New Release BLY แปล : คืนรักเทพหมาป่า

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1068
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : คืนรักเทพหมาป่า

โพสต์ โดย Gals »

คืนรักเทพหมาป่า

พายุหิมะโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง หลังจากที่ฮิโระในวัยสิบขวบเดินผ่านป่าเบญจพรรณในหมู่บ้าน และพ้นออกมาจากป่าต้นบีช สถานที่ซึ่งเขาดั้นด้นมาถึงคือ ป่ารกหนาทึบบนภูเขา
หิมะโหมปกคลุมพื้นที่สีเขียวทั้งหมด แม้ระยะทางแค่หนึ่งเมตรข้างหน้ายังมองไม่เห็น
ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ ฮิโระกำลังนอนคุดคู้อยู่ใต้ร่างของพ่อซึ่งกอดเขาไว้แนบแน่น ร่างกายของพ่อซึ่งยังอุ่นอยู่จนถึงเมื่อครู่ตอนนี้กลับเย็นเฉียบ ร่างกายของฮิโระก็แข็งทื่อเช่นกัน เขาก้าวขาไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว ทั้งๆ ที่ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่ความขาวของหิมะบริเวณนั้นกลับสว่างไสวจนน่ามหัศจรรย์ และน่าหวาดหวั่นในคราวเดียว
?ภูเขาลึกเป็นอาณาเขตของท่านอินุงามิ เพราะฉะนั้นห้ามเข้าไปเป็นอันขาด?
คำเตือนของย่าซึ่งน่าจะกำลังรอพวกเขาอยู่ที่หมู่บ้านสะท้อนก้องในหูของฮิโระ
ด้านในลึกของภูเขาเป็นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ของท่านอินุงามิ เทพผู้คุ้มครองหมู่บ้าน เนื่องจากเป็นเขตแดนของเทพเจ้า มนุษย์จึงห้ามล่วงล้ำเข้าไปโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกท่านเทพลักพาตัวไป ...นี่คือคำสั่งสอนที่มีมาแต่โบราณ ไม่ว่าเด็กคนไหนในหมู่บ้านต้องเคยได้ยินทั้งนั้น รวมถึงเรื่องที่เล่าด้วยว่า... หากตอบชื่อของท่านอินุงามิไม่ถูก ก็จะไม่ได้กลับมายังหมู่บ้านอีก
ทว่าฮิโระกลับละเมิดคำเตือน บุกรุกเข้ามายังภูเขาลึก พ่อของเขาออกตามหา และตอนนี้เขากับพ่อก็ติดอยู่กลางภูเขาหิมะไม่สามารถกลับออกไปได้
(พ่อ พ่อ ตื่นสิ ตื่น...)
ฮิโระอยากเรียกพ่อ แต่ความหนาวทำให้ลำคอแข็งทื่อจนไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ พ่อซึ่งพยายามบอกเขาตลอดจนถึงเมื่อครู่ว่า ?ห้ามหลับเด็ดขาดนะฮิโระ ห้ามหลับเด็ดขาด? ตอนนี้ดวงตากลับปิดสนิท ร่างกายไม่ไหวติง
(พ่อกำลังจะตาย...)
