New Release : ล่าหัวใจ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : ล่าหัวใจ

โพสต์ โดย Gals »

ล่าหัวใจ โดย นภาลัย ไผ่สีทอง
บทที่ 1
?เร็วเข้าครับคุณแก้ว...เราไม่มีเวลามากนัก...?
เสียงเตือนเบาๆ ข้างหลังทำให้รวงแก้วรีบยกมือทำความเคารพซิสเตอร์ผู้ดูแลหอพักนักเรียนแห่งนั้น...หันมาคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กเดินตามร่างท้วมเตี้ยของลุงเบนที่หิ้วกระเป๋าใบใหญ่เดินลิ่วๆ ไปแล้ว...
?พ่อ?
พ่อของหล่อนรออยู่ในรถที่จอดอยู่ข้างนอก...หลังจากมาพบแม่อธิการหรือครูใหญ่ของโรงเรียนที่รวงแก้วใช้เวลาเรียนมาถึงสิบสองปีเรียบร้อย
รวงแก้วเข้าเรียนตอนเข้าเกณฑ์เจ็ดขวบพอดี กว่าจะจบชั้นเตรียมอุดมหรือ ม.หกในปัจจุบันก็ปาเข้าไปเกือบสิบเก้า
กำแพงและระเบียบอันเข้มงวดมาตลอดกับเด็กค่อนข้างเงียบขรึมอย่างรวงแก้วไปกันได้ดี...พ่อมาให้รวงแก้วเห็นหน้าปีละครั้งได้กระมัง...แล้วก็หายเข้ากลีบเมฆไป รวงแก้วจึงคุ้นเคยกับลุงเบนมากที่สุด...ลุงเบนเป็นทั้งคนสนิทของพ่อและเพื่อนรวงแก้ว
มาคราวนี้...พ่อต้องพารวงแก้วไปด้วยเพราะไม่มีชั้นเรียนจะให้รวงแก้วเรียนต่ออีกแล้ว
ซิสเตอร์ประจำหอพักซึ่งรักรวงแก้วเหมือนลูกชักชวนให้รวงแก้วไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยต่อเพราะรวงแก้วมีหัวดี...แต่พ่อกลับปฏิเสธที่จะให้รวงแก้วเรียนในเมืองไทย...พ่อบอกรวงแก้วว่า
?ไปต่อนอกกันเถอะลูก...คราวนี้พ่อจะอยู่กับแก้วตลอดเวลา ไม่ทิ้งให้แก้วเหงาอีกต่อไปแล้ว...?
รวงแก้วเชื่อว่าพ่อจะพารวงแก้วไปนอกแน่...แต่ไม่เคยเชื่อเลยว่าพ่อจะไม่ทิ้งให้รวงแก้วเหงาอีกต่อไป พ่อพูดแบบนี้มาหลายครั้ง แล้วก็ไม่เคยเป็นไปได้สักครั้ง
รวงแก้วจำได้ว่าพ่อพูดครั้งแรกเมื่อรวงแก้วอายุสิบขวบ...พูดครั้งต่อมาเมื่อรวงแก้วอายุสิบสอง...พูดอีกครั้งตอนวันเกิดของรวงแก้วครบสิบห้า...แล้วก็ตอนอายุสิบเจ็ด จนรวงแก้วไม่อยากเชื่อพ่อแล้ว
รวงแก้วสวยเหมือนแม่...พ่อบอกอีกเหมือนกัน
รวงแก้วสูงโปร่ง...บอบบาง...ผิวอมชมพู ผมดำขลับยาวสยายที่รวงแก้วมักจะถักเปียเอาไว้เสมอจนเคยชิน
จากเปียสองข้าง...ก็เหลือเพียงเปียด้านหลัง เปิดดวงหน้ารูปไข่ขาวผ่อง...อวดคิ้วเรียวโค้งราวกับวงพระจันทร์...จมูกโด่งงามกระจุ๋มกระจิ๋ม และริมฝีปากสีชมพูเต็มอิ่มสีแดงจัดโดยไม่ต้องอาศัยลิปสติก เคยมีซิสเตอร์หลายท่านคิดว่ารวงแก้วทาปาก...แต่พอเช็ดเข้าจริงๆ ก็ไม่มีอะไรติดออกมาเลย หนำซ้ำยิ่งเช็ด...มันก็ยิ่งแดงขึ้น
แม่อธิการเคยมองรวงแก้วอยู่นาน...แล้วพูดเปรยว่ารวงแก้วเหมือนเทพธิดาที่จุติลงมาจากสวรรค์...สวยสดงดงามและบริสุทธิ์ผุดผ่องราวหยาดน้ำค้าง ครูทุกคนในคอนแวนต์รักรวงแก้ว...เพราะรู้ว่ารวงแก้วไม่มีใคร และอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายเหมือนกัน
ดังนั้น...เมื่อถึงเวลาที่รวงแก้วจากไป ทุกคนจึงพร้อมใจกันมาส่งและให้ปัจฉิมโอวาทโดยทั่วถึงกัน...
พ่อมองดูรวงแก้วเดินมาขึ้นรถด้วยสายตาระแวดระวัง...ระแวงระไวตามเคย...และรวงแก้วก็เคยชินกับท่าทางแบบนี้ของพ่อเสียแล้ว สาวน้อยเดินขึ้นไปนั่งคู่กับลุงเบนด้านหลัง ขณะที่พ่อนั่งคู่กับคนขับทางด้านหน้า
เมื่อรถเริ่มเคลื่อนที่ออก...รวงแก้วต้องหันไปมองรั้วโรงเรียนที่ให้แต่ความรักและความอบอุ่นมาตลอดอย่างอาวรณ์ ถึงรวงแก้วจะขาดแม่...แต่ซิสเตอร์ทุกคนก็ทำตัวเหมือนแม่
ต่อจากนี้ไป...จะไม่มีใครคอยแนะนำตักเตือนให้รวงแก้วละสิ่งไม่ดีและไขว่คว้าแต่สิ่งดีงามอีกต่อไปแล้ว...
