New Release BLY แปล : NEARLY EQUAL เมื่อรักของเราไม่เท่ากัน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : NEARLY EQUAL เมื่อรักของเราไม่เท่ากัน

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ


ค.ศ.2005
PROLOGUE 2005


สิ่งที่นึกออกเป็นอย่างแรกคือริมฝั่งแม่น้ำซึ่งมีต้นซากุระบานสะพรั่ง...
?แม่น้ำสายนั้นชื่อว่า ?แม่น้ำทะโค? นะจ๊ะ?
นิอิจับมือกับแม่ที่มารับและเดินไปตามชายฝั่งของแม่น้ำสายนี้บ่อยครั้ง แม่กางร่มสีขาวปักลายดอกไม้ ส่วนเขาใส่เสื้อกันฝนสีฟ้าและหมวกสีเหลืองของโรงเรียนอนุบาล
?มีทะโกะ (หมึกยักษ์) อยู่ในแม่น้ำเหรอ?
?ทะโคจ้ะ? แม่ผุดยิ้มตอบคำถามของนิอิในวัยเด็ก
?คำนี้แปลว่าความสุขมีอยู่มากมายนะ?
?ความสุขหมายถึงอะไร?
?หมายถึงเรื่องสนุก เรื่องน่าดีใจ เรื่องที่แม่ได้จูงมือยาสุอากิเดินกลับบ้านแบบนี้ เรื่องที่ลูกจะได้กินพุดดิงกับแม่ที่บ้าน เรื่องที่เราสามคนรวมคุณพ่อด้วยได้ไปเที่ยวสวนสนุกในวันอาทิตย์?
?พ่อ แม่ พุดดิง แล้วก็สวนสนุกจะไหลไปกับแม่น้ำเหรอ?
?เป็นแม่น้ำที่วิเศษไปเลยใช่ไหมล่ะจ๊ะ?
?ผมไม่อยากให้พ่อกับแม่ลอยไปกับน้ำ?
เมื่อเห็นลูกน้อยทำปากยื่น ผู้เป็นแม่ที่กางร่มกันฝนอยู่ก็หรี่ตามองด้วยความรักใคร่
แสงแดดสดใสในฤดูใบไม้ผลิ กลีบดอกซากุระโปรยปราย ดอกนาโนะฮานะสีเหลืองและกุหลาบป่าสีชมพูเข้มกำลังบานสะพรั่งบนริมฝั่งแม่น้ำ ผีเสื้อหนอนกะหล่ำเล็กบินผ่านหน้าไป โลกของนิอิสว่างไสวและงดงาม
ผ่านไปสามปีหลังจากนั้น พ่อกับแม่ก็กระโดดลงไปในแม่น้ำที่มีความสุขไหลอยู่มากมายในคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก ทั้งคู่ไหลไปยังที่อันแสนไกลจนมือของนิอิตัวน้อยเอื้อมไม่ถึง
พวกเขาฆ่าตัวตายเพราะบริษัทที่พ่อบริหารอยู่ล้มละลายจนมีหนี้ก้อนโต ทีแรกพวกเขาจะพานิอิไปด้วยแท้ๆ แต่แม่คัดค้านเอาตอนจวนเจียน
?ขอโทษนะจ๊ะ ยาสุอากิ อย่าลืมพ่อกับแม่นะ?
หลังร้องไห้กอดนิอิ เธอก็ได้สติแล้วพูดแก้
?ไม่ได้นะ ลืมพ่อกับแม่ซะคงจะดีกว่าจริงๆ ขอให้ชีวิตของยาสุอากิมีความสุขตลอดไป ได้รักคนเยอะแยะ และได้รับความรักจากคนมากมายเลยนะ?
แม่กอดนิอิไว้แน่น ส่วนพ่อยืนเหม่ออยู่ห่างออกไปเล็กน้อย
?แม่กับพ่อจะไปไหน ผมจะไปด้วย?
