New Release ร้อยรัก : ทัณฑ์แค้นอาญาซาตาน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : ทัณฑ์แค้นอาญาซาตาน

โพสต์ โดย Gals »

ทัณฑ์แค้นอาญาซาตาน โดย ไอริส
บทที่ 1
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ของเจ้าสัวสารัช บนเนื้อที่นับสิบไร่ในค่ำคืนนี้คลาคล่ำไปด้วยบรรดามหาเศรษฐีจากทั่วทุกสารทิศของประเทศไทยที่ได้เดินทางมาร่วมงานวันเกิดครบรอบห้าสิบปีของเจ้าสัวสารัชผู้มั่งคั่ง และเป็นที่นับหน้าถือตาในวงการธุรกิจ
?สุขสันต์วันเกิดครับเจ้าสัว ขอให้อายุมั่นขวัญยืนครับ?
?มีความสุขมากๆ นะคะ เจ้าสัว?
?ขอให้สุขภาพแข็งแรง อยู่กับลูกกับหลานตลอดไปครับ?
บรรดาแขกเหรื่อที่ทยอยเข้ามาภายในบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้ ต่างก็เข้ามาร่วมอวยพรวันเกิดให้กับเจ้าสัวสารัช
?ขอบใจ...ขอบใจทุกๆ คนมาก เชิญทุกคนตามสบายเลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจกัน อยากดื่ม อยากรับประทานอะไร บอกผมได้เลยครับ?
เจ้าสัวสารัชฉีกยิ้มหน้าบานขณะเอ่ยขอบคุณบรรดาเพื่อนฝูง จากนั้นก็หันไปยื่นกล่องของขวัญให้กับภรรยาสาวแสนสวย พร้อมกับกระซิบเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน
?ดาริน...กล่องเล็กๆ พวกนี้น่าจะเป็นของมีค่า คุณเอาไปเก็บไว้ในเซฟก่อนนะ?
?ค่ะ เจ้าสัว?
ดาริน...เป็นภรรยาคนที่สองที่เจ้าสัวสารัชแต่งงานด้วยหลังจากภรรยาคนแรกได้เสียชีวิตลง ดารินที่ยังสาวและสวย อีกทั้งอายุอ่อนกว่าเจ้าสัวสารัชเกือบยี่สิบปีได้พยักหน้ารับคำ พลางรวบรวมของขวัญชิ้นใหญ่ๆ ไปวางไว้บนโต๊ะโชว์ ส่วนกล่องเล็กๆ ซึ่งผู้เป็นสามีคาดเดาว่าอาจจะเป็นของขวัญที่มีมูลค่าแพงก็แยกใส่กระเป๋าสะพายใบเล็ก ก่อนจะนำไปเก็บไว้ในห้องนอนตามคำสั่งของเจ้าสัว
ทว่า...ดารินไม่ทันได้เดินออกจากบริเวณที่ยืนต้อนรับแขกพร้อมกับเจ้าสัวสารัชก็ต้องตะลึงงันเมื่อเห็นเพื่อนรักของสามีได้เดินเข้ามาในบริเวณงานเลี้ยง ไม่ใช่แค่ชุดราตรีสีน้ำเงินหรูหรายี่ห้อดังของต่างประเทศเท่านั้นที่ทำให้แขกเหรื่อต้องตกตะลึง แต่มีสิ่งอื่นที่สะกดสายตา ทำให้ดารินและทุกคนต้องเบิกตาโตจ้องมองเป็นตาเดียวกันนั่นก็คือ ชุดเครื่องเพชรมูลค่าหลายล้านที่แม่เลี้ยงรุจิราได้สวมใส่มาร่วมงานวันเกิดของเจ้าสัวสารัชในค่ำคืนนี้
?สุขสันต์วันเกิดค่ะ เจ้าสัว?
