New Release BLY แปล : DOUBLE BIND 3

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : DOUBLE BIND 3

โพสต์ โดย Gals »

DOUBLE BIND 3


?กลับไปรอที่รถก่อน?
คำสั่งของเขาทำให้ชายอีกคนแสดงอาการลังเล ?ฉันไม่เป็นอะไรหรอก? เขาพูดเสียงกระซิบพลางก้มมองปลายเท้าของตัวเอง
ชายอีกคนจากไปตามคำสั่งแม้จะมีสีหน้าวิตกกังวล
ลมเย็นเยียบพัดตีหน้า แต่ไม่รู้สึกหนาวแม้แต่น้อยเพราะเขากำลังตื่นเต้นยินดี
ร่างไร้วิญญาณที่กองอยู่แทบเท้าทำให้เขารู้สึกสุขล้น ในที่สุดศพแรกก็เสร็จสมบูรณ์เสียที ในอกอิ่มเอมด้วยความสำเร็จที่ยากจะบรรยายเนื่องจากเฝ้ารอวันนี้มาเนิ่นนาน
มันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เป้าหมายของเขาจะไม่สำเร็จไม่ลุล่วงจนกว่าอีกสามคนจะกลายเป็นศพ
...ฆ่าพวกมันให้เหมือนกับนับเลข หนึ่งคน สองคน สามคน ไม่ยากเลย
เพลงหนึ่งดังขึ้นในหัวขณะยืนตากลมที่มีกลิ่นเกลือทะเลจางๆ มันเป็นเพลงโปรดภาษาอังกฤษที่เขาเปิดฟังบ่อยจนเนื้อหาซึมเข้าสมองราวกับเป็นภาษาญี่ปุ่นไปแล้ว โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นที่โดนใจเขาเป็นพิเศษ
...หากเธอตัดสินใจจะฆ่าใครสักคน ก็จงทำหัวใจให้ด้านชาดุจก้อนหิน แล้วถ้าเธอยังอยากลงมือ ก็จงยกระดับให้มันกลายเป็นศิลปะไปเสีย
ใช่แล้ว มนุษย์สามารถทำได้ทุกอย่างเมื่อปราศจากความลังเล สิ่งสำคัญที่สุดคือความมุ่งมั่นต่างหาก
เขาตัดสินใจแน่วแน่อีกครั้ง จังหวะนั้นสายตาพลันเหลือบไปเห็นเงาคนยืนอยู่ตรงริมถนนที่ตนคุ้นเคย เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังมองเข้ามาในสวนสาธารณะ
เจ้าตัวคงจะนึกสงสัยที่เห็นชายคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ในสวนร้างยามค่ำคืน เขามองเห็นหน้าอีกฝ่ายไม่ชัดเพราะอยู่ห่างกันพอสมควร แต่รู้ว่าเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างผอมบาง
อยู่ๆ ก็นึกอยากอวดผลงานขึ้นมา ความจริงไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ เพราะถึงอย่างไรพรุ่งนี้ก็มีคนมาเจออยู่ดี แต่เขาอยากให้ใครสักคนได้เห็นความสำเร็จนี้โดยเร็วที่สุด
จึงตัดสินใจกวักมือเรียกเด็กหนุ่มเข้ามา โดยไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะจำหน้าตนได้ เพราะตอนนี้เขาสวมทั้งหมวกและแว่นกรอบดำ ซ้ำยังมีความมืดช่วยอำพราง ต่อให้ตำรวจสเกตช์ภาพเหมือนออกมาจากปากคำของเด็กหนุ่ม ก็คงไม่มีใครเห็นรูปนั้นแล้วนึกถึงเขาแน่นอน