เด็กชายวิ่งตามทั้งสองคนที่เดินออกจากบ้าน ทว่าประตูกลับปิดลงอย่างอ่อนโยนตรงหน้า
หลังจากพ่อแม่ล่วงลับ ครอบครัวของน้ากับน้าเขยก็รับเขาไปดูแล พวกเขาไม่ใช่คนไม่ดี แต่ท่าทีของทั้งคู่ที่มีต่อนิอิและมิจิรุซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวก็แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นิอิในวัยเยาว์เติบโตมาโดยเว้นระยะห่างเล็กน้อยขณะมองภาพของ ?ครอบครัว? ที่ตัวเองสูญเสียไปแล้ว
มิจิรุสารภาพรักกับเขาช่วงหยุดฤดูใบไม้ผลิหลังเลื่อนขึ้นชั้นมัธยมห้า นิอิสัมผัสได้ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นนิดหน่อยแล้วว่ามิจิรุชอบตน แต่เขาก็รู้ตัวว่าตนรักผู้หญิงไม่ได้ จึงปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวลโดยไม่อาจชี้แจงตามตรง มิจิรุเจ็บช้ำ เลยโพล่งออกมาว่านิอิมองเธอด้วยสายตาลามก ไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับเขาไปมากกว่านี้ น้าเขยผู้รักลูกสาวคนเดียวดั่งแก้วตาจึงโกรธจัดและไล่นิอิออกจากบ้าน
?เรื่องกลายมาเป็นแบบนี้ น้าก็ไม่รู้จะสู้หน้าพี่สาวได้อย่างไร?
น้าคงรู้อยู่แล้วกระมังว่ามิจิรุต่างหากที่เป็นฝ่ายชอบนิอิ จึงเอ่ยขอโทษเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
?เรื่องเรียนต่อไม่ต้องห่วงนะ น้าจะรับผิดชอบเรื่องนั้นให้เรียบร้อย?
?ขอบคุณครับ น้า ขอโทษที่น้าต้องมาขมขื่นเพราะผมนะ?
นิอิทำได้เพียงก้มศีรษะขอโทษน้าผู้ต้องกลายมาเป็นคนกลางระหว่างครอบครัวและเขา
เขาย้ายไปอาศัยอยู่คนเดียวด้วยวัยสิบเจ็ดปีในห้องที่เช่าด้วยชื่อของน้าเขย น้ามาดูความเป็นอยู่ของเขานานๆ ครั้ง แต่ไม่ว่าจะสิ้นปีหรือขึ้นปีใหม่ นิอิก็ต้องอยู่ตามลำพังในอะพาร์ตเมนต์เก่าๆ
เด็กหนุ่มมองจากหน้าต่างลงไปยังแม่น้ำทะโค สิ่งที่เขาทำเป็นประจำคือหันหลังให้ห้องอันไร้ชีวิตชีวาและมีข้าวของแค่นิดหน่อย แล้วมองแม่น้ำที่กล่าวกันว่ามีความสุขมากมายไหลอยู่

นิอิพบซาดะเป็นครั้งแรกที่ร้านสะดวกซื้อที่ตนเริ่มทำงานพิเศษช่วงวันหยุดฤดูร้อน
แต่ครั้นจะเรียกว่าพบเป็นครั้งแรกก็อาจจะไม่ถูกต้องนัก เพราะซาดะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยผู้มีประสบการณ์ระดับสามารถสอนสมาชิกชมรมยิงธนูของโรงเรียนมัธยมปลายที่นิอิเรียนอยู่ได้เลยทีเดียว นิอิอยู่ชมรมกลับบ้าน จึงไม่มีโอกาสให้ข้องแวะกับอีกฝ่าย ถึงกระนั้นก็รู้ว่าใบหน้าที่มองแล้วสดชื่นของซาดะได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนหญิง
?ดึกขนาดนี้ยังมาเข้ากะอีกเหรอ?
มีคนเอ่ยทักตอนนิอิกำลังเติมสินค้า พอหันกลับไปก็เห็นซาดะยืนอยู่ตรงนั้น
?โรงเรียนไม่ได้มีกฎห้ามทำงานตอนดึกๆ หรอกเหรอ?
?ขะ ขอโทษครับ ทางร้านบอกว่าคนไม่พอจริงๆ ก็เลยให้ผมเข้างานดึกเฉพาะวันนี้?
ปกตินิอิจะเข้ากะตั้งแต่ช่วงเย็น
?ไม่ได้เข้างานดึกเป็นประจำเหรอ?
?ครับ?
?งั้นฉันจะทำเป็นไม่เห็นก็แล้วกัน?
