New Release โรแมนติก : ไฟเถื่อนผลาญสวาท

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1068
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release โรแมนติก : ไฟเถื่อนผลาญสวาท

โพสต์ โดย Gals »

ไฟเถื่อนผลาญสวาท โดย ช่อมาลี
บทที่ 1
“ที่ไหนเนี่ย ฉันอยู่ที่ไหน อืม...ปวดหัวจัง”
หญิงสาวที่งัวเงียตื่นขึ้นในสถานที่แห่งหนึ่งไม่คุ้นตา อาการในหัวมึนงงคล้ายคนเมารถเมาเครื่องบินขยับตัวลุกขึ้น สายตาเบลอๆ กวาดสำรวจรอบห้องเล็กๆ มีเพียงเตียงมุมห้องที่เธอนอน กับโต๊ะมุมห้องไม่มีเก้าอี้เท่านั้น ตกลงที่ไหนกันแน่
และแล้วสายตาของเธอก็ปะทะกับร่างผู้ชายตัวสูงใหญ่ แต่งตัวอย่างชาวเล ไว้หนวดเคราล้อมกรอบใบหน้าไม่รกมาก พอเดาเค้าโครงหน้าออกว่าคมเข้ม ทว่าหนวดเครานั้นทำให้เขาน่ากลัวในคราวเดียวกัน
“คุณ...คุณเป็นใคร” หญิงสาวเอ่ยถามเขาด้วยความตกใจ ถดตัวหนี เชื่อว่าผู้ชายคนนี้ต้องไม่ใช่คนดี
“หึๆ ตื่นแล้วสิ” เสียงเขาเยียบเย็นน่ากลัว ย่างก้าวเข้าไปหาผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าถมึงทึงแยกเขี้ยวอย่างกับสัตว์ป่ากำลังจะล่าเหยื่อในห่วงโซ่อาหารที่ตัวเล็กกว่า
“เดี๋ยว คุณจะทำอะไร ว่าแต่คุณเป็นใคร ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่” หญิงสาวส่งเสียงถามอย่างหวาดหวั่น เกรงภัยร้ายถึงตัว
“เธอสนใจด้วยหรือว่าฉันเป็นใคร ไม่ใช่สนใจ...แค่...” เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาว ย่างก้าวช้าๆ พลาง...เอ่อ...ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตบนตัวเขาทีละเม็ด
“คุณ...จะ...ทำอะไร” สถานการณ์ท่าจะไม่ดี ไม่ใช่การจับตัวมาเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่อาจจะร้ายแรงกว่านั้น
“ทำในสิ่งที่เธอชอบยังไงล่ะ”
“ชอบ...หมายความว่ายังไง”
เริ่มคิดได้ว่าการที่เธอมานอนหมดสติ ตื่นมาพบที่แปลกๆ ต้องเป็นการวางยาลักพาตัวอย่างแน่นอน คนคนนี้เป็นใครถึงได้ลักพาตัวเธอมากักขังไว้ คงไม่ใช่พวกค้ามนุษย์นะ สาธุอย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย
“โถๆ ทำตัวไร้เดียงสา หน้าอย่างเธอไม่น่ามีคำนั้นในหัว รู้ไหมหน้าเธอตอนนี้ตีเนียนได้ไร้เดียงสามาก ทำอย่างกับไม่เคยมือผู้ชาย”
“ฉันไม่รู้จักคุณ คุณไม่รู้จักฉัน ประเมินคนอื่นทั้งๆ ที่ไม่รู้จักได้ยังไง”
“เธออาจจะไม่รู้จักฉัน แต่...ฉันรู้จักสันดานเธอดี”
“เดี๋ยวๆ พูดบ้าอะไรของคุณ”
“เล่นละครเก่ง” เขาปาเสื้อเชิ้ตที่ถอดออกจากตัวใส่หน้าเธอ “นลิน สัจจะเมธา คุณบัวผู้แสนน่ารัก เก็บไว้หลอกพวกผู้ชายหน้าโง่เถอะ หน้าแบบนี้ใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก”
สาบานได้ นลินไม่เคยรู้จักหรือแม้แต่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ ไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้ เขาถึงแสดงกิริยาท่าทางหยามเกียรติให้ร้ายกันขนาดนี้
“ฟังนะ ฉันสาบานได้ไม่เคยเจอคุณ”
“เก็บคำพูดไปบอกกับบรรดาผัวของเธอเถอะ อย่าพูดกับฉัน เพราะฉันไม่สนว่าเธอจะพูดอะไร”
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉัน...เอ่อ ฉันร้องให้คนช่วยแน่!”