ในสมองของฮิโระมีแต่เรื่องนี้ผุดขึ้นมา ทว่าฮิโระก็ถูกความง่วงขั้นรุนแรงเข้าจู่โจมเช่นกัน ระบบประสาทเริ่มแน่นิ่ง
เวลาผ่านไปนานเท่าใดกัน จู่ๆ หิมะที่ตกลงมาก็เริ่มซา
ฮิโระมองไปเบื้องหน้า เขาเห็นทุ่งสีขาวโพลนกว้างสุดลูกหูลูกตา มวลไม้ตั้งตระหง่านราวกับกลุ่มเจดีย์สีขาว และเมื่อมองเลยออกไป ความมืดมิดราวกับหินออบซีเดียนสีดำสนิทกำลังแผ่ขยายกว้าง
แม้อยู่ในสภาพสะลึมสะลือ แต่ฮิโระก็มองเห็นอัญมณีสีเงินลอยอยู่เหนือความมืดนั้น อัญมณีสีเงินส่องประกายวูบวาบดุจเพลิงจิ้งจอกกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้
เป็นภาพที่น่ามหัศจรรย์เหลือเกิน รอบข้างเงียบสงัด สงบมากจนความเงียบนั้นกลายเป็นเสียงกระทบโสตประสาทของฮิโระ
ในที่สุดฮิโระก็รับรู้ได้ว่า อัญมณีสีเงินที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ตนนั้นคือหมาป่าตัวใหญ่ราวกับภูเขาลูกย่อมๆ สีเงินเป็นสีขนของหมาป่า ขนของมันหนาฟูฟ่อง แต่ละเส้นเปล่งประกายดั่งแสงจันทร์ หมาป่าตัวนี้มีหางยาวจำนวนเก้าหาง ดวงตาสีทองทอประกายดุจดวงดาวท่ามกลางขนสีเงิน
ที่น่าแปลกคือ หมาป่าตัวนี้กำลังเหยียบย่ำอยู่บนผิวหิมะแท้ๆ แต่กลับไร้เกล็ดสีขาวปลิวว่อน พื้นหิมะไม่ยุบตัวเป็นแอ่ง หางทั้งเก้าโบกสะบัดไปมาอย่างงามสง่า มันค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้อย่างเงียบสงบ ไร้เสียง ไร้รอยเท้า ก่อนหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าฮิโระพอดี
หัวใจดวงน้อยของฮิโระเต้นกระดอนทันใด
ร่างกายสั่นสะท้าน ไม่ใช่เพราะหนาว แต่เพราะความกลัว ความหวั่นเกรงที่ไม่สามารถหาคำพูดมาอธิบายได้เอ่อทะลักออกมาจากใต้ช่องท้องของฮิโระ เป็นความหวาดหวั่นประหนึ่งกำลังยืนอยู่บนสะพานสูงที่แกว่งไปมาขณะจ้องมองแม่น้ำลึกใต้ฝ่าเท้า ทว่าในขณะเดียวกันฮิโระกลับไม่สามารถละสายตาไปจากหมาป่าตัวนี้ได้เลย
(สวยจัง...)
ฮิโระคิด ไม่ว่าจะเป็นดวงจันทร์ซึ่งลอยอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ดาวประกายพรึกเวลารุ่งสาง หิมะสีขาวยามต้องแสงตะวัน สีนวลเรืองรองของไข่มุก ต่อให้ทุกอย่างมารวมกันก็ยังไม่งดงามเท่าหมาป่าที่อยู่เบื้องหน้า ฮิโระยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ แต่เขารู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขากำลังสั่นไหว เขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่งดงามและน่ามหัศจรรย์เท่านี้มาก่อน รวมถึงไม่เคยเจออะไรที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อนด้วย...
ดวงตาซึ่งสุกสกาวราวกับดวงดาวของหมาป่าหรี่ลง มันยื่นจมูกไปทางพ่อ ตอนนั้นไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ฮิโระรับรู้ได้ทันทีว่าหมาป่าที่แสนน่ากลัวและงดงามตัวนี้กำลังจะทำอะไร มันกำลังจะพาพ่อของเขาไป
...เดี๋ยว อย่าเอาวิญญาณของพ่อไป
ฮิโระพยายามตะโกนสุดเสียง แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเสียงของเขาดังออกมาจริงหรือเปล่า ลำคอแข็งทื่อไม่ขยับ สติสัมปชัญญะเลื่อนลอย เขารู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
...เอาวิญญาณของฉันไปก็ได้ ช่วยพ่อฉันด้วย...
พ่อไม่ได้ผิดอะไร คนฝ่าฝืนคำสั่ง บุกรุกเข้ามาในภูเขาลึกคือตัวเขาเอง
...ไม่ได้ ฮิโระได้ยินเสียงดังก้องในสมอง
เป็นเสียงสงบนิ่งแต่ทุ้มต่ำน่าเกรงขามราวกับเสียงสะท้อนจากภูเขา ในขณะเดียวกันน้ำเสียงอันแจ่มชัดและไพเราะนี้ก็ทำให้หัวใจของฮิโระสั่นไหว
?พ่อของเจ้าต้องตาย แต่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ต่อ เจ้ายังเยาว์นัก ข้าจะช่วยเจ้า?
และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน หมาป่ากล่าวต่อ
?เมื่อเจ้าอายุยี่สิบปี ข้าจะมารับตัวเจ้าไป?
