New Release โรแมนติก : ร้อนรักสามีเถื่อน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1068
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release โรแมนติก : ร้อนรักสามีเถื่อน

โพสต์ โดย Gals »

ร้อนรักสามีเถื่อน โดย ดาหลา

บทที่ 1

บนระเบียงด้านนอกของชั้นที่สิบเจ็ดของคอนโดฯ หรูใจกลางกรุงเทพมหานคร ประดับประดาไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงสดที่สื่อถึงความรักของหนุ่มสาว ถูกจัดเป็นช่อประดับตามมุมต่างๆ ได้อย่างงดงาม กลางระเบียงมีโต๊ะสีขาวตั้งอยู่ แก้วทรงสูงสองใบถูกจัดวางเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับดื่มฉลองครบรอบวันแต่งงาน
เป็นเวลาหนึ่งปีที่นิยากร อติศวร ตกลงอยู่กินฉันสามีภรรยากับเหมันต์ เลิศไพศาล แรกๆ ที่อยู่ด้วยกันชีวิตเติมไปด้วยความสุข แต่สองเดือนที่ผ่านมาเหมันต์เปลี่ยนไป ขี้หงุดหงิด ไม่สนใจเธอเหมือนเมื่อก่อน กลับบ้านผิดเวลา บางวันก็ไปนอนที่บ้านมารดา ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับความรักของเธอและเขา พอถามเขาก็บอกทุกครั้งว่าไม่มีอะไร แต่เธอก็รับรู้การเปลี่ยนแปลงนั้นได้ด้วยตัวเอง
กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เธอเห็นข่าวของคุณหญิงนัยนา เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทยได้ให้สัมภาษณ์ในวันเปิดโครงการบ้านจัดสรรเฟสใหม่ของบริษัทว่าได้ร่วมทุนกับเหมันต์ทำโครงการใหม่มูลค่าหลายร้อยล้าน เพื่อให้ชายหนุ่มพิสูจน์ตัวเองให้บุตรสาวซึ่งเป็นนางแบบชื่อดังคนหนึ่งเห็นถึงความสามารถในการทำงาน
ครั้งแรกที่ได้ยินนิยากรออกจะงงๆ แต่เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราว บวกกับเห็นการเปลี่ยนแปลงของสามีก็ทำให้เธอเข้าใจทุกอย่างมากขึ้น และวันนี้เธอจึงตั้งใจจะใช้ความรักความหลังฉุดรั้งเขาเอาไว้
ใกล้ได้เวลานัด นิยากรเดินไปเช็กความสวยของตัวเองหน้ากระจก ร่างกลมกลึงในชุดราตรีเกาะอกสีเปลือกไข่ยาวเหนือเข่าขับผิวนวลเนียนผุดผ่องกว่าทุกวัน แม้จะพอใจรูปร่างและความสวยของตัวเอง หากแววตาที่มองเงาสะท้อนในกระจกกลับหม่นเศร้า
?ขอให้คุณคิดถึงความรักที่ผ่านมาของเรานะคะเหม ฉันคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ?
นิยากรพูดกับตัวเองในกระจกเสียงสั่นเครือ จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ ทำเอาคนที่เฝ้ารอได้ยินแล้วยิ้มออกมาด้วยความยินดี ร่างระหงรีบเดินไปเปิดประตู
เมื่อประตูเปิดออก ร่างสูงเพรียวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็กสีดำยืนรออยู่พร้อมดอกไม้ช่อโต
?เหม?? นิยากรขยับเข้าไปสวมกอดแล้วเขย่งปลายเท้าหอมแก้มขาวสะอาด ดวงตาคมโตสุกใสอย่างมีความสุข ในขณะที่คนเป็นสามีไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมาให้เห็น
?สำหรับคุณ? เหมันต์ส่งช่อดอกไม้ให้ภรรยาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้จะเจ็บปวดกับท่าทีของสามี แต่นิยากรไม่ได้แสดงอาการใดๆ ออกมาให้เสียบรรยากาศ
?คุณจำได้ว่านิชอบดอกลิลลี่? นิยากรมองช่อดอกไม้ตรงหน้าแล้วยื่นมือไปรับน้ำตารื้น ?ขอบคุณนะคะสำหรับดอกไม้สวยๆ ถูกใจนิมากค่ะ?
