New Release BLY แปล : ความรักเปรียบเหมือนรูโดนัท

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1068
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : ความรักเปรียบเหมือนรูโดนัท

โพสต์ โดย Gals »

ความรักเปรียบเหมือนรูโดนัท


วันนั้น คุราบายาชิ โยชิคาสึเหนื่อยเหลือเกิน
เหนื่อยสายตัวแทบขาด
เขาทำงานเป็นผู้จัดการร้านริงริงโดนัท ร้านโดนัทยักษ์ใหญ่ มีแฟรนไชส์มากมายทั่วประเทศ พูดถึงหน้าที่ความรับผิดชอบก็ใช่ว่าจะเป็นหน้าที่รับฝากชีวิตผู้คน หรือช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจญี่ปุ่น เป็นเพียงผู้จัดการที่ถูกจ้างมาทำงานในสาขาชนบทบ้านนอก สุดแสนจืดจางแม้ในหมู่สาขาแฟรนไชส์ด้วยกันเอง
แต่ร้านโดนัทนั้นจะว่ายุ่งก็ยุ่ง ต้องเริ่มเตรียมงานตั้งแต่หกโมงเช้า เมื่อพนักงานพาร์ตไทม์ที่ทำงานมาตลอดลาออกไป แรงงานมีไม่พอ ภาระหน้าที่จึงหนักหนาบ่าแทบทรุด ต้องทำงานล่วงเวลาหลายวันติด ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเวลาว่างที่มีอยู่น้อยนิดของวันนี้ ยังต้องเจียดไปสัมภาษณ์พนักงานพาร์ตไทม์อีก
ไม่อยากคิดว่าคนที่เท่าไรเข้าไปแล้ว แต่ละคนนับเป็นสาเหตุทำให้เหนื่อยยากแสนสาหัสทั้งนั้น ไหนจะสาวเปรี้ยวผู้แสนจะภูมิใจกับผมสีทองขดเป็นลอนกับเล็บสีฉูดฉาด ไหนจะแม่บ้านเรื่องมากที่บอกว่า ?เสาร์อาทิตย์สามีฉันหยุดเลยมาทำงานไม่ได้ วันธรรมดาก็ต้องไปรับลูกเลยขอกลับเร็วนะคะ? ไหนจะเด็กเหลือขอพูดจาละเมอเพ้อพก อนาคตอยากเป็นนักดนตรี ?ไว้ผมเป็นศิลปินขายดีเมื่อไร จะช่วยให้ร้านขายดีเป็นเทน้ำเทท่าด้วยการให้ข่าวว่าเมื่อก่อนเคยทำงานพิเศษที่ร้านนี้นะ?
...จะละเมอก็ไว้ตอนนอนเถอะ
ทางนี้ต้องการพนักงานพาร์ตไทม์ที่สามารถทำงานพรุ่งนี้ได้ ไม่ใช่ในอนาคต
แล้วตอนนี้ คนที่นั่งประจันหน้ากับคุราบายาชิอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะซึ่งอยู่ตรงมุมร้าน ก็คือนักเรียนชาย ม.ปลาย ในชุดเครื่องแบบ
?เริ่มทำงานพรุ่งนี้ได้เลยไหมครับ??
?อืม?
?เสาร์อาทิตย์ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม??
?อือ?
?ปิดเทอมหน้าร้อน บางทีอาจขอให้มาทำงานช่วงเช้าตรู่ไม่ก็เที่ยงด้วย ไหวรึเปล่า??
?อืม?
