New Release BLY แปล : OFF AIR ~YES OR NO คนที่ใช่ ใครที่ชอบ~

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1068
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : OFF AIR ~YES OR NO คนที่ใช่ ใครที่ชอบ~

โพสต์ โดย Gals »

เตียงเขตร้อน

by Michi Ichiho
นักแสดงหญิงท่านหนึ่งเคยกล่าวในการสัมภาษณ์ว่า “รักษาความชื้นในห้องเอาไว้ที่ 70% ตลอดเวลา” และเธอก็มีผิวสวยชุ่มชื้นจริงๆ
คุนิเอดะซังเองก็ดูน่าจะมีสกิลแบบนักแสดงหญิงนะคะ อย่างเช่นควบคุมเหงื่อบนใบหน้าได้น่ะ


ห้องนอนของเคย์ที่เพิ่งเคยเข้ามาครั้งแรกอากาศชื้นจนให้ความรู้สึกเหมือนแนบหนึบผิว เจ้าตัวบอกว่าตั้งระดับความชื้นไว้ค่อนข้างสูง บางทีนั่นคงเป็นสาเหตุ ปกติบ้านของอุชิโอะจำต้องหลีกเลี่ยงความชื้นเพราะมีทั้งสีและอุปกรณ์ถ่ายทำ ที่นี่จึงแปลกใหม่มากทีเดียว
ภายในห้องมีเพียงเตียงหนึ่งหลัง เฟอร์นิเจอร์มีแค่นั้นจริงๆ ดูเหมือนว่าตู้เสื้อผ้าก็จะไม่มีเสื้อผ้าอยู่ เตียงตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางห้องโดยไม่ติดกับผนังเพื่อป้องกันเชื้อรา พอนอนแผ่บนเตียงก็เริ่มรู้สึกเหมือนอยู่บนเกาะเล็กๆ ในทะเลขึ้นมา จะว่าไปแล้ว สมัยเด็กๆ ก็เคยเล่นแบบนี้ เล่นลอยทะเลโดยสมมติว่าใต้เตียงคือทะเลที่มีฉลามเป็นฝูง
กลุก เมื่อพลิกตัวมาอีกข้างก็มองเห็นแผ่นหลังของเคย์ที่นั่งอยู่ เคย์กำลังตั้งใจอ่านเอกสารบางอย่างมาตั้งแต่เมื่อครู่
“อ่านอะไรอยู่”
“สคริปต์”
“อ่านที่นี่ไม่ชื้นจนเปื่อยแย่เหรอ?”
“ช่างมัน พรุ่งนี้ก็ไม่ใช้แล้ว”
“งานเหรอ?”
อุตส่าห์มาหาถึงบ้านอย่างสบายใจเพราะเห็นว่าเป็นคืนวันศุกร์แท้ๆ
“ไม่เชิงงาน เรียกว่างานพิเศษมากกว่ามั้ง? พิธีกรงานแต่งงานน่ะ”
“รับจ๊อบแบบนั้นด้วยเหรอเนี่ย”
“นานๆ ที”
คนรู้จักหรือผู้เกี่ยวข้องในที่ทำงาน (ไม่มีเพื่อน) จะไหว้วานโดยให้ค่าจ้างราวห้าหมื่นถึงหนึ่งแสนเยน ยังไม่รวมค่าเดินทาง ถ้าจะว่ากันจริงๆ การทำแบบนี้ถือว่าละเมิดข้อบังคับในการทำงาน แต่ทางสถานียอมอนุญาตโดยไม่ต่อว่าอะไร งานทำนองนี้จึงกลายเป็นวิธีหาค่าขนมเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ประกาศข่าวไปโดยปริยาย
“งานนี้เป็นงานของรุ่นพี่ในแผนกผู้ประกาศข่าว ฉันเลยปฏิเสธไม่ได้ ทางนั้นรู้ตารางงานของฉัน จะใช้งานเป็นข้ออ้างก็ไม่ได้... เฮอะ ไอ้การพบพานที่ปรุงแต่งซะเกินเหตุนี่มันอะไรกัน แย่งแฟนเพื่อนมาแท้ๆ ไร้ยางอายชะมัด...”