แม่เลี้ยงรุจิรา มหาเศรษฐีนีแห่งจังหวัดเชียงใหม่เอ่ยอวยพรเสียงหวานพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญขนาดใหญ่ให้กับเจ้าสัวสารัชผู้เป็นเพื่อนรัก
?ขอบคุณมากครับ แม่เลี้ยง? เจ้าสัวสารัชรีบยื่นมือไปรับกล่องของขวัญจากแม่เลี้ยงรุจิรามาถือไว้ ก่อนจะยื่นให้กับภรรยาสาวต่อ
?ขอให้อายุยืนหมื่นๆ ปีค่ะ? แม่เลี้ยงรุจิราอวยพรต่อกลั้วเสียงหัวเราะร่วน ทำเอาผู้เป็นเจ้าของวันเกิดอดหัวเราะออกมาไม่ได้เช่นเดียวกัน
?อย่าให้ถึงหมื่นปีเลยครับแม่เลี้ยง ขออายุยืนสักร้อยปีก็พอแล้วครับ?
เจ้าสัวสารัชหัวเราะเสียงดัง บ่งบอกถึงความสุขใจ ก่อนจะสวมกอดแม่เลี้ยงรุจิราไว้แน่น
?ขอบคุณแม่เลี้ยงที่สละเวลามาร่วมงานวันเกิดของผมครับ?
?แหม...จะไม่มาได้ยังไงล่ะคะ เจ้าสัวอุตส่าห์จองตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจให้ทั้งขาไปและขากลับ แถมยังให้เกียรติให้ดิฉันเป็นแขกคนพิเศษพักในบ้านของเจ้าสัวด้วย ขืนไม่มาก็เสียน้ำใจแย่สิคะ?
แม่เลี้ยงรุจิราสัพยอกยิ้มๆ เจ้าสัวสารัชให้เกียรติมากถึงเพียงนี้ ของที่นำมาให้เป็นของกำนัลในวันเกิดจึงมีราคาค่างวดมากพอสมควร
?ผมไม่อยากให้แม่เลี้ยงไปพักในโรงแรมเพียงลำพัง เลยคิดว่าพักที่บ้านของผมจะดีกว่า เพราะบ้านของผมก็หรูหราไม่แพ้โรงแรมห้าดาว?
เจ้าสัวสารัชให้เหตุผลที่ฟังดูดียิ่งนัก
?อันนี้ดิฉันเห็นด้วยค่ะ ใครๆ ก็รู้ว่าบ้านของเจ้าสัวสวยและหรูหราที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้?
แม่เลี้ยงรุจิราเอ่ยตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง แน่นอนว่าการเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่มายังกรุงเทพฯ เพื่อร่วมฉลองงานวันเกิดของเจ้าสัวสารัชในวันนี้ เจ้าสัวได้จองตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจให้กับเธอ แถมยังให้พักในคฤหาสน์หลังหรูซึ่งไม่เคยอนุญาตให้เพื่อนคนไหนมานอนพักอาศัยแม้แต่คนเดียว ในเมื่อเพื่อนรักให้เกียรติมากถึงเพียงนี้ จะไม่มาอวยพรวันเกิดก็คงไม่ได้แล้ว
?เชิญแม่เลี้ยงทางนี้ดีกว่าครับ เพื่อนๆ ร่วมรุ่นมากันเกือบครบแล้ว พวกเขากำลังรอแม่เลี้ยงอยู่ครับ?
เจ้าสัวสารัชผายมือเชื้อเชิญ และแม่เลี้ยงรุจิราก็พยักหน้ารับ ก้าวเดินตามแรงประคองของเจ้าสัว
?ค่ะเจ้าสัว ดิฉันก็อยากเจอเพื่อนๆ เหมือนกันค่ะ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ไม่รู้ว่าแต่ละคนสบายดีไหม?
?ถ้าอย่างนั้นเชิญเลยครับ?
