New Release : รอยทรายใต้เงาจันทร์

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : รอยทรายใต้เงาจันทร์

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1 ณ สาธารณรัฐอัลจามูดีน

ดาวิกาเดินทางมาที่สาธารณรัฐอัลจามูดีนหลังจากที่ทราบว่าตัวเองเรียนจบระดับปริญญาตรีแล้วอย่างแน่นอน หญิงสาวข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่ประเทศนี้เพราะว่าคุณแม่ของเธอทำงานเป็นแม่บ้านให้กับนักธุรกิจชาวไทยซึ่งมาตั้งบริษัทอยู่ที่นี่ และเธอถูกเรียกตัวมาอัลจามูดีนทันทีที่สอบเสร็จ ด้วยเหตุผลที่ว่าคุณแม่เป็นห่วงไม่อยากให้อยู่เมืองไทยตามลำพังจึงอยากให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน
?ร้อนจังเลย? ดาวิกาบ่นพึมขณะที่เช็ดหน้าเช็ดตาด้วยผ้าเช็ดหน้า อากาศร้อนอบอ้าวเช่นนี้ทำเอาเธอแทบจะอ่อนแรง ลำคอก็แห้งผากจากการขาดน้ำด้วย ?ในที่สุดก็ถึงซะที?
ตอนนี้หญิงสาวยืนอยู่หน้าบ้านหลังงามขนาดใหญ่ซึ่งเป็นบ้านพักของเจ้านายแม่ เธอเดินไปที่ป้อมยามด้านหน้าประตูบานใหญ่ ก่อนจะเอ่ยแจ้งกับพนักงานรักษาความปลอดภัยหน้าประตูว่ามาพบคุณกัญญาซึ่งเป็นแม่บ้านของที่นี่ เธอเอ่ยบอกด้วยภาษาอังกฤษที่ฉะฉานพลางยิ้มผูกมิตรกับพนักงานรักษาความปลอดภัยซึ่งเป็นชายชาวอาหรับโดยแท้
?จะให้บอกคุณกัญญาว่าใครมาขอพบครับ?
?ฉันเป็นลูกสาวคุณกัญญาค่ะ?
?รอสักครู่นะครับ ผมจะโทรศัพท์แจ้งเข้าไปบอกในบ้านก่อน? พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นว่าพลางยิ้มตอบหญิงสาวหน้าสวย
?ค่ะ? ดาวิการับคำด้วยรอยยิ้ม
พนักงานรักษาความปลอดภัยนายนั้นกดโทรศัพท์ติดต่อเข้าไปภายในบ้านพักก่อนจะเอ่ยแจ้งเรื่องราวตามจริง คุยกันไม่ถึงสามประโยคเขาก็วางโทรศัพท์แล้วก็ส่งยิ้มให้หญิงสาวชาวไทยอีกครั้ง
?เชิญครับ คุณกัญญาจะออกมารับคุณเอง?
?ขอบคุณค่ะ?
ทันทีที่ประตูใหญ่เปิดออก ดาวิกาก็ลากกระเป๋าเดินทางของเธอเข้าไปยังภายในบ้านพักหลังใหญ่นั้น หญิงสาวเปิดรอยยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นคุณแม่ของเธอซึ่งวิ่งออกมาจากในบ้าน สีหน้าของท่านก็ยิ้มแย้มดีใจไม่แพ้เธอเลย ก่อนที่ท่านจะโอบกอดเธอแนบแน่น
?แม่คิดถึงดาเหลือเกินลูก? กัญญาพร่ำบอกลูกสาว เธอกอดดาวิกาแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความห่วงใยมากมายพลันหายไปเมื่อได้เห็นหน้าลูกสาวคนสวย ในที่สุดก็ได้พบหน้ากันหลังจากที่ต้องติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์เสียเป็นส่วนใหญ่
?ดาก็คิดถึงแม่ค่ะ?
