New Release BLY แปล : สายตาเร่าร้อนซ่อนกลรัก

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : สายตาเร่าร้อนซ่อนกลรัก

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าชายน้อยองค์หนึ่ง
ในวันเฉลิมพระชนมายุสิบห้าชันษา พระองค์ทรงได้รับกระจกวิเศษมาหนึ่งบาน และพระองค์ก็ทรงทำเช่นเดียวกับคนอื่นที่เคยได้รับกระจกวิเศษ พระองค์ทรงถามกระจกวิเศษว่า ?กระจกวิเศษเอ๋ย กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครคือผู้หล่อเหลาที่สุดในปฐพี??
กระจกวิเศษตอบกลับอย่างจริงใจว่า ?ท่านไงล่ะ เจ้าชายที่รักของข้า?
เจ้าชายน้อยเดินจากกระจกวิเศษไปด้วยความดีพระทัยเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้นในทุกวันเกิด พระองค์จะทรงถามกระจกวิเศษด้วยคำถามเดียวกันเสมอมา เวลาผ่านพ้นไป เจ้าชายน้อยทรงเติบใหญ่จนบรรลุนิติภาวะ ในวันเกิดของพระองค์วันนี้ พระองค์ทรงถามกระจกวิเศษเช่นเคย ?กระจกวิเศษเอ๋ย กระจกวิเศษ ใครคือผู้หล่อเหลาที่สุดในปฐพี??
กระจกวิเศษหาวไปหนึ่งหวอด ?เจ้าชายแห่งประเทศเพื่อนบ้าน ท่านผู้นั้นหล่อเหลากว่าท่าน?
เจ้าชายนิ่งอึ้งไปก่อนจะพูดขึ้นอย่างรับไม่ได้ ?เดี๋ยวก่อน พูดใหม่อีกรอบซิ ว่าใครเป็นผู้หล่อเหลาที่สุดในปฐพี??
กระจกวิเศษรู้สึกรำคาญเล็กน้อย ?อย่างไรเสียก็มิใช่ท่าน ท่านจะกังวลไปทำไม...โอ๊ย!?
?ใครคือเจ้าชายแห่งประเทศเพื่อนบ้าน!? เจ้าชายกระโดดขึ้นมาจับกระจกวิเศษเขย่า ไม่มีทีท่าสง่างามหลงเหลืออยู่อีก ?เหตุใดเขาจึงหล่อเหลากว่าข้าไปได้? เช่นนั้นเจ้าหญิงจะทำอย่างไร? เขาจะมาแย่งเจ้าหญิงกับข้าหรือไม่??
กระจกวิเศษเอ่ยอย่างยากลำบากว่า ?ไม่...แต่ว่า เอ่อ...เอ่อ...?
มองดูสีหน้าของเจ้าชายแล้ว กระจกวิเศษก็ตัดสินใจที่จะเอ่ยวาจาด้วยความระมัดระวัง
ทว่าเจ้าชายได้สูญสิ้นความอดทนไปเสียแล้ว เขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นก่อนจะหันหลังเดินจากไป
กระจกวิเศษมองตามแผ่นหลังของเจ้าชายไปด้วยสายตาเห็นใจ พึมพำกับตนเองเสียงเบาว่า ?เขาจะไม่มาแย่งเจ้าหญิงกับท่านหรอก แต่ว่าเขาจะมาแย่งตัวท่านต่างหาก...?

***

?Shit!?
