New Release ร้อยรัก : แรงรักสัมผัสร้อน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : แรงรักสัมผัสร้อน

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1
สวมรอยรัก


ณ หุบเขาเล็กๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี ท่ามกลางผืนป่าพนาไพร ที่ตั้งของรีสอร์ตแสนงามที่ชื่อวารินทร์ เรือนไม้ใหญ่โตโอ่อ่าสองหลังถูกปลูกขึ้นเคียงกันตรงข้ามม่านน้ำตกผืนใหญ่ มีบ้านพักหลังเล็กหลังน้อยผุดขึ้นเรียงราย งดงามตามธรรมชาติ แต่สะดวกสบายและทันสมัย ในอดีตนั้นพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองพลอยล้ำค่ามีราคา กระทั่งวันเวลาทำให้เจ้าของต้องปรับสภาพไปตามกระแส เหมืองวารินทร์ในอดีตจึงกลายเป็นรีสอร์ตวารินทร์ในปัจจุบัน
เวลานี้ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าแล้ว แต่หญิงสาวบ้านป่านามว่า ?อิงคา อินทนิล? ยังยืนอยู่ใต้ถุนเรือนไม้หลังเล็ก ซึ่งเป็นเรือนของลูกชายนายเหมืองใหญ่ ผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ตวารินทร์ อันที่จริงเวลานี้ก็มืดค่ำ ทั้งฝนยังตก เธอควรได้รับค่าของป่าที่นำมาขาย ทว่าแม้เฝ้ารอตั้งแต่ฝนเพิ่งลงเม็ด กระทั่งกำลังกระหน่ำเท เงินค่าของป่าก็ยังไม่มาอยู่ในมือเสียที
?พี่คนนั้นหายไปไหนนะ ไหนบอกว่าเอาของไปเก็บแล้วจะรีบมาจ่ายเงิน ลืมหรือเปล่า?
อิงคาเอ่ยอย่างไม่สบายใจ ยิ่งฝนตกแรงเท่าไร มืดค่ำเข้ามาเพียงไร ใจก็ยิ่งเป็นกังวล เธอควรกลับถึงบ้านป่าหลังเขาตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดินถึงจะถูก
บ้านของเธออยู่ห่างจากที่นี่ไกลโข บ่อยครั้งที่เธอนั่งซ้อนท้ายรถเครื่องสองล้อของตาเข้ามาขายของป่าให้คนที่นี่ บางทีเจอเข้ากับนายหญิงเจ้าของรีสอร์ตผู้ใจดี ของป่าของเธอก็จะถูกเหมาจนเกลี้ยง ไม่ต้องหอบไปขายในเมืองให้เสียเวลา แต่วันนี้เธอไม่โชคดีอย่างนั้น สาวใช้คนหนึ่งของเรือนเล็กเป็นคนซื้อของไป และเจ้าหล่อนหายไปไหนก็ไม่รู้
?เฮ้อ...สงสัยจะรอไม่ได้แล้ว ฝนตกอย่างนี้เราก็อยากกลับบ้านเหมือนกันนะ? ว่าแล้ววางตะกร้าหวายใบใหญ่ลงข้างเสา ก่อนจะก้าวขึ้นเรือน อากาศชื้นๆ ชวนให้เส้นขนในกายลุกซู่ชูชัน เธอไม่พบเจอสาวใช้สักคนในสายตา ฝนตกอย่างนี้ทุกคนคงพอใจอยู่แต่ในห้องของตนกระมัง ?มีใครอยู่ไหมจ๊ะ มีใครอยู่บ้างไหมเอ่ย?
อิงคาส่งสัญญาณ ทว่ามิมีผู้ใดขานรับ มีเพียงเสียงหยาดฝนหล่นกระทบหลังคาดังซู่ๆ เธอกวาดตามองไปทั่วเรือน แม้ไม่กว้างเท่าเรือนใหญ่หลังข้างๆ แต่ก็ใหญ่กว่าเรือนไม้ไผ่ของเธออยู่ดี แล้วสายตาก็ปะทะเข้ากับร่างที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของเรือน ด้วยความดีใจเธอเดินเข้าไปหาเขา บุรุษในชุดเสื้อเชิ้ตลายตารางกับกางเกงยีนสีเข้ม เขานั่งเงียบๆ อยู่ใต้แสงโคมไฟเหนือหัว
เธอจำเขาได้ในทันที นี่คือเขา...นายน้อยสายหมอก บุตรชายคนเดียวของนายเหมืองเมฆากับนายหญิงวารินทร์ เขายังดูหล่อเหลาไม่คลาย โครงหน้าคมเข้มคล้ายผู้เป็นบิดา ดวงตาคมปลาบ จมูกโด่งคม ทว่าริมฝีปากกลับอิ่มอวบแดงระเรื่อราวกับริมฝีปากของอิสตรี อย่างหลังนี้นายน้อยสายหมอกคงรับกรรมพันธุ์โดยตรงจากมารดากระมัง
อิงคาเฝ้ามองอยู่ห่างๆ กลืนน้ำลายลงคอหลายอึก ฝนก็ตกกระหน่ำ คนงานบนเรือนก็ไม่มีสักคน ไฟที่เปิดเอาไว้ก็มิได้สว่างจ้าเหมือนตอนกลางวัน จะว่ากลัวก็กลัว แต่จะให้กลับไปเปล่าๆ ก็ไม่ได้ พรุ่งนี้เธอต้องเข้าเมือง มีของกินของใช้หลายอย่างที่เธอต้องซื้อไปตุนไว้อย่างที่ทำมาทุกเดือน
คนที่กำลังนั่งซดเหล้าป่ายาดองเงยหน้าขึ้นมาจากแก้วใบเล็กๆ ดวงตาเขาเริ่มปรือ และมีรอยยิ้มประหลาดยามส่งสายตาไปหาร่างที่ยืนอยู่
?นั่นคนหรือผี ยืนทำบ้าอะไรตรงนั้น?
นั่นคือการถามในแบบฉบับของบุรุษปากร้ายผู้เอาแต่ใจอย่าง ?สายหมอก เฉิน? ยิ่งยามฤทธิ์แอลกอฮอล์ไหลเวียนในเส้นเลือด สายหมอกก็ยิ่งมีอารมณ์รุนแรง
?เอ่อ...คือ...? อิงคาเดินเข้าไปใกล้เขาอีกนิด มือสองข้างจับชายเสื้อที่คลุมร่างอย่างประหม่า เธอสวมชุดอย่างสาวบ้านป่า เสื้อแขนกุดทอผ้าฝ้ายราคาถูก คลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวไม่หนามากนัก เบื้องล่างนั้นเป็นผ้าถุงผืนนิ่มๆ ยาวแค่เข่า ไร้ความสวยงาม แต่ดูแล้วสะอาดสะอ้าน ไม่ได้มอมแมมมากนัก ?ขอโทษนะคะ คือว่าฉันเอาของมาขายที่นี่ มีคนงานของนายน้อยคนหนึ่งรับของไป แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน ฉันก็เลย...?
?เท่าไร? เขาถามต่อเสียงห้วน ดวงตาปราดมองแม่สาวบ้านป่าตรงหน้าอย่างพิจารณา หล่อนชื่ออิงคา เป็นสาวบ้านป่าที่อาศัยอยู่หลังเขา ยังชีพด้วยการหาของป่ามาขาย เรียกง่ายๆ ว่าพวก ?คนจน?
?สองร้อยห้าสิบบาทจ้ะ มีกล้วยไม้ป่าสองกำมือ หน่อไม้ แล้วก็เห็ดนิดหน่อย? สาธยายพร้อมรอยยิ้มประหม่า ยิ่งยามที่ดวงตาคมมองปราดมา เส้นขนบนร่างก็ลุกแล้วลุกอีก
สายหมอกลุกขึ้นเต็มกาย ด้วยฤทธิ์เหล้าป่ายาดองที่กินเข้าไปทำให้ร่างเขาเซนิดๆ สติไม่ค่อยเต็มร้อยเท่าไร แต่ยังมองเห็นร่างที่อยู่ตรงหน้า แม่สาวบ้านป่าหน้าตาใสซื่อ แถมยังมีกลิ่นกายที่หอมประหลาดนัก
?มาเอาสิ หึๆๆ? เขาหัวเราะเจ้าเล่ห์ ทำทีเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงแต่ล้วงเท่าไรก็ดึงกระเป๋าสตางค์ในนั้นออกมาไม่ได้ ?ฉันบอกให้มาเอาไงเล่า! ไม่มีหูหรือไงฮะ!?