ดาวิกาน้ำตาซึม เกือบปีเชียวที่เธอต้องอยู่ที่เมืองไทยโดยไม่มีคุณแม่อยู่ด้วย ความเหงาแบบนั้นเธอไม่อยากพบเจออีกแล้ว ครั้นคุณแม่ชวนให้มาอยู่ด้วยกันเธอตอบตกลงอย่างไม่ลังเลเลย เพราะอยากมาอยู่ใกล้ๆ ท่านและคอยดูแลท่านด้วย
?เข้าบ้านกันก่อนเถอะลูก แล้วค่อยคุยกันนะ? กัญญาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มกริ่ม เธอยังคงมองสำรวจใบหน้าของลูกสาวอย่างไม่รู้เบื่อ ปลื้มใจเป็นที่สุดที่ได้พบหน้ากันอีกครั้ง และดีใจเหลือแสนที่ได้มีโอกาสกอดลูกสาวสุดที่รักคนนี้
?ค่ะแม่ ดาก็อยากกราบสวัสดีคุณท่านกับคุณหญิงด้วยค่ะ?
กัญญายิ้มเมื่อได้ยินลูกสาวพูดอย่างนั้น เธอกุมมือลูกสาวพาเดินเข้าไปในบ้านพัก วันนี้โชคดีที่เป็นวันหยุดของเจ้านาย และคุณท่านกับคุณหญิงก็อยู่บ้านด้วย กัญญาพาลูกสาวเข้าไปในห้องนั่งเล่นซึ่งเจ้านายพากันนั่งจิบน้ำชากับทานขนมหวานกันอยู่
?มาแล้วเหรอจ๊ะหนูดา? คุณหญิงประไพร้องถามพลางยิ้มทันทีที่เห็นดาวิกาเข้ามาในห้อง เธอล่ะยินดีนักที่ได้พบกันอีกครั้ง
?สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณหญิง?
?ไหว้พระเถอะลูก? คุณพงษ์เทพบอกพลางยิ้ม เขาเห็นดาวิกามาตั้งแต่ยังเล็ก ตอนนี้โตเป็นสาวเต็มตัวแล้วสวยเชียว เหมือนมีลูกสาวอีกคนเลยก็ว่าได้
คุณหญิงอมยิ้มน้อยๆ ชอบใจนักที่หญิงสาวซึ่งเธอเห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยมากราบสวัสดีเธอกับสามี ดาวิกายังเป็นเด็กดีที่มีกิริยามารยาทงาม น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด
?แล้วเป็นยังไงล่ะเรา การเดินทางเรียบร้อยดีไหม? คุณพงษ์เทพถามไถ่
?เรียบร้อยดีค่ะคุณท่าน? หญิงสาวเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม
?ดีแล้ว ห่วงอยู่เหมือนกันว่าหนูดาจะมาที่นี่อย่างปลอดภัยรึเปล่า แต่พอได้เห็นหน้าก็โล่งอกนะกัญญานะ? เขาหันไปบอกกัญญา ฝ่ายนั้นก็ยิ้มตอบกลับมา
?ค่ะคุณท่าน?
?ว่าแต่กัญญา เธอจัดห้องหับเอาไว้ให้ลูกแล้วใช่ไหม? คุณหญิงประไพหันไปสอบถามกัญญาซึ่งเป็นคนสนิทของเธอ
?จัดเอาไว้แล้วค่ะคุณหญิง? กัญญาเอ่ยรายงานเจ้านายพลางยิ้มชื่น ?จัดห้องว่างข้างๆ ห้องของดิฉันเอาไว้แล้วค่ะ?
?ห้องเล็กเกินไป? คุณหญิงว่าพลางทำหน้านิ่วใส่คนสนิท ?ทำไมไม่ให้ขึ้นมาอยู่ชั้นบนซะล่ะ มีห้องว่างตั้งหลายห้อง?
?ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหญิง ให้ดาอยู่ห้องนั้นดีกว่าค่ะ? กัญญารีบบอก ลูกสาวเธอจะไปพักข้างบนเทียบเคียงกับห้องนอนของเจ้านายได้อย่างไรกัน
ในเมื่อกัญญาพูดอย่างนั้นคุณหญิงประไพกับคุณพงษ์เทพเลยไม่บังคับอีก เพราะต่างก็รู้กันว่ากัญญานั้นเลี้ยงลูกให้รู้จักบุญคุณของพวกท่านเสมอ นี่ล่ะสิ่งที่ทำให้พวกท่านรักและทิ้งสองแม่ลูกนี้ไม่ได้ จะหาคนที่จงรักภักดีแบบนี้ยากยิ่งนัก
?หนูดามาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะ ไว้เย็นๆ ค่อยมานั่งคุยกัน? คุณพงษ์เทพบอก เมื่อเห็นว่าพูดจาทักทายกันพอสมควรแล้ว
?ค่ะคุณท่าน? ดาวิการับคำด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะคว้ากระเป๋าเดินทางมาถือไว้และเดินตามคุณแม่ออกไปจากห้อง
กัญญาพาลูกสาวเดินมาตามระเบียงและตัดผ่านมาทางด้านซ้ายของตัวบ้าน ก่อนจะหยุดที่หน้าห้องห้องหนึ่งแล้วเธอก็ผลักประตูให้เปิดออก จากนั้นก็จูงมือลูกสาวพาเข้าไปในห้อง เธอกวาดสายตาดูความเรียบร้อยรอบๆ ห้องด้วยแววตาพึงพอใจ ก่อนจะหันกลับมาหาลูกสาว
?ชอบไหมลูก?
