New Release ร้อยรัก : ไฟรักโรมัน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : ไฟรักโรมัน

โพสต์ โดย Gals »

จะขอนำทุกท่านสู่ตำนาน
ซึ่งกล่าวขานมานานแต่ก่อนเก่า
สู่ฟากฟ้าทะเลทรายใต้แสงดาว
แสงอาภาทอดยาวสุดโค้งฟ้า

ขอนำพาทุกท่านมาพานพบ
ความรักงามบรรจบสุดแดนหล้า
ของจอมทัพโรมันเทพอสุรา
กับสตรีแห่งท้องนภาผู้สะคราญ

หนึ่งนั้นรักปรารถนาเพียงรักตอบ
หนึ่งนั้นยากเอ่ยตอบรักนั้นได้
แม้สองใจเกี่ยวพันร้อยดวงใจ
แต่เหตุใดลวงหลอกให้แคลงคลาย

ขอทุกท่านเปิดใจพลิกเปิดอ่าน
ถึงตำนานเล่าขับขานชวนฝันใฝ่
นำพาท่านเยือนโรมันสู่แดนทราย
ฝันหวานไหวถึงแดนไกลดั่งใจปอง


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
-- ไฟรักโรมัน ?

นางเคยได้ยินคำล่ำลือเกี่ยวกับจอมทัพผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้มากมาย เขาเป็นทั้งอสูรกายในศึกสงคราม .้ความปรานี เขาเป็นทั้งเทพบุตร อ่อนโยน และเต็มไปด้วยชาวเมืองผู้เป็นที่รัก หากแต่ไม่มีคำล่ำลือใดเลยที่จะกล่าวถึงความเป็นบุรุษเพศของเขา ความปรารถนาเร่าร้อนที่นางมองเห็นในดวงตาสีเงิน เพลิงร้อนรุ่มที่เขาเป็นผู้จุดให้กับนางเพียงแค่สบตา
เชไลล่าไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนตลอดชีวิตสิบแปดปีของนาง ไม่เคยมีบุรุษใดทำให้นางปรารถนาเช่นเขา ไม่เคยมีชายใดที่ทำให้นางรู้สึกอยากสัมผัสและจับต้อง ไม่เคยมีผู้ใดที่ทำให้ร่างกายของนางร้อนรุ่มและเต็มไปด้วยความปรารถนา
แต่เขาทำ!
ทอริค บุตรแห่งอนาคิน จอมทัพผู้ทระนงแห่งโรมันและเป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์โรมันยิ่งกว่าขุนนางคนใด เขามีรูปร่างสูงใหญ่เช่นนักรบทะเลทราย ผิวกายสีทองแดงละเอียดภายใต้อาภรณ์บดบัง
นางเผลอเลียรอบริมฝีปากเมื่อเห็นมัดกล้ามล่ำบึกของเขาที่พ้นอาภรณ์ ท่อนแขนแข็งแรงที่น่าจะป่นกระดูกของนางได้ในพริบตา เส้นผมของเขาเป็นสีทองสว่าง อาจเพราะเชื้อสายกรีกครึ่งหนึ่งในกาย ดวงตาคมกริบสีเงินประกาย ทั้งอ่อนโยนและแข็งกระด้าง เขายืนกอดอกเบื้องหน้าอย่างท้าทาย ใบหน้าของเขาเชิดตรงพร้อมรอยหยักยิ้มมุมปาก
ว้าว! นางอยากกัดปากเขา
เชไลล่าจำต้องระงับความปรารถนาที่พุ่งขึ้นสูง นางต้องบีบมือตนเองแน่นเพื่อไม่ให้เผลอไผลไปแตะต้องเขา ทั้งแผงอกแข็งแกร่ง แขนล่ำบึกบึนสองข้าง เส้นผมที่น่าจะอ่อนนุ่มเหมือนใยไหม และที่สำคัญ...ความเป็นชายของเขาที่ซุกซ่อนอยู่ใต้อาภรณ์นั้น มันจะใหญ่โตเหมือนร่างกายของเขาไหม?
นั่นคือสิ่งที่นางคิด นับว่านางโชคดีที่เชไลล่ามีผ้าผืนบางปกปิดใบหน้าไว้ มิเช่นนั้น เขาคงเห็นสีหน้าและคาดเดาความคิดของนางได้นับแต่วินาทีแรกที่สบสายตา
ทุกผู้คนกล่าวขานว่าเขาเป็นอสูรกาย ทุกผู้คนกล่าวขานว่าเขาคือเทพบุตร แต่ไม่มีแม้เพียงผู้คนเดียวที่กล่าวขานถึงเขาว่าเป็นเครื่องมือทางเพศเดินได้
สำหรับเชไลล่า นั่นคือสิ่งสำคัญยิ่ง หากเขาจะหล่อดิบเถื่อนน้อยลงกว่านี้อีกนิด หากเขาจะดูดีด้อยกว่านี้อีกสักหน่อย และหากเขา...โอ! เขากำลังยิ้ม!! เขาทำให้นางเผลอขยับยิ้มตามและอยากกระโดดจูบเขาสักทีสองที
เป็นการยากที่จะบังคับให้เชไลล่าระงับความต้องการและความปรารถนาเร่าร้อนนี้ ยากมากยิ่งขึ้นสำหรับสิ่งที่นางจำต้องทำหลังจากถูกส่งตัวมา และคงยากยิ่งขึ้นไปอีก...หากนางได้นอนร่วมเตียงกับเขา...!
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

