New Release : พ่ายเพลิงปรารถนา

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : พ่ายเพลิงปรารถนา

โพสต์ โดย Gals »

ตอนที่1 ลัดฟ้าสู่กรุงโซล

ติ๊ด?ติ๊ด?
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น ทำเอาหญิงสาวที่กำลังง่วนอยู่กับการนวดแป้งสำหรับเตรียมไว้ทำขนมปังจำต้องละมือจากงานที่ทำเพื่อกดรับสายที่โทร.เข้ามา หญิงสาวฉวยผ้าเช็ดมือสีขาวสะอาดขึ้นเช็ดมือบางที่มันลื่นจากการนวดแป้งขนมปัง ก่อนจะกดรับสายเจ้าอุปกรณ์สื่อสารเครื่องจิ๋วที่ส่งเสียงอยู่เป็นระยะ
?สวัสดีค่ะ?
จอมนาง กิตติธนา สาวน้อยหน้าหวานวัยยี่สิบเอ็ดปี ที่ผันตัวเองจากชีวิตในรั้วมหาลัยเพื่อก้าวเข้าสู่การเรียนเป็นเชฟที่โรงแรมดัง ด้วยความฝันที่อยากจะมีร้านอาหารในต่างประเทศ กรอกน้ำเสียงปลายสายอย่างนุ่มนวล
?ดิฉันโทร.จากสมาพันธ์เชฟนานาชาติ ขอเรียนสายคุณจอมนางค่ะ?
?พูดสายอยู่ค่ะ? หญิงสาวพูดตอบกลับปลายสายเสียงใส
?ทางเราโทร.มาแจ้งผลการสอบฝึกเข้าทำงาน ขอแสดงความยินดีค่ะ คุณจอมนางได้ไปประจำที่เกรทฮิลตัล เดอะโฮเตล สาขากรุงโซล กำหนดเดินทางและตารางนัดหมายทางเราจะแจ้งให้ทราบทางอีเมลอีกทีค่ะ?
ความดีใจแล่นผ่านโสตประสาทจนทำให้จอมนางอดที่จะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจไม่ได้ เมื่อรู้ผลว่าเธอได้เป็นเชฟในโรงแรมระดับห้าดาวของเกาหลี ทำเอาคุณนัดดาผู้เป็นมารดาถึงกับลงมาจากห้องพระเพื่อดูว่าบุตรสาวของเธอกระโดดโลดเต้นดีใจเรื่องอะไร
?อะไรกันยัยจอม เสียงดังลั่นบ้าน ได้ยินไปถึงห้องพระเลย?
?แม่จ๋า จอมทำสำเร็จแล้ว จอมได้เป็นเชฟที่โรงแรมเกรทฮิลตัลแล้วนะคะแม่? หญิงสาวโผเข้ากอดมารดาด้วยความดีใจ
แต่แทนที่คุณนัดดาจะรู้สึกดีใจไปกับบุตรสาว เธอกลับนิ่งอึ้งไปเหมือนมีอะไรในใจจนหญิงสาวต้องเอ่ยถาม เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาแห่งความกังวลปรากฏอยู่บนใบหน้าผู้เป็นมารดา
?ทำไมแม่นิ่งเงียบไป ไม่ดีใจที่จอมจะได้มีงานดีๆ ได้เงินเดือนเยอะๆ แม่จะได้สบายสักทีไงคะ? คุณนัดดามองบุตรสาวที่ยิ้มด้วยความดีใจในความสำเร็จขั้นเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ด้วยความชื่นชม แม้เธอจะรู้สึกกังวล แต่หัวอกคนเป็นแม่อย่างเธอก็คงต้องยอมเพราะมันเป็นทางที่บุตรสาวของเธอได้เลือกแล้ว
?แม่ดีใจที่จอมทำฝันให้เป็นจริงด้วยความรู้และความสามารถที่จอมตั้งใจ แต่แม่ก็อดที่จะห่วงจอมไม่ได้ที่ต้องไปอยู่ไกลบ้านไกลหูไกลตา? มือหยาบกร้านบ่งบอกถึงริ้วรอยของการทำงานหนักลูบศีรษะบุตรสาวด้วยความรักใคร่เอ็นดู
?จอมสัญญาว่าจะดูแลตัวเอง ไม่ทำให้แม่ต้องเป็นห่วงค่ะ? หญิงสาวกอดกระชับร่างมารดาแล้วบรรจงหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างประจบเพื่อให้มารดาคลายความกังวล
ในระหว่างที่สองแม่ลูกกำลังแสดงความรักความห่วงใยที่มีให้กัน เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังเป็นระยะๆ ขึ้นอีกครั้ง จอมนางผละจากมารดาเพื่อไปรับสายโทรศัพท์
?สวัสดีค่ะ บ้านกิตติธนา? เสียงหวานกรอกตามสาย
?จอมรู้ผลจากสมาพันธ์เชฟนานาชาติหรือยัง? สินธเลิศหรือซี บุตรชายเจ้าสัวส้ง เพื่อนสนิทที่เรียนหลักสูตรเชฟการโรงแรมด้วยกันกับจอมนาง ด้วยความที่บ้านของเขามีกิจการร้านอาหารและภัตตาคารหลายสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สินธเลิศจึงอยากจะสืบทอดเจตนารมณ์ของผู้เป็นบิดาและพัฒนาให้เป็นสากลมากกว่าที่เป็นอยู่
?ก็เพิ่งวางสายไปก่อนซีจะโทร.มานี่ล่ะจ้ะ?