เด็กหนุ่มคนนั้นแสดงอาการลังเล แต่ก็ยอมเดินเข้ามาช้าๆ เมื่อถูกเรียกอย่างต่อเนื่อง อีกฝ่ายตัวเล็กก็จริง แต่น่าจะอยู่ประมาณ ม.ปลาย หน้าตาน่ารักและดูไม่ค่อยสู้คน ดวงตาคู่นั้นฉายแววหวาดหวั่น หากโดนข่มขู่เข้าหน่อย ก็คงจะรีบหนีไปเหมือนกระต่ายน้อย เขาจึงเลือกยืนรอเงียบๆ ด้วยรอยยิ้ม
ดวงตาของอีกฝ่ายจับจ้องอยู่บนพื้น คงจะสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในกอหญ้า ทว่าเมื่อเข้ามาใกล้สีหน้าของเด็กหนุ่มก็พลันเปลี่ยนไป ท่าทางจะรู้แล้วว่ามีคนนอนกองอยู่ตรงนั้น
เด็กหนุ่มก้าวเข้ามาใกล้กว่าเดิมแล้วสูดลมเฮือกใหญ่ด้วยความตกใจ เสียงหวีดหวิวดังลอดมาจากลำคอ ในที่สุดอีกฝ่ายก็เห็นแล้ว ว่ามันคือร่างไร้วิญญาณที่ผอมแห้งราวกับมัมมี่
เด็กคนนั้นทรุดลงกับพื้นคล้ายคนหมดแรง เพียงได้เห็นสีหน้าหวาดผวาตื่นตระหนก หัวใจก็ถูกอาบด้วยความปีติยินดี
?คนคนนี้ ตายแล้ว...?
เสียงสั่นเครือของอีกฝ่ายฟังรื่นหูจนอยากได้ยินซ้ำอีกครั้ง เขาเลยเดินไปนั่งตรงหน้าหนุ่มน้อยผู้น่าสงสาร
?ใช่ อดตายซะด้วย เข้าใจหรือเปล่า อดอยากจนตายน่ะ?
?อดตาย...?
สีหน้าพรั่นพรึงของเด็กหนุ่มพลันว่างเปล่า คล้ายสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ เขานึกเสียดายที่อีกฝ่ายเหมือนจะช็อกจนหมดสติไปแล้ว แต่จู่ๆ เด็กหนุ่มที่คอพับคออ่อนก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วพึมพำว่า ?ทำไม??
?ทำไมเขาถึงอดตาย?
ท่าทางหวาดหวั่นเมื่อครู่สลายไปราวกับไม่มีอยู่จริง เขาจ้องมองเด็กหนุ่มที่ดูสงบเยือกเย็น คล้ายกับมองของเล่นที่น่าสนใจ อยู่ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย อย่างกับมีหลายบุคลิกงั้นแหละ
?นี่ ทำไมเขาถึงอดตายเหรอ?
เด็กคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ ถึงได้กล้าถามโดยไม่สะทกสะท้าน ทั้งที่มีศพกองอยู่ตรงหน้า
เพียงแค่คิดว่าเด็กคนนี้ไม่ปกติเหมือนกับตนก็รู้สึกเห็นใจขึ้นมา
?ฉันจับไปขังไว้จนอดตายเองแหละ?
?โหดร้ายจัง? อีกฝ่ายขมวดคิ้วด้วยใบหน้านิ่งสงบ
?คนคนนี้จะต้องทรมานมากแน่ๆ?
?พูดอย่างกับตัวเองเคยอดตายเลยนะ?
เด็กคนนั้นนิ่งไปหลังได้ยินเขาหัวเราะ ความโกรธเคืองฉายอยู่ในแววตา คงจะโมโหที่ถูกหยอกเล่นละมั้ง
?ฉันมีความแค้นกับหมอนี่ แต่ถ้าฆ่าให้ตายทันทีคงไม่สนุก ก็เลยจับไปขังไว้จนกว่าจะตาย เพราะฉันอยากให้มันลิ้มรสความกลัวกับความสิ้นหวังอย่างยาวนาน และทุกข์ทรมานที่สุด?