ผมจับผ้าห่มไว้แน่นแล้วผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนจะก่นด่าออกมาหนึ่งคำ และพบว่าตนเองกลิ้งมาจนถึงขอบเตียงซึ่งมีโอกาสตกลงไปได้ทุกเมื่อ
ความฝันบ้าบอนั่นอีกแล้ว
ผมหยิบชุดคลุมอาบน้ำขึ้นมาสวม จากนั้นก็เดินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ
ผมไม่เคยต้องพยายามจำวันเกิดของตนเอง เพราะทุกครั้งที่ถึงวันนี้ ผมจะฝันถึงความฝันงี่เง่าและแปลกประหลาดนั่นเสมอ มันตรงเวลาเสียยิ่งกว่าประจำเดือนของผู้หญิงเสียอีก ไม่เคยมาช้าไปสักวัน
เจ้าชายหรือกระจกวิเศษบ้าบออะไรกัน ต้องเป็นเพราะเขาอ่านนิทานมากเกินไปแน่นอน ฮึ
นึกถึงความฝัน ทั้งร่างก็เหมือนเย็นวาบขึ้นมา ผมรีบอาบน้ำด้วยความรวดเร็วก่อนจะลงมือจัดเตรียมมื้อเช้า
แม้ผมจะเคยไปเรียนที่เมืองนอก แต่ผมก็ยังคงคุ้นชินกับมื้อเช้าตามแบบอาหารจีน ข้าวต้มโรยปลาหย็องกับนมอีกหนึ่งแก้ว เท่านี้อาหารเช้าที่อร่อยและครบครันด้วยคุณประโยชน์ก็เสร็จสมบูรณ์
ที่จริงแล้วผมชอบดื่มน้ำผลไม้คั้นสดมากกว่า แต่ผมไม่อยากล้างเครื่องคั้นน้ำผลไม้
หลังจากทานเสร็จและเก็บกวาดเรียบร้อย ผมก็กลับเข้าไปเลือกชุดสำหรับใส่วันนี้ในห้องนอน เพราะทุกๆ วันผมต้องพบปะผู้คนที่จู้จี้เกี่ยวกับการแต่งตัวเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องพิถีพิถันกับการแต่งกายเป็นอย่างมาก
ผมออกจากบ้านเวลาเก้านาฬิกา สิบห้านาทีถัดมารถเอสยูวีของผมก็จอดอยู่ในช่องจอดของลานจอดรถชั้นใต้ดินของบริษัท
ในแต่ละเดือนผมมีเวลาเข้าบริษัทแค่ไม่กี่วัน ส่วนใหญ่แล้วหากผมไม่ได้บินไปบินมาอยู่บนท้องฟ้า ก็คงจะอยู่ตรงมุมใดมุมหนึ่งของโลกใบนี้ ที่จริงแล้วผมไม่ชอบการนั่งเครื่องบินเอาเสียเลย แต่มันช่วยไม่ได้
ผมเดินออกมาจากลิฟต์ ยังไม่ทันยืนนิ่งก็ได้ยินเสียงคนเรียกผมดังมาจากด้านหลัง
?ซิงหยาง ในที่สุดคุณก็กลับมาซะที!? พูดไปคนคนนั้นก็เข้ามาสวมกอดผมจากทางด้านหลัง
จี๋เอ่อเซินยังคงกระตือรือร้นเหมือนอย่างเคย
เขาเป็นผู้ช่วยของผมเอง และก็เป็นเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกันสมัยไปเรียนต่อที่สวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย เครื่องหน้าคมคายรับกับใบหน้าเล็กเรียวอย่างสมส่วน ไม่เสียทีที่มีสายเลือดลูกครึ่งจีนอิตาลีไหลเวียนอยู่ในตัวของเขา
เขาประกาศกร้าวว่าตกหลุมรักผมตั้งแต่แรกพบ และด้วยตกตะลึงในความงามจึงยอมศิโรราบอยู่ใต้กางเกงยีนของผม สี่ปีก่อนผมสำเร็จการศึกษาและกลับมายังฮ่องกง วันถัดมาผมก็เห็นเขาพร้อมกับสัมภาระมายืนอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน พร่ำบอกไม่หยุดว่าจะติดตามผมไปจนสุดขอบฟ้า ฟังจนผมรู้สึกเสียวฟันไปหมด
แต่ไม่เพียงแค่แรงตื๊อของเขาเท่านั้นที่เยี่ยมยอด ความเป็นมืออาชีพในการทำงานของเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าผมเท่าไร ด้วยเหตุนี้ผมจึงตามใจเขา พาเขาเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้ด้วยกัน
จนถึงทุกวันนี้เขายังคงตามติดผมไม่ห่าง เสียดายที่เขาไม่ใช่สเปกของผม แม้ผมจะชอบเล่นสนุก แต่ผมก็มีหลักการของผมเช่นกัน...กับคนที่ผมไม่สนใจแล้ว จะไม่มีวันมอบความหวังลมๆ แล้งๆ ให้กับเขาเด็ดขาด
?มีอารมณ์แต่เช้าเลยรึไง?? ผมย่นหัวคิ้วเล็กน้อย ยื่นมือไปรับแฟ้มเอกสารจากมือของเขา
จี๋เอ่อเซินเดินคู่กับผมเข้าไปในห้องทำงาน เปิดพลิกดูข้อมูลไปมา ?ภาพถ่ายส่งมาแล้ว ทั้งหมดนี่คือนายแบบและนางแบบที่อีกเดี๋ยวคุณต้องสัมภาษณ์ มีอยู่ไม่กี่คนที่ผมเห็นว่าโอเค และเคยผ่านการประกวดเวทีใหญ่มาก่อน?