เสียงที่ตวาดดังๆ แทรกเสียงฝนพรำทำเอาอิงคาสะดุ้งโหยง อะไรกันผู้ชายคนนี้ หน้าตาดีเสียเปล่าแต่นิสัยร้ายกาจนัก พวกคนรวยนี่ชอบใช้อารมณ์เสียจริง
หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้เขาอีก ใกล้จนได้กลิ่นเหล้าป่าฉุนกึก เขาสั่งด้วยสายตาให้เธอล้วงเอากระเป๋าสตางค์ เธอพยายามอย่างที่สุดในการส่งเพียงปลายนิ้วลงไปหยิบเอากระเป๋า ทว่าสายหมอกกลับจับมือเธอยัดลงไปในนั้น กระเป๋ากางเกงยีนไม่ได้กว้างมากมาย สุดท้ายมือเธอเลยติดอยู่อย่างนั้น ดึงอย่างไรก็ไม่ออก
?นายน้อยคะ คือว่า...?
?หึๆๆ อย่ามาทำใสซื่อหน่อยเลยน่า ที่ขึ้นมาบนนี้ก็เพราะต้องการ ?อ่อย? ฉันไม่ใช่เหรอ?
?นายน้อย...พูดเรื่องอะไรกัน ฉันแค่ต้องการเงินค่าของที่ขายไป แค่ส่งเงินให้ฉัน แล้วฉันจะไปทันที?
เธอดึงมือแรงๆ จนหลุดออกจากกระเป๋ากางเกง แต่กลับถูกรั้งไว้ด้วยมือแกร่งของเจ้าของเรือน
?ไม่ต้องเล่นตัวหรอกน่า ได้แน่ๆ ทั้งค่าของ ค่าตัว!?
ความตกตะลึงในถ้อยวาจายังไม่น่าตื่นกลัวเท่าสิ่งที่เขากำลังกระทำ อิงคายืนตัวแข็งทื่อยามริมฝีปากอุ่นๆ ของนายน้อยสายหมอกประกบลงมา นี่เขา...กำลังจูบเธอหรือ ?จูบ? จริงๆ ใช่ไหม!
อิงคาดิ้นรนในอึดใจนั้น แต่ช้าไปเสียแล้ว ร่างเธอถูกกอดรัดอย่างรุนแรง ก่อนจะถูกลากเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่ประตูอยู่หลังเก้าอี้ที่เขากำลังนั่งซดเหล้าอยู่
ตุ้บ!
สาวบ้านป่านิ่วหน้าอย่างเจ็บจุก เธอถูกเหวี่ยงลงมาบนเตียงอย่างแรง ประตูห้องปิดลงหลังจากนั้น ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะตามขึ้นมาเพื่อคร่อมร่างเธอไว้ เขาตะโบมจูบเธออย่างรุนแรง ไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้ส่งเสียงร้องใดๆ
เขาเมามาก เมาจนแทบลืมตาไม่ขึ้น แต่สองมือยังไม่หยุดการกระทำ ยังดึงทึ้งเสื้อผ้าของเธอไม่หยุด ผ้าถุงของเธอหลุดออกจากท่อนขา พอๆ กับกางเกงยีนของเขา หัวใจเธอหล่นไปอยู่ตาตุ่ม รับรู้ถึงบางอย่างที่อุ่นร้อนซึ่งนาบอยู่ระหว่างซอกขา
?ปล่อยนะ! ปล่อยฉัน! นายน้อยจะทำอะไร ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย! อื้อ...?
อิงคาป่าวร้องเมื่อมีโอกาส ทว่าเพียงเสี้ยวอึดใจมือใหญ่ก็ปิดปากเธอไว้ ใบหน้าเขาซุกอยู่ข้างลำคอของเธอ ทั้งจูบทั้งสูดดม ทั้งขบเม้มดูดดึงไม่หยุด หัวใจเธอเต้นกระหน่ำ นี่มันอะไรกัน เธอกำลังจะถูกข่มขืนงั้นหรือ ช่วยด้วย...ใครก็ได้ช่วยอิงคาด้วย ตาจ๋า ยายจ๋า ช่วยอิงคาด้วย!
น้ำตาหยดหนึ่งรินร่วงจากดวงตา อิงคาดิ้นรนอยู่ใต้ร่างอันแข็งแรง แต่ดิ้นอย่างไรคนบนนั้นก็ไม่ยอมลุกหนี ดวงตาเธอชุ่มฉ่ำด้วยหยดน้ำตา เปิดปากส่งเสียงได้เพียงอู้อี้ นี่เธอต้องถูกกระทำย่ำยีจริงๆ หรือ!?
แรงที่ขบเม้มตรงซอกคอเริ่มแผ่วลงในอึดใจถัดมา อิงคาสะอื้นฮักๆ ไม่มีแม้แต่เสียงจะร้องขอความช่วยเหลือ จู่ๆ เขาก็หยุดนิ่งทุกการกระทำ หยุดทุกอย่าง ได้ยินเพียงเสียงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
นี่เขาหลับหรือ เธอไม่กล้าแม้แต่หายใจแรงเกินไป ด้วยกลัวว่าเขาจะตื่น จำต้องนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น กระทั่งได้ยินเสียงกรนเบาๆ ของคนที่นอนทับอยู่ เธอผลักเขาออกช้าๆ คนตัวใหญ่ทิ้งกายลงยังที่นอนอีกฝั่ง
เขาหลับแล้ว หลับจริงๆ หลับ...สนิท!
มือสั่นๆ ของอิงคารีบควานหาเสื้อผ้ามาสวม เธอลุกมายืนตัวสั่นงันงกอยู่ข้างเตียง กอดตัวเองเอาไว้ หัวหูยุ่งเหยิง เกือบไปแล้วไหมเล่า เกือบไปแล้ว!
?คนร้ายกาจ ทำแบบนี้ได้ยังไง?
น้ำตาหยดน้อยยังไหลรินไม่หยุด เธอยังจำได้ดีถึงสายตาดูแคลนคู่นั้น สายตาที่มองมายังเธออย่างรังเกียจ ทุกคราที่เธอก้าวเท้าเข้ามาที่นี่ เธอได้รับไมตรีจากนายเหมืองนายหญิง แม้แต่คนงานทุกคน แต่ยกเว้นเขา นายน้อยผู้ร้ายกาจและเอาแต่ใจ
สำหรับเขา เธอก็ไม่ต่างจากยอดหญ้าที่เขาเหยียบย่ำ ต่ำยิ่งกว่าฝุ่นดินที่ติดอยู่ใต้รองเท้า แต่ดูตอนนี้สิ ไม่ใช่เขาหรอกหรือที่เกือบจะข่มเหงเธออย่างต่ำช้า!
อิงคากำหมัดแน่นอย่างแค้นใจ เหลียวมองรอบกายช้าๆ ห้องหับกว้างใหญ่ เครื่องเรือนมีราคา บนโต๊ะที่อยู่ข้างเตียงยังมีเงินปึกบางๆ วางอยู่ คาดด้วยสายตาคงมีค่านับหมื่น เธอนั่งลงหน้าโต๊ะตัวนั้น เหลือบมองเขาสลับกับเงินปึกบางๆ
?เป็นคนรวยนี่ดีจริงนะ มีเงินให้ใช้มือเติบ แต่เราสิ ถ้าเหงื่อไม่ไหลอย่าหวังว่าจะได้เงิน?