?แล้วผลเป็นอย่างไรบ้างจอม? ชายหนุ่มถามน้ำเสียงตื่นเต้น
?จอมนางซะอย่าง ไม่มีพลาดอยู่แล้ว? หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงมาดมั่นด้วยความดีใจที่ยังไม่จางหาย
?งั้นเราสองคนนอกจากจะเรียนด้วยกันแล้วก็คงต้องทำงานด้วยกันแล้วล่ะ? ชายหนุ่มบอกเป็นนัยๆ ให้จอมนางได้รู้ ว่าเขานั้นก็ได้รับคัดเลือกเช่นเดียวกับเธอ
?จริงเหรอ จอมดีใจกับซีด้วยนะ? หญิงสาวรู้สึกยินดีที่เพื่อนชายของเธอก็สอบผ่าน
?เดี๋ยววันรายงานตัวที่สมาพันธ์ซีแวะไปรับจอมที่บ้านนะ?
?จ้ะ? หญิงสาวตอบเพียงสั้นๆ ก่อนจะวางสายสินธเลิศ แล้วโผเข้ากอดมารดาที่นั่งมองดูเธออยู่บนโซฟาด้วยสายตาแห่งความชื่นชม โดยหารู้ไม่ว่าภายในใจของคุณนัดดานั้นเต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใย
****************************************************************************************
กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ภายในโรงแรมเกรท ฮิลตัล เดอะโฮเตล ที่กำลังมีงานฉลองครบรอบสิบปีของการบริหารในวงการบันเทิง เคเน็ตเวิร์คของมิสเตอร์คิม มินฮวาง เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งสื่อบันเทิงเกาหลี ที่เหล่าบรรดาดารานางแบบนายแบบและเหล่าบรรดาบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงต่างมารวมตัวกัน
และที่จะขาดไม่ได้...ไฮไลท์ซึ่งเป็นจุดเด่นของงานคือการแสดงแฟชั่นโชว์ที่มีโทนี่ คิม หรือธนานนท์ คิม นายแบบอันดับหนึ่งของเกาหลี บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของเจ้าพ่อแห่งวงการบันเทิงที่เกิดกับภรรยาชาวไทย ด้วยความที่มีเชื้อสายไทยทำให้ชายหนุ่มดูเป็นหนุ่มเกาหลีที่มีสายตาคมดุ อีกทั้งนิสัยส่วนตัวเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจจนบางครั้งก็ติดจะโมโหร้ายเลยทำให้ผู้หญิงที่เข้ามาเป็นคู่ควงต่างก็ทนกับความร้ายกาจของชายหนุ่มได้ไม่นาน ถ้าไม่ติดว่าต้องการจะไต่เต้าเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง
ชายหนุ่มผิวขาวผมดำเฉกเช่นสีเดียวกับดวงตาคมดุฉายชัดถึงแววเย่อหยิ่ง มุมปากปรากฏรอยยิ้มเหยียดต่อบรรดาสาวๆ ที่ส่งเสียงวี้ดว้ายราวกับชะนีที่ส่งเสียงยามเจอเพศตรงข้ามก็ไม่ปาน ก้าวออกจากหลังเวทีเพื่อเดินไปยังแคทวอล์คที่กำหนดจุดเหมือนตอนที่ซักซ้อมกันก่อนเริ่มงาน