...เมื่ออายุยี่สิบปี?
?ถูกต้อง ข้าจะบอกชื่อจริงของข้า เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคำมั่น ข้าชื่อ...?
หมาป่าค่อยๆ พ่นลมหายใจลงบนฝ่ามือข้างซ้ายของฮิโระ เป็นลมหายใจที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง อบอวลไปด้วยกลิ่นของพืชนานาพันธุ์ในป่าอันอุดมสมบูรณ์ จากนั้นรอยปานเล็กๆ ก็ผุดขึ้นบนฝ่ามือของฮิโระ รูปร่างคล้ายใบไม้...
อัญมณีสีฟ้าใสลอยออกมาจากร่างกายของพ่อซึ่งกำลังกอดฮิโระอยู่ หมาป่าแหงนหน้าขึ้นและอ้าปากกว้าง ก่อนที่ลิ้นสีแดงของมันจะตวัดอัญมณีเม็ดนั้นเข้าไปในปาก ฮิโระเห็นหมาป่ากลืนวิญญาณของพ่อไปต่อหน้าต่อตา...
จู่ๆ ความง่วงขั้นรุนแรงก็เข้าถาโถม ฮิโระหลับตา หยดน้ำใสๆ ที่ปริ่มอยู่บริเวณขนตาไหลลงมาอาบแก้ม น้ำหนักของร่างกายพ่อหายไปจากบ่า พ่อล้มลงไปกองอยู่บนหิมะและสิ้นใจ...
พ่อตายแล้ว เป็นเพราะฮิโระ พ่อเลยถูกอินุงามิกินวิญญาณ
ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่หิมะเริ่มตกลงมาอีกครั้ง ฮิโระได้ยินเสียงกรีดร้องของพายุหิมะผ่านระบบประสาทบางส่วนที่ยังพอทำงานอยู่
ฮิโระถูกฉุดกระชากลงสู่ก้นบึ้งของห้วงนิทรา สติสัมปชัญญะวูบดับ
นี่คือความทรงจำของวันหนึ่งในฤดูหนาว สมัยอายุสิบขวบ


1

?ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ เพราะฉะนั้นช่วยออกจากงานวันนี้เลยได้ไหม?
ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อกล่าวกับ โทริโนะ ฮิโระ พนักงานพาร์ตไทม์ ในช่วงเที่ยงหนึ่งวันก่อนวันเกิดอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ของฮิโระ
เข้าสู่ปลายเดือนตุลาคมแล้ว อากาศในภูมิภาคนี้เริ่มหนาว ด้านนอกมีเมฆหนาครึ้ม ฮิโระซึ่งจริงๆ แล้วต้องเข้างานกะเที่ยงถึงดึกกำลังยืนขมวดคิ้วอยู่ภายในห้องพักพนักงาน ความไม่พอใจปรากฏบนสีหน้าอย่างเด่นชัด
?ถ้าเป็นเรื่องเมื่อวานละก็ ผมไม่ผิดนะครับ?
ฮิโระเป็นเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปี ส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน รูปร่างผอมบาง สีผมสว่างโดยธรรมชาติ ใบหน้าดูเป็นมิตร ทว่าเนื่องจากยังมีเค้าสมัยเยาว์วัย เวลาฮิโระยิ้มจึงดูเหมือนนักเรียนมัธยมปลาย แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนพูดจาโผงผาง เวลาเถียงน้ำเสียงจึงฟังแข็งกระด้าง คงด้วยเหตุนี้ละมั้ง สีหน้าของผู้จัดการร้านจึงดูไม่สบอารมณ์ ถึงอย่างนั้นฮิโระกลับไม่หวั่นเกรงใดๆ
?เมื่อวานผมก็บอกไปแล้ว สุมิดะซังขโมยของในร้านจริงๆ?
?เฮ้อ โธ่ ฉันเข้าใจดีว่าเธอเป็นคนรักความยุติธรรม?