“ร้องสิ ร้องเลย ผู้หญิง...” เขาใช้.ือนร่างหญิงสาว มองขึ้นมองลงอย่างดูถูกเหยียดหยาม นี่เธอไปทำอะไรให้เขาถึงได้หยาบคายกับเธอขนาดนี้
หญิงสาวเห็นท่าไม่ดีเลยขยับหนี เลื่อนสายตามองคนเบื้องหน้าที่ไม่รู้จักอย่างหวาดระแวง ระแวดระวังตัว
เอาอย่างไรดี เธอคิดหาทางออกให้กับสถานการณ์ย่ำแย่ตอนนี้ ไม่มีทางหนีได้เลย ใจนลินไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตั้งแต่ลืมตาขึ้นมา จนตอนนี้หวาดกลัวแทบขาดใจ
“กรี๊ดดด” ทันใดนั้นมือใหญ่กระชากตัวเธอแบกขึ้นบ่าไปโยนลงบนเตียงอันเดิม หูของเธอได้ยินเสียงคลื่น แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดนอกจากพาตัวเองให้รอดออกจากกรงเล็บหมาป่าที่กำลังล่าลูกกวางตัวเล็กๆ ให้ได้ซะก่อน
“อย่านะ...แกจะทำบ้าอะไรฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” หญิงสาวทั้งผลักทั้งถีบ มีแขนมีขากี่ข้างก็เหวี่ยงออกมาป้องภัยให้ตัวเอง
“อ๊ะ...มีดีดดิ้นโก่งราคา คนอย่างเธอไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย อย่าดิ้นไปเลยฉันรู้หมดแล้ว” น่ารำคาญพวกโก่งค่าตัวทั้งๆ ที่ตัวเองเน่าเฟะมาเท่าไรต่อเท่าไร
“พูดบ้าอะไรของแก อย่ามายุ่งกับฉัน แก...ต้องการเงินเท่าไรเอาไป ฉันจะให้ ขอให้ปล่อยฉันไปก็พอ”
“ฉันรวย ไม่ต้องการเงินของเธอ ปล่อยเธอไปก็โง่สิ ปล่อยให้เธอไปทำร้ายคนอื่นหรือ ฉันไม่สิ้นคิดขนาดนั้นแน่”
“มันจะมากไปแล้วนะไอ้บ้า ไอ้สถุน” ฝ่ามือเล็กเงื้อตบคนเหนือร่างทันใด นอกจากเขาไม่เจ็บ กลับมองนลินราวกับจะฆ่า
“เธอไม่มีสิทธิ์เอามือสกปรกของเธอมาตบฉัน กล้าดียังไงหา!!!” เขาคำรามลั่น ขบกรามแน่นจนขึ้นสัน
“ปล่อยฉัน บอกให้ปล่อย อย่าเข้ามา อย่าทำฉัน”
หญิงสาวถูกร่างสูงใหญ่ทาบทับกดตัวไว้จนหาทางเอาตัวรอดไม่เจอ นึกถึงแต่พ่อ วอนขอให้พ่อมาช่วย แต่คงป่วยการ เธอคงโดนคนชั่วช้าเลวทรามลักพาตัวมา
จะทำอย่างไรดี ไม่นะ เราต้องหาทางเอาตัวรอด
มือใหญ่คว้ามือเล็กจับกดลงบนเตียง ใช้ร่างกายสูงใหญ่บังคับกักตัวหญิงสาวไว้ทุกส่วน ต่อให้เธอดิ้นจนขาดใจ เขาก็ไม่มีวันปล่อยผู้หญิงเลวๆ ให้รอดพ้นไปล่อลวงผู้ชายคนอื่นอีกเป็นอันขาด เธอต้องตายอยู่ใต้ร่างร้อนแรงของเขา ดีเท่าไรคนระดับเขาเสียสละร่างกายอันมีค่าเพื่อสั่งสอนผู้หญิงสำส่อนอย่างเธอ
“อื้อ...” ปากที่กำลังจะอ้าพูดอะไรก็ตาม ไม่ว่าขอร้องหรือก่นด่า สิ้นหวังหมดสิทธิ์เรียกร้องขอความปลอดภัยให้ตัวเองเมื่อชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อดุดัน คมเข้มด้วยหนวดเครา กั้นเสียงครางเธอไว้ด้วยการประกบปิดปากบดขยี้อย่างรุนแรง
