New Release แปล : TERRAFORMARS ภารกิจล้างพันธุ์นรก THE OUTER MISSION III THE PARTNER

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1068
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release แปล : TERRAFORMARS ภารกิจล้างพันธุ์นรก THE OUTER MISSION III THE PARTNER

โพสต์ โดย Gals »

TERRAFORMARS ภารกิจล้างพันธุ์นรก THE OUTER MISSION III THE PARTNER
I มุ่งหน้าสู่ดินแดนตำนานชาวมายา


-----

กลิ่นเหม็นเขียวเข้มข้นของต้นไม้ใบหญ้าติดจมูก
อากาศร้อน อีกทั้งยังชื้นจนตัวเหนียว
พืชเขตร้อนที่โตสูงกว่าสิบเมตรทำให้ที่นี่มืดสลัว มองเห็นได้ไม่ถนัด
ไม่เพียงแค่นั้น พื้นที่เหยียบอยู่ ณ ตอนนี้เป็นฮิวมัส ดินซึ่งมีความอ่อนนุ่มเกิดจากการทับถมของซากใบไม้ที่เน่าเปื่อย ทุกครั้งที่เหยียบลงไปเท้าจะจมลงจนแทบถึงข้อเท้า เรียกได้ว่าเดินลำบากสุดๆ
“....โทเฮย์ ตอนนี้ดัชนีความไม่สบายเนื้อสบายตัวของฉันพุ่งทะลุร้อยแล้ว ช่วยทำอะไรสักอย่างซิ”
คู่หู อลิซาเบธ รูนี่ย์....หรือลิซซี่ พูดด้วยสีหน้าขุ่นเคืองพลางใช้แขนเสื้อของชุดเครื่องแบบสนามเช็ดเหงื่อที่แก้ม ใบหน้าที่สวยได้รูปในเวลานี้เต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์
โทเฮย์ ทาจิบานะยิ้มแบบฝืดๆ ให้
“ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ป่าฝนเขตร้อนมันก็ต้องประมาณนี้ล่ะนะ”
ทั้งโทเฮย์และลิซซี่ต่างสวมเครื่องแบบสนามลูกเรือยานแอนแนคซ์ของ U-NASA เพียงแต่โดยปกติหากเป็นลูกเรือทางการจะเป็นสีขาว แต่สำหรับพวกไม่ผ่านเกณฑ์อย่างพวกเขานั้นเป็นสีเทา
โทเฮย์สะพายปืนพกทั้งสองข้างด้านละหนึ่งกระบอก มันเป็นปืนชนิดพิเศษที่มีชื่อว่าไฟว์เซเวนเรพลิกา สามารถยิงกระสุนที่มีอำนาจทะลุทะลวงสูง
ส่วนลิซซี่ห้อยสนับมือขนาดใหญ่ไว้ที่เอวซ้ายขวาข้างละหนึ่ง ไซซ์ของมันดูยังไงก็ใหญ่เกินขนาดของมือ
โทเฮย์ดึงเท้าที่ใส่รองเท้าบูทออกจากดิน เกิดเสียงดังหยวบ เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับเวลาจมอยู่ในโคลน
“เคยได้ยินว่าดินในป่าจะอ่อนเฉพาะในช่วงหน้าฝน ก่อนหน้าที่จะกลายเป็นฮิวมัส พวกซากใบไม้แห้งจะถูกสัตว์จำพวกปลวกย่อยสลาย ซึ่งนี่ทำให้ดินนิ่มเพิ่มขึ้นอีก”
“อ้อ สรุปคือโคลนพวกนี้มีไว้ให้รำคาญเล่นงั้นสิ ให้ตาย อยากจะเอาระเบิดนาปาล์มเผาป่าทั้งโลกให้หมดไปเลย จะได้โล่งๆ”
“....แบบนั้นคงไม่ใช่แค่ป่าเท่านั้นที่โล่ง จะว่าไปออกซิเจนกว่าครึ่งในโลกนี่สร้างขึ้นจะป่านะ”
โทเฮย์เคาะลำต้นของไม้ต้นใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ และสัมผัสได้ถึงความชุ่มน้ำใต้เปลือกไม้ เขารู้สึกประทับใจกับความอุดมสมบูรณ์ ส่วนลิซซี่หัวเราะออกมาสั้นๆ
“นี่นายจะบอกว่าถ้าไม่มีป่านี่ ออกซิเจนจะขาดแคลนจนทำให้สัตว์ที่ต่างๆ สูญพันธุ์งั้นเหรอ? ถ้างั้นก็ปลูกมอสส์แบบที่เคยปลูกบนดาวอังคารมั้ยล่ะ อันนั้นแค่ห้าร้อยปีก็ทำให้เกิดชั้นบรรยากาศที่ทำให้หายใจได้แล้วใช่มั้ยล่ะ?”