?เข้าไปข้างในดีกว่า? เขาวางมือบนเอวบางแล้วพาเธอเดินเข้าไปในห้อง
?ไปที่ระเบียงดีกว่าค่ะ นิเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว เราจะได้ฉลองครบรอบวันแต่งงานในบรรยากาศโรแมนติก? เธอวางช่อดอกไม้ที่โต๊ะรับแขก แล้วฉุดแขนเขาไปที่ระเบียง เหมันต์มองบรรยากาศที่ระเบียงโล่งแล้วหันมามองภรรยา
?คุณเตรียมเองเลยเหรอ?
?ค่ะ นิอยากให้วันนี้เป็นวันที่เรารำลึกถึงความรักในวันก่อนว่ามีความสุขมากแค่ไหน? ประโยคสั่นเครือนิดๆ และเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทำเอาเหมันต์พูดไม่ออก
?สัญญากับนิสิคะว่าความรักของเราจะคงอยู่แบบนี้ตลอดไป? หญิงสาวมองใบหน้าหล่อเหลา ในขณะที่คนถูกมองเสมองไปอีกทาง เพราะความรักในใจไม่มีเหลืออีกต่อไปแล้ว
?ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะทำตัวในฐานะเมียได้ดีแค่ไหนมากกว่า? เหมันต์บอกอย่างรำคาญ แล้วเดินไปรินเครื่องดื่มใส่แก้วทรงสูงแล้วยกขึ้นดื่ม
?ทุกวันนี้นิทำหน้าที่นั้นไม่ดีตรงไหนคะ? นิยากรมองแผ่นหลังของสามีแล้วเชิดหน้าขึ้นเพื่อไล่น้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
เหมันต์ถอนหายใจแรงๆ แล้วกระดกเครื่องดื่มจนหมดแก้วก่อนจะหันมามองภรรยา
?ไม่มี แต่ผมอยากได้คนมาช่วยงานและมาช่วยส่งเสริมธุรกิจของผม ไม่ใช่เมียที่ทำแต่เรื่องบนเตียงได้อย่างเดียว?
นิยากรนิ่งงันกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่คิดว่าความรักที่เธอพยายามทำให้เขามีความสุขในเรื่องบนเตียงจะเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของหน้าที่เมีย
?เมื่อก่อนคุณไม่เคยพูดแบบนี้ คุณบอกทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกันว่าคุณมีความสุขที่สุดที่ได้อยู่กับนิ นิขอไปช่วยงานคุณก็บอกว่าเมียคนเดียวผมเลี้ยงได้ แล้ววันนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะคะเหม? เธอถามสามีอย่างผิดหวัง
เหมันต์ออกอาการหงุดหงิด ยกมือเท้าสะเอว
?นั่นมันเมื่อก่อน ทุกวันนี้เศรษฐกิจเป็นยังไงคุณก็รู้ ธุรกิจผมก็แย่จนต้องร่วมทุนกับคนอื่น?
?แย่ยังไงคะ ในเมื่อคุณเพิ่งเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรแถวสุขุมวิทอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง? เธอขยับไปหา นั่นยิ่งเพิ่มความกรุ่นโกรธของเหมันต์มากขึ้นไปอีก
?ถ้าธุรกิจไม่ขยายจะอยู่ได้ยังไง พูดไม่รู้เรื่อง? เหมันต์บอกอย่างเกรี้ยวกราด แววตาหมดรักยิ่งทำให้นิยากรเสียใจมากกว่าเดิม
?นี่คุณว่านิพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ความเสียใจทำให้เธอขึ้นเสียงสูง
?ใช่ ถ้าพูดไม่รู้เรื่องเราก็หย่ากันเลยดีกว่า ผมเบื่อเต็มทีแล้ว?