ตอบว่า ?ครับ? ให้มันฉะฉานชัดถ้อยชัดคำ ไม่ใช่ ?อืม? กับ ?อือ? ไม่ได้รึไง
ตกเย็น ท้องฟ้าเดือนกรกฎาคมเริ่มย้อมเป็นสีแดงฉาน คุราบายาชิถอนหายใจไม่หยุดต่อหน้าผู้เข้าสัมภาษณ์คนสุดท้ายของวันนี้
อุเอฮาระ ริโอะ
ตัวหนังสือตัวเล็กกระจิริดในช่องกรอกชื่อของใบเรซูเม่ที่เขียนไว้นั้น ไม่เข้ากับหุ่นเจ้าตัวเอาซะเลย
ริโอะ เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ชื่อดันน่ารักอย่างน่าประหลาด นับว่าแปลกสำหรับยุคนี้ หรือวัยรุ่นสมัยนี้จะเขียนคันจิตัวยากๆ อย่างกุหลาบไม่ก็เลมอน กันได้ง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยนะ คุราบายาชินั่งคิดจิกกัด
ตัวคุราบายาชินั้นอายุยี่สิบเก้าปี เครื่องหน้าเรียกว่าค่อนไปทางเหมาะเจาะลงตัว แต่ใช่ว่าจะรวมออกมาแล้วโดดเด่น เป็นชายหนุ่มวัยใกล้สามสิบแสนสามัญธรรมดา
ในยุคสมัยที่ถูกสังคมเรียกด้วยคำว่าอะราวด์เทอร์ตี้ เขาไม่หวังอะไรมากจากนักเรียน ม.ปลาย อายุน้อยกว่าเป็นรอบ ขอแค่ยิ้มรับออเดอร์ ถ้าโดนัทน้อยกว่าสี่ชิ้นก็ใส่ถุง มากกว่านั้นก็ใส่กล่อง แล้วยื่นให้ลูกค้าได้ก็พอ
ทั้งที่หวังไว้แค่นั้น แต่ทำไมสัมภาษณ์มาตั้งแต่เช้าแล้วก็ยังไม่สมหวังสักที
?อุเอฮาระคุงชื่อแปลกดีนะ?
?อือ?
...โธ่เว้ย
รูปร่างหน้าตาภายนอกก็ไม่เลวแท้ๆ
อย่างแรกเลยคือตัวสูง สูงกว่าคนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรอย่างเขาอยู่ราวสิบเซนติเมตร อาจเพราะสัดส่วนระหว่างหัวกับตัวได้บาลานซ์ดี จึงยิ่งดูสูงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่มาพร้อมกับรูปร่างสูงระหงก็คือใบหน้าที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับส่วนสูง ผมสีเกาลัดดูสว่างสดใสเป็นเงางาม นัยน์ตาที่จ้องมองผ่านผมหน้าก็ดูดีหมดจด
แม้จัดได้ว่าหน้าตาดี แต่เพราะไม่ยิ้ม อิมเมจจึงห่างไกลจากคำว่า ?ร่าเริงสดใส? อยู่โข ริมฝีปากบางเม้มปิดสนิท ดวงตาทั้งคู่จ้องตรงมายังเขา
สายตานั้นเรียบเฉยไร้อารมณ์ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อโดนจ้องแล้วก็ทำให้อึดอัดใจ คุราบายาชิจึงเสไปมองเรซูเม่ในมือแทน
เป็นใบเรซูเม่ที่ชวนให้สงสัยว่ามีใจจะทำงานจริงรึเปล่า มาสมัครงานต้อนรับลูกค้า ทว่ากลับเขียนคำว่า ?เงียบขรึม? มาในช่องจุดเด่น ส่วนช่องงานอดิเรกนั้นเป็น ?เหลาดินสอ?
?ตรงงานอดิเรก ที่เขียนว่า ?เหลาดินสอ? นี่คือแบบไหนเหรอ??
?แบบไหน...ก็เหลาดินสอไงครับ แค่นั้น?
ขอบใจสำหรับคำตอบกำปั้นทุบดิน
?ฮะฮะ คนตัวสูงอย่างเธอน่าจะเหมาะกับพวกกีฬาแท้ๆ แต่ไม่ได้เข้าชมรมเหรอ??
?อือ?
?ถ้าเป็นไปได้ช่วยตอบว่า ?ครับ? หรือ ?ไม่ครับ? หน่อยนะ ฉันจะดีใจมาก?
?อือ...อ๊ะ ?ครับ? ?
ยังจะต้องพูดแก้ใหม่อีก
แต่มันก็แค่นั้น นักเรียน ม.ปลาย ที่มี ?ความเงียบขรึม? เป็นจุดเด่น ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวความสดใสร่าเริงที่สอดคล้องกับความต้องการของคุราบายาชิ ไม่ต้องมองไปถึงเรื่อง ?เหลาดินสอ? ด้วยซ้ำ
คุราบายาชิปั้นยิ้มชนิดที่ควรเรียกเป็นรอยยิ้มเสแสร้งต้นแบบ ลุกจากเก้าอี้เสียงดังครืด
?เอาละ เดี๋ยวจะแจ้งผลสัมภาษณ์ให้ทราบภายหลังนะครับ?
?อือ...อ๊ะ ?ครับ? ?