ผมพ่นลมออกทางจมูกเล็กน้อย ?การประกวดส่วนใหญ่แล้วก็มีบันทึกข้อมูลไว้กันทั้งนั้น สำหรับผมแล้วจะมีชื่อเสียงหรือเปล่า มีประสบการณ์หรือไม่ล้วนไม่สำคัญ ผมต้องการนายแบบนางแบบที่มีสุขภาพจิตแข็งแรงและมีความเป็นมืออาชีพในการทำงานเท่านั้น? ผมวางแฟ้มเอกสารลงบนมือของเขา ?ช่างภาพล่ะ รอมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว ยังไม่ได้ข้อสรุปอีกเหรอ??
จี๋เอ่อเซินเกาหัวไปมา ?วันนี้มีมาสมัครอีกหลายคน กำลังรออยู่ด้านนอกพร้อมกับนายแบบและนางแบบ? สิ้นเสียงเขาก็หยิบช่อดอกไม้ออกมาจากด้านหลังราวกับมีเวทมนตร์ เป็นดอกบอลลูนสีน้ำเงินม่วง
?สุขสันต์วันเกิด?
ผมยิ้มให้พลางรับดอกไม้มา แล้วยื่นมือออกไปขยี้ผมของเขาเล็กน้อย ผมสูงกว่าเขาพอสมควร การกระทำนี้จึงทำได้อย่างง่ายดาย...หากว่าเขากล้ามอบดอกกุหลาบให้กับผม รับประกันได้ว่าต้องถูกผมตีจนตายแน่นอน
?คืนนี้จะจัดปาร์ตี้วันเกิดให้คุณที่ร้านคนเดินดิน ทุกคนไปกันหมด คุณเตรียมตัวโดนสาวสวยรุมทึ้งได้เลย!? จี๋เอ่อเซินยิ้มแล้วทุบผมหนึ่งที ผมเตะกลับไปอย่างไม่อ่อนข้อให้แม้แต่น้อย
ด้านหนึ่งของทางเดินเป็นกระจกบานใหญ่ที่ติดเต็มพื้นที่ กว้างและสว่าง ตรงสุดทางเดินเป็นห้องทำงานของผมซึ่งติดกับห้องรับรองแบบเปิดที่อยู่ด้านนอก โดยทั่วไปจะใช้เป็นห้องพักสำหรับรอการสัมภาษณ์ด้วย
ผมเดินผ่านห้องรับรองพร้อมกับชำเลืองมองเข้าไปอย่างไม่ใส่ใจนัก ด้านในเบียดเสียดไปด้วยผู้คน
ฮ่องกงมีพื้นที่น้อยและประชากรล้นหลาม การแข่งขันกันในวงการบันเทิงดุเดือดเป็นอย่างมาก คนที่สามารถทำสัญญากับบริษัทของพวกเราได้ นั่นหมายความว่าคนคนนั้นได้ขึ้นทางด่วนไปสู่เวทีระดับโลกเรียบร้อยแล้ว ในทางกลับกันการจะได้ทำสัญญานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเริ่มตั้งแต่การคัดเลือดเบื้องต้นไปจนถึงการลงนามในสัญญากับบริษัท ขั้นตอนทั้งหมดต้องผ่านการสัมภาษณ์และคัดเลือดกว่าสี่รอบเป็นอย่างน้อย
นายแบบและนางแบบที่มายืนตรงหน้าผมในวันนี้ล้วนผ่านสามรอบแรกมาหมดแล้ว นางแบบกว่าสิบคนตรงหน้า ไม่ว่ารูปร่างหรือหน้าตาล้วนไม่เป็นรองใคร มีนางแบบบางคนตาแหลมจำผมได้จึงหันมายิ้มให้ผม เผยสีหน้าทรงเสน่ห์ที่สุดซึ่งผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี...เพราะว่าคนที่จะตัดสินว่าท้ายสุดแล้วพวกเธอจะได้ทำสัญญากับบริษัทหรือไม่ ก็คือผมคนนี้นั่นเอง
ในวงการของพวกเรา เหตุการณ์แบบนี้พบเห็นได้โดยทั่วไป เพื่อนร่วมอาชีพของผมหลายคนล้วนเป็นคนที่นายแบบนางแบบเหล่านี้อยากมีความสัมพันธ์ด้วย ขอเพียงแค่พวกเขาอยากได้ พวกเขาสามารถผลัดเปลี่ยนสาวงามบนเตียงได้ทุกคืน...หรือบางทีอาจจะเปลี่ยนคืนละหลายคนเลยก็ได้
