New Release BLY แปล : ซูเปอร์สตาร์สุดที่รัก

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : ซูเปอร์สตาร์สุดที่รัก

โพสต์ โดย Gals »

ซูเปอร์สตาร์สุดที่รัก



ในช่วงฤดูกาลนี้ ใบหน้าของดาราคนแรกที่พวกนักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้เห็นเวลามาญี่ปุ่นโดยเครื่องบินอาจเป็น ?มานากะ ชุน? ก็เป็นได้
เนื่องจากดาราหนุ่มทำหน้าที่เป็นอิมเมจคาแรกเตอร์ของบริษัทสายการบินรายใหญ่ จึงมีรูปอยู่บนถ้วยกระดาษหรือกระดาษรองจานที่ใช้ในเครื่องบิน รวมถึงมี ?ชุนคุงเจ็ต? ซึ่งมีรูปใบหน้ายิ้มแย้มของชุนพรินต์ติดอยู่ที่ข้างเครื่องบินออกให้บริการอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วย
เมื่อเดินทางออกจากสนามบินไปยังตัวเมืองก็จะเห็นหน้าเขาในป้ายโฆษณาใหญ่ยักษ์ของแบรนด์ที่ร่วมงานกันและหน้าปกนิตยสารหลากหลายเล่ม พอกลับถึงโรงแรมตอนกลางคืนก็จะเห็นหน้าเขาในโฆษณาโทรทัศน์หรือแบนเนอร์ทางอินเทอร์เน็ตอีก เพราะชุนเป็นดาราที่มีงานโฆษณาจากบริษัทต่างๆ เข้ามาเป็นอันดับท็อปติดต่อกันถึงสามปี
นอกจากนี้หากระหว่างการเดินทางนักท่องเที่ยวคนไหนมีโอกาสได้ดูละครไทงะ ก็จะได้เห็นชุนแต่งคอสเพลย์เป็นซามูไรอีกด้วย
ตอนนี้เขากำลังทุ่มเทกับการแสดงบทบาทอุเอะซึงิ โยซันวัยหนุ่ม ผู้ซึ่งจอห์น เอฟ เคนเนดีให้สัมภาษณ์ว่าเป็น ?นักการเมืองญี่ปุ่นที่น่านับถือที่สุด?
บทบาทผู้พลิกฟื้นแคว้นโยเนซาวะที่ตกต่ำขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นตัวละครที่ชาญฉลาดทว่าอ่อนน้อมถ่อมตนนั้นตรงกับภาพลักษณ์ในวงการของชุนเป็นอย่างดี ทำให้ซีรีส์ได้รับเรตติ้งสูงทันทีที่ฉายตอนแรกและยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังไม่ดึงดูดเฉพาะเหล่าผู้ชมที่เป็นแฟนคลับเพศหญิง แต่ยังมัดใจเหล่าผู้สูงอายุที่เป็นผู้ชมหลักของละครไทงะได้อีกด้วย
นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงวัยหนุ่มที่มากความสามารถ เปล่งประกายไปด้วยรางวัลการันตีจากการแสดงภาพยนตร์และละครมากมายหลายเรื่องแล้ว เขายังมีอีกด้านที่เป็นนักร้อง
ในปีที่ออกเดบิวต์ซิงเกิล ชุนก็ได้เข้าร่วมงานมหกรรมขาวแดง ด้วยการแสดงสดอันยอดเยี่ยมบนเวทีจึงทำให้เขาได้รับความนิยมจากทั้งในและนอกประเทศ จนเป็นที่รู้กันดีว่าตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ตของชุนนั้นหายากมากเพียงใด
แล้วชุนยังขึ้นชื่อเรื่องการปฏิบัติต่อแฟนคลับอย่างเทพบุตรในงานจับมือหรืองานแจกลายเซ็น แถมชื่อเสียงที่ดีนั้นยังมาจากฝ่ายเบื้องหลัง เหล่าสตาฟที่เคยร่วมงานกับเขาแม้เพียงครั้งเดียวต่างก็สรรเสริญเป็นเสียงเดียวกันว่า ?ไม่ว่าจะให้ทำอะไรเขาก็ทำได้เป็นอย่างดี มีความตั้งอกตั้งใจ นิสัยดี เอาใจใส่คนรอบข้างโดยไม่ถือตัวว่าโด่งดัง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะร่วมงานด้วยอีก?
ด้วยรูปลักษณ์อันงดงามราวกับอัญมณีที่มีชีวิต และความสามารถอันมากมายหลายด้าน ทำให้ผู้คนมากมายตกอยู่ในห้วงเสน่ห์ได้ไม่ยาก ทว่าในความเป็นจริงแล้วเขากลับมีคนรักเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง
ซึ่งเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดที่รู้กันแค่ในหมู่ผู้ที่เกี่ยวข้อง และห้ามรั่วไหลออกไปยังภายนอกโดยเด็ดขาด
ส่วนเจ้าตัวอย่างคุสึอุ อัตสึชิ ทุกวันนี้พอได้เห็นหน้าคนรักทางโทรทัศน์หรือหน้าจอต่างๆ ก็มักจะนึกในใจอยู่เรื่อยว่า
?การมีซูเปอร์สตาร์ที่เปล่งประกายแบบนี้เป็นคนรักของเรานี่ ไม่ใช่ว่าเราเพ้อฝันไปเองหรอกใช่ไหม?