ลิซซี่ทำหน้าระรื่น เหมือนเธออยากจะเสนอความเห็นในแบบของตน
มอสส์ หมายถึงมอสส์พันธุ์พิเศษที่ถูกส่งไปพร้อมกับสิ่งมีชีวิตขั้นต้นในโครงการเทราฟอร์มิ่งดาวอังคาร
โทเฮย์ยิ้มเจื่อน
“....ถ้าแค่เรื่องออกซิเจนมันก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีอยู่หรอก แต่ที่ผิดคาดคือพวกสิ่งมีชีวิตที่ไปกินพวกมอสส์ที่แพร่พันธุ์นี้เป็นอาหาร แล้วกลายพันธุ์จนน่าเหลือเชื่อนี่สิ”
เฮ้อ ลิซซี่ถอนหายใจพร้อมกับทำหน้าเซ็ง
“ถ้าจำไม่ผิด เจ้าพวกนั้นกินแค่มอสส์ แล้วก็กลายสภาพเป็นแบบนั้นสินะ ยอดไปเลย อะไรจะอุดมไปด้วยสารอาหารขนาดนั้นเนี่ย”
“ลิซซี่ คนเราเวลาอารมณ์ไม่ดีสมองจะไม่แล่นนะ?”
“อ้อเหรอ พูดมาได้ดูสถานการณ์บ้างมั้ย? อากาศอย่างกับอยู่ในซาวน่าแบบนี้ยังจะให้ใช้สมองได้อยู่อีกเหรอ บ้าหรือเปล่....”
ลิซซี่ที่กำลังของขึ้นหยุดพูดอย่างกะทันหัน โทเฮย์เองก็ทำหน้าจริงจังพลางดึงสติให้อยู่กับผัสสะทั้งห้า
แซ่กๆ เสียงกิ่งไม้ใบหญ้าตรงหน้ามีการขยับ แซ่กๆๆ เสียงค่อยๆ ใกล้เข้ามา
มีอะไรบางอย่างกำลังมุ่งมา จากทางฝั่งต้นไม้ที่มีใบซ้อนกันคล้ายๆ ต้นเฟิร์น
“นี่นาย โอเคใช่มั้ย?”
“อือ วันนี้ฉันจะไม่ลังเลที่จะใช้ยาแปลงร่างอีก เพราะยังไงนี่ก็คือภารกิจ”
โทเฮย์ผงกหัวให้ขณะที่ยังจ้องไปทางด้านหน้า
“โอเค! แปลงๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปซะ!!”
ลิซซี่ยิ้มผยองพร้อมกับดึงยาแปลงร่างชนิดแผ่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
โทเฮย์ก็รีบหยิบของแบบเดียวกันออกมา
ยาแปลงร่างของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ยาชนิดพิเศษที่จะปลดปล่อยความสามารถเหนือมนุษย์ของผู้ที่ได้รับการผ่าตัด M.O.