นิอิโล่งอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้มสบายๆ
?โทษทีที่ทำให้ตกใจนะ ฉันแค่หาโอกาสชวนเธอคุยเท่านั้นละ?
?เอ๊ะ??
?เธอเรียน ม.ปลาย ที่ทามะโคใช่ไหมล่ะ ฉันเดินสวนกับเธอที่ทางเข้าตึกเรียนหลายหนแล้ว หน้าตาเธอสวยกว่าเด็กผู้หญิง ฉันเลยจำเธอได้ แต่ก็กลัวว่าถ้าตีสนิทชวนเธอคุย เธอจะคิดว่าฉันเป็นลุงน่ารำคาญน่ะนะ?
?ผมไม่คิดแบบนั้นหรอกครับ?
?งั้นก็ดีแล้ว?
ซาดะผงกศีรษะ บทสนทนาขาดช่วงลงตรงนั้น นิอิก้มหน้าตามประสาคนคุยไม่เก่ง
?นิอิ?
เขาเงยหน้าเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อ
?ชื่อเธออ่านว่าอย่างนั้นเหรอ?
ซาดะชี้มาที่ป้ายชื่อบนอกของนิอิ
?อ๊ะ ใช่ครับ?
?ชื่อเหมือนแมวเลยนะ?
ซาดะกล่าวก่อนจะร้องนี~นี~ เลียนแบบเสียงร้องของแมว นิอิอมยิ้มเพราะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนตลกดี ซาดะจึงยิ้มให้เขาด้วย นักเรียนหญิงจะพากันกรี๊ดกร๊าดก็เข้าใจได้ รอยยิ้มของเจ้าตัวดูสดใสจริงๆ
?บ้านอยู่ใกล้แถวนี้เหรอ?
?ขี่จักรยานประมาณสิบนาทีครับ?
?กลับบ้านมืดๆ ระวังตัวด้วยนะ?
?ครับ?
ซาดะเอ่ยว่าฉันไปก่อนนะ จากนั้นก็ถือตระกร้าที่มีเบียร์ใส่อยู่ไปทางเครื่องคิดเงิน
บทสนทนาไม่ได้มีอะไรเลย แต่ไม่มีใครเอาใจใส่ตนมานานแล้ว นิอิจึงทบทวนคำพูดของซาดะระหว่างทางกลับบ้านตอนกลางคืน กลับบ้านมืดๆ ก็ระวังตัวด้วยนะ กลับบ้านมืดๆ ก็ระวังตัวด้วยนะ
?หน้าตาเธอสวยกว่าเด็กผู้หญิง ฉันเลยจำเธอได้?
หูของนิอิเพิ่งมาร้อนวาบมากขึ้นเรื่อยๆ เอาป่านนี้เมื่อนึกถึงคำพูดนั้นขึ้นมา เขาอายที่ตัวเองเป็นแบบนี้ จึงถีบคันเหยียบจักรยานแรงขึ้น
นอกจากไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตอนกลางวันและทำงานเป็นโค้ชภาคสนามที่โรงเรียนมัธยมปลาย ซาดะก็ทำงานพิเศษที่ยิมแห่งเดียวในเมืองด้วย หลังสามทุ่มเขามักมาซื้อเบียร์กับอาหารเย็นที่ร้านสะดวกซื้อที่นิอิทำงานอยู่
?เวลามีใครรู้ว่าเรากินอะไรเป็นประจำ มันน่าอายอย่างไรก็ไม่รู้นะ?
ซาดะชวนคุยอย่างเป็นกันเองทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ส่วนนิอิจะแค่อมยิ้มเสมอ อดคิดไม่ได้ว่าถ้าตนมีไหวพริบพอจะตอบอะไรกลับไปเพื่อให้บทสนทนาลื่นไหลได้ก็คงดีแท้ๆ
?เบียร์ออกใหม่นี่อร่อยหรือเปล่า?
แม้จะพูดไม่เก่ง แต่ในวันนั้นนิอิก็ตอบได้
?รสเบาๆ ดื่มง่ายดีนะครับ?
ซาดะได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าลำบากใจ
?เวลาใครถามแบบนั้น เธอต้องตอบว่า ?ผมเป็นผู้เยาว์ ยังดื่มไม่ได้ครับ? สิ?