จนบางครั้งยังอยากจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มตัวเองเลยด้วยซ้ำ
ถ้าหากในช่วงนี้ของเมื่อปีที่แล้วมีเพื่อนร่วมรุ่นของเขาสักคนหนึ่งมาบอกว่า
?ฉันมีโอกาสได้ทำงานกับมานากะ ชุน แล้วต่างฝ่ายต่างก็ตกหลุมรักแรกพบเลยเริ่มจากการเป็นเพื่อน จากนั้นก็มีหลายๆ อย่างเกิดขึ้นจนตอนนี้ได้คบกันอย่างลับๆ?
เขาคงจะหัวเราะใส่หน้าแล้วตอบกลับไปว่า
?หา!? นี่นายละเมอพูดตลกอะไร ดาราที่กำลังขายดีสุดๆ แบบนั้นไม่มีทางมาคบกับคนธรรมดาแถมยังเป็นผู้ชายหรอก ไหนจะเรื่องความแตกต่างของฐานะทางสังคมกับรายได้ต่อปีอีก ไอ้เรื่องเพ้อฝันที่โอ้อวดเกินจริงแบบนั้นน่ะ ไม่มีใครยอมเชื่อหรอกนะ?
ทว่าเรื่องเหล่านี้กลับเกิดขึ้นกับคุสึอุเข้าจริงๆ เสียได้
ทั้งที่คุสึอุเป็นแค่พนักงานประจำของบริษัทท่องเที่ยวธรรมดาๆ แต่กลับกำลังรักอยู่กับซูเปอร์สตาร์ระดับประเทศโดยไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันหรือคิดไปเองแต่อย่างใด
ทั้งสองเจอกันเพราะงานล่องเรือสำราญของแฟนคลับชุนนั่นเอง
ก่อนหน้านั้นคุสึอุเคยคิดมาตลอดว่าคนในวงการบันเทิงล้วนแล้วแต่เป็นตัวตนที่อยู่ไกลห่าง ซึ่งคนอย่างเขาไม่อาจเข้าใกล้ได้มาโดยตลอด
อย่าว่าแต่เพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่เหมือนอยู่อีกโลกหนึ่งซึ่งไม่มีโอกาสได้เกี่ยวข้องเลย ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักกับคนเพศเดียวกัน เลยยิ่งไม่นึกไม่ฝันเข้าไปใหญ่ว่าสักวันหนึ่งจะกลายมาเป็นเช่นนี้ได้
ตอนแรกนั้นเขารู้สึกตกตะลึงในความงดงามของอีกฝ่ายตั้งแต่แรกพบ และในขณะที่ยังไม่หายจากความรู้สึกเช่นนั้นก็พบว่าในความเป็นจริงแล้วดาราผู้เสมือนจะไร้ที่ติอย่างชุนกลับเป็นพวกอ่อนแอขี้กลัว คบหากับใครไม่ค่อยเป็น ไม่มั่นใจในตัวเอง แถมยังชอบคิดในแง่ลบจนมีแต่เซื่องซึมอยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่านิสัยไม่เหมาะกับการอยู่วงการบันเทิงเอาเสียเลย
แม้จะมีความสามารถที่หาตัวจับยาก ทว่าเจ้าตัวกลับอ่อนในเรื่องการอยู่ต่อหน้าผู้คนสุดชีวิต แล้วก็ไม่ได้อยากจะเป็นดารา แต่กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยิ่งพอได้รู้ว่าเบื้องหลังนั้นชุนต้องสวมหน้ากากเล่นบทดาราเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรอบข้าง คุสึอุจึงกลายเป็นแฟนคลับจนกระทั่งความรู้สึกนั้นพัฒนากลายเป็นความรักโดยที่เพศหรือการงานของอีกฝ่ายไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
ทางฝั่งชุนเองก็ตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกพบด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความที่ชอบคิดในแง่ลบก็เลยหลงคิดไปว่ารักข้างเดียวคงจะไม่มีทางสมหวัง ชุนจึงเข้าหาด้วยวิธีแปลกๆ จนนำไปสู่ความเข้าใจผิดและทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นนิดหน่อย
ทว่าตอนนี้คุสึอุเป็นทั้งแฟนคลับตัวยงและคนรักผู้ตกหลุมรักตัวจริงของชุนซึ่งขี้อายและน่ารักอย่างหัวปักหัวปำ รวมถึงคบหากันภายใต้การดูแลสอดส่องของผู้จัดการมาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว
ด้วยความที่ชุนเป็นดาราดังทำให้โดนสื่อจับตามองอยู่เสมอ ดังนั้นการจะมีความสัมพันธ์แบบลับๆ ได้นั้นจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
เพื่อที่จะปกป้องความสัมพันธ์ของพวกเขาให้ยังเป็นความลับต่อไปจึงมีกฎที่ต้องปฏิบัติตามอยู่มากมาย แต่ความยินดีที่ได้รับจากชุนก็คุ้มค่ากับความอดทนและความลำบากที่ต้องเจอจริงๆ
ในวันหยุดอันแสนสำคัญหรือในตอนที่มีเวลาว่างเพียงเล็กน้อยอีกฝ่ายจะเชิญเขาไปที่บ้าน และใช้เวลาร่วมกันเหมือนคนรักที่ตกอยู่ในห้วงรักจนตามืดบอด
