New Release : เมื่อผมจับพลัดจับผลูต้องมาเป็นครูในชุดเดรส8 จบ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : เมื่อผมจับพลัดจับผลูต้องมาเป็นครูในชุดเดรส8 จบ

โพสต์ โดย Gals »

เมื่อผมจับพลัดจับผลูต้องมาเป็นครูในชุดเดรส 8 (เล่มจบ)

ฉันได้เรียกชื่อคนที่ตัวเองรักมากครั้งแรกเมื่อตอนอายุเก้าขวบ

??ช่วย บอก....ชื่อของอาจารย์ให้ฉันรู้ได้มั้ยคะ

??ชื่อของผมเหรอ?

??ไม่ได้เหรอคะ....?

??อื้ม ได้สิ งั้นผมจะบอกแค่เซย์ระคนเดียว ห้ามเอาไปบอกคนอื่นนะ

ในวันลาร์น่าหลังจากที่ฉันบรรเลงไวโอลินเป็นของขวัญให้แก่ท่านแม่แล้ว อาจารย์ชาร์ลก็ยอมตอบรับคำขอของฉันด้วยท่าทางขวยเขิน
อาจารย์ก้มตัวลงมาพลางกระซิบบอกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เมื่อได้ยินชื่อนั้นฉันก็ซึมซับมันไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ

??อาจารย์....ชาร์ล

ระหว่างที่เดินกลับไปยังห้องของตัวเองฉันรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังล่องลอยราวกับเดินย่ำอยู่บนปุยเมฆอันนุ่มละมุน พอมาถึงห้องฉันก็ปิดประตูแล้วเอาหน้าอันร้อนผ่าวของตัวเองไปซุกกับหมอน ฉันกุมผ้าปูเตียงไว้แน่นพร้อมกับส่ายขาพั่บๆ ไปมา และลองพูดออกมาเบาๆ อีกครั้งว่า

??อาจารย์.... อาจารย์....ชาร์ล

หัวใจของฉันมันกู่ร้อง ใบหน้าร้อนผ่าว และรู้สึกมีความสุขไปทั่วทุกอณูของร่างกาย

??อาจารย์....

??อาจารย์....ชาร์ล

??อาจารย์ ชาร์ล

เวลาที่เอ่ยชื่อนั้นขาของฉันจะส่ายพั่บๆ ไปมา ฉันนอนตะแคงเอาหัวหนุนหมอนพลางมองไปที่ข้อมือตัวเองด้วยแววตาอันเคลิบเคลิ้ม บนข้อมือของฉันมีสร้อยข้อมือคริสตัลที่มีอัญมณีอเมทิสต์รูปดอกไม้สีม่วงประดับอยู่ มันเป็นสิ่งที่อาจารย์ให้ฉันมาพร้อมกับบอกว่า ?นี่เป็นเครื่องหมายว่าผมจะอยู่เคียงข้างเธอ? สร้อยข้อมือนั้นส่องประกายใสกระจ่าง หัวใจของฉันรู้สึกคับแน่น ฉันเอามืออีกข้างหนึ่งกุมสร้อยข้อมือนั้นไว้และจุมพิตมัน
ชื่อที่เป็นความลับของอาจารย์ชาร์ลซึ่งเขายอมบอกฉันแค่เพียงคนเดียว
ฉันเอ่ยชื่อนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยเสียงอันเคลิ้มฝันราวกับกำลังลิ้มรสลูกกวาดอันหอมหวาน

??อาจารย์ชาร์ล

??อาจารย์

ความรู้สึกอันน่าพิศวงจู่โจมเข้ามาในใจจนฉันตั้งตัวไม่ทัน มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งหวานละมุน ปวดร้าว น่าอาย และมีความสุข ฉันยังคงกุมผ้าปูเตียงพร้อมกับเอาหน้าซุกหมอนและส่ายขาพั่บๆ ไปมา ขณะเดียวกันก็เอ่ยชื่อนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่รู้สึกเบื่อเลย
เอ่ยชื่ออันแสนสำคัญ แสนพิเศษ และอ่อนหวานนั้น??