หนึ่งตำนานก่อนประวัติถูกจารึกถึง
จอมทัพผู้เคร่งขรึมงามสง่า
รูปงดงามแข็งแกร่งดุจเทพา
หากจิตใจดุจอสุรายามสงคราม

เส้นผมทองหยักศกเหลืองอร่าม
แววตาดุจมัจจุราชน่าเกรงขาม
เป็นประกายสีเทาเงินยากคุกคาม
เหล่าศัตรูที่พบพานล้วนวอดวาย

หนึ่งตำนานกล่าวขานถึงจอมทัพ
ผู้พิฆาตนำชัยดั่งคาดหมาย
กรีฑาทัพบุกตีกรีกเผาทำลาย
เพื่อเป้าหมายเพื่อแผ่นดินแห่งโรมัน

หากความจริงของจอมทัพ
ที่ซุกซ่อนดั่งคันศรย้อนปักมิคาดฝัน
คือสายเลือดจริงแท้ยากปิดบัง
เลือดผสม กรีก-โรมัน ไม่อาจคืน

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ของกำนัลแด่จอมทัพ
ยุคสมัยที่รุ่งเรืองของแดนทะเลทราย ไม่ไกลจากแดนอียิปต์ที่เฟื่องฟู ยุคสมัยหลังแอตแลนติกล่มลายซึ่งถูกแทนที่ด้วยกรีก ดินแดนแห่งความงามและศึกสงคราม และอีกหนึ่งคือโรมัน อาณาจักรเล็กที่กำลังขยับขยายเติบโตและแยกตัวจากกรีก อีกหนึ่งอาณาจักรที่คิดชิงชัยทำศึกเพื่อครอบครองดินแดน
สมัยการครองราชย์ของกษัตริย์ผู้ไร้ชื่อในประวัติศาสตร์ ไม่มีผู้ใดเคยกล่าวขานถึงหรือบันทึกอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ใด หนึ่งยุคสมัยเฟื่องฟูของกษัตริย์ไร้นาม หนึ่งในสมัยของจอมทัพอสูรแห่งโรมัน ชายผู้ถูกลบเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ด้วยเพราะสายเลือดผสมที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ทอริค บุตรแห่งอนาคิน จอมทัพแห่งโรมันผู้มีใบหน้างดงามราวเทพบุตร ร่างกายแข็งแกร่งกำยำเฉกเช่นนักรบแห่งแดนทราย ผิวกายสีทองแดงละเอียด เส้นผมสีทองสว่างและดวงตาสีเทาเงินซึ่งสามารถสะกดเหล่าผู้คนให้หลงใหล อีกทั้งยังทำให้หวาดผวาได้ในคราเดียวกัน
เมืองหน้าของโรมัน ดินแดนที่เต็มไปด้วยบ้านเมืองของเหล่านักรบ ติดกับสายน้ำเส้นหลักของแดนทราย เต็มไปด้วยผู้คนและการค้าที่คับคั่ง ใจกลางเมืองคือเคหาสน์หลังใหญ่ของจอมทัพผู้ดูแลรักษาการณ์ความสงบสุขของโรมัน หากผู้ใดกรีฑาทัพบุกเข้ามา จำต้องผ่านเมืองหน้าของโรมันและกองกำลังหลักของจอมทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทัพจากกรีก ศัตรูผู้ชิงชัยแห่งอาณาจักรแดนทราย
เคหาสน์ของจอมทัพแห่งโรมันซึ่งประดับอย่างเรียบง่ายหากดูยิ่งใหญ่ เสาเคหาสน์แกะสลักลวดลายงดงามวิจิตร อีกทั้งยังเครื่องเงินและเครื่องทองประดับประดาตั้งอยู่ทุกมุมห้องและทางเดิน บรรดาทหารเฝ้าระวังประจำจุด และยังมีทหารแบ่งเวรยามหลายกลุ่มเดินเฝ้าระวังตรวจตรารอบเคหาสน์
บรรดาสตรีรับใช้เดินถือถาดเครื่องเงินและทองเป็นแถวยาวเพื่อนำผลไม้และเครื่องดื่มมารับรองแขกผู้มาเยือน คนรับใช้ของขุนนางอาวุโส หนึ่งในที่ปรึกษาของอดีตกษัตริย์แห่งโรมันและกษัตริย์องค์ปัจจุบันซึ่งนำของกำนัลมามอบให้แด่จอมทัพผู้เกรียงไกร
