New Release BLY แปล : รักเมื่อวันวาน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : รักเมื่อวันวาน

โพสต์ โดย Gals »

รักเมื่อวันวาน


ต้นซากุระเรียงรายเป็นแนวยาวทันทีที่ก้าวพ้นประตูโรงเรียน ขณะที่ก้าวเดินท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงมาอย่างไร้กฎเกณฑ์ จู่ๆ ภาพในสายตาก็พร่ามัวเป็นสีขาวไปครึ่งหนึ่ง ทาคาระ โชทาโร่จึงกะพริบตาปริบๆ
กลีบซากุระกลีบหนึ่งติดอยู่กับเส้นผมด้านหน้า เขาหยุดยืนเพื่อปัดมันออกไป ทัศนวิสัยพลันกลับมาปลอดโปร่ง คำว่า ?โช? ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวแรกในชื่อของทาคาระมาจาก ?โช? ในคำว่า ?ซุยโชไท? ซึ่งแปลว่าเลนส์แก้วตา เขาเติบโตมาโดยมีพ่อแม่พร่ำสอนมาตั้งแต่เยาว์วัยว่า จงให้ความสำคัญกับดวงตา มิฉะนั้นในอนาคตจะสั่งสอนคนไข้ไม่ได้
บ้านของทาคาระเป็นคลินิกจักษุเก่าแก่ที่ดำเนินการมาตั้งแต่รุ่นปู่ ปัจจุบันพ่อของเขาเป็นผู้สืบทอดหลังจากปู่สิ้นใจ ชื่อโชทาโร่ที่ล้าสมัยนี้ก็ตั้งโดยปู่นั่นเอง
?เฮ้ ทาคาระ?
เมื่อหันไปก็เห็นสุวะ นาโอมิขี่จักรยานอยู่อีกฟากหนึ่งของกลีบซากุระที่ปลิดปลิวราวหิมะ แม่ของทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทาคาระกับสุวะจึงถือเป็นญาติห่างๆ สุวะเร่งสปีดหลบหลีกบรรดานักเรียนที่กำลังกลับบ้านอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะเหยียบเบรกกะทันหันแล้วหยุดลงตรงหน้าทาคาระ
?ฉันยืมเกมมาใหม่ ขอไปบ้านนายได้รึเปล่า?
?ได้ แต่ฉันอยากแวะร้านหนังสือก่อน?
?ขึ้นมาซ้อนท้ายสิ?
?จะยอมปล่อยฉันลงหน้าสถานีใช่ไหม?
?รู้แล้วน่า?
พอขึ้นไปยืนเหยียบแท่นด้านหลัง จักรยานก็แล่นออกไปอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่พร่างพรมลงมาตรงหน้า นักเรียนหญิงที่กำลังกลับบ้านต่างเหลือบมองมายังพวกตน...หรือพูดให้ถูกต้องคือเหลือบมองสุวะต่างหาก ส่วนสูงเกือบร้อยแปดสิบเซ็นต์และใบหน้าหล่อเหลาตามสมัยนิยมทำให้สุวะเป็นคนเนื้อหอมทีเดียว
หากเทียบแค่ใบหน้าหรือส่วนสูงแล้วใช่ว่าทาคาระจะด้อยกว่า แต่เรือนผมสีดำปราศจากการย้อมและเครื่องแบบนักเรียนที่สวมถูกต้องตามระเบียบทำให้เจ้าตัวดูเชยเมื่ออยู่กับสุวะ ความต่างเล็กๆ น้อยๆ อย่างปกเสื้อที่เปิดกว้างไม่เท่ากันและความตึงของเสื้อนั้นก่อให้เกิดความแตกต่างได้อย่างมหาศาล นี่คือความโหดร้ายของเครื่องแบบนักเรียน
หลังจากซื้อนิตยสารที่ร้านหนังสือหน้าสถานี ทั้งสองก็กลับบ้านของทาคาระด้วยกัน คลินิกจักษุแพทย์ทาคาระตั้งอยู่หน้าสถานีซึ่งเป็นละแวกที่พัฒนาขึ้นอย่างกะทันหันจนคึกคักตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน ทาคาระลงจากจักรยานตรงหัวมุมหน้าคลินิก เดินเคียงไปกับสุวะที่เข็นจักรยาน ก่อนจะพบคนไข้ที่รอเข้าตรวจรอบเย็นหลายคนกำลังพูดคุยกันอยู่หน้าคลินิก เป็นภาพที่เห็นจนชินตา
?อ้าว โชจัง กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ?