ขณะประคองให้แม่เลี้ยงรุจิราเดินไปหาบรรดาเพื่อนๆ เจ้าสัวสารัชก็ไม่ลืมหันมามองภรรยาสาว พร้อมกับทำปากขมุบขมิบส่งสัญญาณให้เอากล่องของขวัญบางกล่องไปเก็บไว้ในตู้เซฟ รวมทั้งกล่องของขวัญที่ได้รับจากแม่เลี้ยงรุจิราด้วย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเจ้าสัวสารัชเต็มไปด้วยความครึกครื้น มีวงดนตรีออร์เคสตราชุดใหญ่เพื่อให้สมกับฐานะของเจ้าภาพ มาบรรเลงขับกล่อมภายในงานเลี้ยง และด้วยแขกเหรื่อที่เชิญมาร่วมงานเกือบสามร้อยคน ทำให้เด็กเสิร์ฟจากโรงแรมต่างก็ทำงานมือเป็นระวิงและเสิร์ฟไม่ทัน กระทั่งต้องเกณฑ์คนรับใช้ในบ้านมาช่วยเสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารด้วย
?ฮาคิม...มาเล่นด้วยกันไหม นาราเบื่อจังเลย ไม่มีใครเล่นกับนาราสักคน?
คุณหนูนารากรในวัยสิบขวบเดินไปกระตุกแขนเสื้อเพื่อนเล่นของเธอ และด้วยอีกฝ่ายตัวค่อนข้างสูงใหญ่ตามแบบฉบับของลูกครึ่ง ทำให้หนูน้อยต้องเงยหน้าขึ้นมองตลอดเวลาที่เอ่ยขอร้องเขา
?ฮาคิม ฟาซิสส์? เด็กหนุ่มลูกครึ่งตุรกี-ไทยในวัยสิบหกปี หลุบสายตามองเพื่อนเล่นต่างวัยก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ เพื่อเป็นการปฏิเสธ
?ไม่ได้หรอกครับคุณหนูนารา ผมไปเล่นกับคุณหนูในตอนนี้ไม่ได้ ผมต้องไปช่วยพี่ๆ เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มให้กับแขกในงานเลี้ยงครับ?
?ฮาคิมก็ให้คนอื่นเสิร์ฟสิ แล้วฮาคิมไปเล่นกับนารา?
หนูน้อยนารากรเอ่ยต่อรอง ตีหน้าหงิกหน้างอไม่พอใจเมื่อฮาคิมไม่ตามใจเธอ และไม่ไปเล่นด้วยกันเหมือนที่ผ่านๆ มา
ฮาคิมมองคุณหนูนารากรอย่างอ่อนใจขณะส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยบอกถึงเหตุผลที่ตนเองไม่สามารถไปเล่นกับเธอได้
?ตอนนี้ผมไปเล่นกับคุณหนูนาราไม่ได้จริงๆ ครับ แขกของเจ้าสัวมีเป็นร้อย และกำลังเดินทางมาเรื่อยๆ พนักงานเสิร์ฟมีแค่ไม่กี่สิบคน ผมต้องมาช่วยเสิร์ฟเครื่องดื่ม ไม่เช่นนั้นจะถูกเจ้าสัวด่าเอาได้?
หนูน้อยนารากรหันไปมองบรรยากาศภายในงานเลี้ยงฉลองวันเกิด ซึ่งสิ่งที่ฮาคิมพูดมานั้นไม่ผิด มีแขกมาร่วมอวยพรวันเกิดของบิดาเธอค่อนข้างมากจนพนักงานเสิร์ฟทำงานไม่ได้หยุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหนูน้อยก็ยังอยากให้ฮาคิมมาเล่นกับเธออยู่ดี
?ทำไมไม่จ้างคนมาเยอะๆ ฮาคิมจะได้ไม่ต้องออกมาเสิร์ฟเครื่องดื่ม และไปเล่นกับนาราแทน?
ฮาคิมลอบถอนหายใจยาวกับเสียงบ่นอุบของคุณหนูตัวเล็ก มือข้างหนึ่งผละจากถาดเงินที่กำลังถืออยู่ ก่อนจะแกะมือเล็กของหนูน้อยนารากรให้พ้นจากต้นแขนของตน
?ผมต้องไปเสิร์ฟเครื่องดื่มแล้วนะครับ ถ้าช้ากว่านี้จะถูกคุณดารินด่าได้?
ใบหน้าของหนูน้อยนารากรถอดสีเล็กน้อยกับคำพูดของฮาคิม มือเล็กทิ้งลงข้างลำตัว ก้มหน้าลงด้วยความเสียใจที่อีกฝ่ายไปเล่นกับเธอไม่ได้
?นาราเหงา ไม่มีใครอยู่เล่นกับนาราสักคน แต่ฮาคิมไปทำงานต่อเถอะ นาราขึ้นไปดูการ์ตูนในห้องนอนคนเดียวก็ได้?