ทอริคยังไม่อาจลดสายตาแห่งความระแวดระวังของเขาลงได้ ยิ่งเมื่อเห็นบรรดาคนรับใช้ของขุนนางอาวุโสที่เปรียบเสมือนอริซึ่งไม่จำเป็นต้องเอ่ยนาม อีกทั้งยังข้าวของเงินทองพร้อมพรั่งที่พากันขนมากองไว้แทบเท้าราวกับถวายเครื่องบรรณาการแด่กษัตริย์โรมันก็ไม่ปาน หากแต่สิ่งเหล่านั้นดูด้อยค่าลงไปถนัดตา เมื่อเทียบกับอิสตรีผู้อยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าสีขาวบดบัง อิสตรีซึ่งเป็นหนึ่งในของกำนัลแด่เขาในครานี้ และทอริคไม่เคยคาดคิดเลยว่านางจะนำมาซึ่งหายนะในชีวิตของเขานับแต่บัดนี้ตลอดจนชั่วกาล?
"ข้าคิดว่าลัสการ์ไม่ชื่นชอบหน้าข้าเสียอีก"
ทอริคกล่าวอย่างเยือกเย็น เขายืนกอดอกด้วยท่าทางสมสง่าตามแบบฉบับของเขา สายตายังคงจ้องมองสตรีนางที่ยืนนิ่งเบื้องหน้า แม้จะมีผ้าสีขาวผืนบางปิดบังปกคลุมตั้งแต่ศีรษะยาวถึงช่วงอก แต่จากเสื้อผ้าที่รัดเข้ารูปกับเรือนร่างของนางซึ่งโผล่พ้น และเส้นผมสีน้ำตาลไหม้ปล่อยหยักศกถึงบั้นเอว ทอริคเดาได้ไม่ยากว่านางจะต้องเป็นสาวงามชนิดที่ทำให้บุรุษทุกช่วงวัยลืมอายุของตนเองไปได้เลย
"นั่นเป็นเพียงแค่ข่าวลือขอรับ" คนของลัสการ์รีบปัดป้อง "ใต้เท้าลัสการ์เพียงแค่ไม่ชอบความคิดเกี่ยวกับการศึกและสงคราม ท่านไม่ใช่คนช่างพูดและเจรจามากนักจึงทำให้ทุกผู้คนยากที่จะเข้าถึงใจแท้ แต่ท่านเป็นคนมีน้ำจิตน้ำใจงดงามยากหาผู้ใดเปรียบ"
"แล้วส่งนางมาด้วยเหตุผลกลใด?" เขาถามพร้อมริมฝีปากยิ้มหยั. แววตาสีเงินวาววับ "ในเมื่อลัสการ์เป็นผู้เดียวที่ต่อต้านสงครามกับพวกกรีก...และข้า" ทอริคจงใจยั่วยุอีกฝ่ายด้วยคำพูดของเขา ไม่สนแม้เพียงน้อยว่าข้ารับใช้จะรายงานเจ้านายของตนเช่นไร ทอริคสนแต่ความเป็นจริงเบื้องหน้า และเขาสนแต่ความจริงที่ว่าลัสการ์ชิงชังเขาจนคิดหมายสังหารให้สิ้น! อย่างน้อยก็ด้วยวาจาเชือดเฉือนที่มักปะทะเล่ห์คมกันทุกครั้งยามพบกันในพระราชวัง
หาใช่เรื่องเกินความจริงแต่ใดไม่ หากแต่มันคือความจริงที่ผู้คนภายนอกต่างรับรู้ กระทั่งเกิดเป็นคำล่ำลือแพร่ระบาดทั่วโรมันตลอดหลายปีที่ผ่านมา และทอริคก็หาได้สนแต่อย่างใดเช่นกัน
แววตาสีเงินเต็มไปด้วยความหวาดระแวง แต่ทอริคยังคงความแข็งกระด้างในแววตานั้น เพื่อสยบคนรับใช้ของขุนนางสูงศักดิ์ ด้วยเพราะเขาเองก็ไม่ปรารถนาจะให้อีกฝ่ายล่วงรู้ถึงเนื้อแท้หรือความอ่อนแอที่เขาปกปิดไว้ ทอริคมักปั้นสีหน้านิ่งเฉยและแข็งกร้าวยามเมื่อเผชิญหน้ากับผู้คน การเปิดเผยตนเองมากเกินไปย่อมเป็นจุดอ่อน แต่การเปิดเผยบางส่วนเพื่อหลอกล่ออีกฝ่ายให้ติดกับคือแผนการ
ทอริคเรียนรู้มาตลอดชีวิตของเขา และเขากำลังหลอกล่อฝ่ายตรงข้ามด้วยน้ำเสียงและคำพูดยั่วยุ ด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะหลุดอาการตระหนกหรือกิริยาใดออกมาให้เขาจับแผนการที่ซ่อนได้
"ใต้เท้าลัสการ์คงไม่ต้องการให้ท่านคิดเช่นนั้น จึงได้ส่งนางมาเพื่อถวายตัวแด่ท่าน"
"สินบน?"
"เรียกว่าสินน้ำใจและของขวัญในการทำศึกจะเหมาะกว่ากระมัง" เขาแก้ไข "นางคือบุตรีซึ่งเกิดจากภริยาคนที่ห้าของใต้เท้าลัสการ์และคงความสาวของวัยแรกรุ่น ใต้เท้าลัสการ์คาดว่านางอาจเป็นที่โปรดปรานของท่าน"