?ชอบค่ะแม่? ดาวิกาเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มอ่อน หญิงสาวมองสำรวจดูรอบๆ ห้องด้วยความพึงพอใจ ห้องนอนที่คุณหญิงประไพว่าแคบนั้นเอาเข้าจริงๆ แล้วไม่ได้คับแคบอะไรเลยสักนิด ตรงกันข้ามเลยต่างหาก เพราะมีขนาดกว้างกว่าห้องเช่าที่เธอเคยอยู่ที่เมืองไทยตั้งเยอะเชียว ที่สำคัญคือการจัดวางข้าวของก็เข้าที่เข้าทางดูดีเสียด้วย
?ดาอยากได้อะไรเพิ่มไหมลูก?
?ไม่ค่ะแม่ แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ?
กัญญายิ้มเมื่อลูกสาวตอบอย่างนั้น
?แม่ดีใจนะที่ดายอมมาอยู่ที่นี่กับแม่? เธอว่าพลางกุมมือลูกสาวแล้วบีบเบาๆ ?คุณท่านบอกแม่ว่าจะให้ดาช่วยงานที่บริษัทด้วย ทีนี้ดาก็จะมีงานประจำทำแล้ว ไม่ต้องออกไปหางานทำให้เหนื่อย?
ดาวิกายิ้มจางเมื่อได้ฟังอย่างนั้น ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกคุณแม่ตามความรู้สึกของเธอ
?แม่คะ จริงๆ แล้วดาอยากหางานทำที่นี่เองมากกว่าค่ะ?
รอยยิ้มของกัญญาจางหายไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น เธอมองสบตาลูกสาวก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่ง
?ทำไมล่ะลูก?
?ดาอยากทำงานด้านการท่องเที่ยวมากกว่าค่ะ? ดาวิกาเอ่ยตอบตามความจริง ?แม่ก็รู้ว่าดาเรียนจบมาทางนั้น?
?แต่ภาษาของดาก็ดีนี่ลูก? กัญญาเอ่ยค้าน แววตาที่มองลูกสาวบอกเลยว่าเธอนั้นไม่เห็นด้วยเลยสักนิดกับความคิดนี้ ?ดาจะช่วยคุณท่านได้เยอะเลยนะถ้าดาไปทำงานที่บริษัทน่ะ อีกอย่างทำงานกับคุณท่านก็มั่นคงกว่าด้วยนะ?
ดาวิกาหลบสายตาแม่ เธอถอนหายใจเบาๆ ลองว่าถ้าท่านพูดแบบนี้แล้วเธอคงไม่แคล้วต้องยอมทำตามอีกเช่นเคย ทั้งที่เธอไม่อยากทำเลยสักนิด เธออยากทำงานที่เธอใฝ่ฝัน และอยากยืนให้ได้ด้วยตัวเองมากกว่าจะอยู่ใต้เงาของผู้มีพระคุณตลอดไป
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากตอบแทนบุญคุณของคุณพงษ์เทพและคุณหญิงประไพ เธอซาบซึ้งดีว่าท่านทั้งสองมีบุญคุณต่อแม่และเธอมากแค่ไหน แต่เรื่องบุญคุณที่ต้องทดแทนกับเรื่องอนาคตการงานของเธอนั้นมันคนละเรื่องกัน เธออยากเลือกอาชีพด้วยตัวเอง อยากลิขิตชีวิตต่อจากนี้ด้วยตัวเอง มากกว่าจะให้ใครมาขีดเส้นให้เดินเหมือนที่เคยเป็นมา
?ถือว่าแม่ขอนะดา อย่าทำอะไรขัดใจคุณท่านทั้งสองเลย? กัญญากล่อมลูกสาว ?ไปทำงานกับคุณท่านที่บริษัทเถอะนะ?
