบมือแปะๆ ดังขึ้นในห้องเรียน ฉันยืนปั้นหน้าที่แทบจะบูดเบี้ยวและยิ้มให้กับเสียงปรบมือที่ไร้ความรับผิดชอบนั้น
อาจารย์ซึ่งนั่งกอดอกอยู่มุมห้องคลายมือออกและลุกขึ้นยืน
?หาคนได้แล้วนะ ฝากด้วยล่ะ ชิซึกิ?
พออาจารย์พูดจบเสียงปรบมือก็หายไป
ฉันนั่งลงพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ ถูกยัดเยียดให้ทำเรื่องยุ่งยากซะแล้วสิ
พอเข้าเทอมสอง สมาชิกสภานักเรียนที่ทำหน้าที่อยู่ตอนนี้จะลาออกไป แล้วก็จะเริ่มการเลือกตั้งสภานักเรียนชุดใหม่ขึ้นมา และตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นต้นไปจะมีกิจกรรมใหญ่ให้ทำเยอะเลย ซึ่งผู้ที่ต้องรับบทหนักที่สุดก็คือสภานักเรียน
คนที่ทำคงจะเหนื่อยน่าดู ทั้งที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องของคนอื่นแท้ๆ....
เผลอถอนหายใจอีกแล้วสิ ทำไมต้องเป็นฉันด้วยเนี่ย?
เหลือบมองไปที่หน้าต่าง หน้าต่างที่เป็นเงางามราวกับกระจกที่ส่องสะท้อนใบหน้าของตัวเอง
จริงๆ แล้วฉันเป็นคนน่ารักน่ะ สไตล์การแต่งตัวก็ดูดี เล่นกีฬาก็เก่ง ผลการเรียนก็ไม่ใช่ว่าหัวไม่ดีอะไร อยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับกลางด้วยซ้ำ
ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ในห้องแล้ว ก็ไม่แปลกที่ฉันจะถูกเลือกน่ะนะ....
เมื่อกี้คนที่เสนอชื่อฉันยังพูดเลยว่า ?ชิซึกิซังเป็นคนใจดี แล้วก็เป็นผู้นำ กล้าทำในสิ่งที่คนอื่นขยาดไม่อยากทำด้วยล่ะ ฉันว่าเธอต้องช่วยกระตุ้นนักเรียนคนอื่นได้ดีแน่เลย!?
จริงอย่างที่ว่า ฉันให้ยืมดูสมุดโน้ต แถมยังทำเรื่องที่คนอื่นไม่อยากทำอย่างเรื่องทำความสะอาด แล้วก็เรื่องอื่นแบบไม่เถียงสักคำเลยนี่
สิ่งที่ทำลงไปเพราะตั้งใจจะให้เพื่อนในห้องชื่นชอบ แต่กลับออกมาในรูปแบบนี้ซะได้.... ชื่นชอบกันเกินไปแล้วมั้ง....
ใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนหน้าต่างเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ทำไมต้องใช้ความสามารถของฉันไปกับเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์ด้วย
....ทำเป็นพูดดีไป ถ้าปฏิเสธออกไปแบบนั้นล่ะก็ มีหวังถูกครหาว่า ?แย่ที่สุด....? หรือไม่ก็ ?นิสัยไม่ดี....? แหงเลย ไม่คิดจะต่อต้านหรอก เงียบไว้เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้ดีเอง
ฉันเลื่อนสายตากลับเข้ามาในห้องเรียนแล้วก็หมุนปากกาเล่น พอมองดูพวกเพื่อนร่วมห้องที่อยู่ในห้องนี้แล้วค่อยสงบสติอารมณ์ได้หน่อย
การที่จะมีชีวิตอยู่ในโรงเรียนได้อย่างสงบสุขนั้น รูปลักษณ์ภายนอกต้องดูดีและอย่าบาดหมางกับใครเป็นดีที่สุด และสิ่งนั้นคือบทสรุปของการทำตัวเป็นนักเรียนแบบนั้นมาตลอด
ก็ได้ๆ แค่ลงสมัครเป็นสมาชิกสภานักเรียนแค่นั้นก็พอใช่มั้ย ฉันจะแพ้การเลือกตั้งให้ดู เพราะฉันไม่คิดจะทำตัวโดดเด่นขนาดนั้นสักหน่อย
คงต้องยอมตัดใจลงสมัครไปล่ะนะ
พอเสร็จจากโฮมรูมฉันก็ลุกจากที่นั่งและออกไปที่ทางเดิน ฉันยิ้มและโบกมือให้ผู้หญิงที่พูดกับฉันว่า ?พยายามเข้านะ?