ถึงแม้จะรู้สึกผิดต่อแฟนคลับคนอื่นที่คลั่งไคล้ในตัวชุนเป็นอย่างมาก แต่คุสึอุก็คือคนสำคัญที่ได้รับกุญแจสำรองของแมนชันอันเป็นบ้านของชุนที่ปกติจะรับรู้กันแค่ว่า ?อยู่ที่ใดสักแห่งในเมือง? แน่นอนว่าเป็นห้องส่วนตัว รวมถึงได้เข้าไปสำรวจภายในตัวของดาราหนุ่มที่คนอื่นไม่มีทางจะได้เข้าไป
ความสุขและความรู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่นทั่วไปนั้นไม่ได้อยู่ในระดับธรรมดา จนบางทีคุสึอุก็อดฉงนไม่ได้ว่า ชาติก่อนเขาทำความดีอย่างการช่วยชีวิตคนจำนวนห้าร้อยล้านคนเอาไว้หรือเปล่า ถึงได้มีโอกาสพบเจอเรื่องโชคดีราวปาฏิหาริย์อย่างนี้
ทั้งที่ในชาตินี้เขาเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมชุนกลับรักมั่นในตัวเขาไม่เปลี่ยนแปลง
แม้นี่จะเป็นความสุขที่เหมือนกับความฝันจนไม่อยากลืมตาตื่น แต่ก็มีปัญหาอย่างหนึ่งคือ ชุนโด่งดังเกินไปจนไม่สามารถเจอกันได้อย่างใจนึก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้เป็นช่วงถ่ายทำละครไทงะซึ่งกินเวลาสิบสามเดือน เป็นช่วงที่ยุ่งมากจนถึงขั้นที่ต้องเตรียมที่พักสำรองเอาไว้ใกล้ๆ สถานที่ถ่ายทำเพื่อพักค้างอยู่ที่นั่น ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถเดตกันที่บ้านได้เหมือนก่อนหน้านี้
การถ่ายทำในแต่ละวันนั้น แม้จะมีตารางเวลากำกับว่า ?ตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง? แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ใช่ว่าจะจบลงได้ตรงตามเวลาที่กำหนด ดังนั้นเวลาเลิกงานจริงๆ จึงเป็น ?เวลาที่ถ่ายทำเสร็จ? นั่นเอง ส่งผลให้บางทีก็มีกรณีที่ถ่ายติดต่อกันทั้งวันทั้งคืนแล้วจบลงตอนตีห้า จากนั้นก็เว้นช่วงนอนพักประมาณสองชั่วโมงก่อนจะเริ่มถ่ายของวันต่อไป
แม้จะเป็นห่วงอยู่บ้างว่าทำแบบนี้สุขภาพจะเสียไหม แต่ด้วยความที่คุสึอุเป็นทั้งคนรักและแฟนคลับ ทำให้เขาก็รู้สึกดีใจที่ชุนได้รับงานดีๆ และอยากจะคอยเป็นกำลังใจให้จากใจจริง
แต่ก็ใช่จะว่าไม่รู้สึกเหงาที่ไม่ได้เจอกัน
เพราะต่อให้ไม่ได้เจอหน้ากันโดยตรง พวกเขาก็ใช้วิธีติดต่อกันทางอีเมลหรือโทรศัพท์หากันอย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่นั้นก็เป็นอะไรที่พิเศษมากแล้วสำหรับคุสึอุ แถมยังรับรู้ได้ว่าคำปลอบโยนจากใจจริงของตนเป็นแรงใจและช่วยให้ชุนสบายใจขึ้นได้จริงๆ
ชุนหมั่นแสดงความรักที่มีต่อเขาอย่างไม่ปิดบัง ทั้งในระหว่างที่พูดคุยกันทางโทรศัพท์หรือผ่านตัวอักษร ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าหัวใจของเขาเชื่อมโยงกับชุนอยู่เสมอ ทำให้คุสึอุยอมตั้งตารอคอยที่จะได้เจอกันเมื่ออีกฝ่ายมีเวลาว่าง
ในยามที่ความอยากเจอทับถมมากล้นจนแทบทนไม่ไหว คุสึอุใช้วิธีเวียนดูผลงานทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของชุนที่มีอยู่มากมายไปเรื่อยๆ เพื่อหันเหความรู้สึกของตนให้ไม่จดจ่ออยู่กับมัน
ชายหนุ่มดื่มด่ำไปกับฉากที่ฮารุโนริ (โยซัน) ในวัยสิบแปดปีกำลังเล่นตุ๊กตากับโยชิฮิเมะ ภริยาผู้ป่วยเป็นโรคกระดูกผุทำให้ทั้งจิตใจและร่างกายยังอยู่ในสภาพเยาว์วัยไม่เปลี่ยนแปลง พลางนึกในใจว่าเมื่อไรจะได้เจอชุนตัวจริงอีกครั้ง และในตอนที่หยิบรีโมตขึ้นมาจู่ๆ ก็มีสายโทรเข้า
ผู้ที่โทรเข้ามาคือฮิงุเระ ผู้ติดตามของชุนนั่นเอง
?สวัสดีครับคุณคุสึอุ วันนี้หยุดใช่ไหมครับ ตอนนี้คุณสามารถแวบออกมาสักหน่อยได้หรือเปล่า? อาจจะไกลไปนิดแต่ชุนมีถ่ายภาพอัลบั้มแจ็กเกตและสินค้าโปรโมตที่สวนพฤกษชาติของหอศิลป์ K เมือง S น่ะครับ ถ้าหากงานคืบหน้าไปได้อย่างราบรื่นก็อาจจะมีเวลาว่างนิดหน่อยช่วงบ่าย ชุนเลยชวนว่า ?ถ้าคุณสนใจจะมาดูงานจัดแสดงด้วยกันไหมครับ? น่ะ?