?อ๊ะ...?
แย่ละสิ ความที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาพักใหญ่ เด็กหนุ่มจึงลองดื่มเพื่อคลายเหงา แล้วหลังจากนั้นก็ติดใจจนดื่มมาเรื่อยๆ พอนิอิก้มศีรษะกล่าวคำขอโทษ อีกฝ่ายก็หลุดหัวเราะ
?ฉันไม่ใช่อาจารย์สักหน่อย ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอก?
?...แต่ผมก็ขอโทษอยู่ดีครับ?
เมื่อเห็นเขาเอาแต่ก้มหน้า ซาดะก็เอ่ยขึ้นอย่างยอมแพ้
?ฉันแค่ส่งลูกให้ตีกลับมาได้ง่ายๆ เพราะอยากคุยกับนิอิคุงหรอกนะ?
พอนิอิเงยหน้าด้วยความประหลาดใจ อีกฝ่ายก็ยื่นมือข้ามเคาน์เตอร์ที่มีเครื่องคิดเงินวางอยู่
?ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ?
เด็กหนุ่มยืนตัวแข็งทื่อขณะที่อีกฝ่ายเอามือขนาดใหญ่ขยี้ผมตน
ไม่มีใครสัมผัสเขาแบบนี้มากี่ปีแล้วหนอ
หลังจากที่ซาดะกลับไป นิอิก็เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกและทรุดลงนั่งยองๆ ด้านในเคาน์เตอร์ เขาอดกลั้นไม่ให้บางสิ่งเอ่อล้นออกมา พร้อมกันนั้นก็รู้สึกตัวว่าตนตกหลุมรักอย่างรวดเร็วเข้าให้แล้ว

กว่ารักเล็กๆ ข้างเดียวที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนคำพูดไม่กี่ประโยคข้ามเคาน์เตอร์เครื่องคิดเงินจะเติบใหญ่ ก็เป็นวันที่ฝนตกห่าใหญ่จนเมืองขนาดเล็กเจิ่งนองราวกับแม่น้ำ
ตอนนิอิกำลังจะกลับบ้านหลังเสร็จจากทำงานพิเศษ ซาดะขับรถคันเล็กสีฟ้ามาที่ร้าน แล้วอาสาจะขับไปส่งบ้านเพราะฝนตกหนักมาก นิอิอดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายอาจเป็นห่วงตน ความยินดีและความเกรงใจรื้นขึ้นมาพร้อมกัน ระหว่างกำลังสับสน อีกฝ่ายก็บังคับให้เขาขึ้นรถ
?บ้านเธออยู่ไหนนะ?
ซาดะถามขณะสตาร์ตเครื่อง พอนิอิตอบไปว่าแถวคุนิมิมาจิ อีกฝ่ายทำหน้าคลางแคลงแต่ก็ออกรถทันที แม้จะดีใจ แต่ความประหม่าก็ทำให้พูดอะไรไม่ออกเลยจนกระทั่งรถแล่นมาถึงบ้าน
?ที่นี่เหรอ?
ซาดะแหงนมองข้ามหน้าต่างรถ อาคารหลังนั้นดูเก่ายิ่งกว่าปกติเมื่ออยู่ท่ามกลางสายฝนที่สาดเทลงมาอย่างหนัก
?ชั้นสองห้องริมสุดครับ ขอบคุณนะครับ ช่วยได้มากเลย?
พอเอ่ยขอบคุณและตั้งท่าจะลงจากรถ อีกฝ่ายก็ร้องห้ามไว้
?นี่ห้องใครเหรอ?
?ห้องผมครับ?
?บ้านนิอิคุงอยู่แถวทานิยะมาจินี่นา ฉันเคยเห็นในทะเบียนนักเรียน?
?เอ๊ะ ทำไม...?
นิอิกะพริบตา ซาดะผุดสีหน้าอักอ่วนเล็กน้อย
?ขอโทษที พอดีฉันสนใจเรื่องของนิอิคุงน่ะนะ?
ซาดะพูดรัวเร็วเป็นการกลบกลื่น ก่อนจะถามอีกครั้งว่า ?ห้องใครเหรอ?
?ห้องผมครับ?