ทอริคแค่นเสียงในลำคอ "นางอายุเท่าใด?"
"เดือนหน้าอายุจบสิบแปดปีเต็มขอรับ"
ยังเด็กแต่นับว่าอายุค่อนข้างจะสูงเมื่อเทียบกับอิสตรีทั่วไปที่ต้องออกเรือนช่วงอายุประมาณสิบหกต้น และนางมีอายุห่างจากเขาเกือบสิบปี
ทอริคครุ่นคิด เขายืนกอดอก เคาะปลายนิ้วชี้ด้านขวากับท่อนแขนอีกข้างของตนเองซึ่งมีแหวนวงใหญ่ประดับด้วยอัญมณีเม็ดสีแดงเขื่อง มีลวดลายตัวอักษรสลักอยู่ด้านบน สัญลักษณ์ของจอมทัพแห่งโรมันซึ่งเขาต้องสวมใส่มันตลอดเวลาทั้งยามนอนและอาบน้ำ เป็นทั้งสิ่งแทนตนและตราประทับของจอมทัพ ใช้สำหรับปิดผนึกซองจดหมายและประทับตราคำสั่งในการรบ และบางครั้งเขายังสามารถใช้มันเพื่อยั่วยุเหล่าขุนนางที่เขาชังหน้าได้อีกด้วย
"หากข้าไม่ปรารถนาจะรับนางเล่า?" ทอริคลองหยอก
คนรับใช้ของลัสการ์ถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ แต่หากทอริคเงี่ยหูฟังให้ดี เขาจะได้ยินน้ำเสียงหวานร้องอุทานด้วยความเสียดายด้วยเช่นกัน
"ใต้เท้าลัสการ์คงไม่ปรารถนาให้ท่านเอ่ยปฏิเสธ" สีหน้าของเขาซีดเผือกและเหงื่อแตกพลั่ก อาการของเขาอยู่ในสายตาของทอริคตลอดเวลาและทอริคคาดว่าแม้เขาจะบอกปัดด้วยเหตุผลใด อีกฝ่ายก็ยังคงดึงดันยัดเยียดนางให้กับเขาอยู่ดี มีความเป็นไปได้อย่างมากว่านางจะนำภัยมาให้เขา ไม่เช่นนั้น คนรับใช้ของลัสการ์คงไม่วิตกขนาดนั้นยามที่เขาบอกว่าจะไม่รับนางไว้
แววตาของอีกฝ่ายหลุกหลิกไปมาและตื่นตระหนกตลอดจนทอริคคิดว่าลัสการ์พลาดจุดใหญ่ที่ส่งคนรับใช้ผู้นี้มา หรืออีกฝ่ายจงใจให้เขาจับความผิดปกติได้? ไม่ดอก...ลัสการ์เจ้าแผนการและฉลาดเจ้าเล่ห์ ไม่มีทางที่ฝ่ายนั้นจะพลาดในรายละเอียดเล็กน้อยนอกเสียจากว่าจะจงใจ
และทอริคกำลังครุ่นคิดด้วยแววตาสีเงินวาวโรจน์ของเขาที่ราวกับจะมองให้ทะลุถึงแผนการที่อีกฝ่ายปิดบัง
?เขาคิดใช้นางเพื่อควบคุมข้าเฉกเช่นเดียวกับที่เขาทำกับขุนนางอื่น? ทอริคพูด หาใช่ประโยคคำถามแต่มันคือประโยคคำพูดทั่วไปซึ่งเขาใช้เพื่อตอกย้ำสิ่งที่ลัสการ์ต้องการ คนรับใช้ของลัสการ์ได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง ซึ่งยิ่งตอกย้ำให้ทอริคมั่นใจว่านางคือหนึ่งในแผนการและเป็นเพียงเบี้ยของลัสการ์ที่ส่งมาล่อหลอกเขาเท่านั้น
สังหารเขามิได้ จึงหมายคิดจะใช้นางเพื่อปั่นศีรษะและครอบงำเขา
ลัสการ์คิดว่าเขาโง่เง่านักหรือไรกัน?
ทอริคครุ่นคิดและเขาแค่นเสียงหัวเราะในลำคออย่างสมเพชใจ อาจมีสิ่งอื่นซุกซ่อนเพราะทอริคไม่เชื่อว่าฝ่ายนั้นจะมั่นใจง่ายๆ ว่าเขาจะร่วงพล้ำในแผนการตื้นเขินเช่นนี้
และทอริคจะเค้นเอาแผนการจริงแท้ออกมาให้ได้!
"นางคงมิได้อยู่ในตำแหน่งภริยาแห่งข้า" น้ำเสียงนุ่มกล่าวหนักแน่น
"นั่นหาใช่ปัญหาแต่อย่างใดไม่ขอรับ ใต้เท้าลัสการ์เพียงแค่คิดว่าท่านจะพอใจในของขวัญที่มอบให้เท่านั้น" คนรับใช้ผู้นั้นยืนยันคำเดิม ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าจะเกิดกระไรขึ้น ก็จะยัดเยียดนางให้เขาจนได้
