New Release ร้อยรัก : บ่วงสวาทคนเถื่อน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : บ่วงสวาทคนเถื่อน

โพสต์ โดย Gals »

บ่วงสวาทคนเถื่อน โดย พิมพ์ชนก

บทที่ 1 คำว่าแม่

?เธอๆ ดูนั่นสิ? ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเดรสสีครีม ถือกระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบแพงดีไซน์เก๋ แพงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าย่างก้าวออกมายืนข้างรถยนต์คันหรูด้วยท่าทางดุจนางพญา พร้อมกับเด็กน่ารักแต่งตัวดั่งคุณหนูตระกูลสูง
?ดูอะไร? คุณแม่อีกคนที่เดินมาหยุดใกล้กัน คาดว่าคงเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน ชวนกันมาสมัครเรียนพร้อมกัน แต่งตัวผู้ดีไม่ต่างกัน เอ่ยถามคนที่ยืนมองไปเบื้องหน้าราวกับเจอคนรู้จัก ว่าไม่ได้...สาวิตรีรู้จักคนเยอะ หล่อนมีสามีเป็นนักธุรกิจชื่อดังร่ำรวยเป็นชาวต่างชาติ
?ดูผู้หญิงคนนั้นสิ แต่งตัวซอมซ่อ กล้าพาลูกมาสมัครเรียนโรงเรียนระดับนี้ด้วย หน้าไม่อาย ไม่เจียม? คุณแม่นางพญาในชุดสีครีมเริ่มต้นกล่าวถึงคนอื่นในอาการหยามหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นคนของคนที่ตนไม่รู้จักที่มาที่ไป ตัดสินแค่การแต่งตัว
?ทำไมจะมาไม่ได้ โรงเรียนไม่ได้ประกาศห้ามคนแต่งตัวแบบไหนพาลูกมาเรียนนี่? มุกวาวไม่ได้เห็นด้วยที่จะวิจารณ์คนอื่นในทางหยามหมิ่นความเป็นคน
?คนแบบนั้นมีเงินพาลูกมาเรียนโรงเรียนเกรดเอแบบนี้ด้วยหรือ ค่าเรียนไม่ใช่ถูกๆ นะเธอ? สาวิตรีเบะปากมองบน มองคนอื่นต่ำต้อย
?เธอก็เที่ยวดูถูกคนอื่นไปทั่ว เขาอาจจะเป็นคนไม่ชอบแต่งตัวก็เป็นได้ ไม่เคยได้ยินหรือไง ผ้าขี้ริ้วห่อทอง?
?อุ๊ย!! นางคนนั้นนะผ้าขี้ริ้วห่อทอง ฉันไม่เห็นด้วยล่ะคนหนึ่ง? สาวิตรีเชิดหน้าที่ตึงด้วยโบท็อกซ์ ร้อยไม่เชื่อพันไม่เชื่อ คนเราถ้าเป็นผู้ดีมีเงิน การแต่งตัวภาพลักษณ์คือสิ่งสำคัญ
?ฮื้อ ไปๆ? ทั้งสองแม่ที่ความเห็นต่างขั้วเดินจูงมือลูกของตัวเองเข้าไปในส่วนที่จัดไว้ต้อนรับสำหรับผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาสมัครเรียนทุกระดับชั้น โรงเรียนนานาชาติแห่งนี้เริ่มตั้งแต่ชั้นอนุบาลหนึ่งถึงมัธยมปลาย
?ไปเถอะลิซ่า? สาลิน บุญกุล จูงมือลูกสาวเดิน หูสองข้างได้ยินเสียงนกเสียงกาเจื้อยแจ้ว ในเมื่อไม่ได้เอ่ยชื่อ เธอไม่จำเป็นต้องยอมรับสิ่งที่พวกปากเปราะพูด
?โรงเรียนนานาชาติเซนต์แมรี่? ติดประกาศหรือไร ห้ามคนแต่งตัวมอซอเข้ามาสมัครเรียนหรือก็ไม่ ฉะนั้นจำเป็นด้วยหรือต้องใส่ใจพวกปากไม่มีการศึกษา คอยแต่เรียกตัวเองเป็นผู้ดีมีเงิน แต่ปากกับตาดูถูกคนอื่นร่ำไป
?แม่ลินพาลิซ่ามาทำไมที่นี่คะ? เด็กน้อยวัยสามขวบเต็ม หน้าตาลูกครึ่ง ผมดำ ตาโตรับกับจมูกโด่งมน นัยน์ตาสีเทาราวกับกลุ่มหมอกควัน เอ่ยถามมารดา หนูน้อยลิซ่าแตกต่างไปจากมารดาอย่างสาลินโดยสิ้นเชิง
?พาลิซ่ามาเล่นกับพื่อนใหม่ไงคะ? อันที่จริงลูกสาวไม่มีเพื่อนด้วยซ้ำ ในหมู่บ้านสาลินไม่อนุญาตให้ลิซ่าข้องแวะกับใคร เกรงลูกสาวโดนเพื่อนล้อเรื่องที่หน้าตาไม่เหมือนแม่ แถมไม่มีพ่อ เธอจึงต้องเสาะหาสังคมที่มีเพื่อนหลายชาติหลายภาษา เพื่อให้ลูกไม่รู้สึกว่าตัวเองแตกต่าง
สังคมในโรงเรียนระดับดีแห่งนี้คือทางเลือกที่เธอได้จัดสรรให้ลูก ต่อให้ตัวเองลำบากแค่ไหน แต่ถ้าเพื่ออนาคตที่ดีของลูกก็พร้อมสู้เพื่อให้ลูกได้สิ่งดีๆ มากกว่าเธอ
ตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาในรั้วโรงเรียนที่ทุกอย่างยิ่งใหญ่หรูหราสมเป็นโรงเรียนนานาชาติ ก็มีสายตาดูถูกดูแคลนจากหลากหลายคุณแม่ที่ต่างยกตนเป็นผู้ดีระดับไฮโซ ดารา คนดังในแวดวงสังคม เธอไม่ขอวัดกับใครนอกจากอยู่ในส่วนของตัวเองเท่านั้น
?ประทานโทษนะคะ? เสียงหนึ่งดังตามหลังสาลินมา หลังจากจัดการเรื่องสมัครเรียนเรียบร้อยแล้ว
?คะ...เรียกฉันหรือคะ? หญิงสาวหันไปด้วยแววตาสงสัย เธอไม่มีเพื่อนที่นี่ จึงไม่แน่ใจว่าเสียงนั้นเรียกตน
?ใช่ค่ะ?