การผ่าตัด M.O. เป็นการดัดแปลงร่างกายมนุษย์ที่ฉีกกฎ เริ่มด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะควบคุมภูมิคุ้มกันของสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์ลงไปในร่างกายคน จากนั้นกดภูมิคุ้มกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือถ้าจะพูดง่ายๆ มันก็คือการใส่สารพันธุกรรมของสัตว์อื่นลงในร่างกายคนนั่นเอง
ก่อนหน้านั้นมีการผ่าตักบั๊กส์ที่ใช้สารพันธุกรรมของแมลง จากนั้นก็ประสบความสำเร็จในการใช้สารพันธุกรรมของสัตว์จำพวกปลา พัฒนาเป็นการผ่าตัด M.O. สิ่งมีชีวิตพื้นฐานที่ถูกนำมาใช้มีตั้งแต่แมลง สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์จำพวกกุ้งกั้งปู สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พืช หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตยุคกำเนิดโลก
อัตราความสำเร็จของการผ่าตัด M.O. ปัจจุบันอยู่ที่สามสิบหกเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ล้มเหลวทั่วไปก็มักจะถึงแก่ความตาย
โทเฮย์กับลิซซี่เป็นเพียงส่วนน้อยที่รอดจากการผ่าตัดที่ล้มเหลว เนื่องจากควบคุมภูมิคุ้มกันได้ไม่สมบูรณ์หลังการผ่าตัด M.O. ทำให้ต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง หากแต่พลังที่ได้รับมานั่นคือเรื่องจริง
โทเฮย์ได้ความสามารถของหนูท่อ ส่วนลิซซี่ได้ความสามารถของแมวบ้าน นอกจากนั้นทั้งคู่ยังได้คุณสมบัติพิเศษจากจักจั่นสึโนะเข้ามาช่วยชูความสามารถทุกด้านให้สูงขึ้นด้วย
ความสามารถพิเศษเหล่านี้ปลดล็อกได้ด้วยการแปะยาแปลงร่างชนิดแผ่นเข้าที่ต้นคอ
“เฮือะะะะะ”
โทเฮย์แปะยาแปลงร่างเข้าที่ต้นคอก่อนจะตะโกนขึ้นหลังสัมผัสได้ถึงแรงปะทะที่วิ่งแล่นไปทั่วร่าง
ยาชนิดแผ่นชิ้นเล็กๆ ทำให้ร่างเนื้อของโทเฮย์เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหลือเชื่อ
เซลล์ทั่วร่างเกิดการสร้างขึ้นแทนที่ในชั่วพริบตา เพื่อแสดงลักษณะพิเศษของหนูท่อ
แทบไม่ต่างอะไรกับการเกิดใหม่ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยในคนปกติ
ใบหูขยายใหญ่ขึ้น ตรงแก้มมีหนวดยาวที่รับสัมผัสได้ละเอียดถึงการเคลื่อนไหวของอากาศ ที่หลังมือมีใบมีดซึ่งเป็นสารเคลือบชนิดเดียวกับฟันหน้าของหนูที่งอกได้อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้เล็บเท้าก็งอกและมีความคมเพิ่มมากขึ้น ตรงเอวด้านหลังก็มีหางขนาดใหญ่สีเดียวกับผิวงอกขึ้นมา
ลิซซี่ก็แปลงร่างเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกับโทเฮย์
บนหัวมีหูแบบขนอย่างเดียวกับแมว ทั้งมือและเท้ามีขนาดใหญ่ขึ้นเท่าตัว ที่มือและเท้ามีเล็บที่พับเก็บได้แบบแมว ช่วงเอวด้านหลังของลิซซี่มีหางยาวงอกออกมา แต่ต่างกับโทเฮย์ตรงที่มันมีขน
ภาพที่เห็นเหมือนแมวรวมร่างกับคนซึ่งดูน่ารักเหมือนตัวละครที่ปรากฏตัวในละครบรอดเวย์ที่ได้รับความนิยมเมื่อหกร้อยปีก่อน ลิซซี่แยกเขี้ยวพร้อมกับคำราม
“ฮัดช่า!! เลิกเล่นซ่อนแอบแล้วโผล่หน้ามาได้แล้ว ไอ้แมงกะจั๊ว!!”
“จี่” “จี่จี่!” “จี่!!” “จี่จี่จี่!” “จี่” “จี่จี่จี่จี่!”
พวกสิ่งมีชีวิตรูปทรงประหลาดบินออกมาจากพุ่มไม้ตามคำขอ
พวกมันคือเทราฟอร์เมอร์ แมลงสาบที่ถูกส่งไปยังดาวอังคารและวิวัฒนาการด้วยเวลาเพียงแค่ห้าร้อยกว่าปี รูปร่างของพวกมันคล้ายมนุษย์ ทว่าไม่อาจอยู่ร่วมโลกด้วยกันได้
เทราฟอร์เมอร์เกลียดมนุษย์ พวกมันเข้าทำร้ายโดยสัญชาตญาณ เพราะมนุษย์คือศัตรูคู่อาฆาต
ที่ปรากฏตัวออกมาขณะนี้มีอยู่หกตัว เทราฟอร์เมอร์แบบธรรมดาทั่วไปจะมีเปลือกสีดำหุ้มตัว ทว่าตัวที่โผล่มานี้ทุกตัวมีสีขาว แถมยังมีตาประกอบสีแดง
“ชิ! เป็นไอ้พวกตัวขาวน่ารังเกียจนั่นหรอกเรอะ ให้ตายซี่!!”