ถึงจะวิจารณ์เนื้อหาส่วนที่เล่าจุดเริ่มต้นความรักของบ่าวสาว แต่พอยืนอยู่หน้าไมโครโฟน เคย์ก็คงใช้ยิ้มน้อยๆ เป็นกำแพงเหล็กปิดกั้นไม่ให้วาจาร้ายกาจทำนองนั้นเล็ดลอดออกไป อุชิโอะจินตนาการภาพนั้นในหัว เพราะดูดีถึงยิ่งลำบากใจ งานแต่งงานคือพิธีการที่มักจะกำจัดเรื่องไม่ดีออกไป หรือไม่ก็เปลี่ยนให้กลายเป็นแง่บวก ส่วนเรื่องที่ดีอยู่แล้วก็แต่งเติมยิ่งขึ้นไปอีกขั้น การตัดสินว่าสวยแต่เปลือกอาจจะขวานผ่าซากไปหน่อย แต่อุชิโอะไม่ถูกโรคกับ ‘การเข้าสังคมของผู้ใหญ่’ ทำนองนั้นเอาเสียเลย หรือพูดให้ถูกต้องคือ เขาไม่ชอบการเผชิญหน้ากับ ‘ความอ่อนหัดของตัวเองที่ไม่ถูกโรคกับของแบบนั้น’ ใครจะไปรู้ล่ะว่าพออยู่ในช่วงเวลาเฟกๆ อย่างนั้นแล้วควรทำหน้าแบบไหน
ถึงอย่างนั้นเขากลับชอบคำโกหกของเคย์ หรือควรบอกว่าชอบเคย์ที่สร้างขึ้นจากคำโกหกมากกว่า อุชิโอะเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นเพราะการพบพานของทั้งสองกระแทกใจ (แถมเจ็บตัวด้วย) หรือเพราะเคย์โกหกถึงที่สุดจนชวนให้รู้สึกสดชื่น หรือแค่เพราะหน้าตาถูกใจกันแน่
“ไม่เห็นเข้าใจเลยวุ้ย” นั่นมันคำพูดของฉันต่างหากเล่า
“...เอาเถอะ ถ้าน่าสนใจ จะเป็นไงก็ช่าง”
“หา?”
พอพึมพำกับตัวเอง เคย์ก็หันมาหา อย่าตอบแค่พยางค์เดียวอย่างนั้นสิ
“เมื่อกี้ว่าฉันเหรอ?”
“หัวไวแปลกๆ นะ”
“เฮ้ย”
“เปล่า ไม่ได้ว่า”
“งั้นพูดอะไร”
“พูดว่า หันมาหาหน่อย”
“ไหงประโยคสั้นกว่าเมื่อกี้”
แววตาเคลือบแคลงมองข้ามไหล่มาหา อุชิโอะยิ้มให้ หากคนที่รู้จักเคย์แค่ภายนอกมาเห็นสีหน้าของเคย์ตอนนี้เข้าก็คงหน้าซีดเผือดคิดว่า ‘คุนิเอดะเข้าด้านมืดซะแล้ว’
“ฉันพูดอย่างนั้นจริงๆ นา”
ว่าแล้วอุชิโอะก็คว้าคอเสื้อยืดของเคย์แล้วดึงมาหา
“หยุดนะ เสื้อย้วยหมด!”
“สนใจฉันหน่อยสิ”
“นายเองก็ชอบปล่อยฉันไว้เฉยๆ ประจำไม่ใช่เรอะ!”
“แค่นายขอ ฉันก็พร้อมจะสนใจ”
“โกหก ทั้งๆ ที่ไม่เห็นแยแสฉันสักนิด... ว่าแต่! ไอ้ความรู้สึกเหมือน ‘จะช่วยสนใจก็ได้’ นั่นมันอะไรกัน!”
“คร้าบๆ”
อุชิโอะขยับลุกขึ้น ใช้สองแขนโอบเคย์ไว้แล้วดึงลงนอนบนเตียง ถ้าเคย์ตั้งใจตรึงร่างตัวเองไว้กับที่ก็คงไม่ง่ายขนาดนี้ แปลว่าโอเคสินะ อุชิโอะตีความอย่างนั้น
“อย่ามาเกะกะนะ!”