คุสึอุตอบโพล่งกลับไปทันทีทั้งที่อีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบ
?จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ!?
จากนั้นก็รีบร้อนเปลี่ยนชุดอยู่บ้านเป็นเสื้อผ้าที่ดูเรียบร้อยหน่อย แล้วคว้ากุญแจรถพุ่งออกจากบ้าน
นี่เป็นครั้งแรกในรอบสองเดือนที่จะได้เจอกันโดยไม่ต้องผ่านหน้าจอสมาร์ตโฟน
ชายหนุ่มพิมพ์จุดหมายปลายทางลงบนเครื่องเนวิเกเตอร์ ก่อนจะเปิดซีดีเพลงของชุนแล้วฮัมเพลงในลำคอเป็นแบ็กคอรัสไปพลางๆ
ทุกครั้งที่ติดไฟแดง คุสึอุจะออกท่าออกทางเลียนแบบท่าเต้นของชุนอย่างสนุกสนาน และขับรถมุ่งสู่สถานที่ที่เป็นจุดหมาย
หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ห่างจากเขตตัวเมืองแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเดตอย่างลับๆ เป็นที่สุดเลยก็ว่าได้
เพราะคนไม่ได้มากมายจนต้องวุ่นวายรอคิวหลายชั่วโมงถึงจะได้เข้าไปชมด้านใน แถมยังเป็นสถานที่ที่ต้องการความสงบเงียบ ดังนั้นต่อให้มีผู้เข้าชมคนไหนเกิดจำชุนได้ ก็ไม่สามารถส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดวิ่งไล่ตามมาได้เหมือนกับตอนไปเจอตัวที่ใจกลางเมือง
แม้ว่าในช่วงเริ่มคบหากันเขาจะโดนคาชิฮาระซึ่งเป็นผู้จัดการของชุนเอ่ยห้ามเอาไว้ว่า ?ไม่ให้พบปะกันข้างนอกที่อาจมีสายตาคนอื่นจับจ้อง? แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ากฎนั้นจะได้รับการผ่อนปรนลงบ้างแล้ว
ด้วยเหตุว่าบ้านพักซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่ถ่ายทำละครไทงะนั้นมีไว้เพื่อการหลับพักผ่อนสั้นๆ หรือเอาไว้เป็นสถานที่ท่องจำบท คุสึอุจึงไม่อยากจะไปกวนเวลาเหล่านี้ของชุน รวมถึงโดนคาชิฮาระย้ำอย่างหนักแน่นมาแล้วด้วยว่าต่อให้โดนชุนชวนไปก็ห้ามไปอย่างเด็ดขาด
เพื่อเป็นการชดเชย บางครั้งเขาจึงถูกเรียกตัวไปใกล้ๆ สถานที่ซึ่งชุนไปทำงานอื่น และได้ออกเดตกันอย่างลับๆ แทน
ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นสถานที่ที่ออกแนววิชาการ ไม่ใช่สถานที่ที่คู่รักชอบไปเดตกันอย่างสวนสนุกหรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเพื่อที่จะได้ไม่ดูโจ่งแจ้งนักและสามารถกลบเกลื่อนไปได้เวลามีข่าวลือว่า ?มานากะ ชุนออกมาเที่ยวกับผู้ชาย? เนื่องจากที่ผ่านมาคุสึอุเลิกหวังไปแล้วว่าจะได้ไปเดตข้างนอกกับชุน ดังนั้นพอมีโอกาสและโดนเรียกตัวเช่นนี้ เขาจึงรีบเร่งไปตามคำเรียกเสมอ ต่อให้ต้องทิ้งทุกสิ่งที่กำลังทำอยู่ไปกลางคันก็ตาม
เพียงแต่ด้วยความที่อีกฝ่ายเป็นดาราดังถึงขั้นไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มีคนจำหน้าได้ ย่อมไม่แปลกอะไรที่การเดตของพวกเขาจะไม่เหมือนการเดตสักเท่าไร
แต่อย่างไรเสียก็ต้องระวังเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีนักข่าวแฝงตัวรอสกู๊ปเด็ดๆ อยู่หรือเปล่า ส่วนพวกคนทั่วไปนั้นพอรู้ก็จะจับตามองทุกฝีก้าว บางครั้งก็ถ่ายรูปไปลงตามสื่อต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตตามอำเภอใจ แต่ที่น่ากลัวคือเอาไปขายให้นิตยสารายสัปดาห์
ด้วยเหตุนี้ในเวลาเดตกัน ทั้งเขาและชุนจึงไม่สามารถแสดงท่าทีว่ามีความสัมพันธ์เกินกว่าเพื่อน รวมถึงต้องวางตัวให้ดีเพื่อไม่ให้ถูกจับได้