อิงคาตัดพ้อต่อโชคชะตา เอื้อมมือไปหมายจะหยิบเงินปึกนั้น ทว่าใบหน้าคมเข้มของนายน้อยรูปงามกลับทำให้ความโลภในใจเธอเรียกร้องบางอย่าง เธอดึงมือคืนมา เหลือบมองนาฬิกาบนโต๊ะก็เห็นว่าสองทุ่มเข้าไปแล้ว สายหมอกยังหลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะตื่นแต่อย่างใด
?อิงคา...เธอแค่...ต้องรอ รอ...เท่านั้น...?
อิงคาบอกตัวเองอย่างขมขื่น นั่งกอดเข่าแน่นๆ อยู่ข้างเตียง นั่งอย่างเงียบงัน น้ำตายังไหลแต่ไร้เสียงสะอื้น ดวงตาคู่งามที่เคยสดใสคล้ายมีแววบางอย่างเข้ามาแทนที่ แววตาของคนที่หมดสิ้นหนทางจนต้องกระทำบางอย่างที่น่าละอายเหลือเกิน
หญิงสาวนั่งอยู่เช่นนั้น สองหูฟังเสียงกรนเบาๆ ของสายหมอก สองตาเหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะ หยาดฝนด้านนอก ตกแล้วหยุด ตก...แล้วหยุด อยู่อย่างนั้นสองถึงสามรอบ สายฟ้ายังแลบแปลบปลาบราวกับจะสาปส่งสิ่งที่เธอกำลังจะทำ
และเมื่อนาฬิกาแจ้งเวลาใกล้ตีห้า อิงคาก็ลุกขึ้นยืน เธอเดินไปที่ประตู เปิดมันออกจนสุดแต่ไม่ก้าวออกไป เธอหันกลับมาที่เตียง เฝ้ามองเขา กางเกงยีนเขาหลุดไปแล้ว เสื้อเชิ้ตลายตารางก็เช่นกัน เขาเหลือเพียงกางเกงชั้นในกับเสื้อกล้ามตัวบางเท่านั้น
?รังเกียจอิงคามากนักหรือคะนายน้อย กลิ่นสาบคนจน กลิ่นสาบสาวบ้านป่ามันน่ารังเกียจนักหรือ แล้วทำไมทำกับอิงคาอย่างนี้คะ คนที่ไม่คิดก่อนทำ ต้องได้รับโทษไม่รู้หรือ?
อิงคายิ้มเยาะ แต่เป็นยิ้มเยาะทั้งที่น้ำตาเอ่อคลอ เธอดึงผ้านวมมาคลุมร่างเขา แล้วเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง ถอดออกทีละชิ้นๆ อย่างขมขื่นใจ ก่อนจะพากายที่เหลือเพียงชุดชั้นในก้าวขึ้นไปบนเตียง พากายซ่อนอยู่ใต้ผ้านวมผืนเดียวกับนายน้อยสายหมอก ทายาทเพียงคนเดียวของรีสอร์ตแสนงาม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หยาดพิรุณพร่างพรมผืนป่าพนาไพร แสงทิวาอาบไล้ทั่วรีสอร์ตวารินทร์ ในตอนที่แสงตะวันกระจ่างฟ้า สายหมอกก็ได้แจ้งแก่ใจว่าได้ทำเรื่องผิดมหันต์ ความยุ่งยากเกิดขึ้นในทันทีเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าแม่สาวบ้านป่านามว่าอิงคา นอนหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเขา นำมาสู่การเจรจาอันแสนอึดอัดที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้
ภายในห้องรับรองของเรือนที่ใหญ่ที่สุด ร่างของบุคคลมากกว่าสี่คนกำลังนั่งปรึกษาหารือ และหาทางตกลงกันด้วยความอึดอัดใจสุดประมาณ
?ไปทำอีท่าไหนฮึตาหมอก ทำไมถึงได้สิ้นคิดอย่างนี้!? เสียงคุณหญิงวารี สตรีในวัยไม้ใกล้ฝั่ง เอ่ยติงหลานชายสุดที่รักอย่างขุ่นเคือง นางนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาที่รีสอร์ตแห่งนี้ทั้งที่วันรุ่งขึ้นจะเป็นวันแต่งงานของหลานสาวอีกคน
?ผมเปล่านะยาย ผมไม่ได้ทำ!?
บุรุษหนุ่มหน้าตาคมเข้มเอ่ยปฏิเสธเสียงดังฟังชัด เขามีโครงหน้าคมเข้มเช่นบิดา แต่อ่อนหวานด้วยดวงตาสีนิลกลมโตเช่นมารดา มันประกอบกันเป็นบุรุษที่ชื่อสายหมอก ทายาทเพียงคนเดียวของนายเหมืองใหญ่เมฆา และนายหญิงวารินทร์
?นายน้อย...พูดอย่างนี้กับอิงคาได้ยังไง อิงคาเสียหายไปแล้วนะ? สาวบ้านป่าเอื้อนเอ่ยวาจาทั้งที่หยาดน้ำตาพรั่งพรู อย่างไรเสียเธอก็ได้ทำลงไปแล้ว เธอต้องทำมันให้สำเร็จ เธอต้องเป็นภรรยาของสายหมอกให้ได้!
?นั่นสิตาหมอก แม่ว่าเราสองคนผิดผีกันไปแล้ว น่าจะแต่งๆ กันไปซะ แม่ไม่เห็นด้วยที่ลูกจะปฏิเสธอิงคา?
นายหญิงวารินทร์สงสารสาวน้อยบ้านป่ายิ่งนัก บุตรชายอารมณ์ร้ายยังยืนยันว่าไม่ได้ล่วงเกินสาวเจ้า ทั้งสองให้การไปคนละทาง ทว่าที่ซอกคอของอิงคานั้นกลับมีรอยจูบดูดดึงด้วยริมฝีปากอย่างชัดเจน
?ใช่ๆ หลานฉันมันเสียหายนะนาย อย่ารังแกคนจนด้วยการทำเป็นมองไม่เห็นเลย? ยายขมิ้น หญิงชราที่นั่งอยู่ข้างๆ หลานสาวบนพื้นเรือนเอ่ยออกมาบ้าง นางตื่นตระหนกไม่น้อยเมื่อถูกคนของรีสอร์ตไปเชื้อเชิญมาจากหลังเขาแต่เช้าตรู่ ที่แท้ที่หลานสาวหายไปทั้งคืนก็เพราะเหตุนี้นี่เอง
อิงคาน้ำตาร่วงพรู หญิงสาวไม่อยากทำให้ยายเสียใจ แต่ก็ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตอยู่หลังเขาเช่นกัน ไม่อยากกลับไปตักน้ำผ่าฟืน ไม่อยากกลับไปยังชีพด้วยการหาของป่ามาขายเพื่อเลี้ยงชีพ เธออยากเป็นคนรวย อยากเป็นคนสวย มีหน้ามีตา ที่สำคัญคืออยากเรียนต่อ ตอนนี้เธออายุยี่สิบแต่มีความรู้เพียงแค่มัธยมปลายเท่านั้น นั่นต้องโทษโชคชะตาที่ทำให้ต้องเกิดมาพร้อมกับคำว่ายากจน
?แต่เด็กมันไม่ได้รักกันนะคุณน้อง? นายเหมืองใหญ่ท้วงติง ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาร่วงโรยไปแล้วตามกาลเวลา แต่วาจายังคงทรงอำนาจเช่นเดิม ทว่าอำนาจดังกล่าวย่อมอยู่ใต้บารมีของศรีภรรยาเท่านั้น
?นายเหมืองก็ไม่ได้รักน้องวาสักนิดตอนที่เราแต่งงานกัน!? นายหญิงทวนความจำให้สามีฟังทำเอาสามีหุบปากฉับพูดอะไรไม่ได้อีก
?ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างนี้? คุณหญิงวารีเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปเพราะต้องใช้สมองครุ่นคิด
?ยังไงคะ?