ผู้จัดการร้านขึ้นเสียงหงุดหงิดขณะนั่งกินข้าวกล่องเหลือจากหน้าร้านอยู่ที่โต๊ะทำงาน เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮิโระก็เริ่มเดือดดาล
(ผมไม่ได้ทำอะไรผิด สุมิดะเป็นลูกชายเจ้าของร้านหรือใครหน้าไหนก็ช่าง มันไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะขโมยของในร้านได้)
ที่จริงฮิโระอยากตะโกนออกไปอย่างนั้น แต่เขาใกล้จะอายุยี่สิบปีแล้วจึงควรสะกดกลั้นอารมณ์ให้สมกับเป็นผู้ใหญ่หน่อย
?คือว่า โทริโนะคุงก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าบ้านสุมิดะน่ะเป็นตระกูลแบบไหน??
ตระกูลสุมิดะเป็นตระกูลถือครองที่ดินรายใหญ่ของจังหวัด มีบริษัทก่อสร้างและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ประธานคนปัจจุบันยังเป็นสมาชิกสภาจังหวัดมาแล้วหลายสมัย ในจังหวัดนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก
?ช่วยปล่อยเลยตามเลยไปหน่อยไม่ได้หรือไง?
ทว่าถ้อยคำที่ผู้จัดการร้านกล่าวเสริมพลางถอนหายใจนี้ กลับทำให้ความพยายามอดทนแบบผู้ใหญ่ของฮิโระขาดผึง
?เพราะผู้จัดการไม่ยอมพูด ผมเลยต้องพูดไม่ใช่เหรอครับ?
?หนวกหู! คนที่จะมาแทนเธอมีอีกตั้งเยอะ ถึงไม่มีเธอร้านนี้ก็อยู่ได้?
ผู้จัดการร้านหันหลังให้ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากเสวนาด้วยแล้ว ฮิโระกัดริมฝีปากเงียบกริบ
ฮิโระเจ็บใจที่ถูกไล่ออกอย่างไม่สมเหตุสมผล แต่จากประสบการณ์ที่พอมีอยู่บ้าง เขารู้ดีว่าเถียงไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์
เขาเดินออกจากห้องพักพนักงาน ?สุมิดะ? ซึ่งกำลังจะอายุยี่สิบสามในปีนี้มองฮิโระพร้อมส่งยิ้มเย้ยมาจากหลังเคาน์เตอร์แคชเชียร์
?ไง ไปดีๆ ล่ะ ฮีโร่คุง?
ฮิโระเมินคำพูดของสุมิดะ เขาอยากกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายและตะโกนใส่หน้าเย้ยหยันนั้นว่า ?สารเลว!? เขาอยากทำ แต่หากทำเช่นนั้นลงไป เท่ากับว่าเขาลดระดับตัวเองเป็นคน ?สารเลว? แบบเดียวกับหมอนั่น พอคิดว่าย่าต้องเสียใจแน่ๆ ฮิโระจึงอดกลั้นและเดินออกจากร้านไปเงียบๆ
(หน็อย แต่ฉันไม่ผิดสักหน่อย)
ลมเย็นพัดปะทะผิวหน้า ฮิโระเปิดเบาะรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ก่อนหยิบหมวกกันน็อกออกมา พอเห็นคู่มือเตรียมสอบเข้าโรงเรียนเฉพาะทางอยู่ข้างใน เขาก็ถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว อารมณ์โทสะเริ่มเจือจาง ความหดหู่และความเหนื่อยล้าเข้ามาแทนที่โอบล้อมไหล่อันบอบบางของเขา
ต้องหางานพิเศษใหม่อีกแล้ว จะเรียนก็ต้องใช้เงิน จะดำรงชีวิตก็ต้องใช้เงิน ค่าน้ำมันจากหมู่บ้านบนภูเขาลึกที่ฮิโระอาศัยอยู่มายังตัวเมืองที่พอจะหางานทำได้นั้นก็ไม่ใช่เล่นๆ ลำพังแค่เบี้ยยังชีพคนชรารายปีของย่าที่อาศัยอยู่ด้วยกัน แน่นอนว่าไม่เพียงพอ...
?ฮีโร่คุง?
สุมิดะตามออกมา ตุ้บ เขาตบแผ่นหลังของฮิโระ ?นี่ ฉันช่วยเจรจากับผู้จัดการร้านให้เอาไหม? ฮิโระหันไปจ้องสุมิดะเขม็ง
?แต่นายต้องสัญญาว่าจะขายที่ดินบ้านนายให้ฉัน แล้วฉันจะให้นายทำงานต่อ?