ถึงกระนั้นซาดะก็ไม่ยอมเข้าใจ นิอิก้มหน้า ถ้าทางโรงเรียนล่วงรู้ว่าตนอาศัยอยู่คนเดียว น้าจะเดือดร้อน ระหว่างที่ไม่รู้จะตอบอย่างไร ซาดะก็พิงร่างกับเบาะรถ
?ในเมื่อไม่รู้ว่าบ้านใคร ฉันก็ให้เธอกลับไม่ได้ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันต้องรับผิดชอบ?
เมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดอย่างดื้อดึง นิอิก็คิดว่าถ้าตนเงียบ เขาคงไม่ยอมปล่อยตนไป
?...บ้านผมจริงๆ ครับ ผมอยู่คนเดียว?
?ทั้งที่ยังเป็นนักเรียน ม.ปลาย เนี่ยนะ??
พอเล่าความเป็นมาคร่าวๆ ซาดะก็ตกตะลึง
?ใจร้ายจัง แบบนี้ต้องปรึกษาอาจารย์ประจำชั้นแล้วนะเนี่ย?
?อย่าบอกอาจารย์นะครับ เดี๋ยวผมจะลำบาก?
นิอิมองอีกฝ่ายอย่างวิงวอน เกลียดตัวเองที่ไม่คิดหน้าคิดหลังเมื่อเห็นซาดะทำหน้าลำบากใจ หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ไม่น่าให้เขาขับรถมาส่งเลย
?แย่ละสิ?
จู่ๆ ซาดะก็พึมพำขึ้นท่ามกลางความเงียบอันหนักอึ้ง น้ำที่เอ่อล้นจากแม่น้ำซึมเข้ามาในรถทีละน้อย ทั้งสองคนรีบออกจากรถและลี้ภัยไปที่ห้องนิอิก่อน
?ใช้นี่สิคับ?
ซาดะรับผ้าขนหนูที่เด็กหนุ่มยื่นให้มาเช็ดเท้าก่อนจะก้าวเข้าไปในห้อง เขาพึมพำว่าเป็นห้องที่ไม่มีอะไรเลยนะขณะมองไปในความว่างเปล่า นิอิอับอายนิดหน่อย
?อยู่คนเดียวทุกวันนี้แบบนี้ เธอคงเหงาล่ะสิ?
?ผมชินแล้วครับ?
ซาดะหันไปมอง
?ของแบบนี้ชินกันได้ด้วยเหรอ?
คำถามธรรมดาแท้ๆ แต่มันก็ข้ามทำนบของนิอิอย่างง่ายดาย
พอน้ำตาเอ่อล้นออกมาโดยไม่ตั้งใจ ซาดะก็เอ่ยขอโทษหลายครั้ง นิอิเช็ดเท่าไรมันก็ยังไหลออกมา จึงได้แต่ส่ายศีรษะโดยไม่อาจจัดการกับน้ำตาได้
คืนนั้น น้ำท่วมเข้ารถสีฟ้าของซาดะจนมันพัง
และในขณะเดียวกัน ความรู้สึกของนิอิก็ทลายออกมาด้วย

นิอิกับซาดะใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็ว ซาดะไม่บอกทางโรงเรียนเกี่ยวกับเหตุจำเป็นของนิอิ แถมยังคอยรับฟังเขาระบายความเปล่าเปลี่ยวที่ไม่อาจบอกใครได้ ทั้งสองมักจะนั่งริมหน้าต่างในห้องว่างเปล่าแล้วพูดคุยกันเปิดอก ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการแลกดวงใจระหว่างกัน เมื่อหมดถ้อยคำจะพูดแล้ว ซาดะกับนิอิก็จูบกัน
ลงได้แลกจุมพิตแล้วก็ไม่อาจหักห้ามการมีสัมพันธ์ทางกาย
?ฉันนี่ใช้ไม่ได้เลยนะ?
ซาดะกล่าวขึ้นระหว่างกอดนิอิที่นอนหมดแรงหลังเสร็จกิจ
ซาดะไม่ใช่อาจารย์ แต่ก็เข้าๆ ออกๆ โรงเรียนมัธยมปลายในฐานะโค้ช ทั้งสองคนไม่ได้เป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัยกับนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาๆ มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ชายเหมือนกันอีก พวกตนคง ?ใช้ไม่ได้? จริงๆ นั่นแหละ...