อิงคากระตือรือร้นจนเกินงาม ยายขมิ้นจ้องมองหลานสาวด้วยความไม่พอใจ อิงคามันจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ที่โดนลูกชายนายเหมืองข่มเหงรังแก
?ก็ให้ยายกับหลานย้ายมาอยู่ที่นี่เสียก่อน ส่วนเรื่องแต่งงาน...ดูใจกันไปสักพักเถอะ ให้นายหญิงดูความประพฤติของอิงคาก่อนได้ไหม ว่าสมควรจะมายืนเคียงข้างลูกชายเธอหรือเปล่า สักสามเดือนก็ยังดี ส่วนเรื่องหลังจากนั้น ถ้าหนูทำตัวดี ฉันรับรองว่าจะมีงานแต่งงานแน่นอน แต่ถ้าไม่ละก็ ฉันยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้กับหนูและยายเอง อย่างนี้ได้ไหมจ๊ะ?
คุณหญิงวารีในวัยชราเจรจาเสียงเย็น การยืดเวลาออกไปอาจช่วยต่อลมหายใจให้หลานชายปากแข็งได้บ้าง ถึงแม้จะเห็นเต็มตาว่าอิงคาหน้าตาเนื้อตัวเป็นเช่นไร แต่อย่างไรเสียสายหมอกก็หลานแท้ๆ นางขอลำเอียงตามประสาเลือดที่ข้นกว่าน้ำหน่อยเถอะ
?ได้! ได้ค่ะ สามเดือนก็สามเดือน? อิงคายิ้มแป้นรับคำอย่างไว
สายหมอกเบ้ปากอย่างรังเกียจ เมื่อคืนเขาเมามากและจำไม่ได้ว่าปล้ำอิงคาจริงหรือเปล่า ความทรงจำสุดท้ายคือลากหล่อนเข้าห้อง ส่วนเรื่องหลังจากนั้น นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก
?งั้นอิงคากับยายไปเก็บของมาเลยนะ ฉันจะเตรียมห้องหับไว้ให้? นายหญิงวารินทร์เอ่ยอย่างใจดี
อิงคาพยักหน้าด้วยความดีใจ พยุงยายให้ลุกขึ้นแล้วเดินผ่านหน้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนพื้นเรือนเงาวับ ใบหน้าเขาบูดบึ้ง เธอกลัวจับใจล่ะ ยอมรับเลย แต่ในเมื่อขึ้นหลังเสือแล้วก็ต้องกินนอนอยู่บนนั้น ขืนปีนลงมาก็มีแต่จะถูกเสือตะปบขบเอาเท่านั้นเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เวลาต่อมา ภายในห้องของลูกชายนายเหมืองซึ่งตัวเรือนแยกออกจากเรือนใหญ่เพียงไม่กี่ก้าว บัดนี้ในตู้เสื้อผ้าของเขามีเสื้อผ้าแบบสาวชาวบ้านของอิงคาแขวนรวมอยู่ ทว่ามีเพียงแค่สองสามตัวเท่านั้น หญิงสาวเกรงว่าเสื้อผ้ามอซอของตนจะทำให้เสื้อผ้าของสามีดูหมองลงไป จึงพับผ้าส่วนใหญ่เก็บไว้ในหีบหวายเช่นเดิม
อิงคาเดินสำรวจรอบๆ ห้อง ช่วยเก็บทำความสะอาดเสื้อผ้าที่สามีทิ้งเรี่ยราดไว้ รู้ดีว่าผิดที่ปรักปรำเขา แต่มาถึงวินาทีนี้คงถอนตัวไม่ได้เสียแล้ว
แอ๊ด...ปัง!
เสียงประตูเปิดและปิดลงอย่างแรงตามอารมณ์ของเจ้าของ สายหมอกเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เขาโยนกุญแจพวงใหญ่มาให้อิงคาอย่างแรง ถ้ารับไม่ทันมันคงบาดแก้มงามไปแล้ว
?กุญแจห้องของเรือนเล็ก กุญแจเซฟ กุญแจทุกอย่าง นายหญิงบอกว่าเป็นหน้าที่เธอ ดูแลมันดีๆ ล่ะ อย่าให้มีเงินทองหล่นหายไปสักแดงเชียว เดี๋ยวจะไม่สมกับที่เธอตั้งใจเอาไว้?
อิงคาก้มหน้ารับอย่างเจียมตน รู้ดีว่าทุกคำพูดนั้นแฝงไว้ด้วยการประชดประชันทั้งสิ้น
?ฉันยกห้องนี้ให้เธอก็ได้ เพราะตราบใดที่เธออยู่ใกล้ฉันคงหลับไม่ลง เหม็นสาบคนจนน่ะ เหม็นมากจนอยากจะอ้วก!? เขากระแทกเสียงใส่ ยังผลให้ใบหน้านวลซีดเผือดทันตา
?ค่ะ! อิงคามันคนจนแล้วไงคะ ถ้ารวยคงไม่มายืนให้นายน้อยดูถูกอย่างนี้หรอก เป็นคนจนแล้วไง คนจนไม่มีหัวใจหรือไงคะ!? ตะคอกกลับไปน้ำตาก็เอ่อคลอ หากไม่ใช่เพราะสิ่งที่เขาเอ่ยมาเป็นเรื่องจริงเธอคงไม่ยอมให้เขาดูถูกดูแคลนขนาดนี้
?มี! แต่คนจนที่จิตใจสกปรกอย่างเธอไม่สมควรได้รับความสงสารเห็นใจ ฉันถามจริงๆ เถอะอิงคา เธอกับฉันมีอะไรกันท่าไหนฮะ ทำไมฉันจำไม่ได้ ฉันเมาขนาดนั้นไม่มีทางปล้ำเธอได้แน่ๆ?
?เฮอะ! พูดออกมาได้ไม่อายปาก นายน้อยรังแกกันแล้วไม่ยอมรับ อิงคาก็ไม่ว่า แต่อย่ามาพูดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันไม่ใช่เรื่องจริง มันจริงพอๆ กับรอยพวกนี้นี่ไง?
ว่าแล้วพาร่างไปเบียดกับอกแกร่งอย่างตั้งใจแต่มิใช่จะยั่วยวน ด้วยว่าต้องการให้เขาเห็นรอยดูดดึงทึ้งเล็มด้วยริมฝีปากซึ่งเขาทำทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เขาปลุกปล้ำเธอจริง ทว่าก็เมาเกินกว่าจะทำอย่างอื่นต่อ และในวินาทีนั้นเอง แผนการชั่วๆ ก็เริ่มก่อร่างสร้างตัวในสมองน้อยๆ ของเธอ จนในที่สุดเธอก็ทำสำเร็จในเช้าวันนี้
?ฉันไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ทำไมฉันจำไม่ได้! โธ่เว้ย!?
มือหนาคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำอย่างหัวเสีย อิงคาถอนหายใจอย่างโล่งอก ถ้าเจอแบบนี้บ่อยๆ เธอคงได้คายความลับเข้าสักวัน แต่เอาเถอะ กว่าจะถึงตอนนั้นเธอคงกอบโกยจากเขาได้มากแล้ว อย่างน้อยก็กุญแจพวกนี้ ในเมื่อมันมาอยู่ในมือเธอ เธอก็จะใช้ให้เป็น
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เวลาย่ำค่ำ กรุงเทพฯ
แสงตะวันอาบทาเหนือหลังคาสีอิฐมอญ บ้านหลังพอเหมาะของสาวโสดยุค 2019 ที่ทั้งแสบเฮี้ยวเปรี้ยวซ่านามว่า ?พิมาลา เทพมณี? หญิงสาวลุกจากเตียงนอนที่มีหนึ่งบุรุษหลับใหลอยู่ เพื่อไปคุยโทรศัพท์ที่ข้างหน้าต่างกระจก
เสียงเรียกเข้าดังรบกวนการนอนหลับของเธอมาห้านาทีได้แล้ว เบอร์ที่โชว์อยู่เป็นของน้องชายเธอเอง และยังเป็นเช่นทุกครั้งที่อีกฝ่ายโทร.มารบเร้าให้เธอปิดกิจการเสีย เธอรู้ว่าสถานบันเทิงครบวงจรที่เธอเป็นเจ้าของมันคงจะไปไม่รอดในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง แต่เธอก็ยังเป็นเธอ ยังดันทุรังราวกับว่าสิ่งนี้มีอยู่ในสายเลือด
?แกโทร.มากวนฉันนะ รู้หรือเปล่า? พิมาลาส่งเสียงแหบๆ ให้คนปลายสายได้ยิน เสยผมแรงๆ สองตามองออกไปนอกหน้าต่าง แสงตะวันยามเย็นกำลังจางหาย และวันใหม่ของชีวิตเธอกำลังจะเริ่มต้น
ครอบครัวเธออยู่คนละที่ บิดามารดาอยู่เชียงใหม่ น้องชายอยู่สตูล ส่วนเธออยู่กรุงเทพฯ เธอกับน้องชายอายุเท่ากัน แต่เธอแก่เดือนกว่า แน่ล่ะ เธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตระกูลนี้
ก่อนหน้านี้บิดาบุญธรรมของเธอทำเหมืองพลอยอยู่กาญจนบุรี ทว่าเมื่อสายแร่หมดไปท่านก็ย้ายครอบครัวไปเปิดโรงแรมที่เชียงใหม่ และยังอยู่ที่นั่นกับภรรยาจนถึงทุกวันนี้ ท่านยังเคี่ยวเข็ญไม่หยุดเรื่องให้เธอกลับไปรับช่วงบริหารกิจการโรงแรม
ท่านทั้งสองดีกับเธอมากนะ แม้ว่าไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดก็ตาม และอย่าได้ถามถึงบิดามารดาที่แท้จริงเลย สองคนนั้นมิได้ล้มหายตายจาก แค่ไม่อยากเลี้ยงเธอตอนยังเป็นเด็กเท่านั้น
พิมาลาเจรจากับน้องชายราวสิบนาที เสียงถอนหายใจยังดังอยู่เฮือกๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะวางสายแล้วก็ตาม
?มันจะเจ๊งจริงๆ หรือวะ?
แม่สาวเปรี้ยวเอ่ยกับตัวเอง ผมยาวสลวยมันระยับนั้นดูยุ่งเหยิงในตอนเพิ่งตื่นนอน ด้วยงานที่ทำ ด้วยสิ่งที่รักทำให้พิมาลามีเวลานอนและเวลาตื่นไม่เหมือนชาวบ้านเขา เธอนอนตอนเกือบแปดโมงเช้า และตื่นอีกทีตอนหกโมงเย็น เธอชอบสังสรรค์ ชอบปาร์ตี้ การเป็นเจ้าของสถานบันเทิงครบวงจรอย่าง ?ฟิโรโมน? จึงเข้าท่าที่สุดแล้ว
?อือ...โทร.หาใครหรือครับที่รัก?
?ฌอร์ณ ภัทรเวโรจน์? บุรุษหนุ่มลูกครึ่งไทย - ฝรั่งเศส เอ่ยถามคู่ขาผู้น่ารักของเขาด้วยเสียงอู้อี้อย่างคนเพิ่งตื่นนอน พิมาลาทำให้เขาอึ้ง เมื่อคืนเขาและหล่อนเมามาก และสุดท้ายมันก็มาจบลงที่เตียง แต่ดูเหมือนว่าเรื่องเมื่อคืนมิได้มีผลกระทบต่อหล่อนแม้แต่น้อย หล่อนเสีย ?พรหมจรรย์? ให้เขานะ แต่ดูหล่อนสิ...
?อย่ามาเรียกฉันอย่างนั้นนะ!?
คนถูกเรียกหันมาตวาด เธอโยนมือถือขึ้นไปบนเตียง รู้สึกว่าปัญหาใหญ่สุดของเธอจะไม่ใช่เรื่องงานเสียแล้ว
?โอ...คุณโมโหงั้นหรือ ไม่เอาน่า มาคุยกันก่อนเถอะ ไม่ต้องอาย?
ฌอร์ณว่า บุรุษหนุ่มผู้หล่อเหล่า สูงยาวกำยำ นอนอวดมัดกล้ามอยู่บนเตียงใหญ่ของพิมาลาในสภาพที่มีผ้านวมปิดท่อนล่างไว้หมิ่นเหม่ และจริงที่ว่าพิมาลาเพิ่งสังเกตตัวเอง จู่ๆ หน้าท้องก็เจ็บแปลบๆ อยู่ข้างใน เจ็บลึกประหนึ่งถูกอะไรเข้าไปกระแทกกระทุ้งอยู่นานจนมันระบม
?ฉันไม่คุย และฉันก็ไม่ได้อายด้วย โน่นประตู เมื่อคืนเข้ามาทางไหนก็ออกไปทางนั้นเลย? บอกอย่างฉุนๆ ด้วยไม่รู้จะจัดการอย่างไร เมื่อคืนนี้เธอไม่น่าเมาจนเสียคนเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลากอีตาลูกครึ่งหน้าหล่อมาด้วยตอนไหน รู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่บนตัวเธอ โรมรันพันตูจนอารมณ์กู่ไม่กลับ และก็มาเป็นปัญหาอยู่ในตอนนี้
?โอ...เหนือความคาดหมายมาก ผมนึกว่าคุณจะให้ผมรับผิดชอบซะอีก?
ฌอร์ณประหลาดใจ ในขณะที่พิมาลายืนกอดอกแน่น ส่ายหน้ารัวๆ
?ไม่ๆๆ ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก เราสองคนก็แค่ เอ่อ...สนุกกัน? กัดฟันพูดออกไปแล้วรู้สึกเหมือนยางอายบนหน้ากำลังละลาย
?ทั้งที่เมื่อคืน...เป็นครั้งแรกของคุณงั้นเหรอ? เขาถามอีก รู้สึกผิดหวังอย่างไรก็ไม่รู้
?ไม่ต้องมาย้ำได้ไหม! ฉันรู้แล้ว ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรด้วย ฉันไม่ต้องการ คุณไปๆ ซะเถอะ นึกซะว่าเราไม่ได้เจอกันก็ได้? บอกเขาอย่างนั้นแต่ใจโหวงๆ พิกล เธอไล่เขาทั้งที่สองแขนเขาโอบกอดเธอทั้งคืน
ฌอร์ณหน้าเสีย นี่เขากำลังถูกผู้หญิงปฏิเสธหรือนี่ ให้ตายเถอะ คงมีแต่หล่อนกระมังที่กล้าทำแบบนี้
?โอเค...ก็ได้ เอ่อ...แน่ใจนะว่ามันจะจบแค่นี้ อืม...เราอาจจะคบกันได้นะ เราเข้ากันได้ดีตอนที่อยู่บนเตียง?
?ไม่!? พิมาลายืนยันอย่างเคืองๆ ดูท่าว่าเขาจะติดใจรสราคะอันไร้เดียงสาของเธอเข้าแล้ว
ฌอร์ณลุกจากเตียงแล้วเดินมาหาหญิงสาว เผยเรือนร่างเปลือยเปล่ายั่วเย้ากิเลสของฝ่ายตรงข้าม แววตาเขามีแววเจ้าเล่ห์จนพิมาลาหวั่นใจ
?แต่ผมอยากคบกับคุณ เราอาจมีความสัมพันธ์กันในแบบอื่นได้ ถ้าคุณไม่ต้องการการผูกมัด?
?หมายความว่าไง? ถามแล้วมุ่นคิ้ว เพราะมือหนาของฌอร์ณรวบเอวเธอเข้าไปกอด
?หมายความตามที่พูดครับคนสวย ดูคุณสิ...คุณหน้าแดงเวลาถูกผมกอด แก้มคุณแดง ปากคุณก็น่าจูบ แล้วก็...คุณตื่นเต้นใช่ไหมที่รัก ชีพจรคุณเต้นแรงเหลือเกิน? ว่าแล้วก็พาปากและจมูกเข้าสูดดมและจุมพิตตรงแอ่งชีพจรที่กำลังเต้นระริกของพิมาลา จูบเบาๆ ถี่ๆ ทั้งหายใจเร็วแรงเพื่อให้ลมหายใจผ่าวร้อนราดรดลำคอขาว
?อย่า...นะ มัน...จะไม่เกิดขึ้นอีก พอ...เถอะ...พอ...?
