พิชลดารู้ว่ามันเสี่ยงเกินไปแต่เธอไม่มีทางเลือก...ไม่งั้นก็ต้องยอมตายอยู่ที่นี่ ที่ที่พิชลดาไม่เคยนึกฝันมาก่อนในชีวิตว่าจะต้องมาติดอยู่ในทะเลทรายแห้งแล้งน่าสะพรึงกลัวแห่งนี้! พิชลดาตัวสั่นเมื่ออาการเย็นเยือกกระจายไปทั่ว ดูเหมือนชีวิตทุกคนที่นี่กำลังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอ
พิชลดาเป็นห่วงหมอริชาร์ดสัน...
หมอมีพระคุณต่อเธอ ถ้าไม่ได้หมอเธอคงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้
พิชลดาคิดอย่างหมองหม่น...บางทีเธอตายไปซะตอนนั้นจะยังดีซะกว่าต้องมาเจอกับสภาพแบบนี้...พิชลดานึกถึงแม่...แม่จะรู้ไหมว่าพิชลดาต้องเจอกับความเลวร้ายแค่ไหน? ดูเหมือนความหวังดีของแม่จะไม่ช่วยอะไรเลย
น้ำตาเจ้ากรรมไหลรินออกมา ไม่รู้ว่าชะตากรรมของแม่จะเป็นอย่างไรบ้างหลังจากเธอจากมาแล้ว
เธอสวดมนต์ภาวนาให้แม่รอดปลอดภัย เหมือนที่พิชลดายังรอดปลอดภัยอยู่ตอนนี้...เธอยังไม่สิ้นหวังที่จะกลับไปเจอแม่
พิชลดาหวนคิดถึงอดีตที่ผ่านมา เพราะเธอเป็นจน ไม่ได้เกิดมาเป็นลูกคนรวยอย่างเพื่อนหลายๆ คน ไม่อย่างนั้นชีวิตของพิชลดากับแม่คงไม่ต้องเผชิญเคราะห์กรรมเลวร้ายแบบนี้...พิชลดาคิดอย่างขมขื่น
พิชลดายังโชคดีที่มีหน้าตาเป็นทรัพย์มีค่าที่สุด...เนื่องจากได้เชื้อสายมาจากรุ่นปู่ย่าตายายที่กลายเป็นผู้ดีตกยาก
แม่ภูมิใจเสมอที่มีลูกสาวน่ารัก...เติบโตมาเป็นหญิงสาวสะสวยน่ารัก ผิดจากเด็กสาวละแวกใกล้เคียง
แม่ของพิชลดาเล่าว่าตากับยายมีเชื้อเจ้าทางเหนือ...แม่เล่าว่าตาของเธอพายายหนีมาอยู่ที่เชียงใหม่นี่ ยายเป็นลูกเจ้านายใหญ่โตแต่รักกับตาที่มาทำงานรับใช้เสด็จในวังหลวง จากนั้นก็แอบรักกัน ยายเต็มใจที่จะหนีตามตามาแม้จะรู้ว่าลำบาก
เพราะเหตุนี้พิชลดากับแม่จึงมีผิวพรรณละเอียดสวยงามผิดจากชาวไร่ชาวดอยทั่วไป...แม่ต้องการให้พิชลดาเรียนสูงๆ จึงส่งให้เธอเข้ามาเรียนในเมือง
พิชลดาเก่งภาษามาก เพราะสมัยเด็กขลุกอยู่กับบาทหลวงในโบสถ์ฝรั่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก
แม่ชีบอกว่าพิชลดาเป็นเด็กฉลาด ใฝ่รู้ ช่างพูดช่างคุย ก็เลยรักและเอ็นดูเป็นพิเศษ นักบวชสอนศาสนาทั้งสองคนจึงเต็มใจสอนความรู้ให้พิชลดาเป็นอย่างดี จนหญิงสาวถูกส่งไปเรียนในเมืองเชียงใหม่
พิชลดาคงหางานทำในเมืองหลังเรียนจบ ถ้าหากไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับครอบครัวตัวเอง
พ่อของพิชลดาถูกฆ่าตายในไร่ แม่รีบหนีลงมาหาพิชลดา บอกพิชลดาว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว...ให้พิชลดาไปกับแม่ชีเบธ
?ทำไมล่ะคะแม่ แล้วแม่ล่ะ?