นลินพยายามดิ้นหนีความกักขฬะที่เพิ่งพบเจอในชีวิต ทำไมเธอต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ คนเราหน้าตาไม่ได้บ่งบอกความเป็นคนดีหรือไม่ดี การต่อสู้ของเธออ่อนแรงลงทุกที เมื่อเขาไม่มีทีท่าจะหยุดการกระทำป่าเถื่อนต่อร่างกายของเธอ
แควก!!! มือใหญ่ชั่วช้าฉีกเสื้อผ้าของเธอจนขาดวิ่นแล้วโยนทิ้งอย่างกับเศษผ้า นลินไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ย่ำแย่นี้ดี ราวกับชีวิตกำลังจะไปเฝ้ายมทูต เธออยากร้องไห้แต่กลับทำไม่ได้ ในเมื่อคนป่าเถื่อนไม่คิดปรานีต่อเธอเลย
เขาจูบอย่างรุนแรงบดขยี้ ไม่สนใจความเจ็บปวด ไม่ฟังเหตุผล ไม่แนะนำตัวกันก่อน มาถึงก็ด่าๆ รังแกร่างกายของเธออย่างเลือดเย็น
ผ้าปูที่นอนเก่าๆ ยับย่น หลุดลุ่ยพอกับเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวเธอ ไม่นานร่างกายของเธอก็เปลือยเปล่า เขายังคงจูบเธอ ซอกซอนจมูกโด่งไปตามร่างกายของเธอที่อ่อนเรี่ยวสิ้นแรงในการดิ้นรนต่อสู้เพื่ออิสระของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่หน้าอกที่ไม่มีกรวยห่อหุ้ม
ร่างบอบบางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้แต่กลับไร้ความหมาย สองมือของเธอยังคงถูกตรึงไม่ให้พบกับอิสระ
หน้าอกคู่งามสวยราวกับไม่เคยผ่านการแตะต้องจากชายใดมาก่อนถูกเขาบีบเคล้นอย่างมันมือด้วยความกระหาย จากความรู้สึกทีแรกอยากทำให้เธอตายทั้งเป็น ครั้นพอจัดการลอกคราบของเธอออกจนหมดจดกลับพบว่าร่างกายผู้หญิงคนนี้สวยงามอย่างไร้ที่ติ
ดอกบัวสองดอกชูช่ออวดความนุ่มหยุ่นสวยงามราวกับดอกบัวเพิ่งแรกแย้ม เขาโยนอาการชื่นชมทิ้งไป มีเพียงความกักขฬะป่าเถื่อนที่แสดงออกด้วยความแค้นต่อเธอ
เขาไม่มีวันใจอ่อนกับผู้หญิงแพศยา ชอบเอาเสน่ห์เข้าแลกกับความไว้ใจของผู้ชาย ทำให้ผู้ชายหลงหัวปักหัวปำ เขาต้.่างเดียวเท่านั้น
“แกล้งดิ้น หึๆ” เขาเค้นเสียง แม้ว่าปากใช้ครอบครองปลายยอดดอกบัวสวยงามอยู่ ส่วนมือยังคงบีบเคล้นความนุ่มหยุ่นพอดีฝ่ามือ ไม่อวบใหญ่หรือเล็กเกินไป
“ปล่อย...ฉันเถอะ ฉันขอร้อง ระหว่างคุณกับฉันไม่เคยรู้จักกัน อย่าทำฉันเลย” เสียงอ่อนแรงอ้อนวอนต่อเขา
“หุบปาก เธอนี่มันสารพัดมารยา เพราะฉันไม่ได้เสนอตัวเลขให้เธอน่ะสิ เธอถึงยังดีดดิ้น”
“ไม่...ได้โปรด ฉันไม่อยากได้สิ่งที่คุณ...อืม...ว่า...” เสียวจนกายสั่น เขาทำอะไรกับเธอกันแน่