คนตรงหน้าไม่พูดอะไรอีก ดวงตาว่างเปล่าประหนึ่งลูกแก้วใส คล้ายกับกลายเป็นหุ่นตั้งโชว์ไปแล้ว
เด็กคนนี้พิลึกจริงๆ เขาเริ่มเสียดายที่ต้องจากไป เพราะรู้สึกว่าการพบกันครั้งนี้อาจจะมีความหมายอะไรบางอย่าง ต่อมาก็นึกได้ว่าตนมีปากกาเมจิกอยู่ในกระเป๋าจึงหยิบมันออกมา
เขาเปิดฝาแล้วจับมือขวาของเด็กคนนั้นไว้ จากนั้นจรดปลายปากกาลงที่หลังมือ อีกฝ่ายยังคงเหม่อลอยไร้การตอบสนอง
...Murder by Numbers
สิ่งที่เขาเขียนลงไปบนนั้น คือชื่อเพลงที่วนเวียนอยู่ในหัวจนถึงเมื่อครู่
เขาจะฆ่าคนพวกนั้นไปตามลำดับเหมือนกับเวลานับเลข ดังนั้นเขาจะสลักคำสาบานและความตั้งใจนี้ไว้บนมือของเด็กหนุ่ม เพื่อแทนคำประกาศที่บอกว่าการแก้แค้นของเขาจะยังดำเนินต่อไป
?มันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น กับพวกที่เหลืออยู่ ฉันก็ฆ่าทิ้งแบบเดียวกัน?
เขาบอกเด็กหนุ่มที่นั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาก่อนจะลุกไปจากตรงนั้น


1

?ฉันไม่รู้ว่าโชโกะอยู่ที่ไหน?
หญิงสาวทำปากยื่นพลางใช้นิ้วจับปลายผมที่แห้งเสียจากการกัดสีเล่นๆ ผมสีทองของเธอม้วนเป็นลอน ในขณะที่ริมฝีปากวาววับด้วยลิปกลอส เธอใส่บิ๊กอายแบบมีสีพร้อมกับติดขนตาสองชั้น บนเปลือกตามีเทปเส้นเล็กๆ แปะอยู่ ดังนั้นตาสองชั้นที่เห็นก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำขึ้นอีกเช่นกัน
แต่งหน้าจัดขนาดนี้ แปลว่าหลังล้างเครื่องสำอางจะต้องจืดชืดจนน่าขำแน่นอน ฮาโตริ ชิโนบุส่งยิ้มให้ขณะนึกประทับใจในความมหัศจรรย์ของเครื่องสำอาง และเทคนิคการแต่งหน้าของสาวๆ
?แต่เธออยู่กับอัทสึมะไม่ใช่เหรอ? น่าจะพอเดาได้นะว่าเขาไปไหน??
?ไม่รู้สิ หมอนั่นไม่ได้กลับมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว คงจะไปขลุกอยู่ที่ห้องสาวอื่นละมั้ง มือถือก็ไม่เปิดด้วย น่าโมโหชะมัด?