พิมาดาน้ำตานองหน้า
?แม่จะอยู่ที่นี่...แม่ไปด้วยไม่ได้...พิชไปเถอะนะ ไปจากที่นี่ ที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับเราอีกแล้ว?
แม่ร่ำไห้ออกมา นัยน์ตาบวมเป่งอย่างคนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก สีหน้าของแม่ซูบซีดอย่างคนเต็มไปด้วยความทุกข์
ไม่ใช่แค่เพราะความตายมาพรากสามีไปกะทันหัน แต่เป็นเพราะความเดือดร้อนที่กำลังจะตามมาจากภัยที่ไม่คาดฝันมาก่อนในชีวิต
พิชลดาไม่ยอมไป พิมาดาจึงจำต้องเล่าความจริงให้ลูกรับรู้ ทั้งน้ำตาอาบแก้ม แววตาโศกตรมอย่างที่สุด
?ไปเถอะนะลูก ลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ มันไม่ปลอดภัย พวกมันจะต้องมามาฆ่าลูกอีกคน? แม่พูดอย่างร้อนใจ
พิชลดามีสีหน้าเป็นทุกข์ เอาแต่ส่ายหน้า
?แล้วแม่ล่ะคะ แม่จะอยู่ยังไง?
?แม่อยู่ได้ เชื่อแม่นะ...แม่เอาตัวรอดได้ ถ้าลูกอยู่ แม่จะห่วงหน้าพะวงหลังเพราะเป็นห่วงลูก?
พิชลดาเอาแต่ส่ายหน้าร้องไห้
?ไม่...พิชไม่ไป พิชเป็นห่วงแม่ พิชจะอยู่กับแม่ ถ้าจะต้องตายก็ต้องตายด้วยกัน พิชไม่ยอมเอาตัวรอดคนเดียวหรอก?
พิชลดาไม่ยอมฟังเสียงมารดา พิมาดายิ่งเป็นทุกข์ ไม่ทราบจะทำยังไงดี ไม่ใช่ว่านางไม่อยากไปกับลูก แต่มีที่สำหรับให้ลูกไปคนเดียวเท่านั้น โชคดีเหลือเกินที่คณะนักเผยแพร่ศาสนาจะเดินทางไปช่วยคนเจ็บในสงครามตะวันออกกลาง
พิมาดาขอร้องแม่ชีเบธให้ช่วยพาพิชลดาหนีไปจากเมืองไทย เพราะทราบดีว่าพวกผู้มีอิทธิพลพวกนั้นไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่
ช่างโชคร้ายเหลือเกินที่สามีของตนบังเอิญไปเห็นพวกมันทำผิดกฎหมายเข้าและเอาเรื่องไปแจ้งกับทางการ โดยไม่รู้ว่ามันเป็นพวกเดียวกัน...มันกลัวว่าต้องเดือดร้อนกับหน้าที่ในราชการจึงส่งคนมาสังหารสามีของนางและทุกคนในครอบครัว เพื่อปิดปากมิให้ความชั่วของมันถูกเปิดโปง
พิมาดาเป็นห่วงลูก ขอเพียงลูกสาวปลอดภัยเท่านั้นก็พอแล้ว ตัวจะตายก็ช่าง สำหรับพิมาดาแล้ว ตนเองตายไปตั้งแต่สามีถูกฆ่าตายแล้ว
พิมาดารู้ตัวดีว่าตัวเองคงไม่รอด แต่ไม่ได้ปริปากบอกลูกสาวกลัวลูกสาวเป็นห่วงไม่ยอมหนีไป
พิชลดาไม่ยอมไปจริงๆ พิมาดาไม่มีทางเลือก นอกจากวางแผนหลอกลูกสาว แอบเอายานอนหลับให้กิน พิชลดามารู้สึกตัวอีกทีก็บนเครื่องบนขนเจ้าหน้าที่ชาติต่างๆ ไปร่วมกันช่วยเหลือทางการแพทย์ในประเทศลี้ภัยสงครามแล้ว
พิชลดาร่ำไห้ เป็นพักใหญ่กว่าที่หญิงสาวจะทำใจยอมรับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิตได้
เธออยากกลับไปหาแม่ แต่แม่ชีบอกว่าพิชลดาไม่ควรทำให้แม่เป็นทุกข์ไปมากกว่านี้ แม่ของพิชลดาเอาตัวรอดได้แน่ สักวันพิชลดาจะได้กลับมาแม่ในไม่ช้า
?เมื่อไหร่ล่ะคะแม่ชี?