ดาวิกานิ่งเงียบ เธอไม่ตอบอะไรแม่อีกนอกจากความเงียบเท่านั้นที่มีให้ หญิงสาวถอนใจเบาๆ บอกตัวเองว่าเธอคิดผิดเสียแล้วที่มาที่อัลจามูดีน รู้อย่างนี้สู้เธอทนเหงาทำงานอยู่เมืองไทยดีกว่า เธอไม่อยากทำงานกับคุณพงษ์เทพ ไม่ใช่ว่าอยากอกตัญญูหรอกนะ แต่เธออยากเลือกทางเดินของเธอเอง ไม่อยากอยู่ใต้ร่มเงาของคนอื่นตลอดไปแบบนี้
เห็นอาการนิ่งเงียบของลูกสาวแล้วกัญญาก็ได้แต่นิ่วหน้า ใช่ว่าเธอจะอยากบังคับลูกสาวหรอกนะ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ ทางนั้นก็นายทางนี้ก็ลูก
?ดา ถือว่าแม่ขอ?
?ขอดาคิดก่อนนะคะแม่? ดาวิกาเอ่ยแผ่วเบา เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับแม่ด้วยแววตาอ่อนแสง เห็นอย่างนั้นแล้วคนเป็นแม่ได้แต่นึกเศร้าใจ
?เอาเถอะ แม่จะรอฟังคำตอบของดาก็แล้วกัน? กัญญาบอกเสียงเบา ?เดี๋ยวแม่จะออกไปทำอะไรมาให้กิน ดาพักผ่อนก่อนเถอะนะลูก?
ดาวิกาพยักหน้ารับคำเบาๆ และพอมารดาเดินออกไปจากห้องแล้วเธอก็ถอนใจยาว ความรู้สึกผิดมีอยู่เต็มหัวใจ เธอรู้ว่าแม่ผิดหวังในตัวเธอ แต่เธอก็ไม่อยากฝืนใจตัวเอง ยอมมาตลอด...แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ไม่อยากยอม เธออยากหาทางทำมาหากินด้วยตัวเองมากกว่า

******************************

อากาศที่อัลจามูดีนร้อนจัดในตอนกลางวัน ดาวิการับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณทันทีที่เธอลงจากรถยนต์ประจำตำแหน่งของคุณพงษ์เทพ
?มาเถอะหนูดา?
?ค่ะคุณท่าน?
หญิงสาวถอนใจเบาๆ ขณะที่ก้าวตามคุณพงษ์เทพเข้าไปยังภายในบริษัท ในที่สุดเธอก็จำต้องยอมทำตามความต้องการของแม่ด้วยการมาทำงานที่นี่จนได้ และงานท่องเที่ยวอย่างที่ฝันไว้ก็ถูกเก็บไว้ให้เป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น
หน้าที่ของดาวิกาที่ได้รับมอบหมายมาก่อนหน้านั้น ก็คือคอยเป็นผู้ช่วยเลขานุการส่วนตัวของท่านประธานพงษ์เทพอีกต่อหนึ่ง ติดต่อประสานงานและติดตามงานในส่วนต่างๆ แทนเลขานุการตัวจริงซึ่งจะดูแลงานในส่วนของท่านประธานโดยตรง
?คุณแหวน ช่วยดูแลน้องด้วยนะ?
?ได้ค่ะท่าน? อัจฉรารับคำพลางยิ้ม
พอคุณพงษ์เทพเปิดประตูเข้าห้องทำงานไปแล้ว อัจฉราก็หันมาส่งยิ้มทักทายหญิงสาวหน้าสวยที่เพิ่งมาใหม่ด้วยรอยยิ้มใจดี
?สวัสดีจ้ะ?
?สวัสดีค่ะคุณอัจฉรา? หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้รุ่นพี่ด้วยความเต็มใจ เธอค่อยคลายใจได้หน่อยเมื่ออัจฉรานั้นดูท่าทางเป็นคนใจดีและน่าคบหา
?เรียกว่าพี่แหวนก็ได้นะจ๊ะ?