คำพูดที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินทำเอานิยากรอึ้ง สมองหยุดการประมวลผล รอบกายดำมืดไม่มีแสงสว่างนำทางจนเธอกลัวแทบลืมหายใจไปเลย
?นี่คุณหมดรักนิแล้วเหรอ? หัวใจยามนี้เจ็บปวดราวกับถูกค้อนทุบจนแตกละเอียด สายตามองหน้าเย็นชาของสามีอย่างร้าวราน
?ถ้าอยากให้รักเราเหมือนเดิมคุณก็ต้องหย่า แต่เรายังเป็นสามีภรรยากันอยู่เหมือนเดิม ผมจะแวะมาถ้ามีเวลา? เหมันต์บอกอย่างคนเห็นแก่ตัว ไม่สนใจความรู้สึกของคนที่เคยรัก ในเมื่อหมดรักแล้วก็ไม่ต้องถนอมน้ำใจกันอีก
นิยากรมองสามีผ่านม่านน้ำตา ความดีความรักที่มีให้กันขาดสะบั้นลงแล้ว และเขาก็เผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมา เธอเห็นปีศาจเป็นเทพบุตรไปได้ยังไง
?คุณต้องการหย่าเพื่อจะไปแต่งงานกับนางแบบคนนั้นใช่ไหมคะ คนสารเลว? นิยากรขยับเข้าไปทุบทำร้ายเหมันต์ไม่ยั้ง ?คนเห็นแก่ตัว ที่คุณไม่จัดพิธีแต่งงาน เพราะกลัวคนอื่นรู้ใช่ไหมว่าเราเป็นผัวเมียกัน?
?หยุดบ้าได้แล้วนิ? เหมันต์จับมือบางแล้วผลักนิยากรล้มลงกับพื้น ?ผมก็จดทะเบียนเพื่อยืนยันความจริงใจแล้วไง คุณจะเอาอะไรอีก?
?ไม่เลยเหม นิไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความรักจากคุณ แล้วนิก็จะไม่ยอมเสียคุณไปเด็ดขาด? เธอเงยหน้าขึ้นสบตาแข็งกร้าวแล้วดันตัวเองลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเหมันต์
?ผมไม่ได้ไปไหน ยังอยู่กับคุณเหมือนเดิม?
?อยู่เหมือนเดิม แต่นิเปลี่ยนจากเมียหลวงไปเป็นเมียน้อยใช่ไหมคะ? เธอถามอย่างเจ็บช้ำ
เหมันต์ถูกยิงคำถามที่ต้องการก็ไม่กล้าหาญพอที่จะตอบ นิยากรจึงรู้คำตอบด้วยตัวเอง
?นิไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ถ้าคุณอยากหย่าก็ไปฟ้องร้องเอาเอง? แม้จะเจ็บแสนเจ็บ แต่นิยากรก็เชิดหน้าอย่างกล้าหาญ เหมันต์กำมือแน่น สะกดอารมณ์เอาไว้ไม่ให้เข้าไปขย้ำคอภรรยา
?ในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง เราก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกนิยากร? เหมันต์เดินไปกระชากประตูเปิดออกแล้วเดินจากไป นิยากรวิ่งร้องไห้ตามออกไป
?เหม อย่าเพิ่งไป นิขอโทษ? เธอวิ่งไปที่ลิฟต์แต่ไม่ทัน จึงใช้ลิฟต์อีกตัวเพื่อตามเขากลับมาฉลองครบรอบวันแต่งงาน
เมื่อลิฟต์มาถึงชั้นล่าง นิยากรก็รีบออกจากลิฟต์วิ่งผ่านยามเฝ้าประตูไปที่ลานจอดรถ ยามมองตามหญิงสาวที่วิ่งร้องไห้ออกไปอย่างสงสัย
?เหมอย่าไป กลับมาก่อน กลับมาหานิ?
นิยากรเห็นรถเหมันต์ขับออกไปจากลานจอดก็วิ่งตามไป ก่อนจะล้มลงกับพื้นถนน แต่เหมันต์ก็ไม่ยอมหยุดรถลงมาดู เธอได้แต่นั่งมองท้ายรถของสามีอย่างน่าเวทนาจนยามเฝ้าประตูต้องวิ่งมาดู
?มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?