แม่ชีเบธถอนใจหนักๆ
?แม่ก็ไม่รู้...แต่พระเจ้าสอนให้เรามีความหวัง ลูกก็อย่าเพิ่งหมดหวังสิพิช...สักวันลูกกับแม่จะต้องได้พบกัน?
พิชลดาหวังเหลือเกินให้เป็นแบบนั้น เธออดกลัวไม่ได้ว่าเธอจะไม่ได้เจอแม่อีกแล้วชาตินี้
สิ่งที่เธอกับครอบครัวเผชิญอยู่นั้นเลวร้ายเกินกว่าที่ใครจะช่วยได้ พ่อของพิชลดาโชคร้ายเหลือเกินที่ไปเจอกับคนชั่วเข้า พิชลดาต้องการกลับไปต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม...ตายเป็นตาย
แต่แม่กลับตัดสินใจที่จะเผชิญกับความเลวร้ายตามลำพัง พิชลดาอยากกลับเมืองไทย แต่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
เธอไม่มีเงิน...ไม่รู้จะกลับได้ยังไง
พิชลดาพยายามอดทน เธออยู่ช่วยแม่ชีเบธช่วยเหลือเหยื่อของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือประชาชนอาหรับ คนพวกนี้น่าสงสารเหลือเกินที่ต้องเผชิญกับสงคราม ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดมาจากสาเหตุอะไร
พวกเขาฆ่ากันราวใบไม้ร่วง เห็นหน้ากันและยิงใส่กันทั้งที่ไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ พิชลดาไม่ทราบจริงๆ ว่าเรื่องของเธอกับสงครามที่เกิดขึ้นที่นี่อะไรจะเลวร้ายไปกว่ากัน
แม่ชีเบธเป็นนักบุญโอบอ้อมอารี แม่ชีช่วยเหลือทุกคน...แม้แต่พิชลดา เธอจึงช่วยงานแม่ชีทุกอย่างทั้งที่ใจโหยหาอยากกลับไปหาแม่
ที่ค่ายผู้ลี้ภัยมีคนบาดเจ็บนับร้อยนับพันคน ส่วนใหญ่เป็นทหารและประชาชนตาดำๆ บางคนแขนขาด ขาขาด บางคนถูกยิง แต่ละคนนอนรออยู่บนเตียงผ้าใบแคบๆ แววตาแห้งแล้งและเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
สามเดือนที่เธออยู่ที่นี่ ไม่มีวันไหนที่พิชลดาไม่นึกถึงแม่ ไม่ทราบว่าป่านนี้แม่จะเป็นอย่างไรบ้าง
พิชลดากลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะไม่ได้เจอแม่อีก เธอกับแม่อยู่ห่างกันไกลแสนไกล แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหากันเจอ
พิชลดาสวดมนต์ภาวนาทุกคน ขอให้เรื่องเลวร้ายผ่านพ้นไปโดยเร็ว แต่ดูเหมือนว่าเคราะห์ร้ายของพิชลดาจะไม่จบสิ้นเพียงแค่นั้น เพราะมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบุกเข้ามาทลายค่ายลี้ภัย
ผู้คนหนีตายกันจ้าละหวั่นไม่เว้นแม้พิชลดา เธอกับแม่ชีเบธพลัดหลงกันตอนไหนไม่อาจทราบได้
