New Release : ท่านเคานท์กำมะลอกับผู้กล้าในตำนาน (เล่ม 8)

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1068
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : ท่านเคานท์กำมะลอกับผู้กล้าในตำนาน (เล่ม 8)

โพสต์ โดย Gals »

ท่านเคานท์กำมะลอกับกระจกเนื้อคู่


ฉันโดนเวทมนตร์
ด้วยเหตุนี้เวลาอยู่ต่อหน้าท่านเคานท์ฉันจึงพูดอะไรไม่ออก
เพราะเจ้าหญิงเงือกน้อยที่ขึ้นมาบนบกไม่สามารถพูดอะไรต่อหน้าเจ้าชายได้

รอยยิ้มอ่อนโยนชวนละลายประดุจขนมน้ำตาลแสนหวานดึงดูดให้ฉันอยากจดจ้องไปตลาดกาล ต่อให้ฟันผุจนหมดปากก็ไม่ครั่นคร้าม
หากได้ยินเสียงอาจหาญเย็นสบายของเขา นักร้องหญิงระดับดีวาจากทุกมุมโลกคงสิ้นหวังและพร้อมใจแขวนไมค์อำลาวงการกันไปหมด ถ้าจับมาขังไว้ในกรง เขาจะกระซิบพร่ำเรียกชื่อฉันทุกคืนวันหรือเปล่า
เรือนผมสีทองทอประกายเจิดจ้า แม้แต่เทพพระอาทิตย์ยังหวั่นเกรงจนต้องยอมสยบแทบเท้า ในโลกหล้านี้คงไม่มีสิ่งไหนเจิดจรัสไปกว่าท่านเคานท์อีกแล้ว
ดวงตาสีฟ้าอมเทาใสบริสุทธิ์ เปรียบเสมือนอัญมณีล้ำค่าซึ่งไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทนได้ ต่อให้รวบรวมดวงตามังกรที่ทำให้เป็นอมตะมาได้ทั้งหมดยังหาค่าเทียบไม่ได้เลย หากได้จดจ้องดวงตาคู่นี้ อายุคงยืนขึ้นอีกเป็นพันปี

อ้า ทำไมกัน
ทำไมพระเจ้าถึงช่างใจร้าย ให้ฉันเป็นเจ้าหญิงเงือกน้อยไร้เสียง ทั้งที่ฉันรักเขาจนหมดหัวใจ....
แต่ก็ดีแล้วแหละ
แค่ได้แอบมองรอยยิ้มของเจ้าชาย เจ้าหญิงเงือกน้อยก็มีความสุขแล้ว....