?ไม่มีค่ะ ขอบคุณมากนะคะ? นิยากรยกมือเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืน หากสายตายังคงมองถนนที่เหมันต์ขับรถหายไป ยามถอยห่างออกมา นิยากรก็เดินกลับขึ้นไปบนห้องทั้งน้ำตา
นิยากรเข้ามาในห้องก็มานั่งเขียนสมุดบันทึกทั้งน้ำตา ความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่สามารถบอกใครได้นอกจากสมุดเล่มนี้ถูกบรรยายเป็นตัวอักษร ทุกถ้อยคำคือความรู้สึกเจ็บร้าวเกินจะทน
ขณะที่เขียนน้ำตาก็หยดลงบนกระดาษจนเธอต้องเช็ดออก เมื่อสบายใจขึ้นก็เก็บสมุดโน้ตไว้ในลิ้นชักข้างหัวเตียง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์โทร.หาพี่ชายที่เธอรักและเคารพมาทั้งชีวิต รอสายไม่นานเสียงทุ้มก็ดังขึ้น
?กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลยนิ?
?นิก็คิดถึงพี่ทิมค่ะ คิดถึงเหลือเกิน? เสียงหวานเศร้าจนคนปลายสายเงียบไป มือบางยกขึ้นปิดเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่ให้เล็ดลอดไปให้คนปลายสายได้ยิน
?เป็นอะไรหรือเปล่า เสียงไม่ค่อยดีเลย? เสียงร้อนใจถามอย่างเป็นห่วง
?นิไม่ค่อยสบายนิดหน่อยค่ะ เลยคิดถึงพี่ทิม พี่ทิมขา นิขอไปอยู่กับพี่ทิมเหมือนสมัยเด็กได้ไหมคะ? หญิงสาวบอกเสียงสั่นเครือ แม้จะพยายามปิดบังพี่ชายต่างมารดาแต่ก็ปิดไม่ได้
?ทะเลาะกับนายเหมใช่ไหม? คนเป็นพี่ถามราวกับมีพรายกระซิบ ความเงียบเป็นคำตอบที่ไม่ต้องบอกเป็นคำพูด และทิมก็มั่นใจเพราะรู้จักน้องสาวคนนี้ดี
?พรุ่งนี้นิคงไปถึงช่วงบ่ายๆ นะคะพี่ทิม?
?ได้ พรุ่งนี้พี่จะขึ้นฝั่งไปรับ ว่าแต่นิโอเคนะ?
?พรุ่งนี้นิจะเล่าให้ฟังนะคะ? เธอเลี่ยงที่จะตอบคำถามพี่ชาย พอดีกับมีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพอดี
?แค่นี้ก่อนนะคะพี่ทิม สงสัยเหมจะกลับมาหานิแล้ว? นิยากรบอกอย่างกระตือรือร้นแล้วก็ตัดสายไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ท่าเทียบเรือจังหวัดภูเก็ต เรือเร็วสีขาววิ่งเข้ามาจอดตอนบ่ายโมงตรง ทำให้คนที่อยู่ในละแวกนั้นพากันดีใจที่เห็นนายใหญ่ของเกาะเสือขึ้นฝั่ง ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดกางเกงยีนสีซีดกับเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาล ใบหน้าคมเข้มออกไปทางดุดันมีแว่นกันแดดปิดไว้กว่าครึ่ง ลุงคำปั้นคนขายตั๋วเรือท่องเที่ยวกุลีกุจอวิ่งมาหาอย่างดีใจแล้วยกมือไหว้
?สวัสดีครับนายทิม ขึ้นฝั่งแต่เช้าเลยนะครับ?
?อืม?มารับคนน่ะ ลุงเป็นไงบ้าง นักท่องเที่ยวเยอะไหม? ทิม กฤตธาดาถามขณะเดินไปนั่งที่ร้านกาแฟซึ่งเป็นเพิงธรรมดา เจ้าของร้านรีบออกมาต้อนรับอย่างดีใจ
?นายทิม เชิญค่ะเชิญ? แม่ค้าร่างอวบสวมหมวกคลุมผมเชื้อเชิญอย่างยินดี
?ขายดีไหมป้าม้วน? ชายหนุ่มมองรอบๆ ร้านที่มีนักท่องเที่ยวนั่งชมทิวทัศน์สามสี่โต๊ะ เผื่อว่าจะเห็นนิยากรนั่งอยู่แต่ก็ไม่มี
?พอได้ค่ะ วันธรรมดาคนน้อยหน่อย รับกาแฟดำนะคะนาย?