?มีอะไรหรือเปล่าคะ?
?น้องเป็นลูกครึ่งหรือคะ พ่อเป็นต่างชาติใช่ไหม?
?อ๋อ...ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?
?เห็นหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม เดาๆ ว่าต้องใช่ ใช่จริงๆ ด้วย ดิฉันสาวิตรีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณแม่ชื่ออะไรคะ?
?สา...ลิน...ค่ะ? สาลินบอกชื่อตัวเองช้าๆ อีนี่ไม่ใช่หรือนินทาเธอกับลูก ทีนี้ทำไมต้องสาระแนมาถามชื่อ ถามประวัติลูกของเธอด้วย
อะไรทำให้แม่นี่อยากรู้จักเธอสองแม่ลูก ปากยิ้มยินดีที่ได้รู้จัก หากแต่สายตาไร้รอยยิ้ม คนแบบนี้ไม่น่ามีความจริงใจให้กับคนอื่นที่ตนแอบว่ากล่าว
?เรียกฉันวิก็ได้ค่ะ?
มิน่าล่ะ สารรูปอย่างนี้ถ้าไม่ได้ผัวฝรั่ง มีหรือจะมีปัญญาส่งลูกเรียนโรงเรียนระดับอินเตอร์ หล่อนยังคงค่อนแคะคนอื่นในใจ
?เอาเป็นว่าฉันขอตัวก่อนนะคะ? สาลินเอ่ยขอตัวจากคนไม่มีความจริงใจในการมาทำความรู้จัก
?จะรีบไปไหนล่ะคะ อยู่คุยกันก่อนสิ?
?พอดีจะรีบไปทำงานค่ะ?
?ทำงาน...อืม...ทำงานอะไรคะ? ไม่ใช่ว่าทำงานกลางคืน รับจ๊อบอย่างว่า เลยได้เจอกับฝรั่ง หล่อนคิดในแบบคนมีความคิดอกุศล
?วิ...กลับเถอะ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย? เพื่อนของหล่อนแตะข้อศอกรั้งให้กลับบ้าน มุกวาวรู้จักนิสัยสาวิตรีดีจึงไม่อยากให้มีเรื่องกันตั้งแต่ลูกยังไม่ได้เข้าเรียน
?มุก...เฉยเถอะ เธอไม่อยากรู้จักผู้ปกครองเด็กที่มีลูกอยู่ร่วมห้องกับลูกเราหรือไง ทำความรู้จักกันไว้น่าจะดีนะ? สาวิตรีไม่ใช่คนชอบสร้างมิตร ถ้าสร้างศัตรูหล่อนถนัด หล่อนเป็นคนถือตัว ดูถูกคนจนกว่าต่ำต้อยกว่า หล่อนรวยมีสามีเป็นนักธุรกิจอันดับต้นๆ ของไทย
?เอ่อ...มีเวลาอีกมากที่จะได้รู้จักกัน ฉันชื่อมุกวาวนะคะ เรียกมุกหรือพี่มุกก็ได้ คุณน่าจะอายุน้อยกว่าฉัน? เห็นหน้าอ่อนๆ คิดว่าคงเป็นรุ่นน้อง ?ลูกสาวหน้าตาน่ารักนะคะ? เอ่ยชมลูกสาวที่ยืนชิดแม่ หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มไปหมด ต่างไปจากแม่เด็ก คงหน้าไปทางพ่อ เชื่อว่าเป็นลูกครึ่ง โรงเรียนนี้ลูกครึ่งเยอะ
