New Release BLY แปล : เหมันต์หวนรัก

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : เหมันต์หวนรัก

โพสต์ โดย Gals »

บทที่หนึ่ง

หิมะแรกแห่งเหมันต์โปรยปราย เมืองหย่งอันทั้งเมืองปกคลุมไปด้วยสีขาวเย็นเยียบ อากาศหนาวนัก พายุหิมะผสานกับสีแห่งราตรีคลุมพื้นที่ในจวนอ๋องเอาไว้ด้วยเงามืดสีขาวเทา
โจวเหยี่ยนเพิ่งกลับมาจากวัง ในมือของเขาถือกล่องไม้หนานสีชาดขนาดกว้างประมาณหนึ่งนิ้วมือยาวครึ่งเชียะ
โจวอันต้อนรับเขาที่เข้าไปในลานบ้านแล้วยื่นมือมาจะรับของในมือ แต่เขาชักมือกลับแล้วถาม ?ใต้เท้าซ่งนอนแล้วหรือยัง?
โจวอันค้อมกายถวายคำนับแล้วตอบ ?ยังพ่ะย่ะค่ะ เมื่อครู่คุณชายน้อยร้องไห้โวยวายยกใหญ่ ใต้เท้าจึงต้องไปปลอบพ่ะย่ะค่ะ?
โจวเหยี่ยนส่งเสียง ?อืม? คำหนึ่ง แล้วเดินไปที่เรือนตะวันตกโดยยังไม่คลายเสื้อตัวนอกออก
ซ่งหว่านซานเพิ่งจะกล่อมจนลูกหลับไป ดูท่าลูกจะรู้สึกไม่ค่อยสบายท้องจึงร้องเสียงดังหนวกหู เขาเพิ่งผ่อนลมหายใจออกก็ได้ยินเสียงผลักประตูเปิด ทำให้ทั้งร่างแข็งค้างไปชั่วครู่
คนที่จะบุกเข้ามาในห้องของเขาตอนดึกดื่นค่อนคืนโดยไม่บอกกล่าวทักทายได้ ก็มีเพียงท่านอ๋องอย่างโจวเหยี่ยนเท่านั้น
โจวเหยี่ยนเดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู จากนั้นเดินมานั่งลงหน้าโต๊ะ รินชาร้อนให้ตนเองแล้วถือเอาไว้เพื่อให้มืออุ่น
หลังจากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองซ่งหว่านซานที่ยืนอยู่ข้างเตียง ซ่งหว่านซานยืนตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่งจึงเดินมาหาโจวเหยี่ยนแล้วเอ่ย ?ท่านอ๋อง?
โจวเหยี่ยนส่งเสียง ?อืม? คำหนึ่งเพื่อขานตอบก่อนส่งกล่องไม้หนานให้ซ่งหว่านซาน ?ฝ่าบาทพระราชทานมา เป็น ?ใบอู่พี? ที่ทางเหนือเพิ่งส่งมา ข้าถามจางเหวินแล้ว เขาบอกว่ามันมีผลดีต่ออาการป่วยของจื่อหวา เจ้ารับไว้เถอะ เวลาจำเป็นก็ค่อยใช้?
ซ่งหว่านซานชะงักเล็กน้อยก่อนยื่นมือไปรับกล่องนั้นมา เขาเอ่ย ?ท่านอ๋องเอาใจใส่เกินไปแล้ว?
โจวเหยี่ยนจิบน้ำชา ไม่ได้ต่อคำ ซ่งหว่านซานก็ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน
โจวเหยี่ยนวางถ้วยในมือลง พูดไปตามเรื่องตามราว ?วันนี้จื่อหวาทำตัววุ่นวายรึ?
ซ่งหว่านซานบีบกล่องในมือ ?น่าจะเพราะกินอะไรเข้าไปแล้วทำให้ท้องเสียเลยวุ่นไปพักหนึ่ง แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว?
โจวเหยี่ยนลุกขึ้นเอ่ย ?มีปัญหาอะไรก็ไปหาจางเหวิน ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น อยากใช้อะไรก็ใช้ได้เต็มที่?
ซ่งหว่านซานชะงักเล็กน้อยแล้วพูด ?ขอบคุณท่านอ๋อง?
โจวเหยี่ยนก้าวเท้าออกไปนอกห้องโดยไม่ได้เอ่ยรับ ซ่งหว่านซานคล้ายรู้สึกว่ามีบางสิ่งแปลกไป เขามองโจวเหยี่ยนเดินไปถึงประตูแล้วก็ตัดสินใจตะโกนเรียก ?ท่านอ๋อง...?
โจวเหยี่ยนชะงัก หันกลับมามอง ซ่งหว่านซานจับแขนเสื้อเอาไว้แล้วว่า ?ท่านอ๋องจะไม่มาแล้วใช่หรือไม่?
โจวเหยี่ยนตอบ ?อืม? จากนั้นก็รู้สึกได้ว่าคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังผ่อนลมหายใจอย่างแรง น้ำเสียงก็ฟังดูผ่อนคลายลงเล็กน้อยขณะเอ่ย ?เช่นนั้นท่านอ๋องรีบไปพักผ่อนเถิด?
โจวเหยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย เดินมุ่งไปทางออกจากห้องทีละก้าว เมื่อเดินถึงประตูก็หันกลับมาอีก ?อีกครู่หนึ่งเจ้ามาหาข้าด้วย?
เขาไม่ต้องมองก็รู้ว่าคนข้างหลังต้องตัวแข็งทื่อขึ้นมาโดยพลันเป็นแน่ นานทีเดียวกว่าจะได้ยินคำตอบรับ คนผู้นั้นเอ่ย ?ขอรับ?