ดวงตาสีเงินชำเลืองมองร่างบางซึ่งยังคงยืนนิ่ง นางมีคนรับใช้ต้นห้องสองคนติดสอยห้อยตาม และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวอีกเล็กน้อย นับว่าน้อยมากสำหรับหญิงสาวจากตระกูลขุนนางสูงศักดิ์เช่นนี้ เมื่อเทียบกับอิสตรีอื่นที่เคยถูกส่งมาถวายตัวแก่เขาก่อนหน้า นอกนั้นก็เป็นบรรดาคนรับใช้ชายที่มาพร้อมกับสมบัติและเครื่องเงินเครื่องทองล้ำค่า
ทอริคยืนนิ่งและครุ่นคิด เขาจดจ้องนางราวกับต้องการทะลุให้เห็นถึงเนื้อหนังของนางรวมถึงจิตใจของนาง ใจหนึ่งทอริคอยากอ้าแขนรับนางไว้เพื่อรอคอยแผนการของลัสการ์และตลบหลังในแผนการนั้น หากแต่อีกใจหนึ่งของเขากลับรู้สึกขัดแย้งและต่อต้าน คล้ายราวกับนางคือหายนะที่นำพาบางสิ่งมาสู่ชีวิตเขาชั่วนิรันดร์
ทอริคไม่เคยรู้สึกขัดแย้งในจิตใจของตนเองนานแล้ว นับแต่ตอนทำศึกกับกรีกในคราแรก และเขาเลือกที่จะเชื่อในสัญชาตญาณของตนเองมากกว่าหลักเหตุและผล ทอริคมองว่ามันเป็นข้อผิดพลาด แต่ข้อผิดพลาดนั้นทำให้เขาสามารถนำพากองทัพรอดพ้นจากการซุ่มโจมตีของกรีกมาได้แล้ว และในคราวนี้ เขาจะต้องเลือกว่าจะเชื่อในเหตุและผลนั้น หรือสัญชาตญาณส่วนตัวของเขาเอง
หากเขาได้นางไว้ข้างกาย ทอริคจะลวงนำแผนการของลัสการ์จากนางได้ แต่หากเขาได้นางมาข้างกาย นางจะนำหายนะมาสู่ชีวิตเขา...แล้วจะต่างกระไรกันในเมื่ออย่างไรเสียเขาก็จะต้องทำสงครามกับลัสการ์อยู่แล้ว นางก็ไม่ต่างจากหมากเชื่อมสำหรับแผนการนั้น
ริมฝีปากหนาเหยียดยิ้. หากเขาต้อนรับนางเข้ามานั่นหมายความว่าเขากระโจนเข้าไปในแผนการของลัสการ์แล้วครึ่งตัว นั่นล่ะคือหายนะใหญ่สำหรับเขาหากว่าเขาก้าวพลาดพลั้งแม้ก้าวเดียว ชีวิตของเขาคือจบสิ้น
แต่ทว่า...บางสิ่งบางอย่างในใจลึกๆ ของเขาทักท้วงขึ้น และทอริคไม่รู้ว่ามันหมายถึงกระไร? รับนางหรือปฏิเสธนาง
สายตาหรี่มองนางอีกครั้งอย่างชั่งใจ ทอริคไม่เคยปรารถนาจะรับสตรีนางใดสู่อ้อมกอดและเตียงนอนของเขา เขาเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีต อิสตรีทุกนางที่เข้ามาหาเขาทุกคนล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์ทั้งสิ้น ถ้าไม่ทำเพื่อล่อลวงชักจูงเขา ก็มาเพื่อทำลายเขา ล้วนแล้วแต่หวังผลประโยชน์จากเขาทั้งสิ้น!
พวกนางหวังเพียงสมบัติ ชื่อเสียงและเกียรติยศ แต่หาได้รักตัวตนของเขาจริงแท้แต่ใดไม่! ซึ่งทอริคไม่คิดถือโทษโกรธพวกนาง เพราะทั่วทั้งโรมัน หาได้มีผู้ใดจริงใจต่อเขาแม้เพียงคนเดียวไม่!
เขาคือจอมทัพผู้ยิ่งใหญ่แห่งโรมัน มีชื่อเสียง เก่งกาจ เต็มไปด้วยผู้คนต้อนรับยามกลับจากศึก หากแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนเดียดฉันท์ในคราวเดียวกัน นั่นคือสายเลือดในกายอีกครึ่งที่เป็นกรีก สิ่งนี้คือประเด็นสำคัญที่ทำให้ผู้คนชิงชังเขา โดยเฉพาะในยามศึกสงครามกับกรีกที่กำลังเผชิญ
ไม่ว่าจะดินแดนกรีกหรือโรมัน ต่างก็ไร้ที่อยู่จริงแท้สำหรับเขาทั้งสิ้น!