?โตขึ้นเยอะเชียว ก่อนหน้านี้ยังขี่จักรยานสามล้ออยู่เลยแท้ๆ?
นั่นมันเรื่องสมัยไหนกัน ทาคาระปั้นยิ้มพลางโค้งทักทายเงียบๆ แล้วเดินผ่านมา รู้ดีว่าขืนพูดตอบไปแม้แต่คำเดียวจะโดนจับตัวเอาไว้ ยิ้มให้แล้วรีบผ่านมานี่แหละดีที่สุด
ทาคาระโดนคนไม่รู้จักทักทายอยู่บ่อยๆ มาตั้งแต่เด็ก ทุกคนล้วนเป็นคนไข้ของคลินิกจักษุแพทย์ทาคาระ พวกเขาเหล่านั้นรู้จักทาคาระแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่รู้จักก็ตาม แพทย์ตามคลินิกในท้องถิ่นนั้นต่างจากแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลตามเมืองใหญ่ตรงที่ทุกคนในครอบครัวต้องใช้ชีวิตโดยระมัดระวังเรื่องการวางตัวอยู่เสมอ
?เป็นลูกหมอก็ลำบากแฮะ ซ้อนท้ายจักรยานก็ไม่ได้?
?คนค้าขายในท้องถิ่นก็เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ แต่พอเป็นอาชีพเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลแล้ว ความไว้วางใจสำคัญเท่าชีวิต ทำอะไรสะเพร่าไม่ได้หรอก ต่อให้เป็นเรื่องเล็กน้อย ข่าวลือไม่ดีก็แพร่ไวเป็นไฟลามทุ่งอยู่ดี?
?ยุ่งยากชะมัด?
ทาคาระหัวเราะเมื่อโดนตัดบทห้วนๆ เมื่อพ้นจากถนนอันคึกคักหน้าสถานีแล้วก็เข้าสู่ย่านที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบทันที แม้จะอยู่ห่างจากสถานีเพียงห้านาที แต่เมื่อเข้ามาบริเวณด้านหลังนี้ก็จะพบบ้านเดี่ยวเก่าแก่พร้อมสวนอันกว้างขวางตั้งอยู่เรียงราย บ้านชั้นเดียวปูหลังคากระเบื้องหนา ห้อมล้อมด้วยกำแพงหินและดอกโดดันสึสึจิสีสันสดใสที่ตั้งอยู่โดดเด่นท่ามกลางบ้านเหล่านั้นคือบ้านของทาคาระ
?โชทาโร่ กลับมาแล้วเหรอ นาโอมิคุงก็ด้วย?
แม่ที่กำลังรดน้ำต้นไม้ในสวนหันมา สุวะตอบรับว่ากลับมาแล้วก่อนทาคาระเสียอีก
?นาโอมิคุงจะกินข้าวเย็นที่นี่ใช่ไหมจ๊ะ?
?อื้อ รบกวนอยู่เรื่อยเลย?
?คนกันเอง ไม่ต้องเกรงใจหรอก จะสามคนหรือสี่คนก็ใช้เวลาทำไม่ต่างกันอยู่แล้ว?
แม่ตอบด้วยรอยยิ้ม พ่อแม่ของสุวะคุยเรื่องหย่าร้างกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว บรรยากาศในบ้านจึงตึงเครียดจนสุวะไม่ยอมเข้าใกล้บ้านตัวเอง หลังจากตระเวนค้างบ้านเพื่อนอยู่พักใหญ่ พ่อแม่ของทาคาระก็ไหว้วานให้ทาคาระเข้าไปทักทาย
บอกตามตรงแล้ว ตอนแรกทาคาระก็สงสัยว่าจะได้ผลหรือ สมัยเด็กๆ ทั้งสองคนเคยเจอหน้ากันบ่อยๆ ตามงานศพก็จริง แต่เมื่อโตขึ้น ทาคาระที่เป็นคนจริงจังกับสุวะที่จัดจ้านกลับเหินห่างกันไป ถึงจะเข้าเรียนมัธยมปลายที่เดียวกันก็ใช่ว่าจะสนิทสนมกันเป็นพิเศษ แต่เมื่อลองเข้าไปทักทาย สุวะกลับเปิดใจรับทาคาระอย่างง่ายดายเกินคาด
?งั้นขอไปบ้านนายได้ไหม? ไม่ได้ไปมานานแล้ว?