เพียงแต่....การทำตัวให้ดูเป็นคนดีนี่มันก็เหนื่อยเหมือนกันแฮะ
พอถือเอกสารของผู้ลงสมัครไปที่ห้องสภานักเรียน ก็พบว่ามีนักเรียนหลายคนมากันก่อนแล้ว
?อ๊ะ? ฉันตกใจที่ได้เห็นคนคนหนึ่งในนั้นจึงเผลอร้องเสียงหลง
เด็กที่เคยเรียนห้องเดียวกันสมัยประถมนั่งอยู่
รวมๆ แล้วเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูเรียบร้อย ผมดำ หางตาเรียวยาว ชุดนักเรียนผูกโบแน่น ปกเสื้อเรียบตึง นั่งยืดหลังตรง เธอคาดที่คาดผมกันผมส่วนหลังไม่ให้ตกลงมาทำให้เห็นใบหน้าที่ดูฉลาดนั่นได้อย่างชัดเจน
ถึงแม้ว่าสมัยประถมจะมองไม่ค่อยเห็นหน้าสักเท่าไหร่เพราะเธอชอบก้มหน้าก็เถอะ แต่ว่าฉันไม่มีทางลืมแน่นอน เธอคือฟูจิคาวะ ซานาเอะที่ร้องไห้อยู่บ่อยๆ
เธอมักจะโดนพวกเด็กเกเรรุมแกล้งอยู่ตลอด
ซานาเอะไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่ว่าแค่เห็นเธอโดนแกล้งก็ขยาดแล้ว บรรยากาศในห้องเรียนก็เลวร้ายที่สุด
ตอนนี้แค่นึกถึงขึ้นมาก็รู้สึกไม่ชอบแล้ว
แต่ว่าซานาเอะผู้อ่อนแอจะมาเป็นสภานักเรียนทำไมกัน? ถูกยัดเยียดเพราะโดนแกล้งให้ต้องมาสมัครงั้นล่ะมั้ง?
ซานาเอะกำลังอ่านหนังสือ ไม่มีทีท่าว่าจะหันมามองทางนี้เลย
ช่างเถอะ ถ้าเกิดเธอรู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้ก็อาจจะรู้สึกไม่ดีขึ้นมาก็ได้ แบบนี้ดีแล้วล่ะ
ขณะที่กำลังยืนเหม่ออยู่นั้น ก็โดนคนที่ดูท่าจะเป็นกรรมการการเลือกตั้งพูดว่า ?เธอเองก็เป็นผู้ลงสมัครด้วยสินะ ฉันขอรับไว้ละกัน? แล้วก็แย่งเอาใบสมัครไป
?ดีล่ะ ทีนี้ เราก็ได้สมาชิกที่จะมารับช่วงต่อแล้ว?
เอ๊ะ? เมื่อกี้พูดว่าไงนะ?