น้ำเสียงตัดพ้อของหนูน้อยนารากรทำให้ฮาคิมที่ก้าวเดินไปข้างหน้าได้สองสามก้าวแล้วต้องหยุดชะงักอยู่กับที่ พอหันมาเห็นสีหน้าอันเศร้าสลด ตาแดงๆ เหมือนเจ้าตัวกำลังจะร้องไห้ก็ต้องถอนหายใจลึก ก่อนจะเดินย้อนกลับมาหาหนูน้อยพร้อมกับเอ่ยบอกว่า
?ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเสิร์ฟเครื่องดื่มรอบนี้เสร็จแล้ว ผมจะมาเล่นกับคุณหนูนารานะครับ?
คำพูดของฮาคิมช่วยให้หนูน้อยนารากรคลี่ยิ้มออกมาได้ ร่างเล็กถลาเข้าไปใกล้ พลางเอื้อมมือไปจับต้นแขนของฮาคิมแล้วเขย่าด้วยความดีใจขณะเอ่ยย้ำ
?จริงหรือฮาคิม จะมาเล่นกับนาราจริงๆ ใช่ไหม?
ฮาคิมพยักหน้ารับ
?ครับ คุณหนูรอผมอยู่แถวๆ นี้ก็แล้วกันครับ?
?ค่ะ นาราจะรอฮาคิมนะ?
คุณหนูนารากรรีบรับคำรัวเร็วเพราะกลัวว่าฮาคิมจะเปลี่ยนใจไม่มาเล่นกับเธอดั่งที่อีกฝ่ายได้รับปากไว้
ฮาคิมพยักหน้ารับอีกครั้งพร้อมกับอมยิ้มให้กับคุณหนูนารากรด้วย และขณะหมุนตัวเดินออกจากบริเวณดังกล่าวเพื่อไปทำหน้าที่ของเด็กเสิร์ฟ เด็กหนุ่มก็ลอบถอนหายใจยาวเมื่อความจริงปรากฏอยู่แก่ใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดวงตากลมโตที่จ้องมองเขาด้วยแววตาชื่นชม หรือเพราะรอยยิ้มหวานๆ ของหนูน้อยที่ขยันยิ้มให้ ที่มันทำให้เขาไม่เคยปฏิเสธความต้องการของคุณหนูนารากรได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
หนูน้อยนารากรทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้เพื่อรอเวลาที่ฮาคิมทำงานเสร็จและมาเล่นกับเธอตามสัญญา แต่นั่งรอได้ไม่ถึงสิบนาทีก็ต้องสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจกับน้ำเสียงเค้นเรียกจากผู้เป็นแม่เลี้ยง
?นารา! มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้!?
ดาริน ภรรยาของเจ้าสัวสารัช และเป็นแม่เลี้ยงของนารากรไม่ได้เค้นถามปากเปล่าเท่านั้น เธอเข้าไปคว้าต้นแขนของหนูน้อยแล้วดึงให้ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ด้วย
หนูน้อยนารากรนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเพราะถูกบีบต้นแขนเต็มแรง ร่างเล็กถลาตามแรงกระชากของแม่เลี้ยง สีหน้าและแววตาเผยความหวาดกลัวให้เห็นขณะเอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกัก
?เอ่อ...นารา...รอ...รอฮาคิมค่ะ คุณแม่?
?รอมันทำไม?
ดารินกระชากถามเสียงดัง เมื่อไม่มีใครอยู่ได้ยินและเห็นการกระทำของเธอที่ปฏิบัติต่อลูกเลี้ยง ก็ไม่จำต้องเล่นละครตบตาเพื่อแสร้งทำเป็นรักและเอ็นดูนารากร เพราะในความเป็นจริงแล้ว เธอเกลียดลูกเลี้ยงคนนี้เข้ากระดูกดำ ยิ่งเธอไม่สามารถมีลูกเป็นของตัวเองได้ก็ยิ่งเกลียดลูกติดของสามีมากเท่านั้น
?ฮาคิม...จะมาเล่นกับ...นาราค่ะ?