“เธอชอบนี่เรื่องแบบนี้” ชายหนุ่มยกตัวขึ้น มองหน้าแดงซ่านของเธอด้วยแววตาเกลียดชัง เกลียดนักผู้หญิงเล่นละครเก่ง ไม่ทีทางทำให้เขาหลงกลได้
“ไม่...” ไม่ทันได้พูดอะไร ร่างกายสูงใหญ่ทิ้งลงมาทาบทับอย่างว่องไวอีกครั้ง ครั้งนี้รุนแรงกว่าเป็นสองเท่า เพราะบนเนื้อตัวร้อนผ่าวของเขาปราศจากสิ่งห่อหุ้ม
นลินไม่อาจทนมองจึงหลับตาดิ้นหนี เขากักตัวเธอไว้ด้วยร่างกายหนากว่าอย่างผู้ชายแข็งแรง มือใหญ่ราวคีมเหล็กจับมือทั้งสองข้างตรึงไว้เหนือศีรษะ
ซอกคอขาวเนียนถู.้วยจมูกโด่งที่มาพร้อมกับปากร้อนเร่า จัดการดูดเม้มหนักหน่วงจนรู้สึกถึงความแสบร้อน จากที่ต่อต้านรุนแรงกลายเป็นอ่อนแรง ทำได้แต่หอบหายใจ
เธอควรทำอย่างไรดี ไม่คิดเลยว่าเธอที่ไม่เคยทำร้ายใครกลับต้องมาโดนกระทำแบบนี้
ยิ่งเขาสำรวจและกระทำต่อร่างกายผู้หญิงที่สุดแสนขยะแขยงเกลียดเข้าไส้ สิ่งที่ค้นพบคือความอ่อนนุ่มกำลังหล่.ี่ตั้งใจไว้ เขาต้องไม่ใช่เหยื่อของเธออีกคนที่จนตรอกซมซานมาซบอกเธอ เป็นเธอต่างหากที่ต้องเป็นเหยื่อความแค้นของเขา
กองทัพสับสน ปณิ.ังถูกทำลาย ผู้หญิงคนนี้มารยาร้ายกาจ มีแต่ความแพศยา ไม่ควรใจอ่อนต่อเธอไม่ว่ากรณีใดทั้งนั้น
ให้ตาย ปากร้อนจูบอย่างบ้าคลั่งไล่ลงมาถึงหน้าอกคู่สวยที่เต่งตึงไม่หย่อนคล้อย แต่กลับหยุ่นนุ่มเด้งสู้มือดีเป็นบ้า หน้าท้องแบนราบมีรอยนูนของกล้ามเนื้อนิดๆ คล้ายว่าเธอเป็นคนรักสุขภาพ ออกกำลังกายประจำจนมีกล้ามเนื้อสวยงาม
เขาสำรวจหญิงสาวไปทุกตารางนิ้ว ในระหว่างที่เธออ่อนแรงจนสิ้นเรี่ยวแรงต่อต้าน ปากเขาก็พบว่าไต่มาจนถึงแอ่งน้ำเล็กๆ ใจกลางร่างกาย
“อืม...” เขาครางพร่าในลำคอ รู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าชิดปากร้อน ช่าง...สวยจนต้องเผลอคราง ความนูนความเนียนป่วนใจหมาป่าจนหัวใจกระโดดออกจากอก “สวย...เป็นบ้า” เสียงคำรามพ่นออกมาจับใจความยาก แต่เขารู้ว่าตัวเองครางว่าอะไร
ฝ่ามือลูบไล้ความโหนกนูนอวบอิ่มกลางกาย ส่วนนั้นของเธอไม่ธรรมดา เรียกร้องก้อนเนื้อของความเป็นชายให้แข็งตึงจนปวดร้อน เขาอยากสำรวจเธอทั้งที่บอกแต่แรก ตนนี่แหละจะสั่งสอนความร่านของเธอเอง
เวรล่ะ! ทำไมตอนนี้ต้องอยากสำรวจเธอด้วย ไม่สิ...เขาต้องไม่ให้ความสำคัญกับเธอแต่อย่างใด
คิดได้ตามนั้น กองทัพ อภิมหาร่ำรวย จึงลงมือกับร่างที่อ่า...จัดว่าสวยที่สุดเท่าที่เขาเคยผ่านผู้หญิงมาอย่างโชกโชน ช่างเถอะ ไร้สาระ อย่าใส่ใจความสวยล่อลวงมีพิษร้าย