?ค่ะ...ลิซ่าไหว้คุณป้าทั้งสองคนสิคะ? สาลินบอกให้ลูกไหว้คนที่เพิ่งรู้จัก ?กลับไปหาคุณยายกันนะคะ แม่จะไปทำงาน? สาลินก้มตัวพูดกับลูก ส่วนลิซ่ากำลังสนใจเพื่อนใหม่วัยเดียวกัน เด็กผู้หญิงก็แบบนี้ เวลาเจอกัน รู้จักหรือไม่รู้จักมักอยากเล่นด้วยกันตามประสาเด็ก ไม่เหมือนผู้ใหญ่ ยังไม่รู้จักมักจี่กลับตั้งแง่วางฟอร์มใส่กัน
?ฉันสาลินค่ะ? เธอแนะนำตัวต่อคนทั้งสองอย่างมีไมตรี ไม่ได้คิดมากกับท่าทางเย่อหยิ่งของอีกฝ่ายที่เข้ามาทักก่อน
?เรียกคุณลินได้ไหมคะ? มุกวาวที่ดูเป็นมิตรกว่าสาวิตรีเอ่ยถาม รายนั้นเชิดหน้าเย่อหยิ่ง แม้เป็นฝ่ายเดินเข้ามาสอดรู้สอดเห็นเรื่องของสาลินเองก็ตาม
?ลินเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องมีคุณ? สาลินไม่จำเป็นต้องสร้างภาพ การสร้างภาพมันเหนื่อย เกิดสร้างมากๆ ลืมว่าตัวเองสร้างอะไรไว้บ้าง ถึงวันนั้นคงแย่หากโดนจับได้ ?ฉันขอตัวนะคะ? สาลินค้อมศีรษะ จากนั้นเดินจูงลูกพาไปขึ้นรถที่จอดอยู่อีกฝากหนึ่ง ห่างจากรถของสองคนนั้นที่เธอเห็นว่าช่างหรูหราเกินกว่าสาลินกับลูกจะเทียบความรวยได้
?อี๊ มุกดูสิ? สาวิตรีทำท่ารังเกียจ ขณะอีกฝ่ายผละตัวห่างออกไป ทำเหมือนสาลินเป็นหนอนมีขนเป็นพิษ
?ดูอะไร? มุกวาวไม่เข้าใจในสิ่งที่สาวิตรีอยากสื่อสาร หล่อนไม่ได้มองโลกติดลบแบบเมียเศรษฐีคนนี้ หล่อนกับสามีสร้างตัวกันมาด้วยเงินไม่กี่บาท ทุกวันนี้เป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าเด็ก มีแบรนด์ของตัวเองก็ภูมิใจในตัวเองที่สุด
?รถแม่นั่นน่ะสิ ถามจริงเธอไม่เห็นหรือตาบอดกันแน่ รถเก่าๆ ที่บ้านฉันคงเอาไปปลูกสะระแหน่?
?อะไรก็ช่างเขาเถอะ อย่าไปยุ่งกับเขา?
?ช่างได้ไง อีกไม่กี่วันลูกนางนั่นก็จะมาเป็นเพื่อนลูกฉันกับเธอ คนกระจอกพรรค์นั้นฉันไม่ให้คบหรอกนะ?
?เธอก็นะวิ บ้าบอ ยังไม่ทันได้รู้จักก็ตั้งแง่รังเกียจ คนเราแค่เป็นคนดีไม่พออีกหรือ? คนแบบนี้ต่อให้ฐานะด้อยกว่าผู้ปกครองคนอื่น นับว่ามีความพยายามในการต้องการให้ลูกได้รับแต่สิ่งดีๆ แม่แบบนี้หัวใจน่ากราบจะตาย
?หรือว่าเธออยากให้ลูกของเธอคบกับเด็กกระจอกหน้าฝรั่ง ราวกับเป็นลูกเมียเช่าฝรั่ง?
?เด็กมันจะไปแยกแยะได้ยังไง เป็นคนดีก็คบไปเถอะ?
?เสียเกรด?
