โชคดีเหลือเกินที่ฉันได้พบเธอในฤดูใบไม้ผลิ หากไม่ได้พบเธอ ฉันก็คงจะไม่มุ่งตรงไปข้างหน้าหรอก
โชคดีเหลือเกินที่ฉันได้พบเธอในฤดูร้อน หากไม่ได้พบเธอ ฉันก็คงขวัญอ่อนอยู่อย่างนั้น
โชคดีเหลือเกินที่ฉันได้พบเธอในฤดูใบไม้ร่วง หากไม่ได้พบเธอ ฉันคงจะแตกสลายไปโดยไม่มีใครมารับรู้
โชคดีเหลือเกินที่ฉันได้พบเธอในฤดูหนาว หากไม่ได้พบเธอ ฉันคงจะเข้าใจความหมายของความแข็งแกร่งผิดไป
แล้วก็....โชคดีเหลือเกินที่มายังโรงเรียนแห่งนี้ หากไม่มาที่โรงเรียนนี้ล่ะก็ ฉันคงจะเป็นไอ้งั่งคนเดิม
ทั้งความรัก ทั้งความใคร่ ทั้งมิตรภาพ ทั้งความหวัง ทั้งพละกำลัง ทั้งสติปัญญา ทั้งความเอ็นดู ฉันคงจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยสักอย่าง
แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ไม่ใช่คนจิตใจดีอะไร จะให้เป็นห่วงเป็นใยใครสักคนที่ทุกข์ทนอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลก หรือว่ายอมลำบากลำบนเพื่อเจ้านั่นน่ะ....ฉันทำไม่ได้หรอก
แต่ว่า....ถ้าเพื่อปกป้องครอบครัว เพื่อนพ้อง บรรดาผู้คนอันเป็นที่รัก....และโรงเรียนนี้ล่ะก็ ไม่ว่าอะไรฉันก็ทำได้
ฉันไม่ใช่ผู้วีรบุรุษ ดังนั้นฉันปกป้องอะไรไม่ได้มากมายนัก
แต่อย่างน้อยฉันก็จะปกป้องรอยยิ้มของคนที่ฉันพอไขว่คว้าถึง เพราะฉันไม่อยากสูญเสียสิ่งนั้นไปอีกเป็นครั้งที่สอง
ถึงจะดูไม่จืดก็ไม่เป็นไร ถึงจะน่ารังเกียจก็ไม่เป็นไร ถึงจะเหม็นสาบโคลนก็ไม่เป็นไร ถึงจะน่าสังเวชก็ไม่เป็นไร ถึงจะน่าสมเพชก็ไม่เป็นไร
ฉันไม่เลือกวิธีการหรอก
ใช่แล้ว
ฉันจะไม่เลือกวิธีการ
[ตอนที่ 1 ~กรรมการนักเรียนอ่านหนังสือ~]
?การสืบสานความรู้จากบรรพบุรุษจะเป็นใบเบิกทางไปสู่อนาคตอันสดใส!?
ประธานแอ่นอกเล็กๆ ของตน แล้ววางมาดพูดเรื่องที่อ่านจากหนังสืออะไรสักเล่มอีกตามเคย
ต้นฤดูใบไม้ร่วง แม้จะผ่านช่วงปิดเทอมฤดูร้อนซึ่งเกิดเรื่องต่างๆ นานาจนไม่เป็นอันได้พักผ่อนมาแล้ว (สักวันฉันอยากจะเล่าเรื่องราวลำบากยากเข็ญนั่นชะมัด) แต่ประธานกลับไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ส่วนสูงน่ะแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผิวก็ไม่ได้เกรียมแดดขึ้นเลย แถมยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมีการเติบโตทางด้านจิตใจอันเกิดจากประสบการณ์สุขเศร้าเคล้าน้ำตาในช่วงฤดูร้อนเลยด้วย (แต่ถ้าเห็นอะไรแบบนั้นฉันก็คงจะอิจฉาจนเป็นบ้าไปล่ะนะ)
สรุปคือ วันนี้ประธานก็ยังคงทำตัวตามใจชอบไปเรื่อยเช่นเคย
บนโต๊ะมีหนังสือกองมหึมาที่คงจะสุ่มๆ ยืมมาจากห้องสมุดวางสุมเป็นภูเขา เพราะงั้นเลยพอจะเดาได้แล้วว่าหัวข้อที่จะถกเถียงกันในวันนี้คือเรื่องอะไร
ประธานเอ่ยคำพูดซึ่งตรงตามที่ฉันคาดเป๊ะๆ อย่างมั่นอกมั่นใจ
?เพราะงั้นวันนี้เรามาอ่านหนังสือกันทุกคนดีกว่า! โอ้!?
?....โอ้?
ทุกคนยกมือขึ้นอย่างเนือยๆ มีประธานคนเดียวที่ดูร่าเริงจนเกินเหตุ
?ฉันว่าคำใบ้สำหรับกิจกรรมครั้งใหม่มันคงจะอยู่ในหนังสือจริงๆ นั่นแหละ อินเตอร์เน็ตน่ะมันเก่าไปแล้ว! นี่เป็นยุคสมัยของหนังสือต่างหาก!?