ทาคาระโล่งใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดพลางยิ้มอย่างเป็นมิตร จากนั้นทั้งสองจึงกลับมาสนิทกันเหมือนเมื่อก่อน จนระยะนี้กลายเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดไปแล้ว
?คุณป้าครับ ข้าวเย็นวันนี้ทำอะไรเหรอ??
?ยังไม่ได้คิดเลย นาโอมิคุงอยากกินอะไรล่ะ??
?หมูผัดขิง ฝีมือคุณน้าอร่อยเป็นพิเศษ แค่ซอสอย่างเดียวก็กินกับข้าวเปล่าได้สบาย?
?จริงเหรอ? งั้นก็ตามนั้นดีไหมน้า?
หลังจากพูดเอาใจแม่ผู้ภาคภูมิใจในฝีมือทำอาหารแล้ว สุวะก็เดินตัดผ่านสวนไปยังเรือนแยกด้านในราวกับเป็นบ้านของตนเอง เรือนแยกนั้นเป็นอาคารสวยงามสไตล์ญี่ปุ่น ปู่ของทาคาระสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นห้องหนังสือ หลังจากปู่เสียไปเมื่อสองปีก่อน ทาคาระก็รับตกทอดมาอีกที
?เออใช่ เดี๋ยวมีมาอีกคนนะ?
สุวะเอ่ยหลังโยนกระเป๋าลงพื้น ทาคาระนิ่วหน้า
?อย่าเรียกมาเองโดยไม่ถามฉันสิ เคยบอกแล้วไม่ใช่รึไงว่าไม่อยากให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งซ่องสุม?
น้ำเสียงเด็ดขาดนั้นทำเอาร่างใหญ่ของสุวะเล็กลีบ ดูเผินๆ แล้วทาคาระเป็นคนเอาจริงเอาจัง ท่าทางว่าง่าย แต่เขาก็เป็นคนที่กล้าพูดความเห็นของตัวเองออกมาชัดเจน สุวะต่างหากที่เป็นฝ่ายชอบเข้ามาอ้อน
?โทษที แต่ฉันอยากให้เจอกับทาคาระน่ะ?
คำพูดนั้นทำให้ทาคาระสะดุดใจ พอถามว่าแฟนหรือ สุวะก็หัวเราะแหะๆ
?จะเดตก็ไปที่อื่นสิ?
?อย่าพูดจาเย็นชาเลยน่า พวกเรามันคนกันเองไม่ใช่รึไง?
?ฉันกับนายเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่แฟนนายไม่ใช่เพื่อนฉัน?
?งั้นวันนี้ก็เป็นเพื่อนกันซะสิ?
?อย่างไรก็เป็นเพื่อนกันได้ไม่นาน ไม่เอาหรอก?
ทาคาระบอกปัดอย่างง่ายดายพลางเปลี่ยนเสื้อผ้า คนเนื้อหอมอย่างสุวะมีแฟนไม่เคยขาด แถมแฟนที่ว่ายังเปลี่ยนหน้าทุกสามเดือนจนทาคาระชินชา
?ตั้งแต่เมื่อไร?
?รู้จักกันตอนทำงานพิเศษช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ แต่เพิ่งเริ่มต้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว?
?โรงเรียนเดียวกับพวกเรา??
?ใช่ แก่กว่าหนึ่งปี?
ปีสามงั้นรึ สุวะมักชอบคนหน้าตาดี อีกฝ่ายคงเป็นคนสวย รุ่นพี่อามาโนะที่พอปเพราะผมยาวสลวยถึงเอวหรือเปล่านะ หรือรุ่นพี่โยชิคาวะที่ผมสั้นและหุ่นดี หรือจะเป็นรุ่นพี่ฮาระที่อยู่ชมรมยิงธนู... เอ๊ะ? ทาคาระเอียงคอ งานพิเศษที่สุวะทำช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิคืองานขนวัสดุที่ไซต์งานก่อสร้างนี่นา มีผู้หญิงทำงานพิเศษพรรค์นั้นด้วยหรือ
ช่างเถอะ อย่างไรก็คงคบกันแค่สามเดือนอยู่ดี ทาคาระปล่อยผ่านไป ก่อนจะหยิบหนังสือเรียนกับสมุดโน้ตออกมาจากกระเป๋า ทาคาระตัดสินใจอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดมาตั้งแต่เยาว์วัยว่าในอนาคตจะเป็นหมอ สำหรับเขาแล้ว การทบทวนบทเรียนในแต่ละวันจึงเป็นเรื่องปกติเทียบเท่ากับการล้างมือเป็นอย่างแรกเมื่อกลับมาจากข้างนอก
?นี่ๆ เรื่องอีกฝ่ายน่ะ?