ด้วยความสูงเกินมาตรฐานหนุ่มเอเชียทำให้โทนี่ คิมดูโดดเด่นกว่าใคร บวกกับเครื่องหน้าหล่อเหลา แววตาหยิ่งยโสที่ละลายใจสาวน้อยสาวใหญ่ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นนายแบบที่ติดอันดับหนึ่งได้อย่างไม่อยากเย็นกอปรกับที่เขาเป็นถึงบุตรชายคนเดียวของเจ้าพ่อวงการบันเทิง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่บรรดาสื่อน้อยใหญ่จะประโคมข่าวทั้งด้านดีและด้านลบเพื่อสร้างกระแสให้กับเขา วันนี้ก็เช่นกันที่แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปกะพริบถี่ยิบเช่นเดียวกับเสียงชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูปที่ดังระรัวเพื่อเก็บภาพชายหนุ่มให้ได้มากที่สุด
ทันทีที่ชายหนุ่มก้าวลงจากแคทวอล์ค บรรดาเหล่านักข่าวต่างกรูกันเข้ามาขอสัมภาษณ์ บอดี้การ์ดกว่าสิบนายที่มิสเตอร์คิม มินฮวาง บิดาของชายหนุ่มจ้างให้มาดูแลบุตรชายต้องคอยกันเหล่าช่างภาพและนักข่าว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชายหนุ่มเดินไปยังรถสปอร์ตเปิดประทุนสุดหรู สัญชาติอังกฤษ ยี่ห้อเบนท์ลี่ย์ ที่สนนราคาร่วมสามสิบล้าน
?คุณจะไปไหนครับ? อาทิตย์หรืออาตี้บอดี้การ์ดส่วนตัวชาวไทยเพียงคนเดียวในกลุ่มถามชายหนุ่มที่กำลังจะก้าวขึ้นรถด้วยภาษาเกาหลี ทั้งที่ชายหนุ่มบอกไว้หลายครั้งหลายคราว่าให้พูดภาษาไทยกับเขา
?เชอราตัน วอคเกอร์ฮิล? นายแบบหนุ่มหันมาตอบเพียงสั้นๆ ก่อนจะก้าวเข้าด้านในรถแล้วเหยียบคันเร่งเพิ่ม ความเร็วผสมกับความแรงของเครื่องยนต์ ทำให้รถพุ่งทะยานไปราวกับติดจรวด จนรถของบรรดาบอดี้การ์ดที่ติดตามชายหนุ่มแทบจะตามไม่ทัน
ชายหนุ่มก้าวลงจากลงก่อนจะเดินเข้าไปด้านในเชอราตัน วอคเกอร์ฮิล เพื่อพบเจ้าของบ่อนคาสิโนซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของเขา โทนี่ คิมมักจะชอบมานั่งคุยกับคิม จวองฮวาง ผู้เป็นลุง เพราะท่านมักจะมีข้อคิดดีที่สำคัญและมีเวลาให้เขาเสมอ ต่างจากบิดาที่มักจะเอาเวลาไปนัวเนียกับสาวๆ ที่หวังจะก้าวขึ้นมาเป็นดาว
?สวัสดีครับ สบายดีไหมครับ? โทนี่โผเข้ากอดชายสูงวัยผู้มีศักดิ์เป็นลุง พร้อมกับทักทายด้วยความคิดถึง
?สบายดี? สีหน้าแห่งความดีใจของชายสูงวัยปรากฏบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความชรา จวองฮวางรักชายหนุ่มเสมือนลูกตัวเองก็ไม่ปาน ด้วยความที่ตนเองไม่มีทายาทจึงตั้งความหวังไว้ทุกอย่างที่ชายหนุ่ม รวมทั้งทรัพย์สินและคาสิโนในโรงแรมแห่งนี้ที่ตั้งใจจะมอบให้หลังจากเขาจากโลกนี้ไป