?แนวคิดดูแปลกใหม่ดีนะ?
จิสึรุซังพึมพำด้วยท่าทีเหมือนจะประทับใจนิดหน่อย พร้อมใช้มือสางผมยาวสลวยไปพลาง ดูเหมือนประธานจะยิ่งพอใจเข้าไปใหญ่
?ใช่มั้ยล่ะ ใช่มั้ยล่ะ! การอ่าน = ปัญญาชน!?
?แนวคิดฟังดูง่ายชะมัด....?
มินัตสึปล่อยกองภูเขาหนังสือไว้ตรงหน้าแล้วทำท่าทางเอือมระอา เข้าใจล่ะ ถึงแม้จะเป็นมินัตสึผู้เป็นเด็กสาวสายกีฬาแถมการเรียนก็ดี แต่สำหรับหนังสือที่ให้ตายยังไงก็ไม่สน เธอก็ไม่ถูกโฉลกอยู่ดีสินะ
แต่มาฟุยุจังผู้เป็นน้องสาวของมินัตสึกลับเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือผิดกับพี่สาว ดังนั้นเธอจึงทำตาเป็นประกาย
?หนังสือยอดเยี่ยมที่สุดจริงๆ ด้วยสินะคะ!?
?อื้อ ฉันคิดอยู่แล้วล่ะว่ามาฟุยุจังจะต้องเข้าใจ!?
?แน่นอนสิคะประธาน! ....แล้วแนวบอยส์เลิฟอยู่ตรงไหนเหรอคะ?
?ห้องสมุดเราไม่มีของแบบนั้นหรอก!?
?เอ๋....ผิดหวังจังเลยค่ะ จ๋อย ....อ๊ะ เจอแล้ว?
?มีอยู่ด้วยเรอะ!??
มาฟุยุจังหยิบพ็อคเก็ตบุ๊คที่หน้าปกดูสุนทรีย์ออกมาจากใต้กองภูเขา แล้วก็ทำตาเป็นประกายก่อนจะเริ่มอ่านหนังสือ ประธานพูดอย่างตกตะลึงอยู่คนเดียวว่า ?มีด้วยเหรอเนี่ย....?
เอาล่ะ ดูเหมือนว่าฉันเองก็ต้องอ่านหนังสือสักเล่มเหมือนกันสินะ บอกตามตรง ฉันไม่ค่อยถูกกับตัวอักษรสักเท่าไหร่ ยิ่งระยะนี้ต้องเขียนหนังสือเยอะด้วย เลยมีแต่จะไปเสริมความรู้สึกให้ไม่ถูกชะตากับมันมากยิ่งขึ้นไปอีก
ฉันคุ้ยกองหนังสืออย่างเอื่อยเฉื่อยไร้อารมณ์
?นิยายเร้าอารมณ์ เลิฟคอมมิดี้ อีโรติกคอมมิดี้ เอ่อ....?
....ฉันหาหนังสือที่ตรงกับรสนิยมของฉันอยู่สักพัก แต่ก็หาไม่เจอเลย
พอฉันถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย จิสึรุซังก็รู้ตัวว่าฉันไม่ได้อ่านหนังสืออยู่
?อ้าว คีย์คุงก็หาอะไรอ่านส่งๆ ไปซะสิ?
พอรู้สึกตัว ทุกคนนอกเหนือจากฉันก็เริ่มอ่านหนังสือกันไปแล้ว ....อึก ห้องกรรมการนักเรียนที่ไม่มีบทสนทนาเนี่ยมันจืดชืดเกินไปแล้วนะ ขืนเป็นแบบนี้ระดับความนิยมชมชอบไม่มีวันสูงขึ้นหรอก!
ฉันเริ่มพูดว่า ?วะ ว่าแต่? โดยไม่หยิบหนังสือขึ้นมา
?ประธานอ่านอะไรอยู่เหรอครับ?
?หืม? แหะๆ ถามได้เยี่ยมไปเลยนี่นา! สำหรับผู้ใหญ่อย่างฉันก็ต้องนี่ไงล่ะ!?
ประธานพูดอย่างนั้นแล้วก็หันหน้าปกมาทางฉันพร้อมส่งเสียงแต่นแต๊น
?....หนูน้อยหมวกแดง??
หนังสือภาพชัดๆ
พอฉันหรี่ตามองด้วยสายตาเอือมระอา ก็ไม่รู้ทำไมประธานถึงได้ส่ายนิ้วพร้อมทำเสียง ?จุ๊ จุ๊ จุ๊? อย่างวางมาด
?สึงิซากิเนี่ยเด็กจังเลยน้า พอโตเป็นผู้ใหญ่และไต่เต้าไปจนถึงจุดสูงสุดแล้ว ยังไงซะก็ต้องกลับมาหาหนังสือภาพอยู่ดี! ผู้ใหญ่เนี่ยก็เป็นแบบนั้นแหละ!?
?....งั้นเหรอครับ?
?สะ สายตาที่เหมือนมองของน่าสังเวชนั่นมันอะไรกัน!?
?เปล่า....คือคุณได้ไปถึงจุดสูงสุดก่อนจะกลับคืนสู่สามัญแล้วจริงๆ เหรอครับ?