สุวะเข้ามาชวนคุย ปกติเขาจะไม่รบกวนการเรียนของทาคาระ แต่วันนี้กลับดื้อดึงบอกว่า ?ฟังกันหน่อยสิ? ทั้งที่เปลี่ยนแฟนจนไม่ใช่เรื่องแปลกเลยแท้ๆ แต่คราวนี้กลับดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ ทาคาระคิดพลางบอกปัดว่า ?ไว้ทีหลัง? แล้วกางสมุดโน้ตออก ในเวลาเรียนเขามักจดจ่ออยู่กับการฟังจนสมุดโน้ตมีแต่ตัวอักษรที่ราวกับไส้เดือนดิ้นพล่านเรียงราย ทาคาระลงมือถอดรหัสและบรรจงเขียนลงในสมุดอีกเล่ม สุวะบ่นว่าเย็นชาชะมัด ก่อนจะยอมแพ้และหันไปเล่นเกม
?...อ๊ะ มายะจัง??
เสียงของสุวะดังขึ้นดื้อๆ ทำลายสมาธิ เมื่อดูนาฬิกาก็พบว่าผ่านมาราวหนึ่งชั่วโมง ทาคาระบิดขี้เกียจก่อนหมุนเก้าอี้ สุวะหยุดหน้าจอเกมเอาไว้และกำลังคุยโทรศัพท์
?ใช่ เลยคลินิกจักษุทาคาระมาแล้วเลี้ยวขวาที่สี่แยกแรก จะเจอรั้วยาวๆ ใช่ ตรงนั้นแหละ?
ดูเหมือนว่าแฟนของสุวะจะอยู่แถวนี้แล้ว ถึงจะรบกวนกันแต่ก็ช่วยไม่ได้ แค่คราวนี้เท่านั้น ว่าแต่มีผู้หญิงปีสามที่ชื่อโดดเด่นอย่างมายะจังด้วยหรือ ระหว่างที่กำลังนึก เสียงมอเตอร์ไซค์ก็ดังแว่วมาจากทางสวน สุวะยืนขึ้น เปิดหน้าต่างเรือนแยก
?มายะจัง ทางนี้?
สุวะโบกมือพลางร้องเรียกเสียงดัง เสียงตอบรับดัง ?โอ้? ทำให้ทาคาระเอะใจหันมองหน้าต่าง เสียงนั้นฟังอย่างไรก็เป็นเสียงผู้ชาย หรือว่าที่จริงแล้วไม่ใช่แฟนแต่เป็นเพื่อนกันแน่นะ ขณะที่กำลังนึกสงสัย เสียงประตูเลื่อนก็ดังมา ตามด้วยเสียงพึมพำว่า รบกวนด้วยนะครับ เป็นผู้ชายอย่างที่คิด
?ไง?
รุ่นพี่มายามะ มินามิที่อยู่ชั้นปีสามปรากฏตัวพร้อมเอ่ยทักทายสั้นๆ เส้นผมด้านหน้ายาวบดบังดวงตา เรือนผมนั้นเป็นสีน้ำตาลพลิ้วไหว ทว่าปลายผมเสียจนเกือบเป็นสีขาว เขาเป็นรุ่นพี่ที่ดูท่าทางเกเรจนผิดแปลกและโดดเด่นในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเด็กจริงจัง
?หาที่นี่เจอง่ายไหม??
?อือ?