แม้การแสดงไมตรีจิตที่สาวงามเหล่านี้มีต่อผมจะเกี่ยวข้องกับอำนาจและตำแหน่งในวงการของผมอย่างแยกกันไม่ออก แต่ผมขอพูดอย่างหลงตัวเองสักนิด นอกจากสิ่งเหล่านั้นแล้วชื่อเสียงของตัวผมก็เป็นปัจจัยหนึ่งด้วย
ผมเข้าใจถึงความยากลำบากที่หลบซ่อนอยู่ภายใต้ภาพเบื้องหน้าอันสวยงามและสดใสของเหล่านายแบบนางแบบเป็นอย่างดี นายแบบนางแบบที่เข้าวงการมานานรู้ดีว่าแม้ผมจะเข้มงวดกับพวกเขา แต่ไม่เคยเห็นพวกเขาเป็นเพียงเครื่องมือในการหาเงิน และไม่เคยใช้อำนาจที่เหนือกว่ายื่นข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผลกับพวกเขา
ผมยิ้มตอบกลับไปให้พวกเธอเช่นกัน จนกระทั่งสายตาของผมเหลือบไปเห็นชายหนุ่มจำนวนหนึ่งที่อยู่อีกด้านของห้องพัก...
หนึ่งในนั้นกำลังมองมายังผมเช่นกัน สายตาของพวกเราที่ประสานกันอย่างไม่ตั้งใจทำให้ผมยืนอึ้งไปชั่วขณะ
ตอนนี้ในสมองของผม ซึ่งผมมั่นใจว่าอยู่ในระดับมาตรฐานอย่างแน่นอน มีแต่คำเหล่านี้...
เจ้าชาย ของ ประเทศ เพื่อนบ้าน!
เมื่อผู้ชายคนนั้นเห็นสีหน้าที่เหมือนเห็นผีของผม กลับยิ้มบางๆ ออกมาซะงั้น
ต่อให้ผมใช้สายตาที่ผ่านผู้คนมานับไม่ถ้วนคู่นี้มองสำรวจอย่างละเอียด รูปร่างภายนอกของเขาก็ยังถือว่าโดดเด่นเป็นอย่างมาก จมูกโด่งสันอย่างสมบูรณ์แบบ รูปคิ้วชวนหลงใหลเป็นพิเศษ แนวคางสวยงามประณีตราวกับงานประติมากรรม โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่ดึงดูด...ยิ่งเมื่อเขายิ้มออกมาก็ชวนให้คนคิดเกินเลยกับเขาชัดๆ!
ได้โปรดให้อภัยผมด้วยที่สรรหาคำพูดไม่ถูก สรุปแล้วเขาสามารถเข้ามาอยู่ในห้าอันดับแรกของหนุ่มหล่อที่ผมเคยพบเจอได้ไม่ยาก เขาหล่อเสียยิ่งกว่านายแบบอันดับหนึ่งของบริษัทเสียอีก!
ที่จริงแล้วในความฝันนั้น นอกจากกระจกที่ไม่มีความรับผิดชอบบานนั้นแล้ว ผมไม่เคยเห็นอะไรอย่างอื่นเลยแม้แต่เงา แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ผมรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แหละ คือเจ้าชายของประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ในความฝัน
หากว่าคุณเองก็ยอมรับเจ้าหญิงแอนน์ที่แสดงโดยออเดรย์ เฮปเบิร์น หรือกัปตันแจ็ก สแปร์โรว์ที่แสดงโดยจอห์นนี เดปป์ เช่นนั้นคุณจะเข้าใจว่าผมกำลังพูดอะไร
บางครั้งแค่แวบแรกที่เห็นใครบางคน คุณจะมีความรู้สึกหนึ่งที่ว่า ?คนนี้แหละ? แวบขึ้นมา
ผมคว้าตัวจี๋เอ่อเซินไว้อย่างรวดเร็ว ?คนคนนั้นเป็นใคร? วันนี้มีนายแบบมาคัดเลือกด้วยเหรอ??