?กะ ก็แหงน่ะสิ! ฉันย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น หลังจากอ่านหนังสือยากๆ มามากมายไงล่ะ!?
?ว่าแต่ หนังสือยากๆ ที่เคยอ่านเมื่อแล้วๆ มาเนี่ย เช่น??
?เอ่อ.... เริ่มจาก ?กระต่ายกับเต่า? แล้วก็ค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นไป จนระยะนี้ไปถึงหนังสือที่ฉันคิดว่าเข้าใจยากสุดๆ อย่าง ?เจ้าหญิงสโนว์ไวท์? แล้วล่ะ แต่ถึงยังไงสุดท้ายของท้ายที่สุดแล้วฉันก็เลือก ?หนูน้อยหมวกแดง? อยู่ดี! ฉันเป็นผู้ใหญ่ที่ไปถึงจุดสูงสุดและกลับสู่สามัญไงล่ะ?
?ระยะทางกลับคืนสั้นสุดๆ ไปเลยนะครับเนี่ย! สั้นชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย!?
?หนูน้อยหมวกแดงลึกซึ้งออกจะตาย ฉันว่าทุกคนคงไม่เข้าใจหรอก ถ้าลองค้นดูดีๆ จะเข้าใจได้ว่าหนูน้อยหมวกแดงกับคุณยายมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดแหละ?
?สุดยอด! เรื่องแค่นั้นยังเก็บเอามาคิดอยู่อีกเหรอเนี่ย!?
?และคุณหมาป่าก็เป็นคนไม่ดี!?
?แบบว่าสุดยอดไม่บันยะบันยังเลยล่ะครับ! ไม่จำเป็นต้องอ่านให้ลึกซึ้งเสมอไปมั้งครับเนี่ย....?
?วันนี้ฉันว่าจะลองคิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหมาป่ากับคุณยายดูล่ะ?
?ผมว่าเป็นผู้กระทำผิดกับผู้เคราะห์ร้ายนะครับ?
?สึงิซากิหนวกหู รบกวนการอ่านหนังสือ ให้ตายสิ....?
ประธานบ่นพึมพำพลางเริ่มหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสืออีกครั้ง
......
....เฮ้อ ว่างชะมัด ใครก็ได้ช่วยมาสนใจฉันหน่อย ช่วยมาทำให้เจ้าของฮาเร็มเพลิดเพลินที
แต่ว่าประธานจมดิ่งสู่โลกของ ?หนูน้อยหมวกแดง? ไปซะแล้ว ใครมันจะไปรบกวนตอนที่เด็กสาวรูปร่างอย่างกับหนูน้อยแบบนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือภาพได้ล่ะ
ฉันกวาดตามองไปรอบๆ....แล้วก็ส่งเสียงทักมินัตสึที่ชวนคุยได้ง่ายก่อน
?มินัตสึ มินัตสึ ....มินัตสึอ่านอะไรอยู่เหรอ?
?หืม? อ้อ ฉันอ่าน ?ไดตะลุยแดนเวทมนตร์? อยู่น่ะ?
?การ์ตูนหรอกเรอะ!?
?ทีประธานยังอ่านหนังสือภาพเลย ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา?
?อึ้ก....นั่นมันก็ใช่อยู่หรอก....?
?การ์ตูนจัมป์เนี่ยถือเป็นขุมทรัพย์ของมนุษยชาติเชียวนะ ไดเองก็ดี ป๊อป เองก็เร่าร้อนสุดๆ!?
?งะ งั้นเหรอ?
?นายอ่านการ์ตูนเหมือนกันก็ได้นี่นา?
?การ์ตูนเหรอ?
ฉันเองก็ไม่ได้รังเกียจการ์ตูนหรอกนะ แต่ถึงยังไงมันก็เป็นของที่มีอยู่ในห้องสมุด จะมีก็แต่การ์ตูนสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ เรื่องไหนที่สนใจฉันก็อ่านไปแล้ว ส่วนเรื่องที่ไม่สนใจก็ไม่มีอารมณ์จะอ่านตั้งแต่แรกหรอก เพราะงั้นมันก็เลยรู้สึกแหม่งๆ จริงๆ นั่นแหละ
ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจคุยเรื่องสัพเพเหระกับมินัตสึต่อ
?มินัตสึไม่อ่านอย่างอื่นนอกเหนือจากแนวเลือดร้อนเลยเหรอ?
?ก็ไม่เชิงว่าอย่างนั้นหรอกนะ.... อย่างเดธโน้ตฉันก็อ่าน?
?ผิดคาดนะเนี่ย?
?อื้อ แต่สมุดโน้ตนั่นก็แค่มีชื่ออาชญากรเขียนอยู่เต็มไปหมดเท่านั้นเองแหละนะ?
?เธออ่านของจริงหรอกเรอะ! ไม่ใช่การ์ตูนงั้นสิ!?
?นับแต่นั้นมา นานๆ ทีฉันก็จะมองเห็นสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดลอยฟ้าได้ ก็ลำบากนิดหน่อยล่ะนะ?
?เธอเห็นยมทูตด้วยเรอะ!?