ที่จริงไม่ต้องถ่วงเวลาก็รู้แล้วว่าไม่จ้าง
สอบตก สอบตก เขากระตุ้นให้อีกฝ่ายเดินไปยังทางออก ทว่าเมื่อเหลือบมองผ่านเคาน์เตอร์ไปยังครัว ก็สบตาเข้ากับพนักงานหนุ่มผู้กำลังทำงานกึ่งแพนิกอยู่หน้ากระทะทอดโดนัทอย่างไม่มีเวลาได้หยุดพัก
?ผู้จัดการ ช่วยด้วย!? เขาส่งสายตาอุทธรณ์
แรงงานไม่พออย่างเห็นได้ชัด ไม่พอเลยสักนิด มองปราดเดียวก็เห็นโดนัทในตู้โชว์ว่างเปล่าโดดเด่นเป็นสง่า เวลามีลูกค้าประเภทขี้ฟ้องมาเป็นต้องโดนโวยว่า ?ของไม่พอ? อย่างแย่ที่สุดคือ ถูกทางสำนักงานใหญ่ตำหนิลงมาเมื่อได้รับคำร้องเรียน
...แล้วไงใครสน
อย่ามาพึ่งฉันไปมากกว่านี้ อย่าหวังจะเกาะ แต่แม้จะชั่วช้าแค่ไหน คุราบายาชิก็ยังเป็นผู้จัดการ
ทว่าผู้จัดการนั้นเป็นเพียงตำแหน่งในนาม เป็นแค่คำเรียกเจ้าหน้าที่เบ็ดเตล็ดให้ฟังดูดีเท่านั้น สามปีก่อน เมื่อพ่อป่วยไข้ล้มพับ คุราบายาชิลาออกจากบริษัทในโตเกียวแล้วกลับบ้านเกิด ตอนนั้นเขาประสบปัญหาในการหางานใหม่ จึงสมัครงานร้านโดนัทที่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ไป
มาคิดดูตอนนี้ก็เข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงได้งาน นอกจากตัดสินกันด้วยแรงกายแล้ว การจัดการกับพนักงานพาร์ตไทม์แสนเอาแต่ใจให้เป็นหนึ่งเดียวกันก็เหนื่อยยากแสนสาหัสใช่ย่อย เมื่อพนักงานตำแหน่งสูงกว่าเขาทยอยลาออกไป เขาจึงไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้จัดการได้ในสามปี
ใช่ว่าเป็นเพราะอยากเป็นสักหน่อย
ในวันแบบนี้ คำพูดเชิงแก้ตัวอันน่าสมเพชจะผุดขึ้นมาในสมอง
อา ทุกอย่างดูขวางหูขวางตาไปหมด
?เหวอ?
คุราบายาชิส่งเรียงร้องตกใจ ขณะมองไปทางอื่นเขาเกือบเดินชนเข้ากับชายหนุ่มเบื้องหน้าที่หยุดยืนนิ่ง
ไม่รู้ทำไมนักเรียน ม.ปลาย ที่น่าจะกลับๆ ไปสักทีถึงจ้องมองตู้โชว์ตาเป็นมัน สายตานั้นมุ่งมั่นเสียจนลืมกะพริบตาต่างจากสายตาเฉยชาเมื่อครู่
?อะไรกัน ชอบโดนัทเหรอ??
?อือ ประมาณนั้น...?
เมื่อทักถาม เป็นครั้งแรกที่เสียงนั้นตอบกลับและพูดต่ออย่างกระตือรือร้น
?ก็โดนัทมันอร่อยนี่ครับ?
คงเรียกเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากอารมณ์ชั่ววูบ
?เหรอ งั้นมาทำงานที่ร้านนี้ไหม??
คุราบายาชิพูดแบบขอไปที
ใช่ เขาเหนื่อยแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน

ท้องฟ้าที่มองเห็นผ่านหน้าต่างอาคารเรียนมีสีฟ้า
พระอาทิตย์ฤดูร้อนเปล่งแสงเจิดจ้าแสบตา ท้องฟ้าอีกด้านมีเมฆแนวตั้งเริ่มก่อนตัวสูงตระหง่านตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ดูราวกับเป็นภาพสะท้อนท้องทะเลลึกสีฟ้าคราม มองแล้วเหมือนจะถูกดูดกลืนเข้าไป
แต่นั่นเป็นเหมือนดั่งภาพวาด ขาดความรู้สึกสมจริง ไม่ได้ทำให้สัมผัสถึงความร้อน
ซึ่งก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะในห้องเรียนเปิดเครื่องปรับอากาศ เหงื่อจึงไม่ซึมออกมาทางผิวหนัง
คลื่นความร้อนสะท้อนผ่านนัยน์ตา ทว่าผิวกายกระทบไอความเย็น ท่ามกลางเสียงโหวกเหวกในห้องเรียนช่วงพักกลางวัน ริโอะนั่งเม้มปากอยู่ริมหน้าต่าง เหม่อมองออกไปด้วยสีหน้าใจลอย
?หวัดดี ริโอะ?