ลิซซี่เดาะลิ้นเสียงดัง
เทราฟอร์เมอร์สีขาว พวกมันคือเทราฟอร์เมอร์ที่ถูกดัดแปลงโดยการใส่สารพันธุกรรมของแมลงหวี่ลงไปในตัวอย่างฝักไข่ของโคลนเทราฟอร์เมอร์ที่หลุดไปจากการควบคุมดูแลของ U-NASA ซึ่งถูกวิจัยและพัฒนาโดยองค์กรลึกลับ
ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนครึ่งพวกโทเฮย์ได้เผชิญหน้ากับพวกมันและจัดการพวกมันลงได้ ทาง U-NASA ได้สร้างเทราฟอร์เมอร์พวกนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยใช้ชิ้นส่วนอวัยวะที่ติดอยู่บนชุดปฏิบัติงานของพวกเขา
“เดี๋ยวแม่จะฆ่าให้เรียบเลยคอยดู!”
ลิซซี่หยิบสนับที่ห้อยอยู่ตรงเอวขึ้นมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว ขนาดของมันกระชับพอดีกับมือที่ขยายขึ้นและมีลักษณะเด่นของแมว
“ฉันจะฆ่าพวกตัวที่อยู่ทางซ้าย! โทเฮย์ นายจัดการทางขวา!”
“ไว้ใจได้เลย!”
โทเฮย์ยื่นมือออกไปยังซองปืนที่ห้อยอยู่ตรงสีข้างทั้งสองข้าง ช่วงหลังมานี้เขาฝึกการใช้ปืนคู่เลยชักปืนออกมาได้อย่างรวดเร็ว โดยมือซ้ายชักปืนจากเอวขวา ขณะที่มือขวาชักปืนจากเอวซ้าย
ปืนสั้นออโตเมติกจะคายปลอกกระสุนที่ยิงแล้วออกทางขวาโดยอาศัยแรงถีบจากการยิง ทำให้เวลาถือยิงด้วยมือซ้าย ปลอกกระสุนจะกระเด็นมาตรงด้านหน้าและบดบังทัศนวิสัย
จริงอยู่ว่าบดบังแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่กับศัตรูอย่างเทราฟอร์เมอร์ถือเป็นช่องว่างที่อันตรายถึงชีวิต
แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายเมตร แต่พวกมันสามารถเข้าประชิดตัวได้ในพริบตา รู้ตัวอีกทีหัวก็กระเด็นไปแล้ว เรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติเลยสำหรับศัตรูอย่างพวกมัน
ประมาทเพียงชั่วพริบตาอาจถึงแก่ชีวิต ความกดดันนี้ทำให้ชีพจรของโทเฮย์เต้นเร็วขึ้น
และเมื่อชีพจรเต้นเร็วขึ้น โทเฮย์ก็เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเทราฟอร์เมอร์ที่แหวกพุ่มไม้และประชิดเข้ามาช้าลงทันที
ลักษณะพิเศษของหนูท่อซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กคือชีพจรเต้นเร็วและมีอายุขัยสั้น ในหนึ่งนาทีหัวใจของพวกมันเต้นได้สูงถึงหกร้อยครั้ง ทำให้การรับรู้เวลาเร็วกว่ามนุษย์ประมาณสิบเท่า ซึ่งโทเฮย์ได้ความสามารถนี้มาด้วยเช่นกัน
เทราฟอร์เมอร์สามตัวไล่ตามโทโฮย์ เขาเล็งปืนในมือขวาไปที่หัวของตัวหน้าสุด ส่วนมือซ้ายเล็งไปที่กลางอก
สองนัดที่หัว อีกสองนัดที่ปมประสาทใต้หลอดอาหารตรงกลางอก ต้องใจเย็น ยิงให้แม่นยำ!