อนาคตในภายหน้าของรวงแก้วอยู่ในมือของรวงแก้วเอง...และโชคชะตาอันไม่แน่นอนจะพาไป...
ชั่วขณะที่รวงแก้วมองอาคารเรียนและหอนอนที่เริ่มลดต่ำลงกลายเป็นจุดเล็กๆ น้ำตาใสๆ ก็เอ่อขึ้นมาล้นขอบตา...
ลุงเบนดึงผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดขึ้นมาส่งให้รวงแก้วตามเคย...และรวงแก้วก็รับมันมาเช็ดน้ำมูกน้ำตาอย่างที่เคยทำมาทุกครั้งที่เห็นหน้าและต้องจากกันเช่นกัน...
?นั่นเป็นความทรงจำที่ดีและประทับใจที่สุดนะคุณแก้ว...จะจำไว้จนตายก็คงไม่เป็นไร?
ลุงเบนพูดราวกับรู้ใจ...รวงแก้วพยักหน้าแล้วหันตัวกลับมาตามเดิม...มองพ่อ...แล้วก็เปลี่ยนสายตาออกไปสำรวจธรรมชาติและบรรยากาศภายนอกรถ
พ่อจะพารวงแก้วไปไหน...รวงแก้วไม่อยากรู้ เพราะสภาพจิตใจของรวงแก้วตอนนี้ราวกับเด็กกำลังพลัดบ้านช่อง พลัดที่อยู่อาศัยอันอบอุ่นมาตลอดไม่มีผิด
รถคันนั้นพารวงแก้วค่อยๆ ผ่านการจราจรอันแออัดของเมืองหลวงออกไปเรื่อยๆ จากชั่วโมง...เป็นสอง...และสามต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่มีใครสนใจจะสั่งให้หยุดรถ...หรือลงไปเดินยืดแข้งยืดขาหรือแม้แต่พักรับประทานอาหาร
กล่องอาหารสำเร็จรูปเล็กๆ ถูกส่งมาถึงมือรวงแก้ว...แล้วตามมาด้วยแก้วน้ำ ทุกคนได้เหมือนกันหมด...ยกเว้นคนขับซึ่งต้องขับรถไปและรับประทานอาหารไปพร้อมกัน...
การเดินทางครั้งแรกในชีวิตของรวงแก้วเป็นไปอย่างยาวนานจนน่าเบื่อ...จากช่วงเย็น...ผ่านเข้าเวลาค่ำของราตรีกาล จนในที่สุดก็ผ่านเข้ามาทิวาของวันใหม่อีกครั้ง
รวงแก้วรู้สึกเมื่อยขบไปทั้งตัว และเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียอย่างบอกไม่ถูกทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย...เพียงแต่นั่งหลับๆ ตื่นๆ มาตลอดเท่านั้น...
และแล้ว...ก็ถึงเวลาที่ทุกคนต้องหยุดพัก คนขับเบนหัวรถเข้าไปยังปั๊มที่ใกล้ที่สุดเพื่อเติมน้ำมันรถ
รวงแก้วรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำล้างหน้า...และทำธุระส่วนตัวเป็นกำลัง...
?พ่อคะ...แก้วไปห้องน้ำนะคะ...?
หล่อนบอกบิดาพลางก้าวลงมาจากรถ...คำรณหันไปมองเบนแล้วพยักหน้าให้ตามไปเป็นเพื่อน
เรื่องนี้รวงแก้วไม่แปลกใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือลุงเบนก็ต่างเป็นบุคคลปลอดภัยสำหรับหล่อนทั้งคู่
ขณะที่รวงแก้วเดินเข้าห้องน้ำ...พนักงานปั๊มเติมน้ำมันเสร็จ รถเก๋งขนาดใหญ่สีน้ำเงินเข้มก็เลี้ยวพรวดเข้ามาด้วยความเร็วและเหยียบเบรกดังสนั่น คำรณซึ่งกำลังยืนพิงประตูรถด้านที่นั่งมาหันขวับไปเบิกตากว้างอย่างตกใจ...และหมุนตัวเข้ารถอย่างรวดเร็ว
?ไป...เร็วที่สุด...?
คนขับของเขาทะยานขึ้นรถแล้วสตาร์ตรถออกอย่างรวดเร็วตามคำสั่ง...เบนซึ่งเดินตามหลังรวงแก้วไปหยุดอยู่หน้าห้องน้ำหมุนตัวกลับมาอย่างตกใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เสียแล้ว
รถที่คำรณขึ้นนั่งแล่นพ้นบริเวณนั้นไปแล้ว ในขณะที่รถเก๋งสีน้ำเงินคันนั้นแล่นตามไปอย่างกระชั้นชิด...คนสนิทของคำรณหรี่ตาลง หน้าเผือดสีเมื่อเห็นคนที่ถูกทิ้งเอาไว้ถนัด
หนึ่งในสามนั่นกำลังเดินยิ้มเข้ามาหาเขาอย่างใจเย็น...ลูกน้องอีกสองคนตามหลังมาด้วยท่าทางแบบเดียวกัน ทุกคนต่างมีอาวุธอยู่ในมือทั้งสิ้น ยกเว้นคนแรกซึ่งยังคงซุกมืออยู่ในอกเสื้อจนกระทั่งเข้ามาหยุดยืนประจันหน้ากับเบน...