น้ำเสียงที่เอ่ยตอบยังคงแฝงไปด้วยความหวาดกลัว ขณะเดียวกันก็พยายามบิดต้นแขนให้พ้นจากอุ้งมือของแม่เลี้ยงดาริน ซึ่งจิกเล็บลงบนต้นแขนของเธอจนเจ็บระบมไปหมด
?ไม่ต้องรอมัน ไอ้ฮาคิมมันต้องไปช่วยคนอื่นเสิร์ฟเครื่องดื่ม เสิร์ฟอาหารให้กับแขกจนกว่างานเลี้ยงจะเลิก จากนั้นมันต้องเก็บโต๊ะ ทำความสะอาดรอบๆ บ้านด้วย มันไม่มีเวลามาเล่นกับใครทั้งนั้น และถ้าขืนมันอู้งานเพื่อมาเล่นไร้สาระกับแก มันจะโดนฟาดหลังลาย!?
เอ่ยถึงบทลงโทษให้นารากรต้องหน้าซีดเผือดด้วยความเป็นห่วงเพื่อนแล้วก็เค้นเสียงไล่ลูกเลี้ยง โดยไม่ลืมขู่ให้หนูน้อยต้องหวาดกลัวด้วย
?กลับขึ้นไปบนห้องได้แล้ว อย่าลงมาเดินจุ้นจ้านให้ฉันเห็นอีก รออยู่ในห้องจนกว่าป้าแก้วจะขึ้นไปตามให้มาเป่าเค้กกับคุณพ่อ ถ้าไม่เชื่อฟัง รู้ใช่ไหมว่าจะเจออะไร?
?ค่ะ...ค่ะคุณแม่?
หนูน้อยนารากรพยักหน้ารับคำรัวเร็ว ไม่คิดขัดคำสั่งแม้แต่นิดเดียว หวาดกลัวกับคำขู่จนลนลาน ร่างเล็กสั่นเทาไปหมด
?ไปได้แล้ว?
ไม่ได้ออกคำสั่งปากเปล่าเท่านั้น แต่ดารินได้ตบเต็มแรงลงบนแผ่นหลังของหนูน้อยนารากร จนร่างเล็กหัวคะมำไปข้างหน้าเกือบล้มลง
หนูน้อยนารากรรีบวิ่งกลับเข้าไปภายในคฤหาสน์ ตรงไปยังห้องนอนของตนเองโดยไม่คิดชีวิต พอเข้ามาในห้องนอนได้แล้วก็นั่งตัวสั่นเทาไม่ต่างจากลูกนกตกน้ำอยู่บนเตียงนอน มือเล็กทั้งสองกอดร่างของตัวเองไว้ ใบหน้าของหนูน้อยซีดเผือดไร้สีเลือด นับได้ว่าวันนี้โชคดีนักหนาที่ไม่ถูกแม่เลี้ยงทำร้ายเหมือนที่ผ่านๆ มา
เมื่ออยู่ตามลำพัง และความหวาดกลัวที่มีต่อแม่เลี้ยงเริ่มลดลงแล้ว หนูน้อยนารากรก็เดินไปที่หน้าต่าง ค่อยๆ แง้มผ้าม่านออกเพื่อมองไปยังบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันเกิดของบิดา และก็ได้เห็นฮาคิมทำหน้าที่เป็นเด็กเสิร์ฟ เดินเสิร์ฟเครื่องดื่มทั่วงานเลี้ยงไม่มีหยุดแม้นาทีเดียว
?ฮาคิม นาราขอโทษที่ไม่ได้อยู่รอนะ?