อยู่ๆ พูดอะไรออกมา เล่นเอาตามไม่ทันเลย
?ทำไมล่ะ!?? ฉันตกใจจนพลั้งปากถามออกไปทันที
?ถึงจะถูกเสนอชื่อมา แต่คนที่ปฏิเสธก็เยอะ แทบไม่มีผู้ลงสมัครเลยล่ะ สภาพแบบนี้คงไม่มีใครมากันแล้วด้วย เพราะฉะนั้นถึงตัดสินเอาจากสมาชิกที่อยู่ที่นี่เลย ไม่ต้องเลือกตั้งให้เสียเวลายังไงล่ะ?
สงสัยจะรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ล่ะมั้ง ถึงได้อธิบายให้ฟังโดยที่ไม่ต้องถามสักคำ เธอพูดด้วยท่าทางเอาการเอางานพร้อมกับเอานิ้วชี้ดันแว่นตากรอบหนาดีไซน์ทันสมัยขึ้นไปด้วย
ว่าแล้ว งั้นก็แปลว่า.... นักเรียนที่นี่ไม่คิดอยากจะเป็นมากขนาดนั้นเลยเรอะ!
อีกอย่าง ฉันเองก็น่าจะปฏิเสธด้วยสิ!
ถึงจังหวะจะแย่ไปหน่อย แต่ยังไงรีบปฏิเสธไปซะตอนนี้เลยก็แล้วกัน
?....เอ่อคือ ถ้าฉันปฏิเสธได้ก็อยากจะขอถอนตัวด้วยเหมือนกัน....?
พอทางนี้พูดจบ อยู่ๆ กรรมการการเลือกตั้งก็เข้ามาจับมือฉันหมับ แล้วยื่นหน้าเข้ามาประชิด
คุณกรรมการการเลือกตั้ง หน้าใกล้ไปแล้ว กลัวแล้วจ้า จะชนแว่นอยู่แล้วนะ
?ขอร้องล่ะ! ถ้าขืนปล่อยไปแบบนี้ก็จัดงานวัฒนธรรมขึ้นไม่ได้ แถมพวกฉันจะต้องลำบากด้วยนะ!?
งั้นคุณก็ทำเองสิ!
ฉันเกือบจะพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกไปแล้ว แต่ก็อุตส่าห์ขอร้องกันสุดชีวิตขนาดนี้นี่นะ
แต่อยู่ๆ ก็มีเสียงดังปัง
มันคือเสียงที่ซานาเอะฟาดหนังสือที่เธอถืออยู่ เธอกำลังมองมาทางนี้
?คนที่ไม่อยากทำก็ไม่ต้องบังคับให้เขาทำก็ได้นี่?
โอ้! รอดแล้วฉัน!
ไม่น่าเชื่อ ช่วยชีวิตไว้ทันพอดีเลย! แต่ว่าไม่รู้สิ ไม่คิดว่าพูดแรงไปหน่อยรึไง แถมยังจ้องเขม็งเชียว
?จะเป็นตัวถ่วงซะเปล่า เกะกะ เธอคงมาโดยไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นเพราะถูกสั่งให้มาใช่มั้ยล่ะ?
ถึงจะยิ้มแต่ก็ทำหน้าเยาะเย้ย อย่างกับดูถูกกันงั้นแหละ ชักจะโมโหขึ้นมาแล้วนะ
?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้คิดอะไรเลยสักหน่อย?
ฉันเผลอเถียงกลับไปไม่ทันคิด คนเขาอุตส่าห์มาให้ทั้งที แต่กลับถูกพูดแบบนี้ใส่ ชักจะไม่มีเหตุผลแล้ว
?งั้นเธอจะทำให้ใช่มั้ย! ชิซึกิซังเนี่ยเป็นคนดีจริงๆ เลยนะ?
อ๊า! พลาดซะแล้ว
แถมยังถูกกรรมการจับมือเขย่าขึ้นลงอีก
?โชคดีจังเลยที่ไม่ต้องเลือกตั้ง แถมลงเอยกันได้ง่ายๆ อีก ดีล่ะ งั้นฝากด้วยนะ?