?เฮ้อ? มุกวาวส่ายศีรษะ จูงมือลูกสาวเดินหนีจากสาวิตรี รู้สึกเอือมระอาในความเจ้ายศเจ้าอย่าง คนเหมือนกันแบ่งแยกทำไมให้เปลืองสมอง มุกวาวมองโลกในแง่ดีกว่าสาวิตรีหลายเท่า
?คุณแม่คะ หนูอยากเล่นกับลิซ่า? หนูน้อยบอกกับคุณแม่มุกวาว
?ลิซ่าไหนลูก อลิศของแม่? มุกวาวไม่ทันคิด
?นั่นไงคะ? อลิศสาวน้อยน่ารักชี้นิ้วไปทางรถโตโยต้าสีขาวเก่าๆ ที่แล่นผ่านหน้าไป
?เก่งจัง ตัวแค่นี้เพิ่งเจอกัน จำชื่อเพื่อนได้แล้ว? มุกวาวลูบแก้มเนียนลูกสาว ยื่นจมูกหอมฟอดใหญ่ เด็กก็คือเด็ก เราป้อนอะไรให้เขาก็เป็นอย่างนั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ มุกวาวมองไปทางสาวิตรี วันๆ ครอบงำลูกไม่ให้ทำแบบที่หล่อนไม่พอใจ
?รีร่าอย่าไปคบกับเด็กคนนั้นเชียวนะ? สาวิตรีบอกทันทีที่ยัดลูกเข้าไปในรถตรงเบาะหลัง โดยมีคนขับรถของบ้านบริการขับรถ หล่อนบ้านรวยไม่จำเป็นต้องขับรถเองให้อารมณ์เสียตอนรถติด มีเงินซะอย่าง สบายไปแปดอย่าง
?ทำไมคะคุณแม่? เด็กน้อยรีร่าสงสัยตามประสาเด็ก
?คนละชั้นกับเรา? คนเป็นแม่ตอบได้อย่างน่าเกลียด
?คนละชั้นคือไรคะแม่? เด็กน้อยไม่เข้าใจคำพูดผู้ใหญ่
?เอ๊ะ! เรียกแม่เฉยๆ ไม่ได้นะลูก ไหนเอาใหม่ เรียกคุณแม่สิคะ? สาวิตรีโวยเสียงดัง ถลึงตาดุแค่ลูกเรียกขาดคำนำหน้าแบบที่เคยสอนอย่างเข้มงวด คุณพ่อ คุณแม่ เป็นการยกระดับฐานะให้คนอื่นรู้ความเป็นคนรวยของตน
?คุณแม่? รีร่าหงอ เบียดตัวกับประตูด้านขวาที่ตนนั่ง หลบสายตาดุของแม่ เด็กน้อยวัยแค่สามขวบ กลัวคุณแม่ลงโทษ ถ้าทำผิดมักโดนตี ด่าคำรุนแรง รีร่าเจอมาบ่อย รู้ดีเวลาโดนแม่ดุน่ากลัวแค่ไหน
?ดีมาก คนละชั้นก็คือ ไม่รวยเหมือนเราไงคะ คบไม่ได้คนพวกนี้?
?ทำไมคบไม่ได้ล่ะคะ?
?เอ๊ะ...รีร่า แม่...เอ่อ...คุณแม่บอกว่าคบไม่ได้ก็คือคบไม่ได้สิคะ ไม่ต้องถามมากเข้าใจไหม? สาวิตรีดุลูกสาวอีกจนได้
?ค่ะคุณแม่?
?หมูออกรถ? พอดุลูกเสร็จเชิดหน้าสั่งคนขับรถ นั่งหน้าตึงมองไปเบื้องหน้า รีร่านั่งหดอยู่ติดกับประตู กอดตุ๊กตาใส่เสื้อสเวตเตอร์รูปหัวใจแน่น เป็นตุ๊กตาที่ปะป๊าซื้อให้ กอดทีไรเหมือนมีปะป๊าคอยปกป้อง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทันทีที่รถโตโยต้าวีออสสีขาวแล่นเข้าไปจอดในบริเวณบ้านสีเทาหลังกะทัดรัด ปานตาวิ่งมาต้อนรับลูกกับหลานสาว เปิดประตูอุ้มหลานออกจากรถ วางลงพาเดินไปนั่งลงบนม้านั่งหน้าบ้าน
?เป็นยังไงบ้างลิน? ปานตาสอบถามลูกสาว
?มานี่ลิซ่า? เรียกลูกไปหา ยื่นตุ๊กตาแพนด้าให้ลิซ่า ?พาแพนแพนไปเล่นในบ้านนะ? ลิซ่ารับตุ๊กตาตัวโปรดนุ่มๆ เดินเข้าบ้าน ไปนั่งเล่นกับตุ๊กตาตัวอื่นในห้องโถง
?สมัครเรียนได้ไหม?
?ได้สิแม่?
?ค่าใช้จ่ายล่ะ?
?จ่ายตอนมอบตัว อันนี้แค่สมัครเฉยๆ วันมอบตัวก็จะมีการจ่ายค่าเล่าเรียน โน่นนี่นั่น? สาลินเตรียมไว้เพื่อการนี้ ถึงอย่างไรลิซ่าก็ต้องได้เรียนที่ดีๆ เพื่ออนาคตที่ดี
?เยอะไหมลิน ไหวไหม แม่กลัวลินไม่ไหว แม่เองช่วยไม่ได้ แค่ให้กำลังอาจจะไม่พอ? ลูกอาจต้องการเงินมากกว่ากำลังใจก็ได้ในตอนนี้
?ค่อนข้างแพงแหละแม่?
?จะไหวหรือ เรียนโรงเรียนธรรมดาก็ได้นี่ ทำไมต้องพาลูกไปเรียนที่แพงรวมกับพวกผู้รากมากดี คนรวยๆ ด้วย?
?ไหวไม่ไหว ลินก็ต้องพยายามแม่ ลิซ่าต้องได้สิ่งดีๆ ได้เรียนที่ดีๆ?
?การเรียนมันขึ้นอยู่กับเด็ก เรียนโรงเรียนวัดยังดีได้?
?มันไม่เหมือนกัน เราพูดเรื่องนี้กันบ่อยแล้วนะแม่ ที่ลินอยากได้งานดีๆ ก็เพราะอยากให้ลิซ่าได้สิ่งดีๆ ลินจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อลูกค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงนะ ขอแค่ช่วยเลี้ยงลิซ่า ส่วนเรื่องหาเงินปล่อยเป็นธุระลินเถอะ?
?ลิน? ปานตาเรียก
?คะแม่?