หญิงสาวกัดฟันแน่น อยากต่อต้านอยากขัดขืนแต่ทำได้ยากนัก เพียงแค่ผิวเนื้อแนบเนื้อ เรือนกายเสียดสี เธอก็คิดอะไรไม่ออก รู้สึกเร่าร้อน ร้อนจนร่างกายอ่อนระทวย และกว่าที่เธอจะตั้งสติได้ เสื้อนอนที่สวมอยู่ก็หล่นร่วงไปกองอยู่แทบเท้า
เขาอุ้มเธอกลับไปที่เตียง วางเธอลงอย่างทะนุถนอมแล้วเริ่มจุมพิตเธอตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาตามน่องเรียว จูบเน้นๆ ยังหน้าขาอันขาวผ่องที่ทำเอาเธอซ่านสยิว
สองมือเขาลูบไล้เคล้าคลึงไปทั่วร่างเธอ ทั้งบีบขยำพุ่มทรวงอวบใหญ่ในขณะที่ริมฝีปากจดจ่ออยู่ที่ระหว่างขา ใช้ปลายลิ้นจ้วงชิมรสหวานซ่านอุราที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่ามันรสเลิศปานใด เธอได้แต่แอ่นหยัดแผ่นอก ร่างกระตุกทุกครายามเมื่อปลายลิ้นเขาตวัดขึ้นลง
นี่หรือรสราคะระหว่างชายหญิง เธอช่างโง่เขลานักที่ไม่ยอมลิ้มรสมันสักครา ไม่ว่าชายที่คบหาจะมีมากเพียงใด แต่ด้วยบางอย่างในใจก็ทำให้เธอหลีกหนี สุดท้ายแล้วบรรดาชายที่รักก็จากเธอไปทีละคน...ทีละคน สุดท้ายเลยต้องอยู่เป็นโสด
เวลานี้เธอรู้แล้วว่าพวกเขาต้องการสิ่งใด ความสัมพันธ์เช่นสามีภรรยาทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน นี่ล่ะคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ ช่างน่าละอายนักที่ตอนนี้เธอกลับตกหลุมพรางแห่งราคะจนถอนตัวไม่ขึ้น รู้สึกเป็นสุขยามอยู่ใต้ร่างนี้ อยู่ใต้ร่างของผู้ชายที่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ!
?อ๊ะ! เจ็บ!?
ฌอร์ณพรมจูบไปทั่วเนินทรวง เมื่อการฝากฝังแก่นกายเข้าหาร่างบางทำให้พิมาลาเกิดความเจ็บปวด เขายอมรับว่าถูกอกถูกใจรสสัมผัสอันคับแน่นและฝืดตึง รู้สึกพิเศษยามได้พรมจูบบนเรือนร่างหล่อน ได้กอดรัดแลกเปลี่ยนซึ่งไออุ่น ผิวเนื้อที่เสียดสี ลมหายใจที่ราดรด ยิ่งยามที่หล่อนส่งเสียงครวญครางอยู่ใต้ร่างเขายิ่งรู้สึกคล้ายว่าได้กลายเป็นสิงโตเจ้าป่าที่กำลังละเลียดเจ้ากวางตัวน้อย รู้สึกยิ่งใหญ่และเป็นสุข รู้สึกถึงการครอบครองทั้งที่หล่อนกับเขามิได้เป็นอะไรกันเลย
การเสพสมอย่างเร่าร้อนยังดำเนินไปอีกกว่าชั่วโมง กระทั่งเสร็จสมอารมณ์ใคร่ได้อาบเหงื่อต่างน้ำ อิ่มเปรมทั้งสองฝ่าย ภายใต้แสงจากดวงไฟสว่างจ้า บัดนี้หนึ่งหนุ่มกับหนึ่งสาวกำลังนอนอยู่ข้างกัน ทั้งสองมิได้หลับตา แต่นอนนิ่งๆ ในท่าเดียวกันคือมีผ้านวมปิดกายเปล่าเปลือยตั้งแต่ระดับอกลงไป
?พูดอะไรบ้างสิที่รัก คุณทำให้ผมทำตัวไม่ถูก? บุรุษรูปงามอย่างชาติตะวันตก เอ่ยต่อสตรีที่เขามิอาจคาดเดาความคิด หล่อนนิ่งเกินไปจนน่ากลัวใจ
?ฉันกำลังคิด?
?คิดหรือ??
?อาฮะ คิดว่าจะทำยังไงกับสิ่งที่เพิ่งเกิด?
?อาจฟังดูประหลาด แต่ผมอยากคบกับคุณนะ?
พิมาลาหันมาตีหน้ายักษ์ใส่เขา ?ฉันเลิกคบผู้ชายมาชาติหนึ่งแล้ว เหนื่อย เบื่อ!? พูดจบก็ลุกลงจากเตียงทั้งที่ร่างยังเปลือยเปล่า แลหาชุดนอนมาสวมอีกรอบ
ฌอร์ณมองตามตาค้าง ดูเรือนร่างหล่อนสิ งดงามยั่วยวนไร้ที่ติ หากได้ครอบครองร่างนี้ ให้ทำอย่างไรเขาก็ยอม
?โอเค งั้นก็ได้ แต่ว่า...ถ้าไม่คบกันแบบคู่รัก เรามาคบกันแบบอื่นไหม?
เชือกเสื้อคลุมที่กำลังมัดอยู่ถูกดึงปมจนแน่น พิมาลาหันมาหาเขา มองคนที่นอนยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดาทางไม่ถูก
?คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?
?พูดเรื่องที่เราเข้าใจกันสองคนยังไงล่ะ โอเค...คุณอาจไม่อยากคบกับผม แน่ล่ะ มันเร็วเกินไปที่จะทำแบบนั้นกับคนที่เพิ่งเจอกันเมื่อคืน แต่ว่า..ไหนๆ เราก็ข้ามขั้นตอนกันไปเยอะแล้ว แถมยังเข้ากันได้ดีเรื่องบนเตียง ทำไมเราไม่มาเจอกัน แบบว่า...?
เขาไม่พูดต่อ มือไม้กางออก บอกให้รู้ทางกายว่าเรื่องนั้นที่ว่า หล่อนคงเข้าใจได้โดยที่เขาไม่ต้องเอ่ย
?แบบว่าอะไร? เธอทวงถาม หน้าตาไร้รอยยิ้ม
?ก็แบบว่า ทุกเวลา...ที่เราใจตรงกัน เราอาจจะมาเจอกัน แล้วก็...? เขาไม่เอ่ยต่อ แต่ขยับมาที่เตียงอีกฝั่งแล้วเกี่ยวเอวพิมาลาลงมานั่งบนตักเขา สาบเสื้อที่สวมอยู่ถูกดึงลงน้อยๆ เผยหัวไหล่มนให้เขาได้จุมพิตเบาๆ พอให้หล่อนได้ขนลุกเล่นๆ
พิมาลาสองจิตสองใจ เธอไม่ศรัทธากับความรักระหว่างชายหญิง ไม่คิดจะแต่งงาน ไม่คิดว่าชาตินี้จะมีลูก เธอเกลียดเด็กทุกคนนั่นแหละ โดยเฉพาะเด็กที่ชื่อพิมาลา แต่ว่า...รสสวาทของพ่อหนุ่มลูกครึ่งก็ทำเอาเธอสมองปลอดโปร่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าความสัมพันธ์แบบนั้นมันตอบโจทย์ชีวิตของเธอ แล้วเธอ...จะปฏิเสธมันได้หรือ
?ฉันไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้น คุณก็รู้?
?ให้ผมแนะนำคุณสิ ผมจะโทร.หาคุณ เมื่อผม...?