กลิ่นบุหรี่ลอยหึ่งออกจากปากของสุมิดะ ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำงานเป็นจริงเป็นจังสักอย่าง แม้ร่างกายใหญ่โตแต่ใบหน้าไร้อารมณ์ แววตาดูไม่เป็นมิตร ลักษณะภายนอกเหมือนกุ๋ยข้างถนนไม่มีผิด
สามเดือนก่อน พ่อของสุมิดะซึ่งเป็นเจ้าของร้านส่งเขามาทำงานในร้านสะดวกซื้อแห่งนี้โดยอ้างว่า ?ช่วยสอนงานลูกชายฉันด้วย? แต่สุมิดะไม่อยากทำงานนี้ตั้งแต่แรก เขาอยากไปอยู่บริษัทของพ่อมากกว่า และตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่เขาเริ่มข่มขู่ฮิโระให้ขายที่ให้
มิน่าล่ะ แบบนี้นี่เอง ฮิโระคิด แม้สุมิดะพยายามเซ้าซี้เท่าไร แต่ฮิโระกลับปฏิเสธเสียงแข็งตลอด หมอนี่ไม่พอใจจึงหาเรื่องไล่ฮิโระออก ...แต่ใครจะยอมให้คนอย่างนายได้ผลงานล่ะ ฮิโระโมโหเลือดขึ้นหน้า เขากระทืบเท้าสุมิดะสุดแรง
?โอ๊ย!?
สุมิดะหน้าแดงก่ำขณะกระโดดถอยหลัง ฮิโระอาศัยจังหวะนี้รีบสวมหมวกกันน็อก ขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ สตาร์ตเครื่อง และจังหวะที่เขาบึ่งออกไปยังถนน ?เจ้าบ้า จำไว้เลย? ฮิโระได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากข้างหลัง
(คนอย่างฉัน... คนที่ไม่มีอะไรอย่างฉันโดนคนอื่นดูถูกได้ตลอด)
ทันทีที่รถวิ่งออกไปยังถนนซึ่งไร้เพื่อนร่วมทาง ความอัดอั้นตันใจก็พลันล้นทะลักออกมา เจ็บใจเหลือเกิน
?คนที่จะมาแทนเธอมีอีกตั้งเยอะ ถึงไม่มีเธอร้านนี้ก็อยู่ได้?
คำพูดของผู้จัดการร้านทิ่มแทงแผ่นอก
(เรื่องนั้นฉันเองก็รู้)
แม้ไม่มีเขาโลกก็ยังหมุนต่อ นี่ไม่ใช่การยอมแพ้ ไม่ใช่อคติ นับตั้งแต่ตอนอายุสิบขวบ วันที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้พ่อต้องตาย ความจริงนี้ก็ค่อยๆ ทับถมชีวิตของเขามากขึ้นทุกวันๆ

ฮิโระเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา แต่ในอีกมุมหนึ่งเขากลับทำอะไรผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง
เพื่อนๆ มักพูดกับเขาเสมอว่า ?ทำให้มันดีกว่านี้หน่อยสิ? ไม่รู้เป็นเพราะชื่อหรือเพราะความตรงไปตรงมากันแน่ เขาจึงถูกเรียกว่าฮีโร่คุงอยู่บ่อยๆ แต่ฮิโระคิดว่าเขาไม่ใช่ฮีโร่ เขาแค่จริงจังกับการใช้ชีวิตเท่านั้น
จังหวัดที่ฮิโระอาศัยอยู่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ซึ่งอุดมไปด้วยภูเขามากเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และฮิโระเติบโตบนพื้นที่ซึ่งอยู่ลึกที่สุดของเขตแดนภูเขานั้น
สิบปีก่อน พ่อของเขารับราชการอยู่ที่ว่าการจังหวัด เนื่องจากแม่จากโลกนี้ไปทันทีหลังฮิโระเกิด เขากับพ่อจึงย้ายบ้านจากในเมืองไปยังหมู่บ้านบนภูเขาลึกเพื่อขอพึ่งพาย่า พ่อต้องขับรถจากบ้านไปทำงานหนึ่งชั่วโมง อีกทั้งสมัยนั้นหน้าที่การงานของพ่อกำลังรุ่งโรจน์ พ่อจึงแทบไม่ได้กลับบ้าน ย่าเป็นผู้เลี้ยงดูฮิโระประหนึ่งพ่อแม่แท้ๆ