เขาหันกลับไปเมื่อได้ยินเสียงทัก
?...ฮัคคุง?
?อย่าเรียกฮัคคุงสิ?
คนที่เดินเข้ามาหาคือเพื่อนสมัยเด็กและเพื่อนร่วมห้อง ยางิซาวะ ฮาคุโตะ
เพื่อนสมัยเด็กผู้มีอัธยาศัยดีนั้นมีขนาดตัวกะทัดรัด แต่ทั้งหน้าตาและส่วนสูงต่างไม่เข้ากับชื่อที่มีตัวคันจิคำว่าเสืออยู่ ดูท่าเจ้าตัวยากจะทำใจรับได้เรื่องที่อิมเมจตัวเองไม่เปลี่ยนไปจากสมัยประถม จึงแสดงสีหน้ารังเกียจชื่อเล่นนั้นอย่างชัดเจน
?เป็นอะไร หน้าตามืดมนเชียว ปวดท้อง? ปวดหัว? หรือบังเอิญรู้ตัวขึ้นมาแล้วครับว่าชีวิตคนมันน่าเบื่อ??
?ฮาคุโตะ เพราะนายนั่นแหละ?
เพราะไม่ได้ยึดติดเป็นพิเศษ เขาจึงเรียกชื่อตามความประสงค์ของเพื่อนสมัยเด็กไป ดวงตากลมโตของชายหนุ่มที่ถูกเรียกยิ่งโตขึ้นไปกว่าเดิม ดูอย่างไรก็ไม่ใช่เสือแต่เป็นสัตว์เล็กมากกว่า
?เอ๊ะ เพราะฉัน??
?เรซูเม่ที่นายเป็นคนเขียนทำให้ฉันสัมภาษณ์งานผ่าน?
ริโอะเอ่ยเสียงเรียบเฉยทุ้มต่ำ ยางิซาวะร้อง ?เอ๋!?? ทันใด
?พูดเป็นเล่นน่า? ร้านแบบไหนกันเนี่ย เขียนไปแบบนั้นยังผ่านได้ รู้สึกจะเป็นร้าน ?ริงริง? เลียบทางหลวงสินะ??
?อืม?
ไม่นึกเลยว่าจะผ่าน
คนเขียนเรซูเม่คือยางิซาวะ พอเขาบอกไปว่า ?ไม่มีอารมณ์ไปสัมภาษณ์งานพาร์ตไทม์? เจ้าตัวก็ตอบกลับมาก่อนลงมือเขียนว่า ?โอ้ งั้นฉันจัดการเอง เดี๋ยวจะเขียนเรซูเม่ชนิดมองปราดเดียวโดนคัดตกให้ดู?
ที่มาที่ไปนั้นต้องย้อนไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
?ทำงานพิเศษดีไหมนะ?
จุดเริ่มต้นมาจากคำพูดรำพึงรำพันของตนในวันหนึ่งที่หลุดปากมาตอนอยู่ในบ้าน
ความจริงแล้วเขาไม่เชิงอยากทำงานพิเศษ เรียกว่าแค่อยากหนีไปจากแม่ผู้จู้จี้ขี้บ่นเกินเหตุเสียมากกว่า
เพราะพ่อไปรับตำแหน่งทำงานที่ต่างเมืองคนเดียว ส่วนพี่ชายก็ขึ้นไปทำงานที่โตเกียว ครอบครัวเลยเหลือกันแค่แม่หนึ่ง ลูกหนึ่ง มาตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน แม่จึงอยากมายุ่งกับเขาเสียเหลือเกิน เรื่องงานพิเศษนี่ ทีแรกก็คิดว่าจะโดนค้าน ทว่าแม่กลับเป็นฝ่ายไปหาตำแหน่งงานมาให้ เหมือนกับพยายามเอาใจลูกชายให้อารมณ์ดี
บางทีประเด็นสำคัญสำหรับแม่คงอยู่ตรง ?เป็นร้านที่ตัวเองเลือก? ถ้าเกิดตกลงทำตามที่เสนอมา เป็นไปได้ว่าหลังเริ่มทำงานแล้วแม่อาจเข้ามาจุ้นจ้านเรื่องนั้นเรื่องนี้อีก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากหนี ริโอะคิดว่าถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่าน ต่อมอยากช่วยหางานของแม่อาจหมดไฟ...ถึงได้ตกปากรับคำแผนตื้นๆ ของยางิซาวะ
เขาไม่ได้เกลียดแม่หรอกนะ
แค่ไม่รู้จะวางตัวกับ ?คนคนนั้น? อย่างไรมาตั้งนานแล้ว
?อืม แปลกจัง ผ่านได้ไงเนี่ย ต่อให้ไม่ได้เขียนเรซูเม่ไปแบบนั้น ปกติอย่างนายไม่น่าสัมภาษณ์ผ่านเลยนี่นา??