?ไม่ได้เป็นอะไรกันจะโทร.หาฉันทำไม? ว่าแล้วลุกจากตัก เธอควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองในขณะที่เขาควานหามือถือของเขาเช่นกัน พวกเขาแลกเบอร์กัน ?อาทิตย์ละสองวัน วันละสามชั่วโมงหรือมากกว่านั้น อาจเป็นคืนวันศุกร์หรือเสาร์? เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
?อา...สองวันเองเหรอ แล้วถ้าตารางงานไม่ตรงกันล่ะ? เขาโอดโอย
?งั้นเลือกวันเวลาที่ตรงกันในอาทิตย์นั้น โอเคไหม?
?โอเคครับคนสวย? เขายิ้มกริ่ม
?ไม่มีการผูกมัด ไม่โทร.ตามโทร.จิก ไม่มีการหวงหึง ถ้าอีกฝ่ายมีแฟนหรือคนรัก ความสัมพันธ์นี้จะจบลงทันทีอย่างไม่มีข้อแม้?
?จุ๊ๆๆ โหดจริงๆ? เขาควานหากางเกงชั้นในมาสวม ก้าวยาวๆ ไปทางที่มีห้องน้ำ อวดหุ่นอย่างนายแบบยั่วกิเลสสาวเจ้าอย่างจงใจ ?ดูคุณชำนาญนะ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือครั้งแรกกับการเริ่มความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด?
?คุณรู้ดีกว่าใครว่านี่คือครั้งแรกสำหรับฉันหรือเปล่า?
ฌอร์ณยักใหญ่แล้วก้าวเข้าไปในห้องน้ำ พิมาลาถอนหายใจยาว สีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจสลดวูบลง ดวงตาที่แน่วนิ่งมั่นคงอ่อนแสงลงพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ผุดซึม
?ก็แค่เซ็กซ์น่า แค่เซ็กซ์...ใครๆ ก็ทำกัน?
นั่นคือคำปลอบใจที่พิมาลามีให้ตัวเอง เธอไม่ใช่เด็กแล้วนะ รักษาพรหมจรรย์มาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งมากๆ แล้ว ต่อจากนี้สิ เธอจะใช้ชีวิตให้คุ้ม ไม่ต้องห่วงหรือกังวล จะใช้ทุกวินาทีให้เต็มที่แบบสุดๆ ไปเลย
แม้คิดอย่างนั้นแต่น้ำตาหยดหนึ่งกลับร่วงริน ไม่รู้ว่าจะไหลทำไม เธอไม่ได้อยากเสียสิ่งนั้นให้ชายที่รักสักหน่อย ความรักหรือ ไม่เลย...ไม่เคยสำคัญกับเธอสักนิด ความรักเดียวที่เธอรู้จักคือความรักที่พ่อแม่บุญธรรมและน้องชายมอบให้เธอ น้องชายที่อายุเท่ากันแต่กลับเคารพเธออย่างที่บิดามารดาสั่งสอน นั่นต่างหากสิ่งที่เธอต้องแคร์
พิมาลาสลัดผ้านวมแรงๆ ให้มันคลี่คลุมเตียงกว้าง เสื้อผ้าที่หล่นเกลื่อนอยู่ข้างเตียงถูกหยิบไปลงตะกร้าที่มีเสื้อผ้ากองสุมจนล้น ในห้องแต่งตัวขนาดสามคูณสี่เมตร เสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องแต่งตัวสำหรับสตรีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอัดแน่นอยู่ในนั้นราวกับร้านขายของสำหรับผู้หญิง แน่นอนว่ามันรกจนแทบไม่มีที่ทางจะเดิน
ฌอร์ณออกมาจากห้องน้ำ เนื้อตัวเขามีแต่หยดน้ำเกาะพราวไปทั่ว พิมาลาโยนผ้าเช็ดตัวส่งให้ รู้สึกแปลกๆ ที่ใจยามได้กลิ่นครีมอาบน้ำของตัวเองติดอยู่บนผิวเนื้อคนอื่น เธอออกมาจากห้องแต่งตัว อำนวยความสะดวกให้เขา ไม่กี่นาทีถัดมาเขาก็อยู่ในชุดสูทแบบพอดีตัว แม้เสื้อตัวในจะยับยู่ไปหน่อยแต่ยังดูสมบูรณ์แบบราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารแฟชั่น
?อยากไปหาอะไรกินไหม? เขาถาม
หญิงสาวส่ายหน้า มองเขาอย่างพิจารณาแล้วใจสั่นประหลาด โครงหน้าเขาช่างได้เหลี่ยมมุมพอเหมาะพอดี ไม่มากไม่น้อย จมูกโด่งคม ตาสีน้ำตาลอ่อน ริมฝีปากแดงเรื่อวางพาดอยู่ใต้ไรหนวดจางๆ เขาผิวขาวจัด และหล่อมาก...
?ฉันต้องรีบแต่งตัวไปทำงาน คุณไปเถอะ? เธอไล่กลายๆ อีกฝ่ายทำหน้าบึ้งส่งมา แต่ก็ยอมก้าวตรงไปที่ประตู
ชายหนุ่มถอนหายใจเมื่อมองไปรอบบ้านแล้วเห็นกระป๋องเบียร์เปล่ากองอยู่บนโต๊ะหน้าจอโทรทัศน์ มันน่าจะกองอยู่หลายวันแล้ว และเจ้าของบ้านคงเอามากองเพิ่มอีกไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ล่ะ หล่อนไม่ชอบทำความสะอาดหรือ ในห้องแต่งตัวก็ด้วย เขาแทบจะหกล้มเพราะเหยียบโดนรองเท้าส้นสูงที่ทิ้งเกลื่อนอยู่ในนั้น
?อย่ามอง ฉันงานยุ่งจนไม่มีเวลาเก็บ แม่บ้านของฉันเพิ่งลาไปคลอดลูกน่ะ บ้านก็เลยเป็นแบบนี้?
เธอรีบออกตัวขณะเดินลงมาส่งเขาข้างล่าง บ้านของเธอไม่ใหญ่ไม่โต มีสองห้องนอนบนล่าง แต่มีห้องน้ำสามห้อง เธอจ้างแม่บ้านแบบไปกลับ ปกติมีเจ้าประจำแต่อีกฝ่ายเพิ่งคลอดลูกเมื่ออาทิตย์ก่อน และเธอไม่สะดวกใจให้คนอื่นมาทำ ช่วงนี้เลยต้องทำความสะอาดบ้านเอง แต่ว่า...อย่างที่รู้ เธองานยุ่ง ดื่มเก่ง และเมาปลิ้นแทบทุกวัน จะเอาเวลาที่ไหนมาทำความสะอาดล่ะ
?ให้ผมหาคนมาทำให้ไหม?
?หน้าที่นั้นเอาไว้คนที่เป็นแฟนเขาอาสาเถอะ คุณน่ะไม่ใช่?
ฌอร์ณรู้สึกแปลกๆ ยามได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ปล่อยผ่าน ในเมื่อหล่อนไม่ต้องการแล้วเขาจะคะยั้นคะยอไปทำไม
?งั้นผมกลับล่ะ รีบส่งข้อความมานะ ผมจะรอ? เขาเอ่ยยิ้มๆ
พิมาลาหน้าแดงใต้แสงสลัวของไฟในสวน แลเห็นรถเขาจอดอยู่ รถยุโรปเงาวับทั้งคัน ท่าทางคงแพง เขารวยหรือ ไม่สิ...เร็วไปที่จะสรุปอย่างนั้น ทุกวันนี้โลกมันเปลี่ยนไป คนรวยแสร้งว่าเป็นคนจน ส่วนคนจนแสร้งอวดรวยมีถม
เธอยืนมองจนเขาเกือบก้าวออกไปนอกรั้ว แล้วเหมือนเพิ่งนึกบางอย่างออก
?นี่คุณ เดี๋ยวสิ?
เขาหันมา ทำหน้างงๆ
?ว่าไงคนสวย?