นั่นเพราะถ้าทำลายสมองและปมประสาทใต้หลอดอาหารลงได้ ก็จะสามารถหยุดยั้งเทราฟอร์เมอร์ได้อย่างแน่นอน
โทเฮย์เหนี่ยวไกปืนซ้ายขวาพร้อมกัน แม้ร่างกายไม่ได้เร็วเท่ากับการรับรู้ที่เร็วขึ้นก็ตาม
เขาใช้กล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นจากการแปลงร่างต้านแรงถีบจากการยิงเพื่อลั่นไกต่อ
แค่ชั่วพริบตาก็เจาะสองรูบนหน้าผากของเทราฟอร์เมอร์ กับกลางอกอีกสองรูได้สำเร็จ
“กิ” เทราฟอร์เมอร์ที่ถูกยิงสิ้นอิสระในการควบคุมร่างและสติทันที มันพุ่งตามแรงที่โถมเข้ามาก่อนล้มหน้ามุดโคลนไปในที่สุด
โทเฮย์เล็งปืนไปยังเทราฟอร์เมอร์ตัวถัดไปอย่างใจเย็น ก่อนเหนี่ยวไกเช่นเดิม
เกิดเสียงบาดหูจากการยิงสี่นัด ทว่าดังขึ้นซ้อนกันจนเหมือนกับยิงแค่หนึ่งนัด เทราฟอร์เมอร์ที่โดนเจาะหัวและกลางอกล้มหน้าคะมำ
“จี่จี่!!”
ระหว่างที่จัดการไปสองตัว อีกตัวที่เหลือก็ประชิดเข้าตรงหน้าโทเฮย์ มันพยายามจะใช้มือขนาดใหญ่ที่หุ้มด้วยเปลือกคว้าตัวโทเฮย์ ถ้าโดนจับได้เมื่อไหร่คือจบเห่
แม้การผ่าตัด M.O. จะทำให้โทเฮย์ได้ความสามารถของหนูท่อ แต่เมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตพื้นฐานที่เหมาะกับการต่อสู้อย่างแมลงแล้ว ความแข็งแกร่งของร่างกายและกล้ามเนื้อนั้นถือว่ายังต่ำ แม้เขาจะได้คาราเต้สองดั้ง แต่การสู้ด้วยมือเปล่ากับเทราฟอร์เมอร์ถือว่าเสี่ยงเกินไป
โทเฮย์เผลอใช้หางออกไป หางหนูท่อที่ปกติยาวแทบจะเท่ากับขนาดตัวนั้นใหญ่พอๆ กับแขน เนื่องจากถูกขยายขนาดมาอยู่ในไซซ์คน สามารถขยับได้อย่างอิสระและมีพลังโจมตีสูง โทเฮย์ใช้มันพันกับต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังเพื่อดึงตัวกลับไป ช่วยให้เท้าหลุดขึ้นจากโคลน เผยให้เห็นนิ้วเท้าที่ยาว
ชุดปฏิบัติงานลูกเรือยานแอนแนคซ์สามารถเปลี่ยนรูปทรงให้เข้ากับร่างแปลงได้ อย่างรองเท้าบูทก็จะกลายเป็นสนับเข่าแทนเมื่อเท้าขยายและยื่นออกมา
“จี่?”