จันทร์เพ็ญสะท้อนลงบนบานหน้าต่าง ในห้องสว่างกระจ่างตาทุกซอกทุกมุม ม่านสีแดงหนาหนักปิดบังข้างเตียงเอาไว้ มันทอดยาวลงมาถึงพื้น ขยับไหวเป็นเสียงแผ่วเบา ด้านนอกหิมะตกลงมาทับถมปกคลุมต้นไม้ บางครั้งก็จะได้ยินเสียงลม
นิ้วของซ่งหว่านซานเลือดออกแล้ว เขาจิกฟูกที่อยู่ใต้ร่างแรงเกินไปทำให้เล็บหัก มีเลือดออกมาจากร่องเล็บแต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวด
เขาถูกโจวเหยี่ยนโยกคลอนจนรู้สึกวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย ความคิดฟุ้งซ่านเลือนราง โจวเหยี่ยนประชิดเข้ามาอย่างสุดแรงจนร่างของซ่งหว่านซานสะท้าน เขาร้องฮือแล้วก็ได้สติ
โจวเหยี่ยนมองตาเขา ในดวงตานั้นมีโทสะอยู่เล็กน้อย เขาเบี่ยงสายตาหลบด้วยคิดสิ่งใดอยู่ในใจแต่กลับถูกโจวเหยี่ยนจับหน้าหันกลับมาอีกครั้ง จากนั้นก็จุมพิตลงบนริมฝีปาก
โจวเหยี่ยนกัดเขาเหมือนกำลังไต่เต้าถึงจุดหมาย ซ่งหว่านซานตัวแข็งทื่อ รู้สึกถึงส่วนร้อนจัดที่เพิ่งสุขสมไปครั้งหนึ่งว่าค่อยๆ ฟื้นกำลังขึ้นอีกครั้ง
ซ่งหว่านซานคิดจะจบครั้งที่สองให้ได้โดยเร็ว สิ่งที่อยู่ด้านหน้าของเขาเองก็ทรมาน แต่โจวเหยี่ยนไม่ยอมให้เขาทำอะไรกับสิ่งนั้นจนเขาแทบทนไม่ไหวแล้ว
ด้วยเหตุนั้นเขาจึงค่อยๆ เปิดปากให้ลิ้นของโจวเหยี่ยนเข้ามา โจวเหยี่ยนชะงักเล็กน้อยแล้วจุมพิตเขาอย่างยินดี มือหนึ่งเคลื่อนมาจับมือของเขาแต่ก็คลำไปพบความเหนียวหนืดเลยหยุดการกระทำทันที
โจวเหยี่ยนปรับแสงตะเกียงที่หัวเตียงให้สว่างขึ้นแล้วอุ้มซ่งหว่านซานให้ลุกขึ้นนั่งทันที สิ่งนั้นพลันฝังลึกอย่างที่สุด ซ่งหว่านซานร้องเสียงดัง แต่โจวเหยี่ยนไม่สนใจ เพียงอาศัยแสงเทียนมองดูมือของเขาให้ถี่ถ้วน
ซ่งหว่านซานรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เขาแอบคิดว่าจะใช้อีกมือหนึ่งลูบคลำตนเองเสีย แต่จู่ๆ ก็มองเห็นใบหน้าเย็นชาของโจวเหยี่ยนขึ้นมาท่ามกลางแรงปรารถนาอันเลือนราง เมื่อนั้นเขาจึงได้สติเต็มที่
โจวเหยี่ยนมองมือของเขาอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ถาม ?ใต้เท้าซ่งเคยไปกรมราชทัณฑ์หรือไม่?
ซ่งหว่านซานค่อยๆ ดึงมือข้างนั้นกลับแล้วว่า ?ไม่เคย?
โจวเหยี่ยนจับมือข้างนั้นของเขาเอาไว้แน่น ?ในกรมราชทัณฑ์มีการลงโทษอย่างหนึ่งที่เรียกว่าตอกเล็บ เขาจะใช้ไม้ไผ่ที่เหลาจนแหลมเล็กแทงเข้าไปในเล็บของคน แทงเข้าไปทั้งสิบนิ้ว ผู้รับโทษจะรู้สึกเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่?