รุ่นพี่มายามะตอบคำถามของสุวะห้วนๆ ก่อนนั่งขัดสมาธิบนพื้นเสื่อญี่ปุ่นด้วยท่าทางวางโต เขาไม่ปรายตามองทาคาระแม้แต่ครั้งเดียวนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตานั้นถูกบดบังด้วยเรือนผมจนอ่านสีหน้าได้ยาก ทาคาระหยิบน้ำผลไม้ออกมาจากตู้เย็นขนาดเล็กสำหรับห้องส่วนตัว
?เอ่อ เชิญครับ?
พอยื่นให้ทั้งขวด อีกฝ่ายจึงเงยหน้าราวกับเพิ่งสังเกตเห็นทาคาระ ผมหน้าม้าเลื่อนไหลจนเผยให้เห็นดวงตาเยือกเย็น หางตาเฉียงขึ้นเล็กน้อย แววตาคมราวกับจะยิงทะลุนั้นทำให้ทาคาระประหม่า
?ขอบใจ?
ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม ใบหน้าของเขาค่อนไปทางสวยจนดึงดูดใจ ส่วนสูงพอๆ กับทาคาระและสุวะ แต่เพราะผอมบางจึงให้ความรู้สึกคมเฉียบกว่า
?ทั้งสองคนประหม่าอะไรกันน่ะ?
สุวะตบไหล่รุ่นพี่มายามะโดยไม่แยแสบรรยากาศกระอักกระอ่วน
?มายะจัง หมอนี่ชื่อทาคาระ เป็นเพื่อนสนิทฉันเอง ทาคาระ โชทาโร่ อยู่ปีสอง?
รุ่นพี่มายามะพยักหน้า เลื่อนสายตามองทาคาระ ทาคาระลนลานก้มศีรษะทักทายว่า ?ยินดีที่ได้รู้จักครับ? ทว่าคำตอบจากอีกฝ่ายกลับมีเพียงคำว่า ?อือ? คำเดียว ไม่ค่อยมีวี่แววว่าจะสนิทสนมกันได้เท่าไรนัก คิดจะแนะนำเพื่อนให้รู้จักก็หัดนึกถึงอีกฝ่ายซะบ้างสิ ทาคาระต่อว่าสุวะอยู่ในใจ
?ทีนี้นะ ทาคาระ ทางนี้คือของฉันเอง?
สุวะโอบไหล่รุ่นพี่มายามะเข้าหาตัว
?เอ๊ะ ของนาย? หมายความว่าไง??
ทาคาระกะพริบตา สุวะผุดยิ้มซึ่งยากจะอธิบายเป็นคำพูด
?หมายความว่าไงน่ะเหรอ ก็ของฉันไง?
ไม่เห็นเข้าใจสักนิด ทาคาระมองทั้งสองด้วยสีหน้าเหลอหลา
?หมายความว่าคบกันอยู่ไงเล่า?
สุวะปั้นยิ้มโอเวอร์ราวกับจะปิดบังความเขินอาย ส่วนรุ่นพี่มายามะที่ยังคงโดนสุวะโอบไหล่ก็ทำหน้านิ่งเฉยเหมือนเคยโดยไม่สบตากับทาคาระ
?...ผู้ชาย เนี่ยนะ??
คำพูดนั้นหลุดออกจากปากโดยไม่ทันคิดอะไร พริบตาต่อมา รุ่นพี่มายามะก็คลายขาที่ขัดสมาธิอยู่แล้วเตะเข้าใส่ทาคาระ แรงปะทะที่เกิดขึ้นกะทันหันนั้นทำเอาทาคาระตัวแข็งทื่อมากกว่าจะรู้สึกเจ็บ
?เป็นผู้ชายด้วยกันแล้วมันหนักหัวนายเรอะ?
อีกฝ่ายข่มขู่เสียงแผ่วต่ำ ใบหน้าถมึงทึงราวกับยักษ์
?เอาละคร้าบ พอๆ อย่าข่มขู่เพื่อนซี้ของแฟนตัวเองสิ?
สุวะโอบรุ่นพี่มายามะจากด้านหลัง ก่อนจะดึงเข้าหาตัว จับนั่งบนตักราวกับเป็นเด็กตัวเล็กๆ รุ่นพี่มายามะปล่อยให้สุวะทำเช่นนั้นทั้งที่หน้านิ่วคิ้วขมวด สายตายังคงจ้องเป๋งมายังทาคาระราวกับแมวป่าที่โดนจับได้
?มองอะไรของแก เป็นเกย์มันประหลาดขนาดนั้นเลยรึไง?