?จะใช้ได้หรือไม่ได้ก็ช่างเถอะ?
ตอนนิอิเอาแก้มถูไถกับต้นคอของอีกฝ่าย ซาดะก็กอดเขาพร้อมกับถอนหายใจ
?ยาสุอากิเป็นคนเด็ดขาดผิดคาดเลยนะ?
มันเป็นอย่างนั้นหรือ ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเท่าไร แต่ตนเดียวดายมาเนิ่นนานแล้ว ความหวานที่ซาดะมอบให้ซึมซาบไปทั่วร่างจนตนกลับมาเป็นเด็กที่เต็มไปด้วยความต้องการ เหมือนเวลาเด็กผู้หิวโหยได้รับขนมเป็นครั้งแรก นิอิหลับตาลงโดยมีกลิ่นกายของซาดะโอบล้อม
?ขอให้ชีวิตของยาสุอากิมีความสุขตลอดไป ได้รักคนเยอะแยะ และได้รับความรักจากคนมากมายเลยนะ?
ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยเข้าใจความหมายของสิ่งที่แม่พูด ในความรู้สึกของนิอิ ความสุขคล้ายกับทิวทัศน์ฤดูใบไม้ผลิที่พร่ามัวในอีกฟากของแม่น้ำ จะเอื้อมก็เอื้อมไม่ถึง เหมือนใกล้แต่ก็ไกล เป็นสิ่งที่ทำได้เพียงมองเห็น ไม่อาจสัมผัสได้ว่ามีอยู่จริง
แต่บัดนี้เขารู้แล้ว ความวิตกที่อยู่ข้างกายนิอิเสมอดุจเพื่อนสนิทนั้นมลายไปในอ้อมแขนของซาดะ นี่คือความสุข ต่อให้มีใครมาบอกว่ามันไม่ใช่ เขาก็ไม่สนใจ
นิอิตัดสินใจแล้วว่าความสุขของตนคือสิ่งนี้
ตั้งแต่เริ่มคบกับซาดะ นิอิก็แปลกไป
หากให้เปรียบก็คือ กฎร่วมในโลกนี้ที่ว่าหนึ่งวันมียี่สิบสี่ชั่วโมงได้พังทลายลงแล้ว แม้จะเป็นช่วงวันหยุดฤดูร้อน ซาดะก็ต้องไปสอนที่ชมรมยิงธนูและทำงานพิเศษที่ยิม พวกเขาจึงอยู่ด้วยกันทุกวันไม่ได้ รู้สึกเหมือนเวลาหนึ่งนาทีที่ไม่ได้พบซาดะยาวนานราวกับหนึ่งชั่วโมง ส่วนเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ได้พบซาดะกลับสั้นราวกับหนึ่งนาที
นิอิกลายเป็นคนไร้ความรับผิดชอบด้วย เวลาซาดะส่งเมลมาว่าอยากเจอ นิอิจะลังเลเล็กน้อยก่อนติดต่อที่ทำงานพิเศษแล้วโดดร่ม เขาไม่มั่นใจว่าจะตั้งสติกดเครื่องคิดเงินได้ถ้าปฏิเสธทั้งที่ซาดะบอกว่าอยากเจอ พอเล่าให้ซาดะฟังว่าอย่างนั้น อีกฝ่ายก็ระอา
?อย่าโดดงานพิเศษสิ พวกเราเจอกันเมื่อไรก็ได้อยู่แล้ว?
?แต่ก็จะลดไปหนึ่งครั้ง?
เรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ซาดะอึ้งไป จากนั้นก็ถอนหายใจแบบเอือมๆ
?เธอเคยเป็นคนเอาจริงเอาจังแท้ๆ แต่กลายเป็นคนใช้ไม่ได้ไปเต็มๆ เลยตอนนี้?
ซาดะกอดนิอิ เพียงเท่านั้นเด็กหนุ่มก็ละลายยวบดุจน้ำตาลก้อนละลายในน้ำร้อน ละลายเหลวขนาดที่ต้องพยายามรักษารูปร่างให้ชัดเจน
?ไม่ชอบคนโดดงานเหรอ?
?ไม่มีใครชอบหรอกมั้ง?