หญิงสาวกระแทกลมหายใจขณะกอดอกพิงกำแพงหน้าประตู คุจิระ ทาเคชิเหลือบมองมาทางเขา เดาว่าน่าจะคิดแบบเดียวกันอยู่
พวกฮาโตริมาหาอัทสึมะ โชโกะที่เคยเป็นสมาชิกแก๊งเดียวกับสึสึมุระ คัทสึยะ เหยื่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องรายที่สอง ส่วนสึสึมุระเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัย ม.ต้น ของมิซาวะ เรียวตะซึ่งเป็นเหยื่อรายแรก สองคนนั้นไม่ได้คบหากันอย่างเปิดเผย แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มิซาวะชอบตามสึสึมุระไปร่วมชุมนุมกับแก๊งซิ่งที่ชื่อว่าเรดวูล์ฟ
ฮาโตริรู้สึกสนใจแก๊งเรดวูล์ฟที่เป็นจุดร่วมของทั้งคู่ เลยไหว้วานคุจิระ อดีตหัวหน้าแก๊งเรดวูล์ฟให้ช่วยตามหาตัวอัทสึมะที่เคยสนิทกับสึสึมุระในสมัยนั้นให้ที กระทั่งรู้ที่อยู่จึงรีบมาหาที่ฟุนาบาชิในวันนี้
จากข้อมูลที่คุจิระได้มา ดูเหมือนอัทสึมะเพิ่งจะออกจากสถานพินิจเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน จากนั้นก็ไปอาศัยอยู่กับสาวในคาบาเรต์คลับที่ตนรู้จัก
แต่เมื่อมาถึงแมนชั่นของสาวคนนั้น กลับพบว่าอัทสึมะหายตัวไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว ดูอย่างไรก็เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ฮาโตริฉีกยิ้มชวนขนลุกด้วยความโมโห
?ไม่เอาน่าพี่สาว มีแฟนสวยขนาดนี้ยังจะมีหญิงอื่นอีกเหรอ ฉันไม่เชื่อหรอก?
ฮาโตริรู้สึกตนแกล้งชมไม่เนียนเท่าไร แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะถูกใจคำยกยอตามมารยาทของเขา จึงช้อนตามองอย่างให้ท่า
?ไม่รู้สินะ หมอนั่นติดหญิงอย่างกับอะไรดี ตัวเองมาเกาะฉันกินแท้ๆ แต่ก็ชอบไปคั่วสาวอื่น แย่ที่สุดเลย...ว่าแต่ พวกเธอเป็นอะไรกับโชโกะล่ะ??
?สหายเก่าน่ะ? เขาพูดกลบเกลื่อนไปอย่างนั้น หญิงสาวจึงตอบกลับมาว่า ?อ๋อ พรรคพวกสมัยอยู่แก๊งซิ่งใช่ไหม? เธอทึกทักเอาจากชุดหนังกันลมที่ฮาโตริสวมใส่
?ใช่ๆ พอดีนึกอยากเจอขึ้นมาน่ะ ได้ยินว่าช่วงนี้หมอนั่นดูซึมๆ มีปัญหาอะไรรึเปล่า??
ฮาโตริลองสุ่มถามดู แต่เธอกลับจับปลายผมเล่นอีกครั้งแล้วตอบว่า ?ไม่รู้สิ?
?ช่วงนี้เขาดูหงุดหงิด แล้วก็ชอบหมกตัวอยู่ในห้องบ่อยๆ แต่ฉันไม่รู้สาเหตุหรอก?
ฮาโตริประเมินแล้วว่าคงไม่ได้ข้อมูลไปมากกว่านี้ จึงตัดสินใจจะถอยกลับ แล้วขอเบอร์อัทสึมะเผื่อไว้เป็นอย่างสุดท้าย
?งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนดีกว่า ขอโทษที่มารบกวนกะทันหันนะ?
?อ๊ะ ฉันขอเบอร์เธอไว้ด้วยสิ เผื่อโชโกะกลับมา จะได้รีบโทรไปบอกไง?
?ขอบคุณนะ? ฮาโตริยิ้มตอบหญิงสาวที่มองมาด้วยสายตาเป็นนัย ก่อนจะบอกเบอร์มือถือให้ คุจิระที่ยืนอยู่ข้างๆ เดาะลิ้นอย่างหงุดหงิด เพราะเบอร์ที่บอกดันเป็นเบอร์ของตน
?นี่ แล้วชื่อล่ะ?? หญิงสาวถามขณะบันทึกเบอร์ลงมือถือ พอตอบไปว่า ?ทาเคชิ? ฮาโตริก็ได้ยินเสียงจึ๊กจั๊กอีกครั้งจากคนข้างตัว เพราะมันคือชื่อจริงของคุจิระ
เมื่อถูกจ้องตาเขียว เขาก็ส่งสายตากลับเป็นเชิงปลอบว่า ?เอาน่า? ระหว่างนั้นมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินสวนมา เขาใส่กางเกงขายาวกับเสื้อเชิ้ตลายทาง แล้วคลุมทับด้วยคาร์ดิแกน ดูท่าทางมีการศึกษา น่าจะเป็นผู้อยู่อาศัยของที่นี่ แต่ปรากฏว่าเด็กหนุ่มคนนั้นกลับเดินมาหยุดตรงหน้าพวกเขา
?ริกะซัง?