“ถ้าเป็นงานจริงจังฉันจะยอมอยู่เฉยๆ แต่นี่มันไม่ใช่นี่นา แถมถ้าไม่อยากโดนก่อกวนจริงๆ นายคงไม่ยอมให้เข้าบ้านแต่แรกแล้ว”
พออุชิโอะพูดอย่างนั้น เคย์ก็หุบปากสนิท ปกติออกจะฝีปากเป็นเลิศแท้ๆ แต่เวลาแบบนี้กลับสงบปากสงบคำแต่โดยดี ตรงนี้แหละน่าสนใจ
“ว่าแต่เล่นหิ้วมาห้องนอนในคืนสุดสัปดาห์อย่างนี้ มันก็แน่อยู่แล้วใช่ไหมว่าจะทำอะไร”
“ไม่ได้หิ้วมา!”
“คร้าบๆ”
อุชิโอะใช้แขนข้างหนึ่งยันเตียงแล้วมองอีกฝ่าย เคย์เผยสีหน้าลำบากใจที่ไม่ใช่การปั้นแต่งให้เห็นแวบหนึ่ง แต่แล้วก็พึมพำว่า “ฉันไม่ทำด้วยหรอกนะ” พร้อมกับขมวดคิ้ว
“บอกแล้วไงว่าพรุ่งนี้มีงานพิธีกร ขืนเสียงแหบฉันได้เสียชื่อหมดพอดี”
ดูเหมือนว่าเคย์จะแบ่งการใช้งานเสียงอย่างละเอียดไปตามสถานการณ์ ตอนพูดผ่านไมโครโฟนแบบหนีบในห้องส่งใช้เสียงหนึ่ง ตอนพูดเวลาออกกองนอกสถานที่หรือตอนถือไมค์พูดในอาคารใช้อีกเสียง อุชิโอะเคยบอกว่า เสียงไหนๆ ก็ฟังดูเหมือนกันหมด ก่อนจะโดนเคย์ดุว่า “เพราะฉันตั้งใจปรับให้ฟังดูเหมือนกันน่ะสิ เจ้าบ้า” ยิ่งประดิษฐ์เสียงเท่าไรก็ยิ่งเป็นภาระต่อเส้นเสียง ยิ่งเป็นภาระยิ่งต้องใส่ใจ เรื่องนั้นอุชิโอะเองก็เข้าใจ
“ไม่ใช่ว่า เดี๋ยวจะเสียมารยาทต่อบ่าวสาวหรอกเหรอ”
“ฉันไม่สน”
“งั้นฉันก็ไม่สนเหมือนกัน”
อุชิโอะฉวยสคริปต์ในมือเคย์โยนลงพื้น
“นายนี่มัน!”
“ของแค่นี้ถ้านายตั้งใจ แค่สามสิบนาทีก็จำขึ้นใจแล้วใช่ไหมล่ะ?”
นอกจากนั้น... อุชิโอะเอ่ยพลางขยับหน้าเข้าใกล้ อาการร้อนรนปนใจเต้นไม่เป็นส่ำพลันปรากฏให้เห็นเด่นชัดจนอุชิโอะคิดว่า ควรทำไงกับหมอนี่ดีเนี่ย ดูออกง่ายเกินไปแล้ว
“ถ้าไม่อยากเจ็บคอ แค่อยู่เงียบๆ ก็พอแล้วนี่นา”
“หา...?”
“การที่นายครางอ๊างๆ นั่นมันปัญหาของนายต่างหาก”
“หาา!? อ๊างๆ อะไร โกหกชัดๆ!! อย่าหลงตัวเองหน่อยเลย เจ้างั่ง! ไปตายซะ!”