?แย่จังเบน...เราไม่อยากได้ตัวนายเลย...?
เบนมองร่างสูงตระหง่านเลยศีรษะเขาไปร่วมฟุตจังงังอยู่ชั่วครู่
?คุณมล...? เบนพึมพำด้วยเสียงราวกระซิบ
กมลภพถอนใจยาว...ก่อนจะดึงมือออกมาพ้นอกเสื้อพร้อมกับคนของเขาอีกสองคนที่จ่อปลายกระบอกปืนเข้ากับขมับของเบน...และลงมือค้นไปทั่วร่างเตี้ยๆ นั้น
มีดและปืนของเบนถูกยึดไปจากตัวก่อนที่จะถูกผลักเข้าข้างฝาแล้วมัดมือไขว้หลังด้วยเชือกพลาสติก ขณะนั้นเอง...ประตูห้องน้ำก็เปิดออก เบนหันขวับอย่างตกใจ
ปฏิกิริยานั้นทำให้ ?คุณมล? มองตามและตะลึงงันเมื่อเห็นคนที่ก้าวออกมาถนัด...รวงแก้วยิ้มหวานกับลุงเบนโดยไม่ทันได้มองใคร...
?ขอโทษนะจ๊ะลุง...แก้วช้าไปหน่อย...?
หล่อนหลีกเบนเพื่อจะเดินไปยังรถแล้วก็ต้องตกใจ
?พ่อล่ะจ๊ะลุง...พ่อไปไหน...?
ดวงตาคู่สวยของหล่อนบ่งบอกถึงความร้อนใจให้เห็นอย่างถนัด...ขณะที่เบนยืนนิ่งเพราะถูกปืนกระทุ้งอยู่ข้างหลัง
รวงแก้วมองเบนแล้วก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อคนสนิทของพ่อถูกประกบด้วยชายหน้าตาน่ากลัวสองคน...มีสายตาเย็นชาอย่างบอกไม่ถูก
สาวน้อยเบนสายตาไปยังร่างสูงที่เดินตรงมาหาหล่อนเป็นอันดับต่อมา...อะไรบางอย่างในดวงตาคมกริบของคนคนนั้นบอกให้รวงแก้วหันหลังวิ่งหนีโดยอัตโนมัติ...ทั้งๆ ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าหนีทำไม
คนงานปั๊มสองสามคนต่างยืนตะลึงไม่กล้าขยับ...ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งกับปืนมีกระสุนที่จ้องกราดมาทั่วนั่น
ขณะนั้นเอง...รถเก๋งสีน้ำเงินก็แล่นกลับมาอีกครั้ง แทบจะเสยเข้ามาหาร่างบางที่กำลังวิ่งหัวซุกหัวซุนออกมายังทางออก...และเป็นจังหวะให้คนที่ก้าวยาวๆ ตามมาคว้าร่างระหงของหล่อนไว้ได้ทันที
รวงแก้วกรีดร้องเต็มเสียง...แต่ไม่มีใครได้ยิน เพราะมือใหญ่ของคนที่รั้งเอวหล่อนจนลอยจากพื้นนั้นตะปบหมับลงมาบนปากทันควัน
เบนถูกคุมตัวขึ้นนั่งด้านหน้า...ในขณะที่รวงแก้วถูกลากขึ้นไปด้านหลัง
สาวน้อยดิ้นจนสุดฤทธิ์...เล่นเอาคนที่ลากหล่อนขึ้นรถถึงกับจุปากอย่างขัดใจ ก่อนจะตัดใจเสยหมัดลุ่นๆ เข้าที่กระโดงคางเล็กๆ ตัดการต่อสู้ดิ้นรนทั้งปวงลง
?เฮ้อ...ค่อยยังชั่วหน่อย...?
ลูกน้องที่นั่งคู่มาด้วยรำพึงเมื่อเห็นสาวน้อยตัวอ่อนเข้าอิงอกลูกพี่ สายตาของมันกวาดไปตามใบหน้างดงาม...และเรือนร่างระหงอย่างพออกพอใจ
?ไม่น่าเชื่อเลยคุณมลว่านายคำรณจะมีลูกสาวสวยขนาดนี้...?
?อย่าแตะต้องเธอนะ...?
เบนซึ่งนั่งอยู่ทางด้านหน้าห้ามออกมาเสียงเข้ม
?ปล่อยเธอไปเถอะคุณมล...คุณแก้วเธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เธออยู่แต่ในโรงเรียน ไม่รู้หรอกว่าพ่อทำอะไรบ้าง?
?แล้วพาออกมาที่นี่น่ะเรียนจบแล้วหรือ...?
กมลภพถามเรื่อยๆ ขณะหลุบเปลือกตามองคนในอ้อมแขน...
?จบแล้ว...กรุณาเถอะคุณมล...ปล่อยเธอไปเถอะ?
น้ำเสียงของเบนเจือวิงวอนอย่างที่ไม่มีใครเคยได้ยิน
ทุกคนรู้จักคำรณ...และทุกคนก็รู้จักเบน คำรณกะล่อนปลิ้นปล้อนขนาดไหน...ทุกคนรู้พอกับที่รู้นิสัยเบนเช่นเดียวกัน...เบนผู้เคร่งขรึมไม่ยอมก้มหัวให้ใคร
แม้เขาจะตัวเล็ก...แต่ทุกคนก็รู้ว่าเบนนั้นเล็กพริกขี้หนู คนที่ปรามาสเขา...ถูกสั่งสอนมาหลายคนแล้ว...