ทิมพยักหน้าแทนคำตอบ พอดีกับโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบออกมาดู เห็นเป็นเบอร์เพื่อนก็แปลกใจเพราะปกติหมอนี่ไม่เคยโทร.มาเวลานี้มาก่อน
?สวัสดีผู้กองเปรม คิดยังไงโทร.มากลางวันแบบนี้วะ ทุกวันถ้าไม่ดึกก็ค่อนสว่าง? ทิมเอ่ยทักทายเพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี
?ทิม?รีบขึ้นมากรุงเทพฯ ด่วนเลย?
เสียงเคร่งเครียดของเพื่อนทำเอาทิมขยับตัว เสียงเปรมชัยเงียบไปอีกราวกับกำลังตัดสินใจบางอย่าง ไม่นานก็เอ่ยขึ้น
?ยัยนิเสียชีวิตแล้ว?
ทิมได้ยินถึงกับชาดิกไปทั้งร่าง มือกำโทรศัพท์แน่นพอๆ กับแรงบีบคั้นในหัวใจ
?เป็นไปได้ยังไง เมื่อคืนยัยนิยังโทร.บอกให้ฉันมารับที่ท่าเรืออยู่เลย?
?ยัยนิตายเมื่อคืน แต่แม่บ้านมาพบศพตอนเที่ยงนี่เอง ฉันเลยรีบโทร.มาบอกนี่แหละ รายละเอียดอื่นๆ ค่อยคุยกัน?
เปรมชัยวางสายไปแล้ว แต่ทิมยังคงกำโทรศัพท์แน่น คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว เสียงสั่นเครือที่ได้ยินเมื่อคืน แม้เขาจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าน้องสาวต่างมารดาจะคิดสั้นแบบนี้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หน้าห้องเก็บศพของโรงพยาบาล รถยุโรปคันหรูสีดำมันวาววิ่งมาจอดต่อท้ายรถตำรวจ ชายฉกรรจ์สวมสูทสีดำคนหนึ่งเปิดประตูลงจากรถแล้วหันกลับไปเปิดประตูหลัง ไม่นานร่างสูงสง่าของทิม กฤตธาดาก็ก้าวออกมาจากรถ
ทันทีที่ชายหนุ่มลงมายืนข้างรถ สายลมอ่อนๆ ก็พัดมาปะทะกายแกร่งจนหัวใจของคนเป็นพี่กระตุกวูบ กรามแกร่งข้างแก้มสากนูนขึ้นเป็นสันราวกับเจ้าตัวกำลังสะกดกลั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ ดวงตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้แว่นกันแดดแดงก่ำเพราะความเสียใจมองไปที่ห้องเก็บศพ แล้วก้าวเข้าไปในห้อง
?ยัยนิอยู่ที่ไหน?
น้ำเสียงเข้มห้าวพยายามสะกดให้เป็นปกติมากที่สุดแต่ก็ยากเต็มทน เปรมชัยมองหน้าเครียดของเพื่อนก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วมองป้ายชื่อที่ติดอยู่ในช่องเล็กๆ ทิมมองตาม มือหนาจับที่เปิดแล้วค่อยๆ ดึงออกมา
?ฉันไม่อยากจะเชื่อว่านิตายแล้ว? ทิมมองใบหน้าซีดขาวของน้องสาวอย่างสะเทือนใจ
?ผลชันสูตรเบื้องต้นยัยนิหัวใจล้มเหลว ต้นเหตุมาจากเสพยามากจนร่างกายรับไม่ไหว? เปรมชัยส่งรายงานผลชันสูตรให้เพื่อน ทิมรับมาอ่านด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
?เป็นไปไม่ได้ ยัยนิไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนายก็รู้? ทิมมองกระดาษในมือหน้าเครียด
เปรมชัยมองประตูทางเข้าห้อง เหมือนกลัวว่าเรื่องที่จะพูดต่อไปจะมีคนได้ยิน
?ฉันให้เพื่อนที่อยู่นิติเวชฯ ตรวจในเชิงลึกให้อยู่ อาทิตย์หน้าน่าจะรู้เรื่อง?