หลังจากคว้าหัวโทเฮย์พลาด เทราฟอร์เมอร์ก็ส่งเสียงเหมือนแสดงความสงสัย โทเฮย์อาศัยจังหวะนี้ใช้เท้าเกาะกับลำต้นของต้นไม้ที่ใช้หางพันเมื่อครู่พร้อมกับหันข้าง
เทราฟอร์เมอร์หันหน้าไปหาโทเฮย์ แต่ไม่ทันได้ทำอะไรรูกระสุนก็โผล่ขึ้นตรงหน้าผากและกลางอกอย่างละสองนัด
“เรียบร้อย”
โทเฮย์หันข้างพร้อมกับยิงปืนใส่ในขณะที่ใช้เท้าเกาะกับต้นไม้นั่นเอง
เป็นสกิลที่มนุษย์ธรรมดาไม่มีทางทำได้ มีเฉพาะโทเฮย์ที่มีพลังของหนูท่อเท่านั้นที่ทำได้
สไตล์การสู้ของโทเฮย์คือ ‘เว้นระยะห่างจากเทราฟอร์เมอร์ ก่อนใช้ปืนยิงเข้าที่จุดสำคัญ’ ซึ่งถ้าไม่มีความสามารถพิเศษที่เหมาะสมอย่างการรับรู้แบบอัตราเร่งซึ่งจะช่วยให้เล็งยิงได้อย่างแม่นยำแล้วละก็ คงไม่ง่ายที่จะสู้กับเทราฟอร์เมอร์ด้วยปืน นั่นเพราะศัตรูมีความเร็วมากเกินไป ทำให้การรับรู้ระดับคนธรรมดายากมากที่จะยิงโดนจุดสำคัญ
ปืนไฟว์เซเวนเรพลิกาที่โทเฮย์ใช้เป็นการเอาปืนสั้นที่ใช้กระสุนซึ่งมีพลังทะลุทะลวงใกล้เคียงกับแอสซอลต์ไรเฟิลในศตวรรษที่ 20 มาดีไซน์และสร้างใหม่ด้วยเทคโนโลยีปี 2600
แม้จะมีพลังในการทำลายจุดสำคัญของเทราฟอร์เมอร์ แต่เพราะการยิงสู้กับเทราฟอร์เมอร์ให้ได้ดีนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ทำให้ผู้ใช้ไฟว์เซเวนเรพลิกามีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
ยิ่งถ้าร่างกายที่ผ่านการผ่าตัด M.O. แข็งแกร่งเกินพออยู่แล้ว อาวุธแบบนี้ก็ยิ่งไม่จำเป็น
เรื่องนี้พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ได้จากสไตล์การต่อสู้ของลิซซี่
“เข้ามาเล้ย ไอ้พวกกะจั๊วขาว!!”
ลิซซี่วางเท้ากว้างประมาณเดียวกับช่วงไหล่ และตั้งหมัดที่ใส่สนับในท่าเตรียมพร้อม
“จี่!” เทราฟอร์เมอร์ง้างหมัดต่อยตามคำขอ
หมัดขวาของเทราฟอร์เมอร์แรงถึงขั้นทำหัวมนุษย์กระจุยได้ด้วยหมัดเดียว ทว่าลิซซี่กลับยิ้ม แถมเบี่ยงลำตัวแค่ส่วนบนหลบการโจมตีนั้นได้อย่างลื่นไหล
“ย่าห์!”
เป้าหมายคือหัวของเทราฟอร์เมอร์ที่อยู่สูงขึ้นไปสามสิบเซนติเมตร ลิซซี่ปล่อยหมัดฮุกซ้ายสวนทางกับหมัดขวาที่เทราฟอร์เมอร์ปล่อยวืดมาเมื่อครู่
การโจมตีดังกล่าวทำให้หัวและตาประกอบสีแดงด้านขวาของเทราฟอร์เมอร์แหลก แม้เปลือกของเทราฟอร์เมอร์จะมีความยืดหยุ่นและทนทาน แต่เมื่อเจอกับสนับเหล็กพิเศษที่ลิซซี่ใส่ก็ไม่ต่างอะไรกับขนมเวเฟอร์
แม้นี่จะเป็นแผลฉกรรจ์ แต่ใช่ว่าการเคลื่อนไหวของพวกมันจะหยุดลง ปมประสาทใต้หลอดอาหารยังทำให้ร่างกายขยับได้ และมันเตรียมจะคว้าตัวลิซซี่
“ตายได้แล้วเฟ้ย!!”
ลิซซี่ปล่อยหมัดขวาตรงซัดเข้ากลางอกของเทราฟอร์เมอร์ แรงหมัดทำให้เปลือกกับอวัยวะภายในถูกทำลายกระเด็นออกมา ราวกับโดนระเบิดจากภายใน
“เฮอะ! ไอ้พวกตัวขาวนี่กระจอกจริ๊ง!!”
ลิซซี่ยิ้มเยาะพลางสะบัดร่างของเทราฟอร์เมอร์ที่ตายแล้วออก
“กี่!” “จี่!”