นั่นคือฤดูร้อนอันเจิดจ้าซึ่งฉันได้พบกับอาจารย์เมื่อตอนอายุเก้าขวบ





ตอนที่ 18
เซย์ระตอนอายุสิบสอง~เมื่อเหล่าสาวงาม
พร้อมใจกันมาที่ห้องของผม




บทที่ 1
คืนนี้ฉันจะไม่กลับบ้านค่ะ

?หืม ชาร์ลเติบโตในเมืองหลวงเหรอเนี่ย?
?อื้ม บ้านเกิดของผมคือหมู่บ้านในชนบทของอาณาจักรออแลนด์ แต่เมื่อสมัยเด็กผมย้ายมาอยู่ที่วิสทอเรียน่ะ?
ขณะนี้เป็นช่วงสิ้นสุดของฤดูใบไม้ผลิซึ่งมีดอกเกาลัดและดอกอาเคเชียผลิบาน ผมกำลังเดินกับเพื่อนผู้หญิงที่รู้จักกันในมหาวิทยาลัยอยู่ในเขตการศึกษาภายในเมืองสวานีลซึ่งเป็นเมืองแห่งดนตรีในจักรวรรดิวิสทอเรีย พื้นที่โดยรอบมีร้านหนังสือและคาเฟ่ตั้งเรียงรายกันอยู่
เด็กสาวน่ารักผู้มีผมหยักศกสีน้ำตาลดูนุ่มฟูคนนี้อยู่ชั้นปีหนึ่งเช่นเดียวกับผม พวกเราสนิทสนมกันเพราะลงเรียนวิชาเดียวกัน
เธอผู้มีดวงตากลมโตอันเปล่งประกายเอ่ยถามผมว่า
?ตอนนี้ก็อาศัยอยู่กับครอบครัวเหรอ??
?เปล่าหรอก ครอบครัวผมอยู่ที่อาณาจักรเอเลนน่ะ?
ในตอนนี้ยังไม่มีใครในมหาวิทยาลัยรู้เรื่องที่ผมเป็นน้องชายฝาแฝดของกลินด้า ดอยล์ ยอดอัจฉริยะคนนั้น ความจริงผมก็ไม่ได้คิดจะปิดบัง แต่ก็คิดว่ามันไม่จำเป็นต้องบอกใคร เพราะการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องกลายเป็นคนโด่งดังแบบแปลกๆ และไม่ต้องถูกคนอื่นเพ่งเล็งมันสะดวกสบายกว่ามาก
?เอเลนคืออาณาจักรที่เป็นเกาะที่เขาเล่าลือกันว่ามีกษัตริย์รูปงามอยู่สินะ! ชาร์ลนี่เป็นคนที่กว้างไกลจัง?
เธอกล่าวด้วยความชื่นชม จากนั้นก็เงยหน้ามองผมด้วยท่าทางเขินอาย
?ฉันเพิ่งมาจากต่างจังหวัดก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องในเมืองหลวงน่ะ ถ้าชาร์ลช่วยบอกฉันจะดีใจมากเลย?
?ถ้าไม่รังเกียจละก็ ผมแนะนำให้รู้จักได้ทุกที่เลยนะ?
เวลาที่มีเด็กสาวน่ารักๆ มาขอพึ่งพา หากเป็นผู้ชายก็คงรู้สึกดีใจอยู่แล้ว พอผมตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม อีกฝ่ายก็ยิ้มอย่างชื่นบาน
?ขอบใจนะจ๊ะ ชาร์ลนี่เป็นคนใจดีมากเลย ทุกคนเองก็พูดเหมือนกันว่าดูท่าทางชาร์ลจะเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงได้ดี อย่างเวลาที่มีใครถูกรองเท้ากัด ชาร์ลก็จะสังเกตเห็นแล้วเอาปลาสเตอร์ให้เขา หรือไม่ก็ถามอีกฝ่ายว่า ใส่ชุดแบบนั้นไม่หนาวเหรอ? แล้วเอาเสื้อนอกให้เขายืมด้วย?