?อ้าว มิทสึตะคุง มีอะไรเหรอ??
เด็กหนุ่มที่ชื่อมิทสึตะตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า มีธุระแถวนี้พอดีเลยแวะมาหา เขาดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัยจนรู้สึกว่าน่าหมั่นไส้นิดๆ
?โชโกะติดต่อมารึยังครับ??
?เงียบสนิทเลย?
?งั้นเหรอครับ? มิทสึตะพยักหน้าอย่างผิดหวังหลังได้ยินคำตอบจากเธอ เด็กคนนี้คงจะเป็นเพื่อนของอัทสึมะละมั้ง
?แล้วคนพวกนี้เป็นใครครับ??
มิทสึตะชำเลืองมองพวกเขาด้วยสีหน้าไม่ไว้วางใจ คนหนึ่งแต่งชุดหนังทั้งตัว ส่วนอีกคนหัวเกรียนเหมือนพวกนายทหาร จะถูกมองด้วยความระแวงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
?เห็นบอกว่าเป็นเพื่อนของโชโกะสมัยอยู่แก๊งซิ่งน่ะ?
มิทสึตะทำหน้าสงสัยเมื่อได้ยินคำอธิบาย จากนั้นก็หันมาจ้องหน้าเขาโดยไม่พูดอะไร ?หวัดดี? ฮาโตริเอียงคอนิดๆ พร้อมกับจ้องตอบด้วยรอยยิ้ม
?สมาชิกทีมเรดวูล์ฟใช่ไหมครับ? ป่านนี้แล้ว มีธุระอะไรกับโชโกะเหรอครับ?
?ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอก แค่คิดถึงอยากเจอเฉยๆ?
มิทสึตะจ้องมองเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึงแต่ไม่ได้ซักไซ้ต่อ คงชั่งใจแล้วว่าไม่ควรข้องเกี่ยวไปมากกว่านี้ เด็กหนุ่มบอกสาวเจ้าของห้องว่าจะแวะมาใหม่แล้วขอตัวกลับไป
?นั่นเพื่อนของอัทสึมะเหรอ??
?ใช่ มิทสึตะคุงเป็นเพื่อนสมัยเด็กของโชโกะน่ะ?
?เด็กมหา?ลัย??
?อืม อยู่ปี 4 มหา?ลัยรัฐบาล หัวดีมากเลยล่ะ รู้สึกว่าจะได้งานในบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่งแล้วด้วย แต่ฉันจำไม่ได้ว่าชื่อบริษัทอะไร ก่อนหน้านี้โชโกะเคยมาโม้ให้ฟัง ตั้งแต่หมอนั่นหายไป มิทสึตะคุงก็โทรมาถามบ่อยๆ เพราะเป็นห่วง ไม่รู้ว่าจะเรียกเอาจริงเอาจังหรือมีความรับผิดชอบสูงดี มีเพื่อนสมัยเด็กเป็นคนไม่เอาไหนอย่างนั้น คงปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ละมั้ง?