หลังจากพูดคุยและร่วมทานมื้อค่ำกับผู้เป็นลุงแล้ว โทนี่จึงขอตัวลากลับเพราะชายหนุ่มมีงานถ่ายปกนิตยสารชื่อดังของเกาหลี รวมทั้งให้สัมภาษณ์ในรายการต่างๆ ที่ต้องทำการบันทึกเทปไว้ล่วงหน้า เนื่องจากคิวงานของชายหนุ่มนั้นค่อนข้างเยอะ อีกทั้งงานโฆษณาสินค้าที่เอเจนซี่ติดต่อเข้ามา ทำให้โทนี่แทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลยสักนาทีเดียว
?ผมคงต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ? โทนี่โค้งศีรษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการทำความเคารพผู้เป็นลุง ก่อนจะก้าวออกมาขึ้นรถยนต์คู่กายที่จอดอยู่ด้านหน้า โดยมีบอดี้การ์ดของเขารายล้อมอยู่รอบบริเวณนั้น
**************************************************************************************
หลังจากได้รับข่าวดีจากทางสมาพันธ์เชฟนานาชาติแล้ว ทั้งจอมนางและสินธเลิศก็มารายงานตัวตามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้โทร.ไปแจ้งตามกำหนดการพร้อมกับยื่นเอกสารต่างๆ สำหรับการทำวีซ่าและหนังสือเดินทาง ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับจอมนางที่จะได้เดินทางไปต่างประเทศ
?ขอบใจนะซีที่อุตส่าห์ขับรถมารับจอม? หญิงสาวหันมาบอกเพื่อนชายหลังจากยื่นเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยและกำลังเดินออกจากอาคารมายังลานจอดรถของทางสมาพันธ์
?เรื่องเล็กนิดเดียวไม่ต้องขอบใจหรอก เพราะยังไงซีก็ต้องมายื่นเอกสารเหมือนกัน? ชายหนุ่มเปิดประตูรถให้เพื่อนสาวก่อนจะเดินอ้อมมานั่งยังฝั่งประจำตำแหน่งสารถี
?แวะหาอะไรกินกันก่อนไหมจอม ออกมาตั้งแต่เช้า...นี่ก็บ่ายกว่าแล้ว? สินธเลิศถามเพื่อนสาวโดยไม่รอคำตอบ ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้าร้านอาหารเกาหลีในถิ่นตัวเอง ก่อนจะได้ลิ้มรสแบบต้นฉบับในวันที่เดินทางไปถึง
?ประเดิมกันก่อนไปถึงถิ่นเลยหรือซี? จอมนางกระเซ้าเพื่อนชายพร้อมกับก้าวลงจากรถ
?แน่อยู่แล้ว หรือว่าจอมอยากกินอย่างอื่นล่ะ จะได้ไม่ต้องเข้าไป? ชายหนุ่มถามจอมนางอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
?มาถึงหน้าร้านแล้วคงเปลี่ยนไม่ทันแล้วจ้ะ อีกอย่างจอมว่าน่าลองดูเหมือนกันนะ เผื่อไปอยู่ที่โน้นจะได้จะได้ไม่อดตายไงจ๊ะ?