พิชลดาหนีหันซุนไปหลบในบังเกอร์กันกระสุน เนื้อตัวเปรอะไปด้วยฝุ่นทราย ผมเผ้าหน้าตามอมแมมแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะของเธอซ่อนอยู่ในหมวกที่แม่ชีบังคับให้ใส่เอาไว้ จะได้แยกถูกว่าเป็นเจ้าหน้าที่
พวกมันยิงคนที่สวมหมวกนั่นอย่างโกรธแค้น พิชลดาเห็นกับตาตัวเองจนต้องแอบถอดหมวกนั้นออก เพื่อมิให้ใครจับได้ว่าเธอเป็นเจ้าหน้าที่ในค่ายลี้ภัย
หญิงสาวตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ครวญในใจว่าทำไมเธอถึงได้โชคร้ายไม่จบสิ้นเสียทีหนอ ขนาดนี้มาถึงนี่ยังถูกไล่ยิงราวกับในหนังสงคราม
เมื่อไม่มีหมวก...ผมยาวของหญิงสาวก็ทิ้งตัวลงมา บอกให้รู้ว่าพิชลดาเป็นผู้หญิง ทำให้ความสนใจของพวกมันหันเหจากต้องการฆ่าเธอกลายเป็นคิดจะใช้ประโยชน์จากร่างกายของเธอแทน
พิชลาดาร้องวี้ดออกไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ พยายามตะเกียกตะกายลุกหนีไปจากบังเกอร์หลบภัย
พิชลดาเคยคิดว่าสงครามโหดร้ายรุนแรง แต่ไม่คิดว่าจะโหดร้ายและรุนแรงได้มากขนาดนี้ เธอเห็นผู้คนถูกฆ่า ไม่เว้นแม้คนป่วยที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน เธอกลัวตัวเนื้อสั่น คิดว่าตัวเองจะตายเสียแล้ว
ถ้าไม่เป็นเพราะใครบางคนดึงเธอออกมาจากบังเกอร์นั้นท่ามกลางเปลวไฟและฝุ่นตลบอลอวล เสียงกรีดร้อง เสียงปืน เสียงระเบิด ดังก้องอยู่ในหูเธอ พิชลดาไม่เคยเห็นอะไรเลวร้ายแบบนี้มาก่อน ช่างโหดร้ายป่าเถื่อนเหลือเกิน
คนที่ดึงเธอออกมาจากบังเกอร์ เธอจำได้ว่าเขาเป็นหมอ แต่จำชื่อเขาไม่ได้
พิชลดาได้เรียนรู้ว่าความเกลียดชังและโกรธแค้นของคนพวกนี้รุนแรงจนกลายเป็นคนบ้าคลั่ง สังหารได้ทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนที่อาสามาช่วย...
ที่เธอไม่รู้คือคนพวกนี้ทำไปทำไม ต้องการอะไร?
เธอรู้เพียงว่าต้องเอาตัวรอดหนีตาย ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องลงไปนอนจมกองเลือด มีสภาพน่าสังเวชอยู่บนผืนทรายนั่น
ผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ถูกต้อนให้ขึ้นรถบรรทุก...ถูกควบคุมโดยชายโพกผ้าปิดหน้าตา มองเห็นแต่ดวงตา ดูทมิฬ ป่าเถื่อน และน่ากลัวจนไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้น
ผู้คนส่วนใหญ่ที่ถูกต้อนขึ้นรถ ส่วนมากเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ใครขัดขืนก็ถูกยิงทิ้ง
พิชลดาน้ำตากลบตาเพราะความหวาดกลัว...เพราะความสวยที่เป็นรูปทรัพย์ของเธอนี่เองที่กำลังนำภัยมาสู่เธอ
?ว่าไง??