หนูน้อยนารากรพึมพำด้วยความเสียใจ ก่อนจะเดินลากเท้ากลับมายังเตียงนอน พอทิ้งตัวลงบนเตียงได้แล้วก็ยกมือปิดใบหูทั้งสองข้างเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงดนตรีอันครึกครื้น ทุกคนเต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน แต่เธอกลับต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัวกับคำคาดโทษจากผู้เป็นแม่เลี้ยง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทางด้านของฮาคิม เมื่อเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับบรรดาแขกเหรื่อได้หยิบเครื่องดื่มหลากหลายชนิดบนถาดเงินจนหมดแล้ว ก็รีบเดินกลับมายังจุดนัดพบที่ได้นัดกับคุณหนูนารากรไว้ แต่เมื่อเดินมาถึงบริเวณดังกล่าวก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งเพราะไม่เห็นนารากรแล้ว
?อ้าว...คุณหนูนาราหายไปไหนแล้ว? ฮาคิมพึมพำกับตนเอง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงกับเสียงที่เค้นดังมาจากข้างหลังของตน
?ไอ้ฮาคิม เมื่อไรจะไปเสิร์ฟเครื่องดื่ม ไม่เห็นหรือยังไงว่าแขกรอเครื่องดื่มอยู่ ถ้าฉันได้ยินแขกบ่นว่าแกบริการไม่ดี ไม่ได้รับเครื่องดื่ม พรุ่งนี้แกกับแม่ของแกโดนหนักแน่?
ดารินชี้นิ้วด่าและคาดโทษขี้ข้าอย่างฮาคิม เพราะรู้ว่าฮาคิมจะมาเล่นกับนารากร เธอจึงดักรอเพื่อเล่นงานคนรับใช้คนนี้
?ครับๆ ผมจะไปเสิร์ฟเครื่องดื่มเดี๋ยวนี้ครับ?
ฮาคิมรับคำและรีบทำตามคำสั่งในทันที ทั้งนี้เพราะเขาไม่ต้องการให้มารดาถูกทำโทษ
แน่นอนว่าหากมีการลงโทษเกิดขึ้น มารดาของเขาจะถูกดารินทำร้ายด้วยการตบตี และหักเงินเดือนที่ได้รับอันน้อยนิดด้วย ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น
ฮาคิมเดินกลับไปยังบริเวณที่จัดเตรียมเครื่องดื่ม พลางลอบถอนหายใจยาวขณะมองคนรับใช้คนอื่นๆ รวมทั้งมารดาของเขาด้วย ซึ่งทุกคนทำงานมือเป็นระวิงแทบไม่ได้หยุดพัก
แขกเหรื่อที่เดินทางมาร่วมงานเลี้ยงของเจ้าสัวสารัชมีมากนับร้อย แต่คนรับใช้กลับมีแค่เพียงหยิบมือ ทำให้พวกเขาต้องทำงานไม่มีหยุด ไม่มีเวลาพัก ไม่มีแม้กระทั่งเวลาที่จะดื่มน้ำด้วยซ้ำไป
?ฮาคิม เครื่องดื่มได้แล้วลูก เอาไปเสิร์ฟได้เลย?
พรวลัยเรียกลูกชาย หลังจากรินบรั่นดีใส่แก้วทรงสวยวางบนถาดเงินเรียบร้อยแล้ว พอเอ่ยบอกลูกชายไปแล้วก็รีบรินบรั่นดีใส่แก้วใบอื่นต่อ แขกเหรื่อมีมากซะเหลือเกินจนนางทำงานแทบไม่ทัน
?ครับ คุณแม่?
ฮาคิมรับถาดเงินมาจากมารดา รีบเร่งเดินเข้าไปในบริเวณงานเลี้ยงอีกครั้ง และขณะทำหน้าที่เด็กเสิร์ฟคอยบริการเครื่องดื่มให้กับแขกเหรื่อก็ไม่ลืมนึกถึงคุณหนูนารากรด้วย
?ขอร้องให้เรามาเล่นด้วยแท้ๆ แต่กลับไม่รอเรา คุณหนูนะคุณหนู?