ทั้งสองหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในซึ่งตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และเครื่องเขินของเกาหลีที่เป็นที่รู้จักกันดี ส่วนมากจะเน้นการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอยและความเรียบง่าย และที่ขาดไม่ได้คือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีคือธงชาติเกาหลี ที่เรียกเฉพาะกันว่าแทกึกกี
สินธเลิศเลือกที่นั่งด้านใน ซึ่งมีการประดับประดาด้วยภาพสีน้ำด้วยลักษณะลายเส้น ซึ่งการให้สีเป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของศิลปะตะวันออกที่แสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึก รวมทั้งใช้สีสันสดใสเพื่อสื่อถึงพลัง อารมณ์ และความรื่นเริง และยังมีส่วนของตู้โชว์เครื่องปั้นดินเผาแบบศิลาอ่อนสีเขียวอมฟ้า สร้างความตื่นตาให้กับชายหนุ่มและจอมนางได้อย่างไม่น้อยเลยทีเดียว
?ที่นี่สวยมากเลยนะ เหมือนอยู่เกาหลีจริงๆ เลย? หญิงสาวพูดพร้อมกับมองไปรอบๆ บริเวณอย่างเพลินตากับการจัดร้าน
?อืม ว่าแต่จอมจะกินอะไรสั่งได้เลยนะ มื้อนี้ซีเลี้ยงเอง? ชายหนุ่มส่งเมนูให้เพื่อนสาวที่ยิ้มกว้างอย่างยินดีในจิตอารีของเพื่อนสนิท
?ถ้าอย่างนั้นต้องกินถล่มลูกชายเจ้าสัวส้งสักหน่อยแล้ว? จอมนางแหย่เพื่อนชาย พร้อมกับมองรายการอาหารที่ละลานตาในเล่มเมนู ซึ่งมีทั้งรูปภาพพร้อมกับชื่ออาหารระบุไว้อย่างชัดเจน
บริกรของร้านเดินมารับรายการอาหารพร้อมกับเสิร์ฟชาเขียวแบบร้อนให้กับทั้งสองก่อน ในระหว่างที่ลูกค้ายังดูรายการอาหารอยู่
?ผมขอบิบิมบับครับ? ชายหนุ่มเลือกสั่งเมนูหลักที่ทำให้ท้องอิ่ม เพราะบิบิมบับหรือข้าวยำเกาหลีอุดมไปด้วยเนื้อสัตว์และผักต่างๆ มากมาย เรียกว่าหนึ่งชามได้สารอาหารครบถ้วนและอิ่มไปเลยทีเดียว
?งั้นขอโทลโซดบิบิมบับ ข้าวยำในหม้อไฟที่นึงแล้วกันค่ะ? จอมนางหันมาบอกกับบริการสาวพร้อมกับส่งเล่มเมนูคืน ก่อนจะหันมาคุยกับสินธเลิศอย่างสนิทสนมจนคนทั่วไปมองแล้วอาจจะคิดว่าทั้งสองเป็นคู่รักกันก็ได้
หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารสัญชาติเกาหลี เพื่อเป็นการทำความรู้จักรสชาติของอาหารของประเทศที่ทั้งสองกำลังจะต้องเดินทางไปทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สินธเลิศจึงขับรถมาส่งเพื่อนสาวที่บ้านเพื่อเตรียมกลับไปช่วยงานที่ร้านอาหารของครอบครัวเฉกเช่นเคยทำมาอยู่ทุกวัน
?ขอบใจนะซีสำหรับอาหารมื้อรสชาติแปลกๆ แต่ก็อร่อยไปอีกแบบแ ม้จะสู้น้ำพริกปลาทูบ้านเราไม่ได้ก็เถอะ? หญิงสาวพูดอย่างติดตลก
?เอาน่า กินบ่อยๆ จะได้คุ้นลิ้น เดี๋ยวพอไปอยู่ที่โน้นจริงๆ จะได้ไม่ร้องกลับบ้านเพราะคิดถึงน้ำพริกปลาทูหรือส้มตำยังไงล่ะ?
หญิงสาวแลบลิ้นใส่เพื่อนชายอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่เธอจะก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้าน โดยมีสายตาเพื่อนชายอย่างสินธเลิศมองตามด้วยความรู้สึกขบขันในท่าทีของเพื่อนสาว
****************************************************************************************************
?โทษทีมาช้าไปหน่อยเฮีย วันนี้ลูกค้าเยอะหรือเปล่า?