?ฮะๆ....?
ที่ผมรู้เรื่องพวกนั้นก็เพราะเมื่อสองปีก่อนผมเคยสวมชุดของผู้หญิงมาก่อน....แต่ถ้าพูดเรื่องนั้นออกไป สีหน้าเธอคงเปลี่ยนจากรอยยิ้มกลายเป็นความตกตะลึงแหงๆ
?นี่ อพาร์ตเมนต์ของชาร์ลอยู่ใกล้ๆ นี้สินะ? ฉันขอไปเที่ยวได้รึเปล่า? เอาทาร์ตสตรอเบอร์รี่ที่ซื้อมาเมื่อกี้ไปทานกับน้ำชากันดีมั้ย??
?ก็ดีนะ?
หลังเริ่มใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้หนึ่งสัปดาห์ก็มีเด็กผู้หญิงมาเที่ยวที่อพาร์ตเมนต์แล้ว ช่างเป็นการเริ่มต้นที่ดีจริงๆ
ผมพยักหน้าตอบด้วยความตื่นเต้นและพาเธอไปยังอพาร์ตเมนต์ซึ่งถึงแม้สภาพจะเก่าเล็กน้อยแต่ก็ยังสวยงามและมีเสน่ห์
ในตอนนั้นเองผมก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งยืนอยู่ บรรยากาศของตัวเธอดูนิ่งและเยือกเย็น
เอ๊ะ เอ๋....?
ผมกะพริบตาอย่างถี่รัว
ถึงจะตัวเล็กแต่เธอก็อายุสิบสองแล้ว
ผิวอันขาวนวลดุจหินอ่อน ใบหน้างดงามประหนึ่งรูปปั้นจากฝีมือนักแกะสลักชั้นเลิศ และดวงตาสีม่วงดุจอเมทิสต์อันเร้นลับ
เส้นผมสีเงินที่ส่องประกายราวกับแสงจันทร์ของเธอซึ่งถูกตัดสั้นจนยาวถึงแค่ช่วงบ่ากำลังพลิ้วไหวตามลม
?ซะ เซย์ระ??
ถึงผมของเธอจะสั้นกว่าตอนที่เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อครึ่งปีก่อน แต่นี่คือเซย์ระอย่างแน่นอน!
ทำไมเซย์ระซึ่งน่าจะอยู่ที่อาณาจักรเอเลนถึงมายืนอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ของผมในจักรวรรดิวิสทอเรียได้ล่ะ!
หรือนี่จะเป็นภาพลวงตา? เอ่อ การที่นักศึกษามหาวิทยาลัยอายุยี่สิบอย่างผมมองเห็นภาพลวงตาของเด็กผู้หญิงอายุสิบสองกลางวันแสกๆ แบบนี้มันออกจะดูพิลึกไปหน่อยรึเปล่า?
ผมกำลังตกตะลึง เด็กสาวเพื่อนร่วมรุ่นที่อยู่ข้างๆ ผมก็ทำตาโตเช่นกัน เธอคงตะลึงกับรูปโฉมของเซย์ระที่งดงามราวกับไม่ใช่คนที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงกระมัง
?เอ่อ นะ น้องสาว....ขะ ของชาร์ล เหรอคะ??
เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอันแหบต่ำ
ก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไร เซย์ระซึ่งไม่ใช่ภาพลวงตาก็กล่าวด้วยเสียงอันเย็นยะเยือกว่า