แต่เบนก็ยังให้เกียรติคุณมล และเชื่อว่าเขาคือผู้ที่จะชี้ชะตารวงแก้วได้...แม้ ?กมลภพ? จะไม่ใช่ ?นาย? แต่นายก็เกรงใจอยู่มาก...จนทุกคนที่ร่วมงานต่างรู้โดยทั่วถึงกัน
คุณมลสั่งอย่างไหน...นายมักจะไม่ขัด เช่นเดียวกับที่นายว่ายังไง คุณมลก็มักจะทำจนสำเร็จเรียบร้อยไปด้วยดีเสมอ...
เรียกได้ว่าคุณมลต้องพึ่งนาย และนายก็ต้องพึ่งคุณมล
คำรณและเบนคือผู้ที่ผ่านเข้ามาร่วมงานด้วย...และฉกฉวยเอาสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ไป...ดังนั้น... นายจึงให้คุณมลตามเอากลับมาทั้งคนและของ อันหมายถึงเงินมูลค่านับล้านๆ
ชายหนุ่มปรายตามองลูกน้องที่เลื่อนมือขึ้นไปแตะปลีน่องขาวสะอาดของหล่อนด้วยสายตาดุๆ เจ้านั่นสบตากับลูกพี่แล้วก็ยิ้มแหะๆ ก่อนจะรามือไปทันที
เขาถอนใจยาว...ขยับตัวให้มั่นคงขึ้นเพื่อให้หล่อนอิงได้เต็มที่...ขณะที่มืออุ่นๆ ไล้ไปตามต้นแขนขาวนวลนุ่มนิ่มอย่างเผลอไผล
?นายคำรณจะไปไหน...?
เขาถามเสียงเรียบต่อไปโดยไม่สนใจกับคำขอร้องของอีกฝ่ายสักนิด
?ปล่อยเธอไป...แล้วผมจะบอก...?
เบนเกี่ยงงอนเพื่อแลกเปลี่ยน...
?นายคงไม่คิดให้เราทำโง่ๆ แบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่หรือเบน...?
คุณมลพูดต่อ...แล้วยกมือข้างที่โอบต้นแขนหล่อนขึ้นไล่ลูกผมเล็กๆ ที่ปลิวมาติดข้างแก้มบางใสนั้นไปให้พ้น...
เปียผมของหล่อนพาดไปตามลำแขนแข็งแรงเป็นมัดกล้ามตึงแน่นของเขา ปลายนิ้วของชายหนุ่มไต่ไปตามเส้นผมที่ถักมัดกันแน่นขณะที่ดวงตาคมกริบจ้องไปยังกระจกส่องหลังหน้ารถ...เพื่อมองเบนด้วยสายตานิ่งแน่วและเอาจริง
?บอกมาดีกว่า...คำรณไปไหน...?
เบนเงียบกริบ...ซึ่งคุณมลก็รู้ว่าถึงจะเอาใบมีดเชือดคอ เบนก็จะไม่พูด...
?นายบอกว่าเธอเพิ่งออกมาจากโรงเรียนไม่ใช่หรือ...? เขาเปลี่ยนเรื่อง ?นายคงไม่อยากให้นักเรียนคนสวยนี่ตกใจถ้าฉันจะโยนเธอลงไปในบ่อหนูหรอกใช่ไหม?
?บ่อหนู? คือที่ที่ทุกคนรู้จักดี...บ่อหนูคือที่ชุมนุมของหนูตัวโตๆ ที่อ้วนพีเพราะเนื้อมนุษย์และอดโซเพราะไม่มีเนื้อมนุษย์...บ่อหนูคือที่ลงทัณฑ์คนทรยศมากมายจนนับไม่ถ้วน...บางคนก็แค่สั่งสอน...บางคนก็ตายไปเลย
?ลองนึกดูนะเบน ว่าเนื้อขาวๆ อย่างนี้...บริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับน้ำค้างกลางหาวแบบนี้...ถ้าโดนหนูมันแทะทั้งตัวน่ะจะเป็นยังไง...?
?ผมไม่คิดว่าคุณจะทำ?
?ก็อย่าพยายามบังคับให้เราทำสิเบน...บอกมาว่าคำรณไปไหน...?
เบนยังคงเงียบกริบ เขาต้องการถ่วงเวลาให้คำรณหนีไปไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้
?คุณห่วงคำรณมากกว่าสาวน้อยคนนี้จริงๆ หรือ...?
คุณมลถามต่ออย่างใจเย็น แล้วก้มลงปรายตามองหน้าเนียนที่ซบอยู่แนบซอกคออย่างครุ่นคิด...
สายตาของเขาเบนออกไปนอกหน้าต่างรถ แล้วชายหนุ่มก็สั่งสารถีด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทตามแบบของเขา...
?จอดโรงแรมที่ใกล้ที่สุด...แห่งแรกที่เห็น...?
คำสั่งนั้นเล่นเอาคนฟังตัวเย็นวาบ ขณะที่ลูกน้องต่างชายตามองเจ้านายอย่างนึกสนุก...และชักตื่นเต้นไปด้วย ใครๆ ก็รู้ว่าคุณมลมักมีวิธีรีดความจริงจากใครต่อใครแปลกเสมอๆ และคราวนี้...เขาก็กำลังจะเล่นเกมที่ไม่มีใครเดาได้อีกตามเคย...