?เห็นอายุขัยของคนอื่นด้วย?
?แลกเปลี่ยนกระทั่งดวงตามาแล้วเหรอเนี่ย! ว่าแต่เพื่ออะไรล่ะ!?
?แล้วก็นะ เคนจะตายตอนอายุห้าสิบห้า?
?ฉันไม่รู้จะตอบสนองยังไงดีแล้ว! นั่นน่ะเอาเป็น ?พรุ่งนี้นายจะตายนะ? ไม่เข้าท่ากว่าหรือไง! คือมันดูสมจริงยังไงอยู่นะ! แล้วที่ชวนให้ขัดใจเป็นพิเศษก็ไอ้ตรงที่อายุขัยฉันมันดูสั้นๆ ทะแม่งๆ เนี่ยแหละ!?
?ถ้าพูดถึงการ์ตูนเรื่องอื่นที่ไม่ใช่แนวเลือดร้อน....จริงด้วย อย่างเรื่องฮาชิคุโระฉันก็อ่านนะ?
?โอ้ นั่นก็ดูไม่เข้า....?
?คุโรอิวะซังผู้สังหารแปดศพ?
?ย่อเหลือฮาชิคุโระ!??
?นั่นไม่ใช่แนวเลือดร้อนหรอกเนอะ อื้ม?
?คงงั้นมั้ง!?
?แต่ว่าคำพูดสุดท้ายของคุโรอิวะซังที่ว่า ?บุหรี่สักมวนได้มั้ย?? น่ะ กินใจชะมัดเลย?
?จบได้ตายด้านยังไงไม่รู้เนอะ!?
?จริงด้วยๆ ถ้าพูดถึงการ์ตูนตาหวานแล้วล่ะก็ นานะฉันก็อ่านนะ?
?นานะ? อ้อ NANA....?
?จี้จังผู้สังหารเจ็ดศพ?
?คนเขียนคนเดียวกันแหงๆ เลยสินะ เรื่องนั้นน่ะ!?
?โลกในเนื้อเรื่องเชื่อมถึงกันด้วยแหละ?
?มีเหยื่อรวมสิบห้าคนแล้วแน่ะ!?
?คำพูดสุดท้ายของจี้จัง....?จูปาจุ๊ปส์สักแท่งได้มั้ย?? น่ะ กินใจชะมัดเลย?
?นั่นมันกินใจจริงๆ เรอะ!??
?พูดถึงเรื่องที่ไม่ใช่แนวเลือดร้อนเรื่องอื่นแล้วล่ะก็....?
?ช่วยตัดเรื่องแนวฆาตกรกระหายเลือดออกไปด้วยเถอะ....?
?อ้อ เรื่องนั้นฉันอ่านนะ ไอ้นั่นน่ะ โอฟุริ?
?อ้อ นั่นก็ดูสมกับเป็นมินัตสึดีอยู่หรอก....เอ๊ะ? แต่มันก็นับเป็นแนวเลือดร้อนอยู่....?
?ฆาตกรกระหายเลือดตัวยักษ์เงื้อขวาน....?
?ก็บอกว่าไม่เอาแนวฆาตกรกระหายเลือดไงล่ะ! ดูเธอจะวิปริตไปแล้วนะ!?
?เรื่องนั้นน่ากลัวชะมัด น่ากลัวสุดๆ ไปเลยล่ะ ไม่คิดเลยว่าคุโรอิวะซังจะกลับมาในสภาพแบบนั้น....?
?โลกในเนื้อเรื่องเชื่อมถึงกันอีกแล้ว!??
?ความสามารถของนักเขียนคนนั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน?
?....เออ ก็ดูเป็นความสามารถที่น่ากลัวจริงๆ นั่นแหละ....?
ฉันเพิ่มคำสั่งเข้าไปพร้อมกับเอือมระอา
?ขอเป็นเรื่องที่ไม่ใช่แนวเลือดร้อน แล้วก็ไม่เอาผลงานของนักเขียนคนนั้นแล้วด้วย....?
?หืม? ถ้างั้นก็....อ้อ ฮากะเรน?
?เอ๋? นั่นน่ะ จะว่ามันแอบเลือดร้อนอยู่นิดหน่อยหรือไงดีล่ะ คือมันก็เป็นการ์ตูนเด็กผู้ชาย....?
?ฆาตกรรมต่อเนื่องด้วยโปสการ์ด?
?การ์ตูนนั่นมันอะไรน่ะ! ถึงไอเดียจะแปลกใหม่สุดๆ เลยก็เถอะ!?
?ไม่คิดเลยว่าในไทม์ไลน์เดียวกับที่จี้จังกำลังสังหารเจ็ดศพอยู่จะมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นในสถานที่อื่นด้วย เพราะว่าเป็นนักเขียนคนละคนกัน อรรถรสก็เลยต่างกันไป แต่แฝงความหมายลึกซึ้งน่าดูเลยล่ะ?
?ใช้ฉากร่วมกัน!? เขาแชร์เรื่องน่ากลัวๆ กันในโลกพิลึกพิลั่นนั่นเรอะ!??
?อือ นักเขียนหลายๆ คนเขาแต่งกันตามใจชอบเลยล่ะ?