อุชิโอะตบแก้มแดงก่ำนั้นแปะๆ พลางปรามว่า “คร้าบๆ”
“งั้นก็ทำเงียบๆ ได้สินะ ไม่ต้องห่วง แค่ไม่อ้าปากก็พอ แต่ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่เป็นไร”
ทำไมกันนะ ทั้งที่เป็นคนเรียนเก่ง หัวก็ดี แต่กลับยุง่าย ติดกับลูกไม้ตื้นๆ พรรค์นี้อยู่เรื่อย ...ไม่สิ ต้องบอกว่าวิเศษมากต่างหาก เคย์รู้ตัวว่า ‘ห้ามคล้อยตามเด็ดขาด’ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกอยากเอาชนะทุกที สีหน้าเจ็บใจของเคย์ในเวลาแบบนั้นทำให้อุชิโอะสนุกจนแทบทนไม่ไหว

“อืม...”
ความที่ส่งเสียงไม่ได้ คราวนี้เคย์จึงแอ่นคอมากกว่าปกติ อุชิโอะใช้ริมฝีปากดูดดึงใต้คางที่ยื่นมาตรงหน้า ลมหายใจอีกฝ่ายพลันปั่นป่วน
“เฮ้ ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
พอถามด้วยน้ำเสียงไร้แววจริงจัง ศีรษะก็โดนฝ่ามือฟาดเข้าให้
“เจ็บนะ”
ที่จริงไม่เจ็บสักนิด อุชิโอะบดเบียดสะโพกที่แนบชิด แทรกตัวลึกเข้าไปในกายเคย์อีกขั้น ริมฝีปากที่เม้มอย่างดื้อดึงสั่นระริก คงจะทุรนทุรายที่ระบายเสียงออกมาไม่ได้ ทุกครั้งที่อุชิโอะขยับตัว ปลายนิ้วของเคย์จะจิกแน่นลงมาบนต้นแขน เห็นทีคงได้รอยเล็บเต็มแขนแน่ แต่ในเมื่อตนเป็นคนยั่วยุเอง อุชิโอะก็ไม่คิดจะปริปากบ่น
“อะ... อืม...!”
เสียงครางกระเส่าปะปนด้วยลมหายใจหอบนั้นราวกับน้ำตาลหวานฉ่ำ เพียงเม็ดเดียวก็ซึมซาบมากพอที่จะทำให้อุชิโอะเมามาย แบบนี้ก็อร่อยไม่เบาอยู่หรอก แต่เพราะเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เริ่ม อุชิโอะจึงเริ่มอยากเปิดปากจอมดื้อรั้นนั่นให้ออกสักที ไม่ต้องมีข้ออ้างอะไรกันแล้ว
เขาเล็งจุดอ่อนไหวของเคย์ ใช้ความรุ่มร้อนของตนเสียดสีซ้ำไปมา ปากที่เม้มเป็นเส้นตรงค่อยๆ เหยเกตามคาด เสียงฉ่ำอารมณ์ปรารถนาหลุดรั่วออกมา
“อย่า! อะ อ๊า... หน็อย เจ้าบ้า...”
“ครับ?”
“ยะ อย่า อ๊า...”
“...อา สุดยอด”
ขืนเป็นอุปสรรคต่องานพรุ่งนี้เข้าจริงๆ จะแย่เอา อุชิโอะจึงตั้งใจจะหยอกแค่นิดหน่อย ทว่าร่างกายกลับเผลอเร่งความเร็วเพราะอยากฟังเสียงจนแต้มไร้การปรุงแต่งนั้นเรื่อยไป การถ่ายทอดสดนี้มีตนเป็นผู้ชมแต่เพียงผู้เดียว เป็นสิทธิพิเศษอะไรอย่างนี้
“อะ อ๊ะ... ยะ อุชิโอะ...”