ในหมู่บ้านนั้นเงียบเหงา ไม่มีเด็กแม้แต่คนเดียว และในโรงเรียนประถมซึ่งต้องเดินข้ามเขาไปหนึ่งลูกมีนักเรียนทั้งหมดประมาณยี่สิบคนได้ เด็กทุกคนทุกระดับจึงชั้นสนิทสนมกันเป็นอย่างดี
เนื่องจากฮิโระเติบโตท่ามกลางสังคมชนบท ประกอบกับการเลี้ยงดูแบบสบายๆ ของย่า ฮิโระจึงเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ทว่าหากเจอเรื่องไม่สมเหตุสมผลละก็ ฮิโระจะโพล่งออกไปอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ทะเลาะกับเพื่อนอยู่บ่อยครั้ง
สมัยมัธยมต้นกับมัธยมปลาย ฮิโระต้องเดินทางข้ามหมู่บ้านเพื่อไปโรงเรียน ฮิโระเลยมีเรื่องชกต่อยบ่อยๆ เพราะโดนล้อว่าบ้านนอก หากมานึกย้อนดู ทั้งเรื่องในวัยเด็กและเรื่องที่มีปัญหากับ ?สารเลว? สุมิดะ ทั้งหมดเป็นเพราะฮิโระขาดความอดทนทั้งสิ้น
หลังเสียพ่อไปเมื่อสิบปีก่อน บ้านของเขาขาดคนทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ย่ากับฮิโระจึงไม่มีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
พอเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ฮิโระเริ่มทำงานพิเศษโดยไม่ศึกษาต่อ แต่งานที่อยู่ในระยะสามารถเดินทางกลับหมู่บ้านได้ทุกวันนั้นมีจำกัด ทั้งที่เขาตั้งใจว่าสักวันหนึ่งจะกลับไปเรียนต่อเพื่อเอาวุฒิและหางานดีๆ ทำ เขาอยากทำให้ย่าซึ่งเลี้ยงดูเขามาได้อยู่สุขสบาย แต่นี่อายุก็จะยี่สิบแล้ว ความฝันของเขายังไม่เป็นรูปเป็นร่างเสียที
จนถึงวันนี้ ฮิโระทำงานที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนั้นเป็นเวลาแปดเดือนแล้ว เขามุ่งมั่นกับการทำงานตั้งแต่วินาทีแรก ผ่านไปครึ่งปีก็ได้รับผิดชอบเรื่องการรับและการสั่งสินค้า และในช่วงเวลานั้นเองที่สุมิดะเข้ามาทำงานในฐานะพนักงานพาร์ตไทม์คนใหม่
ร้านนี้มีผู้จัดการเป็นลูกจ้าง ส่วนเจ้าของร้านเป็นอีกคน สุมิดะเป็นลูกชายเจ้าของร้านแท้ๆ แต่กลับขาดความรับผิดชอบในการทำงาน ไม่มีวันไหนที่ฮิโระไม่สั่งสอน ทว่าสุมิดะกลับเมินเฉย แถมยังต่อว่าฮิโระว่าน่ารำคาญ
ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา สุมิดะคงไปได้ยินมาว่าย่าของฮิโระเป็นเจ้าของที่ดินผืนหนึ่ง แผนการในสมองของสุมิดะคือ หากได้ที่ดินผืนนั้นเป็นของฝากติดไม้ติดมือไปให้พ่อละก็ พ่อต้องยอมให้เขาเข้าทำงานในบริษัทแน่ จากนั้นสุมิดะจึงพยายามข่มขู่ฮิโระ ?ขายที่ให้ฉันซะ? แต่ฮิโระกลับไม่เล่นด้วย
เมื่อสัปดาห์ก่อน ฮิโระบังเอิญเห็นว่าสุมิดะหยิบสินค้าในร้านออกไปโดยไม่ผ่านเครื่องแคชเชียร์ ทั้งนิตยสารเอย ขนมเอย แต่ละอย่างมีมูลค่าไม่มากก็จริง ทว่าหากนำมารวมกันก็เป็นจำนวนเงินไม่ใช่น้อย ครั้งหนึ่งฮิโระจับได้คาหนังคาเขาจึงกล่าวตักเตือนสุมิดะไป และแน่นอนว่าเขารายงานผู้จัดการร้านด้วย แต่ผู้จัดการกลับบอกว่า ?อย่าหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ฉันจะได้ไหม?
(แบบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ? สุมิดะเป็นลูกชายเจ้าของร้านก็จริง แต่ทำผิดก็คือทำผิด)
ขนาดเด็กประถมยังรู้เลย สุดท้ายเมื่อคืนนี้ ฮิโระจับได้คาหนังคาเขาอีกครั้ง ...จึงทะเลาะกับสุมิดะใหญ่โต ฮิโระตะโกนด่าอีกฝ่ายต่อหน้าลูกค้าว่า ?อายุตั้งยี่สิบสามแล้ว แต่ยังขโมยของในร้านพ่อตัวเองอีก ไม่อายบ้างหรือไง!? พอถูกหักหน้า สุมิดะก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
สุมิดะฟ้องผู้จัดการร้าน ผู้จัดการกลัวพ่อของสุมิดะซึ่งเป็นเจ้าของร้านรู้เรื่อง ด้วยความใจเสาะจึงชิงไล่ฮิโระออกจากงานก่อน ...และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย แค่ทำในสิ่งที่สมควร ฮิโระคิดอย่างเดือดดาล แต่ในขณะเดียวเขาก็รู้สึกถึงความเล็กจ้อยของตัวเองทุกครั้งเวลาเจอเรื่องไม่สมเหตุสมผลในโลกใบนี้ ถ้าฉันเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ละก็ ถ้าฉันมีพลังมากกว่านี้ละก็ ฮิโระครุ่นคิดแต่เรื่อง ?ถ้า...ละก็? ทั้งๆ ที่เป็นไปไม่ได้ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างหมดหวัง
(ต้องบอกย่าว่าถูกไล่ออกจากงาน...)
ฮิโระหยุดรอสัญญาณไฟจราจร จังหวะนั้นเองที่เขาพบว่าหิมะกำลังโปรยปรายลงมาจากอีกฟากของภูเขา หิมะแรกของปีนี้มาเร็วกว่าที่คิด กลุ่มเมฆลอยต่ำปกคลุมปลายสันเขา
...เมื่ออายุยี่สิบปี จู่ๆ คำคำนี้ก็ลอยเข้ามาในโสตประสาทของฮิโระ เขาเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันใด พร้อมกับความกังวลที่ผุดลอยออกมาด้วย
เขาถอดถุงมือออก ก่อนมองฝ่ามือข้างซ้ายของตัวเอง ปานรูปใบไม้เล็กๆ ฝังอยู่ตรงนั้น เมื่อสิบปีก่อนตอนฮิโระหลงทางอยู่ในภูเขาหิมะ เทพหมาป่าประทับตรานี้ไว้ให้เขา...
(...ไม่สิ มันเป็นแค่ความฝัน)
สัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว ฮิโระบิดคันเร่งรถจักรยานยนต์ ราวกับว่าต้องการสลัดความกังวลออกไปจากหัวใจ





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?เพื่อตอบแทนที่ข้าช่วยชีวิตเจ้า เมื่อเจ้าอายุยี่สิบปี ข้าจะมารับตัวเจ้าไป? ...หมาป่าเก้าหาง เทพผู้ปกครองภูเขากล่าวกับฮิโระในวัยสิบขวบขณะกำลังประสบภัยบนภูเขาหิมะ ฮิโระคิดมาตลอดว่านั่นคงเป็นแค่ความฝัน ทว่าสิบปีต่อมาอินุงามิกลับปรากฏกายขึ้นและใช้กำลังลักพาตัวฮิโระไป!! พลังเทพของอินุงามิอ่อนแอลง เขาจึงกินจิตวิญญาณของมนุษย์เพื่อรักษาพลังของตนเอาไว้ ?อย่าคิดว่าข้าให้เจ้ามาเป็นคู่ครองเพราะความเสน่หา? อินุงามิกล่าวก่อนใช้กำลังสวมกอดฮิโระ!? เวลากลางวัน เขาคือหมาป่าสีเงินแสนงดงาม เวลากลางคืน เขากลายร่างเป็นหนุ่มนักล่าผู้เย่อหยิ่ง และนี่คือตำนานความรักระหว่างเทพกับมนุษย์ ?

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”