ทิมมองหน้าเปรมชัยอย่างสงสัย แต่ไม่ทันได้ถามเหมันต์ก็เดินเข้ามา คนมาใหม่ชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ข้างใน เมื่อเลี่ยงไม่ได้เหมันต์ก็ก้าวเข้ามา
?ผมมารับศพนิยากร? เหมันต์บอกเปรมชัยและชำเลืองมองทิมไปด้วย
?นายเป็นสามีของยัยนิใช่ไหม? ทิมถามพลางพิจารณาน้องเขย เขารู้ว่านิยากรมีสามีชื่อเหมหรือเหมันต์ แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงของอีกฝ่ายสักครั้ง
เหมันต์ไม่รู้จักทิมมาก่อนก็แปลกใจที่อีกฝ่ายรู้เรื่องของตนกับนิยากร
?นายเป็นใคร ทำไมรู้เรื่องฉันกับนิยากร? เสียงห้วนบ่งบอกถึงความไม่ชอบใจ ทำเอาทิมจ้องหน้าหล่อเหลาผ่านแว่นกันแดดสีทึบเขม็ง
?เป็นญาติ เมื่อคืนนายไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ทำไมปล่อยให้ยัยนิตายแบบนี้? เสียงถามแข็งกร้าว ความเสียใจเปลี่ยนเป็นไฟแค้นกับการสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น
?นายมายุ่งอะไรด้วยวะ? เหมันต์เริ่มอารมณ์เสีย
ทิมกระชากคอเสื้อเหมันต์มาชิด รังสี.่ผ่านไปปะทะกายจนเหมันต์รู้สึกกลัวไม่น้อย
?ฉันจะไม่ยุ่งเลย ถ้านิยากรไม่ใช่น้องสาวฉัน?
?เป็นไปไม่ได้ นิมีแค่แม่ที่ตายไปแล้วและไม่มีญาติที่ไหน? เหมันต์สะบัดตัวจนหลุดแล้วขยับสูทให้เข้าที่
?ฉันเป็นใครนายไม่ต้องสนใจ แต่ผัวเมียกันทำไมถึงแยกกันอยู่ หรือนายมีปัญหากับยัยนิ? ทิมยิงคำถามเสียงห้วน อะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกถึงความผิดปกติ
?นายไม่มีสิทธิ์มาสอบสวนฉัน? เหมันต์สวนกลับเสียงห้วนพอกัน
?ผมต้องการนำศพนิยากรไปทำพิธีตามประเพณี? เหมันต์หันไปแจ้งความจำนงกับผู้กองหนุ่ม
?ดูนายไม่สงสัยการตายของเมียเลยนะ...เหมันต์?
ทิมดึงแว่นกันแดดออกจากสันจมูก เหมันต์สบนัยน์ตาแข็งกร้าวก็เสียวสันหลังวาบโดยไม่รู้สาเหตุ
?ผลชันสูตรก็บอกชัดเจนว่านิยากรหัวใจล้มเหลวเพราะเสพยาเกินขนาด?
?นิยากรไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยา นายเป็นสามีประสาอะไรถึงไม่รู้? ยิ่งพูดทิมยิ่งเดือด เพราะท่าทีน้องเขยไม่เสียใจสักนิด
?นายเป็นแค่ญาติจะรู้อะไร พักหลังๆ นิเล่นยาหนักจนฉันต้องแยกไปอยู่ที่บ้าน เพื่อให้เธอพักผ่อนเต็มที่? เหมันต์ยกเหตุผลมาอ้าง
?นายเป็นสามี ทำไมปล่อยให้น้องสาวฉันทำแบบนั้น? ทิมขยับไปใกล้เหมันต์ แต่เปรมชัยเข้าไปขวางไว้เพราะกลัวเพื่อนทำอะไรวู่วาม
?อย่าทิม??
เหมันต์เห็นท่าทีเกรี้ยวกราดของทิมก็เหยียดยิ้มขณะถอยห่างออกมา
?ฉันชักสงสัยแล้วสิ ว่านิยากรเป็นญาติหรือเป็นน้องท้องชนกันกับนายกันแน่?
?ไอ้สารเลว!?