?สี่ปีแล้วนะ คิดจะบอกแม่ได้หรือยัง ใครเป็นพ่อลิซ่า? ปานตากระซิบถามลูกสาวด้วยคำถามเดิมที่เคยใช้ถามสาลินไม่รู้กี่ครั้ง ลูกสาวปากแข็งยังยืนยันลิซ่าเป็นลูกเธอกับแฟนเก่าที่ตัดสินใจเลิกรากันไปเกือบสี่ปีก่อน
หลักฐานชัดเต็มตาเมื่อลิซ่ายิ่งโตก็ยิ่งเหมือนฝรั่ง ห่างไกลจากเมฆที่เป็นหนุ่มไทยแท้ ดูอย่างไรไม่ว่ามองมุมไหน ไม่มีความคล้ายเมฆแม้แต่น้อย ได้เค้าปากน่ารักมาจากสาลินคนเป็นแม่หน่อยเดียว
?แม่...เบาๆ เดี๋ยวลิซ่าได้ยิน?
?แม่กระซิบเบาๆ เอง หลานจะได้ยินได้ยังไง ตกลงจะยอมบอกหรือยัง?
?ลูกเมฆไงแม่? สาลินยืนกรานคำเดิม แม้หลักฐานดีเอ็นเอฟ้องชัดโต้งๆ บนหน้าลิซ่าเต็มประตู สาลินให้การกับผู้พิพากษาคำเดิม
?เฮ้อ...แบบนี้ตามเคย เอาละๆ แม่ไม่ถามก็ได้? ปานตาลุกเดินไปหาหลาน หน่ายกับลูกสาวปากแข็งเอาแต่ยืนกรานอยู่นั่นแหละว่าท้องกับแฟนเก่า เป็นลูกเมฆไปได้อย่างไร หน้าลิซ่าถอดฝรั่งดั้งโด่ง ผิวดีเกินพ่อแม่ซะอย่างนั้น ?ทีนี้แม่ถามเรื่องงานใหม่ได้ไหม?
?อืม...แบบนี้ดีกว่าแม่? พอคุยกันได้หน่อย สาลินเข้าใจแม่นะ ท่านเป็นห่วงทั้งลูกและหลาน แต่จะรื้อฟื้นให้ได้อะไรขึ้นมา พ่อลิซ่าไม่มีวันโผล่มารับผิดชอบได้หรอก ไม่ว่าจะไปบนบานศาลกล่าวที่ไหน ความหวังคือเป็นศูนย์ ส่วนเธอไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยสักครั้ง ก้มหน้าขอรับผิดดูแลลูกคนเดียว ตั้งแต่รู้ตัวว่าท้องจนกระทั่งคลอด ไม่ปริปากบ่นเรื่องชะตากรรมของตัวเองเลยสักครั้ง
?งานใหม่เป็นยังไงบ้าง? ถามเรื่องพ่อหลานไม่ได้ เลี่ยงมาถามเรื่องงานที่สาลินเพิ่งเข้าไปทำ เห็นว่าเป็นโรงแรมใหญ่ ชื่ออะไรปานตาก็จำไม่ได้
?ดีค่ะ? งานที่นี่ดีจัดว่าดีใช้ได้ ทำอาหารไม่ค่อยได้ว่าง แขกเยอะสมเป็นโรงแรมใหญ่
ถ้าให้ถามว่าใครเป็นเจ้าของ ทางในครัวคุยกันหนาหูว่าแบงค็อก แมริออทกำลังอยู่ในอนาคตใหม่ เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เสียงลือหนาหูว่าชาวต่างชาติมาซื้อกิจการร่วมกับคนไทย ไม่ว่าองค์กรเปลี่ยนไปในทางใด ภาวนาขออย่าให้กระทบกับรายได้เป็นพอ เธอมีภาระหนักที่ต้องดูแล ก็เจ้าตัวน้อยๆ ที่วิ่งซุกซนอยู่ในบ้านกับเจ้าแพนแพนนั่นไง แก้วตาดวงใจของเธอเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ทุกๆ คนฟังทางนี้?