?ถามฉันแล้วฉันจะไปรู้เรอะ?
ริโอะมักโดนบอกบ่อยๆ ว่าเป็นคนไร้มนุษยสัมพันธ์
เขาไม่ได้ตั้งใจทำตัวเงียบขรึมประหยัดคำเป็นพิเศษ แค่ไม่พูดมากเกินกว่าที่เห็นว่าจำเป็น แค่ไม่ยิ้มหรือหัวเราะโดยไม่มีความหมาย เขาเป็นคนพูดน้อยมาตั้งแต่เด็ก ยามเป็นเช่นนั้นแล้วตรงกับความต้องการของอีกฝ่าย ก็จะได้รับคำชมว่า ?เรียบร้อย? แต่หากตรงข้ามกับความคาดหวังเมื่อไร ก็จะโดนเหน็บว่า ?ไม่น่ารัก?
?นี่ ท่าจะเป็นร้านใช้แรงงานโหดใช่เล่นเลยนะ? คนที่สัมภาษณ์นี่ผู้จัดการเหรอ? เป็นคนแบบไหน??
?คนแบบไหน...?
ริโอะจ้องมองท้องฟ้า
ปกติความทรงจำคนเราจะไม่ชัดเจนเท่าไร ถึงพยายามนึกอย่างไร สีหรือรูปร่างก็จะเลือนราง ไม่ได้แจ่มชัดขึ้นมาในสมอง
ทว่าริโอะนั้นต่างออกไปเล็กน้อย เมื่อถูกจัดเก็บเป็นความทรงจำแล้ว ไม่ว่าจะนึกขึ้นมาเมื่อไร ภาพที่เห็นก็ยังคมชัดราวกับเป็นรูปถ่าย
?ผู้จัดการ...เหมือนจะขาวๆ บางๆ เลือนรางชอบกล...?
?พูดถึงรูปถ่ายวิญญาณรึไง?
?อา ชมพู?
?เอ๊ะ??
เขามองเห็นวงกลมสีชมพู ช็อกโกแลตย้อมสี ไอซิงขาวปลอด คัสตาร์ดสีเหลืองเกือบทะลัก ริง ริง โดนัทริงหลากหลายรูปแบบเพิ่งทอดได้ที่ มีสีน้ำตาลอวบอิ่ม
ถาดโดนัทที่ทอดเสร็จถูกยกวางมาอยู่ตรงหน้า
ริโอะไล่อ่านตัวอักษรที่ผุดขึ้นมาในหัวเรียงจากซ้ายไปขวาตามลำดับ
?สตรอว์เบอร์รีริง ช็อกโกแลตริง ซินนามอนริง ฮันนีฮันนี นิวแฟชั่น เดวิลช็อกโกลา...?
?เดี๋ยว...ริโอะ ริโอะหยุดก่อน ฉันไม่ได้ถามเรื่องโดนัท!?
?อ๊ะ...โทษที พอดีเมื่อวานฉันหิว?
สิ่งที่จำได้แจ่มชัดคือตู้โชว์ตรงเคาน์เตอร์ที่เห็นตอนกลับ
?แล้วผู้จัดการล่ะ??
?...จำไม่ได้?
?ไอ้ความสามารถพิเศษที่เหมือนเป็นพลังวิเศษนั่น พอมาอยู่กับนายแล้วเหมือนหัวล้านได้หวีจริงๆ?
?อ๊ะ หรือว่า...ควรเขียนเรื่องนี้ไปในช่องความสามารถพิเศษมากกว่า??
?เจ้าบ้า ลืมความขายหน้าในอดีตที่มาจากเรื่องนั้นไปแล้วเรอะ? ใช่ว่านายจะจำได้ทุกอย่างนี่?