?มะ ไม่ได้มองครับ?
ทาคาระรีบหลบสายตา แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่า มองอยู่ชัดๆ แล้วเตะเข้าใส่อีกครั้ง รอบตัวทาคาระไม่มีคนจำพวกที่ลงไม้ลงมือพร้อมๆ กับปากพูด เขาจึงตามจังหวะของอีกฝ่ายไม่ทัน ขณะที่ได้แต่ป้องกันตัว สุวะก็ช่วยเข้ามาห้ามปรามว่า ?หยุดได้แล้ว? รุ่นพี่มายามะจึงยอมหดขากลับไปอย่างไม่เต็มใจนัก
?คือว่านะ พวกเราคบกันอยู่จริงๆ?
สุวะย้ำอีกครั้ง ทาคาระนึกขุ่นเคืองใจว่า เรื่องแบบนั้นหัดบอกกันก่อนซะบ้างสิ แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้ว ทาคาระเองต่างหากที่เป็นฝ่ายเมินตอนที่สุวะพยายามบอก
?ถึงจะรู้จักอยู่ก่อนแล้ว แต่เพิ่งเคยคุยกันครั้งแรกก็ตอนทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม?
สุวะเริ่มเล่าที่มาที่ไปโดยที่ยังกอดรุ่นพี่มายามะจากด้านหลัง ความที่เป็นนักเรียนมัธยมปลายเพียงสองคนท่ามกลางไซต์งานก่อสร้างที่มีแต่ตาลุง ทั้งสองจึงสนิทสนมกันโดยอัตโนมัติ จนกระทั่งวันหนึ่งขณะกลับจากทำงานพิเศษ รุ่นพี่มายามะก็เป็นฝ่ายสารภาพรัก... เมื่อเล่าถึงตรงนั้น ทาคาระก็รู้สึกสะดุดใจอย่างแรง
?รุ่นพี่มายามะเป็นฝ่ายสารภาพ??
พอถามออกไปโดยไม่ทันคิด เจ้าตัวก็ถลึงตาใส่ ทาคาระจึงหุบปากเงียบ เขาตกใจทั้งเรื่องที่รุ่นพี่มายามะเป็นเกย์ และเรื่องที่คนท่าทางน่ากลัวเช่นนี้เป็นฝ่ายสารภาพรักก่อนราวกับสาวน้อย ทาคาระรู้สึกทะแม่งๆ เหมือนกับกำลังโดนแกล้งจัดฉากหลอก
?มายะจังตอนนั้นน่ารักชะมัด หน้างี้แดงแจ๋?
สุวะซุกหน้าลงจุมพิตเรือนผมสีน้ำตาลของรุ่นพี่มายามะ แก้มของรุ่นพี่พลันแดงซ่าน สีแดงบนใบหน้าเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ในอ้อมกอดของสุวะ
...เอ๊ะ?
ท่าทีซึ่งแตกต่างจากท่าทีรุนแรงที่มีต่อตนเองนั้นดึงดูดสายตาของทาคาระ พอจ้องมองนิ่งๆ สายตาก็สบกับรุ่นพี่มายามะเข้า ซวยแล้วไง โดนเตะอีกแหงๆ ทว่าทาคาระยังไม่ทันได้เตรียมตัวรับมือ รุ่นพี่มายามะกลับเป็นฝ่ายหลบตาก่อน อีกฝ่ายก้มหน้างุดราวกับจะซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำ
?ตอนแรกฉันก็ผงะเหมือนกัน เพราะคิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นผู้ชาย...?
สุวะเล่าต่อด้วยท่าทางสนุกสนานโดยไม่ทันสังเกตว่าคนรักในอ้อมแขนกำลังทำตัวน่ารักแค่ไหน รุ่นพี่มายามะหน้าแดงก่ำจนถึงใบหู
?แต่มายะจังหน้าสวย พออยู่ท่ามกลางแสงไฟตอนกลางคืนแล้วทำเอาแทบเป็นลม พอเห็นว่าน่ารักดี ฉันก็เป็นฝ่ายจูบก่อนซะแล้ว...?
จู่ๆ รุ่นพี่มายามะก็ลุกพรวดพราด ทาคาระเผลอตั้งการ์ดเพราะนึกว่าอีกฝ่ายจะอาละวาด แต่รุ่นพี่มายามะกลับมองลงมาที่ทาคาระด้วยใบหน้าแดงก่ำพลางพึมพำว่า ?ห้องน้ำ?