ทุกคนในครัวไทยในช่วงเข้ากะเช้าทยอยกันมารวมกันในครัว หันมองมาทางเฮดเชฟ (เชฟใหญ่ หรือ หัวหน้าแผนกครัว) ที่ย่างก้าวเข้ามาในครัวส่งเสียงเรียกทุกคน คล้ายมีเรื่องประกาศให้รับทราบกันถ้วนหน้า กะเช้าเป็นกะที่เชฟเข้าทำงานกันเยอะกว่ากะบ่ายกับกะดึก จึงเหมาะในการประกาศข่าวต่างๆ
สาลินเดินเข้ามาสมทบพอดี ขณะกำลังใส่หมวกคลุมบนศีรษะ สนใจฟังเสียงเฮดเชฟตามเพื่อนๆ
?สัปดาห์หน้าเราจะมีการแข่งขันการทำอาหาร ใครสนใจเข้าร่วมงานนี้ นี่ใบสมัครเชิญได้เลย? เฮดเชฟวางใบสมัครขนาดเท่ากระดาษเอสี่ลงบนโต๊ะ เชฟทั้งหลายต่างหันมองกัน ยิ้มให้กัน มีเสียงเล็กๆ เล็ดลอด
?มีเงินรางวัลไหมคะ? ในขณะที่ทุกคนเงียบ สาลินยกมือขึ้นถามเข้าประเด็นโดยไม่อ้อมค้อม เธอร้อนเงิน ต้องการหาเงินมากๆ ไว้เพื่ออนาคตของลิซ่า
?ถามตรงประเด็นดีนะลิน อย่าห่วงเลย งานนี้มีเงินรางวัลถึงห้าแสนสำหรับผู้ชนะ รองชนะสามแสน ที่สามหนึ่งแสน พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ เอาเป็นว่ารายละเอียดช่วยไปอ่านที่โปสเตอร์บอร์ดด้านหน้าได้เลย? พูดจบเฮดเชฟก้าวออกจากห้องครัวไทย
สาลินได้ยินจำนวนเงินรางวัล หัวใจหญิงสาวเลือดสูบฉีดพุ่งปรี๊ด มีความกระหายใคร่อยากในเงินรางวัลจำนวนนั้น วิ่งออกจากประตูไปด้วยความตื่นเต้น มีพลังความหวังแฝงอยู่ในแววตาที่ลุกโชน
?ลิซ่า เรามีหวังแล้วลูก? เชฟสาวเดินกึ่งวิ่งไปตามทาง พร่ำพูดกับตัวเองไปตามทางเดิน พอไปถึงหน้าบอร์ดติดประกาศของทางโรงแรม สายตาสาลินกวาดต้อนเอาตัวอักษรทุกตัวไว้พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ยิ้มกับโทรศัพท์อย่างมีประกายของความหวังเจิดจ้า ?แม่สัญญาจะเอาเงินรางวัลนี้มาให้ได้?
?หึ...อย่าบอกนะว่าเธอจะลงแข่งด้วย? เสียงหนึ่งที่เพิ่งก้าวมาถึงทีหลังถามคล้ายจะเยาะเย้ยถากถางในความสามารถด้านการทำอาหารของเธอ
?นั่นสิ เพิ่งมาทำงานไม่กี่เดือน เชื่อในฝีมืออาหารที่สุนัขไม่แดก อุ๊ย ไม่รับประทานขนาดนั้นเลยหรือ? อีกคนถามอีกคนพูดเปรยลอยตามลม ไม่หันไปมองหน้าสาลิน ได้แต่เหล่ตามอง พวกไม่เจียมชอบประมาณตนเหนือความสามารถ
?เธอสองคนว่าใคร? สาลินหันไปทางเสียงพูดจาดูถูก
?อุ๊ย ตรงนี้มีเธอ...ฉัน และยายก้าน ฉันคงหมายถึงยายก้านมั้ง? ปลาทู กอมมีเชฟ (ผู้ช่วยเชฟ) อีกคนที่ชอบส่งสายตาชังน้ำหน้าสาลิน กอมมีเชฟที่เพิ่งเข้ามาทำงานร่วมหกเดือน ในขณะที่ปลาทูอายุงานมากกว่าเท่าตัว รู้สึกไม่ชอบขี้หน้านางเชฟคนนี้ ทำตัวเด่น ที่สำคัญใกล้ชิดผู้ชายที่หล่อนแอบชอบ
มาทีหลังออกก่อนเป็นที่น่าหมั่นไส้น้อยอยู่เมื่อไหร่ คนอื่นเขายุ่งวุ่นวายกับการเก็บข้าวของตระเตรียมวัตถุดิบ ส่วนแม่นี่พอเลิกงานปุ๊บรีบเผ่นทันที ไม่รู้รีบร้อนไปตายห่าที่ไหน ไม่รู้จักเคารพรุ่นพี่อย่างหล่อนเอาซะเลย ถ้าไม่รู้จักระดับรุ่นอย่างนี้เห็นทีต้องสั่งสอนกันซะหน่อย