นี่เป็น ?ความสามารถพิเศษ? ที่แล้วแต่อารมณ์ สมัยอนุบาล ตอนริโอะพูดชื่อตัวละครรวมไปถึงวายร้ายในขบวนการห้าสีรุ่นก่อนๆ ได้เป็นร้อยๆ ชื่อ เขากลายเป็นที่โจษจัน ถูกเรียกขานเป็นเด็กอัจฉริยะบ้างล่ะ ?ความหวังแห่งอนาคต? บ้างล่ะ แต่หลังขึ้นชั้นประถมไม่ทันไร ความจริงก็ถูกเปิดโปงออกมา
ความสามารถนั้นควรได้ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนในรายการโทรทัศน์ที่ไปออกเพราะมีคนอื่นเสนอชื่อไป แต่แทนที่จะทำให้ผู้ชมในสตูดิโอตื่นตะลึง กลับกลายเป็นว่าเมื่อเจอหัวข้อที่เตรียมไว้ พลังไม่ยอมสำแดงออกมา จนเป็นที่อับอายขายขี้หน้าไป
?ถ้าให้พูด คนที่ทำให้ฉันขายขี้หน้าก็คือนายนั่นแหละ?
คนที่สมัครไปก็คือเพื่อนร่วมชั้นสมัยประถม ฮัคคุง
?อ้าว เหรอ? แต่จะว่าไป ถ้าไม่ได้อยากได้งาน แค่ความสามารถพิเศษคือ ?เงียบขรึม? นั่นก็น่าจะพอแล้ว แต่นี่ทำขนาดนั้นแล้วยังผ่านอีก เอาเถอะ ไม่ว่าจะพูดแบบไหน สิ่งที่เขียนไปในใบเรซูเม่นั่นไม่ใช่เรื่องโกหกสักหน่อย เท่ากับว่านายได้งานที่ ?ริงริง? เพราะตัวนายเอง ริโอะ ยินดีด้วยที่สอบผ่าน!?
สมัยสะพายกระเป๋านักเรียนหลังตุงไร้ความรับผิดชอบอย่างไร สมัยนี้ก็ยังไร้ความรับผิดชอบเหมือนเดิม
ต่อให้พยายามเถียง ไม่ว่าเมื่อไรริโอะก็ตีฝีปากไม่เคยชนะเพื่อนสมัยเด็กช่างจ้อคนนี้ เขาขยับปากอ้าๆ หุบๆ ไปสักพักก็ตัดสินใจฝืนใจตอบไปสั้นๆ ว่า ?อือ?
ในเมื่อมันผ่านไปแล้วให้ทำอย่างไรได้
นิสัยเขาเป็นลูกผู้ชายตรงไปตรงมา
?ริโอะ ว่าแต่...ตอนเที่ยงไปทำอะไรมา? ฉันตั้งใจว่าจะไปกินข้าวด้วยแท้ๆ แต่นายดันโดนเรียกหายไปไหนก็ไม่รู้ซะนี่??
?เอ๊ะ??
?สาวห้องข้างๆ ไง?
?อ๋อ...?
?ว่าไง โดนสารภาพรักอีกแล้ว??
ริโอะพยักหน้า ไม่จำเป็นต้องโกหก
ยางิซาวะทำท่าแปลกๆ เหมือนตกใจเล็กน้อย แต่ก็เหมือนจะรู้อยู่แล้ว
?เอ๋...จริงเหรอเนี่ย แล้วไง? จะคบกันไหม??
?อืม ก็นะ?
ตอนนี้ริโอะโสด เหตุผลจะปฏิเสธก็ไม่มี ถึงเป็นผู้หญิงที่เพิ่งเคยคุยกันครั้งแรก แต่ก็เป็นเด็กสาวน่ารัก พอจะรู้จักหน้าค่าตามาก่อนแล้ว
ส่วนนิสัยเป็นอย่างไรนั้นไม่รู้
?งั้นเหรอ...ใครไปใครมาไม่ปฏิเสธเหมือนเคยเลยนะนายเนี่ย คราวนี้จะคบกันไปได้สักกี่น้ำเชียว หัดทำตัวให้มันดีกว่านี้หน่อยได้ไหม...?
?ฮาคุโตะล่ะ??
?เอ๊ะ...?
?นายเคยบอกว่ามีคนที่ชอบอยู่นี่??
เขารู้ว่าเพื่อนสมัยเด็กมีคนที่ชอบอยู่ น่าจะตอนช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดูเหมือนเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก รู้เพียงว่าเป็นสาวห้องอื่นที่เคยเป็นกรรมการวัฒนธรรมด้วยกันตอนปีหนึ่ง
?อ้อ เรื่องนั้น...ฉันอกหักไปเรียบร้อยแล้ว?
คำตอบตอบกลับมาง่ายๆ ทำเอาริโอะพูดไม่ออก
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสารภาพรักไปแล้ว
?เพราะงั้นปิดเทอมฤดูร้อนฉันจะไปทุ่มเทให้กับการเรียน จะเอาชนะนายด้วยการเข้ามหา?ลัยคนละชั้น หางานเหนือกว่านายทำ แล้วก็แต่งงานกับประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนนายก็เชิญหมกมุ่นกับงานพิเศษไม่ก็ผู้หญิงไปเถอะ?