****

บ่ายของวันหนึ่งที่ฤดูร้อนใกล้มาเยือน
ภายในศาลาเปิดสร้างด้วยหินสีขาว เลดี้เอนน์ พระคู่หมั้นขององค์มกุฎราชกุมารเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงน้ำชาเล็กๆ ขึ้น
“....กระจกเนื้อคู่?”
มิเรย์เพิ่งเคยได้ยินสิ่งนี้เป็นครั้งแรกจึงถามซ้ำด้วยความสนอกสนใจ เลดี้เอนน์มองเธอกลับขณะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“เมื่อเช้าฉันได้ยินเหล่านางกำนัลคุยกันค่ะ เป็นของที่ท่านรูดี้นำกลับมาจากต่างประเทศ ว่ากันว่าหากส่องกระจกนั้นตอนกลางดึก กระจกจะสะท้อนใบหน้าของเนื้อคู่ให้เห็นค่ะ”
“เอ๋....”
รูดี้ผู้ขนานนามตัวเองว่าเป็นแม่มดมักเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และนำของแปลกหายากมายัดเยียดขายให้คนในพระราชวังเสมอ ซึ่งครั้งนี้คงเป็นอะไรเทือกนั้นล่ะมั้ง
“แล้วสะท้อนจริงๆ หรือเปล่า?”
“ฉันเองก็ยังไม่ได้ลองเหมือนกัน จึงตอบไม่ได้ค่ะ ท่านมิ.... ไม่ใช่สิ ท่านเคานท์ลองไปส่องดูสิคะ?”
“เอ๋!?”
ไม่รู้ทำไมจึงเป็นเจ้าหญิงเซซิเลียที่อุทานเสียงหลงออกมาแทน เมื่อเจ้าหญิงเห็นว่ามิเรย์หันมามองตาปริบๆ แก้มของพระองค์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที ทรงกล่าวแก้ตัวเสียงดังด้วยท่าทีร้อนรน
“บะ แบบนั้นไม่ได้นะคะ ท่านพี่ หากท่านเคานท์ส่องกระจกมีหวังกระจกคงแตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะเขาเป็นผู้ชายกะล่อนและเจ้าชู้ที่สุดในมวลมนุษยชาติ!”
ชิ้ง เซซิเลียส่งสายตาดุดันจดจ้องมิเรย์ ทำเอามิเรย์ซึ่งกำลังดื่มชาอยู่ถึงกับสำลัก หน้าตาของเจ้าหญิงทั้งน่ารักน่าเอ็นดู แต่สายตากลับทรงอานุภาพมาก มิเรย์รู้สึกเหมือนถูกยิงลูกกระสุนใส่จนล้มกระเด็น ดูท่าเจ้าหญิงคงเกลียดพี่ชายของตนเข้าไส้
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? นี่ค่ะ”
น้ำเสียงเย็นๆ ดังขึ้น จังหวะเดียวกันนั้นผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตา มิเรย์เงยหน้าขึ้น ซิลแฟลร์ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ กำลังมองมาที่เธอ
“ไม่โดนลวกตรงไหนใช่ไหมคะ? ฉันจะชงชาอุ่นๆ ให้ใหม่ค่ะ”
“อ๊ะ.... ขอบคุณมาก”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันเอาขนมให้ ท่านเคานท์รับแบบไหนดีคะ?”
“อ้า.... ขอบคุณมาก”
เลดี้เอนน์เริ่มเอาอกเอาใจตามไปด้วย อย่างกับสาวๆ กำลังแข่งขันกันอยู่ มิเรย์กล่าวขอบคุณด้วยใบหน้าแข็งเกร็ง
....ผู้ร่วมงานเลี้ยงน้ำชามีด้วยกันทั้งหมดสี่คน
เลดี้เอนน์พระคู่หมั้น เจ้าหญิงเซซิเลีย ซิลแฟลร์องค์ดัชเชสจากประเทศเพื่อนบ้าน และมิเรย์ซึ่งปลอมตัวเป็นพี่ชายของตนเองหรือท่านเคานท์เบลุนฮัลท์ หัวหน้าอัศวินองครักษ์ของเจ้าหญิง