ซึ่งก็คือต่อให้รู้สึกยินดีที่ได้เจอกันสักแค่ไหนก็ต้องไม่แสดงสีหน้าออกมาอย่างโจ่งแจ้ง และห้ามสนิทสนมเข้าใกล้กันเกินไปเพราะอาจจะโดนถ่ายภาพคู่เอาได้ แถมถ้ามีคนที่รู้วิชาอ่านปากก็จะแย่เอา เพราะฉะนั้นห้ามเลินเล่อพูดจาอะไรที่ไม่เหมาะสมออกมาด้วย
นอกจากนั้นก่อนหน้านี้ชุนยังเคยโดนแฟนคลับชายที่คลั่งไคล้ในตัวเขาใช้ของมีคมพุ่งเข้าทำร้าย ดังนั้นทั้งฮิงุเระและคาชิฮาระจึงต้องตามมาด้วยเผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายขึ้น
ถึงอยากจะบ่นว่าแบบนี้ก็ไม่เหมือนการเดตเลยสักนิดนี่นา แต่ความยินดีที่ได้เจอตัวชุนแม้จะต้องแสร้งทำเป็นเพื่อนก็มีมากเสียจนไม่อาจแลกเปลี่ยนกับสิ่งใดได้
หากไม่พยายามอดทน เขาก็คงไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ฉันคนรักกับคนที่เป็นดาราเอาไว้ได้ นอกจากนี้ด้วยความช่วยเหลือจากพวกคาชิฮาระ ก็ทำให้เขาดูเหมือนเป็น ?ผู้เกี่ยวข้องจากต้นสังกัด? มากกว่าที่จะเป็นเพื่อนทั่วๆ ไปเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นถึงตัวตนของสองคนนี้จะเกะกะการเดตไปบ้าง แต่คุสึอุก็ไม่สามารถบ่นอะไรได้
เพราะเป็นคนรักกัน คุสึอุจึงไม่อยากให้ตนเองเป็นต้นเหตุของเรื่องอื้อฉาวที่พาดเงาลงสู่หน้าที่การงานหรือความนิยมของคนรัก การกระทำฉันคนรักนั้นเขาสามารถอดกลั้นเอาไว้ทำตอนเดตที่บ้านครั้งหน้าได้ ไม่จำเป็นจะต้องลงทุนเสี่ยงอันตรายมากระทำในตอนที่อยู่ข้างนอกแบบนี้หรอก ทันทีที่คิดได้เช่นนั้นหางตาของคุสึอุก็ลู่ลงอย่างยินดี
คุสึอุขับรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเต็มที่จนคนขับรถที่ติดไฟแดงอยู่ในเลนฝั่งตรงข้ามสะดุ้งเฮือก เขาทำสีหน้าอย่างนั้นจนมาถึงที่หมาย แล้วจอดรถที่ลานจอดก่อนจะติดต่อหาฮิงุเระ
คาชิฮาระซึ่งเป็นผู้จัดการไม่ค่อยชอบใจนักที่คุสึอุคบหากับชุน เพราะไม่อยากเจอกับข่าวลือที่เปลืองแรงในการรับมือ ท่าทีที่ปฏิบัติด้วยจึงค่อนข้างแข็งกร้าว ทว่าฮิงุเระที่เป็นคนติดตามนั้นให้ร่วมมือเป็นอย่างดี แถมยังคอยส่งข่าวให้อีกต่างหาก
เมื่อคุสึอุลงจากรถและหันไปมองทางรถของอีกฝ่าย ก็พบว่าคนรักที่ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้วและหลบสายตาผู้คนพักผ่อนอยู่บนรถนั้นเปิดประตูแล้วก้าวออกมายืนข้างนอก
แม้ชุนจะอยู่ในชุดลำลองธรรมดาๆ อย่างเสื้อยืดสีขาว สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวผ้ากิงแฮมสีน้ำเงิน กางเกงสีเบจ และรองเท้าสนีกเกอร์ ทว่าก็ไม่สามารถปิดซ่อนรูปร่างสมส่วนและออร่าความงามตามแบบฉบับดาราไปได้ทั้งหมด อีกทั้งบรรยากาศรอบตัวของเขาก็แลดูเปล่งประกายวิบวับขึ้นมาทันที
เมื่อสองสายตาประสานกันโดยมีรถจำนวนหลายคันกั้นกลาง ดวงตาหลังแว่นที่ใส่เพื่อปลอมตัวก็เปล่งประกายวิบวับยามที่เด็กหนุ่มแย้มยิ้มกว้างด้วยท่าทางดีใจ ความน่ารักนั้นทำให้ใจของคุสึอุบีบรัด
แม้ว่าในใจของคุสึอุจะรู้สึกอยากวิ่งเข้าไปกอดรัดคนรักผู้งดงามที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานพร้อมกับร้องตะโกนออกมาว่า ?ชอบนะ!? มากสักเท่าไร แต่เมื่ออาบสายตาของคาชิฮาระที่ทำหน้าเคร่ง จิตใจที่พองฟูก็สงบอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มเตือนตัวเองให้รักษาท่าทีว่าเป็นเพื่อนก่อนจะเดินเข้าไปใกล้
?สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานเลย เหนื่อยหน่อยนะครับเรื่องถ่ายภาพแจ็กเกต วันนี้ขอบคุณมากนะครับที่ติดต่อมา?
คุสึอุใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการละสายตาออกจากคนที่อยากจับจ้องมากที่สุด แล้วกล่าวทักทายคาชิฮาระกับฮิงุเระ ซึ่งถ้าไม่มีความช่วยเหลือจากสองคนนี้เขาคงไม่มีโอกาสเช่นนี้แน่
ฮิงุเระที่มีอุปนิสัยโอบอ้อมอารีเอ่ยถามกลับอย่างใจดีด้วยรอยยิ้มว่า ?ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ รถติดหรือเปล่าครับ?? ฝ่ายคาชิฮาระที่สวมแว่นตากรอบดำ วางท่าเหมือนเจ้าพ่ออยู่นั้นก็เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงและท่าทางเย็นชาอย่างเป็นงานเป็นการ
?หลังจากนี้จะมีงานต่อ เพราะฉะนั้นจำกัดเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ในระหว่างที่เดินชมก็ทำเหมือนเดิมคือให้เว้นระยะห่าง ห้ามตัวติดกันอย่างเด็ดขาด สายตาก็ให้ดูภาพเขียนไปซะไม่ต้องมัวแต่มองหน้ากัน เวลาคุยกันก็ให้คุยแต่เรื่องภาพ แล้วก็ให้กระซิบคุยกัน พยายามอย่าขยับริมฝีปากนัก หรือต่อให้ไม่พูดออกมาเป็นคำก็ห้ามส่งสายตาแฝงแววหื่นกระหายประเภท ?ชอบนะ? ?อยากทำจังเลย? ?ผมก็เหมือนกัน? ออกมาโดยเด็ดขาด?
?เข้าใจแล้วครับ ผมจะระวัง?
คำเตือนอันไร้ซึ่งความละเอียดอ่อนนี้เป็นเรื่องปกติในทุกครั้ง คุสึอุจึงทำเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น
แค่พวกเขาหาเวลาว่างท่ามกลางตารางงานที่ยุ่งวุ่นมาให้ก็เป็นเรื่องที่น่าขอบคุณมากแล้ว อีกทั้งคำเตือนของคาชิฮาระก็มีไว้เพื่อปกป้องชุน ไม่ได้เป็นแค่คำพูดร้ายๆ ที่คอยเหน็บแนมอย่างเดียว คุสึอุเลยไม่ได้เอ่ยย้อนกลับไปให้เจ็บแสบว่า ?จะให้มาทำอะไรเหมือนนักพากย์อย่างนั้นไม่ไหวหรอกนะครับ?
พวกเขาทั้งสี่เข้าไปในตัวอาคาร จากนั้นก็เริ่มชมนิทรรศการภาพวาดญี่ปุ่นซึ่งเป็นแนวบุคลาธิษฐานของสัตว์
ในตอนที่ถูกโทรเรียกตัว คุสึอุไม่ได้รับแจ้งมาก่อนว่าเป็นงานนิทรรศการอะไร แต่การได้ดูภาพอุคิโยะ หรือภาพม้วนที่มีนกและสัตว์ป่าทำท่าตลกๆ ก็เพลิดเพลินดี จึงทำให้รู้สึกสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
คุสึอุปฏิบัติตามคำสั่งของคาชิฮาระอย่างเคร่งครัด เขาเว้นระยะห่างจากชุนเล็กน้อยในระหว่างที่ยืนมองภาพอยู่เคียงกัน และใช้วิธีเหลือบมองทางหางตาโดยที่สายตายังคงจดจ้องอยู่กับภาพตรงหน้า
?คุณคุสึอุครับ ภาพกบภาพนี้ กบแต่ละตัวทำหน้าตาท่าทางน่าเอ็นดูมากเลย ดูน่ารักดีนะครับ?
เด็กหนุ่มกระซิบบอกด้วยเสียงเบาๆ ให้เฉพาะคุสึอุได้ยินในระหว่างที่ยืนมองภาพหญิงนางโลมถือพัดในมือข้างหนึ่ง พลางก้มลงมองเหล่ากบในสวนที่กำลังเล่นซูโม่กันอยู่ด้วยแววตาอารี
น้ำเสียงกระซิบนั้นสั่นไหวจนคุสึอุรู้สึกได้ และรับรู้ว่าอีกฝ่ายก็รู้สึกยินดีไปกับช่วงเวลานี้เช่นเดียวกัน ใจของเขาเต้นระรัว
เธอน่ารักกว่าตั้งเยอะ ชายหนุ่มรีบกลืนคำพูดนี้ลงไปในคอ ก่อนจะกระซิบตอบกลับไปว่า ?จริงด้วยนะ?
ถ้าเป็นบทสนทนาทั่วไปในแบบที่มิตรสหายคุยกันนั้นสามารถพูดได้อย่างไม่มีปัญหา คุสึอุจึงเริ่มชวนสนทนาโดยใช้ภาพวาดเป็นหัวข้อ เพราะอยากจะได้ยินเสียงของอีกฝ่ายมากกว่านี้
?อีกอย่าง ศิลปินที่ชื่อคาวานาเบะ เคียวไซคนนี้อาจจะชอบกบนะ เพราะเมื่อกี้นี้ก็มีรูปกบกำลังสู้รบกันด้วย?
คุสึอุเอ่ยพลางขยับตัวย่นระยะห่างเข้าไปอีกนิด
?เหมือนจะเป็นแบบนั้นนะครับ เพราะคุนิโยชิที่เป็นอาจารย์คนแรกของเคียวไซก็ชอบแมว?
ชุนลดเสียงเบาลงพลางขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้นอีกอย่างแนบเนียนเช่นกัน
ทั้งสองยังคงพูดคุยกันด้วยเสียงเบาๆ ตามที่คาชิฮาระสั่งเอาไว้ เป็นเหตุให้ถ้าไม่ขยับเข้าใกล้กันมากขึ้นก็จะไม่ได้ยิน ด้วยเหตุนี้ทั้งคู่จึงขยับเข้าใกล้กันมากขึ้นอีก ก่อนจะพูดคุยกันเรื่องภาพวาดอย่างตั้งใจต่อไป
?คุนิโยชิเนี่ย ใช่คนที่วาดภาพแมวตัวต่อกันเป็นตัวอักษรว่า ?ปลาไหล? รึเปล่า??
?ใช่ครับ เคียวไซเป็นลูกศิษย์คุนิโยชิแค่ประมาณสองปี แต่รู้สึกว่าเขาจะสืบทอดไอเดียการวาดภาพอย่างอิสระมาด้วยนะครับ ในช่วงใกล้วาระสุดท้ายของเคียวไซเขาก็รับลูกศิษย์ที่ถือว่าแปลกมากมาด้วย คนนั้นก็คือโจเซีย คอนเดอร์เป็นสถาปนิกชาวอังกฤษผู้ออกแบบเรือนรับรองแขกต่างชาติที่ชื่อว่าโรคุเมคังในสมัยเมจิ โดยเขามาขอให้เคียวไซช่วยสอนการวาดภาพญี่ปุ่นให้?
หืม อย่างนี้นี่เอง คุสึอุเหลือบสายตามองเล็กน้อย ก่อนจะผินหน้าไปทางเด็กหนุ่มนิดๆ
เขาแก้ตัวอยู่ในใจว่า ก็แค่คุยกันเรื่องภาพวาดเท่านั้น ไม่ได้ส่งสายตาแปลกๆ อะไรให้กันเสียหน่อย ในขณะที่จ้องมองใบหน้าคนรัก
?ไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าเขามีลูกศิษย์เป็นคนต่างชาติ แถมยังไม่ใช่จิตรกรแต่เป็นสถาปนิกอีกต่างหาก แต่คนที่ทำงานออกแบบก็มีความสามารถด้านการวาดแผนผัง เขียนแบบ และวาดรูปอยู่แล้วนี่นะ ว่าแต่เคียวไซเป็นคนหัวก้าวหน้าดีนะ ทั้งที่เป็นคนในยุคบาคุมัตสึจนถึงช่วงต้นยุคเมจิแท้ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตก แต่ในยุคนั้นก็หายากทีเดียวนะที่จะมีใครยอมรับชาวต่างชาติเป็นลูกศิษย์ ถ้าเป็นคนหัวเก่าละก็ไม่น่าจะทำหรอก?
พอเอ่ยเช่นนั้นอีกฝ่ายก็หันหน้ามาหาพลางยิ้ม
?นั่นสินะครับ ดูท่าคงเป็นคนที่ยืดหยุ่นประนีประนอมทั้งด้านจิตใจแล้วก็ความคิดเลยนะครับ เห็นว่าโจเซีย คอนเดอร์ในวัยยี่สิบเก้าปีรู้สึกชื่นชมภาพอีกาที่เคียวไซวาดขึ้นมาในวัยห้าสิบเป็นอย่างมาก ก็เลยไปขอเป็นลูกศิษย์ หลังจากนั้นเคียวไซก็ออกไปสอนลูกศิษย์คนนี้ทุกอาทิตย์จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารเมื่ออายุห้าสิบเก้าปี ทั้งคู่ออกไปท่องเที่ยวเพื่อสเกตช์รูปด้วยกันบ่อยๆ เคียวไซสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับโจเซีย และในวาระสุดท้ายเขาก็จากไปโดยที่กุมมือของศิษย์รักผู้มีดวงตาสีฟ้าเอาไว้?
คุสึอุฟังเสียงชุนที่เล่าเรื่องราวนั้นเบาๆ ในใจรู้สึกเคลิบเคลิ้มพลางพยักหน้ารับว่า ?อย่างนี้นี่เอง?
?เป็นความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ที่ดีจังเลยนะ คงจะมีสายใยที่เชื่อมทั้งคู่เอาไว้โดยก้าวข้ามความต่างเชื้อชาติหรือวัยอยู่แน่ ว่าแต่...ชุนคุงรู้เรื่องเยอะแยะเลยนะ สุดยอดเลย?
ชุนมีนโยบายว่าจะทำงานที่รับมาอย่างเอาจริงเอาจังสุดกำลัง ไม่ว่างานอะไรเขาจะหาข้อมูลเอาไว้ไม่เคยขาด อย่างบทที่ได้รับเขาก็ค้นคว้าศึกษาจนแจ่มแจ้ง คุสึอุจึงเอ่ยชมเรื่องนี้ออกไปด้วยความชื่นชมจากใจจริง ทว่าอีกฝ่ายกลับยกมือขึ้นโบกเป็นพัลวันพร้อมเอ่ยปฏิเสธ
?เอ่อ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ก็แค่ก่อนหน้านี้ผมบังเอิญได้งานเป็นผู้บรรยายการนำเที่ยวทางหูฟังเท่านั้นเอง ข้อมูลที่ได้ก็มาจากอันนั้นทั้งหมดล่ะครับ ตัวผมเรียนจบ ม.ปลาย ไม่ได้มาจากโรงเรียนสอนการแสดงก็เลยไม่มีความรู้อะไร อย่างเมื่อวันก่อนผมมีถ่ายวิดีโอโปรโมตเพลงใหม่ แล้วเซตฉากที่จะถ่ายเอาไว้ว่าให้ผมยกหูโทรศัพท์โบราณสีดำขึ้นมาระหว่างร้องเพลงเหมือนอย่างในละครสมัยโชวะ แต่ผมไม่รู้วิธีหมุนเบอร์โทรเสียด้วยซ้ำ เลยโดนพวกสตาฟหัวเราะในความโง่กันใหญ่ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมวางท่าพูดเหมือนรู้ดีไปแบบนั้น?