?เอ๋??
?ห้องน้ำอยู่ไหน?
?อ๊ะ ออกจากห้องแล้วเปิดประตูทางขวา ครับ?
รุ่นพี่มายามะหมุนตัว ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้อง ทาคาระรับรู้ถึงวี่แววของอีกฝ่ายผ่านกำแพงพลางนึกสงสัยว่า เมื่อกี้นี้คงเขินสินะ? ฝ่ายสุวะก็เข้ามากระซิบกระซาบ
?ตกใจไหม??
?แหงอยู่แล้ว?
ทาคาระตอบด้วยเสียงกระซิบเช่นกัน
?นายคบกับเขาอยู่จริงๆ เหรอ? ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรือแกล้งอำสินะ??
สุวะกอดอก ครางอืมพลางแหงนหน้า
?เอาเป็นว่าก็ชอบพอๆ กับผู้หญิงที่เคยคบมาแหละมั้ง ตอนที่จูบกันฉันคิดว่า อ๊ะ แบบนี้ก็พอไหว เลยหลุดปากบอกไปว่ามาคบกันเถอะ ถึงจะคิดอยู่บ้างว่า แย่ล่ะสิ เผลอไปจนได้ แต่จะถอนคำพูดเอาป่านนี้ก็ไม่ได้ และถึงจะเห็นแบบนั้น มายะจังก็น่ารักสุดๆ เลยด้วย?
เรื่องนั้นก็พอเข้าใจอยู่หรอก แต่ท่าทางไม่จริงจังจนเหลือเชื่อนั้นทำเอาทาคาระพูดไม่ออก ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าสุวะเป็นคนไม่จริงจังกับความรัก แต่ก็ไม่นึกเลยว่าจะถึงขั้นนี้
?จะว่าไปแล้ว เรื่องจูบหรือเรื่องบนเตียงก็สำคัญใช่ไหมล่ะ ถ้าทำเรื่องพวกนั้นไม่ได้ ต่อให้เป็นสาวน่ารักแค่ไหนก็เป็นได้แค่เพื่อน เพราะงั้นถ้าเป็นคนที่ทำเรื่องพวกนั้นด้วยกันได้ ต่อให้เป็นผู้ชายก็ไม่เห็นเป็นไร ว่าไหม??
?ว่าไหม งั้นเหรอ...?
ทาคาระอยากแย้งว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แบบนั้นสักหน่อย แต่ก็พูดไม่ออก เพราะสิ่งที่สุวะพูดนั้นแทบจะเหมือนกับคำตอบที่ทาคาระเคยครุ่นคิดออกมาก่อนหน้านี้
บางทีตนอาจจะชอบผู้ชายมากกว่าผู้หญิงก็ได้
ทาคาระตระหนักเช่นนั้นตอนอยู่ชั้นมัธยมต้น เริ่มจากการที่รู้ตัวในชั้นเรียนว่ายน้ำ ว่าสายตาของตนมองพวกผู้ชายมากกว่าสาวๆ ในชุดว่ายน้ำเสียอีก เขาไม่ได้รังเกียจผู้หญิง ทว่าเพศที่ดึงดูดใจมากกว่าคือเพศเดียวกัน ต่อให้คิดว่าเด็กผู้หญิงน่ารักดี เขาก็ไม่เคยรู้สึกคิดไปถึงขั้นอยากจูบหรือทำอะไรมากกว่านั้น
กลับกันแล้ว เขาออกจะเผลอใจเต้นไปกับเพื่อนผู้ชายที่กางสมุดเรียนอยู่ข้างๆ มากกว่า ความรู้สึกที่คล้ายจะเป็นความผิดบาปในตอนนั้นทำให้ทาคาระว้าวุ่นใจอย่างหนัก เขาได้ลิ้มรสกระทั่งความโดดเดี่ยวดั่งโดนขับไล่ออกจากฝูง นับตั้งแต่นี้ไป เขาจำต้องใช้ชีวิตไม่ราบรื่นราวกับฟังวิทยุที่จูนคลื่นไม่ตรงอย่างนั้นหรือ พอคิดเช่นนั้น เขาก็รู้สึกหวาดกลัวจนหยุดความคิดเอาไว้เสมือนปิดฝาให้แน่นหนา
นับตั้งแต่นั้น ทาคาระก็เว้นช่องว่างจากสิ่งที่เรียกว่าความรักออกมาหนึ่งก้าว ความรักกลายเป็นสถานที่อยากลองไปในสักวันหนึ่ง ราวกับประเทศอันห่างไกลในแผ่นพับท่องเที่ยว แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ รอให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ก่อน มิฉะนั้น ?ตอนนี้? ที่ไม่สมหวังจะกลายเป็นเรื่องเจ็บปวด ทั้งที่เป็นอย่างนั้นแท้ๆ...