เทราฟอร์เมอร์สีขาวเป็นสัตว์ทดลองที่สร้างขึ้นจากการโคลนนิง แม้เทราฟอร์เมอร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา แต่การที่ตัวโคลนนิงจะมองตัวโคลนนิงด้วยกันว่าเป็นพวกเดียวกันหรือไม่นั้น ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัย
ดูเหมือนเทราฟอร์เมอร์ที่เหลืออีกสองตัวจะมองลิซซี่ว่าเป็นศัตรูมากยิ่งขึ้น พวกมันแยกเขี้ยวใส่เหมือนลิงที่คลุ้มคลั่งและเข้าจู่โจมพร้อมกัน
“ลิซซี่!” โทเฮย์ตะโกนพร้อมกับเล็งปืนมาในขณะที่ยังใช้เท้าเกาะอยู่กับต้นไม้
“อย่าเข้ามายุ่งน่า!!”
ลิซซี่เป็นอดีตแชมป์รุ่นแบนตัมเวตหญิงระดับ ม.ปลาย ของอเมริกา เธอเป็นนักชกที่เน้นการใช้ฟุตเวิร์ก โทเฮย์ก็เคยโดนเล่นงานตอนซ้อมมาแล้ว
แต่สถานการณ์ในตอนนี้ถือว่าแย่ เพราะโคลนทำให้ใช้ฟุตเวิร์กไม่ได้ และนี่ต้องสร้างความลำบากให้กับลิซซี่แน่ โทเฮย์คิดแบบนั้นแต่เขาก็คิดผิด
“เรื่องยืนแลกน่ะของถนัดฉันเลยล่ะ!!”
ลิซซี่ขยับท่อนบนด้วยความเร็วสูงถึงขั้นทำให้เหลือภาพติดตา พลังกล้ามเนื้อและความไวในการตอบสนองของแมวที่ได้จากการผ่าตัด M.O. ทำให้ความสามารถด้านการชกมวยออกมาเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป
พวกเทราฟอร์เมอร์พยายามจะคว้าจับหัวของลิซซี่ แต่ก็ได้แค่ความว่างเปล่า
เป็นเพราะโดนภาพติดตาลวง หรือไล่ตามความเร็วไม่ทันกันแน่
โทเฮย์ไม่พบคำตอบ แต่ที่รู้แน่ๆ คือลิซซี่กำลังหยอกล้อกับพวกเทราฟอร์เมอร์
มันเกิดขึ้นไวมาก ทันทีที่ลิซซี่ตวัดมือทั้งสองข้าง เทราฟอร์เมอร์ทั้งสองตัวก็กระตุกแล้วหงายหลังลงทิ่มพื้นโคลนไปทั้งแบบนั้น
หัวของพวกมันอยู่ในสภาพแหลกเหลวราวกับแตงโมที่โดนทุบ กลางอกเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่
“จบเกม แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก!”
ลิซซี่ชูสนับที่เปื้อนของเหลวในตัวเทราฟอร์เมอร์จนเป็นมันวาวไปทางโทเฮย์
โทเฮย์ลงจากต้นไม้และเก็บปืนคู่ในมือกลับเข้าซองก่อนเกาที่แก้มเบาๆ
“พูดเท่เชียวนะ ว่าแต่สนับนั่นยอดไปเลย”
“แน่อยู่แล้ว! มือแมวมันชกลำบากนิดหน่อย แต่พอเป็นเจ้านี่ก็อารมณ์เหมือนอัศวินหญิงฟาดกระบองใส่โอเกอร์เลยล่ะ!!”
“....ไปเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหนกันเนี่ย แล้วเข้าใจความหมายของมันรึเปล่าล่ะนั่น?”
“ไม่รู้สิ?”
ลิซซี่ทำหน้างง ในตอนนั้นเองบรรยากาศโดยรอบก็เริ่มเลือน
ต้นไม้แต่ละต้นกลายเป็นเสาเรซิน บริเวณเท้าเป็นเจลโปร่งแสง ส่วนท้องฟ้ากลายเป็นเพดานคอนกรีต
ที่นี่คือห้องฝึกการต่อสู้ที่อยู่ในศูนย์วิจัยของ U-NASA วอชิงตัน
สภาพแวดล้อมป่าเมื่อครู่เป็นของเทียมที่สร้างขึ้นด้วยซิมูเลเตอร์
ของจริงมีเพียงซากเทราฟอร์เมอร์สีขาว
“รู้สึกผิดปกติอะไรบ้างมั้ยหลังแปลงร่าง?”