?ทำไม ฉันไม่มีสิทธิ์ลงแข่งหรือยังไง? มีชีวิตทุกวันนี้เพื่อครอบครัว ดิ้นรนทุกอย่างเพื่อลูก เงินรางวัลห้าแสน มากขนาดนี้เก็บไว้ให้ลูกเรียนได้อีกหลายเทอม เธอสัญญากับตัวเอง ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นต้องทำเพื่อลูกทุกวิถีทาง
การแข่งขันครั้งนี้คือความหวังของเธอ เรื่องอะไรที่แม่เลี้ยงเดี่ยวปากกัดตีนถีบอย่างเธอจะยอมละทิ้งโอกาสดีๆ ในการหาเงิน ตีนมี มือมี ความสามารถก็มีไม่ต่างกับคนอื่น หมั่นฝึกฝนเป็นประจำเชื่อว่าต้องเก่งเหมือนเชฟคนอื่น
?ว้ายยย กล้าถาม อย่างเธอมันไม่ติดฝุ่นฉันหรอก นามสกุลฉันก็บอกอยู่แล้วนี่ระดับไหน? หล่อนแค่เหม็นขี้หน้า ไม่ได้ทำอะไรให้ก็เหม็น มีอะไรหรือเปล่า ปลาทู ทัพรังสรรค์ ใหญ่โตพอไหม หล่อนถามตัวเองในใจ
?พูดแบบนี้แม้แต่เธอก็จะลงแข่งอย่างนั้นสิ? นามสกุลอุปโลกน์แค่คล้ายตระกูลดัง ไม่เหมือนสักหน่อย นึกว่าคนอื่นกินหญ้าหรืออย่างไร ถึงได้ยกเมฆนามสกุลคนดัง
?ว่าไงก้าน ฉันสมควรลงแข่งไหม บอกแม่นี่ไปซิ? คนนามสกุลดังหันไปถามเพื่อนสนิทตำแหน่งต่ำกว่า ก้านเป็นแค่เทรนนีเชฟ (เชฟฝึกหัด) หล่อนซื้อแม่นี่ไว้ใช้งานเสริมบารมีลูกคุณหนูที่อยากทำงานทดสอบตัวเองก็เท่านั้น
?ปลาทู เธอน่ะเหมาะสมในการลงแข่งที่สุด เธอมันมีสกิลการทำอาหารดีที่สุดในบรรดากอมมีแถวๆ นี้? ก้านคือจำพวกเลียเก่ง ปลาทูเคยเล่าให้ฟังว่าบ้านหล่อนรวย แต่ที่มาทำงานเพราะอยากหาประสบการณ์ อีกหน่อยก็จะไปเปิดร้านอาหารของตัวเอง ก้านจึงฝากเนื้อฝากตัวเผื่อได้เป็นเชฟใหญ่ในร้านของปลาทู
?อย่างเธอ สาลิน คิดดูให้ดี ฉันว่าอย่าลงแข่งให้ตกรอบแรก ทำให้โรงแรมเสียชื่อดีกว่า ดูสิในโปสเตอร์ก็ระบุอยู่ว่างานนี้เชฟมาล้นหลาม โนเนมอย่างเธอถอยไปซะไป๊? ปลาทูปัดมือไล่ เบะปากอย่างดูถูกความสามารถคนอื่น
?เอางี้ไหม เรามาวัดกันในวันแข่ง ถ้าใครแพ้ คนนั้นต้องกราบตีนคนชนะ? สาลินเล่นแรง เธอเป็นคนมุ่งมั่น ยิ่งใครท้าทายยิ่งมีแรงผลักดันรุนแรง
ดีเหมือนกันที่ปลาทูก้าวมาท้าเธอเหยงๆ ชัยชนะจะได้หอมหวานมากขึ้น ฉะนั้นงานนี้อยากวัดกับคนปากดีสักตั้ง งานไม่ใช่เล็กๆ แต่เป็นระดับรายการอาหารที่ช่องต่างๆ มาถ่ายทอดสด ฉะนั้นเธอต้องได้เงินรางวัลของผู้ชนะเท่านั้น
?กราบตีนเลยหรือ? ปลาทูรู้สึกขนลุก นี่ขนาดพูดขู่ นางนี่ยังไม่ยอมล่าถอย กล้าท้าทายคนอย่างปลาทูด้วยการเดิมพันกราบตีน ขืนไม่รับคำท้าเสียชื่อแย่
?หรือว่าเธอไม่กล้า พวกหมาดีแต่เห่ามันไม่กัด อันนี้ฉันเข้าใจนะ?
?แกท้าใคร นางชั้นสวะ? คนที่บังอาจมาแย่งซีนหล่อนจากพี่อธิปคนนั้นเป็นศัตรูกับหล่อนทุกคน
?พูดจากับคนอื่นดีๆ หน่อย เดี๋ยวจะโดนข้อหาหมิ่นประมาท?
?อุ๊ย...ทำหัวหมอ?
?เปล่า...หัวทนายต่างหาก?
?ฉันรับคำท้าแก...ก้าน แกเตรียมเช็ดรองเท้าปราด้าของฉันไว้รอคนมากราบตีนได้เลย? รองเท้าต้องบอกยี่ห้อด้วย ปราด้าปลอมอาจเป็นแค่ป้าดาก็ได้นะ ก้านซ่อนความคิด
?ได้เลยปลาทู?