?ถึงจะเสียดายที่ไม่มีหน้าอก แต่เนื้อตัวก็นุ่มลื่นยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก รู้สึกดีสุดๆ?
?นุ่มลื่น??
ทาคาระหวั่นไหว สุวะยิ้มเผล่
?มายะจังบอกว่าฉันเป็นผู้ชายคนแรก?
หัวสมองของทาคาระขาวโพลน จังหวะนั้นเองที่ประตูห้องเปิดออกเสียงดังลั่น สุวะหยุดพูดทันทีก่อนจะกางสองแขนพร้อมบอกว่า กลับมาแล้วเหรอ รุ่นพี่มายามะลดสายตามองสุวะด้วยใบหน้าน่ากลัว
?เมื่อกี้คุยอะไรกัน?
?คุยเรื่องที่ฉันชอบมายะจังสุดๆ ไงล่ะ?
พวงแก้มของรุ่นพี่มายามะพลันแดงซ่านราวกับโดนฉาบด้วยแปรงอีกครั้ง เขาเตะสุวะ พึมพำว่า ?เจ้าบ้า? เหมือนจะกลบเกลื่อน สุวะหัวเราะร่าพลางยื่นมือบอกว่า ?เร็วสิ? รุ่นพี่มายามะจึงนั่งลงข้างๆ สุวะอย่างว่าง่ายแม้ใบหน้ายังคงขุ่นเคือง
?มายะจังน่ารักชะมัดเลย?
สุวะโอบไหล่รุ่นพี่มายามะก่อนซบหน้าลงถูไถเรือนผมสีน้ำตาล ท่าทางรักใคร่กันจนทาคาระที่มองอยู่แทบอายแทน แต่ที่จริงแล้วก็ไม่รู้ว่าสุวะเอาจริงขนาดไหน ที่ผ่านมาสุวะมักจะจูบแฟนไม่ว่าอยู่ที่โรงเรียน ในเมือง หรือที่ไหนก็ตาม แถมยังเอาแต่อวดใส่เพื่อนว่า ?น่ารักใช่ไหมล่ะ? ?สวยล่ะสิ? อยู่เรื่อย พวกผู้หญิงมักทำท่าเขินอายบอกให้หยุด แต่ก็เห็นได้ชัดว่าแอบดีใจ พอทำอย่างนั้นแล้วสุวะก็จะชมเปาะว่าน่ารักอีกนั่นแหละ
...แต่ผ่านไปสามเดือนก็โยนทิ้ง



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทั้งที่ผมให้ความสำคัญกับรุ่นพี่ได้มากกว่าแท้ๆ...
ทาคาระ หนุ่มมัธยมปลายปีสองตกหลุมรักมายามะผู้เป็นรุ่นพี่ปีสาม ทว่าอีกฝ่ายเป็นคนรักของเพื่อนสนิทคนสำคัญ แม้จะรักเพียงใดย่อมไม่มีวันสมหวัง... อีกทั้งช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันสามคนก็แสนสบายใจ โดยที่สมดุลอันแปลกประหลาดไม่เคยพังทลาย...!?
เพราะเป็นคนสำคัญ ทาคาระจึงปิดผนึกความในใจ สะกดกลั้นอารมณ์อันปั่นป่วนในวัยสิบเจ็ดเอาไว้ และการพบพานอีกครั้งในสิบปีให้หลังก็แปรเปลี่ยนชายหนุ่มผู้เหมาะกับชุดกาวน์ให้หวนกลับไปเป็นเด็กหนุ่มผู้รักมั่น... นี่คือเรื่องราวความรักอันเที่ยงแท้ที่ผลิบานอย่างสดสวยท่ามกลางกาลเวลา


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”