แน่นอนว่ามิเรย์ไม่ได้นิยมแต่งกายเป็นชาย สาเหตุที่เธอต้องปลอมตัวเช่นนี้เริ่มต้นจากเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง มีคนวางแผนการร้ายเกี่ยวกับพระชายาขององค์มกุฎราชกุมาร มิเรย์จึงจำเป็นต้องปลอมตัวเป็นพี่ชายซึ่งหายตัวไป หลังคดีจบสิ้นลง มิเรย์กับเลดี้เอนน์กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ทว่าเฟร็ดพี่ชายของเธอกลับชีพจรลงเท้าและหายตัวไปอีกครั้ง เป็นเหตุให้มิเรย์จำใจต้องปลอมตัวเป็นท่านเคานท์กำมะลออย่างต่อเนื่อง และวันนี้ก็เช่นกัน เธอต้องแต่งกายเป็นชายเข้าร่วม ‘งานเลี้ยงน้ำชาหญิงสาว’
ใบบรรดาสมาชิกงานเลี้ยงน้ำชา มีเพียงเซซิเลียเท่านั้นที่ไม่รู้ความจริงเรื่องท่านเคานท์กำมะลอ
ในสายตาของเจ้าหญิง ท่านเคานท์คงเป็นเสือผู้หญิงที่กำลังนั่งระริกระรี้เพราะมีสาวงามคอยเอาอกเอาใจขนาบข้างล่ะมั้ง เป็นเพราะสุภาพสตรีแสนสวยทั้งสองซึ่งยึดพื้นที่ซ้ายขวานี่แหละ มิเรย์จึงโดนสายตาอาฆาตของเจ้าหญิงทิ่มแทงระรัวตั้งแต่เริ่มต้นงานเลี้ยงน้ำชาแล้ว
“....นั่นสินะ น่าสนใจดี แต่ฉันขอผ่านดีกว่า”
มิเรย์ยกผ้าเช็ดหน้าที่ได้รับมาขึ้นเช็ดปากพลางกล่าวนำบทสนทนาวกกลับมาเรื่องเดิม
ใช่ว่ามิเรย์ไม่สนใจ แต่ติดตรงที่ต้องออกไปส่องกระจกยามค่ำคืนนี่แหละ เหตุการณ์สุดสะพรึงที่ประสบในงานทดสอบความกล้าครั้งก่อนยังฝังใจไม่หาย เธอจึงขอไม่เสี่ยงพบพานอีกเป็นครั้งที่สอง
“แหม น่าเสียดายจัง”
“ท่านเลดี้เอนน์ลองดูก็ได้นี่นา”
“ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉันมีฝ่าบาทเป็นเนื้อคู่อยู่แล้ว อีกอย่างฝ่าบาททรงขอร้องว่าห้ามฉันไปส่องกระจกเป็นอันขาด”
“อ้อ....”
ดูท่าองค์มกุฎราชกุมารคงไม่มั่นใจอะไรบางอย่างในฐานะสามีของเลดี้เอนน์ล่ะมั้ง มิเรย์นึกในใจขณะหันไปมองด้านข้าง
“เช่นนั้นท่านซิลแฟลร์ล่ะ?”
“ฉันขอผ่านด้วยเหมือนกันค่ะ ฉันไม่สนใจของไร้สาระแบบนั้น”
หญิงสาวปฏิเสธเด็ดขาดด้วยใบหน้าเรียบเฉย ฟังจากน้ำเสียงแล้ว สงสัยคงมีเหตุการณ์ฝังใจในอดีตเกี่ยวกับสินค้าแปลกๆ ของแม่มดรูดี้เป็นแน่
“เช่นนั้นท่านเซซิ....”
“ฉันไม่มีทางส่องอยู่แล้ว!?”
ทันทีที่หันหน้าไปหา เซซิเลียตะคอกใส่ด้วยท่าทีหวาดหวั่น มิเรย์นึกไม่ถึงว่าพระองค์จะปฏิเสธดุดันขนาดนี้ เธอถลึงตาโต
“ไร้สาระ คิดจะให้ฉันเสียเวลาอันดีค่าไปกับของเด็กเล่นพรรค์นั้นหรือ? และที่สำคัญฉันไม่เชื่อเรื่องเนื้อคู่อะไรนี่ด้วย ฉันไม่สนใจเลยสักนิด อย่ามาดูถูกกัน!”
เซซิเลียประกาศร่ายยาวใส่มิเรย์เป็นชุด น้ำเสียงปราศจากความเป็นมิตรอย่างสิ้นเชิง
“ฉันไม่มีทางไปเป็นอันขาด!”