กุ๊ยข้างถนนที่เพิ่งออกจากสถานพินิจกับเด็กหัวกะทิอนาคตไกล ช่างเป็นการจับคู่ที่พิลึกจริงๆ แต่ความสัมพันธ์ของคนเราคาดเดาด้วยเหตุผลไม่ได้อยู่แล้ว มีเยอะแยะไปที่คนนิสัยต่างขั้วสามารถเข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาด
ฮาโตริกับคุจิระออกจากห้องเช่าแล้วตรงไปที่ลานจอดรถ เพราะคุจิระจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ที่นั่น ส่วนเจ้า DrugStar คันโปรดของฮาโตริถูกทิ้งไว้ที่ร้าน ?Wildcat? ปกติฮาโตริจะไม่ซ้อนท้ายใครถ้าไม่ไว้ใจ แต่คุจิระสอบผ่านในจุดนั้นมาแล้วจึงไม่มีปัญหาใดๆ
เขาขึ้นไปนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์เล่นๆ ระหว่างรอคุจิระสูบบุหรี่ ก่อนจะพบว่ามันได้รับการดูแลรักษาอย่างดี สมกับที่เป็นมอเตอร์ไซค์ลูกรัก ระหว่างปรับโน่นปรับนี่ไปเรื่อยด้วยความประทับใจ คุจิระที่สูบบุหรี่อยู่ก็ร้องทักขึ้นมา ?ชิโนบุซัง?
?อะไร? ไม่อยากให้ฉันปรับเล่นเหรอ? อย่าห่วงน่า ฉันไม่ทำพังหรอก?
?เปล่า เรื่องอัทสึมะน่ะ...หมอนั่นเป็นเหยื่อรายที่สามจริงๆ เหรอ??
?คิดว่างั้นนะ? ฮาโตริยื่นหน้าไปส่องกระจกแล้วใช้มือสางผมตัวเอง
?ก็เล่นหายตัวไปในเวลาแบบนี้นี่ ไหนจะปิดมือถืออีก ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ผิดแน่ ตอนนี้หมอนั่นน่าจะถูกจับไปขังไว้ที่ไหนสักแห่งเพื่อรอความตาย?
คุจิระเกาหัวเกรียนๆ ของตนพลางพ่นควันออกมาด้วยความหงุดหงิด เพราะไม่รู้ว่าควรจะคิดเห็นอย่างไร ถึงตอนนี้จะไม่ได้ติดต่อกันแล้ว แต่คุจิระก็รู้จักเหยื่อทุกคน จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกสับสน
?เพราะอะไร ทำไมคนที่โดนหมายหัวถึงเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรดวูล์ฟทั้งนั้น? คนร้ายมีความแค้นกับเรดวูล์ฟรึไง??
?ฉันว่าไม่ใช่หรอก ถ้าคนร้ายโกรธแค้นเรดวูล์ฟจริง คงไม่เล่นงานคนนอกอย่างมิซาวะ หรือคนที่อยู่ในทีมไม่นานอย่างอัทสึมะหรอก?
?งั้นทำไมถึงเป็นสามคนนั้น??
?ไม่รู้สิ? ฮาโตริส่ายหน้าก่อนลงจากรถเพื่อไปหยิบหมวกกันน็อก
?แต่บรรจงฆ่าขนาดนี้ คงไม่ใช่การสุ่มไม่เลือกหน้าหรอก ทั้งสามจะต้องมีจุดร่วมอะไรบางอย่างที่พวกเรามองข้ามไป...นี่ ขากลับให้ฉันขับได้ไหม? ฉันอยากลองขี่สุดที่รักของนายดูสักครั้งน่ะ?
ว่าแล้วก็ใช้มือลูบเบาะหนังอย่างยั่วยวน คุจิระทำหน้าขยะแขยงก่อนปฏิเสธทันควันว่า ?ไม่?
?ฉันไม่ยอมให้คนนิสัยเสียอย่างนายขี่สุดที่รักตามอำเภอใจหรอก เดี๋ยวแปดเปื้อนกันพอดี?
?ขี้งกชะมัดเลย นายกลัวฉันจะทำมันท้องหรือไง? ต่อให้เป็นฉันก็ไม่เทพขนาดนั้นหรอกน่า?