?ฮ่าๆๆ? ท้าผิดคนแล้วสาลิน ปลาทูหัวเราะร่วน นึกถึงวันชนะรอไว้เลย ส่วนก้านรู้สึกหวาดหวั่น ได้ข่าววงในสาลินจบการทำอาหารมาจากสถาบันชื่อดังของไทยอยู่เหมือนกัน รสชาติอาหารที่สาลินปรุง ลูกค้าหลายคนเขียนโน้ตฝากบริกรชมเปาะ หล่อนสนับสนุนปลาทูเพราะต้องการอนาคตทางการงาน ทว่าไม่เคยรู้เลยว่าปลาทูเหนือชั้นหรือไม่ในการทำอาหาร เห็นวันๆ เอาแต่อู้ไม่ได้เรื่อง คอยแต่ยื่นปากนินทาชาวบ้านกับหล่อนเท่านั้นเอง
?ตามนั้น? สาลินยื่นมือไปหวังจับทำข้อตกลงกับปลาทู ศึกนี้ไม่มีใครยอมใคร เล่นซื่อห้ามคิดคดเป็นพอ
?ไม่จำเป็น คนอย่างฉันคำไหนคำนั้น? ปลาทูปัดมือสาลิน คนไม่ถูกชะตาแม้แต่มือยังไม่อยากจับ อันที่จริงสิ่งที่ทำให้ปลาทูไม่ชอบขี้หน้าสาลินมีแค่ประเด็นเดียวคือเรื่องเชฟอธิปเท่านั้น
?เกิดอะไรขึ้นลิน? สาวสวมชุดเชฟคนหนึ่งเดินมา เห็นปลาทูกับสาลินเขม่นกัน
?ไม่มีอะไรวินนี่ แค่คนอยากอวดในสิ่งที่ตัวเองไม่มี? สาลินบอกกับวินนี่ที่เพิ่งเดินมาสมทบ
?นี่! ปากดีไปเถอะ เตรียมซ้อมแพ้ไว้เลย ถึงวันแพ้จริงๆ จะได้ไม่เสียใจมากจนฆ่าตัวตาย? ปลาทูก้มมองรองเท้าตัวเอง พอดีอยากได้รองเท้าใหม่ เงินรางวัลห้าแสน ถ้าได้มาไว้ไปซื้อรองเท้าใหม่ใส่ให้คนกราบก็น่าจะดี
?หึ...มันจะไม่มีวันนั้นแน่? คนมุ่งมั่นโดยมีจุดหมายแน่นอน เชื่อว่ากำลังใจที่ดีคือลูกย่อมทำให้เธอชนะปลาทูอย่างไร้ข้อกังขา
?ไปก้าน รำคาญพวกไม่เจียม? ปลาทูเชิดหน้า ทำตนสูงราวกับไม่ใช่พนักงานระดับเดียวกับสาลิน
?จ้ะๆ? ก้านสาวเท้าตามหลังปลาทู จำพวกนายว่าขี้ข้าพลอยในละครพีเรียดไม่มีผิด นางบ่าวก้านกับแม่นายปลาทู
?ปลาทู เธอแน่ใจแล้วนะจะลงแข่ง? ในบรรดากอมมี ปลาทูดูท่าอ่อนที่สุดในทักษะการปรุงอาหาร แข่งกันเล่นๆ แต่ละเดือนในครัวปลาทูไม่เคยชนะ อีแบบนี้ยังคิดลงแข่งระดับประเทศอีกนะ
ก้านเองก็ไม่สามารถห้ามปลาทูได้ ต่อให้รู้นิสัยใจคอ รวมไปถึงทักษะความรู้การทำอาหารของอีกฝ่ายก็เถอะ สู้ปล่อยให้ลองเองดีกว่าร้องห้าม
?แกไม่เชื่อฝีมือฉันหรือไงยะ? ปลาทูหันขวับไปตวาดก้าน ดูทำหน้าเข้าสิ เหมือนไม่เชื่อกัน
?เอ่อ...ลินมันก็น่าจะเก่งอยู่นะ ดูแค่ที่เพิ่งเข้ามาทำงาน คนชมเปาะอาหารรสดี ช่างคิดค้นเมนูแปลกๆ ใหม่ๆ เฮดเชฟชมบ่อยๆ ว่าลูกค้าชมสาลินมาแบบนี้ ทำให้หัวหน้าหน้าบานไปด้วย ในขณะที่ปลาทูไม่ได้สร้างสรรค์ผลงานใดๆ เลยด้วยซ้ำ เอาแต่เบียดเบียนเอาผลงานคนอื่นมายกเป็นความดีความชอบของตัวเองตลอด
หึ...งานนี้ฉันต้องลงแข่งให้ได้ ถ้าฉันชนะ นอกจากได้เห็นคนกราบตีน ยังทำให้ใครบางคนชื่นชมหันมาคบกับฉัน
ปลาทูเดินเชิดไปเบื้องหน้า กุมความคิดตัวเองไว้ในใจ ใบหน้าเย่อหยิ่งเต็มไปด้วยความหวังในชัยชนะ ถ้าได้เข้ารอบลึกๆ หรืออย่างน้อยรอบออดิชั่นก็ต้องผ่านให้ได้ จากนั้นหล่อนในสายตาเชฟอธิปก็คงกลายเป็นนางฟ้า






++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ด้วยความเมาเธอเลยเผลอวันไนต์สแตนด์ แต่ดันได้ของแถมมาหนึ่งชีวิต ที่สำคัญคือสาลิน เชฟสาวไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเขา และไม่รู้อะไรเลย หญิงสาวจึงมุ่งมั่นหาเงินเพื่อเลี้ยงลูกจนได้มาเจอเขาอีกครั้งในการประกวดทำอาหารที่ริคคาโด้ รอสซี่ ซีอีโอคนใหม่ของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่มาเป็นกรรมการตัดสิน จากนั้นเขาก็ตามเธอแจแถมยังกลั่นแกล้งให้ต้องใกล้ชิดเขาบ่อยๆ ยิ่งได้ลิ้มรสสวาทในตัวเชฟสาว หนุ่มตาน้ำข้าวก็ยิ่งมั่นใจว่าเธอคือสาววันไนต์ฯ คนนั้น คนที่เขาตามหามาตลอด

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”