****

คืนนั้น
หลังตวาดใส่นางกำนัลซึ่งพยายามห้ามปราม หลบเหล่าอัศวินเวรยามกลางคืนออกมาจากวังลิลลี่ขาว เสียวสันหลังวาบเมื่อเจอกลุ่มแมวดำรวมตัวกันอยู่ระหว่างทาง ในที่สุดเซซิเลียก็ดั้นด้นมาถึงอาคารฟินิกซ์ขาวทางฝั่งตะวันออกของพระราชวังได้สำเร็จ สถานที่แห่งนี้คือคลังเก็บสมบัติของแม่มดรูดี้
พระราชวังยามวิกาลที่ทุกคนต่างหลับใหลนั้นเงียบสงัด เจ้าหญิงออกคำสั่งให้นางกำนัลเฝ้าต้นทาง ก่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ
จะมีใครมาเห็นไม่ได้ พระองค์ต้องรีบส่องกระจกและรีบกลับเข้าห้องบรรทมประหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น....
(ถะ ถ้ามีใครมาเห็นแล้วจะทำไม ฉันไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย แค่ต้องการพิสูจน์กระจกที่เขาเล่าลือเพื่อการศึกษาเท่านั้น เนื้อคู่อะไรเนี่ย ฉันไม่ได้สนใจเลยสักนิด)
เซซิเลียไม่ได้กล่าวกับใคร แต่แก้ตัวอยู่ในใจคนเดียว ถึงอย่างไรคงปฏิเสธไม่ได้ว่าความอยากรู้อยากเห็นและความคาดหวังบางอย่างผุดขึ้นในใจไม่หาย เจ้าหญิงค่อยๆ เปิดประตูออก
เมื่อเข้าไปข้างในก็พบวัตถุเป้าหมายในทันที กระจกถูกติดตั้งลวกๆ บนผนังด้านใน ความสูงแค่ประมาณเอวเท่านั้น ดีไซน์แสนธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น
ความน่ามหัศจรรย์คือ กระจกไม่สะท้อนอะไรกลับมาเลย ทว่าเซซิเลียในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในอารมณ์นึกฉงนว่าเหตุใดกระจกจึงไม่สะท้อนแม้แต่ภาพเงาของตัวเอง
“........”
เจ้าหญิงลองรอสักพัก ทว่าแม้พยายามจ้องตาเป็นมันขนาดไหน แต่พื้นผิวกระจกยังจมอยู่ในความมืดมิดเหมือนเดิม
ภาพบุคคลที่วาดฝันไว้ในใจไม่ปรากฏ เซซิเลียแอบผิดหวัง แต่แล้วความท้อแท้ซึ่งบีบรัดหัวใจพลันแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์โกรธในรูปแบบโมโหแล้วพาล
“ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าของวิเศษเลิศเลอแบบนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก! แล้วที่ฉันต้องเสียเวลาอันมีค่าดั้นด้นมาถึงที่นี่ในยามวิกาล ทั้งหมดเป็นความผิดของท่านเคานท์คนเดียว มีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลัง ออดอ้อนให้สาวๆ คอยเอาอกเอาใจต่อหน้าฉัน ส่วนตัวเองทำหน้าชื่นตาบานหลงตัวเองเสียเต็มประดา....”
เซซิเลียตะโกนร่ายยาวเป็นชุดต่อหน้ากระจก แต่แล้วพระองค์ก็ต้องขมวดคิ้ว
....ใครบางคนอยู่ในกระจก
ไม่ใช่ภาพลวงตา แสงสีทองปรากฏเรืองรองท่ามกลางความมืดมิด ดุจดวงจันทร์ที่สะท้อนเหนือผิวน้ำยามค่ำคืน
เซซิเลียกลั้นหายใจจดจ้องบุคคลในกระจก ไม่แน่ใจว่านั่นคือที่ไหน ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังยืนหันใบหน้าด้านข้างมาทางพระองค์ สีหน้าของเขาแลดูเศร้าสร้อยต่างจากทุกที ไม่ผิดแน่ ชายผู้นี้คือท่านเคานท์เบลุนฮัลท์
“มะ.... ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ฉันต้องละเมออยู่แน่ เพราะนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย....”
เจ้าหญิงพึมพำคนเดียวด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก และดูเหมือนชายหนุ่มซึ่งอยู่อีกฟากของกระจกจะได้ยิน เขาหันมามองทางพระองค์ก่อนเบิกตาโตเล็กน้อย
“ฝ่าบาท? มาทำอะไรที่นี่....”
เซซิเลียถลึงดวงตา เสียงซึ่งกระทบโสตประสาทเป็นของท่านเคานท์ไม่ผิดแน่
เจ้าหญิงแตกตื่น ในเวลาเช่นนี้ควรหน้าแดงหรือหน้าซีดดี สมองเกิดความสับสนจนแสดงปฏิกิริยาตอบกลับไม่ถูก
“มะ ไม่ใช่ นี่เป็นความฝัน หรือไม่กระจกนี่ก็พังไปแล้ว ท่านเคานท์ชอบผู้หญิงแบบท่านพี่และท่านซิลแฟลร์ เขาไม่มีทางสนใจผู้หญิงผมแดงชี้โด่เด่ แถมยังอายุน้อยกว่าเขาตั้งสามปีอย่างฉันหรอก”
เลดี้เอนน์มีเรือนผมสีทองคำขาวงดงามดุจราชินีหิมะ ซิลแฟลร์มีผมยาวดำขลับ ดวงตาสีเขียวชวนพิศวง หญิงทั้งสองล้วนสวยโดดเด่น สเปกของท่านเคานท์คือสุภาพสตรีอายุมากกว่า ส่วนเซซิเลียนั้นไม่มีอะไรตรงสเปกของเขาสักอย่าง พระองค์จึงไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาตั้งแต่แรกแล้ว
เจ้าหญิงกล่าวกับตัวเองด้วยน้ำเสียงขึงขัง ท่านเคานท์มองกลับอย่างงุนงง สงสัยคงได้ยินไม่ถนัด ชายหนุ่มค่อยๆ ยื่นมือออกมา
“หรือฝ่าบาทกำลังจะไปงานเลี้ยงเทพจันทรา? ไม่เช่นนั้นคงไม่ออกมาเดินเล่นกลางดึกเพียงลำพังเช่นนี้ จริงๆ เลย เจ้าหญิงแสนซน รอตรงนั้นก่อนพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรีบไปอยู่เคียงข้างฝ่าบาท ก่อนฝ่าบาทจะถูกชายไม่ดีพรากตัวไป”
ตอนนั้นเองเซซิเลียรีบเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนมา เมื่อเห็นชายหนุ่มในกระจกค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ เจ้าหญิงก็กรีดร้องเสียงหลง
“อย่าเข้ามา! นี่คือความฝัน ฉันแค่กำลังฝันอยู่เท่านั้น!”
“อ๊ะ.... ฝ่าบาท!”
เซซิเลียเมินเฉยต่อเสียงทัดทาน พระองค์หันขวับและวิ่งหน้าตั้งออกไปจากอาคารฟินิกซ์ขาวอย่างรวดเร็ว