ไม่รู้คำพูดของ ?ฮัคคุง? เป็นการล้อเล่นจิกกัดหรือคิดแบบนั้นจริงๆ กันแน่ สุดท้ายริโอะได้แต่หัวเราะไม่ออกอยู่อย่างนั้น

ริงริงโดนัท
ร้านสาขาโฮชิสึมินั้นมีชื่อเล่นว่า ?ริงริง? ตั้งอยู่นอกตัวเมืองท้องถิ่น ใช้เวลาสามชั่วโมงหากนั่งรถมาจากโตเกียว เป็นเมืองบ้านนอก พื้นที่เป็นที่ราบสูงรายล้อมไปด้วยภูเขา ความภาคภูมิใจอันน้อยนิดที่อวดได้ก็มี ?อากาศสดชื่น? กับ ?ดาวสวย?
ไม่ว่าจะดูจากทำเลที่ตั้ง ยอดขาย หรือขนาดแล้ว นับว่าเป็นร้านที่ไม่มีจุดเด่นเป็นพิเศษ เป็นสาขาที่เบื้องบนแทบลืมไปแล้วว่ามีอยู่ แต่เพราะหันหน้าเข้าสู่ทางหลวงจึงงานยุ่ง มีลูกค้าเข้าระดับเคลียร์เกณฑ์เฉลี่ยไปได้
บ่ายวันเสาร์อย่างวันนี้เองก็คึกคักไปด้วยเหล่านักเรียนไม่ก็คนที่มากับครอบครัว
?ขอบ...ครับ!?
เสียงที่คุราบายาชิได้ยินขณะถือถาดโดนัททำเสร็จใหม่ๆ จากในครัวมาเติมตู้โชว์ทำเอาคิ้วกระตุก
เขาจ้องมองพนักงานใหม่ที่ยืนอยู่หน้าเครื่องคิดเงิน ก่อนส่งเสียงเมื่อแน่ใจว่าลูกค้าออกไปแล้ว
?อุเอฮาระคุง ต้องบอก ?ขอบพระคุณมากครับ? ด้วยสิ?
?พูดแล้วครับ?
?ยังพูดไม่ครบ กลางประโยคหายไป รักษาระดับเสียงไว้ ไม่ย่อ แล้วก็ยิ้มให้ดูกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาด้วย! จะเป็นพวก ?เงียบขรึม? หรืออะไรไม่รู้หรอกนะ แต่นี่เป็นงาน ช่วยรับลูกค้าให้ถูกต้องตามคู่มือได้รึเปล่า?
คุราบายาชิพูดจาประชดประชัน แต่ใช่ว่าเขาเป็นเช่นนั้นมาตั้งแต่แรก
พนักงานใหม่ทำงานมาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ถึงได้เพิ่มความจิกกัด
?อือ...อ๊ะ ?ครับ? ?
เมื่อเขาเขม้นมอง ถึงยอมแก้คำตอบรับใหม่ แม้ไม่ได้โวยกลับเหมือนเด็กในวัยต่อต้าน แต่ก็นิสัยแย่ขนาดแค่พยักหน้ารับเฉยๆ
ทำไมกะอีแค่ให้ยิ้ม เจ้าเด็ก ม.ปลาย ชื่อค่อนข้างแปลกสำหรับสมัยนี้ถึงทำไม่ได้นะ
นอกจากไร้อัธยาศัยขั้นสุดแล้วยังตัวสูงเกินเหตุอีก ส่งผลให้ดูน่าเกรงขาม เด็กคงแทบร้องไห้จ้าเมื่อโดนหน้าตาที่กล้ามเนื้อแสดงสีหน้าตายไปแล้วจ้องมอง
ถ้าให้พูดสั้นๆ คือคุราบายาชิกำลังเสียใจ
ต่อให้ทนสภาพขาดแคลนแรงงานไม่ไหวอย่างไร แต่ดูท่าเขาคงเลือกจ้างผิดคนเสียแล้ว
ที่ผ่านมาเขาเหนื่อยเหลือเกิน
แล้วตอนนี้ยังมาเหนื่อยเพราะเด็ก ม.ปลาย ที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่นี่อีก
สิ่งที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกนี้คือความแตกต่างระหว่างช่วงอายุหรือไร คงไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะโดนกระซวกเข้าให้หรอกนะ
คุราบายาชิถอนหายใจ เงยหน้ามองชายหนุ่มในชุดพนักงาน กางเกงสีเขียวเข้มกับเสื้อเชิ้ตสีขาวนวลลายทางสีเขียว หมวกก็เป็นสีเขียวเฉดเดียวกัน นอกนั้นก็มีเนกไทสีน้ำตาลที่นอกจากผู้จัดการแล้ว พนักงานระดับล่างกว่านั้นต้องใส่
?ขอบ...พระคุณมากครับ!?