?เอ่อ...คือ...คุณ...ชื่ออะไร? พิมาลาถามแล้วเม้มปากแน่น ก็นะ พวกเธอข้ามขั้นตอนระหว่างชายหญิงไปมากมาย น่าละอายไหมเล่าที่เธอเพิ่งนอนกับผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ
เขายิ้มกว้าง คล้ายมีเสียงหัวเราะตามมา เขาก้าวกลับมาหาเธอ คว้าเอวเธอแล้วดึงไปแนบชิด ทรวงอกที่ถูกคลุมไว้เพียงเสื้อคลุมกำลังเบียดกับแผ่นอกหนาอย่างจงใจ
?คุณนี่...น่ารักจริงๆ เพิ่งนึกได้หรือว่าควรรู้ชื่อผม? เขาถามยิ้มๆ
พิมาลาถลึงตาใส่ พยายามแกะมือไม้เขาที่พันเกี่ยวเอวคอด แต่ไม่สำเร็จ
?คุณก็เหมือนกันล่ะน่า?
?โอเคๆ ไม่เถียงก็ได้ที่รัก ผมชื่อ ฌอร์ณ ภัทรเวโรจน์ เรียกผมว่าฌอร์ณก็ได้ แล้วคุณล่ะ?
พิมาลาหรี่ตามอง เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ เจ้าเล่ห์ ขี้เล่น หรือว่าจอมเจ้าชู้ ยิ่งใบหน้าหล่อเหลานี้เวลายิ้มทีสาวๆ คงต่อแถวรอจีบเป็นขบวนแน่ๆ
?ฉันชื่อพิมาลา นามสกุลบอกไปคุณก็คงไม่รู้จัก เรียกฉันว่าบลูก็ได้ ง่ายดี?
?บลูเหรอ โอเค? ตอบแล้วยิ้ม มองใบหน้างามที่มีคราบเครื่องสำอางแล้วนึกเอ็นดู ริมฝีปากหล่อนบวมนิดๆ สีลิปสติกเลอะๆ นั่นดูตลกแต่เขากลับชอบใจ เพราะเขานั่นแหละที่ทำให้มันเป็นอย่างนั้น ถ้าได้จูบอีกสักที...
?จะทำอะไร? เธอถามเกรงๆ ในตอนที่ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้ามาใกล้
?ต้องตอบด้วยหรอ อีกไม่กี่วินาทีก็รู้อยู่ดี?
เขาเอ่ยอย่างนั้นแล้วโน้มใบหน้าลงมาหาจนสามารถจูบพิมาลาได้อย่างถนัดถนี่ เขาจูบหล่อนเนิ่นนาน จูบดูดดื่มแทบจะกลืนปลายลิ้นของอีกฝ่ายลงท้อง หล่อนทุบอกเขาอยู่ตุบๆ แต่ช่างปะไร ให้หล่อนทุบไปเถิด เจ็บเท่านั้นหรือจะสู้รสหวานที่กำลังจ้วงชิม
?นี่คุณ! จะฆ่าฉันเหรอฮะ! แฮกๆๆ?
แม่สาวเปรี้ยวหอบแฮกๆ เพราะหายใจไม่ทัน เขายังยิ้มเผล่อย่างสมใจ สองแขนยังกอดรัดร่างเธอราวกับเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
?ระหว่างที่ผมยังไม่มีแฟน คุณจะคิดว่าผมเป็นผู้ชายของคุณก็ได้นะคนสวย?
?ตลกละ รีบๆ กลับไปเลย?
แม้ถูกไล่แต่ใบหน้ายังกระจ่างด้วยรอยยิ้ม ฌอร์ณหอมแก้มพิมาลาอีกสองฟอดใหญ่ๆ หากใครไม่รู้จักเดินผ่านมาเห็นคงได้เข้าใจว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันแน่ๆ ทว่าทั้งสองต่างรู้ดีว่าความสัมพันธ์คราวนี้จะเป็นไปในลักษณะใด
สิ่งหนึ่งที่ต้องจดจำให้ขึ้นใจคือห้ามให้สิ่งที่เรียกว่าความรักเข้ามาทีอิทธิพลอย่างเด็ดขาด ความรักคือสิ่งต้องห้ามของความสัมพันธ์นี้ เพราะไม่ว่าจะเกิดกับฝ่ายหญิงหรือชาย หากเกิดขึ้นเพียงฝ่ายเดียวแล้วละก็ ความยุ่งเหยิงมันต้องตามมาอย่างแน่นอน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สามวันถัดมา
อิงคากับยายขมิ้นย้ายมาอยู่รีสอร์ตวารินทร์แล้ว ยายขมิ้นนั้นยังเจียมตนว่าเป็นคนจน ไม่กล้าแม้แต่จะร่วมโต๊ะกับครอบครัวของนายเหมือง นางจะเข้าไปกินข้าวปลาอาหารในครัวทุกมื้อกับสาวใช้ที่ดูแลเรือนให้เจ้านาย อิงคาเองก็เช่นกัน ถ้าวันไหนนายเหมืองกับนายหญิงไม่อยู่ เธอก็จะนั่งกินข้าวกับยายทั้งสอง ไม่หวังให้สามีเรียกหาแม้แต่น้อย เพราะตั้งแต่สามวันที่แล้วเขาก็ไม่เคยกลับมาค้างที่เรือนตัวเองเลย เขาคงค้างที่เรือนหลังใหญ่กระมัง เพราะสาวใช้บอกว่านายน้อยของพวกหล่อนเมากลับมาทุกคืน
เช้าวันนี้อิงคาชวนยายออกไปซื้อข้าวของ เธอดีใจที่มีเงินสดในเซฟมากพอให้ใช้จ่าย มันมากอย่างที่เธอไม่เคยสัมผัส เธอหยิบออกมาราวหนึ่งหมื่นบาท อาศัยรถรับจ้างที่วิ่งเข้ามาที่หน้ารีสอร์ตวันละสองรอบ เช้าค่ำ นั่งเข้าไปในเมือง
ตั้งแต่เช้ายันบ่าย อิงคาซื้อของมาได้จำนวนหนึ่ง เธอเลือกเฉพาะของที่จำเป็นจริงๆ เลือกที่คุณภาพดีราคาไม่แพงมากนักแต่ซื้อแล้วได้ใช้มันนานๆ เมื่อจัดการซื้อข้าวของเรียบร้อยก็พายายแวะร้านอาหารที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า
?กินเยอะๆ นะยาย วันนี้อิงคาเลี้ยงยายเอง?
หญิงสาวยิ้มให้คนที่เลี้ยงเธอมาแต่เล็กแต่น้อย ยายขมิ้นมองเห็นความสุขบนใบหน้าหลานสาวแล้วก็พูดไม่ออก นางไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ได้แต่หวังลึกๆ ว่านายเหมืองกับนายหญิงจะเอ็นดูอิงคาบ้างก็เท่านั้น เพราะนางคงอยู่ดูหลานเติบใหญ่ได้อีกไม่นาน นางรู้ตัวเองดี




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ใครจะคาดคิดว่าแม่สาวบ้านป่าอย่างอิงคา อินทนิล จะอาจหาญสร้างเรื่องโกหกว่าตกเป็นเมียของนายน้อยสายหมอก แห่งรีสอร์ตวารินทร์ ในขณะที่ชายหนุ่มเมามายไม่ได้สติจนต้องยอมรับเธอเป็นเมียในที่สุด แม้คราแรกจะยังไม่แน่ใจว่าเขาได้แม่กุลาบ้านป่านี่เป็นเมียจริงหรือไม่ แต่สัมผัสสวาทครั้งถัดมาก็เปิดเผยความจริงให้รู้ว่าหญิงสาวโกหก แต่ก็เหมือนตกหลุมพรางซ้ำสองเมื่อตอนนี้เธอเป็นเมียเขาจริงๆ ไปแล้ว ถึงจะมิได้รักใคร่ไยดีหากทว่าทุกทิวาราตรีเขากลับเฝ้าตักตวงความสุขจากเธอ ฝั่งหญิงสาวก็หวังเพียงความสบาย แต่สุดท้ายหัวใจดันกลับกลายเป็นของเขา

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”