จี่เอ่อเซินมองไปยังทิศทางนั้น ?อ้อ เขาเป็นช่างภาพที่มาสัมภาษณ์ในวันนี้ แต่ค่อนข้างพิเศษหน่อย เขาคือคนที่เจ๊เจินแนะนำมา...ซิงหยาง นี่คุณไม่รู้จักเขาเหรอ??
ผมยืนงงอยู่เล็กน้อย ทำไมผมถึงต้องรู้จักเขาด้วย?
ตอนอยู่สนามบินผมเคยได้รับสายจากเจ๊เจินจริง และเธอก็ได้พูดถึงคนที่เธอแนะนำ แต่ตอนนั้นรอบข้างมีเสียงดังรบกวนตลอดเวลาจนทำให้ผมลืมไปเสียสนิท...แต่เจ๊เจินเองก็ไม่ได้แนะนำคนคนนี้มากเท่าไร ประกอบกับผมไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน แล้วผมจะไปรู้จักเขาได้อย่างไร?
แต่ผมรู้สึกคาดหวังกับช่างภาพหนุ่มคนนี้มากทีเดียว เพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นคนที่เจ้านายแนะนำมา
เจ๊เจินเป็นหัวหน้าของผม เป็นซีอีโอของบริษัทยิงจี้โมเดลลิงแห่งนี้ เธอมีฝีมือที่ร้ายกาจ และรู้จักคนในวงกว้างอย่างเหลือเชื่อ ทุกๆ ครั้งที่เธอแนะนำคนมา มักจะช่วยแก้ปัญหาให้ผมได้เสมอ
ด้วยเหตุนี้ผมจึงรักเธอมากเช่นกัน
ผมหันกลับไปดูชายหนุ่มคนนั้นอีกครั้ง เดิมทีเขาหันเหความสนใจไปพูดคุยกับคนข้างๆ แล้ว แต่เหมือนเขารับรู้ได้ถึงสายตาของผมจึงหันสายตากลับมาอีกครั้ง สายตาของเขานั้นตรงดิ่งและเร่าร้อน พริบตานั้นผมรู้สึกเหมือนกับถูกสายตานั้นทะลวงผ่านร่างไป
ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องทำงาน
ด้านนอกมีเสียงของจี๋เอ่อเซินดังแว่วมา ?ทุกท่านครับ เมื่อครู่ที่ผ่านไปคือโชว์ไดเรกเตอร์อันดับหนึ่งของวงการ และในขณะเดียวกันก็เป็นกรรมการบริหารของยิงจี้ คุณหลี่ซิงหยาง และนี่เป็นการคัดเลือกรอบสุดท้ายของทุกท่าน หากผ่านการคัดเลือก ทุกท่านจะได้ทำสัญญาอายุสองปีกับยิงจี้ และเข้าอบรมในคอร์สต่างๆ ตามที่บริษัทจัดให้ ขอให้ทุกท่านแสดงความสามารถออกมากันอย่างเต็มที่นะครับ? พูดจบเขาก็ยื่นศีรษะเข้ามาถามว่า ?ให้เริ่มตอนนี้เลยไหม??
ผมคิดอยู่สักพัก ?ให้กลุ่มนางแบบรอก่อน เริ่มสัมภาษณ์ช่างภาพก่อน?
จี๋เอ่อเซินพยักหน้า ?จะให้คนที่เจ๊เจินแนะนำมาคนนั้นเข้ามาเป็นคนแรกเลยไหม??
?ไม่? ระหว่างนี้ผมโทรสายภายในให้ผู้ช่วยส่งกาแฟเข้ามา ?เรียกตามลำดับ?