****

“....ท่านเซซิเลียนอนซม?”
วันรุ่งขึ้น มิเรย์ซึ่งเพิ่งเข้ามาถึงซาลอนขมวดคิ้วแน่นหลังได้รับรายงานจากเหล่าอัศวินกล้ามโต
ภายในซาลอนคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหงื่อ สงสัยหนุ่มๆ คงแข่งบริหารกล้ามท้องเพื่อความบันเทิงกันตั้งแต่เช้า อากาศร้อนจนไม่สบายตัวขนาดนี้ ทว่าพวกเขากลับไม่คิดจะหยุดพัก ดูท่าหากไม่ได้ขยับมัดกล้าม เหล่าอัศวินคงลงแดงตายเป็นแน่
“แล้วแพทย์หลวงว่าอย่างไร?”
ริฮาร์ททำหน้าเครียดมองเหล่าเพื่อนร่วมงาน ท่ามกลางบรรดาอัศวินซึ่งเหงื่อไหลไคลย้อย มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงรักษาความสดชื่นเหมาะกับบรรยากาศยามเช้าเอาไว้ได้ เขาคือเพื่อนของเฟร็ด ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บังคับบัญชา และรับหน้าที่เป็นองครักษ์ของมิเรย์ด้วย เนื่องจากเขาเพิ่งมาถึงพระราชวังพร้อมมิเรย์จึงยังไม่รู้เรื่องราวเหมือนกัน
“เจ้าหญิงตรัสว่าไม่ได้ป่วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องเรียกหมอ ดูเหมือนไม่ได้มีไข้หรือเจ็บปวดตรงไหน.... แต่ได้ยินมาว่าทรงมีอาการคล้ายคนละเมอ พึมพำถึงคุณหนูตลอดเวลา”
เป็นคำตอบที่เหนือความคาดหมาย มิเรย์เบิกตาโต
“ถึงฉันเนี่ยนะ? ทำไมล่ะ?”
“อือ ถ้าพูดให้ถูกต้อง ฝ่าบาททรงพึมพำถึงเฟร็ดต่างหาก แต่ช่วงนี้หมอนั่นไม่ได้โผล่หน้ามาให้ฝ่าบาทเห็นเลย พวกเราเลยสงสัยว่าหรือคุณหนูกับฝ่าบาทมีปัญหาอะไรกัน”
มิเรย์ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม จะว่าไปก็จริงอยู่ ‘ท่านเคานท์เบลุนฮัลท์’ ที่เข้าใกล้เจ้าหญิงช่วงนี้ไม่ใช่พี่ชายแต่เป็นตัวเธอนี่แหละ ส่วนพี่ชายของเธอนั้น ได้ยินว่าเขากลับมาจากการเดินทางย้อมใจแล้ว แต่ไม่รู้เกิดป่วยใจอะไรขึ้นมาจึงออกเดินทางไปอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่กลับบ้านเลย
เธอครุ่นคิดสักพักก่อนเงยหน้าขึ้นพรวด
“เอาเป็นว่า ฉันจะลองไปเยี่ยมท่านเซซิเลียและสอบถามข้อมูลดู”