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ทอริค? จอมทัพแห่งโรมันผู้ยิ่งใหญ่ผู้ไม่เคยอ่อนไหวต่ออิสตรีนางใด ผู้ที่ไม่เคยเห็นอาภรณ์ของประดับงดงามเหนือไปกว่าศาสตราวุธยุทโธปกรณ์ นักรบสองสายเลือดผู้นี้ไม่มีแม้กระทั่งความปรานีให้ศัตรูที่กำลังสิ้นลมต่อหน้า หากเมื่อแม่ทัพใหญ่ได้ของบรรณาการเป็นอิสตรีนางหนึ่ง ซึ่งนางผู้นั้นเป็นบุตรีของอริศัตรูที่หวังจะปลิดลมหายใจของเขาให้สูญสิ้นทุกขณะหากโอกาสมาเยือน จอมทัพแห่งโรมันจึงระแวดระวังภยันอันตรายจาก ?เชไลล่า? ทุกฝีก้าว ทว่าขณะเดียวกันก็ดำเนินความพึงใจในอิสตรีนางนั้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเช่นกัน และกว่าจอมทัพแห่งโรมันจะแน่ใจว่าหัวใจของตนกำลังเผชิญกับสิ่งใด ซึ่งสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพานพบมาก่อนนั่นก็คือ...ความรัก เชไลล่าก็ไม่อยู่ให้เขาเห็นและต้องออกตามหาดวงใจที่หายไปกับนางเพื่อประกอบกันให้ครบบริบูรณ์

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”