ช่างภาพที่เข้ามาคนแรกเป็นคนที่เหมือนกับช่างภาพมาก ผมเผ้ายุ่งเหยิง หนวดเครารุงรัง สวมเสื้อกั๊กสำหรับช่างภาพยี่ห้อโคลัมเบีย บรรยากาศรอบตัวเหมือนคนพเนจร
จี๋เอ่อเซินอ่านประวัติของเขา ระหว่างที่ฟังผมก็พลิกดูผลงานของเขาไปด้วย เทคนิคยอดเยี่ยม เสียดายที่ไม่อาจถ่ายทอดความงามออกมาได้เทียบเท่าของจริง ผมพยักหน้าให้กับเขาแล้วเลือกรูปถ่ายขึ้นมาสองใบ
?นี่ถ่ายโดยใช้กล้องและเลนส์อะไรครับ??
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ?นิคอน D500 ครับ ส่วนเลนส์เป็นของนิคคอร์ ความยาวโฟกัส 70-200 mm รูรับแสง 2.8 แต่ผมถ่ายเก็บจนเหลือ F16 ครับ นอกจากจะใช้ฟิลเตอร์ซีพีแอลและฟิลเตอร์เอ็นดีแล้ว ยังใช้...?
ผมตัดบทคำพูดพรั่งพรูไม่ขาดสายของเขา ผมไม่มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพ แต่รู้ว่าที่เขาพูดถึงน่าจะเป็นกล้องถ่ายรูปสำหรับมืออาชีพรุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทนิคอน
?ใช้ D500 ยังถ่ายออกมาได้แค่นี้ คุณเป็นไส้ศึกของเจียเหนิงใช่หรือเปล่าเนี่ย??
เสียงพรูดดังขึ้น จี๋เอ่อเซินที่เพิ่งดื่มกาแฟเข้าปากพ่นพรวดออกมาบนพื้นพรมจนหมดปาก
ผมมองไปยังพื้นพรมที่เปียกเล็กน้อยอย่างรังเกียจ ไม่อยากเอาความกับเขา ?คนต่อไป?
ช่างภาพคนแรกที่เข้าสัมภาษณ์ถูกจี๋เอ่อเซินเชิญออกไป จี๋เอ่อเซินหันมาถลึงตาใส่ผมเล็กน้อย ราวกับกำลังเตือนให้ผมสำรวมหน่อย แต่ผมแค่ยักไหล่ให้เขา เวลามีค่า ผมไม่อยากสิ้นเปลือง
ผมสัมภาษณ์ต่อเนื่องห้าคน มีสองคนที่ถือว่าผ่าน ผมไม่ใช่คนคลั่งความสมบูรณ์แบบ แต่มองดูภาพถ่ายตรงหน้าไปมาแล้ว ไม่มีภาพใดที่ทำให้ผมรู้สึกตะลึงเลยแม้แต่ใบเดียว
เอกสารชุดสุดท้ายกางออกตรงหน้าผม ผมหยิบขึ้นมาอ่านอย่างละเอียด
อ้อ เจ้าชายของประเทศเพื่อนบ้านชื่อชีเซ่าซาง ชื่อดี เกิดปีเดียวกับผม เป็นคนมาเก๊า
เขาเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าอย่างไม่รู้สึกกังวลแม้แต่น้อย
เสื้อตัวนอกสีครีม เสื้อกั๊กด้านในสีขาว เสื้อเชิ้ตสีเขียวเข้ม รองเท้าเป็นของ...อืม คริสเตียน ลูบูแตง แต่งตัวมีรสนิยม ดูไปแล้วทันสมัยกว่าผมเสียอีก
จี๋เอ่อเซินเดินไปนอกห้องเพื่อแจ้งให้เหล่านางแบบเตรียมตัวก่อนจะปิดประตูลง ทำให้ห้องทำงานเงียบสนิทลงทันที
ผมมองดูใบหน้าของที่หล่อเหลาเกินเหตุของชายหนุ่ม ยกมือขึ้นลูบคางไปมาเล็กน้อย
?คุณเคยเป็นช่างภาพให้กับนิตยสารเนชันนัล จีโอกราฟิก??
?ครับ?
น้ำเสียงค่อนข้างต่ำ ทว่ากลับไพเราะมาก
เนชันนัล จีโอกราฟิกนับได้ว่าเป็นตัวการันตีฝีมือได้อย่างดี ผมจึงไม่ได้ถามรายละเอียดต่อ แต่เปลี่ยนคำถามใหม่ว่า ?คุณรู้สึกว่าสิ่งสำคัญที่สุดของการถ่ายภาพคืออะไร??