ชายหนุ่มถามพี่ชายที่กำลังตรวจบัญชีของสดที่ทางร้านสั่งซื้อเข้ามาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารจีนเลิศรสให้กับลูกค้า ร้านอาหารนี้เป็นกิจการของครอบครัวที่เขาช่วยงานมาตั้งแต่เริ่มโตจวบจนทุกวันนี้
?ก็เรื่อยๆ ว่าแต่ลื้อทำธุระเสร็จแล้วหรือ? ผู้เป็นพี่ชายซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของบ้านถามชายหนุ่มพลางจดยอดสินค้าเพื่อทำบัญชี
?เรียบร้อยแล้วเฮีย อีกสองอาทิตย์ก็เดินทางแล้วครับ? สินธเลิศหยิบบัญชีรายการสินค้าที่สั่งขึ้นมาช่วยพี่ชายด้วยอีกแรง ด้วยความรู้สึกอยากแบ่งเบางานของผู้เป็นพี่ชายที่ทำงานหนักมาตั้งแต่สมัยครอบครัวยังไม่รุ่งเรือง จนทุกวันนี้กิจการมั่งคั่ง มีสาขาอยู่หลายสิบแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
?ไม่ต้องๆ ลื้อไปเตรียมตัวดูข้าวของเสื้อผ้าสำหรับเดินทางดีกว่า ป๊าเขาหวังกับลื้อไว้เยอะ อย่าทำให้ทุกคนผิดหวังนะซี? มือหนาหยาบกร้านเพราะถูกฝึกให้ทำงานมาตั้งแต่เด็กของผู้เป็นพี่ชายตบลงบนบ่าของสินธเลิศเบาๆ
?ผมสัญญา จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน? ชายหนุ่มบีบมือหนาของพี่ชายแน่นอย่างให้คำมั่น ว่าจะกลับมาพร้อมกับความสำเร็จและจะมาสานต่อกิจการทั้งหมดเพื่อให้พี่ชายได้พักผ่อนบ้าง
****************************************************************************************

สองอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนจอมนางรู้สึกใจหายที่ต้องจากมารดาไปไกลถึงอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งต่างกันทั้งภาษา วัฒนธรรม สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมความเป็นอยู่ แต่เพื่อความฝันที่จะได้ทำงานเป็นเชฟของโรงแรมชื่อดังเหมือนกับบิดาที่จากไปแล้ว ทำให้หญิงสาวมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำความฝันนั้นให้เป็นจริง
?พรุ่งนี้แล้วสินะที่เราต้องเดินทาง? คุณนัดดาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นอย่างรู้สึกใจหายที่ต้องปล่อยให้บุตรสาวคนเดียวต้องไปอยู่ไกลตาถึงต่างประเทศ
?แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ไปถึงที่โน้นแล้วจอมจะรีบโทร.หาแม่ทันที? แม้ภายในใจจะรู้สึกกังวลไม่ต่างจากมารดา แต่หญิงสาวก็ต้องทำเป็นร่าเริงเพื่อให้คุณนัดดาคลายความกังวลลง
หญิงสาวละจากกองเสื้อผ้าที่เตรียมจัดใส่กระเป๋าเดินทาง เพื่อกอดร่างผอมบางของคุณนัดดาที่นั่งลงข้างๆ เธอพร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างประจบราวกับเด็กที่ไม่เคยโตเลยสักครั้งในสายตาของผู้เป็นมารดา
ไม่มีคำพูดใดหลุดจากปากคุณนัดดานอกจากมือที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยชราที่ค่อยๆ ลูบศีรษะได้รูปสวยของบุตรสาวด้วยความรัก
****************************************************************************************************
และแล้วเช้าวันเดินทางก็มาถึง หญิงสาวร่างบางในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาลที่พับแขนขึ้นมาถึงระดับข้อศอกเพื่อความทะมัดทะแมง เพิ่มความคล่องด้วยกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้มขายาวทรงกระบอก จอมนางลากกระเป๋าเดินทางมาไว้ที่ห้องรับแขกเพื่อรอให้สินธเลิศมารับไปที่สนามบินด้วยกัน
?มากินข้าวก่อนสิลูก กว่าจะได้ขึ้นเครื่องก็อีกตั้งหลายชั่วโมง? คุณนัดดาพูดพร้อมกับตักข้าวต้มกุ้งที่เธอตั้งใจตื่นมาทำให้ตั้งแต่เช้าใส่ชามเตรียมจะยกไปวางที่โต๊ะอาหารให้กับบุตรสาว
?แน่อยู่แล้วค่ะ ไม่มีข้าวต้มที่ไหนอร่อยเท่าของแม่เลยค่ะ? หญิงสาวพูดอย่างประจบพร้อมหอมแก้มคุณนัดดาฟอดใหญ่แล้วจึงยกชามข้าวต้มควันลอยฉุยส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมาวางบนโต๊ะอาหาร ก่อนที่เธอจะนั่งลงจัดการของโปรดฝีมือมารดาอย่างเอร็ดอร่อย
คุณนัดดามองบุตรสาวทานอาหารที่ตนเองทำแล้วรู้สึกสะกิดใจขึ้นมาจนน้ำตาพานเอ่อขึ้นมาทันทีจนต้องรีบเบือนหน้าไปทางอื่น เพราะไม่อยากให้บุตรสาวเป็นกังวล
หลังจากอิ่มอร่อยกับข้าวต้มชามใหญ่ สักพักรถของเพื่อนชายแสนดีอย่างสินธเลิศก็ขับมาจอดตรงหน้าบ้านพอดี นั่นหมายถึงสัญญาณแห่งการจากลามาถึง จอมนางกอดมารดาอีกครั้ง
?เดินทางปลอดภัยนะลูก ไปถึงแล้วโทร.มาหาแม่ด้วยนะ?
หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะลากกระเป๋าใบโตออกไปยังหน้าบ้าน ไม่นานร่างสูงของสินเลิศก็ก้าวลงจากรถหันไปประนมมือไหว้มารดาเพื่อนสาว ก่อนจะหันมาช่วยเพื่อนสาวยกกระเป๋าขึ้นรถ จอมนางหันมามองคุณนัดดาอีกครั้งพร้อมกับยิ้มให้ด้วยสีหน้าแจ่มใสเพื่อให้มารดาสบายใจ
*************************************************************************************************
ณ ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ
หญิงสาวยืนต่อแถวยื่นเอกสาร เพื่อเตรียมขึ้นเครื่องเดินทางสู่กรุงโซลในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า โดยมีเพื่อนชายร่างสูงอย่างสินธเลิศต่อแถวอยู่ด้านหลังเธอ เมื่อเอกสารเรียบร้อยทั้งสองจึงก้าวขึ้นไปบนเครื่องและนั่งตามเลขที่ของตั๋วเครื่องที่ได้ระบุไว้ ซึ่งโชคดีที่เธอและเพื่อนชายได้ที่นั่งติดกัน ทำให้จอมนางรู้สึกคลายความกังวลตอนนั่งเครื่องไปได้มากทีเดียว
?เดี๋ยวก่อนลงจากเครื่องอย่าลืมใส่เสื้อกันหนาวด้วยนะจอม? ชายหนุ่มส่งเสื้อกันหนาวที่เขาถือติดมือมาด้วยส่งให้กับจอมนาง
?ขอบใจนะซี จอมลืมสนิทเลย? หญิงสาวรับเสื้อกันหนาวตัวใหญ่สีเทาจากเพื่อนชายมาวางไว้บนตักอย่างเตรียมพร้อม ก่อนจะค่อยๆ เอนหลังเพื่อพักสายตาก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทาง ?กรุงโซล? ดินแดนแสนโรแมนติค

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ก้าวแรกที่มาเหยียบแผ่นดินเกาหลีใต้หญิงสาวก็คิดว่าตัวเองดวงตกเสียแล้ว เมื่อบังเอิญซุ่มซ่ามไปชนเข้ากับนายแบบหนุ่มที่ไม่ใช่แค่หล่อเหลาอย่างเดียว ทว่า ?โทนี่ คิม? หยิ่งยโสแถมเขายังเป็นลูกชายของเจ้าพ่อสื่อยักษ์ใหญ่แห่งกรุงโซล ทัณฑ์โทษบทที่หนึ่งของเขาคือการจาบจ้วง ?จอมนาง? ด้วยจุมพิตร้อนที่ริมฝีปากบาง และบทลงโทษต่อมาที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นอีกนั้นก็มาเยือนถึงโรงแรมที่เธอทำหน้าที่เชฟนานาชาติ เมื่อชายหนุ่มนึกอยากลองลิ้มรสอาหารไทยดูบ้าง ซึ่งไม่มีใครบอกจอมนางว่าเขาแพ้พริก เพียงต้มยำรสจัดจ้านที่ส่งเข้าปากไปนั้นก็ทำให้โทนี่ คิมโกรธจนไม่คิดจะให้อภัยคนปรุงสักนิด แต่เมื่อคนตรงหน้าเป็นหญิงสาวที่เขาหลงใหลในรูปร่างและหลงสวาทในรสจูบเขากลับพอใจ โทนี่ คิมจึงทำทุกอย่างตามแบบฉบับลูกชายเจ้าพ่อ ยึดเอาหญิงสาวมาอยู่เคียงข้างตลอดไปด้วยการประกาศแต่งงานต่อหน้าสื่อนับพัน ก่อนจะรั้งร่างบางมาไว้ในอ้อมแขนแล้วจูบจอมนางอย่างยาวนาน

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”