“กรี๊ดดด!!!” ไม่พูดพร่ำ ไม่รอชื่นชมให้เสียเวลา เขาก็พาก้อนเนื้อปวดหนึบยัดเข้าช่องแคบทันใดโดยไม่โหมโรง หรือแม้แต่รอให้เธอเตรียมใจ
กองทัพได้พบว่าเขาไม่สามารถผ่านเส้นทางนั้นเข้าไปได้ง่ายๆ ทุกอย่างคับแน่นไปหมด การมาถึงตรงนี้ต้องไปต่อ หยุดกลางคันตัวเองเป็นฝ่ายแย่ จนกระทั่งชายหนุ่มหุนหันดุดันผ่านทางเข้าไปจนสุดลำก็เห็นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดของหญิงสาว หึๆๆ มารยาชัดๆ
นลินกัดปากแน่นด้วยความเจ็บ ใจกลางความสาวเจ็บปวด แสบจี๊ดเมื่อของแข็งสอดแทรกผ่านเข้าไป เขาไม่สงสารเธอเลย ยัดความใหญ่เข้ามาทั้งดุ้น สองมือจิกขยุ้มกับที่นอนจนยับแทบจะขาดติดมือเพื่อใช้ระงับความเจ็บ แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอเจ็บน้อยลง
ยิ่งเขาขยับส่วนสะโพกเพื่อกระแทกกระทั้นท่อนเนื้อแข็งขึงเสียดสีกับทางแคบของเธอ ร่างกายหญิงสาวก็เหมือนจะปริแยกออกจากกันราวกับแผ่นดินตอนเกิดแผ่นดินไหว
“ได้โปรด หยุดเถอะ ฉันเจ็บ” พอเขาขยับทีเธอก็รู้สึกเจ็บ ซ้ำมีบางอย่างแปลกประหลาดแทรกมาพร้อมความเจ็บ น้ำตาหญิงสาวหลั่งริน เจ็บปวดหัวใจแทบปางตาย คนคนนี้เป็นใครทำไมต้องทำกับเธออย่างนี้
“แสดงเก่ง” เธอเรียนมารยามาจากสถาบันไหน เชื่อว่าคงเป็นหลักสูตรขั้นสูงจนคนจับไม่ได้ ที่ผ่านมาก็คงอย่างนี้ ใครหลงเชื่อมารยาสาไถยก็บ้าเต็มทน
“หุบปากซะ เก็บเสียงไว้ครางสิถึงจะถูก” เขาตวาดด่าพลางขยับสะโพกต่อเนื่อง ไร้ทีท่าจะใจอ่อนยอมทำตามคำขอของคนใต้ร่าง
ร่างกายกองทัพร้อนผ่าว ยิ่งเขาโยกความต้องการยิ่งกระโดดไปถึงจุดสูงแต่ไม่สูงสุด ต้องการปลดปล่อยความคลั่งของผู้ชายที่อยู่ในร่างกาย
ผู้หญิงคนนี้จุดประกายความคลั่งในตัวเขาได้อย่างดีเยี่ยม มิน่า...ผู้ชายถึงหลงเสน่ห์เธอจนโงหัวไม่ขึ้น ร้ายนักนะ เขาครางด่าเธออยู่ในใจ
มือใหญ่จับสะโพกกลมกลึงลื่นมือเปลี่ยนท่า ร่างร้อนผ่าวอ่อนแรงจากการใช้แรงเท่าที่มีต่อสู้ เธอถูกจับพลิกเหมือนเยลลี่ อ่อนแรงยากต่อสู้
กายใหญ่สอดแทรกความแข็งขึงเข้าไปตอกตรึงเธออีกครั้ง ครั้งนี้ก็รุนแรงไม่ต่างไปจากทุกครั้ง ในเวลาคนตัวใหญ่ขยับสะโพก มือใหญ่จะจับสะโพกสวยงอนงามให้อยู่ในท่าทางคลานเข่า เธอไม่ยอมให้ความร่วมมือเขาก็จัดแจงเองด้วยการบังคับอย่างป่าเถื่อนเอาแต่ใจ
เขาพาตัวเองที่ปวดจนแทบระเบิดยัดเข้าทางเดิม ใบหน้านลินแนบกับที่นอน ถูไถไปตามแรงที่เขากระแทก มาถึงตอนนี้เธอปฏิเสธกับตัวเองไม่ได้ว่าเริ่มมีความรู้สึกเสียวซ่านแปลกๆ เกิดขึ้นจนร่างกายอ่อนแรงปล่อยใจไปกับเขา