โรงแรมแห่งแรกที่คนรถมองเห็น...มองดูแล้ว...เหมือนเป็นบ้านพักกลายๆ มากกว่า คนที่มาใช้บริการก็ไม่ค่อยมี...และค่อนข้างเงียบเหงาเมื่อรถจอดสนิทและลูกน้องคนหนึ่งลงไปติดต่อ
คุณมลหรือกมลภพ...กมลาสน์...ยกมือขึ้นดูนาฬิกา
ครึ่งชั่วโมงแล้ว...ที่คำรณหนีพ้นไปได้ ชายหนุ่มรู้ว่าเบนต้องการถ่วงเวลาให้ถึงที่สุด...และเขาก็ไม่เดือดร้อนกระไรนักเมื่อมีตัวต่อรองอยู่ในมือแบบนี้
ขณะนั้น...สาวน้อยในอ้อมแขนเริ่มรู้สึกตัว ศีรษะได้รูปที่ซุกเงียบข้างซอกไหล่เขามานานเริ่มขยับออกห่าง...กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนร่างระหงระเหยเข้ามากระทบโสตประสาทของคนที่นั่งกอดหล่อนมาหลายเพลา เขาถอนใจยาว...เมื่อรู้ว่าอารมณ์ชนิดหนึ่งกำลังถูกปลุกให้ตื่นตัวโดยไม่ตั้งใจ
เรือนร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นกำซาบที่เขารู้ดีว่าใสสะอาดปานน้ำค้างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเคลื่อนไหวเบาๆ แนบอกกว้าง...
?พ่อคะ...?
เสียงพึมพำดังออกมาจากริมฝีปากสีเรื่อได้รูปสวย...ชายหนุ่มมองเบนนิ่งอย่างลืมตัวไปชั่วขณะ
?พ่อคะ...อย่าทิ้งแก้ว...?
หล่อนพึมพำเบาๆ และเขาก็ได้ยินชัดเจนก่อนที่จะเงียบไปอีก...
?กรุณาเถอะคุณมล...?
เบนพูดเบาๆ มาจากเบาะหน้า...
?นายจะเอาเปรียบฉันสองอย่างไม่ได้หรอกเบน...ต้องเลือกเอาอย่างหนึ่ง?
กมลภพตัดบท...พร้อมกับสะกดอารมณ์ส่วนตัวลงอย่างรวดเร็ว
?ไม่ผู้หญิงคนนี้ ก็พ่อของหล่อน...?
เขาบอกสั้นๆ พร้อมกับมองดูลูกน้องที่กำลังเดินตรงออกมา
?บ้านหลังที่เก้าพี่...ค่อยห่างผู้คนหน่อย...?
เจ้าคนนั้นบอกทันทีที่โดดขึ้นรถมาพร้อมกับกุญแจบ้าน อึดใจต่อมาคนทั้งหมดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สองชั้นกะทัดรัด...น่าอยู่
กมลภพสอดแขนเข้าไปใต้ขาพับของหล่อนแล้วช้อนร่างบางออกจากรถด้วยตัวเอง...
?อย่าคุณมล...อย่าทำอะไรเธอ?
เบนส่งเสียงห้าม...ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างถูกใจของเหล่าลูกน้องของกมลภพที่มองตามลูกพี่อย่างพอรู้ใจ
?ลูกพี่เขาพาไปกล่อมให้หลับต่อเท่านั้นน่ะลุง...ตื่นเต้นไปได้...?
ใครคนหนึ่งขัดคอขึ้น
?แล้วก็คงส่งต่อมาถึงพวกเรา ถ้าหากลุงยังจะปากแข็งมากๆ นะ...นึกดูให้ดีนา...จะช่วยพ่อหรือช่วยลูก...เดี๋ยวมันจะสายเกินแก้?
เบนสะบัดตัวเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมเต็มแรง แต่ก็ถูกสกัดไว้ด้วยความแรงพอๆ กันจนต้องนั่งลงไปใหม่...
?บนนั้นน่ะจะกลายเป็นเรือนหอรอรักแน่...ถ้าลุงยังไม่ยอมพูดน่ะ?
ลูกน้องอันธพาลทั้งหลายต่างพากันกระเซ้าเบนเป็นที่สนุกครึกครื้นเมื่อมองลูกพี่พาร่างไม่ได้สติของหญิงสาวขึ้นบันไดหายเข้าไปในห้องนอนที่ถูกเปิดรอไว้แล้ว...
กมลภพค่อยๆ วางร่างบางลงบนที่นอนอย่างระวัง...ท่าทางของเขาแม้จะเรื่อยเฉื่อยคุ้นตาลูกน้องอยู่ แต่กิริยาทะนุถนอมสตรีที่ได้มาอย่างไม่คาดคิดทำให้คนมองตามมาพบกันยักคิ้วหลิ่วตาให้กันและกัน...แล้วหลีกออกไปเงียบๆ
?อิจฉาฉิบ...ทำไมเราไม่โชคดีอย่างนี้บ้างวะ...?
คนหนึ่งบ่นพึมพำขณะเดินลงบันไดมา...
?เฮ้ย...อย่าอิจฉาเขาเลย เมียเอ็งมันจะฉีกเนื้อเอา...?
?ก็ของฟรี...ใครบ้างไม่ชอบ...?
?เอ็งนึกรึว่าของดีขนาดนั้นเจ้านายจะปล่อยไปง่ายๆ นอกจากกินจนอิ่มแล้วน่ะแหละ...อาจจะเผื่อมาถึงเราบ้าง แต่นายมลก็ไม่มีนิสัยแบบนั้น นังอะไรต่อมิอะไรของนายน่ะให้ท่าจะตาย พ่อยังไม่ยอมแตะ...?
?คงถูกใจเข้าน่ะ หวงตั้งแต่เห็นหน้าเชียว...มึงไม่เห็นเรอะ...?