ซ่งหว่านซานตัวแข็งทื่อไปแล้วแต่กลับสั่นสะท้านขึ้นมาเบาๆ เขาใช้มือข้างที่ยังดีอยู่ค่อยๆ กันโจวเหยี่ยนเอาไว้ จากนั้นเอ่ย ?ท่านอ๋อง หว่านซานผิดไปแล้ว?
โจวเหยี่ยนแค่นเสียงอย่างเย็นชา กอดซ่งหว่านซานอย่างแรงจนซ่งหว่านซานร้องเฮือกก่อนจะเอ่ยอย่างกระท่อนกระแท่น ?ท่านอ๋อง...เร็วหน่อย...?
โจวเหยี่ยนกลับไม่ยอมขยับอีก เพียงเอ่ยว่า ?ใต้เท้าซ่งรังเกียจข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงกับยินยอมให้นิ้วมือบาดเจ็บด้วยการจิกทึ้งฟูกนั่นแทนที่จะยอมกอดข้า?
ซ่งหว่านซานรู้ว่าโจวเหยี่ยนกำลังโกรธจริงๆ แล้ว เขารีบใช้มือคล้องคอของโจวเหยี่ยนเอาไว้แล้วขยับสองสามครั้งก่อนจะว่า ?ข้าผิดไปแล้ว หว่านซานผิดไปแล้ว?
โจวเหยี่ยนทำเหมือนจะให้เขาลงจากเตียงไม่ได้สักสองวัน จนสุดท้ายซ่งหว่านซานแทบไม่เหลือแรง ยามอยู่บนเตียงซ่งหว่านซานหวาดกลัวโจวเหยี่ยนยิ่งนัก เขาไม่กล้ายั่วยุ ทั้งร่างราวกับไร้ชีวิต ได้แต่หวังให้โจวเหยี่ยนเบื่อและปล่อยเขาไป
ก่อนหน้านี้สองสามครั้งยังนับว่าราบรื่นดี แต่ไม่รู้ว่าวันนี้โจวเหยี่ยนเป็นอะไรถึงเหมือนต้องการบีบเขาให้ตอบสนองกลับให้ได้
โจวเหยี่ยนเห็นคนในอ้อมอกดูสับสนเคว้งคว้างก็ถอนหายใจในใจเบาๆ แล้วยื่นมือไปทาบบนของร้อนของซ่งหว่านซาน ลมหายใจของซ่งหว่านซานพลันหนักหน่วงขึ้นทันที มือที่คล้องคอของเขาอยู่ยิ่งจับแน่นขึ้นเรื่อยๆ และไม่นานก็สมปรารถนา
ชั่วขณะนั้นไฟราคะที่เพิ่งสงบลงไปของโจวเหยี่ยนกลับมาปะทุอีกครั้ง เขามองคนที่นอนซบอยู่ที่ไหล่ตนอย่างง่วงงุนแล้วว่า ?ถือเสียว่าเป็นการลงโทษ ทำจนฟ้าสว่างก็แล้วกัน?
เนื้อนุ่มที่อกถูกริมฝีปากซึ่งเย็นเล็กน้อยของโจวเหยี่ยนครอบครอง ซ่งหว่านซานหายใจเฮือกเบาๆ ก่อนจะถูกรุกรานอย่างแข็งแกร่งและคุ้นเคย
เขาไม่รู้ว่าโจวเหยี่ยนสบสุขไปกี่ครั้ง รู้เพียงร่างของตนเปียกแฉะจนร้อนใจอยากจะหลีกลี้ไปเหลือเกิน
เพียงแต่เขาไม่มีแรงแม้เสี้ยวหนึ่งจนอยากจะหมดสติไปเสีย แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทุกครั้งที่เริ่มเหม่อลอยก็จะได้สติและตอบรับจนถึงที่สุดเสมอ เขามองโจวเหยี่ยนอุ้มเขาไปล้างตัวในอ่างอาบน้ำ บางครั้งยามอยู่ในอ่างอาบน้ำก็ยังทำอีกครั้งหนึ่ง
หนังตาหนักขึ้นทุกขณะ เขาเห็นว่าข้างนอกมีแสงสว่างแล้วจึงรู้ว่าฉากสวาทนี้ใกล้ถึงจุดจบ ด้วยเหตุนั้นเขาเลยผ่อนคลายลงแล้วค่อยๆ หลับไป
โจวเหยี่ยนมองเขาแล้วถอนหายใจอย่างไม่อาจทำอันใดได้ จากนั้นก็ให้โจวอันเอายาเข้ามาเพื่อใส่ที่นิ้วซ่งหว่านซานก่อนจะพันแผลให้อย่างระมัดระวัง
แล้วจึงสวมชุดขุนนางไปออกท้องพระโรงยามเช้า