?โลกนั้นมีเหยื่ออาชญากรรมเยอะน่าดูเลยสินะ!?
?เคนเองก็ลองเขียนดูบ้างดีมั้ย ดูเหมือนมันจะขยับขยายไปเป็นนิยายด้วยล่ะ?
?ขะ ขอผ่านดีกว่า.... สังหรณ์ใจว่าจะสูญเสียสิ่งสำคัญไปยังไงไม่รู้?
?เหรอ งั้นฉันอ่านหนังสือต่อนะ?
?อือ....ช่วยทำงั้นทีเถอะ?
ฉันล้มเลิกความคิดที่จะคุยเรื่องสัพเพเหระกับมินัตสึมากไปกว่านี้ ....เสียสุขภาพจิตหมด
ลองเป็นงี้แล้วก็ชวนคนอื่นคุยดีกว่า
?มาฟุยุจัง....?
?คะ? มีอะไรเหรอคะ รุ่นพี่สึงิซากิ?
เธอเงยหน้าขึ้นจากหนังสือบอยส์เลิฟ
?....เชิญอ่านหนังสือต่อไปเถอะครับ ฟูลสต็อป?
?นี่บทสนทนาจบแล้วเหรอคะ!? ตาของมาฟุยุจบเร็วอย่างเห็นได้ชัดเลยนะ!??
ฉันหันไปทางจิสึรุซังพร้อมกับมีเหงื่อแตกพลั่ก
?ว่าแต่จิสึรุซังอ่านอะไรอยู่น้า??
?เดี๋ยวสิคะรุ่นพี่! อย่าเมินมาฟุยุสิ!?
?....ฉันไม่อยากรบกวนการอ่านหนังสือของมาฟุยุจังน่ะ?
?รุ่นพี่ไม่ใช่คนที่จะเอาใจใส่กันแบบนั้นซะหน่อย! เอ้า ชวนมาฟุยุคุยเพื่อจะเพิ่มระดับความชอบสิคะ!?
?........มาฟุยุจังอ่านอะไร....อยู่เหรอ?
?เมื่อกี้รู้สึกว่าจะเกิดความขัดแย้งขึ้นในใจรุ่นพี่สุดๆ ไปเลยสินะคะ!??
?ไม่เป็นไร ถ้าเพื่อเคลียร์รูทมาฟุยุจังล่ะก็....ฉัน....ฉัน!?
?มาฟุยุไม่อยากให้รุ่นพี่ชวนคุยหลังจากต้องทำใจใหญ่หลวงถึงขนาดนั้นเลยนะ! มาฟุยุอยากให้รุ่นพี่ทำตัวตามปกติมากกว่านะคะ!?
?ปกติงั้นสินะ ....มาฟุยุจัง วันนี้ท้องฟ้าสวยดีเนอะ!?
?สวยสดงดงามเลยล่ะ! มันปกติก็จริงอยู่ แต่พอรุ่นพี่เป็นคนพูดแล้วมันไม่ปกติเลยค่ะ!?
?ปกติของฉัน? งั้น....มาฟุยุจัง วันนี้สวมชุดชั้นในสีอะไรเหรอ?
?อ้อ สมเป็นรุ่นพี่สุดขีดเลยค่ะ! ถึงจะสมเป็นรุ่นพี่ดี แต่มาฟุยุไม่เอาหัวข้อสนทนาแบบนั้นหรอกนะคะ!?
?อะ เอาแต่ใจจังเลยนะ....ฟู่ ช่วยไม่ได้ งั้นขอทำใจก่อน....มาฟุยุจัง ปกติอ่านหนังสือแบบไหนเหรอ?
?ค่ะ บอยส์เลิฟค่ะ!?
?คิดว่าไม่ใช่แค่ฉัน แต่มาฟุยุจังเองก็ควรจะสำนึกในหลายๆ เรื่องเลยล่ะ!?
?มาฟุยุไม่มีเรื่องอะไรน่าละอายเลยนะคะ!?
ไม่รู้ว่าฉันกับมาฟุยุจังลุกขึ้นต่อล้อต่อเถียงกันตั้งแต่เมื่อไหร่ จิสึรุซังพึมพำเรื่องที่ฟังดูน่ากลัวนิดหน่อยว่า ?รู้สึกว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันดีเนอะ....ระยะนี้น่ะ? อย่าล้อเล่นนะ ใครจะไปอยากให้มาฟุยุจังกลายเป็นผู้หญิงที่เหมาะกับฉันในแนวทางแบบนี้กันล่ะ!
?แต่ไหนแต่ไรนะ ทั้งๆ ที่เกลียดผู้ชายแท้ๆ ทำไมถึงได้ติดแนวที่มีกลิ่นผู้ชายโชยหึ่งแบบนี้ล่ะ!?
?ก่อนหน้านี้ก็เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ! มาฟุยุกำลังพยายามเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้ชายในแบบของมาฟุยุเอง โดยใช้วิธีเข้าหาที่ต่างไปจากพี่ไงล่ะ!?