คนฟังทำท่าถอนใจแล้วมองไปยังรถที่จอดอยู่
?ดูท่าทางมันจะยอมเสียเด็กผู้หญิงคนนี้แทนลูกพี่มันจริงๆ ว่ะ?
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พอหลังแตะความเย็นของที่นอนไม่กี่นาที...รวงแก้วก็รู้สึกตัวเต็มที่ หล่อนถอนใจยาว...พร้อมกับลืมตาขึ้นอย่างมึนงง...แต่พอเห็นใบหน้าเข้มคมของคนที่นั่งมองอยู่ข้างๆ สาวน้อยก็พลิกตัวหนีอย่างรวดเร็ว
กมลภพมองดูร่างที่ตะเกียกตะกายไปจนมุมหน้าตาตื่นอยู่ที่หัวเตียงแล้วถอนใจแรง...เขามองหน้าหล่อนอย่างพิจารณา ก่อนจะละสายตาลงมาตามช่วงคอระหง...อกอวบงามที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อ ไล่ลงมาตามเอวคอดจนถึงช่วงขาขาวเนียนและฝ่าเท้าบอบบางได้รูปงดงาม
ชายหนุ่มต้องยอมรับกับตัวเองว่าเขาเห็นผู้หญิงมามาก แต่...ผู้หญิงตรงหน้านี้เป็นคนแรกที่ทำให้ตนเองมีความรู้สึกอยากจูบหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าไม่เว้นแม้แต่ตารางนิ้ว...
ดวงตาคมเข้มมองละกลับไปอีก คราวนี้ผ่านไปตามปลายนิ้วราวลำเทียน ไล่ขึ้นไปตามลำแขนกลมกลึงจนถึงดวงตากลมโตที่เขม้นมองมายังเขาอย่างไม่ยอมหลบ...พร้อมทั้งตั้งท่าราวจะโดดหนีทันทีที่เขาขยับ
?คุณเป็นใครคะ...?
น้ำเสียงของหล่อนหวานใสราวกับระฆังกังสดาล...ที่นำความรู้สึกเยือกเย็นและแจ่มใสมาให้คนได้ยิน ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวผู้หญิงคนนี้ เพียงแต่มองด้วยตาก็สัมผัสได้กับความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา...ห่างไกลจากมลพิษทั้งปวง แล้วเขาจะทำอย่างที่ทุกคนคิดได้ยังไง
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตอบคำถามของหล่อน เสียงของลูกน้องก็แว่วขึ้นมาจากข้างล่าง...
?ลูกพี่...นายเบนเขาจะพูดด้วยแล้ว...?
คำบอกเล่านั้นทำให้เขาเบนความสนใจไปจากหล่อนทันที...กมลภพลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตนเองแล้วถอยห่างจากเตียงไปก้าวหนึ่ง
?อย่าพยายามหนีนะคนสวย มีลูกน้องของฉันรอเธออยู่ข้างล่าง...เขาฉีกเธอเป็นชิ้นๆ แน่?
เขาตั้งกองขู่เอาไว้...ก่อนจะก้าวยาวๆ ไปที่ประตูแล้วเปิดออกไป เบนถูกลากมายืนอยู่ตรงหน้าบ้านพอดี
?ว่าไงเบน...?
กมลภพเท้ามือกับลูกกรงระเบียง โน้มตัวลงไปถาม
?ตามที่เราวางแผนเอาไว้...? เบนว่า ?เราจะออกนอกเขตแดนทางรถโดยสารประจำทาง...? เขาหยุดเว้นระยะนิดหนึ่ง ?นายคำรณเช่ารถรอไว้ที่...?
ยังไม่ทันที่เบนจะพูดจบ ร่างบางระหงของรวงแก้วก็วิ่งพรวดออกมาตะโกนอยู่หน้าห้อง
?อย่าบอกเขาลุง...?
กมลภพหันขวับไปมองหล่อนตาลุกวาบ รวงแก้วเห็นดวงตาคู่นั้นแล้วหัวใจแทบหยุดเต้น...ก่อนที่เขาจะหรี่เปลือกตาลงบังมันไว้เกือบครึ่ง...แล้วหันไปสั่งลูกค้าที่ยืมคุมอยู่ห่างๆ กันนั่น
?พาเธอเข้าไปข้างใน...?
?อย่านะลุง...อย่าบอกเขา เขาจะทำร้ายพ่อ...อย่าบอก...?
รวงแก้วตะโกนห้ามขณะถูกลากเข้าไปในห้องอย่างไม่ปรานีปราศรัย กมลภพหันมาหาเบนใหม่...
?พูดให้จบสิเบน...?
?ไม่มีประโยชน์หรอกคุณมล...ยังไงตอนนี้นายคำรณก็ยังไม่ไปที่นั่น?
เบนขัดคอ...
?เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว...ในเมื่อลูกสาวซึ่งเป็นดวงใจอยู่นี่ นายคำรณจะไปไกลได้สักแค่ไหน...แต่ฉันต้องการรู้จุดนัดพบ?
?เราจะไปพบกันที่ปาดัง...?
?ตรงไหน...?
?คุณปล่อยเธอแล้วผมจะบอก?
?ตรงไหนเบน...นายไม่มีสิทธิ์เกี่ยงงอนแล้ว? เขาตัดบท
?ปล่อยเธอเถอะ...?
กมลภพไม่ตอบ...แต่ถอยหลังห่างจากระเบียงไปทีละก้าว เบนก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับส่งเสียงชัดเจน...
?คุณไม่มีนิสัยแบบนั้น...อย่าทำคุณแก้ว?