เขาคิดว่ามีดาราจำนวนมากที่ถ้าไม่ชมสักหน่อยก็จะงอน ทว่าชุนกลับไม่ถูกกับคำชมอย่างน่าประหลาด แถมยังออกอาการขัดเขินอย่างรุนแรง เพียงแค่โดนชมนิดหน่อยก็จะทำตัวไม่ถูกจนสุดท้ายกลายเป็นพูดจาถล่มตัวเองตามนิสัย
คุสึอุยิ้มเจื่อนเมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงก่ำลนลาน จากนั้นจึงเอ่ย
?ฉันเองก็เคยเห็นโทรศัพท์โบราณสีดำนั่นแค่ในละคร มันก็ช่วยไม่ได้แหละที่เธอจะไม่รู้เพราะไม่เคยใช้มันจริงๆ นี่? ถ้าถึงเวลาถ่ายจริงทำได้ก็โอเคแล้วล่ะ อีกอย่างฉันว่ามันไม่เกี่ยวหรอกนะว่าเรียนจบอะไร เพราะเขาว่ากันว่าเรื่องที่เราตั้งใจเรียนรู้หลังจบการศึกษาคือการเรียนที่แท้จริงนี่ แค่ท่องบทก็เป็นงานหนักอยู่แล้ว แต่พอได้ยินว่าเธอมักจะอ่านหนังสืออยู่ตลอดเวลาพักกอง ฉันก็คิดว่าเธอเป็นเด็กขยันดีออกนะ แถมก็มีหลายเรื่องที่ฉันได้รู้เพราะฟังจากชุนคุงนะ ไม่เคยคิดเลยด้วยว่าเธอวางท่ารู้มาก ออกจะอยากฟังมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ฉันคิดอย่างนั้นจริงจังเลยนะ เพราะฉะนั้นอย่าเอาแต่ถล่มตัวเอง แต่หัดทำท่าภาคภูมิใจบ้างเถอะ?
?คุณคุสึอุ...?
แม้ว่าจะโดนสั่งห้ามมองหน้าหรือสบตากัน แต่คุสึอุอยากจะลูบหัวชุนที่เหลือบสายตาขึ้นมามองอย่างขัดเขินด้วยสีหน้าน่ารัก
ในตอนนี้คุสึอุก็อ่านหนังสือหลากหลายแนวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพราะได้รับอิทธิพลมาจากคนรัก เช่นเริ่มอ่านหนังสือของอุเอะซึงิ โยซันเพราะละครไทงะ หรือไม่ก็ย้อนกลับไปสนใจต้นตระกูลอุเอะซึงิอย่างเคนชิน หรือเรื่องราวของนักรบคนอื่นๆ ด้วย บางทีก็ดูละครเวทีหรือภาพยนตร์ที่ชุนเล่นก่อนจะได้เจอกับเขาจนย้อนไปอ่านหนังสือที่เป็นต้นฉบับ บางครั้งก็ไปอ่านวรรณกรรมรัสเซีย ไม่ก็เชกสเปียร์ บางคราวก็ไปตามอ่านหนังสือที่ชุนให้สัมภาษณ์ลงนิตยสารว่าชอบอ่าน อย่างวันนี้ถ้าไม่โดนชวน ลำพังเพียงตัวเขาก็คงไม่คิดจะมาเดินงานนิทรรศการภาพวาดญี่ปุ่นแน่ เรียกได้ว่าโลกของคุสึอุนั้นเปิดกว้างและมีสีสันขึ้นมากเพราะชุนจริงๆ




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ด้วยความสามารถทางการแสดงละครที่ยอดเยี่ยมและการแสดงบนเวทีอันไร้ที่ติ รวมถึงรูปลักษณ์อันงดงามจนได้รับการกล่าวขานว่าราวกับอัญมณีมีชีวิต อีกทั้งท่าทีที่แสดงต่อแฟนคลับก็ดีเลิศ ทำให้ชุนยิ่งได้รับความนิยมจนเกือบจะถึงขั้นเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งชาติไปแล้ว ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงตัวเขาจะเป็นคนอ่อนแอ ขี้ขลาด เอาแต่คิดเชิงลบ เขาก็พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อคุสึอุผู้เป็นทั้งแฟนคลับและคนที่รักที่สุด แต่แล้ววันหนึ่งช่างภาพที่รับหน้าที่ถ่ายภาพในโฟโต้บุ๊กเพื่อการกุศลก็เสนอให้ชุนถ่ายแบบนู้ด ส่วนชุนก็ต้องยอมรับงานนี้ทั้งที่ไม่ชอบ ทว่า...!? เชิญพบกับตอนต่อของรักลับๆ ระหว่างซูเปอร์สตาร์กับคนธรรมดาได้ในเล่มนี้?

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”