เขายกมุมปากเล็กน้อย ในดวงตามีรอยยิ้มจางๆ ?หากพูดในทางเทคนิค นั่นคือองค์ประกอบของภาพและแสง ผมเดาว่าห้าคนที่เข้ามาก่อนหน้านี้ อย่างน้อยต้องมีสี่คนที่ตอบอย่างนี้?
เหมือนกับที่เขาพูด คำตอบนี้ผมได้ฟังมานับครั้งไม่ถ้วน ผมจึงยิ้มให้กับเขา ?เช่นนั้นถ้าพูดในมุมอื่นที่ไม่ใช่ทางเทคนิคล่ะครับ??
?เมื่อก่อนผมถ่ายภาพทิวทัศน์เป็นหลัก? เขานิ่งคิดอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยต่อว่า ?แน่นอนว่าภาพทิวทัศน์มักจะเป็นผลลัพธ์จากการรอคอยอันแสนยาวนาน ต้องรอคอยทั้งเวลาที่เมฆเคลื่อนตัว การหักเหของแสงอาทิตย์ การทอดเงาของเมฆ การกระจายตัวของฝุ่นละออง เพื่อให้ได้ช่วงเวลา มุม หรือสิ่งที่มองหา ในบางครั้งแม้กระทั่งโขดหินหนึ่งก้อนหรือผีเสื้อหนึ่งตัว ช่างภาพต้องรอเป็นวัน เป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนเลยก็มี?
ผมมองดูเขาในชุดเรียบกริบจนไม่ปรากฏรอยยับแม้สักนิด พยายามนึกภาพเขากำลังอดทนรอคอยอยู่กลางทะเลทรายหรือในป่าดิบชื้นเพื่อถ่ายภาพให้ได้สักภาพ จากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วไม่ได้พูดอะไร
ตอนนี้เองที่เขายืนขึ้น มือหนึ่งยันโต๊ะทำงานของผมไว้และโน้มตัวเข้าหาผมเล็กน้อย
?แต่ไม่ว่าจะถ่ายภาพทิวทัศน์หรือบุคคล ในสายตาของผมแล้วจิตวิญญาณของภาพถ่ายอยู่ที่คุณอยากเห็นอะไร ช่างภาพที่เป็นมืออาชีพสามารถมองเห็นโลกทั้งใบผ่านช่องมองภาพได้ จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกหรือไม่เลือก ไม่ใช่แค่กดชัตเตอร์ไปงั้นๆ และนี่เองที่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงได้มีอารมณ์ร่วมกับภาพถ่ายของคนบางคน...นั่นเป็นเพราะพวกคุณมีมุมมองเดียวกัน สิ่งที่ช่างภาพต้องการให้คุณเห็นมันบังเอิญเหมือนกับสิ่งที่คุณอยากเห็นพอดี?
ผมหรี่ตาลง
?ยังมีอีก? เขาเอ่ยเสริมอย่างใจเย็น ชัดเจนว่าเขาได้ยินคำถามก่อนหน้านี้ของผม ?ผมไม่ได้ชื่นชอบอุปกรณ์ตัวไหนมากเป็นพิเศษ และไม่ได้เรียกร้องหาแต่อุปกรณ์รุ่นใหม่ล่าสุดแต่อย่างใด กล้องดิจิทัลก็ดี หรือจะกล้องฟิล์มก็ไม่มีปัญหา การทำงานอยู่ในห้องมืดนานหลายชั่วโมงก็เป็นความสนุกอย่างหนึ่ง สิ่งที่ผมสนใจคือแรงดึงดูดจากฝั่งผู้ถูกถ่ายมากกว่า นี่คือคำตอบของผม?
เขาโน้มตัวเข้ามาอีก ยิ่งเข้าใกล้ผมมากกว่าเดิม รอยยิ้มในสายตาก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ?ตัวอย่างเช่น หากว่าแบบของผมคือคุณ ผมจะรู้สึกอยากกดชัตเตอร์มากเป็นพิเศษ?
ผมมองหน้าเขาอยู่นานก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ ?วางใจได้ ที่ยิงจี้แห่งนี้มีนายแบบและนางแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากมาย ผมยอมรับว่ามุมมองการทำงานกับประสบการณ์ของคุณล้วนเยี่ยมยอดมาก แต่ผมยังมีอีกคำถามหนึ่ง?