กมลภพไม่ฟังเสียง เขาหันหลังกลับ เดินเข้าไปในห้อง...แล้วไล่ลูกน้องออกมาพร้อมกับปิดประตูลงกลอน
รวงแก้วถอยหลังกรูดไปติดข้างฝา...จ้องมองร่างสูงที่เดินเข้ามาใกล้หล่อนทีละก้าวอย่างหวาดกลัว ชายหนุ่มยื่นมือไปข้างหน้า...หล่อนก็หลบวูบลอดแขนเขาไป แต่ไม่พ้น...
ปลายนิ้วของเขาคว้าได้คอเสื้อของหล่อนแล้วกระชากเต็มแรง...ผ้าขาดดังแควก ร่างของรวงแก้วหมุนคว้าง หล่อนกรีดเสียงร้องกรี๊ดอย่างตกใจสุดขีด
เสียงร้องนั้นเงียบลงเหมือนถูกอุดปากในทันที...
กมลภพห้ามเสียงร้องของหล่อนด้วยริมฝีปากของเขา ร่างที่หมุนคว้างเข้ามาในอ้อมแขนถูกกอดรัดไว้แนบแน่น
ปลายลิ้นอุ่นซ่าน...แทรกเข้าไปควานหาความหวานราวมธุรสในริมฝีปากนุ่มอย่างจงใจและหมดความควบคุมตนเองไปชั่วขณะ...
รวงแก้วตกใจระคนกับรู้สึกวาบหวามไปทั่วตัว...ขาดสติจะต่อต้านหรือโต้ตอบไปโดยสิ้นเชิง ทุกอย่างรวมตัวลอยคว้างจนคุมไม่อยู่
?เจ้านาย...เบนบอกว่าร้านไพ่ริมทางรถไฟ?
เสียงตะโกนผ่านประตูของลูกน้องที่ผ่านเข้ามาในหูทำให้ทั้งคู่ตื่นจากภวังค์...
กมลภพถอนริมฝีปาก...แล้วมองริมฝีปากนุ่มที่แดงแจ๊ดขึ้นมาทันตาเห็น และสั่นระริกจนเจ้าของต้องรีบขบเอาไว้ เขามองปาก...แล้วก็มองตาหล่อน เห็นแต่แววตื่นตระหนกและหวาดหวั่นเหมือนนางกวางระแวงภัย...ด้วยความรู้สึกใคร่ปลอบโยน
ฝ่ามือใหญ่อบอุ่นถูกยกขึ้นแนบแก้มนวลอย่างบรรจง
?อยู่เงียบๆ อย่าดื้อ...ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ หรือแม้แต่จะทำให้ตกใจ...เพราะฉะนั้นอย่าบังคับให้ฉันทำ?
น้ำเสียงของเขาทั้งอ่อนโยนและเฉียบขาด และรวงแก้วก็หวาดกลัวจนเหลือจะกล่าว ร่างบางระหงสั่นระริกอยู่ในอ้อมแขนจนเขารู้สึกได้ถนัด...มือบางอ่อนปวกเปียก แข้งขาพานไม่มีแรงแม้แต่จะทรงตัวยืน น้ำหนักตัวทั้งหมดของรวงแก้วจึงถ่ายลงไปหาเขาเต็มที่โดยที่ร่างสูงนั้นไม่สะท้านอะไรเลยแม้แต่น้อย เหมือนกำแพงศิลาแข็งกระด้างไม่มีผิด...
?คุณมล...?
เสียงของเบนดังลั่นตามมา...แต่กมลภพไม่สนใจอีกต่อไป สาวน้อยในอ้อมแขนทำให้เขาไม่อยากแยกห่างจากหล่อน...แม้จะไม่คิดทำลายในเวลานี้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้คนอื่นรู้ได้
อะไรบางอย่างในใจทำให้ตัดสินใจสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ทุกคน...แม้แต่เบน...
ปลายนิ้วแข็งแรงเลื่อนไปยังเปียผมของหล่อน...กระตุกนิดเดียว ยางที่ผูกปลายผมอยู่ก็หลุดตามออกมา เรือนผมนุ่มสลวยคลายตัวของมันเองโดยฉับพลัน...ประกอบกับมือของเขาช่วยด้วย วินาทีต่อมา...มันก็สยายเต็มหลังของหล่อน
รวงแก้วยืนตัวแข็ง กลัวเสียจนร้องไม่ออก...มองเขาอย่างหวาดหวั่นและไม่ไว้ใจขณะที่ชายหนุ่มดันหล่อนออกไปสุดลำแขนเพื่อพินิจดวงหน้าในกรอบผมยาวสลวยนั่น...
ความงามหนึ่งไม่มีสองที่ปรากฏให้เห็นจับตาทำให้กมลภพถึงกับมือสั่นขณะที่เลื่อนไปสัมผัสปอยผมนุ่มราวใยไหมของหล่อน
ร่างสูงเพรียวของเขาเริ่มขยับเดินพิศหล่อนไปทั่วตัวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าอีกครั้ง...แล้วถอนใจลึกๆ ระงับอารมณ์หนุ่ม...เลือดแรงร้อนลงไปอย่างเต็มที่...
วิสัยของเขาไม่ชอบเอาเปรียบหรือทำร้ายคนอ่อนแอกว่าอยู่แล้ว ยิ่งเป็นผู้หญิงบอบบางราวจะแตกได้ทุกเมื่อหากหนักมือไปสักนิดอย่างหล่อนเขายิ่งทำไม่ลง
?คุณ...จะทำอะไรพ่อฉันคะ...?