พวกโจรเถื่อนบางคนพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี...มันถามพิชลดา แต่หมอริชาร์ดร้องขัดขึ้นมาว่า
?ไม่นะครับ...อย่ายอมมัน ยังไงมันก็ฆ่าผมอยู่ดี?
คาห์ธัสเปล่งเสียงหัวเราะเสียงห้าวออกไป ก่อนจะเดินไปเอาด้ามปืนกระแทกเข้าที่ท้องของหมอหนุ่มเป็นการสั่งสอน
?ฮ่าๆ...ใช่...ฆ่าเจ้าเป็นเรื่องง่าย แค่กระดิกนิ้วเดียวเจ้าก็ตายไปแล้วไอ้หัวทอง ถ้าเจ้าฉลาดรีบหุบปากไปซะ?
พิชลดารีบกรากเข้าไปประคองหมอริชาร์ด น้ำตาอาบแก้ม มองโจรเถื่อนด้วยสายตาวิงวอนขอร้อง
?อย่าทำร้ายเขาเลย...ท่านต้องการคำตอบไม่ใช่หรือ ข้าจะยอมทุกอย่าง ถ้าท่านรับปากว่าท่านจะปล่อยเชลยพวกนี้ไป?
โจรเถื่อนหงายหน้าหัวเราะออกมาทันที
?เจ้าช่างกล้านะนังคนสวย เจ้ากล้าดียังไงถึงจะแลกชีวิตตัวเองกับไอ้เชลยพวกนี้...? คาห์ธัสหรี่ตาวาววับมองมาอย่างเอาเรื่อง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โชคชะตาเลวร้ายพัดพาหญิงสาวมาตกอยู่ในทะเลทรายแห้งแล้ง ลำพังแค่ความลำบากที่ต้องเผชิญ ?พิชลดา? ก็พอทำใจให้อดทนสู้ หากแต่สิ่งที่หญิงสาวต้องประจันหน้าก็คือโจรทะเลทรายที่ร้ายกาจ ตอนแรกพิชลดาคิดว่าตัวเองคงตกเป็นของกระทาชายหื่นกระหายพวกนี้ ทว่าผมสลวยและผิวขาวของเจ้าหล่อนมีประโยชน์มากกว่าจะเก็บไว้เสพสุข จู่ๆ พิชลดาก็ได้กลายมาเป็นเครื่องบรรณาการชิ้นงามให้แก่สุลต่านหนุ่ม ซึ่งหญิงสาวไม่มีทางยอมเสนอตัวเป็นนางบำเรอให้ใครจึงต่อต้านสุดฤทธิ์ แรงพยศของพิชลดาทำให้ ?สุลต่านฟาร์รุต? ต้องปราบคนอวดดีด้วยปากร้อน พิชลดาผู้ไม่เกรงกลัวทว่าครานี้หล่อนกลับสะท้านไหวและอ่อนระทวยในอ้อมกอดเขา หญิงสาวจึงปล่อยให้สุลต่านเจ้าอำนาจลงทัณฑ์สวาทที่ไม่เคยพบพานโดยไม่ขัดขืน
?ข้ายอมแล้ว? พิชลดาร้องเสียงหลง
?เจ้ายอมแล้วหรือเมียข้า รู้ไว้นะว่าใครเป็นนายเจ้า ห้ามเอาชนะข้าอีกเด็ดขาด
สุลต่านหนุ่มซวนซบลงบนร่างบางไม่นานก็มีเสียงครางดังขึ้น
บอกให้รู้ว่าเขาสามารถปราบเธอลงได้อย่างราบคาบ