?ค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะพี่แหวน? ดาวิกาเอ่ยพลางยิ้มอ่อน
?น้องดาวิกาเนอะ? อัจฉราว่าพลางเปิดดูแฟ้มประวัติของดาวิกา เธอกวาดสายตามองดูข้อมูลประกอบไปพลางแล้วก็เงยหน้ามาส่งยิ้มให้เจ้าของประวัติ
?เรียกดาก็ได้ค่ะ?
?โอเคน้องดา หน้าที่ของน้องดาคือช่วยงานพี่นะ? อัจฉราว่าพลางปิดแฟ้มประวัติของดาวิกาลง ?ถ้างั้นงานแรกเลยก็แล้วกัน พิมพ์จดหมายนี่ให้พี่นะจ๊ะ พี่ขอก่อนสิบโมงนะเพราะต้องส่งออกก่อนเที่ยง? เธอว่าพลางหยิบร่างจดหมายส่งให้ดาวิกา
?ได้ค่ะ? หญิงสาวรับคำ เธอรับงานชิ้นแรกมาก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะทำงานข้างๆ โต๊ะของอัจฉรา จากนั้นก็จัดการเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นและรอจนกระทั่งเครื่องพร้อมทำงาน ถึงได้เริ่มต้นทำงานแรกของเธออย่างตั้งใจ ใจจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า บอกตัวเองว่าต้องทำให้ดีที่สุด
อัจฉราลอบมองดูดาวิกาซึ่งนั่งทำงานอยู่ข้างๆ เธอยิ้มนิดๆ เมื่อเห็นท่าทางจริงจังเอางานเอาการของหญิงสาว แม้ว่าจะเป็นเด็กมีเส้นสายแต่ดูท่าว่าจะไม่ใช่พวกเหลวไหลไม่เอาการเอางาน มิน่าล่ะท่านประธานถึงได้เจาะจงอยากได้มาทำงานช่วยเธอนัก คงจะมีความรู้ความสามารถมากพอสมควรเลยทีเดียว อยากรู้เหมือนกันว่าดาวิกาจะทำงานออกมาได้ดีแค่ไหน
ยอมรับเลยว่าครั้งแรกที่ทราบเรื่องว่าคุณพงษ์เทพจะเอาเด็กที่บ้านมาช่วยงาน อัจฉราก็แอบมีอคตินิดๆ เพราะเป็นคนไม่ชอบพวกเด็กเส้นแบบนี้เป็นทุนเดิม แต่พอได้พบดาวิกาแล้วเธอต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เลยเชียว เพราะหญิงสาวที่เธอเห็นตรงหน้านี้ดูหน่วยก้านใช้ได้และท่าทางคล่องแคล่วพร้อมทำงาน ซ้ำยังไม่ใช่พวกหยิบโหย่งเหมือนเด็กเส้นคนอื่นๆ ที่เธอเคยเจอมาด้วย
?สงสัยอะไรก็ถามพี่ได้นะจ๊ะ? เธอเอ่ยขัดความเงียบขึ้นมา เลขาฯ สาวยังคงมองดูดาวิกาทำงานด้วยแววตาพึงพอใจ
?ค่ะพี่แหวน? ดาวิการับคำ มือก็ยังสาละวนอยู่กับการกดแป้นพิมพ์
อัจฉราละสายตาจากดาวิกาเมื่อเห็นว่ารุ่นน้องดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรกับการทำงานที่เธอมอบหมายให้ หญิงสาวหันกลับมาสนใจกับงานตรงหน้าของตัวเองบ้าง
ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ จดหมายภาษาอังกฤษก็เสร็จเป็นรูปเป็นร่าง ดาวิกาส่งงานที่เสร็จเรียบร้อยนั้นให้อัจฉราตรวจทาน และได้รับคำชมกลับมาว่าทำได้ดี หญิงสาวยิ้มนิดๆ กับคำชมนั้น แม้จะไม่ใช่งานที่ยากเย็นอะไรแต่ก็ทำให้เธอดีใจกับชมไม่น้อยเลย
?คุณแหวน เชิญที่ห้องผมหน่อย?