?เปล่าค่ะ ฉันคือศัตรูทางความรักของคุณต่างหากล่ะ?

?หวา! เซย์ระ!?
นี่เธอพูดอะไรออกมาเนี่ย เพื่อนร่วมรุ่นของผมซึ่งถือกล่องทาร์ตสตรอเบอร์รี่อยู่ได้แต่อึ้งกิมกี่ มิหนำซ้ำเธอยังถูกเซย์ระมองด้วยแววตาเย็นชา เธอจึงทำตัวเกร็งและเบือนสายตาหลบไปทางอื่นด้วยอาการเก้ๆ กังๆ
?ถะ....ถ้าอย่างนั้นฉันกลับก่อนดีกว่าจ้ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นการรบกวน?
เธอบอกด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก จากนั้นก็รีบหันหลังและเดินจากไปทันที
อ๊า ขออย่าให้เธอมองว่าผมเป็นพวกโลลิคอน เลยน้า
ผมทำไหล่ตกด้วยความหมดแรงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น
?ทำไมเซย์ระถึงมาอยู่ที่วิสทอเรียได้ล่ะ?
ผมก็เอ่ยถามอีกครั้ง
เซย์ระซึ่งตัดผมสั้นตอบกลับมาด้วยสีหน้าอันเยือกเย็นว่า
?ฉันมาเข้าร่วมงานพิธีที่จะจัดขึ้นสัปดาห์หน้าในจักรวรรดิวิสทอเรียในฐานะตัวแทนของท่านพ่อน่ะค่ะ?
?งั้นเหรอ ความจริงน่าจะส่งจดหมายมาบอกผมก่อนนะ งั้นช่วงนี้เซย์ระก็พักอยู่ที่สถานทูตใช่มั้ย เอ๋ กุญแจหายไปไหน?
ผมมายืนอยู่หน้าห้องพลางล้วงหากุญแจในกระเป๋า
?เปล่าค่ะ ตอนนี้สถานทูตกำลังปิดซ่อมบำรุงอยู่ ดังนั้นฉันขอมาพักอยู่กับอาจารย์จนกว่าจะถึงวันงานพิธีนะคะ?
?เอ๋!?
?นี่เป็นจดหมายจากพ่อของฉันแล้วก็จดหมายจากเฮลมุทค่ะ?
เธอยื่นจดหมายสองฉบับมาให้ผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย
?ฝากลูกสาวของเราด้วยนะ?
?ช่วยดูแลองค์หญิงจากอาณาจักรพันธมิตรให้ดี อย่าทำอะไรเสียมารยาทนะครับ ชาร์ล?
หน็อยแน่ะ เจ้าพระราชาแฟมิลี่แมนจอมหวานเลี่ยน กับเจ้านักการทูตจอมเจ้าเล่ห์!
ขณะที่ผมกำลังก้มมองลงไปที่จดหมายด้วยความอึ้งอยู่นั้น เซย์ระก็ถอดกิ๊บติดผมออกมาจากเส้นผมของเธอและสอดมันเข้าไปในรูกุญแจ และหลังจากที่เธอขยับมันไปมาอยู่หลายวินาที
?เปิดได้แล้วค่ะ?
เธอก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
?อ๊ะ....อื้ม เชิญเลย?
ผมเปิดประตูด้วยอาการเก้ๆ กังๆ และค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆ
?แล้วสัมภาระของเซย์ระล่ะ??
?จะส่งตามมาทีหลังค่ะ?
?งั้นเหรอ?
ภายในนี้แยกออกเป็นสองห้อง ถึงอย่างนั้นพื้นที่ก็ยังคับแคบ ภายในห้องมีกองหนังสือที่วางสุมกันอยู่ตามจุดต่างๆ หากมันจะพังทลายลงมาก็คงไม่แปลกเลย เนื่องจากห้องของผมอยู่ใกล้กับอาคารที่อยู่ข้างๆ มาก พอเปิดหน้าต่างก็จะเห็นหน้าต่างของอาคารอีกฝั่งทันที และเป็นจุดที่แสงส่องเข้ามาได้ลำบาก สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยที่อาศัยอยู่คนเดียวอย่างผมมันถือเป็นห้องที่โอเคไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับองค์หญิงของอาณาจักรแห่งหนึ่งแล้ว การให้เธอมาอยู่ในห้องที่ทั้งรกและแออัดแบบนี้มันจะดีจริงๆ หรือ