?งั้นผมจะไม่ทำอีกแล้ว?
ถ้าซาดะบอกว่าดีก็ทำ แต่ถ้าซาดะบอกว่าไม่ดีก็ไม่ทำ
อีกฝ่ายซึมผ่านเข้ามาในจิตใจอันแห้งผากและเย็นเฉียบของนิอิในชั่วพริบตา เขาช่วงชิงสถานที่ที่หัวใจของนิอิอยู่มาจนถึงบัดนี้ไปด้วยเรี่ยวแรงอันเรียกได้ว่าไร้ขอบเขต มันช่างน่ายินดี เด็กหนุ่มหดตัวในอาณาเขตเล็กจิ๋วที่เหลือเป็นแห่งสุดท้าย เก็บงำลมหายใจเฝ้าดู ?ความสุข? ที่ตัวเองมุ่งมาดว่าต้องการ

ช่วงหยุดฤดูร้อนสิ้นสุดลง ภาคเรียนที่สองเริ่มขึ้นแล้ว
หลังเลิกเรียนนิอิเดินสวนกับซาดะตรงประตูทางเข้าอาคาร เด็กหนุ่มดีใจที่ได้เจออีกฝ่ายโดยไม่คาดหมาย ทว่ารอบตัวเขามีสมาชิกชมรมยิงธนูรายล้อม นิอิจึงหลุบตาเดินผ่านข้างเขาไปเพื่อไม่ให้มีใครเกิดเคลือบแคลงความสัมพันธ์ของพวกตนขึ้นมา
?ก่อนหน้านี้ฉันตกใจนิดหน่อยแฮะ?
ซาดะกล่าวเช่นนั้นเมื่อได้พบกันครั้งต่อมา
?เธอเป็นนักเรียน ม.ปลาย นี่นะ?
เขาพึมพำอย่างเหม่อลอยขณะพิงศีรษะกับไหล่ของนิอิ
?คุณลืมเหรอ?
ซาดะเว้นช่วงครู่สั้นๆ ก่อนจะพยักหน้าอืม
เขาทำหน้าเหมือนลืมตาตื่นจากฝันแล้ว
สัปดาห์ต่อมา ซาดะยกเลิกนัดกับนิอิเพราะติดธุระ สัปดาห์ถัดจากนั้นก็เหมือนกัน เด็กหนุ่มกังวลว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ถึงกระนั้นก็ไม่เอ่ยปากถาม ซาดะกลายเป็นทุกอย่างในโลกของนิอิภายในเวลาเพียงชั่วฤดูร้อน หากเคลือบแคลงโลกใบนั้น ที่พักพิงของนิอิจะไม่หลงเหลืออยู่ที่ใดเลย
ในวันหยุดอันยาวนานที่รู้สึกเหมือนเวลาหนึ่งนาทีนานเท่าหนึ่งชั่วโมง นิอิใช้เวลาไปกับการมองแม่น้ำอยู่นิ่งๆ เขาได้ยินเสียงฝีเท้าน่าหวาดหวั่นเล็กน้อยดังมาจากด้านหลัง แต่ด้วยความกลัวจึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
สัปดาห์ต่อมาเข้าสู่ช่วงพับเก็บเสื้อเชิ้ตแขนสั้นแล้วหันมาใส่เสื้อแขนยาวแทน ตอนนั้นเองที่ซาดะมาที่ห้อง เนื่องจากไม่ได้พบกันนาน นิอิจึงดีใจจากใจจริงที่ได้พบกัน ทว่าอีกฝ่ายไม่รู้สึกอย่างนั้น
?เราเลิกเจอกันสักพักเถอะ?
ซาดะยืนอยู่ตรงพื้นที่มืดสลัวระหว่างตัวห้องกับครัว และกล่าวเช่นนั้นกับนิอิผู้นั่งริมหน้าต่าง
?ทำไมล่ะ?
อีกฝ่ายหลุบตาอย่างลำบากใจ ท่าทางเหมือนอยากพูดว่าช่วยเข้าใจทีเถอะน่า
?เพราะผมเป็นนักเรียน ม.ปลาย เหรอ?
ซาดะไม่พูดอะไรเลย เมื่อเงียบก็เท่ากับยืนยันตามนั้น
?งั้นผมจะลาออกจากโรงเรียน?