?แนวทางพยายามผิดเพี้ยนกันทั้งพี่ทั้งน้องเลย! ถึงจะอ่านการ์ตูนเลือดร้อนหรือบอยส์เลิฟไปก็เท่านั้นแหละ ฉันว่าคงเข้าใจผู้ชายในความเป็นจริงได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นเลยด้วยซ้ำ!?
?มาฟุยุไม่อยากโดนรุ่นพี่ที่เรียนรู้เด็กผู้หญิงผ่านทางเกมจีบสาวพูดใส่หรอกนะคะ!?
?อึก....จี้จุดอ่อนเลยเรอะ! แต่ถึงอย่างนั้นความรักในเกมจีบสาวมันก็ยังปกติอยู่ใช่มั้ยล่ะ! ชายกับหญิงรักกัน! อันนี้ใกล้เคียงปกติมากกว่านะ!?
?อึ๋ย! ....งื้อ ตะ แต่มาฟุยุคิดว่าเพศไม่เกี่ยวอะไรกับความรักนะคะ! โลกทัศน์แคบๆ แบบนั้นน่ะใช่ไม่ได้หรอกค่ะ!?
?พะ พูดได้ถูกทะแม่งๆ ดีนะ.... อือ ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธความรักร่วมเพศเป็นพิเศษอะไรหรอก! แต่การเอาค่านิยมนั่นมายัดเยียดให้คนอื่นมันไม่น่าปลื้มเอาซะเลยนะขอบอก?
?นะ นั่นก็ไม่อยากโดนรุ่นพี่พูดใส่เหมือนกันแหละค่ะ....แต่เอาเถอะ มาฟุยุเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะขอประนีประนอมก็แล้วกัน ....คราวหลังจะใช้วิธีอ้อมๆ พารุ่นพี่เข้าสู่เส้นทางสายนี้นะคะ!?
?ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่!?
เราสองคนต่างหายใจหอบแฮก ไม่น่าเชื่อว่าจะต่อปากต่อคำกับมาฟุยุจังถึงขั้นนี้ได้....ไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลย พอมาลองคิดๆ ดู ระยะนี้คนที่เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านความสัมพันธ์มากที่สุดอาจจะเป็นมาฟุยุจังก็ได้ ....ถึงจะเป็นในทางที่แย่เหลือทนก็เถอะ
มินัตสึกล่อมน้องสาวว่า ?จะ ใจเย็นหน่อยสิ มาฟุยุ?
?มะ มาฟุยุ พักนี้เธอดูแปลกไปจริงๆ นั่นแหละ ถึงจะไม่ได้เพิ่งมาเริ่มคลั่งไคล้งานอดิเรกทั้งเกมทั้งบอยส์เลิฟสุดเหวี่ยงเอาตอนนี้ก็จริง....แต่จะว่าไงดีล่ะ คือเรื่องแบบนั้นน่ะ ที่ผ่านมาเธอเก็บมันไว้แค่ในใจเท่านั้นเองนี่นา?
มาฟุยุเอียงคอเป็นเชิง ??? ต่อคำพูดตรงประเด็นของมินัตสึ จากนั้นก็เหม่อมองอากาศธาตุ ก่อนจะครุ่นคิดชั่วครู่เพื่อย้อนทบทวนตัวเอง....
?....เอ๊ะ??
เธอพูดแบบนั้นแล้วก็เอียงคอไปอีกข้าง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ของตัวเอง
?นั่นสินะ....เอ๊ะ? ทำไมมาฟุยุถึงได้ทะเลาะกับรุ่นพี่สึงิซากิล่ะคะ?
?เอ่อ ถึงจะถามฉันก็เถอะ....?
?แต่ว่านะคะรุ่นพี่ ถ้ารุ่นพี่มาชอบบอยส์เลิฟด้วยกันล่ะก็ มาฟุยุจะดีใจมากเลยล่ะ?
?คงไม่ไหวล่ะมั้ง....?
?งั้นเหรอคะ ....ไม่รู้ทำไม รู้สึกเหงานิดหน่อยแฮะ?
?ระ เหรอ?
ดูเหมือนว่ามาฟุยุจังเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเรื่องของตัวเองสักเท่าไหร่ ก็จริง....พอมาคิดดูดีๆ แทนที่จะบอกว่ามาฟุยุจังแปลกไป ควรจะบอกว่ายัยนี่เริ่มแสดงสิ่งที่อยู่ภายในออกมาภายนอกหนักกว่าเก่ามากกว่า โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายเป็นฉัน ....นี่น่ะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่พึงประสงค์ได้มั้ยนะ
เอาเป็นว่าพูดคุยกับมาฟุยุจังเสร็จไปได้เปลาะหนึ่งแล้ว ค่อยโล่งอกหน่อย....พร้อมกันนั้นฉันก็หันไปพูดคุยเรื่องการอ่านหนังสือกับจิสึรุซัง
?จิสึรุซังอ่านอะไรอยู่....?
ฉันพูดค้างถึงแค่นั้น ขณะที่สันของหนังสือที่เธอเปิดอยู่พุ่งเข้ามาในสายตาพอดี
<สิบวิธีกำจัดไอ้ตัวเกะกะลูกหูลูกตาโดยพลัน>
?ขอประทานโทษครับ?