แต่ผมก็ดีใจที่เซย์ระมาหาผม
เมื่อสามปีก่อนกลินด้าได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปเป็นอาจารย์พิเศษของเหล่าเด็กๆ ในราชวงศ์ที่อาณาจักรเอเลน ทว่าเนื่องจากเธอหายตัวไปผมจึงต้องสวมชุดเดรสปลอมตัวเป็นกลินด้าและไปเป็นอาจารย์แทนเธอ
ช่วงแรกผมไม่ชอบงานนั้นเอาเสียเลยแถมยังทำผิดพลาดอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อได้สนิทสนมกับพวกเด็กๆ จิตสำนึกของความเป็นอาจารย์ในตัวผมก็ตื่นขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อกลินด้ากลับมา ทุกคนก็รู้ความลับเรื่องที่ผมเป็นผู้ชายและไม่ใช่อัจฉริยะแต่เป็นคนเด็กซิ่วว่างงานที่ไม่ได้ความคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ชีวิตในฐานะอาจารย์พิเศษของผมจึงจบสิ้นลง
หลังกลับมาที่จักรวรรดิวิสทอเรีย ผมก็ตั้งใจศึกษาหาความรู้อย่างเต็มที่ ในปีถัดมาผมก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ และในปีนี้ผมก็ได้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย
?นั่งตรงนั้นก่อนนะ เดี๋ยวผมจะเตรียมน้ำชาให้?
?....ค่ะ?
เซย์ระนั่งลงบนโซฟาเก่าๆ สีน้ำตาลซึ่งสีซีดไปแล้ว มันเป็นโซฟาที่ผมเคยใช้ตั้งแต่สมัยที่ยังอาศัยอยู่กับกลินด้า
ในระหว่างนั้นผมก็ไปต้มน้ำร้อน
อ้อ ผมมีคุกกี้อยู่นี่นา มันจะถูกปากเซย์ระหรือเปล่านะ
ผมไม่ได้เจอกับเซย์ระมาครึ่งปีแล้ว ครั้งล่าสุดผมเจอกับเธอที่งานแต่งงานของกิลเมอร์กับลิเลียน
ในตอนนั้นเซย์ระยังไว้ผมยาวอยู่ เธอเอาแต่หลบตาผมและทำท่าทางกระอักกระอ่วนตลอด พวกเราจึงแทบไม่ได้คุยกันเลย
ในตอนนี้เธอก็ยังทำสีหน้าเย็นชา
แต่ระหว่างที่ผมกำลังเตรียมน้ำชาอยู่ พอลองแอบหันไปมองเซย์ระก็เห็นว่าเธอกำลังกวาดสายตาสอดส่องมองห้องของผมและแก้มของเธอก็ค่อยๆ แดงขึ้นทีละน้อย
เซย์ระจ้องมองกองหนังสือของผมราวกับว่ากำลังตรวจเช็กชื่อหนังสือทีละเล่ม จากนั้นเธอก็มองไปยังภาพวาดฮิปโปขององค์ชายชินที่ติดอยู่บนผนังพลางยิ้มน้อยๆ และเมื่อเธอเห็นตุ๊กตาเอเลียนอร์ที่สวมชุดมิโกะสีขาวซึ่งวางประดับอยู่บนชั้น เธอก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทางที่ดีอกดีใจยิ่งกว่าเดิม
มันเป็นใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาและน่ารักมาก
เซย์ระค่อยๆ ยืนขึ้นและค่อยๆ เดินย่องไปตรงหน้าตุ๊กตาเอเลียนอร์ จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกไปด้วยท่าทางละล้าละลังและลูบหัวตุ๊กตาพร้อมกับยิ้มอีกครั้ง