ขณะบ่นถึงคุณหนูนารากร ฮาคิมก็ไม่ลืมกวาดตามองหาเจ้าของดวงตากลมโตทั่วบริเวณงานเลี้ยง เพราะคิดว่านารากรอาจจะมาเล่นซนอยู่ภายในงานเลี้ยงระหว่างรอเขาก็ได้ แต่จนแล้วจนรอด กระทั่งงานเลี้ยงเลิกราก็ไม่พบแม้แต่เงาของคุณหนู
แม้งานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าสัวสารัชจะเลิกราไปแล้ว ทว่า...งานของคนรับใช้ภายในคฤหาสน์หลังนี้ยังไม่จบสิ้น ทุกคนต้องเก็บกวาดทำความสะอาดทั่วบริเวณงานเลี้ยง และกว่าจะเสร็จสิ้นก็ปาไปรุ่งสาง ทำเอาคนรับใช้ถึงกับหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันเลยทีเดียว
?คุณแม่หิวไหมครับ เดี๋ยวฮาคิมทำข้าวต้มให้คุณแม่กินนะครับ?
ฮาคิมเอ่ยถามขณะประคองมารดาเดินกลับมายังห้องพักเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์ เขาและมารดาพักด้วยกันในห้องที่มีพื้นที่กว้างแค่พอวางเตียงนอนกับตู้เสื้อผ้าเก่าๆ เท่านั้น
พรวลัยส่ายหน้าปฏิเสธขณะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงเล็กที่สามารถนอนได้แค่เพียงคนเดียว
?แม่ไม่หิวเลยฮาคิม แม่เหนื่อยจนไม่มีแรงจะกินอะไรแล้วนอกจากนอนพักเท่านั้น?
แน่นอนว่าการเตรียมงานเลี้ยงวันเกิดตั้งแต่เช้าตรู่ และคอยดูแลบริการแขกเหรื่อ รวมทั้งเก็บกวาดทำความสะอาดจนสิ้นในยามนี้ ทำเอามารดาของฮาคิมถึงกับหมดแรงเลยทีเดียว
?ถ้าอย่างนั้นคุณแม่นอนนะครับ?
?จ้ะ ฮาคิมก็รีบนอนนะ ลูกก็เหนื่อยไม่แพ้กัน?
?ครับ เดี๋ยวคุณแม่นอนแล้ว ผมก็จะนอนเหมือนกันครับ?
พรวลัยพยักหน้ารับ พลางล้มตัวลงตามการประคองของลูกชาย เหน็ดเหนื่อยจนไม่มีแรงหยิบผ้าห่มมาคลุมกาย พอหัวถึงหมอนก็หลับในทันทีทันใด
ฮาคิมห่มผ้าให้มารดา ก่อนจะปูผ้าห่มผืนเล็กอีกผืนลงบนพื้นกระเบื้องข้างเตียงนอน แม้พื้นกระเบื้องจะแข็งกระด้างมากเพียงใด แม้ความเย็นเฉียบจากพื้นจะแล่นมาปะทะกายให้สั่นสะท้าน แต่ก็ไม่อาจต้านทานความอ่อนล้าที่เกาะกุมอยู่ทั่วตัวของฮาคิมได้ พอล้มตัวลงนอน เด็กหนุ่มก็ผล็อยหลับแทบจะทันทีเหมือนกัน และหลับลึกโดยไม่รู้ว่ากำลังมีภัยมาถึงตัวในอีกไม่ช้านี้






++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การไม่ยอมพูดความจริงของคุณหนูนารากร ในวัยสิบขวบตอนนั้นส่งผลให้ฮาคิม เด็กหนุ่มลูกครึ่งตุรกีถูกเจ้าสัวและแม่เลี้ยงของเธอใส่ร้ายว่าเป็นคนขโมยสร้อยเพชรจนต้องไปติดอยู่ในสถานพินิจ กระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากผู้เป็นบิดาชาวตุรกี และออกมาพบว่ามารดาได้ตายจากเขาไปแล้วโดยไม่ทันล่ำลา ความแค้นฝังในหัวอกเด็กหนุ่มจนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านไป จากลูกคนรับใช้ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีเมื่อรับช่วงกิจการต่อจากบิดา ทัณฑ์แค้นที่รอลงอาญาจึงค่อยๆ ถูกปลดปล่อยใส่ร่างบอบบางโดยที่หญิงสาวไม่มีหนทางต่อต้านนอกจากน้อมรับไฟแค้นแสนพิศวาสนั้น

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”