กรรมการคนนั้นรีบวิ่งหนีไปอย่างว่อง โดยไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้พูดเลย
ฉันได้แต่ยืนพิงอยู่ตรงทางเข้าห้องเรียนอย่างช่วยไม่ได้ ซานาเอะลุกจากเก้าอี้เหล็กเดินมาทางนี้และยื่นมือออกมา
?ยินดีที่ได้รู้จัก ฉัน ฟูจิคาวะ ซานาเอะ ขอฝากตัวด้วย?
ยินดีที่ได้รู้จัก? ล้อกันเล่นรึเปล่า?
ฉันจับมือซานาเอะด้วยความรู้สึกสับสน ฉันลองมองตาเธอและส่งยิ้มให้เพื่อทดสอบดู แต่ซานาเอะกลับไม่แสดงสีหน้าอะไรเลย
จำฉันไม่ได้รึไง?
?ยินดีที่ได้รู้จัก....?
อีกสองคนที่เหลือก็ลุกขึ้นเดินมาทางนี้
?ลงเอยได้โดยไม่ต้องเลือกตั้งแบบนี้ ไม่รู้สึกว่ามีค่าควรแก่การพยายามเลยนะเนี่ย ฉันชื่อคิตาโนะ ขอฝากตัวด้วยล่ะ?
เด็กผู้ชายรูปร่างผอม ท่าทางบอกให้รู้ว่าบ้าเรียนนะครับ เขาสวมแว่นตากรอบโลหะบางๆ แว่นตาที่ใช้ประโยชน์จริงเพราะจำเป็นต้องสวมอะไรทำนองนั้น
?ฉัน นิชิคาวะค่ะ ถูกเสนอชื่อมา โชคดีจริงที่ลงเอยได้ เพราะเพื่อนๆ ฉันคอยเชียร์อยู่น่ะ มาพยายามด้วยกันนะ?
เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผูกผมเปีย ดูท่าทางเป็นเด็กเรียบร้อย เธอยิ้มไปเขินไปด้วย
แต่ว่าทั้งที่ถูกเสนอชื่อมาแท้ๆ เธอกลับพูดออกมาจากใจจริงว่าโชคดีที่ได้เป็น ก็นับว่านิสัยดีแฮะ
?ฉัน ชิซึกิ ริสะ ขอฝากตัวด้วยนะ?
อ๊า เผลอทำลงไปจนได้.... เพียงเท่านี้ สมาชิกสภานักเรียนก็ลงตัวเรียบร้อย
ฉันลองมองหน้าซานาเอะดูอีกครั้งก่อนจะแยกย้ายกันกลับ
ถึงแม้ว่าความรู้สึกที่ได้เจอจะเปลี่ยนไป แต่ฉันดูคนไม่ผิดแน่นอน
ซานาเอะนี่ เขานิสัยแรงๆ แบบนั้นเหรอเนี่ย?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไอคาว่า ช็อกโกล่า เป็นช็อกโกลาติเย่ประจำร้านช็อกโกแลต ?Chocolat Noir? สิ่งที่ช็อกโกล่าขายก็คือช็อกโกแลตเวทมนตร์ที่จะช่วยให้ความปรารถนาเป็นจริง วันนี้ก็มีแขกที่ถูกกลิ่นหอมหวานดึงดูดเข้ามาอีกเช่นเคย.... ริสะต้องเข้ามาเป็นสมาชิกสภานักเรียน ทั้งที่ไม่อยากทำเลยสักนิด แต่ว่าโลกความเป็นจริงของริสะได้เปลี่ยนไปในระหว่างที่เธอได้อ่านหนังสือที่ยืมมาจากหอสมุด ?มนตราช็อกโกแลต? ไลท์โนเวลภาค 2 ดาร์คแฟนตาซีเรื่องดังจาก ?Ciao? มาแล้ว! เชิญพบกับความลับของการกำเนิด ?Chocolat Noir? ฉบับออริจินัลเต็มรูปแบบกันได้เลย!