?เตรียมน้ำชาเสร็จแล้วล่ะ?
พอผมเดินไปหาเซย์ระพร้อมกับถ้วยชาที่อยู่บนถาด เธอก็หน้าแดงก่ำและรีบกลับไปนั่งที่โซฟาพลางหลบตาผม
อา ไม่เปลี่ยนไปเลยแฮะ
บนข้อมือข้างซ้ายอันเรียวบางซึ่งอยู่บนตักของเธอมีสร้อยข้อมือคริสตัลที่มีอัญมณีอเมทิสต์รูปดอกไม้สีม่วง สร้อยข้อมือที่ผมเคยให้เธอเป็นของขวัญในวันลาร์น่าเส้นนั้นกำลังส่องประกาย
นี่เป็นเครื่องหมายว่าผมจะอยู่เคียงข้างเธอ??
?ยังสวมสร้อยข้อมืออยู่เหมือนเดิมเลยสินะ?
?....แน่นอนอยู่แล้วค่ะ?
เธอตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับห่อไหล่ลีบ ท่าทางคงกำลังประหม่าอยู่จริงๆ ล่ะมั้ง
ผมนำถ้วยชาและจานคุกกี้ไปวางเรียงบนโต๊ะ จากนั้นก็ชวนเธอคุยด้วยน้ำเสียงสดใส
?เซย์ระมีเพื่อนแล้วสินะ องค์ราชินีเขียนจดหมายมาเล่าให้ผมฟังน่ะ ได้ยินว่าเซย์ระรับหน้าที่เป็นอาจารย์จัดคอร์สติวในปราสาทเหรอ?
เซย์ระก้มหน้าพลางตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงคล้ายพึมพำว่า
?....มันเป็นชมรมในปราสาทน่ะค่ะ ฉันจัดตั้ง ?ชมรมวิจัยขนบธรรมเนียม? เพื่อศึกษาค้นคว้าขนบธรรมเนียมของอาณาจักรเอเลน รวมถึง ?ชมรมรับปรึกษาปัญหาสำหรับเด็กสาวที่มีความรัก? ด้วย พวกคนที่มีความรักจะมาชุมนุมกันและเล่าความกลัดกลุ้มของตัวเองพร้อมกับช่วยกันคิดหาทางแก้ไขเพื่อให้สมหวังในรักน่ะค่ะ?
?งั้นเหรอ....เป็นชมรมที่ฟังดูน่าสนุกดีนะ?
แต่ผมก็นึกภาพพวกเด็กผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเซย์ระมาจับกลุ่มสนทนาเรื่องความรักไม่ออกเหมือนกันแฮะ....
?โอริเอะก็เป็นหัวหน้า ?ชมรมเกมพันด้าย? ส่วนซาราสะเป็นหัวหน้า ?ชมรมจำลองความรักสำหรับกุลสตรีผู้แสนน่ารักและร้ายกาจ? ค่ะ?
?น่ารักและร้ายกาจงั้นเหรอ....อ่า เรื่องชื่อนั่นช่างมันก่อนเถอะ ว่าแต่ ?ชมรมจำลองความรัก? นี่มันคืออะไรกันน่ะ??
?ดูเหมือนจะเป็นการกำหนดเป้าหมาย สังเกตการณ์ และลงมือปฏิบัติการทางความรักให้อีกฝ่ายมาหลงใหลเราน่ะค่ะ?
ท่าจะกลายเป็นเรื่องยุ่งน่าดูแฮะ....
?ที่ปรึกษาของ ?ชมรมปรึกษาปัญหาความรัก? กับ ?ชมรมจำลองความรัก? ก็คือกลินด้าค่ะ?
?เอ๋!?
ผมเผลอส่งเสียงอุทานแปลกๆ ออกไป
ถึงจะครบกำหนดช่วงเวลาที่ต้องไปรับหน้าที่อาจารย์พิเศษแล้ว แต่กลินด้าก็ยังอยู่ที่อาณาจักรเอเลนต่อ ในตอนนี้เธอกำลังทำงานค้นคว้าวิจัยซึ่งเป็นงานอดิเรกของตัวเองอยู่ที่ปราสาท
ในทางการทูตนั้นเธอยังคงเป็นแขกของอาณาจักรเอเลนในฐานะเครื่องหมายแห่งการเป็นพันธมิตรจากจักรวรรดิวิสทอเรียเช่นเดิม แต่ดูเหมือนการได้ใช้ชีวิตโดยไร้หน้าที่ผูกมัดจะเหมาะกับกลินด้า ในช่วงสองปีมานี้เธอจึงยังใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นไม่ได้หายตัวไปไหนเลย ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจ
ว่าแต่นี่เธอกำลังทำอะไรของเธอกันน่ะ? กลินด้า?
?นอกจากนี้กลินด้ายังเป็นที่ปรึกษาให้ชมรมอื่นๆ อีกประมาณสิบชมรม เช่น ?ชมรมนักสืบ? ?ชมรมแนะนำการลงทุน? ?ชมรมเพื่อสุขภาพ? ด้วยค่ะ?
แบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับช่วงที่เธอรับหน้าที่ควบหลายตำแหน่งสมัยที่เคยอยู่วิสทอเรียน่ะสิ?
แม้แต่ในตอนนี้ผมก็ยังคาดเดาความคิดของพี่สาวฝาแฝดไม่ออกจริงๆ
เซย์ระเล่าต่อไปว่าองค์ชายชินเองก็ตั้ง ?ชมรมปั้นโมเดล? สำหรับกิจกรรมปั้นดินเหนียวขึ้น และสมาชิกคนแรกของชมรมก็คือองค์หญิงรินนะ น้องสาวคนสุดท้อง
องค์หญิงรินนะผู้ว่านอนสอนง่ายนั้นเป็นเด็กที่ติดพี่ชาย ในงานแต่งงานของกิลเมอร์เธอก็อายุได้สามขวบแล้ว เธอคอยจับชายเสื้อขององค์ชายชินที่ตัวสูงขึ้นและดูเป็นผู้ใหญ่ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโตของเธอมองมาที่ผมด้วยท่าทางเขินอาย
องค์ราชินีเขียนเล่าไว้ในจดหมายว่าคำพูดคำแรกที่องค์หญิงรินนะพูดออกมานั้นไม่ใช่คำว่า ?ทั่นแหม้ (ท่านแม่)? หรือ ?ทั่นป้อ (ท่านพ่อ)? แต่เป็นคำว่า ?ชิน? และคำต่อมาก็คือ ?ทั่นพี่ชี (ท่านพี่ชิน)? ซึ่งนั่นก็ทำให้องค์ราชารู้สึกท้อใจเป็นอย่างมาก
แต่หลังจากนั้นองค์หญิงรินนะก็เรียกเขาว่า ?ทั่นป้อ (ท่านพ่อ)? องค์ราชาจึงกำลังหลงลูกสาวของเขาหัวปักหัวปำ
?รินนะเป็นเด็กที่คล้ายกับท่านแม่ ชินกับท่านพ่อก็เลยถูกอกถูกใจรินนะน่ะค่ะ?
เซย์ระกล่าวพร้อมกับยิ้ม
ดูเหมือนเซย์ระก็ชอบน้องสาวคนเล็กของตนมากเช่นกัน พอพูดถึงเรื่องนี้สีหน้าของเธอก็ผ่อนคลายลง ผมเองก็รู้สึกดีใจและเผลอยิ้มออกมา
?ในที่สุดพวกเราก็พูดคุยกันได้เหมือนเมื่อก่อนแล้วสินะ ทีแรกผมคิดว่าพอโตขึ้นเซย์ระอาจจะคุยกับเพื่อนวัยเดียวกันได้สนุกกว่าหรือเปล่า มันทำให้ผมรู้สึกอิจฉาคนอื่นนิดหน่อยน่ะ?
?มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ....!?
เซย์ระเงยหน้าขึ้นพร้อมกับพูดด้วยเสียงอันหนักแน่น จากนั้นเธอก็ก้มหน้าลงและพูดออกมาเบาๆ โดยที่แก้มแดงระเรื่อ
?คือว่า.... พอรู้ว่าจะได้เจอกันหลังจากห่างหายไปนานฉันก็เลย ระ รู้สึกประหม่าเพราะอยากให้อาจารย์ได้เห็นฉันที่โตเป็นกุลสตรีอันยอดเยี่ยม....เอ่อ ฉันโตขึ้นบ้างหรือเปล่าคะ??
ผมยิ้มและพยักหน้าตอบ
?อื้ม เซย์ระตัวสูงขึ้นและดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทุกครั้งที่เจอเลยล่ะ?
แก้มของเธอเซย์ระแดงก่ำ พอสบตากันเธอก็รีบก้มหน้าลง จากนั้นห่อตัวเล็กลีบและกล่าวด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า