ฮาโตริแยกเขี้ยวใส่ ในใจแอบคิดว่าดีแล้วที่ถูกปฏิเสธ เพราะเขากำลังโกรธจัดที่ช้ากว่าคนร้ายก้าวหนึ่งเสมอ เลยอยากหาที่ระบายความหงุดหงิดจนแทบทนไม่ไหว ดังนั้นถ้าเหยียบคันเร่งตอนนี้จะต้องซิ่งแหลกแน่นอน
ฮาโตริจึงยอมซ้อนท้ายคุจิระกลับมาที่ ?Wildcat? แต่โดยดี พวกเขาเข้าไปในร้านที่ยังไม่เปิดให้บริการ แล้วนั่งจิบโค้กตรงหน้าเคาน์เตอร์เหมือนเคย
?Naked Bike นี่ดีเนอะ ดูคล่องตัวกว่าแบบ Cruiser เยอะเลย?
?มันไม่ค่อยเหมาะกับการเดินทางนานๆ แต่ฉันก็ชอบแบบนี้ที่สุดแล้ว?
คุจิระผู้นั่งอยู่ด้านข้างหันไปมองรถตัวเองที่จอดอยู่นอกร้านด้วยสายตารักใคร่
?ส่วนนายก็เป็นผู้โดยสารที่ดี ปกติฉันไม่ชอบให้ใครซ้อนท้ายเท่าไร แต่นายนั่งด้วยแล้วขี่ง่ายดี?
?เพราะฉันเก่งเรื่องบนเตียงไงล่ะ?
?หมายความว่าไง?? คุจิระขมวดคิ้วงุนงงเมื่อเห็นฮาโตริหัวเราะหึหึ
?เซ็กซ์กับการซ้อนท้ายมันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ เราต้องปรับจังหวะให้เข้ากับอีกฝ่ายให้ได้ ถึงจะรู้สึกดี?
?เป็นงั้นเหรอ?? คุจิระพึมพำด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ ฮาโตริจึงตอบว่า ?ก็ใช่น่ะสิ? ก่อนจะจิบโค้กต่อ
ในหัวของเขากำลังวางแผนเดินหมากตาต่อไปขณะคุยเรื่องไร้สาระ สมมติว่าคนร้ายมีความแค้นกับมิซาวะ สึสึมุระ และอัทสึมะจริง แปลว่าจะต้องมีช่วงหนึ่งที่ทั้งสามร่วมกันทำอะไรบางอย่าง
จากที่คุจิระบอกมา สึสึมุระกับมิซาวะมีปฏิสัมพันธ์กันเฉพาะฤดูร้อนตอน ม.ปลาย ปีสามเท่านั้น แปลว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน บางอย่างที่สร้างความคั่งแค้นให้กับฆาตกร
?ถ้าเรื่องนี้เข้ากันได้ดี แปลว่าเรื่องบนเตียงก็ต้องเข้าขากันด้วยสิ??
คุจิระยิ้มกริ่มเหมือนเพิ่งนึกอะไรดีๆ ออก ฮาโตรินั่งเท้าคาง มองมือใหญ่ที่กำลังลูบไล้ต้นขาของตนนิ่งๆ ก่อนจะตอบว่า ?ก็เป็นไปได้นะ?