บทที่สอง

เมื่อซ่งหว่านซานตื่นขึ้นก็เป็นยามซื่อ แล้ว เวลานี้คาดว่าจื่อหวาคงตื่นนานแล้วจึงส่งเสียงดังวุ่นวาย
เขารีบลุกขึ้น คิดจะย้อนกลับไปดู ที่ผ่านมาก็ทำเรื่องเช่นนั้นที่ห้องนี้ทั้งสิ้นแต่ก็ไม่ได้ทำเนิ่นนานถึงเพียงนี้ เขายังพอมีแรงดูแลจื่อหวาอยู่ แต่วันนี้กลับตื่นสายเสียได้
เอวของเขาเจ็บปวดสาหัสนัก สองขาสั่นสะท้าน ซ่งหว่านซานยืนไม่ค่อยมั่นคง เขาเพิ่งจะเดินลากเท้าสองก้าวไปหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่บนเก้าอี้ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่นอกประตู
เขาตื่นตระหนกเล็กน้อย คิดว่าโจวเหยี่ยนน่าจะมาแล้ว แต่บนกายของเขายังมิได้สวมสิ่งใดทั้งสิ้นจึงรีบขึ้นไปบนเตียงท่ามกลางความตื่นตระหนกนั้น ทำให้บาดแผลที่ด้านหลังดึงรั้ง เจ็บปวดจนต้องหอบหายใจ
โจวเหยี่ยนอุ้มจื่อหวาเดินเข้าห้องมาก็เห็นซ่งหว่านซานนั่งอยู่บนเตียงกำลังหอบหายใจ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วว่า ?ไม่สบายหรือ เป็นไข้หรือ?
ซ่งหว่านซานปัดมือที่มานาบบนหน้าผากออกแล้วว่า ?ไม่มีอะไร เมื่อครู่ข้าตื่นขึ้นมาเหงื่อท่วมตัว? จากนั้นเขาก็สวมเสื้อผ้าอย่างเขินอาย แล้วรับตัวจื่อหวามาก่อนจะเอ่ยขอบคุณโจวเหยี่ยน
โจวเหยี่ยนกลับไม่ได้สนใจเขา เพียงตะโกนเสียงดังให้โจวอันยกข้าวต้มเข้ามา
ซ่งหว่านซานกินข้าวต้มชามนั้นเรียบร้อยก็เล่นกับจื่อหวาแล้วอาศัยโอกาสนี้เตรียมกลับห้อง แต่กลับถูกโจวเหยี่ยนขวางเอาไว้ เขาอุ้มจื่อหวาออกไปส่งให้โจวอัน ให้โจวอันเอาไปส่งให้จางเหวิน
ซ่งหว่านซานออกปากห้ามแต่กลับไร้ผล
โจวเหยี่ยนส่งจื่อหวาออกไปแล้วก็ปิดประตู เขามองซ่งหว่านซานที่ดูตื่นตระหนกเล็กน้อยแล้วว่า ?ไม่อยากอยู่ในห้องของข้าแม้สักน้อยหนึ่งเชียวหรือ?
ซ่งหว่านซานช้อนตาขึ้นมองเขา โจวเหยี่ยนยืนอยู่ข้างเตียง มองดวงตาที่ดูสั่นไหวเล็กน้อยของซ่งหว่านซาน ในใจรู้สึกแสบคันนัก เขายื่นมือไปบีบคางซ่งหว่านซาน บังคับให้สบตาตน และเอ่ยอย่างตัดพ้อ ?เกลียดข้าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?
ซ่งหว่านซานนิ่งงัน หลุบตาลงเนิ่นนานทีเดียวกว่าจะเอ่ย ?ไม่ได้เกลียด?
ดวงตาที่หม่นหมองของโจวเหยี่ยนพลันส่องประกาย เขาจ้องซ่งหว่านซานเขม็งแล้วว่า ?พูดอีกครั้งสิ?