****

ณ วังลิลลี่ขาว สถานที่ประทับของเจ้าหญิง
โรส นางกำนัลพุ่งถลาเข้ามาในห้องด้วยท่วงท่าสง่างาม หล่อนตรงดิ่งไปยังเตียงบรรทมของเจ้าหญิงก่อนส่งเสียงระริกระรี้
“เจ้าหญิง หม่อมฉันได้ ‘สารกุหลาบขาว’ ฉบับพิเศษที่ตีพิมพ์เมื่อเช้ามาแล้วเพคะ!”
คำพูดของโรสทำให้เซซิเลียซึ่งเอาแต่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง เมินเฉยต่อการเอาใจใส่ของเหล่านางกำนัลมาโดยตลอดยอมมีปฏิกิริยาตอบกลับเป็นครั้งแรก ใบหน้าของเจ้าหญิงเปลี่ยนเป็นสีแดง
โรสกำลังพูดถึงจดหมายข่าวของ ‘กลุ่มหญิงสาวกุหลาบขาว’ ซึ่งแต่งตั้งตัวเองเป็นองครักษ์หมายเลขหนึ่งของท่านเคานท์ เจ้าหญิงตั้งหน้าตั้งตารออ่านสารของสมาคมอยู่เสมอ ทว่าในตอนนี้การฟังเรื่องราวเกี่ยวกับเขาคนนั้นแม้เพียงน้อยนิดนับเป็นภัยต่อสุขภาพของพระองค์อย่างมหาศาล หัวใจของเจ้าหญิงเต้นระรัวจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
“ฉบับพิเศษ ‘เดินทางร่อนเร่ตามหาความงาม การปรากฏกายของดาวปริศนาดวงใหม่’ มีบทกวีสรรเสริญท่านเฟรเดอริคด้วยอยู่เพคะ หม่อมฉันจะอ่านให้ฟัง”
โรสแจ้งให้ทราบอย่างร่าเริง หล่อนเริ่มอ่านบทกวีแม้ไม่ได้รับการร้องขอ
“ ‘เขาช่างบาปหนานัก ทำไมน่ะหรือ นั่นเพราะเขาช่างงดงามเหลือเกิน เขารู้ดีว่าตัวเองมีเวทมนตร์แสนชั่วร้าย สาวๆ ทุกคนล้วนต้องมนตร์สะกดแสนหวานของเขา ผู้ใดโดนร่ายคาถา ผู้นั้นจะต้องลุ่มหลงเขาไปตลอดกาล’ ”
“........”
“ ‘หญิงสาวกล่าว รอยยิ้มของท่านหวานประดุจน้ำตาล แค่มองผ่านๆ ก็เหมือนจะฟันผุ เสียงของท่านไพเราะจนนักร้องดีวาต้องยอมสยบ ฉันอยากจับท่านมาขังไว้ในกรง ให้กระซิบบอกรักฉันเพียงแค่คนเดียว ดวงตาของท่านเปรียบเสมือนอัญมณีล้ำค่า แม้มีดวงตามังกรบูรพาซึ่งเป็นยาอมตะอยู่ตรงหน้า ยังหาค่าเทียบเท่าดวงตาใสบริสุทธิ์ของท่านมิได้....’ ”
เซซิเลียลุกขึ้นนั่งพรวด กระชากสารกุหลาบขาวที่โรสกำลังอ่านออกเสียงด้วยอาการเคลิบเคลิ้ม พระองค์ไล่สายตาอ่านอย่างร้อนรน
ถ้อยคำที่กระทบโสตประสาทล้วนคุ้นหูมากจนน่าตกใจ และพระองค์ไม่ได้คิดไปเองจริงๆ ด้วย เจ้าหญิงมองไปรอบๆ ด้วยอาการแตกตื่น
(....ไม่มี)
สมุดบันทึกที่เฝ้าเขียนทุกวันและพกติดตัวไว้ไม่เคยห่างกาย ตอนนี้กลับหายไปไหนแล้วไม่รู้
เซซิเลียหน้าซีดเผือด สมองประมวลผลหาความโชคร้ายทั้งหมดที่เป็นไปได้ จนเจอกับข้อสรุปอันน่าสยดสยองอย่างหนึ่ง
หรือทำตกไว้ที่ไหนสักแห่ง และมีคนเก็บไป.... แล้วคนคนนั้นก็เอาไปขายให้กลุ่มหญิงสาวกุหลาบขาว
ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่บทกวีจะเหมือนบันทึกของพระองค์ได้มากขนาดนี้
(ใคร.... ใครเป็นคนเก็บไป....!?)