ทิมผลักเปรมชัยให้พ้นทาง แล้วปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้าเหมันต์เต็มแรง ครั้นจะตามไปซ้ำอีกหมัด เหมันต์ก็ถอยหนีแล้วยกมือห้าม
?อย่านะโว้ย ไม่งั้นฉันแจ้งความแน่? เหมันต์สะบัดหน้าให้หายมึนจากหมัด เปรมชัยกางแขนกั้นเพื่อนเอาไว้
?ผมเอาศพไปได้หรือยังผู้กอง?
?เราคงให้ศพไปไม่ได้ครับ เพราะทางคุณทิม กฤตธาดา ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของผู้ตายสงสัยสาเหตุการตาย?
เหมันต์มองพี่ชายของภรรยาด้วยความคาดไม่ถึง นิยากรไม่เคยบอกว่ามีญาติที่ไหน เพราะครั้งแรกที่พบกันเธอมาสมัครงานเป็นเลขาฯ ของเขา และไม่เคยบอกว่าเป็นคนในตระกูลนักธุรกิจดัง เขาจำได้ว่าจากประวัติในใบสมัครงานเธอมีเพียงมารดาแต่เสียชีวิตไปแล้ว และนามสกุลที่เธอใช้ก็ไม่ใช่กฤตธาดาด้วย
?มั่วน่ะสิ นิยากรไม่มีญาติที่ไหนนอกจากฉัน?
?ฉันไม่จำเป็นต้องยืนยัน เพราะยังไงนายก็ไม่มีวันได้ศพนิยากรไป จนกว่าฉันจะมั่นใจว่าน้องสาวฉันตายเพราะอะไรกันแน่? ทิมยืนยัน และมั่นใจว่าเหมันต์รู้จักตระกูลกฤตธาดาดี
?อยากได้นักก็จัดการงานศพเองก็แล้วกัน ฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งนั้น? ว่าแล้วเหมันต์ก็เดินกระแทกส้นออกไป
ทิมมองตามอย่างโมโห ก่อนจะมองลูกน้องคนสนิทที่ยืนรออยู่ข้างนอก
?อาชา??
?ครับนาย?? อาชาเดินเข้ามาในห้องอย่างรู้หน้าที่
?สืบประวัติหมอนี่อย่างละเอียดและเร็วที่สุด? ทิมสั่งเสียงห้วน
อาชาก้มศีรษะรับคำแล้วออกจากห้องไปสั่งงานลูกน้อง
?ฉันก็ให้ลูกน้องสืบในทางลับเหมือนกัน ถ้าคืบหน้ายังไงฉันจะส่งข่าว?
?ขอบใจนะเพื่อน? ทิมวางมือบนบ่าเปรมชัยแล้วเดินไปที่รถ อาชาเปิดประตูหลังไว้รอ ร่างสูงก้าวเข้าไปนั่ง ไม่นานรถก็เคลื่อนตัวออกไป





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มลมารี นางแบบแถวหน้าถูกว่าจ้างมาเดินแบบโชว์เครื่องเพชรชุดฟินาเล่มูลค่ามหาศาลซึ่งมี ทิม กฤตธาดา เป็นเจ้าของ หลังจบงาน...เครื่องเพชรกลับอันตรธานไประหว่างเธอเปลี่ยนชุด หญิงสาวจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยในสายตาของสังคมทันที นักธุรกิจหนุ่มนัดตกลงเรื่องค่าเสียหายแต่เธอกลับถูกตีข่าวว่าเอาเรือนร่างยวนยั่วเข้าแลกเพื่อจบเรื่อง ทั้งที่เธอกระวนกระวายแต่เขากลับทำตัวตามสบายเหมือนรู้อยู่แล้วว่าเรื่องทุกอย่างจะเกิดขึ้น!

?คุณไม่มีสิทธิ์ค้นตัวฉันนะ ปล่อย!?
?ความคิดนั้นไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย แม่หัวขโมยคนสวย?
ปากร้อนได้รูปฉกวูบลงมาบดขยี้ไร้ความอ่อนโยน
ไม่เพียงเท่านั้น ลิ้นสากยังพยายามชำแรกผ่านเข้าไประรานด้วย




รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”