สมมติว่าทั้งสามก่อเรื่องจริง แต่มันก็ผ่านมากว่าสามปีแล้ว เพราะอะไรคนร้ายถึงมาแก้แค้นเอาป่านนี้ เหตุผลที่ฮาโตริคิดได้มีเพียงอย่างเดียว
คนร้ายอาจจะรอให้อัทสึมะออกจากสถานพินิจก่อน เพื่อให้ครบทุกคนแล้วค่อยลงมือ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็แปลว่าคนร้ายจะต้องฝังใจกับเรื่องนี้มาก ดูจากการวางแผนจับเหยื่อไปขังจนอดตาย น่าจะแค้นจนเข้ากระดูกดำเลยทีเดียว
ระหว่างที่กำลังวิเคราะห์ตัวคนร้ายอยู่ มือของคุจิระก็เริ่มเลื้อยจากต้นขาขึ้นมาที่สะโพกแล้วลูบวนอยู่แถวแผงอก แต่แค่นี้คงไม่เร้าใจพอ อีกฝ่ายจึงรูดซิบลงมาด้วย
?อะไรกัน ใส่เสื้อยืดไว้อีกชั้นเหรอเนี่ย?
คุจิระรูดซิปลงมาจนถึงแถวสะดือ แล้วพึมพำด้วยความเสียดายที่เห็นเสื้อทับข้างใน
?แหงล่ะ ผู้หญิงที่ใส่ชุดหนังทับผิวเปลือยๆ มีแค่ในหนังฝรั่ง อะนิเมะ หรือไม่ก็คลิปโป๊เท่านั้นแหละ?
?นึกว่าอย่างนายจะกล้าใส่ซะอีก?
คุจิระใช้ปลายนิ้วเค้นคลึงตุ่มเล็กๆ ที่ชูชันอยู่ใต้เนื้อผ้า
?แหม เอาคืนเรื่องเมื่อวานเหรอ? อย่าน่า นี่มันจุดอ่อนของฉันเลยนะ?
ปากว่าอย่างนั้นแต่เขากลับเอามือเท้าศีรษะ แล้วหันอกให้คุจิระสัมผัสได้ถนัดขึ้น อีกฝ่ายคงรู้สึกเหมือนถูกเล่นหัวจึงขมวดคิ้วยุ่ง ยื่นหน้าเข้ามางับที่ด้านขวา
?เจ็บนะ ถ้าเป็นรอยขึ้นมาจะทำไง ดาร์ลิงของฉันยิ่งขี้หึงอยู่ด้วย เมื่อวานฉันถูกทำโทษจนเกือบตาย เพราะรอยคิสมาร์กของนายเลยรู้ไหม?
สีหน้าของคุจิระเปลี่ยนไปทันที พอเห็นว่าอีกฝ่ายมีจิตใจอ่อนโยน ฮาโตริก็นึกอยากแกล้งขึ้นมา เลยตีหน้าเศร้าแล้วพูดเสียงเบาว่า
?เมื่อคืนชินโดซังใจร้ายจริงๆ นะ?
?ดาร์ลิงนายคือคนที่เป็นทายาทสมาคมโทเซใช่ไหม??
?ใช่ เขาโกรธจัดเพราะคิดว่าฉันนอกใจ ก็เลยจับมัดแล้วฟาดด้วยแส้ ขนาดฉันอ้อนวอนทั้งน้ำตา เขายังไม่ยอมฟังฉันเลย พวกยากูซ่านี่.ิงๆ...นายอยากดูรอยเฆี่ยนไหมล่ะ??





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?นายโดนถอดออกจากทีมแล้ว? เมื่อคามิโจถูกเด้งออกจากทีมสืบสวนโดยไม่ทันตั้งตัว เขาจึงลาหยุดยาวเพื่อตามสืบคดีต่อคนเดียว ส่วนเซนะ นักจิตวิทยาคลินิกที่เป็นคนรักชั่วคราวของเขา ก็มีเหตุจำเป็นที่ต้องบินกลับอเมริกาโดยด่วน!? ในขณะที่ฝั่งของชินโดก็ได้รับบาดเจ็บ เพราะผลพวงจากศึกแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอดที่กำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ!! และไม่รู้เพราะเหตุใดชินโดถึงผลักไสฮาโตริออกไปด้วยคำว่า ?อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก? ...!? ยิ่งคดีฆาตกรรมเข้มข้นขึ้น ความรักของพวกเขาก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นตามไปด้วย!!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”