?ทำไมถึงได้คุกเข่าล่ะ คีย์คุง?
ฉันกดหัวลงกับพื้นโดยอัตโนมัติ
ฉันตอบจิสึรุซังผู้ยังคงนิ่งสงบจนถึงที่สุดโดยไม่ยกหัวขึ้น พร้อมกันนั้นก็มีเม็ดเหงื่อเย็นเยียบไหลเยิ้ม
?ผะ ผมไม่นึกฝันเลยว่าการกระทำของผมจะทำให้คุณเครียดได้ขนาดนั้น....?
?....อ้อ เข้าใจแล้ว หมายถึงหนังสือเล่มนี้สินะ ตายจริง คีย์คุง นี่ไม่ได้หมายความว่าฉันตั้งใจจะทำอย่างโน้นอย่างนี้กับคีย์คุงซะหน่อย?
?งะ งั้นเหรอครับ??
ฉันโล่งใจแล้วก็เงยหน้าขึ้น จิสึรุซังผุดรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความรักใคร่อันล้นเหลือ
?คีย์คุงน่ะ ฉันไม่กำจัดไปโดยพลันหรอกนะ?
?ปล่อยผมไปเถอะครับ?
รู้ตัวอีกทีฉันก็กดหัวติดพื้นสุดแรงเกิดก่อนจะร้องขอชีวิต
จิสึรุซังตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเช่นเคย
?ล้อเล่นจ้ะล้อเล่น ฉันน่ะชอบคีย์คุงมากๆ เลยนะ ไม่ทำเรื่องเลวร้ายหรอกจ้ะ?
?นะ....นั่นสินะครับ! เฮ้อ ค่อยยังชั่ว ก็นะ พอมาคิดดูดีๆ แล้วเรื่องแบบนี้เนี่ยมัน....?
ขณะที่ฉันเบาใจแล้วเงยหน้าขึ้น....จิสึรุซังก็ยิ้มหวานให้อีก
?ฉันจะให้เธอได้ลิ้มรสความสุขสมเมื่อไปถึงปลายทางของความเจ็บปวดอย่างเต็มที่เลยล่ะ?
?อย่างน้อยขอผมเขียนพินัยกรรมก่อนเถอะครับ?
ฉันตัดใจแล้ว จึงหยิบปากกาขึ้นมาทั้งน้ำตา แล้วก็ลงมือเขียนพินัยกรรมบนพื้นเพื่อมอบแก่น้องสาว
?ถึงริงโกะ การที่เธอได้อ่านจดหมายฉบับนี้อยู่ แสดงว่าพี่คงจะตายจากอย่างน่าเวทนา ไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว?
?ถึงฉันจะสนใจพินัยกรรมของคีย์คุงก็เถอะ แต่กลับมานั่งที่ได้แล้ว ฉันล้อเล่นต่างหาก ล้อเล่น?
?แต่เห็นอ่านหนังสืออันตรายแบบนั้นอยู่จริงๆ....?
ฉันตั้งคำถามอีกครั้งพลางกลับมานั่งเก้าอี้ จิสึรุซังถอนหายใจด้วยท่าทางเหมือนรำคาญใจ
?ฉันคิดว่ามันยังไงๆ อยู่ที่มีหนังสือแบบนี้อยู่ในห้องสมุด ก็เลยตรวจสอบเนื้อหาดูเท่านั้นเอง?
?อ๊ะ งั้นหรอกเหรอครับ ค่อยยังชั่ว....?
?อันที่จริงแล้วเนื้อหามันออกจะเป็นแนวมุกตลกมากกว่า ไม่มีปัญหาอะไรหรอก?
?ก็คงเป็นงั้นแหละเนอะ ไม่น่าจะมีหนังสืออันตรายแบบนั้นอยู่เกลื่อนกลาด....?
?ตายจริง แต่ฉันมีพวก ?วิธีกำราบหนุ่มขี้หลี~ภาคพบศพต่อเนื่อง~? ไม่ก็ ?จุดจบน่าสังเวชของชายผู้นอกใจ 2? อยู่นะ?
?ผมจะเขียนพินัยกรรมต่อนะครับ?
ฉันกางพินัยกรรมลงบนโต๊ะ แล้วเริ่มเขียนต่อทั้งน้ำตา ตัวอักษรซึมด้วยคราบน้ำตาเป็นครั้งคราว
จิสึรุซังเริ่มควานหาหนังสือเล่มต่อไปจากกองภูเขาหนังสือ
?เรื่องอื่นๆ ที่สนใจก็....สมหวังแน่นอน! สารานุกรมดวงชะตาความรัก....นี่แหละ?
?จิสึรุซังสนใจเรื่องดวงชะตาความรักด้วยเหรอครับ? จะว่าไปตอนที่จัดรายการวิทยุกันก่อนหน้านี้ก็เคยทำมุมแบบนั้นด้วย?
?นั่นสินะ ก็ใช่ว่าจะงมงายกับเรื่องที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์นักหรอก แต่ฉันชอบอะไรแบบนี้นะ?
?งั้นไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองทำนายเรื่องความสมพงศ์กับผมดีมั้ยครับ?
?จ้ะ ได้สิ?