มือของเคย์ที่เกาะแน่นจนแทบฉีกกระชากผิวหนังพลันผละออก ย้ายมาโอบรอบคออุชิโอะแล้วดึงเข้าไปหา
“หืม? ...อืม”
เป็นจุมพิตที่เร่าร้อนทีเดียว อ้อ อย่างนี้นี่เอง คิดจะปิดปากตัวเองด้วยจูบสินะ น่าสนใจ ...คำว่า ‘น่าสนใจ’ ที่ใช้กับเคย์ มีความหมายเดียวกับคำว่า ‘น่ารัก’
ความตื่นเต้นที่ถ่ายทอดจากปากสู่ปากโดยตรงเย้ายวนใจยิ่งกว่าเสียงที่ได้ยินผ่านหู จูบที่ราวกับขบกัดกันและกันทำให้เบื้องล่างบีบรัดแนบแน่นยิ่งขึ้น ความชื้นในห้องนอนเข้าโอบล้อมผิวกายที่เชื่อมประสาน ประกอบกับอุณหภูมิในร่างที่พุ่งทะยาน ทำให้อุชิโอะรู้สึกเหมือนอยู่กันตามลำพังที่เกาะทางใต้ อบอ้าว ร้อนรุ่ม ชุ่มชื้น ยอดเยี่ยม
อุชิโอะตอบสนองต่อลิ้นที่ยื่นมาหา พลางกลืนกินเคย์อย่างดุเดือดยิ่งขึ้น


เหตุการณ์วันนี้

by Michi Ichiho
จำได้ว่าเขียนตอนนี้ในวันก่อนหน้างานแจกลายเซ็น...
เป็นเรื่องราวของหนึ่งวันอันแสนสุขที่ไม่มีอะไรพิเศษ
สำหรับสองคนนี้แล้วถือว่าเงียบสงบและผ่อนคลาย
ฉันเองก็คิดถึงบรรยากาศของบ้านอุชิโอะ
ที่ตอนนี้ไม่เหลือแล้วเหมือนกันค่ะ


ความเจ็บป่วยที่ไม่รู้สึกเจ็บนั้นน่ากลัวกว่าปกติ สำหรับเคย์แล้ว คอถือเป็นอย่างนั้น ในแต่ละปีจะมีอยู่วันสองวันที่จู่ๆ ก็พูดไม่ออกโดยไม่มีอาการแสบหรือคันคอล่วงหน้า
“อา... อา อา”
เคย์นั่งอยู่บนเตียง ไม่ว่าจะพยายามเค้นเสียงจากท้องสักเท่าไร เสียงที่เปล่งออกมาก็แหบแห้งเหมือนเปลือกองุ่นเฉาๆ แม้แต่เสียงเดาะลิ้นยังฟังดูไร้ชีวิตชีวา ถึงจะไม่มีสัญญาณบอก แต่เคย์ก็พอนึกสาเหตุออก อย่างแรกคือการอัดเสียงบรรยายตอนกลางวันเมื่อวานนี้ดันติดขัดนิดหน่อย แน่นอนว่าไม่ใช่ความผิดของเคย์ ดูเหมือนไดเรกเตอร์จะกำหนดอิมเมจที่ต้องการแน่ชัดไม่ได้ เขาจึงสั่งว่า “เมื่อกี้ก็ดีนะ แต่ช่วยพูดอีกทีให้อารมณ์มันต่างออกไปได้ไหม?” อย่างต่อนื่อง ความโลเลที่มองไม่เห็นว่าต้องทำแบบไหนถึงจะ OK แบบนี้นี่แหละน่าหงุดหงิดที่สุด จะขึ้นเทกใหม่ก็เติมเงินมาด้วยเซ่ และหลังจากโดนใช้งานเยี่ยงทาส ตอนกลางคืนยังต้องไปออกอากาศในรายการข่าว ส่วนกลางดึกก็มีหลายอย่างที่งดออกอากาศ หลายๆ อย่างเลยล่ะ... สรุปว่าเป็นความผิดของหมอนั่น
ความโชคดีในโชคร้ายคือวันนี้เป็นวันเสาร์ ได้พักสักสองวันคอก็คงหายดีเอง วันที่เคย์พูดไม่ออกมักตรงกับวันหยุดเสมอ นี่คือการกบฏเล็กๆ แบบใส่ใจกาลเทศะหรือไงนะ
“อ๊ะ วันนี้ไม่มีไข่ กินแต่ขนมปังปิ้งได้ไหม?”
อุชิโอะที่ตื่นมาอาบน้ำก่อนถามอย่างสบายอารมณ์ เคย์ทำหน้าบูด ใช้นิ้วจิ้มคอจึ้กๆ พลางคิดในใจว่า สาเหตุครึ่งหนึ่งเป็นเพราะนายนั่นแหละ
“หืม?”