กองทัพพบความสุขในแบบผู้ชายที่ไม่เคยได้รับ ร่างกายผู้หญิงคนนี้นุ่มแน่นจนเขารู้สึกว่าแค่โยกไม่กี่ที ตนเกือบไปถึงสวรรค์ ทั้งที่แอบคิดว่าผู้หญิงคนนี้ก็แค่เหยื่อความแค้นที่เขาต้องเอาคืน ไม่มีคุณค่าใดๆ เลย ทำไมล่ะ เธอถึงได้ทำให้เขาพบความสุขไร้ขีดจำกัดแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ไม่จริง ทุกอย่างเป็นมารยา แค่ภาพมายา ร่างกายเธอถูกผู้ชายใช้งานมาอย่างโชกโชน ความสวยที่เห็นเป็นเพราะผู้หญิงอย่างเธอจำเป็นต้องรักษาผิวพรรณรูปร่างให้ดูดีอยู่เสมอเพื่อใช้สิ่งนี้ล่อลวงผู้ชายหน้าโง่ๆ ทั้งหลาย
ชายหนุ่มบอกตัวเองอย่างหนักแน่น ห้ามหน้าโง่ เป็นแมลงหลงความสวยของดอกไม้เน่าๆ ดอกนี้เด็ดขาด
เมื่อใจกระหาย ร่างกายปวดร้าว มือร้อนก็จับเรียวขาเนียนยกขึ้น แล้วเขาก็เดินหน้ากระแทกท่อนเนื้อปวดนั้นเข้าไปอีกอย่างต่อเนื่องภายใต้การป้องกันอย่างดีจากหมวกนิรภัยสำหรับท่านชาย
“โอววว” หมาป่าสะใจในความสด แนบแน่น บีบรัดท่อนเนื้อจนอึดอัด จึงเผลอหลุดเสียงคำรามด้วยความสุขที่แล่นอยู่ทั่วร่างกายที่มีก้อนหัวใจสูบฉีดความแค้นอยู่ในอก ตอนนี้เมื่อได้ชิมรสสวาทจึงเต้นไม่เป็นจังหวะจากการใช้เรี่ยวแรงโถมเข้าใจกลางกายสาว
หมาป่ากระแทกตัวเองอย่างต่อเนื่อง อัดแน่นความคั่งแค้นไว้อย่างเต็มกำลัง “โอ้ววว” คราวนี้ไม่ใช่การเผลอ แต่เป็นการครางจริง
ในการขย่มสะโพกอย่างต่อเนื่อง เร่งรีบไม่หยุดพัก ทีนี้ร่างกายใหญ่โตพบว่าตัวเองกระตุก พ่นลาวาร้อนใส่ถุงที่ห่อหุ้มท่อนเนื้อแข็ง ร่างกายของผู้หญิงร่านสวาทคนนี้ทำให้เขาเกือบบ้าคลั่ง ผิวสวยไร้จุดตำหนิแม้แต่จุดเดียว
เขาไม่อยากมองผู้หญิงแพศยาเต็มสองตา พอเห็นร่างกายสวยงามของเธอจึงจำต้องเบือนหน้าหนี หลังจากจัดการพ่นสารขาวข้นจนหมดจึงดึงสิ่งป้องกันออก ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่มีร่างเล็กแสดงสีหน้าเกลียดเขาสุดชีวิต
ช่างเถอะ หน้าแบบนี้เขาไม่ใส่ใจ ขอได้แก้แค้นให้คนที่เขารักเป็นพอ
เสร็จกิจกองทัพเดินหนี หยิบเสื้อผ้ามาสวม ไม่ใส่ใจร่างที่นอนเปลือยเปล่า เธอคงแสร้งทำเป็นร้องไห้เรียกร้องความเห็นใจเท่านั้น นลินมองเขาก้าวออกไปจากห้อง รีบรวบผ้าห่มห่อกายพุ่งไปตรงประตู
“นี่ ปล่อยฉันนะ แกได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ปล่อยฉันเถอะ ปล่อย!” กำปั้นอ่อนแรงทุบประตู ตะโกนขอร้องเขาแต่ไม่เป็นผล ประตูถูกปิดปัง! ปิดกั้นเธอจากโลกภายนอก