จิสึรุซังพูดแบบนั้นแล้วก็พลิกหน้าหนังสือ หลังจากตรวจสอบเนื้อหาอยู่ครู่หนึ่งเธอก็เงยหน้าขึ้นพร้อมบอกว่า ?อันนี้ดูเข้าท่าดีนะ?
?ถ้างั้นคีย์คุง อยากให้ช่วยบอกหน่อยน่ะ....?
?พวกวันเกิดไม่ก็กรุ๊ปเลือดสินะครับ ก่อนอื่นเลย วันเกิดผม....?
?ช่วยบอกจำนวนยุงที่เธอฆ่าตายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทีสิ?
?เรื่องแบบนั้นผมจำไม่ได้หรอกครับ!?
?เย็นชาจังเลยนะ....จำไม่ได้กระทั่งชีวิตที่ตนเองฆ่าลงไปเหรอเนี่ย แต่แผลในใจของครอบครัวยุงที่โดนฆ่าน่ะ จนป่านนี้แล้วก็คงจะยังเยียวยาไม่หายเลยมั้ง?
?ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ! รู้สึกแย่สุดๆ ไปเลย!?
?เอาเป็นว่าความสมพงศ์ระหว่างเธอที่เป็นคนเลือดเย็นถึงขั้นจำไม่ได้แม้กระทั่งจำนวนยุงที่เคยฆ่า กับฉันที่ฆ่าไปหกร้อยล้านตัว....ก็คือ?
?คุณเนี่ยเป็นถึงระดับโคตรจอมมารในโลกของยุงไปแล้วนะครับ!?
?แหม ตกใจหมด! ตรงเผงเลยล่ะ!?
?เอ๊ะ? จริงเหรอครับ??
?อื้อ เขาว่าการโต้ตอบกันประมาณว่า ?เรื่องแบบนั้นจำไม่ได้หรอก!? คงจะทำให้เกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อยไงล่ะ! ตรงเผงเลยเนอะ!?
?นั่นมันก็คงจะอย่างงั้นแหละครับ!?
?ท่าทางดูไม่พอใจเลยนะ ....ช่วยไม่ได้ ดูดวงแบบอื่นกันดีมั้ย ....คีย์คุง ยื่นมือซ้ายมาข้างหน้าทีสิ หันฝ่ามือมาทางนี้นะ?
ฉันยื่นมือซ้ายออกไปยังจิสึรุซังตามที่เธอบอก
?งั้นต่อไปก็ใช้มือขวากำนิ้วมือซ้ายนิ้วใดนิ้วหนึ่งที่คิดว่า ?นี่แหละใช่เลย? ให้เต็มแรง?
?ดูอย่างกับแบบทดสอบจิตวิทยาเลยนะครับ งั้น....เลือกนิ้วกลาง?
ฉันกำนิ้วกลางแน่น เมื่อจิสึรุซังพึงพอใจกับสิ่งที่ฉันทำแล้วก็ออกคำสั่งต่อไป
?ตอนนนี้แหละ! ใช้มือขวาดึงเข้าหาตัวเองสุดแรงเกิดเลย!?
?รับทราบ! ลุยล่ะนะ....เฮ้ย เดี๋ยวก็หักกันพอดี!?
?ไม่เป็นไรหรอก แบบนั้นแหละ ยังไงซะนี่มันก็เป็นการดูดวงจากเสียงกระดูกนิ้วหักนี่นา เอาเลยจ้ะ เอาเลย?
?อย่าทำเป็นเงี่ยหูฟังสิครับ! ผมไม่หักหรอก!?
++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องกรรมการนักเรียนแห่งโรงเรียนเอกชนเฮคิโย...ที่นั่นเป็นทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์และวิมาน (ระยะนี้ชักจะทะแม่งๆ แล้วว่าใช่แน่หรือเปล่า) ซึ่งจะสามารถเข้าไปได้เฉพาะผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้น
นิยายซีรี่ส์เล่ม 4 นี้มาพร้อมชื่อเรื่องที่ชวนให้คิดไปถึงไหนต่อไหน เอาแล้วไง ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วสินะ ที่จะเดินเรื่องให้ดูสมเป็นไลท์โนเวลสักที! ประธานลองตามล่าหาสึชิโนะโกะบ้างล่ะ สึงิซากิลองขอแต่งงานบ้างล่ะ มาฟุยุลดการวางตัวลงมาอยู่ระดับเดียวกับสึงิซากิบ้างล่ะ อื้ม ก็เหมือนทุกทีเลยนี่นา!
คุณๆ ที่คิดแบบนั้นอาจจะได้เห็นน้ำตาแห่งกาลเวลาก็ได้นะ
แถมคราวนี้ยังมี ?วิธีการเรียนหนังสือของประธาน? ที่แสนจะน่าปลื้มใจสำหรับนักเรียนเตรียมสอบแถมมาให้ในราคาเท่าเดิมด้วย...เอ่อ อยากรู้ว่าราคาเท่าไหร่ก็ดูข้างล่างนี้สิ
เอาเป็นว่า แผนการของทั้งปีเริ่มต้นที่ ?กรรมการนักเรียน? ปีนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ!