“ไม่มีเสียง”
แม้แต่ตัวเองยังรู้สึกว่าเสียงแหบพร่าผิดปกตินั้นฟังดูงี่เง่าสุดๆ อุชิโอะก้าวฉับๆ มาใกล้เตียง ก่อนจะยกมือแตะหน้าผากและแก้มของเคย์
“เป็นหวัดเหรอ? มีไข้ไหม? ทรมานรึเปล่า? ไปโรงพยาบาลไหม?”
“ไม่ใช่”
เล่นจับไปทั่วด้วยสีหน้าจริงจังแบบนั้นก็ต้องหน้าแดงสิ เคย์ปัดมืออุชิโอะทิ้ง อธิบายว่า “นานๆ เป็นทีอยู่แล้ว”
“ปล่อยไว้เดี๋ยวก็หาย”
“จริงเหรอ?”
“อืม”
เคย์ทำตัวเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ อุชิโอะจึงสบายใจขึ้น เขาขยี้เรือนผมเคย์จนยุ่งก่อนคลี่ยิ้มหวานออกมาดื้อๆ เคย์เรียนรู้แล้วว่าห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่ในเวลาแบบนี้ หมอนี่จะชอบพูดจาไร้สาระออกมา
“...ไหนลองพูดว่า ‘สวัสดี ผมโมริ ชินอิจิ ครับ’ ดูซิ?”
นั่นไง
“ไปตายซะ”
เสียงแบบนี้จะตวาดก็ตวาดได้ไม่เต็มปาก เคย์จึงใช้หมอนฟาดไหล่อุชิโอะแทน อุชิโอะแก้ตัวว่า “ฉันล้อเล่น” ซึ่งเคย์รู้อยู่แล้วว่าต้องมาไม้นี้
“ล้อเล่นอะไรเล่า นี่มันเครื่องมือทำมาหากินของฉันนะ”
“งั้นก็อย่าสร้างภาระให้มันมากนักสิ”
“เป็นความผิดของใครล่ะ”
“เดี๋ยวไปซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าที่ร้านสะดวกซื้อให้ ยกโทษให้ฉันเถอะ จะทำของโปรดนายเป็นมื้อเช้าด้วย”
“ปลาไหลย่าง”
“โอเค ไข่เนอะ”
ไม่ได้ใกล้เคียงสักนิด
เคย์ลุกไปอาบน้ำบ้าง ออกมาจากห้องน้ำอีกทีก็ไม่พบเบ๊ประจำตัวแล้ว สงสัยจะอยู่ระหว่างไปซื้อของ สิ่งที่โผล่มาแทนที่คือเตาผิงน้ำมันก๊าดสีเขียวอมฟ้าอ่อน มีกาน้ำใบใหญ่วางอยู่ด้านบน แผ่ความอบอุ่นไปทั่วห้อง อุชิโอะมักใช้เตาผิงนี้ในที่ทำงานชั้นล่าง โดยเฉพาะคืนที่อากาศหนาว เขาคงขนมันขึ้นมาเพราะคำนึงถึงความชื้นและอุณหภูมิร่างกายของเคย์ เคย์คิดว่าการคอยเติมน้ำมันบ่อยๆ น่าจะยุ่งยาก แต่ดูเหมือนอุชิโอะจะถูกใจเตาผิงนี้มากกว่าฮีตเตอร์ เจ้าตัวบอกว่าชอบมองดูเปลวไฟสีน้ำเงินขยับวูบวาบอยู่ในช่องกลมๆ





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รวมตอนพิเศษของนิยายยอดฮิต ‘YES OR NO คนที่ใช่ ใครที่ชอบ’ มีทั้งเรื่องสั้นที่ผู้เขียนเคยจัดพิมพ์แบบทำมืออย่าง ‘ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น’ ที่เคย์พาอุชิโอะกลับบ้านเดิม ‘พระอาทิตย์ของผม’ ที่เคย์ไปถ่ายทำที่โคชิเอ็นกลางฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีเรื่องสั้นที่เคยลงเว็บไซต์และเรื่องสั้นแถมพิเศษอีกมากมาย ตอนที่เขียนขึ้นใหม่อย่าง ‘Day Dream Believer’ ก็ห้ามพลาด!!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”