หลังจากยืนเงียบอยู่นาน...รวงแก้วก็ถามขึ้นเบาๆ
?ต้องการของคืนจากเขาเท่านั้น...?
กมลภพตอบสั้นๆ ขณะที่ไล้สายตาลงไปตามช่วงสะโพกและปลีน่องของหล่อน
?พ่อเอาอะไรไปจากคุณคะ?
?ของสำคัญ...มีราคามหาศาล?
รวงแก้วเบิกตากว้างอย่างงุนงง แล้วก็พยักหน้าอย่างพอเข้าใจ
?ถ้าพ่อคืนให้ คุณคงปล่อยเราไปใช่ไหมคะ...?
คำถามนี้...อีกฝ่ายไม่ตอบ เพราะสายตาจับอยู่ที่ช่วงหลังได้รูปขาวเนียนที่ปรากฏกับตาเพราะเสื้อถูกดึงขาดแล้วเสียครึ่งตัว...
ดีที่พวงผมยาวของหล่อนบังไว้เสียเกือบครึ่ง...แต่ก็คงไม่น่าดูนักหากจะออกไปข้างนอกสภาพนี้
จะพูดว่าไม่น่าดูคงไม่ใช่...แต่จะดึงดูดสายตาใครต่อใครล่ะมากกว่า
สาวน้อยสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือของเขาแตะที่ช่วงหลัง พร้อมกับมองหาชิ้นผ้าที่ขาดไป...แล้วตัดสินใจถอดแจ็กเกตสีดำสนิทของตนเองให้หล่อนสวม...
รวงแก้วรับเสื้อมาสวมไว้อย่างงงๆ และเวลานี้ก็ได้โอกาสสังเกตเขาเงียบๆ เช่นกัน...
ผู้ชายที่อยู่กับหล่อนลำพังเวลานี้หน้าตาดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ...หากจะเปรียบกันแล้ว...ก็เกือบเป็นผู้ชายในฝันของรวงแก้วเลยก็ว่าได้
รูปร่างของเขาสูงแข็งแรง ปราดเปรียว ท่วงท่ามั่นคง...เสื้อตัวในของเขาเป็นเชิ้ตแขนยาวสีขาวตึงแนบไปกับบ่ากว้าง หล่อนมองเห็นซองปืนซึ่งคาดเอาไว้ใต้รักแร้...และสายหนังของมันก็ดึงเสื้อให้แนบไปกับอกตึง เห็นกล้ามเนื้อบริเวณนั้นถนัด เอวของเขาสอบลง...คาดด้วยเข็มขัดหนังอย่างดีรับกับช่วงสะโพกเพรียว และช่วงขายาวในกางเกงผ้าเนื้อหนาสีดำสนิท
รวงแก้วเกือบสะดุ้ง...กะพริบตาปริบๆ เมื่อเขาหันมาสบตากับหล่อนอย่างจัง...ก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นมองเวลา...
?คุณยังไม่ตอบฉันเลยค่ะ...ถ้าพ่อเอาของมาคืน คุณจะปล่อยเราไปไหมคะ...?
?ให้เขามาพบเราแล้วเอาของมาคืนก่อนดีกว่า?
เขาตัดบทพร้อมกับที่รวงแก้วค่อยๆ ขยับตัวอย่างขลาดๆ
?ฉัน...จะบอกพ่อให้ไงคะ...?
ข้อเสนอของหล่อนทำให้เขาถึงกับเลิกคิ้วดำสนิทขึ้นสูงอย่างสงสัย
?จะไปบอกยังไงล่ะ?
?ก็...คุณปล่อยฉันไป...?
กมลภพเกือบยิ้ม...ขณะที่โน้มใบหน้าลงเกือบชิดหน้าหล่อน ริมฝีปากห่างกันไม่ถึงคืบ
?ไม่ได้...?
เขาตอบก่อนจะฉกหมับเข้าหาปากนุ่มของหล่อนหนักๆ อย่างอดใจไม่ไหว รวงแก้วตาโต...โดดหนีไปสามสี่ก้าว พอเห็นเขายืนมองเฉย ไม่ตั้งใจจะตามลวนลามก็หยุด...
?ทำไมล่ะคะ...?
หล่อนตั้งสติเพื่อจะถามเขาต่อทั้งๆ ที่ใจหวิวๆ กับรอยจูบนั้นอย่างบอกไม่ถูก
?รอให้พ่อเธอมาหาเราดีกว่า?
?พ่อไม่มาหรอกค่ะ?
?ทำไม...?






++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รวงแก้ว ถูกเขากักไว้เป็นตัวประกันเมื่อพ่อของหล่อนขโมยของบางอย่างไปจากเขาโดยที่หญิงสาวไม่รู้เรื่องด้วย หล่อนเหมือนแก้วเปราะบางน่าถนอมจนกมลภพไม่อาจหาญทำอะไรที่เป็นการหักหาญน้ำใจหล่อน แต่กระนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกดจุมพิตหนักๆ บนริมฝีปากอิ่มคู่นั้น จนบางครั้งเขาลืมเรื่องของมูลค่านับล้านที่พ่อหล่อนขโมยไป เมื่อหัวใจย้ำชัดกับตัวเองว่าหล่อนมีค่ามากมายกว่านั้นจนมิอาจประมาณได้


?ฉันต้องชดใช้แทนพ่อนานสักเท่าไรคะ...กว่าคุณจะยอมให้เป็นอิสระ?
รวงแก้วไม่รู้เลยว่าคำถามของหล่อนทำให้คนฟังเริ่มรู้สึกหงุดหงิด
?ตลอดชีวิต?


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”