หากคนผู้นั้นอ่านบันทึกทุกซอกทุกมุม ต้องรู้แน่ว่าเจ้าของบันทึกคือใคร แบบนั้นก็แย่สิ
ไม่ๆ ต่อให้คนผู้นั้นอ่านบันทึกไปแล้ว แต่หากนำกลับมาได้ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ยัดเงินไม่ให้เขาแพร่งพรายก็หมดเรื่องแล้ว แต่กรณีที่แย่ที่สุดคือ เจ้าของชื่อซึ่งปรากฏอยู่ในบันทึกตั้งแต่ตอนต้นจนถึงปัจจุบันนั่นแหละที่เป็นคนเก็บได้เอง
เขาต้องเอาเรื่องนี้มาหยอกล้ออย่างสนุกสนานเป็นแน่ ฝ่าบาท กระหม่อมเก็บของน่าสนใจได้ เลยเอาไปให้ทุกคนได้อ่านกัน....
“....เจ้าหญิง!?”
ท่านเคานท์ในโลกจินตนาการกำลังหัวเราะเยาะใส่พระองค์อย่างโหดร้าย ทำเอาเซซิเลียถึงกับหน้ามืด เหล่านางกำนัลรีบกรูกันเข้ามาประคอง เจ้าหญิงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงขาดห้วง
“ปะ....ไปตามสถานที่ที่ฉันจะบอกต่อไปนี้ และหาเบาะแสมาให้ฉัน ฉันทำของสำคัญยิ่งกว่าชีวิตหายไป ฉันรู้สึกกำลังจะขาดใจตายจริงๆ....”
“เรื่องใหญ่เลยนะนี่!”
เหล่านางกำนัลหน้าซีด เจ้าหญิงเอาใจยากผู้นี้ไม่เคยเอ่ยปากขอร้องใครมาก่อน ไฟในกายของเหล่านางกำนัลพลันลุกโชน
“วางพระทัยได้เพคะ ก่อนอื่นต้องรีบแจ้งท่านเคานท์ให้ทราบโดยเร็ว”
“หา.... เดี๋ยวก่อน!”
ไม่มีใครได้ยินเสียงทัดทาน เหล่านางกำนัลรีบกระโจนออกจากห้องทำตามคำสั่งด้วยอารมณ์ฮึกเหิม
เซซิเลียรีบเปลี่ยนฉลองพระองค์อย่างร้อนรน ต้องรีบไปห้ามก่อนเหล่านางกำนัลจะไปถึงซาลอน
ในที่สุดพระองค์ก็แต่งตัวเสร็จ และจังหวะที่กำลังจะเสด็จออกจากห้องนั่นเอง นางกำนัลอีกคนเดินเข้ามาในห้องเพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีแขกมาขอเข้าเฝ้าฯ
“เจ้าหญิง ท่านเคานท์เบลุนฮัลท์มาเยี่ยมเพคะ”
“........”
น้ำเสียงสบายๆ ของนางกำนัลกระตุ้นให้เส้นด้ายความอดทนของพระองค์ขาดผึง
เซซิเลียเบิกตาโพลงโต ทรงคว้าเก้าอี้ที่อยู่ข้างกายและขว้างไปยังประตูสุดกำลัง




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การผจญภัยสุดตื่นเต้นเร้าใจของเฟร็ด พี่ชายฝาแฝดของมิเรย์ (ความฝัน : เป็นผู้กล้า) ใน <ท่านเคานท์กำมะลอกับผู้กล้าในตำนาน> เรื่องวุ่นๆ เมื่อหญิงสาวผู้หัวใจชุ่มชื่นไปด้วยความรักได้ส่องกระจกวิเศษ “มองเห็นเนื้อคู่” ใน <ท่านเคานท์กำมะลอกับกระจกเนื้อคู่> เมื่อวีลฟรีท เจ้าชายชุดตุ๊กตารูปงามได้ออกเดทกับมิเรย์ หนึ่งวันที่เต็มไปด้วยเรื่องเข้าใจผิดใน <ท่านเคานท์กำมะลอกับเดทลับ> และเรื่องใหม่สุดพิเศษ เปิดเผยการเลือกเจ้าสาวแสนน่าทึ่งของจี๊ค รวมเรื่องสั้นที่อัดแน่นไปด้วยเสียงหัวเราะ & ความฟิน!!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”