?ครับ? ชีเซ่าซางพยักหน้า ?อะไรหรือครับ??
ผมหยุดไปเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามอย่างเป็นทางการว่า ?คุณเคยอ่าน ?นี่สุ่ยหาน ? ของเวินรุ่ยอันหรือเปล่า??
หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก จู่ๆ ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมา
เขาจะต้องเป็นคนที่ชอบยิ้มมากแน่ๆ ตอนที่เขายิ้ม อากาศในห้องราวกับเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่น มันไม่ใช่การสัมภาษณ์ที่เคร่งเครียดอีกต่อไป ผมมองดูใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแล้วยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้เช่นกัน
ที่จริงแล้วผมไม่จำเป็นต้องถามคำถามใดเลย เพราะหนึ่ง ผมเชื่อมั่นในการแนะนำของเจ๊เจิน และสอง แค่ผมเห็นภาพถ่ายของเขา ผมก็ตัดสินใจได้แล้ว
ผมไม่เข้าใจการถ่ายภาพแม้แต่น้อย แต่ในฐานะที่ผมเป็นโชว์ไดเรกเตอร์ ความรู้สึกของผมไวกว่าคนธรรมดาทั่วไปมากนัก โดยเฉพาะในเรื่องความสวยงาม ผมเชื่อมั่นในตัวเองมากทีเดียว
ภาพที่ผมต้องการ คือภาพที่แค่เห็นเพียงแวบเดียวก็ทำให้ผมปิดปากและร้อง ?ว้าว? ออกมาในใจได้
?ถ้าอาทิตย์นี้มีเวลาก็เข้ามาได้เลย เดือนหน้าพวกเรามีงานเดินแบบครั้งใหญ่ของจีวองชี คุณสามารถมาทำความคุ้นเคยก่อนได้?
ด้วยเหตุนี้ผมจึงได้ตัวช่างภาพมาโดยปริยาย
ชีเซ่าซางไม่ได้ลุกขึ้นยืน ดูไม่แปลกใจกับเรื่องที่เขาได้รับเลือกแม้แต่น้อย ราวกับว่าตำแหน่งนี้เดิมทีก็เป็นของเขาอยู่แล้ว เขามองหน้าผมแล้วเอ่ยคำถามหนึ่งออกมา ?ผมรู้สึกว่าคุณดูคุ้นตาเหลือเกิน พวกเราเคยพบกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ??
?เปล่า ไม่เคยแน่นอน? ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้แต่ในฝันพวกเรายังไม่เคยพบกันมาก่อนเลย
เขายิ้มออกมาอีกครั้ง มองผมอย่างลึกซึ้งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กระจกวิเศษบอกว่า ?เจ้าชายแห่งประเทศเพื่อนบ้านที่หล่อเหลากว่าท่านคนนั้น เขาจะไม่มาแย่งเจ้าหญิงกับท่านหรอก แต่ว่าเขาจะมาแย่งตัวท่านต่างหาก...?
ทุกๆ วันเกิดหลี่ซิงหยางจะฝันถึงเรื่องนี้ตลอด แต่เมื่อตื่นนอนเขาก็ลืมมันไปหมด ถึงกระนั้นก็นึกไม่ถึงว่าฝันร้ายจะกลายเป็นจริง...
ชีเซ่าซาง ช่างภาพที่ตะลอนไปทั่วโลกคนนี้หน้าตาดีกว่านายแบบทั้งบริษัทของเขาซะอีก ปกติก็มีท่าทางสง่างามและน่าหลงใหลจนเขาแทบอยากเรียกว่าเจ้าชายอยู่แล้ว แต่เวลาตั้งใจถ่ายรูปกลับยิ่งหล่อเหลากระแทกใจขึ้นไปอีก... หากว่าคนที่ถูกจับมาแก้สถานการณ์วิกฤตจนต้องเปลือยกายถ่ายแบบแทนนายแบบไม่ใช่เขาแล้วละก็ เขาคิดว่าน่าจะดีกว่านี้ เพราะว่าสายตาของชีเซ่าซางที่มองเขาผ่านเลนส์นั้นช่างเร่าร้อนเหลือเกิน ราวกับอีกฝ่ายถูกใจเรือนร่างของเขามานานแล้ว และพร้อมจะกลืนกินเขาในวินาทีถัดไป...


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”