คุราบายาชิที่คอยเฝ้ามองเพื่อกำกับเด็กหนุ่มส่งลูกค้าอยู่ตรงเครื่องคิดเงินคนเดียว พุ่งออกไปจากด้านหลังเป็นเชิงตำหนิ
?ยังยิ้มไม่พอ ยิ้มสิ ยิ้มอีก! ยกมุมปากขึ้น ปล่อยหางตาลู่ลง!?
พอออกคำสั่งอย่างกับในเกมยกธงขาวธงแดง ชายหนุ่มที่หันหน้าไปทางเคาน์เตอร์ก็หันตัวกลับมา
เมื่อโดนหน้านิ่งๆ ก้มมองจากที่สูงกว่า คุราบายาชิถึงกับสะดุ้ง
?มะ มีอะไร? ไม่พอใจรึไง??
?เปล่า...ผู้จัดการ ไอ้ปล่อยหางตาลู่ลงที่ทำไงเหรอครับ??
จริงด้วย ไม่ใช่กล้ามเนื้อที่ควบคุมเองได้อย่างอิสระนี่นา
?ปะ ปัญหาอยู่ที่ความรู้สึกต่างหาก ไอ้ความรู้สึกพยายามยิ้มเนี่ยมันส่งผ่านมาทางสายตาด้วย ต่อให้เธอไม่ทำแบบนั้น...?
ฟ้าว กลิ่นหอมหวานลอยผ่านเคาน์เตอร์ไป
กลิ่นดอกไม้สังเคราะห์
?ดะ...เดี๋ยวสิ ทามารุซัง ทรงผมนั่นมันอะไร? ทำไมไม่มัดให้เรียบร้อย??
คนที่เพิ่งเดินเฉียดข้างไปก็คือนักศึกษาสาวที่เข้ามาทำงานก่อนน้องใหม่อย่างเด็กหนุ่ม ม.ปลาย ได้ประมาณหนึ่งเดือน เจ้าตัวปล่อยผมยาวสยาย กลิ่นของแชมพูหรือน้ำหอมไม่รู้ลอยฟุ้ง เดินเข้ามาในเคาน์เตอร์อย่างไม่สะทกสะท้าน
?อ๊ะ ขอโทษค่ะ พอดียางมัดผมมันขาด?
?ปล่อยให้ขาดได้ไง ไปยืนต่อหน้าลูกค้าในสภาพแบบนั้นก็แย่น่ะสิ?
?แต่ในเมื่อไม่มียางมัดผมก็ช่วยไม่ได้ไม่ใช่เหรอค้า?
?...เดี๋ยวก่อน?
ดูเหมือนเจ้าตัวไม่คิดจะทำอะไร มิหนำซ้ำยังสยายผมอย่างภูมิใจด้วยซ้ำ คุราบายาชิรู้สึกเอือมระอา เขาเปิดลิ้นชักเคาน์เตอร์ หยิบสิ่งนั้นออกมา




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในคืนวันอันแสนจืดชืดของคุราบายาชิ ผู้จัดการร้านโดนัท เขาต้องเหนื่อยยากแสนสาหัสกับภาระหน้าที่มากมาย ไหนจะพนักงานพาร์ตไทม์ไม่ได้เรื่อง วันๆ เขาใช้เวลาอันน้อยนิดหลีกหนีความจริงด้วยการมองแอดเดรสแฟนเก่าในมือถือ
อีกด้าน ริโอะ นักเรียน ม.ปลาย สุดเย็นชา เข้ามาเป็นพนักงานพาร์ตไทม์เด็กใหม่ แม้จะมีรูปร่างหน้าตาดีเลิศ เนื้อหอมในหมู่ผู้หญิงแค่ไหนก็ไม่สนใจคนอื่น ทว่าเขารู้สึกคาใจกับใบหน้าด้านข้างของคุราบายาชิที่มองมือถือเงียบๆ ขณะทำงาน...?
ขอเชิญพบกับความรักของพนักงานพาร์ตไทม์นักเรียน ม.ปลาย X ผู้จัดการร้านโดนัท ที่อายุห่างกัน 12 ปี?


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”