เสียงชายคนหนึ่งดังลงมาจากเพดาน โทเฮย์เงยหน้าขึ้นไปตอบ
“ของผมปกติดีครับ ลิซซี่เองก็เหมือนจะไปได้ด้วยดีครับ”
ลิซซี่ชูหางตั้งขึ้นก่อนกระดิกไปมา ท่าทางแบบเดียวกับแมวที่กำลังอารมณ์ดี
“อื้อ! ไปได้สวยเลยล่ะ ซ้ากกี้!”
“เลิกเรียกว่าซ้ากกี้สักที ฉันชื่อคาวาราซากิต่างหาก”
คาวาราซากิ นักวิจัยเทคโนโลยี M.O. ที่ดูแลพวกโทเฮย์พูดแย้งลิซซี่ในทันที แต่ลิซซี่ทำปากจู๋พูดต่ออย่างไม่สนใจ
“ซ้ากกี้ เราก็ฝึกต่อสู้ด้วยร่างแปลงตามกำหนดกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ไหงมีแค่วันนี้ที่จำลองการฝึกในป่าล่ะ?”
“เพื่อให้เข้ากับสถานที่จริงในภารกิจครั้งต่อไปน่ะ”
“ครั้งต่อไป?” “ภารกิจ?”
โทเฮย์กับลิซซี่มองหน้ากัน
“เบื้องบนแจ้งลงมาแล้ว ภารกิจสกาเวนเจอร์ส เริ่มปฏิบัติการหลังจากนี้ทันที สถานที่คือ....”
ยังไม่ทันที่คาวาราซากิจะพูดจบ ลิซซี่ก็แสดงอาการดีใจแบบสุดตัว
“เย่!! โทเฮย์ ภารกิจมาแล้ว!! ได้เวลาบอกลาการฝึกกับซิมูเลเตอร์สุดเฉิ่มนี่ซะที!!”
อยู่ๆ ลิซซี่ก็โผกอดโทเฮย์ในขณะที่ยังอยู่ในร่างแปลง
“ดะ เดี๋ยวสิ ลิซซี่?”
ความสูงของโทเฮย์กับลิซซี่นั้นไม่ได้ต่างกันมาก พอกอดกันระดับใบหน้าของทั้งคู่เลยเสมอกัน โทเฮย์จึงได้สูดกลิ่นผมของลิซซี่ไปโดยปริยาย




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สิ่งที่ต้องปกป้องให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกมันและก็มนุษย์คืออะไรกันแน่!?

ข่าวคราวการพบเจอ ‘มนุษย์กลายร่างลึกลับ’ ถูกส่งมาถึง U-NASA สถานที่คือป่าลึกบนคาบสมุทรยูกาตัน ทวีปอเมริกากลาง ที่ซึ่งมีโบราณสถานอารยธรรมมายา ทีมสกาเวนเจอร์สซึ่งประกอบด้วยทาจิบานะ โทเฮย์ กับอลิซาเบธ รูนี่ย์ที่เป็นผู้เข้ารับการผ่าตัด M.O. แต่ผลลัพธ์ออกมาไม่สมบูรณ์ ได้รับคำสั่งให้ไปทำการสำรวจพื้นที่ดังกล่าว นอกจากพวกเขาแล้วก็มีสมาชิกคนอื่นอีก ได้แก่ โคโนะ ไคกิที่มาเป็นหัวหน้าทีม กับชีล่า อเล็กซ์ และมาร์กอสที่เป็นคนพื้นถิ่นของแกรนด์เม็กซิโกซึ่งเป็นสถานที่ที่จะไปสำรวจในครั้งนี้!!

พวกโทเฮย์มุ่งหน้าไปที่หมายซึ่งเป็นโบราณสถาน ทว่าสิ่งที่รอพวกเขากลับเป็นพวกเทราฟอร์เมอร์ดัดแปลงซึ่งใช้การผ่าตัด M.O. ที่หลากหลายอันเป็นมรดกชั่วร้ายของยามาบะ!! ณ ปลายทางของการต่อสู้อันดุเดือด สิ่งที่คู่ควรแก่การปกป้องคือ....!?

นิยายภาคเสริมที่ควบคุมดูแลโดยเจ้าของผลงานดั้งเดิม การต่อสู้ที่ดุเดือดในเล่ม 3 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!!


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”