อัจฉราเข้าไปพบท่านประธานในห้องทำงาน ส่วนดาวิกาก็นั่งตรวจทานงานชิ้นที่สองซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำอย่างละเอียด เธอกำลังจัดการกับเอกสารปึกใหญ่และต้องจัดเข้าแฟ้มให้ตรงกับงานแต่ละส่วน เอกสารส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น ทำเอาคนที่ชอบภาษาอย่างดาวิกาค่อยหายเบื่อได้หน่อย เธอทำงานด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะดีขึ้นมากเลยทีเดียว
อัจฉรากลับออกมาจากห้องทำงานของเจ้านาย เธอมองดูดาวิกาที่จัดแฟ้มงานเข้าที่อย่างเรียบร้อยด้วยแววตาชื่นชม
?เดี๋ยวช่วงบ่ายน้องดาไปงานกับพี่นะ พี่จะพาไปเปิดหูเปิดตา? เธอว่าพลางยิ้ม ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะชอบใจใครง่ายๆ แบบนี้ แต่หญิงสาวรุ่นน้องคนนี้ทำให้เธอรู้สึกดีด้วยจริงๆ ทำงานทุกอย่างได้ดีและรับผิดชอบดีมาก
?ไปงานหรือคะพี่แหวน? ดาวิกาเลิกคิ้วน้อยๆ ขณะเอ่ยถาม สงสัยไม่น้อยเลยว่างานที่ว่าคืองานอะไร ?ให้ดาไปด้วยหรือคะ?
?ใช่จ้ะ มีงานออกร้านโปรโมทของดีแล้วก็การท่องเที่ยวประเทศต่างๆ น่ะ แล้วบริษัทของเราก็ออกบูธในงานด้วย ท่านประธานต้องเป็นคนไปเปิดงานที่ร้าน แล้วเราก็ต้องตามไปดูแลด้วย ดาไปกับพี่จะได้ช่วยกันทำงาน? อัจฉราว่าพลางยิ้ม
?ได้ค่ะ? ดาวิการับคำ ให้ทำอะไรเธอก็ทำทั้งนั้นล่ะ ก็ตั้งใจมาทำงานแล้วนี่นา แล้วเธอก็จะทำงานทุกชิ้นที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดด้วย
อัจฉรายิ้มอ่อนกับความว่าง่ายของดาวิกา ก่อนที่เธอจะป้องปากพูดเสียงเบากับรุ่นร้อง
?ถึงจะบอกว่าเป็นการไปทำงานแต่เอาจริงๆ แล้วเป็นการไปเดินเที่ยวต่างหาก เวลามีงานแบบนี้พี่ไม่ค่อยได้ทำงานหรอก ท่านประธานจะปล่อยให้เดินชมงานได้น่ะ?
ดาวิกาอมยิ้มเมื่อได้ยินอย่างนั้น ได้ออกไปเที่ยวข้างนอกบ้างก็ดี ยิ่งเป็นงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบนี้เธอยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ จะว่าไปแล้วตั้งแต่มาที่นี่เธอก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย ถือโอกาสนี้ไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ดีเหมือนกัน


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ประตูวังถูกเปิดออกกว้างต้อนรับ ?ดาวิกา? ซึ่งเดินทางกลับมายังสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง คราวนั้นเธอมาในฐานะนางบำเรอหากแต่วันนี้ก้าวเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะคนรักของชีค ?ฟาฮัด? ยิ้มรับคำบอกรักแสนหวานด้วยการจูบภรรยาสาวสวย รสจูบอ่อนหวานนั้นค่อยๆ ทวีความร้อนแรงขึ้นพอๆ กับสัมผัสที่ทั้งเขาและเธอต่างมอบให้แก่กัน ชีคหนุ่มบอกตัวเองว่าเขาแทบจะสำลักความสุขในช่วงเวลาแสนหวานนี้ และเขาจะทำให้เธอรักเขาตลอดไปเหมือนกับที่เขาเองก็รักเธอมากเช่นกัน เวลานี้ดาริกาแทบขาดใจ...เธอตอบรับสัมผัสของเขาและร่วมบอกรักผ่านสัมผัสร้อนผ่าว วันนี้เธอยอมรับอย่างหมดสิ้นแล้วว่าหลงรักชีคฟาฮัดสุดหัวใจ เธอถูกเขากักขังไว้ด้วยความรักหาใช่อำนาจเหมือนเช่นเคยไม่
?ที่รัก เรารักเจ้าเหลือเกิน? ฟาฮัดเอ่ยสารภาพขณะที่กอดดาวิกาแนบแน่น เขารักเธอยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดที่มี "รักมากที่สุด"


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”