ร่างบอบช้ำทรุดลงนั่งพิงประตูอย่างสิ้นความหวัง “พ่อ...มาช่วยหนูหน่อย พ่อ...” ร่ำไห้อย่างเจ็บปวด “ที่นี่ที่ไหน เขาเป็นใคร ไอ้สารเลวคนนั้นเป็นใคร” เธอคร่ำครวญแต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล
งานของเธอจะทำอย่างไร ก่อนหน้านั้นนลินกำลังเดินทางไปทำงานที่ไซต์งานต่างจังหวัด โดยถูกว่าจ้างให้ออกแบบตกแต่งบ้านลูกค้า ทันทีที่ย่างก้าวเข้าไปในบริเวณบ้านหลังนั้นก็มีคนรวบตัวเธอจากด้านหลังแล้วโปะยาสลบ กระทั่งตื่นขึ้นมาบนเตียงเล็กในห้องแคบๆ ที่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนในประเทศไทย แต่หูได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่ง บ้านหลังนี้ต้องปลูกใกล้ทะเลที่ไหนสักแห่ง
“เฝ้าให้ดี อย่าให้หนีเด็ดขาด” กองทัพสั่งลูกน้อง
“ครับนาย ผมขอถามได้ไหมครับ”
“ว่ามา”
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครครับ”
“หึๆ ไม่ต้องสนใจ ก็แค่ผู้หญิงสารเลวคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
“ครับ” ถ้าเจ้านายบอกห้ามสนใจ ลูกน้องอย่างสุเมธจึงต้องหุบปาก ห้ามซักไซ้ใดๆ อีก
“ไปตามป้าฟองมาพบฉันเดี๋ยวนี้”
“ครับนาย” สุเมธถอยหลังออกไปจากห้องเพื่อเดินไปตามป้าฟองตามที่เจ้านายสั่ง เขาเป็นลูกจ้างไม่กล้าโต้แย้งหรือไต่ถามอะไรมากกว่ารับคำสั่ง เมื่อกองทัพเป็นเจ้าของเงินค่าแรง แม้เห็นอยู่กับตา สิ่งที่เจ้านายทำไม่ถูก ตนก็มีสิทธิ์แค่ดูเฉยๆ
“แม่ๆ นายเรียก” สุเมธเรียกมารดาเป็นภาษาใต้
“มีอะไร” ฟองก็ตอบลูกเป็นภาษาถิ่นใต้เช่นกัน
“รีบไปเถอะ อย่าถามมาก หน้านายไม่ใช่จะล้อเล่นง่ายๆ”
“ปกตินายก็ใจดี ทำไมวันนี้เอ็งพูดแบบนี้ล่ะเมธ”
“คงเรื่องผู้หญิงคนนั้นมั้ง”
“เออ...นั่นสิ ฉันอดสงสารไม่ได้”
“ไปเถอะแม่ อย่ามัวช้า”
ป้าฟอง สตรีวัยกลางคนผิวคล้ำ ผมหยักศก นุ่งผ้าถุงแขกลายดอก เดินไปตามทางลาดจนถึงบ้านพักของเจ้านายที่ปลูกอยู่ริมหาดขาวสะอาด ที่นี่เป็นเกาะส่วนตัว กองทัพซื้อไว้เพื่อทำธุรกิจฟาร์มหอยมุก แวะมาพักผ่อนมาตรวจงานบ้างตามแต่โอกาส
“มีอะไรจะใช้อิฉันคะนาย” ป้าฟองย่อตัวลงนั่งกับพื้น รอรับคำสั่งเจ้านาย แกพูดภาษากลางลิ้นแข็งอย่างคนใต้
“หาเสื้อผ้ากับของกินเข้าไปให้ผู้หญิงคนที่อยู่ในห้องด้วย”
“ป้าถามได้ไหมคะว่าเธอเป็นใคร”
“ไม่ต้องถามมาก ทำตามที่สั่งก็พอ” เขาตวาดว่าคนงานเสียงเครียดไม่ต่างกับสีหน้า
“ค่ะๆ ป้าไม่ถามก็ได้”