?ถะ ถ้าอย่างนั้น คืนนี้ อา....?
?อา??
?อาบ?
?อาบ??
ทำไมเซย์ระถึงหน้าแดงก่ำขนาดนี้นะ? มันแดงตั้งแต่ใบหน้าไปจนถึงต้นคอเลย หรือห้องนี้จะร้อนไปหน่อย? ผมควรเปิดหน้าต่างดีไหมนะ?
?....อาบน้ำด้วยกัน?
ผมฟังคำพูดของเซย์ระไม่ค่อยชัดจึงคิดว่าจะลองถามดูอีกครั้ง ทันใดนั้น
ตรงประตูทางเข้าก็มีเสียงดังครึกโครม
หวา! อะไรกันน่ะ!
?ผมขอไปดูเดี๋ยวหนึ่งนะ เซย์ระ?
พอผมเดินไปเปิดประตูห้องก็ได้กลิ่นเหล้าลอยโชยมาพร้อมกับเสียงอันคึกคักของคนหลายคน
?พวกเราแวะมาหาน่ะ! ชาร์ล!?
?พวกเราเพิ่งไปดื่มที่ร้านใกล้มหา?ลัยกันมา! ก็เลยคุยกันว่าจะมาดื่มกันต่อรอบสองที่ห้องของชาร์ลน่ะ เอ้า นี่ของฝากนะ เป็นไวน์กับเบียร์!?
?โอ้ ขอรบกวนด้วยก็แล้วกันนะ!?
กลุ่มคนที่กรูกันเข้ามาในห้องของผมก็คือพวกรุ่นพี่จากเซอร์เคิล วิจัยเปรียบเทียบวัฒนธรรมที่ผมเข้าไปสังกัดเมื่อวันก่อน
หวา นี่ยังสว่างอยู่แท้ๆ แต่ทุกคนเมาแอ๋กันหมดเลยอ้ะ
จะว่าไปผมเคยไปทักทายพวกเขาในงานต้อนรับน้องใหม่ของเซอร์เคิลไว้ว่า ผมอาศัยอยู่คนเดียวที่อพาร์ตเมนต์ใกล้กับมหาวิทยาลัย ถ้าว่างๆ ก็แวะมาหาผมได้นะครับ สินะ
แต่ทำไมต้องประจวบเหมาะมากันวันนี้ด้วยล่ะเนี่ย
?ลิเดียบอกว่าอยากจะมาเห็นห้องของชาร์ลหน่อยน่ะ?
?อะไรกันเล่า ฟลาซี่เองก็เหมือนกันนั่นแหละ?
?โอ๊ะโอ๋ สมาชิกใหม่นี่เนื้อหอมจังนะ ฮะๆๆๆ?
ท่าทางพวกรุ่นพี่กำลังเมาได้ที่ รุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาลูบหัวผมด้วยความมันเขี้ยว แบบนี้คงพูดกันไม่รู้เรื่องแหงๆ
?เอ่อ อะไรกัน ไม่หรอกครับ?
ผมตอบด้วยอาการลนลาน






++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ชาร์ลอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ยอดเยี่ยมเพื่อให้พวกเด็กๆ ภาคภูมิใจ เขาจึงตัดสินใจกลับไปที่วิสทอเรีย โดยที่กลินด้ายังคงอยู่ที่เอเลน จนในที่สุดชาร์ลก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้และกำลังตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่อจะเป็นนักการทูต ทว่าเซย์ระก็ปรากฏตัวมาหาชาร์ลโดยไม่บอกไม่กล่าว และความวุ่นวายก็มาเยือนชาร์ลไม่เว้นแต่ละวัน....!? เซย์ระค่อยๆ เติบโตขึ้นจนอายุสิบสอง สิบสี่ และสิบหกปี ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไป และแล้ว ?อนาคตแห่งคำมั่นสัญญา? กับเซย์ระที่อายุสิบเจ็ดซึ่งชาร์ลเคยได้เห็นเธอเมื่อตอนหลุดเข้าไปในโลกเมื่อสองพันปีก่อนก็มาถึง.... เรื่องราวแฟนตาซีคอมมิดี้ของอาจารย์พิเศษดำเนินมาถึงบทสุดท้ายอันยิ่งใหญ่แล้ว!!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”