?เอ๊ะ??
?ถ้าทำแบบนั้นก็หมดปัญหาใช่ไหมล่ะ?
?เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมคิดอะไรง่ายๆ แบบนั้น...?
เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าไม่อยากเชื่อ นิอิก็ไม่เข้าใจความหมายของสีหน้านั้นเหมือนกัน ต่อให้ไม่ไปโรงเรียนก็ยังมีชีวิตต่อไปได้ แต่ถ้าซาดะไม่อยู่ ตนก็มีชีวิตต่อไปไม่ได้ เรื่องออกจะธรรมดาแท้ๆ
?ผมจะลาออกจากโรงเรียน เสร็จแล้วเราสองคนก็ออกจากเมืองพรรค์นี้กันเถอะ?
พอได้พูดสิ่งนั้นออกจากปาก เด็กหนุ่มรู้สึกปลอดโปร่งเหลือประมาณ
อ้อ อย่างนี้นี่เอง ตนอยากออกจากเมืองพรรค์นี้ตั้งนานแล้ว
เมืองนี้ช่วงชิงทุกสิ่งจากนิอิและไม่เคยให้อะไรกลับมาเลย ความสุขไหลอยู่มากมายอะไรกัน เรื่องโกหกทั้งเพ เขาโกรธอยู่เงียบๆ ระหว่างใช้ชีวิตไปกับการชำเลืองมองแม่น้ำที่ไหลอย่างงดงาม
?ยาสุอากิ ใจเย็นๆ ก่อนเถอะ?
สีหน้าของอีกฝ่ายดูหวาดกลัว นิอิจึงเอียงคอด้วยความงุนงง
?เธอทำหน้าน่ากลัวมากเลย?
ซาดะขมวดคิ้ว เด็กหนุ่มเอ่ยขอโทษทันที
?ผมพูดเล่น ไม่ลาออกจากโรงเรียนหรอก?
นิอิรีบเก็บความในใจที่เผยออกไป ไม่อยากให้ซาดะเกลียด เหตุผลเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
?ที่ว่าจะไม่เจอกันอีกสักพักนี่ นานเท่าไรเหรอ?
ซาดะทำหน้าครุ่นคิด แต่ก็ไม่ตอบดังคาด เด็กหนุ่มรู้สึกว่าการปล่อยให้ความเงียบลากยาวเป็นเรื่องร้ายแรงยิ่งกว่าการไม่ได้รับคำตอบ จึงรีบเก็บคำถามทันควันอีกเช่นกัน
?ได้สิ เอาตามที่ซาดะซังต้องการเลย?
ความจริงอยากถามว่าติดต่อทางโทรศัพท์หรือเมลได้หรือเปล่า ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ถามเพราะกลัวอีกฝ่ายจะตอบว่าไม่ได้ นิอิพูดไม่ออกอีกต่อไป เอาแต่มองอีกฝ่ายอยู่นิ่งๆ แทน มองคนรักผู้เป็นดั่งโลกทั้งใบ ซาดะหลุบตาเหมือนทนรับสายตาของเด็กหนุ่มไม่ไหว
?...ฉันชักเหนื่อยแล้วอย่างไรก็ไม่รู้สิ?
เขาพึมพำประหนึ่งน้ำหยดจากผ้าที่ถูกบิดโดยแรง




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาตลอดเพราะสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก นิอิก็จมปลักอยู่กับความรักครั้งแรกที่ได้พบสมัยเรียนมัธยมปลาย แต่ความรักที่ทุ่มเทกลับไล่ต้อนอีกฝ่ายจนนิอิถูกทิ้ง นิอิกลายเป็นคนไม่กล้ารักใครในช่วงสิบปีนับจากนั้น และแล้วอยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับคุนิทาจิที่เป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน เมื่อคนอัธยาศัยดีและอ่อนโยนอย่างคุนิทาจิแทรกซึมเข้ามาในชีวิต หัวใจของนิอิก็หวั่นไหวอย่างรุนแรง นิอิตั้งใจจะเว้นระยะห่างจากคุนิทาจิเพราะหวาดกลัวว่าความรักอันหนักอึ้งของตนจะเป็นเหตุให้สูญเสียคนสำคัญ ทว่า?

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”