ปกติกองทัพเป็นคนนิสัยดี มีเมตตา ติแค่ดุไปหน่อยเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องน้ำใจไม่เคยแห้งแล้ง เมตตากับคนงานทุกคน เลี้ยงคนงานเป็นอย่างดี ไม่ให้ขาดเงินขาดทอง การอยู่การกิน ทว่าตั้งแต่พาผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นมาเจ้านายดุดันหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันใด ไม่รู้มีเรื่องอะไรกัน
ผู้หญิงนั้นคือใครกันนะ ดูหน้าตาไม่น่ามีพิษภัย กลับทำให้กองทัพกลายเป็นยักษ์เสียได้
“เฝ้าให้ดี อย่าให้หนีเด็ดขาด”
“ค่ะนาย”
“ไปได้แล้ว” เขาปัดมือไล่คนงานหญิงอาวุโส
ป้าฟองลุกขึ้น พอก้าวออกไปก็ได้แต่ถอนหายใจ นึกสงสารผู้หญิงคนนั้นจับใจ แม้ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงด้วยกันจึงอดสงสารเป็นห่วงไม่ได้ แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องส่วนตัวของเจ้านาย เชื่อว่าคงมีเหตุผลที่บอกกับคนอื่นได้ยาก แค่ทำตามหน้าที่พอ จะได้ปลอดภัยต่อตัวเอง
นลินนอนซมไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ใช้ผ้าห่มห่อร่างกายเปลือยเปล่าแสนร้าวระบมไว้เท่านั้น เสื้อผ้าของเธอขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี ในห้องนี้ปิดทุกด้านไม่ว่าหน้าต่าง ประตู ถูกล็อกทุกบานจากด้านนอก
พอเสียงเคาะประตูดังขึ้น ร่างที่อ่อนแรงเพราะสิ่งที่ผู้ชายทุเรศคนนั้นทำไว้ก็รู้สึกตัว ค่อยขยับตัวลุกขึ้นจากผ้าปูที่นอนยับที่คลุมฟูกหนาไว้
“สงสัยจะมีคนมาช่วยเรา”
“คุณคะ...คุณ” เสียงผู้หญิงไม่น่าจะสาวเรียกอยู่ด้านนอก ความหวังในใจนลินทอประกาย ที่นี่มีผู้หญิง อย่างน้อยก็ทำให้เธอใจชื้น




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จู่ๆ เธอก็ตื่นขึ้นมากลายเป็นนางบำเรอสวาทของเขา แม้ นลิน จะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรหรือเจ้าของหน้าคมเข้มคนนี้เป็นใคร ทว่า กองทัพ กลับรู้ทั้งชื่อและนามสกุลของเธอราวกับรู้จักดี ใครจะไปคิดว่าน้องสาวต่างมารดาจะแอบอ้างชื่อเธอทำตัวเหลวแหลกคบหาผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเพียงเพื่อให้เธอเสียชื่อ จนเป็นชนวนเหตุให้เขาต้องเสียน้องชายเพียงคนเดียวไป แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่หญิงสาวไร้เดียงสาเวลาอยู่บนเตียง แต่เขาก็มองว่ามันเป็นมารยาพันเล่มเกวียนของเธอ
“อย่าแตะต้องตัวฉัน”
หญิงสาวสะบัดแขนออกจากการบีบ
“ฉันทำมากกว่าแตะ ไม่เห็นเธอตายนี่ แถม...ยังครางอีกต่างหาก”
หน้าตาเขากวนประสาทอย่างเป็นต่อ


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”