ซ่งหว่านซานค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกแล้วพูด ?ข้าเพียงแค่กลัวท่านอยู่บ้าง และรังเกียจที่จะทำเรื่องเช่นนั้นอยู่บ้าง...?
ดวงตาของโจวเหยี่ยนที่เพิ่งส่องประกายวาบขึ้นมากลับหม่นแสงลงเล็กน้อยอีกครั้ง ซ่งหว่านซานรู้สึกได้ ทว่าโจวเหยี่ยนก็คล้ายอารมณ์ดีขึ้นมากะทันหัน เขาถอดรองเท้า คลายเสื้อตัวนอกออกแล้วขึ้นไปบนเตียง ดึงซ่งหว่านซานเข้ามาในอ้อมกอด
อ้อมกอดนี้ทำให้เขาพลันรู้สึกได้ว่าร่างของซ่งหว่านซานเย็นเยือกยิ่งนัก อากาศยามเหมันต์พร่างพรม แม้อยู่ในห้องที่วางถ่านให้ความอบอุ่นเอาไว้มากมายเพียงใดก็ยังทำให้รู้สึกเหน็บหนาวเล็กน้อยอยู่ดี ซ่งหว่านซานสวมเพียงเสื้อตัวในนั่งอยู่บนเตียงนานถึงเพียงนี้ โจวเหยี่ยนโทษว่าตนเองไม่ละเอียดรอบคอบ ถึงไม่ฉุกใจจนกระทั่งบัดนี้
เขารีบจับซ่งหว่านซานซุกเข้าในผ้าห่ม ตัวเขาเองก็ซุกตัวเข้าไปนอนกอดเอาไว้ด้วยพลางว่า ?ข้างนอกลมเหมันต์แรงนัก ทำการใดไม่ได้หรอก พักผ่อนเป็นเพื่อนข้าหน่อยเถิด? เขาเว้นวรรค จุมพิตใบหน้าของซ่งหว่านซานแล้วเอ่ย ?เมื่อคืนเหน็ดเหนื่อยเกินไปแล้ว?
ซ่งหว่านซานหน้าแดงซ่านอย่างรุนแรง จากนั้นได้แต่หลับตาแสร้งทำเป็นหลับใหลด้วยกลัวว่าโจวเหยี่ยนจะทำเรื่องเช่นนั้นอีก
เมื่อคืนอาจเหนื่อยหนักหนานัก โจวเหยี่ยนจึงหลับไปอย่างรวดเร็ว ซ่งหว่านซานช้อนตาขึ้นมองเขาครู่หนึ่งก็ถอนหายใจเบาๆ
ซ่งหว่านซานหลับตาหากแต่นอนไม่หลับ จู่ๆ ก็นึกถึงหลินโย่วเวยขึ้นมา
เขานึกถึงเมื่อครั้งเพิ่งสอบจอหงวน ภาพรถม้าแล่นไปมาบนถนน สีแดงแสบตาเต็มไปหมด คล้ายภาพเมื่อครั้งที่เขากับหลินโย่วเวยแต่งงานกัน






+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ซ่งหว่านซานสอบผ่านเป็นถึงจอหงวน แต่ชีวิตที่สดใสและรุ่งโรจน์กลับมลายหายไปพร้อมความสูญสิ้นของตระกูลภรรยาซึ่งต้องอาญาแผ่นดิน เขาหวังเพียงว่าจะสามารถสืบหาความจริงให้กระจ่างในสักวัน แม้ต้องยอมมอบกายให้กับโจวเหยี่ยนก็ตาม ทว่าแม้โจวเหยี่ยนจะเป็นถึงหย่งอันอ๋อง พี่น้องร่วมอุทรของฮ่องเต้ การที่จะปกป้องเขาและลูกก็หาใช่เรื่องง่าย เพราะราชสำนักตกอยู่ในกำมือของแม่ทัพใหญ่หลี่ลู่อันแทบทั้งหมด มิหนำซ้ำยิ่งเบาะแสในมือมีเพิ่มมากขึ้นเท่าใด ความจริงกลับเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถแบกรับไว้ได้...


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”